เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

พอดีผมมี .38 super LLAMA ของเก่า อยากรมดำ อยากรมเอง มีใครแนะนำหน่อยครับ

ผมก็เคยคิดอยากรมเอง เลยซื้อหนังสือรมดำมาอ่าน คิดไปคิดมาไม่คุ้ม...
อุปกรณ์เยอะ อันตราย ค่าใช้จ่ายแพง การเตรียมผิวงานต้องเยี่ยม การระบายอากาศต้องดี ฯลฯ
...แนะนำส่งร้านทำดีกว่าครับไม่ต้องเสี่ยงกับสุขภาพ...แต่ถ้าอยากทำเองก็ไม่เป็นไร ถือว่าซื้อประสบการณ์  สูตรเคมีและวิธีการผมจำไม่ได้ ต้องรอพรุ่งนี้จะลอกมาให้อ่าน...แต่เห็นว่ามีชุดเคมีรมดำขายเป็นชุดที่ร้านรวมเคมี อยู่ตรงอนุเสาวรีย์วีรชน ถนนราชดำเนิน โทร 02-2241822-4  ลองดูนะครับ ได้ผลอย่างไรบอกกันบ้าง.....

ให้ช่างทำให้ดีกว่าครับ

ไม่แนะนำให้ทำเองครับ.........ถ้าเตรียมงานไม่ดีงานจะเละดูไม่ได้เลย

ส่งร้านยอดการช่างประมาณ 1.500  ร้านสุพล ประมาณ 2 หรือ 2.5 พันไม่แน่ใจ

ให้ช่างทำดีกว่าครับ  :D

คุณ bereta ยืนยันที่จะทำรมดำเอง ก็เตรียมตัว เตรียมอุปกรณ์และเครื่องป้องกันอันตรายส่วนบุคคล(PPE)ไว้ได้เลยครับ..
..............การรมดำแบบต้ม( Hot dip)..................
1.หม้อสเตนเลส ใบย่อมๆ สำหรับต้มน้ำยา ห้ามใช้หม้ออลูมิเนี่ยม เพราะจะโดนเคมีกัดทะลุ
2.ลวดร้อยชิ้นงาน
3.กระดาษทรายหยาบ เบอร์ 300~400
4.กระดาษทรายละเอียด เบอร์ 800~ 1500
4.ถาดสเตนเลสสำหรับวางชิ้นงาน
5.เตาแก๊ส
6.แท่งขัดมัน เป็นแท่งสี่เหลี่ยมลักษณะคล้ายชอล์ค หรือมีหินน้ำมัน(Oil stone)แบบละเอียดก็ดี
7.ล้อหินขัด ใส่ผ้าปัดเงาและซี่ลวดสำหรับขัดสนิมและปัดเงา
8.น้ำสะอาด
9.ดรายเป่าผม ไว้เป่าอบชิ้นงาน
10.น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันจักร ไว้เคลือบผิวงานก่อนอบ
11.คีมจับชิ้นงาน
12.ถุงมือ ผ้าปิดจมูก แว่นตา หรืออุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคลอื่นๆที่เหมาะสม
13.ถังใส่น้ำไว้ล้างชิ้นงาน
14.ถังดับเพลิง  ;D
....สารเคมีที่ต้องเตรียม หรือซื้อแบบสำเร็จจากร้านที่แนะนำก็ได้
...โซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ) ประมาณ  1 กก. ไว้ต้มล้างชิ้นงาน
...น้ำมันเบนซิน, เมธิลแอลกอฮอล์ หรือ อะซิโตน ไว้ทำความสะอาดชิ้นงาน
...โซเดียมไนเตรต  เท่าไหร่ไม่แน่ใจ รอพรุ่งนี้  ::)
...โซเดียมไนไตร  เท่าไหร่ไม่แน่ใจ รอพรุ่งนี้  ::)
...อื่นๆ
 ..ผมไม่แน่ใจสูตรเคมี ส่วนรายละเอียดวิธีการพรุ่งนี้ผมจะลอกมาให้..

