เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:10:38 PM



หัวข้อ: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:10:38 PM
     มือมืดลอบโปรยละอองน้ำ "ขี้หมา” ใส่ ส.ส. พรรคไทยรักไทย ที่ตระเวนนำผู้สมัคร ส.ก.เขตบางกอกใหญ่ และทีมงานออกหาเสียง
       
       วันนี้ (1 มี.ค.) เวลา 12.30 น.ที่ สน.ท่าพระ นายมานะ คงวุฒิปัญญา ส.ส.เขต 32 บางกอกใหญ่ พรรคไทยรักไทย พร้อมนางทิพย์ประภา ศุขบุญ ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) เขตบางกอกใหญ่ พร้อมทีมงานรวม 7 คน เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.อ.ทรงภูมิ ประภานนท์ ผกก.สน.ท่าพระว่า ขณะขึ้นอยู่บนท้ายรถปิกอัพเพื่อหาเสียงตามปกติอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 15 หลังศาลเจ้าเขาสก แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กทม. ปรากฏว่ามีอุจจาระสุนัขเป็นละอองน้ำฝอยๆ ลงมาจากที่สูง ถูกตน นางทิพย์ประภา และทีมงานรวม 7 คน อีกทั้งยังเปรอะเปื้อนตัวรถซึ่งเชื่อว่าถูกกลั่นแกล้งจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ดังกล่าว
       
       นายมานะกล่าวว่า การกระทำดังกล่าวน่าจะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง เนื่องจากในซอยเพชรเกษม 15 เป็นซอยที่มีฐานเสียงของพรรคคู่แข่งอยู่จำนวนมาก จึงต้องมาแจ้งความไว้
       
       เบื้องต้น พ.ต.อ.ทรงภูมิ ให้พนักงานสอบสวนรับแจ้งความไว้และสอบปากคำทีมงานของนางทิพย์ประภา ที่ถูกละอองอุจจาระสุนัขทั้งหมดไว้ และหากตำรวจสามารถตามจับกุมผู้กระทำผิดได้จะถูกดำเนินคดีรวม 3 ข้อหาประกอบด้วย ข้อหากระทำอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ แต่ไม่ถึงกับได้รับบาดเจ็บ ข้อหาปาสิ่งโสโครกใส่ร่ายกายบุคคล หรือทรัพย์สิน และข้อหากระทำให้อับอายขายหน้าในที่สาธารณะ ซึ่งทั้งหมด เป็นความผิดลหุโทษ และมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน ปรับไม่เกิน 1,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
       
       พ.ต.อ.ทรงภูมิ กล่าวว่า หลังจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความแล้ว ตำรวจให้กองพิสูจน์หลักฐานออกไปตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อให้รู้ว่าละอองอุจจาระสุนัขดังกล่าวมาจากที่สูง หรือมาจากด้านหลังกลุ่มผู้เสียหายเพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป ส่วนสาเหตุยังไม่ปักใจเชื่อว่ามาจากประเด็นทางการเมือง ซึ่งตำรวจจะสอบสวนทั้งเรื่องการเมือง และเรื่องส่วนตัวของผู้สมัครต่อไป
 :DD :DD :DD :DDเอามาให้อ่านกันเล่นๆๆคับ


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:12:34 PM
ซีเอ็นเอ็น – สหรัฐอเมริกาได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประเทศไทย เกี่ยวกับประเด็นเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะเรื่องการปฏิบัติต่อประชาชนในภาคใต้ ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องการแบ่งแยกดินแดน
       
       ภายในรายงานเรื่องสิทธิมนุษยชนระจำปี ของกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้นำออกเผยแพร่เมื่อวันจันทร์(28 ก.พ.)นั้น ได้มีการระบุว่า “ในบางพื้นที่นั้น มีปัญหาอย่างเห็นได้ชัด”
       
