เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 :D  เอาเรื่องมาเล่า  ขาน. และถามให้นักกฎหมายและผู้รู้กฎหมายในเวป.+ เพื่อนๆคอปืน
ได้ใช้หมองให้ปวดหัวกันอีกแล้วครับท่าน.

         .เรื่องมีอยู่ว่า นาย ก. ขับรถยนต์มาตามถนนใช้ความเร็ว 70 กม/ชม.  ระหว่างนั้น
มีนายข.ขับรถยนต์อีกคันพรวดขึ้นมาจากซอยขึ้นบนถนนทันทีโดยลืมมองไปว่า.

.มีรถนาย ก.กำลังแล่นมา   .นาย ก.ตกใจจึงหักหลบพร้อมบีบแตรเตื่อน  . แต่รถไม่คว่ำ.
นาย ข.ก็ขับตามหลังมาห่างๆ   .นาย ก.ฉุนโมโหมากเลยขับรถจอดแบบขวางๆถนน
เพื่อจะคุยสอบถามว่านาย ข. ทำไมขับรถอย่างนี้   นาย ก.รอ

   เมื่อนาย  ข. มาถึงจอดรถ ลงมา    นาย ก.เข้าไปชกต่อยหลายที  จนนาย ข. ล้มลง
นาย ก.เข้าไปนั่งทับแล้วชก   แต่นาย ข.ใช้แรงฮึดพลิกตัวขึ้นมานั่งทับนาย ก.บ้าง
แล้วก็ชกต่อยนาย ก. ที่นอนอยู่ข้างล่างหลายที   

       ระหว่างนั้น  มีนาย ค . เพื่อนนาย ก. ขับรถผ่านมา  / นาย ก.จึงร้องตะโกนให้เพื่อนช่วย
นาย  ค. จึงหยิบปืนที่รถตน  โยนมาจะให้นาย ก.  ปืนตกที่พื้นหญ้า  ห่างจากจุดที่ 2 คน
วิวาทกันอยู่  5  เมตร   

      2  คน เห็นดังนั้น  ทั้งนาย ก. และ ข. ก็รีบผละออกจากกันวิ่งเข้าไปหาปืนเพื่อจะหยิบมัน
แต่ ข. คว้าได้ก่อนจึงเหนี่ยวไกยิงใส่ ก. ทันที  ตาย

           ท่านว่า  นาย ข. เป็นการป้องกันที่พอแก่เหตุหรือไม่

 ปล. ไม่มีเฉลยตามเคยนะครับ . 

         ก็ขออย่าให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นกับเรา. ก็พอแล้วครับ.
หากเกิด. ขอให้ใช้สติปัญญาคิดให้รอบคอบนะครับ..

รอที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายก่อนนะครับ   อ่านแล้วก็สยอง ไอ้นาย ค.ควาย จริงๆ

มีอีีกเรื่องอยากจะขอคำแนะนำด้วยครับคือว่าเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เด็กรุ่นน้องผมไปจอดรถในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งเพื่อรอรับแฟนเขาเลิกงานเวลาประมาณสามทุ่มกว่าๆมีเด็กวัยรุ่นสองคนมีอาการมึนเมาเข้ามาหาเรื่องว่าไปนั่งเกะกะขวางทาง แต่ในขณะนั้นก็ได้มีแท็กซี่มาช่วยเคลียร์ให้แต่แท็กซี่ก็ไปวางมาดนักเลงบอกไอ้ขี้เมาสองคนนั้นว่า พวกมรึงไปตามพวกมาเลยดีกว่าเสร็จจากนั้นต่างคนก็ต่างแยกย้ายกันไปไอ้เจ้าเด็กรุ่นน้องก็เข้าไปซื้อน้ำ-ขนมในปั๊มน้ำมันและก็มานั่งรอเวลาเลิกงานของแฟนตนเองซักพักไอ้ขี้เมาสองคนนั้นก็กลับมาพร้อมพักพวกประมาณยี่สิบกว่าคนอารุธครบมือ ทั้งมีด ดาบ ก้อนอิฐ และปืนเข้ารุมทำร้ายเด็กรุ่นน้องผมคนนั้นซะน่วมเลยเสร็จแล้วก็ไปทุบกระจกรถรอบคันแตกหมดทุบรถจนบุบเสียหาย แล้วก็แยกย้ายกันหนีไป ผมเลยมีคำถามว่าถ้าขณะนั้นน้องคนนั้นมีอาวุธปืนอยู่จะใช้มันป้องกันตนเองได้ไหมครับแล้วมันจะเกินกว่าเหตุไหมครับ......เกิดเหตุที่ปั๊มน้ำมันแถวลาดพร้าวครับ :OO
สุดท้ายได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันและไปทำแผลเรียบร้อยแล้ว....รอท่านผู้ดูแลกฏหมายดำเนินการต่อไป