ให้ช่างที่อู้พ่นสี่รถยนต์ พ่นให้ ได้ไหมครับ เห็นสี่รถทนทานโดนแดดโดนฝน นับสิบปีเลย สียังเหมือนเดิม

ผมคิดว่าได้นะ   แต่คงไม่สวยงามเหมือนชิ้นส่วนรถยนต์ครับ
ชิ้นส่วนรถยนต์ มีขนาดใหญ่   ทำสีรองพื้นก่อน   แล้วสีจริง
สีจริง  จับตัวกับรองพื้น
ปืนมันขนาดเล็กกว่ามาก   ลักษณะรูปร่างค่อนข้างซับซ้อนกว่า
คงทำรองพื้นได้ยาก   พอทำสีจริง .......คงออกมาไม่เนียนเหมือนชิ้นส่วนรถยนต์
อีกอย่าง เหล็กปืน  กับเหล็ก รถยนต์ไม่เหมือนกัน  คงมีผลกับการเกาะของสีด้วย
เป็นความเห็นผมคนเดียวครับ...........

มาตามสัญญาว่าด้วยเรื่องรมดำ...ที่จริงแล้วคุ้นๆว่าหลายท่านเคยโพสกันไว้ก่อนหน้านี้แล้ว แต่ผมขอลอกวิธีการในหนังสือของ อาจารย์พิชิต เลี่ยมพิพัฒน์ มาให้ท่าน bereta จะได้นำไปรม LLAMA .38 Sup. ของท่านตามที่ต้องการ....
           การรมดำเหล็กแบ่งออกได้เป็น 2 ลักษณะคือ
1.รมดำผิวด้าน
2.รมดำผิวเงามัน
  กรรมวิธีการรมทั้งสองแบบนี้เหมือนกัน ต่างกันที่วิธีเตรียมผิวงานเท่านั้น  ถ้ารมด้านก็พ่นทรายผิว รมเงาก็ขัดมัน ขั้นตอนการรมแบ่งออกเป็นสี่ขั้นตอนดังนี้
1.การเตรียมผิวงาน  ขั้นตอนนี้ขั้นอยู่กับความสามารถทางช่างของคุณ bereta หละครับ  เตรียมผิวดี เครื่องมือพร้อม ก็ได้ปืนรมดำสวยๆ  ถ้าเตรียมไม่ดี เครื่องมือไม่พร้อม ท่านก็ได้ท่อนเหล็กกระดำกระด่างไว้ดุ้นหนึ่ง  ;D ;D
2.การทำความสะอาดผิวงาน  ขั้นตอนนี้ก็ถือว่าสำคัญมากเช่นเดียวกัน  ถ้าทำความสะอาดผิวงานไม่ดี มีคราบไขมันติด เวลาต้มในน้ำยารมดำ ผิวก็จะไม่สวย กระดำกระด่าง สีเพี้ยน ไม่สม่ำเสมอ...
3.ขั้นตอนการรมดำ  ตรงนี้เป็นขั้นตอนที่สำคัญและมีอันตราย เพราะสารเคมีที่ใช้มีฤทธิ์กัดกร่อน  ต้องทำอย่างระมัดระวัง สวมอุปกรณ์ป้องกันให้ดี
4.ขั้นชะโลมผิวด้วยน้ำมันและอบ  ขั้นตอนนี้เป็นการเคลือบผิวเพิ่มความมันวาว เป็นขั้นตอนที่ไม่ยุ่งยาก...
   ....เริ่มด้วยเรื่องการเตรียมผิวเพื่อรมดำเงา.....
     -ถอดแยกชิ้นส่วน อาวุธปืนที่ต้องการรมออกให้เรียบร้อย ชิ้นส่วนที่รมได้ต้องเป็นเหล็กเท่านั้น
     -จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำมันเบนซิน เพื่อขจัดคราบไขมันและสิ่งสกปรกออก
     -จุ่มล้างชิ้นงานลงในน้ำสารละลาย ตามสูตร เพื่อขจัดคราบไขมันสิ่งสกปรกและสนิมนาน 2~3 นาทีหรือยกดูว่าผิวสะอาดหรือยัง   
     สูตรน้ำยาสารละลายมีดังนี้
-กรดกำมะถัน 96% ถ.พ. 1.84      10 ซีซี.
-อะซีโตน                                            5~8 กรัม
-เมธิลแอลกอฮอล์                               10~20 ซีซี.
-น้ำ                                                   1 ลิตร
     หมายเหตุ : การผสมสารละลายเคมีต้องทำอย่างระมัดระวัง  ให้เตรียมน้ำไว้ก่อน แล้วค่อยเทกรดลงไป   “ห้ามเทน้ำลงในกรดโดยเด็ดขาด”  ถ้าชิ้นงานไม่เป็นสนิมมากนักก็ไม่ต้องทำขั้นตอนนี้
-ขัดผิวชิ้นงานให้เรียบด้วยล้อแปรงลวดเหล็ก หรือล้อหนัง  หรือกระดาษทรายน้ำ หรือหินน้ำมัน  ถ้าผิวงานเรียบไม่เป็นสนิมก็ไม่จำเป็นต้องขัด
..........ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวงานหลังการขัดผิว........
-จุ่มล้างและเช็ดชิ้นงานในน้ำมันเบนซินเพื่อขจัดคราบไขมัน และสิ่งสกปรก แล้วเช็ดให้แห้ง