       โดยได้พาดพิงถึงความรุนแรงที่เกิดจากกลุ่มแบ่งแยกดินแดนในภาคใต้ของไทยเมื่อปีที่ผ่านมา ซึ่งมีคนจำนวน 180 คนที่เสียชีวิตจากกองกำลังรักษาความมั่นคง ซึ่งในรายงานได้ระบุว่า “ได้เกิดความไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ ในหมู่ประชาชนในพื้นที่”
       
       ในรายงานระบุว่า “ในบางครั้ง ตำรวจจะทุบตีผู้ต้องสงสัยเพื่อบังคับให้สารภาพ แม้ว่ารัฐบาลจะประกาศให้มีการสอบสวนในหลายๆกรณี แต่กลับล้มเหลวที่จะดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำการทารุณกรรม ทำให้ผู้ที่กระทำทารุณกรรมลอยนวล”
       
       นอกจากนั้น รายงานยังระบุว่า ยังมี “วัฒนธรรมของการคอร์รัปชั่น” ในหน่วยงานของเอกชน และในกองกำลังรักษาความมั่นคงบางหน่วย ซึ่งในรายงานได้ระบุว่า “มีการเรียกร้องเงินสินบนเพื่อบ่อนทำลายกฎหมาย และเพื่ออนุญาตให้ดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย ซึ่งรวมไปถึงการค้ามนุษย์ การค้าประเวณี”
       
       อย่างไรก็ตาม ในรายงานนี้ได้ระบุว่า โดยทั่วไปแล้ว รัฐบาลไทยเคารพในสิทธิมนุษยชนของประชาชนชาวไทย
       
       อนึ่ง สำหรับประเทศอื่นๆในเอเชีย ที่ถูกสหรัฐฯประณามเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนคือ จีน เกาหลีเหนือ และพม่า โดยที่ประเทศจีนถูกกล่าวหาว่า ได้กระทำทารุณกรรมรุนแรงมากครั้ง


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:17:11 PM
  “ไพโรจน์”ขอเวลา 2-3 เดือนสรุปปัญหาไฟใต้เสนอนายกฯ เผย 25 ส.ส.มีทีมงานแฝงตัวลงพื้นที่เจาะข้อมูลจากชาวบ้านเพื่อได้ข้อมูลที่แท้จริง
       
       วันนี้ (1 มี.ค.) ที่รัฐสภา ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ สุวรรณฉวี ส.ส.นครราชสีมา พรรคไทยรักไทย กล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคใต้ของ 25 ส.ส.ที่หลายฝ่ายระบุว่ารัฐบาลไม่จริงจังกับการแก้ไขปัญหาเพราะลงพื้นที่วันเดียวกลับว่า เป็นการลงพื้นที่ที่เป็นทางการเพราะเราต้องฟังข้อมูลจากส่วนราชการในพื้นที่ หากต่างคนต่างลงไปเจ้าหน้าที่ก็ต้องมาบรรยายทั้ง 25 ชุดซึ่งจะเสียเวลา ก็ต้องไปรับฟังข้อมูลเบื้องต้นพื้นฐาน ซึ่งบางคนลงไปพื้นที่ซึมซับมาแล้วแต่บางคนเพิ่งเป็นอาสาสมัครที่ลงไปใหม่เพราะสภาพภูมิอากาศทางภาคใต้ภูเขา ทะเล ติดชายแดนชาวบ้านก็มีหลากหลาย ต่างนิสัย และยังพบว่าชาวบ้านส่วนหนึ่งไปๆ มาๆ ข้ามชายแดนมาเลเซีย ซึ่งไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่าพี่น้องประชาชนในพื้นที่จะได้ข้อมูลที่แท้จริง แต่ทีมงานของ 25 ส.ส.ก็มี ไม่ใช่ไปทำงานคนเดียว
       
       “ทีมงานของผมก็เข้าไปในพื้นที่ 20-30 คน ซึ่งเป็นคนธรรมดา เช่น อดีตข้าราชการ นายอำเภอที่เป็นอิสลามก็ลงไปพื้นที่เงียบๆ ไม่มีใครรู้ตั้งแต่ได้รับมอบหมายจากนายกฯ แต่ไม่ได้ใช้ชื่อจริง ใช้ชื่อแฝงเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริง ซึ่งตนเองไปก่อนแล้วตั้งแต่ได้รับมอบหมาย แต่ถ้าลงไปใช้ชื่อนายไพโรจน์อาจจะได้รับข้อมูลที่บิดเบือน” ส.ส.โคราช กล่าว
       
       ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์กล่าวต่อว่า เราต้องลงไปทำงานสักระยะหนึ่งเพื่อให้ได้ข้อมูลอย่างเต็มที่ 2-3 เดือนจากนั้นจะนำมาสรุปปัญหาเพื่อให้ได้ปัญหาที่แท้จริงเพื่อให้นายกฯ วันนี้ยังเร็วเกินไปที่จะด่วนสรุป ไม่ใช่ลงไป 2-3 วันแล้วจะได้ข้อมูลอย่างแท้จริง การเก็บข้อมูลต้องอาศัยเวลา การแก้ไขปัญหากำหนดเวลาไม่ได้ เพราะฉะนั้น การฟังความเห็นจากหลายๆ ฝ่ายโดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่เพื่อให้ได้ข้อมูลและปัญหาที่แท้จริงมันก็จะนำไปสู่การเกาให้ถูกที่คัน ซึ่งเราเอกซเรย์ในแต่ละหมู่บ้านเป็นชาวบ้านที่เกิดที่นั่นว่าเป็นพี่น้องกันในสายเลือดหรือไม่ หรือมีการย้ายถิ่นฐานไปมาบ่อยๆ หรือคนที่มาแอบอาศัยแล้วพ่อแม่ข้ามไปทำงานในมาเลเซียแล้วกลับซึ่งข้อมูลที่เราได้มามีความหลากหลาย แต่สิ่งที่อยากเห็นก่อนคือเกิดสันติสุข ไม่รบราฆ่าฟันไล่ฆ่ากัน หรืออาชญากรรมรายวัน
       
       “การที่สื่อมวลชนเป็นแนวร่วมมุมกลับ เพราะชาวบ้านยืนยันว่าการสอนศาสนาอิสลามซึ่งดัดแปลงไปไม่เหมือนกับคำแปลในภาษาไทยที่เรานำไปแจก แต่ถูกคลุมไว้ไม่ให้เผยแพร่ออกไป ก็ต้องกลับมาทบทวนว่าจะมีวิธีการอย่างไรที่จะนำคำสอนเหล่านั้นให้ถึงชาวบ้านว่าจะทำอย่างไร รวมทั้งการฆ่ากันตายจะสรุปว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในภาคใต้ ซึ่งชาวบ้านยืนยันว่าหลายเรื่องน่าจะไปดูภูมิหลังว่าสาเหตุเพราะอะไร ตายเพราะแค้นส่วนตัว ตายเพราะปัญหาค้าขาย แต่ข่าวที่ออกมาว่าเป็นการตายเพราะการสร้างสถานการณ์ ชาวบ้านบางคนบอกว่าคนนี้สมควรตายเพราะโกงเขามาตั้งนานแล้วแต่ไม่รู้ใครฆ่า แต่ข่าวออกมาโมเม และชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่ยังทำมาหากินกันตามปกติ ซึ่งตรงนี้เป็นภาพสะท้อนมันละเอียดอ่อน ต้องรวบรวมด้วยความหลากหลายซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าใครทำก็ต้องหาข้อมูลส่วนนี้” ว่าที่ ร.ต.ไพโรจน์ กล่าว

 :-\ไหนว่ามาถูกทางตั้งหลายรอบแล้วไงท่าน ทำไมเพิ่งจะมาหาข้อมุลกันจริงๆๆจังๆๆละ :-\


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:20:45 PM
 มนุษย์เรารับรู้สภาวะหรือสภาพรอบๆ ตัวเรา เป็นสองมุมมองด้วยกัน มุมหนึ่งเป็นสภาวะหรือสภาพที่สมบูรณ์แบบตามอุดมคติ ที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Ideal กับอีกมุมหนึ่งเป็นสภาวะหรือสภาพตามความเป็นจริง ที่เรียกเป็นภาษาอังกฤษว่า Reality
       
       สภาวะหรือสภาพทั้งสองทางนี้มักเหลื่อมหรือไม่เท่ากันเสมอ! สภาพความเป็นจริงมักสั้นกว่าหรือน้อยกว่าสภาพสมบูรณ์แบบตามอุดมคติ!
       