 ;D การใช้อาวุธปืนป้องกันตัว.................จะพอสมควรแก่เหตุ    ขึ้นอยู่กับพฤติการณ์ว่า

      ขณะนั้นภยันตรายใกล้จะถึงตัวหรือไม่.........และเป็นภยันตรายอย่างไร   เหมาะแก่การใช้ปืนหรือเปล่า


จากกระทู้     ขณะที่  ข.หยิบปืนขึ้นมา     ภยันตรายไม่ใกล้ตัว  ข.   ข.ยิง  ก. ตาย    มีความผิดอ้างเหตุป้องกันไม่ได้

แต่   อ้างเหตุลดโทษได้ว่าถูกข่มเหงรังแกด้วยเหตุไม่เป็นธรรม


กรณี  ปั๊มน้ำมัน...........   ถ้าพวกที่เข้ามาทำร้ายมีอาวุธปืน     จะเข้ามาทำร้าย 

ยิงคนที่มีปืนตาย     อันนี้เข้าเหตุป้องกัน........แต่จะต้องยิงด้านหน้านะครับ

แฮ่......อาจารย์เข้ามาตอบแย้วค้าบ ;D

เป็นผมจะออกจากที่นั่นไปก่อนสักพัก แล้วโทรบอกแฟนให้เปลี่ยนจุดนัดพบดีกว่า
แต่หากติดต่อไม่ได้ ก็เตรียมพร้อมที่จะเอาตัวรอดไว้ก่อนแหละครับ อย่างน้อยก็โทรแจ้ง จนท.มาดูแลก่อน

และถ้าเกิดเหตุการแบบนี้กับเรา....ทั้งข้างทางและที่ปั้ม จะป้องกันตัวอย่างไรให้ถูกกฎหมายที่สุดครับ ในกรณีที่หนึ่ง หยิบปืนได้แล้วให้ถือปืนขู่เฉยๆแล้วเลิกรากันไป รีบขึ้นรถแล้วโยนปืนทิ้ง(เพราะต้องคืนนาย ค.) แล้วต้องรอมันขับรถไล่ยิงเราเราถึงจะยิงมันได้
ในกรณีในปั้ม ถ้าเขาไม่มีปืนแต่มีมีดมีดาบหรือไม้ ต้องรอเขาตีหรือแทงเราก่อนไหม(กรณีเราก็หนีไม่ได้และมันเมาไม่กลัวปืนเรา) ถึงยิงได้แบบไม่เกินกว่าเหตุ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คง............

ในปั๊ม เป็นผมก็คงจะซัดไอ้สองคนนั้นก่อนแล้วอ่ะครับ
ในกรณีตัวอย่าง นาย ค จะบ้าเปล่าแทนที่จะเอาปืนมาขู่ให้หยุด ดันโยนมาให้  ขอโทษนะครับพี่ ป.13  ไม่ได้กวนนะครับแต่ในความคิดเฉยๆครับ ถ้าไงขออภัยก่อนนะครับ           ผมว่าถ้าตามรูปการ นาย ข ก็ผิดนะครับ