-จุ่มแช่ชิ้นงานในน้ำสารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์(โซดาไฟ) ปริมาณ 20-40 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร นาน  1-2 นาที ยกขึ้นแล้วจุ่มล้างในน้ำสะอาด
-ต้มชิ้นงานในน้ำสารละลายโซดาไฟ หรือ โซดาแอช (โซเดียมคาร์บอเนต ) 10-15 กรัม  ต่อน้ำ 1ลิตร อุณหภูมิ  80-100 องศาเซลเซียส นาน 20-30 นาที เพื่อกัดผิวให้สะอาด จากนั้นยกชิ้นงานขึ้น จุ่มล้างในน้ำสะอาด
-ต้มชิ้นงานในน้ำเดือด อีกประมาณ 10-20 นาที เพื่อขจัดสารเคมีที่หลงเหลืออยู่ออกให้หมด  เมื่อเสร็จแล้วให้จุ่มชิ้นงานไว้ในน้ำสะอาด  ห้ามนำออกมาตากลม เพราะจะทำให้ผิวงานหมองคล้ำ  แล้วรอไปต้มรมดำอีกที...
...........การรมดำโดยการต้มในน้ำยารมดำ......  สูตรน้ำยารมดำมีหลายสูตร แต่ละสูตรให้สีดำแตกต่างกัน..
  สูตรที่ 1  สูตรสีน้ำตาลไหม้ (Dark Brown) สูตรของอังกฤษ
-เฟอร์ริกฟอสเฟต                 8  ออนซ์
-กรดฟอสฟอริก                    12 ออนซ์
-น้ำ                                         1 แกลลอน
-อุณหภูมิต้ม                        100 องศาซี
   สูตรที่ 2   สูตรสีน้ำตาลไหม้ (Dark Brown) สูตรของอเมริกา ใช้รมดำด้าน
-กรดฟอสฟอริก                  25 กรัม
-แมงกานีสไดออกไซด์        1.5 กรัม
-น้ำ                                       1  ลิตร
-อุณภูมิขณะต้ม                     100 องศาซี
-เวลา                                      30  นาที
   สูตรที่ 3   สูตรสีน้ำเงินเข้ม (Blue Black) สูตรนี้เป็นที่นิยมกันทั่วไป
-โซเดียมไฮดรอกไซด์                    487   กรัม
-โซเดียมไนเตรต                            126   กรัม
-โซเดียมไนไตร                              30    กรัม
-ไตรโซเดียมฟอสเฟต                      15   กรัม
-น้ำ                                                   1  ลิตร
-อุณภูมิขณะต้ม                               100 องศาซี
-เวลา                                             20-30  นาที
   เมื่อได้สูตรที่ต้องการแล้ว ต่อไปก็เป็นขั้นตอนการผสมน้ำยาเคมี ซึ่งสูตรที่สามเป็นสูตรที่ปัญหาในการผสม จำเป็นต้องมีวิธีการขั้นตอนผสมอย่างถูกต้อง  ดังนี้
-ภาชนะที่ใช้ต้องเป็นสเตนเลส
-เทน้ำจำนวน 3/4 ส่วน หรือ 750 ซีซี ลงไปในหม้อสเตนเลส
-เทโซดาไฟลงไปผสมทีละนิดแล้วกวนให้ละลาย ขณะกวนจะเกิดความร้อนและมีกลิ่นฉุน ต้องสวมถุงมียาง แว่นตา และผ้าปิดจมูกด้วย ระวังอย่าให้เคมีกระเด็นถูกผิวหนังและเสื้อผ้า
-นำสารเคมีตัวอื่นลงผสมแล้วกวนให้เข้ากัน
-เติมน้ำที่เหลือลง  เสร็จแล้วก็ได้น้ำยารมดำที่ต้องการ เตรียมไว้รอต้มชิ้นงานต่อไป
......ขั้นตอนการต้มชิ้นงานในน้ำยาที่เตรียมไว้.....
-ต้มน้ำยารมดำให้เดือด
-นำชิ้นงานที่เตรียมไว้ลงต้มในน้ำยารมดำนาน 20-30 นาที
-จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำสะอาด
-ต้มชิ้นงานในน้ำเดือดนาน 10-20 นาที
-จุ่มล้างในน้ำสะอาด
-เช็ดด้วยผ้าแห้ง
..... จบขั้นตอนต้มก็เป็นการอบผิวงาน........
-ชะโลมผิวงานด้วยน้ำมันชะโลมปืน น้ำมันมะกอก หรือ น้ำมันละหุ่ง
-อบชิ้นงานให้ร้อนโดยใช้ดรายเป่าผม หรือปิ้งบนถาดสเตนเลสก็ได้  อุณหภูมิ 80-90 องศาซี  นาน  20-30 นาที
-ปล่อยชิ้นงานให้เย็น แล้วนำกลับไปประกอบ ได้เลย.....
   นอกจากนี้ยังมีสูตรน้ำยารมดำอีก 2-3 สูตร เดี๋ยวว่างๆมาพิมพ์เพิ่มเติมให้ครับ..