       จนมีคำกล่าวว่า ในโลกของความเป็นจริง ไม่มีทางหาพบสภาวะที่สมบูรณ์แบบได้หรอก! เพราะสภาวะเช่นนั้นมีอยู่แต่ในจินตนาการและความมุ่งหวังของมนุษย์เท่านั้นเอง!
       
       การเมืองก็เหมือนกัน เรามักมีความมุ่งหวังที่จะได้เห็นการเมืองที่มีลักษณะสมบูรณ์แบบอย่างแท้จริง!
       
       แต่การเมืองที่ปรากฏออกมามักอยู่ในสภาพที่บิดเบี้ยวอยู่ร่ำไป!
       
       ด้วยเหตุนี้ เซอร์วินสตัน เชอร์ชิลล์ ซึ่งเป็นนักการเมืองและรัฐบุรุษของอังกฤษ ซึ่งรู้จักแก่นแท้ของการเมืองในโลกของความเป็นจริง จึงได้กล่าวว่า :
       
       "ประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นการปกครองที่ดีที่สุด! เป็นแต่เพียงการปกครองที่เลวน้อยที่สุดเท่านั้น!"
       
       ตัวอย่างสำหรับเรื่องนี้จะเห็นได้จากเรื่องนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร คิดเรื่องการแบ่งโซนในเขตจังหวัดภาคใต้ และคิดจะตัดเงินช่วยเหลือหมู่บ้านหรือเงิน เอสเอ็มแอลแก่หมู่บ้านโซนสีแดง
       
       แนวคิดนี้ถูกคัดค้านอย่างหนักจากหลายด้านด้วยกัน จนคุณทักษิณออกอาการฟิวส์ขาด! ได้กล่าววาจาอันไม่สมควรขณะให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอยู่!
       
       แต่ในที่สุดคุณทักษิณ ซึ่งเพิ่งได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งอย่างท่วมท้น ก็ต้องถอย! ยอมให้ที่ประชุมร่วมของรัฐสภาเปิดอภิปราย เรื่องสถานการณ์ภาคใต้ เพื่อรัฐบาลจะได้รับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่ายในเรื่องดังกล่าว
       
       นี่เป็นตัวอย่างอันดีที่ชี้ให้เห็นว่า ถึงอย่างไรประชาธิปไตย ก็ยังเป็นระบอบการปกครองที่เลวน้อยที่สุดอยู่นั่นเอง
       
       การที่มีเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาดในสภาฯ ก็ดี การเป็นรัฐบาลพรรคเดียวก็ดี หรือการแสดงอารมณ์หงุดหงิดและก้าวร้าวของคนระดับนายกรัฐมนตรีก็ดี ไม่ได้ทำให้รัฐบาลของคุณทักษิณกลายเป็นรัฐบาลเผด็จการ ที่สามารถปิดปากไม่ให้มีเสียงคัดค้านทักท้วงกันได้เลยทีเดียว!
       
       ยังมีอีกมุมหนึ่งเหมือนกันที่เราสามารถเห็นได้ถึงสภาพความเป็นจริงของระบอบประชาธิปไตย
       
       ประชาชนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งเมื่อวันที่ 6 เดือนที่แล้ว ไม่เลือกผู้สมัครของพรรคไทยรักไทยเลยแม้แต่คนเดียว
       
       นี่เป็นการแสดงออกของชาวบ้าน ว่าไม่เห็นด้วยกับนโยบายและการดำเนินการต่างๆที่ผ่านมา ของรัฐบาลทักษิณที่เกี่ยวกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้นั่นเอง!
       
