หัวข้อ: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 01:27:51 AM สำหรับภารกิจในการคืนอำนาจประชาธิปไตยให้แก่ ประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว กำหนดให้เป็น หน้าที่ของ
คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ที่จะต้องดำเนินการสรรหาบุคคลเพื่อแต่งตั้งเป็นสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจำนวนไม่เกิน 2,000 คน และให้สมาชิกสมัชชาแห่งชาติไปเลือกกันเองให้เหลือ 200 คน เพื่อส่งชื่อให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติคัดให้เหลือ 100 คน เข้าไปทำหน้าที่เป็นสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ขั้นตอนละเอียดชัดเจน การเริ่มต้นไปสู่กระบวนการคืนอำนาจประชาธิปไตยให้ประชาชน คมช. คือ ผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว ไม่เกี่ยวกับรัฐบาล หรือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ขณะเดียวกัน เมื่อโฟกัสไปที่การทำงานของคมช.ในการคืนอำนาจให้ประชาชน สิ่งที่ปรากฏให้เห็นก็คือ มีการขยับตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล การสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ (กดส.) ชุดที่มี พล.อ.อ.ชลิต พุกผาสุข ผู้บัญชาการทหารอากาศ ในฐานะรองประธาน คมช. เป็นประธาน เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 เพื่อให้เข้ามาทำหน้าที่สรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ โดยดำเนินการให้กลุ่มสาขาอาชีพและองค์กรต่างๆจากทุกจังหวัดทั่วประเทศ คัดเลือกตัวแทนและเสนอชื่อเข้ามาตามสัดส่วนที่ คมช.กำหนดไว้ 1,770 คน ซึ่งประกอบด้วย ผู้แทนภาคเศรษฐกิจและสังคม 767 คน ผู้แทนภาครัฐ 318 คน ผู้แทนภาคการเมืองและการปกครองท้องถิ่น 227 คน ผู้แทนองค์กรอิสระ 16 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 302 คน ผู้แทนนิสิตนักศึกษา 140 คน นอกจากนี้จะเป็นตัวแทนสาขาอาชีพและผู้ทรงคุณวุฒิในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมและภาควิชาการ ที่คณะรัฐมนตรีสรรหา จำนวน 115 คน และตัวแทนสาขาอาชีพและผู้ทรงคุณวุฒิในภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคสังคมและภาควิชาการ ที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติสรรหา 115 คน รวมทั้งสิ้น 2,000 คน เข้ามาทำหน้าที่สมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ทั้งนี้ ตามกรอบเวลาเดิมที่คณะกรรมการ กำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติได้วางไว้ การสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติจะเสร็จสิ้นเรียบร้อยได้รายชื่อครบ 2,000 คน ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2549 ซึ่งว่ากันตามตรง ถือว่าล่าช้ามากอยู่แล้ว แต่เอาเข้าจริง การสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติกลับยืดเยื้อมาจนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สะเด็ดน้ำ ส่งผลให้การเริ่มต้นกระบวนการคืนอำนาจประชา-ธิปไตยให้ประชาชน ต้องล่าช้าออกไปอีก ทั้งที่ความจริงแล้ว คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ สามารถดำเนินการวางกรอบ และเริ่มการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติได้ตั้งแต่แรก ควบคู่ไปกับการตั้งสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ก็ไม่ยอมทำ ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยใช่เหตุ เพิ่งมาขยับออกระเบียบหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ และตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2549 หลังจากยึดอำนาจมาแล้ว 1 เดือนเต็ม หรือถ้าจะอ้างว่า ต้องรอให้มีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ ฉบับชั่วคราวเสียก่อนถึงจะดำเนินการได้ ก็ยิ่งไม่สมเหตุสมผล เพราะรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว ประกาศใช้เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2549 แต่ คมช. กลับปล่อย เวลาให้เนิ่น นานออกไปอีก ครึ่งเดือน ถึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการสรรหาสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ ปากก็บอกว่าจะเร่งคืนอำนาจประชาธิปไตยให้ประชาชน แต่พฤติกรรมกลับไม่สอดคล้องกับคำพูด ตรงนี้แหละ ที่ทำให้สังคมเริ่มรู้สึกคลางแคลงใจ ไม่แน่ใจว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติต้องการยื้ออำนาจไว้หรือไม่ เพราะโดยกระบวนการในการคืนอำนาจประชา-ธิปไตยให้ประชาชน รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวกำหนดขั้นตอนไว้ชัดว่า ต้องเริ่มต้นจากการมีสมาชิกสมัชชาแห่งชาติ 2,000 คน เลือกกันเองให้เหลือ 200 คน แล้วส่งชื่อให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติคัดให้เหลือ 100 คน เข้าไปทำหน้าที่เป็นสภาร่างรัฐธรรมนูญ จากนั้นให้สภาร่างรัฐธรรมนูญ เลือกบุคคลมา 25 คน และ คมช.