แถมสูตรน้ำยารมดำอีก 3 สูตร...
 สูตร 1.
             โซเดียมไฮดรอกไซด์      375 กรัม
             โซเดียมไนเตรต            125 กรัม
              น้ำ                              1     ลิตร
              อุณหภูมิ                       100 องศาซี
              เวลา                           15   นาที
สูตร 2.
              โซเดียมไฮดรอกไซด์      750 กรัม
             โซเดียมไนไตรต์             250 กรัม
              น้ำ                                1     ลิตร
              อุณหภูมิ                        100 องศาซี
              เวลา                            10   นาที
สูตร 3. สีดำเข้มหรือสีน้ำเงินเข้ม
              โซเดียมไฮดรอกไซด์      350 กรัม
              โซเดียมไนเตรต             175 กรัม
              โซเดียมไนไตรต์             700 กรัม
               น้ำ                                1     ลิตร
              อุณหภูมิ                        100 องศาซี
              เวลา                             20   นาที
               
       ......สรุปขั้นตอนการรมดำ..........
1.ขัดผิวที่เป็นสนิมด้วยกระดาษทรายน้ำหรือล้อขัดให้เรียบ
2.ขัดชิ้นงานให้ผิวมันด้วยล้อผ้าขัดมัน
3.จุ่มและเช็ดชิ้นงานด้วยน้ำมันเบนซินเพื่อขจัดไขมัน
4.ต้มชิ้นงานในน้ำสารละลายโซดาไฟ หรือโซดาแอช ในอัตราส่วน 10-15 กรัม ต่อน้ำ 1 ลิตร นาน10-15 นาที
5.จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำสะอาด
6.ต้มชิ้นงานในน้ำเดือดนาน 10-15 นาที
7.จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำสะอาด
8.ต้มชิ้นงานในน้ำยารมดำนาน 20-30 นาที
9.จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำสะอาด
10.ต้มชิ้นงานในน้ำเดือดนาน 10-15 นาที
11.จุ่มล้างชิ้นงานในน้ำสะอาด
12.เช็ดชิ้นงานให้แห้งด้วยผ้าสะอาด
13.ชะโลมผิวชิ้นงานให้ชุ่มด้วยน้ำมันชะโลมปืน น้ำมันละหุ่งหรือน้ำมันมะกอก
14.อบชิ้นงานให้ร้อนประมาณ 80-90 องศาซี นาน 20-30 นาที
15.ยกชิ้นงานออกวางบนภาชนะสะอาด รอให้เย็น
16.นำชิ้นงานที่ได้ไปใช้งานได้....