       ถึงแม้จะมีเสียงวิจารณ์จากมุมมองของสภาวะสมบูรณ์แบบว่า การเลือกตั้งเป็นการให้ประชาชนได้มีโอกาสใช้สิทธิเพียงครั้งเดียวในสี่ปีก็ตาม แต่ก็ตามสภาพความเป็นจริง ประชาชนในสามจังหวัดภาคใต้ ก็สามารถใช้สิทธิเลือกตั้งของเขาได้อย่างแยบยลและแจ่มชัดทีเดียว!
       
       นี่ก็เป็นตัวอย่างที่สภาพความเป็นจริง ซึ่งอาจต่างกับสภาพในอุดมคติ แต่ก็มีความหมายในทางการเมืองเหมือนกัน!
       
       ในขณะเดียวกันเรามีภาพสมบูรณ์แบบของนักการเมือง ว่าต้องเป็นผู้เพียบพร้อมด้วยคุณสมบัติในเชิงจริยธรรมและในเชิงอุดมคติ ซึ่งเท่ากับเป็นการประเมินคุณค่าของนักการเมืองทุกคนว่าจะต้องมีลักษณะเป็นสัปปบุรุษถ้วนทั่วทุกตัวคน
       ซึ่งตามสภาพความเป็นจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น!
       
       ไม่ใช่เพียงขนาดเป็นนักการเมืองธรรมดาๆ เช่น ส.ส. หรือรัฐมนตรีเท่านั้น แม้แต่นักการเมืองระดับนายกรัฐมนตรี ก็ใช่ว่าจะมีคุณสมบัติครบถ้วนที่เป็นสัปปุรุษได้เสมอไป
       
       นายกรัฐมนตรีก็เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ คนหนึ่ง ซึ่งยังมีกิเลส มีความโกรธ มีความโลภ และมีความหลงเหมือนกัน!
       โกรธขึ้นมา หรือหงุดหงิดขึ้นมา ก็ข่มอารมณ์ข่มวาจาไว้ไม่อยู่เหมือนกัน!
       
       นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ชี้ให้เห็นว่า สภาวะสมบูรณ์แบบตามความมุ่งหวังกับสภาวะตามความเป็นจริง นั่นต่างกันไม่ใช่น้อยทีเดียว!
       
       ไม่ใช่เพียงความโกรธเท่านั้น แต่ความโลภก็เป็นกิเลสสำคัญของนักการเมืองที่เราต้องยอมรับตามสภาพความเป็นจริงเหมือนกัน!
       
       มีคำกล่าวว่า การเมืองคือการต่อสู้เพื่อให้ได้อำนาจ! แต่เมื่อได้อำนาจแล้วจะใช้อำนาจนั้นเพื่ออะไร?
       
       นักการเมืองก็มักพร่ำเพ้อว่า เขาจะใช้อำนาจที่ได้มานั้นสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติและประชาชน! แต่จริงๆ แล้ว เขาก็เบียดบังกอบโกยเอาผลประโยชน์เข้าพกเข้าห่ออย่างไม่หยุดยั้งอยู่ดี!
       
       เมื่อในสภาพความเป็นจริงนักการเมืองต่างก็มีความโลภ ฉวยโอกาสเพื่อการกอบโกยผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้น จึงต้องมีระบบการตรวจสอบการใช้อำนาจกันอย่างเข้มงวด
       
       แต่นักการเมืองก็พยายามบ่อนทำลายระบบการตรวจสอบให้อ่อนแอลง จนไม่สามารถตรวจสอบการใช้อำนาจได้อย่างจริงจังเสียแล้ว
       
       ในมุมนี้ จะเห็นได้ว่า รัฐธรรมนูญปัจจุบัน ก็คือความมุ่งหวังในสภาวะสมบูรณ์แบบของการเมือง แต่หลังจากที่ได้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้มาแล้ว 7-8 ปี เราก็ได้เห็นช่องว่างระหว่างความมุ่งหวังของรัฐธรรมนูญนั้น ได้แตกต่างกับสภาพความเป็นจริงทางการเมืองได้อย่างชัดเจน!
       
