เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คือผมได้ลงทุนขายเสื้อผ้ากับเพื่อนโดยผมเป็นคนออกเงินเป็นจำนวน40000บาทแล้วเขาเป็นคนขายโดยไม่ได้ทำสัญญาอะไรไว้ ทำมได้ประมาณ3เดือนเพื่อนผมก็เริ่มไม่ปันผลจ่ายเงินเหมือนตอน2เดือนแรกผมได้สอบถามไปเข้าก็ว่าเดี้ยวให้ แต่ก็หายไปเป็นประจำสุดท้ายได้คุยกันเข้าว่าจะผ่อนจ่ายให้ก็เงียบหายอีก จากเรื่องที่เล่ามาผมจะใช้วิธีไหนที่จะเอาเงินจำนวนนี้คืนมาได้บ้างครับ แต่ผมก็ทำใจเพราะตอนแรกไม่ได้ทำสัญญากันไว้อยากให้พี่ๆช่วยแนนำหน่อยครับ   

แบบนี้ผมว่า ต้องคุยกันแบบเพื่อนมากกว่าครับ

แต่ถ้าเขาไม่ใช่เพื่อนแล้วเสียตังแน่นอน

ธุรกิจขาดทุนหรืออาจนำเงินไปใช้นอกระบบ  ลองติดต่อพูดคุยหาทางออกกันตรงๆดีกว่า

ถ้ากำไรและอยากทำคนเดียวก็ขอทุนคืน ปล่อยให้เขาทำไปตามสบาย ยืมจมูกเพื่อนหายใจนี่ลำบากนะ

   คิดว่ายากครับ คนแบบนี้มีแยะ ไม่รับผิดชอบ แต่ก็เอาใจช่วยครับ

ธุรกิจอะไรถ้าเราไม่ได้ดูแลและควบคุมไม่ได้ไม่ต้องพูดถึงครับ      ทำได้แค่ทวงถามหรือมีอะไรมาแลกเปลี่ยน     เมียผมเคยลงทุนให้ญาติกันขายอาหารลงทุนประมาณ200,000บาทตกเย็นไปเก็บเงิน     แบ่งกัน 70/30สุดท้ายส่วนแบ่งน้อยลงน้อยลงแล้วก็เลิก   (บอกไม่เชื่อก็ยังงี้แหละ)

เอาใจช่วยครับ   ลองคุยกันนะครับ

ไม่เสียเงิน ก็ เสียเพื่อน

กลัวว่าจะเสียทั้งสองอย่าง
เอาใจช่วยครับ

คุยกันฉันท์เพื่อนครับ ขอให้จบลงด้วยดี

ลองปึกษานักสืบเอกชนดูครับ..ต้องใช้จิตวิทยาในการทวงคืนครับ

มีนิยามที่ว่า"อย่าลงทุนกับเพื่อนถ้ายังอยากจะเป็นเพื่อน"

ผมคงตอบท่านจขกท.ไม่ได้เหมือนกันว่าทำอย่างไรจะได้เงินคืน  :P
เมื่อทำใจไว้แล้ว...และก็ไม่ได้ทำสัญญา......เมื่อมีเหตุเช่นนี้ก็ให้ถือว่า"ซื้อคน"ครับ
ถือเป็นธุรกรรมของคนคุ้นเคย....เป็นเพื่อนเป็นญาติ

เพื่อนคนนึง40000บาท.....ซื้อได้ราคานี้........ถือว่าถูกมาก  :)

เห็นด้วยกับพี่ธำรงครับ 40,000 กับเวลา 3 เดือน เร็วดีครับ

บริษัทที่ผมเคยหุ้นกับเพื่อนๆ โดนมาด้วยตัวเลข 7 หลัก กับเวลา 7 ปีที่สร้างมา

จากเงินเริ่มต้นไม่กี่พันบาท เวลาผ่านไปเงินมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความไว้ใจจึงให้สิทธิในการบริหาร

แต่สุดท้าย "แววตา" ของเพื่อนไม่เหมือนเดิม

จึงได้ข้อสรุปว่า กิจการ"ฮุบ"กันได้จริงๆ

เรื่องเงินนี่ไม่เข้าใครออกใครจริงๆ นะครับ
เหมือนคำพูดที่ว่า ถ้าไม่อยากเสียเพื่อนไป อย่าให้ยืมเงิน  :~)

ขอบคุณพี่ๆที่ให้กำลังใจครับ

...ยังมีที่สาหัสกว่านี้  บางคนยอมจำนองที่ดินประกันเงินกู้เพื่อนครับ  จากการคุยกันว่า "ขอยืม" ที่ดินไปเอาเงินแบ๊งค์หน่อย  ::)

น่าจะติดตาม  สอบถาม

ถ้าไม่น่าไว้ใจ  น่าจะเรียกมา

ทำสัญญา (เงินกู้)

 เรื่องนี้พูดยาก   แนะนำว่าให้ไปแจ้งความตำรวจไว้ก่อน  .ให้ตำรวจเขาช่วยเรียกอีกฝ่าย
มาพูดเจรจา  . แล้วทำบันทึกข้อเท็จจริงนั้นไว้ในสำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี
แล้วเอาบันทึกนั้นแหละมาฟ้องเรียกเงิน . หากเขาบิดพลิ้วในภายหลังอีกที

.เพราะตอนนี้. มีหลักฐานหนี้กันเป็นหนังสือแล้ว .

    หรือวิธีนี้ก็ว่าดี  ลองดูครับ

ถ้าจะพูดตามกฎหมายจริงๆแล้ว   จขกท.ลองไปหาตำรากฎหมายเรื่อง
หุ้นส่วนบริษัทดูครับ   ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์  ที่ มาตรา  ๑๐๒๕ - ๑๐๓๐

 .เคสอย่างนี้เป็นเรื่องการเข้าหุนกัน  เพื่อค้าขายสิ่งของ   อีกคนออกเงิน
อีกคนลงแรง  .ได้กำไรเอามาแบ่งกัน   ดังนั้นจึงต้องถือว่า ๒ คนเข้าหุ้นส่วนกัน
และตามกฎหมาย ก็มิได้กำหนดว่าสัญญาเข้าหุ้นส่วนกันนั้น.  ต้องทำเป็นหนังสือ
 อาจพูดคุยตกลงกันด้วยวาจาก็ได้ . ให้ดูคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 556/2505

   และความรับผิดของหุ้นส่วนตามมาตรา   ๑๐๔๒ ก็ให้ใช้กฎหมายตัวการตัวแทน
เข้ามาจับ. ดังนั้นถ้าคุณไปปรึกษาทนายความให้เขาตั้งรูปเรื่องแบบนี้แล้วฟ้อง
ได้ครับ.  นำพยานมาสืบกันได้โดยไม่ต้องอาศัยสัญญาเป็นหนังสือเลย
แล้วถ้าเป็นอย่างที่คุณเล่ามา  .คุณก็ต้องได้เงินส่วนแบ่งของหุ้นส่วนที่เข้าหุ้นกันไว้
คืนตามส่วนครับ. 

 แต่ในทางปฏิบัติ. จำนวนเงินหุ้นส่วนที่จะทวงคืน. จะคุ้มทุนกับค่าทนายความหรือเปล่า.
และคดีก็มีรูปเรื่องที่ซับซ้อนด้วย.  สืบพยานกันเรื่องจำนวนเงินก็คงลำบากหน่อย.