             
           

ต้องการทราบเทคนิคเพิ่มเติมนะนำถามพี่โซ๊ยตี๋ครับ...ทั้งเทคนิคและแทคติคเพียบจากประสบการณ์เคยฟังคุณร็อคแกบอกให้ฟัง

 ;)  สอบถามคุณ mosino  แล้วไอ้สารเคมีต่างๆ ที่บอกมา หาซื้อได้ที่ไหนครับ

ถ้าในกรณีที่ผมต้องการรมแค่ชิ้นส่วนเล็ก ๆ เช่น นกสับ  (เป็นรอยเนื่องจากการพก)

จะฝากร้านรมให้เขาจะรับหรือไม่ครับ หรือรมเองจะคุ้มหรือเปล่า

จะหาพี่พี่โซ๊ยตี๋ ได้ที่ไหน

การซ่อมแซมรอยถลอกเล็กๆน้อยๆ จะนิยมใช้น้ำยารมดำเย็น  มีขายเป็นแบบขวดหรือแบบปากกาเมจิก
 ยี่ห้อที่นิยมกันคือ Birchwood Casey ขายอยู่ร้าน ม.ฮะกีมี  แต่ก็เห็นคุณ march ขายอยู่ในหน้าซื้อขายด้วยเหมือนกัน ไม่ทราบว่ายี่ห้ออะไร..
 http://www.mhakimigun.com/maintain_Oil.htm

 ;D ค้นคว้าได้เยี่ยมเลย    ท่านโมชิโน

ให้ช่างทำเถอะพี่สบายกว่ากันเยอะ

ผมไปซื้อน้ำยามาทำแล้วไม่ยากอย่างที่คิด ต้มในถ้วยแก้วบีกเกอร์ใหญ่ๆ มองเห็นชิ้นงานตลอดเวลาแต่อยากจะได้สูตรน้ำยารมเขียวใครมีบ้างช่วยบอกด้วย

น่าสนครับ

  :o ข้อมูล วิธีการ ละเอียด เข้าใจง่าย เป็นความรู้ ขอยกนิ้วโป้งให้ 2 นิ้ว ครับพี่ mosino  ;D

สารเคมีที่ใช้ราคาไม่แพงอย่างที่คิดพี่น้อง
ที่ร้านรวมเคมีเมื่อ 30/1/50
โซเดียมไนไตร          กก.ละ 50.29.-
โซเดียมไนเตรท        กก.ละ 41.73.-
ไตรโซเดียมฟอสเฟต  กก.ละ 46.01.-
โซเดียมไฮดรอกไซด์(โซดาไฟ)  ถามร้านขายก่อสร้างแถวบ้านดูบ้านใครบ้านมันนะครับ
ไม่ลองไม่รู้

อ่านข้อมูลขั้นตอนแล้วน่ายอมแพ้มาก
พี่ mosino  ให้ข้อมูลได้สุดยอด

แนะนำให้ลองซื้อหนังสือรมดำของ อาจารย์พิชิต มาลองอ่านดูครับ ท่านแต่งไว้เป็นสิบๆปีแล้ว มีหลายสูตรให้ลอง

.