       นักการเมืองไม่ใช่เป็นมนุษย์ประเภทซูเปอร์แมน! แต่ล้วนเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาที่อยู่ในระดับโลกียวิสัยทั้งนั้น
       
       แต่เรามักมุ่งหวังในสภาพอุดมคติที่จะเห็นนักการเมืองทุกคนเป็นรัฐบุรุษกันถ้วนหน้า!
       
       แต่ในโลกของความเป็นจริง ในทุกประเทศทั่วโลก รัฐบุรุษไม่ใช่บุคคลที่อุบัติขึ้นมาได้บ่อยๆ หรอก!
       
       ฉะนั้นเราจึงต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะอยู่ร่วมกับนักการเมืองที่เป็นเพียงมนุษย์ปุถุชนธรรมดาๆ !
       
       อีกเรื่องหนึ่งก็คือ ความมุ่งหวังในเรื่องพรรคการเมือง เรามักคิดกันว่าพรรคการเมืองเป็นสถาบันการเมือง ที่ต้องมีโครงสร้างเป็นเอกภาพทั้งในทางอุดมการณ์และบุคลากร!
       
       แต่ตามสภาพความเป็นจริง พรรคการเมืองทั่วโลก แม้ในประเทศที่เรายกย่องว่าเป็นแม่แบบของประชาธิปไตยก็ตามที ล้วนแต่ภายในพรรค นักการเมืองก็มีการแบ่งเป็นซีกเป็นปีกเป็นกลุ่มหรือเป็นมุ้งด้วยกันทั้งนั้น!
       
       พรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่เป็นเหมือนรังมดรังปลวก ที่มดหรือปลวกทุกตัวจะต้องเดินตามกันเป็นแถวๆ เสมอไป
       
       ในประการแรก นักการเมืองในระบอบประชาธิปไตยย่อมมีความคิดเห็นแตกต่างกันได้ภายในกรอบของความเป็นเอกภาพของพรรค และผู้ที่มีความคิดเห็นตรงกันหรือใกล้เคียงกัน
       
       ย่อมโน้มเอียงที่จะใกล้ชิดกัน หรือรวมกันเป็นกลุ่มเดียวกันก็ได้
       
       ยิ่งไปกว่านั้นการรวมกลุ่มในปีกด้านหนึ่งของพรรค อาจมีแนวทางทางการเมืองใกล้ชิดกับปีกอีกด้านหนึ่งของพรรคฝ่ายตรงข้ามก็ได้
       
       เช่น พรรคการเมืองของอเมริกัน ก็มีการแบ่งเป็นปีกซ้ายปีกขวา ปีกซ้ายของพรรครีพับลิกัน มักมีแนวทางทางการเมืองที่ใกล้ชิดกับปีกซ้ายของพรรคเดโมแครตหรือที่เรียกว่า เดโมแครตสายใต้
       
       ต้องเข้าใจด้วยว่า ในวงการเมืองของอเมริกันที่เรียกว่า "ปีกขวา" นั้นหมายถึงฝ่ายอนุรักษนิยม ส่วน "ปีกซ้าย" นั้นไม่ใช่สังคมนิยม แต่สำหรับอเมริกันหมายความเพียงเป็นฝ่ายเสรีนิยมหรือลิเบอรัลเท่านั้นเอง
       
       ไม่ต้องไปให้ไกลนักก็ได้! ดูใกล้ๆ ตัวเรา! หันมาดูพรรคการเมืองของไทยบ้าง!
       
       ตอนนี้มีเสียงพูดกันหนาหูเรื่อง "มุ้ง" ต่างๆ จำนวนมากในพรรคไทยรักไทย! จริงๆ แล้ว ไม่ใช่แต่ไทยรักไทยเท่านั้นที่มี "มุ้ง" หรือกลุ่มในพรรคหรอก!
       
       ประชาธิปัตย์ก็เคยมี "มุ้ง" มาแล้วเหมือนกัน! สมัย เสธ.หนั่น ยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ที่เรียกว่า "ค่ายสนามบินน้ำ" น่ะไม่ใช่ "มุ้ง" ในประชาธิปัตย์หรอกหรือ?
       