เสนอชื่อเข้ามาอีก 10 คน รวมเป็น 35 คน เข้ามาเป็นคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ นั่นก็หมายความว่า ถ้ายังไม่มีสมัชชาแห่งชาติ สภาร่างรัฐธรรมนูญก็ไม่เกิด การเลือกตั้งเพื่อคืนอำนาจให้ประชาชน ก็ต้องล่าช้าออกไปโดยปริยาย ทีมของเราขอบอกว่า ภายใต้สถานการณ์ที่คลื่นใต้น้ำจับจ้องรอจังหวะป่วน ผู้คนในสังคมเรียกร้องการคืนอำนาจประชาธิปไตย ถ้า คมช.มัวแต่โอ้เอ้ ถ่วงเวลา จนทำให้การร่างรัฐธรรมนูญที่จะนำไปสู่การเลือกตั้ง เกิดความล่าช้า ระวังจะเป็นตัวจุดชนวนระเบิด ทำให้เกิดวิกฤติซ้อนวิกฤติ. http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics03&content=27891 การตั้งคณธกรรมการกตส. หลังจากปฏิวัติเพียง1 เดือนถือว่ารวดเร็วมากกับการตัดสินใจกฏกติกาที่จะวางรากฐานประเทศไทยในอนาคต แต่พวกสื่อที่ชอบสร้างความวุ่นวายให้บ้านเมืองก็ยังก่อกวนไม่หยุดหย่อน เหตุที่คปค.ปฏิวัติก็เพราะหลีกเลี่ยงการนองเลือดของคนไทยที่รัฐบาลทักษิณไม่สามารถควบคุมความสงบได้มีวี่แววว่าจะเกิดจลาจลสงครามกลางเมืองค่อนข้างแน่ ผมว่าถ้าคมช และรัฐบาลชุดนี้คิดจะต่อท่ออำนาจ และยื้ออำนาจอย่างที่ถูกกล่าวหาจริงๆ ก็คงจะดีไม่น้อย เพราะสิ่งแรกที่จะทำคือปิดยุบ สื่อ สายพันธ์บ่างพวกนี้เป็นสิ่งแรกและนักการเมืองที่วิจารณ์รัฐบาลภายใต้กฏอัยการศึกเชิญตัวไปควบคุมเพื่อความสงบของบ้านเมืองซักพักก็ทำได้ไม่น่าเกลียด อำนาจก็มีเต็มๆอยู่ในมือแล้ว ช่วยใช้อำนาจหน่อยเถอะครับ หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 05:21:40 AM เห็นด้วยกับการที่ต้องใช้ความเด็ดขาดซะที เมื่อวานก็มีสุนัขเลี้ยงเจ้าเก่าออกมาเห่าหอนอีก อย่าเหยาะแหยะเกินไป
จัดการจริงจังใช้อำนาจกำจัดอาจมเหล่านั้นไปเสีย พร้อมรุกเรื่องเหตุการณ์ชายแดนใต้ให้สงบทันที ถึงเวลาแล้วครับ หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: Charoon รักในหลวงครับ ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 05:49:50 AM เห็นด้วยกับการที่ต้องใช้ความเด็ดขาดซะที เมื่อวานก็มีสุนัขเลี้ยงเจ้าเก่าออกมาเห่าหอนอีก อย่าเหยาะแหยะเกินไป จัดการจริงจังใช้อำนาจกำจัดอาจมเหล่านั้นไปเสีย พร้อมรุกเรื่องเหตุการณ์ชายแดนใต้ให้สงบทันที ถึงเวลาแล้วครับ รับทราบ นำไปปฏิบัติทันทีเลยครับท่าน หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: Iron ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 07:29:58 AM ..
หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: M 60 - 7 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 10:47:22 AM ผลประโยชน์ของตนเองและพวกพ้องต้องมาก่อน แต่ชอบอ้างประชาชนและประชาธิปไตย
หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: joonjan ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 08:21:51 PM ประชาธิปไตยของไทยมันดี .. แต่คนใช้มันเฮงซวย เลว ชั่วมากๆ .. น่ารำคาญจริงๆ .. ผมว่าอยู่ไปเรื่อยๆอย่างนี้ก็ดีแล้วครับ .. ประเทศพม่าเขายังอยู่ได้เลย .. รอให้พม่าเขาเป็นประชาธิปไตยก่อน แล้วค่อยเป็นตามหลังพม่าเขาก็ได้ ..
หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 09:16:47 PM เห็นด้วยกับการที่ต้องใช้ความเด็ดขาดซะที เมื่อวานก็มีสุนัขเลี้ยงเจ้าเก่าออกมาเห่าหอนอีก อย่าเหยาะแหยะเกินไป จัดการจริงจังใช้อำนาจกำจัดอาจมเหล่านั้นไปเสีย พร้อมรุกเรื่องเหตุการณ์ชายแดนใต้ให้สงบทันที ถึงเวลาแล้วครับ ด้วยความเคารพครับ.... เดินตามหลังพ่อเฒ่าครับ.... ขอบคุณครับ............... หัวข้อ: Re: บ่างระดับชาติ! เริ่มหัวข้อโดย: * : L๐OKPlaNoi *:.รักแม่ ที่ พฤศจิกายน 26, 2006, 10:49:37 PM นายสนเทอะ มหาจำเลอะ และนาย หามใส น่าจะมาช่วยแก้ปัญหาบ้างนะ :-[ |