ให้ช่างเค้าทำน่าจะปลอดภัยกว่านะผมว่า

เข้ามาเก็บข้อมูลครับ ขอบคุณสำหรับทุกๆความเห็น ได้ความรู้ดีมากครับ

แล้วอะโนไดซ์ เขาเอาอลูมิเนียมไปแช่ในกรดอะไรครับ ใครรู้บ้างช่วยตอบที่
เมื่อก่อนผมเคยมีหนังสือ รมดำ แต่เพื่อนข้างบ้านขอยืมไปแล้วหาย หาซื้อใหม่ก็ไม่มีขาย ผมหาซื้อมาหลายร้านแล้วก็หาไม่เจอ

สูตรน้ำยาไม่ใช่ปัญหา ปัญหาที่แท้จริงคือ การเตรียมผิว การเก็บเหลี่ยมมุมเดิมของปืน การขัดชิ้นส่วนมากไปน้อยไปอาจทำให้ชิ้นส่วนเสียหายปืนชำรุด ต้องเป็นผู้รู้เรื่องกลไกปืนอย่างแท้จริง สามารถถอดประกอบอย่างละเอียด อันไหนรมได้ วัตถุอย่างไหนรมไม่ได้ อันไหนไม่จำเป็นต้องรม ต้องมีประสบการณ์อย่างแท้จริง แต่ถ้าไม่คิดว่าเสี่ยงเสียเงินอยากทดลองทำเอง สิ่งที่กล่าวมาก็ไม่สำคัญ

กรดซัลฟุริคครับ ใช้ไฟฟ้าด้วย

ถ้าอยากได้ประสบการณ์และความรู้ความสนุกทำเองครับ  ;D

ถ้าไม่อยากส่งร้านดีกว่าครับ  ;)

 ;)อยู่ว่าง ก็ ลองทำครับ...หาเศษเหล็ก...มาลองทำเล่นๆดู...จนเชี่ยวชาญ...แล้วค่อยลองของจริง

 ;)บางครั้ง...การได้ลงมือ จัดการในสิ่งที่ตัวเองรัก...ถึงจะเหนื่อย...ค่าใช้จ่ายจะสูง...แต่ก็คุ้ม กับความภูมิใจครับ

ผสมน้ำอัตราส่วนเท่าไหรเอ๋ยหรือไม่ต้องผสมน้ำครับ

กรดซัลฟุริค   กก.ละ 43.-
ผสมน้ำอัตราส่วนประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์ ผมใช้กรด 150ซีซี กับน้ำ 850ซีซี = 1ลิตร
นำชิ้นงานที่ต้องการชุบไว้ที่ขั้วบวก ตัวล่อใช้เศษอลูมิเนียมไว้ที่ขั้วลบ
กระแสไฟฟ้าผมใช้ไฟ 5โวลท์ ได้มาจากเพาเวอร์ซัพพลายของคอมพิวเตอร์เก่าๆ
ระยเวลาที่ใช้ในการชุบต้องหาความชำนาญเอาเองครับมันขึ้นอยู่กับพื้นที่ของชิ้นงานแต่ผลงานออกมารับรองได้ไม่ผิดหวัง
ไม่ลองไม่รู้ครับเพื่อนสมาชิก เอาไว้ชุบเองเวลาเราประดิษฐ์ชิ้นงานเล็กๆ ออกมาสักชิ้นหนึ่งจะเอาไปชุบร้านก็ไม่อยากจะรับงานครับ

ผมว่าให้ช่างทำดีกว่าครับ

อื่ม.............ท่านใดมีสูตร รมเขียว เด็จ ๆ บ้างครับ ผมกำลังรวบรวมสารเคมี เพื่อทดลองรมเขียวอยู่ครับ

ขอขอบคุณกับผู้ให้ความรู้ และเป็นแนวทางให้คนไทยผู้มีใจให้ในการคิด และทำด้วยมือของเขาเองบ้าง (บางเรื่อง)และหวังว่าสักวันไทยจะคิดและทำได้เอง
เยี่ยมครับ ::002::

มันต้องลองผิดลองถูก ถึงจะเก่งครับ

 ::014:: ขอบคุณท่านผู้รู้มากครับผม..หามานานแล้วสำหรับน้ำยา และสูตร ต่างๆ  ::014:: ทำเองได้ก็ทำเถอะครับ ชีวิตแสนสั้น.หมั่นเรียนหมั่นรู้ มิเสียหลาย..สนุกอีกต่างหาก ::002::