ขอขอบคุณมากครับ สำหรับคำแนะนำของพี่ป้อมทอง.....ยังไงก็ฝากไว้สำหรับเพื่อนสมาชิกในเวปนะครับเพราะเด็กๆสมัยนี้พอพวกมาก ก็จะเห็นช้างตัวเท่ามด กล้าทำทุกอย่าง แบบไม่ยั้งคิด พอเจอคนจริงตอบโต้ก็ไปหาว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ มีตัวอย่างในหน้าหนังสือพิมพ์เยอะ  :OO

 แต่ถ้าดูดีๆที่ถาม  ถ้า ข.ไม่หยิบปืน  ไอ้ ก.มันก็ต้องหยิบและมายิง ข.อยู่ดี
น่าคิด  ปวดหัวดีเหมือนกันครับผม

เสี่ยงทั้งหมด เลย

หากมีเรื่อง  ท่านว่าต้องเลี่ยงออกจากที่นั้นไปโดยเร็ว
อย่าอยู่รอช้า   เพราะมักจะเป็นการรอ เท้า ปืน มีด ระเบิด
ส่วนขับรถทุกวันนี้    เสี่ยงมีเรื่องง่ายเหมือนกัน
วันไหนผมมีปืนอยู่ในรถ   จะใจเย็นเป็นพิเศษ
มีเรื่องก็ไม่คิดจะลงไปจากรถ  หรือคิดเอาปืนลงไปซ่า
เพราะจะเสียเปรียบเขาครับ    อย่าพรวดลงไป
แต่ส่วนใหญ่เขาไม่เอาเรื่อง  ไม่ใช่เพราะกลัวผม
แต่เพราะเห็นว่าหน้าตาผมมันไม่น่ารัก
แถมแก่ก็แก่   เขาปล่อยไว้ก็ตายเองครับ

อย่างนี้แสดงว่ามองโลกในแง่ดีครับ

.....................อย่างนี้เรียกว่ามีหน้าเป็นอาวุธ...................

..สำหรับนาย ข.เป็นการป้องกันตัวเกินกว่าเหตุครับ มีความผิดแน่นอน  สำหรับที่ปั้มถ้าเป็นผม  ผมมีปืนอยู่ผมจะหนีก่อน แต่ถ้ายังไม่หยุดตามผม ผมคงต้องใช้ปืนป้องกันตัวครับ..
                   

ด้วยความเคารพครับ............

ผมพยายามไม่คิดว่ายิงอย่างไรไม่ผิด
แต่พยายามคิดว่าทำอย่างไรไม่ต้องยิง......... ::)
เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง...หนีได้เป็นหนีครับ... ;D

 :VOV:
ครับ
เหตุราวีก่อน แล้วจึงยิงกัน
ติดคุกครับ
 :VOV:

ผมก็ว่าอย่างนั้นเเหละ  เอาเงินค่าคดีพาลูกเมียไปเที่ยวดีกว่าครับ...

นาย ข อาจจะดิ้นหลุดคดีได้ ถ้าเส้นใหญ่
เพราะนาย ค ได้ส่งปืนให้นาย ก แสดงว่านาย ก มีเจตนาฆ่านาย ข
ซึ่งนาย ข ไม่มีทางที่จะหลบลูกปืนได้เพราะระยะใกล้เหลือเกิน
นาย ข จึงต้องยิงนาย ก อย่างไม่มีทางเลี่ยง

.. ถ้อยคำของ คุณธำรง  ใช้ได้เลยครับ.   :D

   ถึงแม้ว่า ได้ยิงไปแล้ว..  แต่จำเป็น.ก็ด้วยเหตุผล  ..

   แต่พยายามคิดว่าทำอย่างไรไม่ต้องยิง......... ::)
   เลี่ยงได้เป็นเลี่ยง...หนีได้เป็นหนีครับ... ;D

เป็นผมจะยิงทั้ง ก และ ค ยิงเสร็จแล้วเผ่นเลยครับ แทนที่จะช่วยไกล่เกลี่ยกลับโยนปืนมาให้  โอ้ยจะบ้าตาย ;D ;D
ที่จริง ข แย่งปืนได้ก็ปลอดภัยระดับนึงแล้ว ไม่ยิงแล้วต่อรองก่อนก็ได้

ตอบแบบไม่รู้ ตีความเข้าข้างตัวเองแบบกำปั้นทุบดิน  ในเมื่อ ราชการอนุญาต"ให้มีและใช้" โดยเหตุที่ขอก็ "ป้องกันชีวิต และทรัพย์สิน" ถ้าเราใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน ก็ไม่น่าจะผิดนี่นา อย่างนายข.เนี่ย ถ้าโดนต่อยมากกว่านี้ อาจตายได้ เป็นอันตรายที่ถึงตัวแล้วด้วย ไม่ได้ใกล้ถึง  ;D
 

ผมก็เห็นด้วยกับคุณธำรงถ้าหลบได้ก็หลบ แต่ถ้าหลบไม่ได้แบบถึงหนีก็เสี่ยงเช่นมีลูกตัวเล็กๆของเราอยู่ด้วย แค่มันขว้างไม้หน้า3มา ผู้ใหญ่ก็พอหลบไหวแต่เด็กถ้าโดนคงไม่รอดเหมือนกัน คือรู้ไว้ใช่ว่านะครับ

............ในความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ...นาย ข. ผิดเต็มๆเปา ขอรับท่านผู้อ่าน..เพราะเมื่อนายข. ได้หยิบอาวุธปืนมาแล้ว ไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ อีกที่จะยิงนาย ก. เพราะถ้านาย ก. ยังเดินดุ่มๆ เข้ามาอีกก็เพียงยังแค่เจตนาวิวาทต่อ แต่ตัวนาย ก. มิได้มีอาวุธใดๆที่เพียงพอจะทำให้นายข. ถึงแก่ความตายได้ แค่ยิงขู่ขึ้นฟ้านัด สองนัด ใครเป็นนายก.ก็วิ่งหางจุกตูดครับท่านไม่ใช่พระเอกหนังบู๊เหมือนที่เราๆเคยเห็นหรอกครับ อีกฝ่ายมีปืนแล้วยังจะเดินแอ็คท่าไปรับลูกปืน ..... สรุป นายข.จะอ้างป้องกันมิได้ เพราะสมัครใจวิวาทกันตั้งแต่แรก แล้วเมื่อตัดสินใจยิงก็พูดได้คำเดียวครับ เจตนาฆ่าครับ.....ไม่รู้จะคิดถูกหรือผิดไม่รู้...แฮะ แต่เดาๆเอาจากความน่าจะเป็นน่ะครับ...............

เห็นพี่ๆ ให้แต่นาย ข.มีความผิด แล้วนาย ค. ละครับ มีความผิดด้วยหรือไม่ และปืนจะต้องถูกยึด หรือว่าคืนนาย ค. ครับ ด้วยความเคารพ และความเห็นส่วนตัวผมนะครับ ผมก็เหมือนกับพี่ๆ หลายๆ ท่าน คือ เลี่ยงได้ก็เลี่ยงครับ ไม่เสี่ยงดีกว่า กลัวปืนถูกยึดน่ะครับ แหะ แหะ แบบเสียดายน่ะ กว่าจะมีตังค์ซื้อได้สักกระบอก  :~) :~) :~)

และถ้าสมมุติหนีไม่ได้หละครับ  การป้องกันตนโดยการยิงปืนขึ้นฟ้าจะมีความผิดหรือเปล่าสำหรับ ข  รบกวนผู้รู้ช่วยให้วิทยาทานด้วยครับ  และถ้า ก ไม่หนีแต่ยังมุ่งมาทำร้าย ข อีกด้วยความโมโห  ข ควรจะต้องทำอย่างไรครับ

   การยิงขึ้นฟ้า.ก็เท่ากับว่าเราไม่อยากเจตนา. จะทำร้ายเขา.  แต่เพื่อขู่
.ให้เขารู้ว่า  เรา.กำลังจะจวนตัว/หรือจนตรอก.แล้วนะ.  อย่าเข้ามา.อีก/หรือโปรดจงหยุด.