สารเคมีต่างฯซื้อได้ที่ศึกษาภัณฑ์

 ::014:: ::014::น่าลองครับ

ส่งร้าน ชัวร์

ไม่เสี่ยงที่จะต้องสูดสารเคมี เข้าไปในปอดเราครับ

จะทำเองหรือให้ร้านทำก็ตามใจแต่ละท่าน
แต่ที่แน่ๆ   ผมได้ความรู้เพิ่มขึ้น......................ขอบคุณครับ

เถ้าแก่เงินล้านภรรยาสาวสวยข้างบ้านผมคนนั้น ขึ้นซ่อมหลังคาบ้านเอง พลัดตกลงมาสะเอวหัก ทุกวันนี้ยังลุกเดินไม่ได้

สูตรน้ำยา รมเขียวเหมือนปืนทหารครับ เอามาฝาก

ๅ  phosphate acid 75% 380 g
2 nitric acid 67% 142 g
3 zinc oxid 160 g
4 sodium trimetaphosphate 3 g
5 iron powder 7 g
6  ต่อน้ำ 1 ลิตร
ขั้นที่ 1
ใส่น้ำ ผสมน้ำยาลงไป ทั้งสองชนิด
ต้มไปที่ 180 องศาฟาเรนไฮต์ ใส่ ผงเหล็ก zinc ลงไป
ต้มต่ออีก 30 นาที
จุ่มชิ้นงาน รอให้ฟองหมด
ฟองหมด นำชิ้นงานขั้น break ปฎิกริยาด้วย wd 40
อุปกรณ์ ส่วนที่ถูกน้ำยาต้องเปน stainless อุปกรณ์ในครัว ยกเว้น
เทอร์โมมิเตอร์
สารบางตัวหายาก เช่น sodium trimetaphosphate ก้อไม่ต้องใส่ก้อได้
ตัวนี้จะทำให้ทนการกัดกรดเกลือมากเปนพิเศษ เท่านั้น
ก่อนทำ phosphate coating นี้ ปืนจะต้องสะอาดมาก ไม่มีคราบใดๆเหลืออยู่
จำเปน ต้องยิงทราย ใช้ media เปน al oxides เบอร์ 80  หาซื้อได้แถวๆ พระประแดง
เขาขายเปน กระสอบเล็ก 25 กก. กระสอบหนึ่ง พ่นปืนได้ทั้งหมู่บ้าน
ช่วงเวลานับจากจุ่มไปจนฟองหมด จะราวๆ  8 นาที เราก้อทิ้งปืนแช่ต่อไปจนครบ 15 นาที ก้อได้
ต้องการให้ หนามาก ก้อเพิ่ม ฟอสฟอริก ไนตริก zinc oxide
อุณหภูมิ อย่าให้พลาด

ใส่ผงเหล็กก่อน เพิ่อให้ สารละลายเปน เหล็กฟอสเฟต จากนั้น เติม zinc oxide ตามลงไป   แช่อุณหภูมิ ไว้ที่ 180-190 องศาF  พอครลเวลา 30 นาที
จุ่มชิ้นงานลงไป   ขั้นตอนพวกนี้เวลาต้มต้องระมัดระวัง  ต้องมีอุปกรณ์ป้องกัน อย่าไปสูดไอระเหย เปนโลหะหนัก
ถ้าไม่ระวัง ท่านจะมีอาการเหมือนเปนไข้หวัดใหญ่ 

ตอนนี้ที่อเมริกามีน้ำยาเคมีตัวใหม่ ที่สามารถรมดำโดยไม่ต้องต้ม รมดำสวยงามมาก เพียงแค่จุ่มในน้ำยาเคมีประมาณ 5-10 นาที ก็ดำสวยงามมาก เป็นเคมีสำเร็จรูปไม่ต้องมีการผสมใด ๆ อีก  แต่ต้องจุ่มน้ำยาหลังการทำความสะอาดปืนหรือผ่านกระบวนการล้างไขมันให้ผิวปืนสะอาดแล้ว  หากต้องการเคมีนี้ติดต่อผมได้ครับ 082-5623456 รณภพ ครับ