.หากเขายังฝ่าฝืนที่จะเข้ามา. เราก็ใช้วิธีตอบโต้. ที่พอสมควรแก่เหตุ. ที่เขาก่อขึ้นได้ครับ.

.แต่ระวัง.กรณีนี้.   ก. มีแต่มือเปล่า. และเพียงตัวต่อตัวกับ ข.เท่านั้น   แต่ในมือ ข. มีปืน.
ดังนั้น ข.จึงต้องระวัง.การใช้ปืนให้มาก.  เพราะถ้าใช้ไม่ดี. ก็จะกลายเป็นป้องกัน?  ที่เกินกว่าเหตุได้ครับ.

     


              :) :) :)

. ป้องกันตัวแล้วเกินกว่าเหตุหรือไม่   .

 ขอยกตัวอย่างบางเรื่องมาให้ดูครับ.

       คำพิพากษาฎีกาที่ ๔๙๕๕/๒๕๒๘  การที่จำเลยใช้มีดอีโต้. ฟันผู้เสียหายที่เป็นเด็กที่เข้าไปลักทรัพย์ในบ้านโดยลำพัง   ๑ ที   จนหัวกระโหลกร้าวแตก.  เป็นการเกินกว่าเหตุ.

        คำพิพากษาฎีกาที่. ๔๕๐๐/๒๕๓๑. ผู้ตายเมาสุราเตะต่อยและใช้ขวดตีจำเลยก่อน.
การที่ผู้ตายทำเช่นนั้น. จำเลยก็ชอบที่จะป้องกันตัวได้ตามกฎหมาย. แต่เนื่องจาก
จำเลยก็ทราบดีอยู่แล้วว่าผู้ตายชอบด่าและทำร้ายคนในบ้าน.  ทั้งยังอายุมากและ
เมาสุรา.  จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องทำรุนแรงจนถึงกับ
เป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตายก็น่าจะได้.  การที่จำเลยใช้ขวดสุราตีผู้ตาย
ตรงบริเวณที่สำคัญของร่างกายโดยแรง. จนเป็นเหตุให้ตาย.   จึงเกินกว่าเหตุ. 

  อันนี้. ดูดีๆ.  คำพิพากษาฎีกาที่ . ๙๙ / ๒๕๓๔  .ผู้ตายจะใช้มีดขอทำร้ายจำเลย
จำเลยจึงใช้อาวุธปืนยิงผู้ตาย.  จึงเป็นการกระทำโดยป้องกัน.    แต่ผู้ตายไม่ได้จู่โจม
เข้ามาทำร้ายจำเลย   จำเลยอาจเลือกยิงอวัยวะอื่นที่ไม่เป็นอันตรายถึงตายได้

.จำเลยกลับยิงที่.หน้าอก.ของผู้ตายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญ   จึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ. 

ปืนมีไว้ยิงครับ

นั้นสิครับ คือ ถ้าอยู่ในเหตุการณ์ที่วินาทีเป็นหรือตายขึ้นอยู่กับการยิงเพียงนัดเดียว แล้วถ้านาย ก. ซึ่งตั้งใจที่จะเอาปืนมาจากนาย ค. มายิงนาย ข. อยู่แล้ว นาย ข. ก็น่าจะมีสิทธิ์ที่จะยิงนาย ก. ได้ และถ้าบอกว่าน่าจะยิงนาย ก. ที่ขาหรือแขนแทน แต่นาย ข. ยิงปืนไม่เป็น และ/หรือเป็นคนใส่แว่นที่เผอิญแว่นตกกระเด็นตอนต่อสู้กันหล่ะ นาย ข. น่าที่จะมีสิทธิ์ในการป้องกันตัวเหมือนกันนะครับ

เก็บไว้เตือนสติตัวเองครับ

555555  เห็นด้วยคราบพี่