       สมัย เสธ.หนั่นเป็นเลขาธิการพรรค เป็นรัฐมนตรีมหาดไทย ได้ตั้งที่ปรึกษามากมาย และมีการพบปะกันเรื่อยมา! ขนาดคุณชวน หลีกภัย เป็นหัวหน้าพรรค เป็นนายกรัฐมนตรี ไม่มีคณะที่ปรึกษาเป็นเรื่องเป็นราวถึงขนาดนั้นเลย!
       
       นี่เรียกว่าเสธ.หนั่น แกเตรียมกาง "มุ้ง" มาตั้งแต่ยังไม่ค่ำไม่มึดเลย! พอถึงเวลาตั้งพรรคมหาชนขึ้นมา "ค่ายสนามบินน้ำ" ก็ตบเท้าตามไป! ส่วนพวก ส.ส.ใต้ที่เคยอยู่ "มุ้งสนามบินน้ำ" ที่ไม่ยอมตามไปนั้น ก็เพราะรู้ดีว่า ถ้าขืนทิ้งยี่ห้อประชาธิปัตย์ มีหวังสอบตกแน่ๆ !
       
       เช่นนี้แล้วจะไม่ให้ไทยรักไทยมีมุ้งได้อย่างไร! ไทยรักไทยมี ส.ส.ตอนนี้ถึง 370 กว่าคน จำนวน "มุ้ง" ในพรรคก็ต้องกางกันมากหน่อยเป็นธรรมดา!
       
       ตั้งคณะรัฐมนตรีคราวนี้คุณทักษิณก็คงต้องเกลี่ยตำแหน่งให้สมดุลกันระหว่าง "มุ้ง" ต่างๆ ! พอที่หัวหน้า "มุ้ง" เหล่านี้สามารถ "กุมสภาพ" ไว้ได้ก็แล้วกัน!
       
       ขอให้ไว้ใจว่า คุณทักษิณมีความชำนาญเป็นอย่างยิ่งในเรื่องการบริหารจัดการภายในพรรค! ขอให้วางใจได้ว่าตอนนี้คงยังไม่มีอะไรในกอไผ่หรอก!
       
       ขอให้เราอยู่ในโลกของการเมืองในความเป็นจริง! ไม่ใช่หลงเพ้อฝันใฝ่หาสภาพตามอุดมคติจนเกินไปนัก!
       
       ปลงเสียว่า! จริงๆ แล้วการเมืองก็เป็นเพียงแค่นี่เองแหละ!


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:52:08 PM
 ;D    Thanks   for   the   topics ....

 ::)    And   some   hard - core   guys   may   be   ready   to   .......   




หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ มีนาคม 01, 2005, 03:59:12 PM
...ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอุจจาระคนหรือสุนัข ให้แน่ชัดแล้วจึงดำเนินการต่อไป ::)


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: JarengkaBOW ที่ มีนาคม 01, 2005, 04:55:49 PM
ยาวจัง :o


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มีนาคม 01, 2005, 04:57:06 PM
 :D5555 :D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: May 21 ** รักในหลวง ** ที่ มีนาคม 01, 2005, 06:19:43 PM
...ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอุจจาระคนหรือสุนัข ให้แน่ชัดแล้วจึงดำเนินการต่อไป ::)
...ต้องพิสูจน์ DNA ;D



หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ มีนาคม 01, 2005, 09:54:56 PM
 ;Dขอบคุณครับสำหรับ ความคิดเห็นดี ๆ ทำให้ผมพลอยได้แนวคิดดี ๆ ไปด้วย ;D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ มีนาคม 01, 2005, 10:44:23 PM
...ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอุจจาระคนหรือสุนัข ให้แน่ชัดแล้วจึงดำเนินการต่อไป ::)

 ;)..แม่นแล้ว ..ต้องพิสูจน์ว่า....
....อุจจาระคนโดนคน
....อุจจาระสุนัขโดนคน
....อุจจาระคนโดนสุนัข
....อุจจาระสุนัขโดนสุนัข

...ให้ชัดเจนก่อน..ค่อยดำเนินการต่อไป.... ;D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: soveat ชุมไพร ที่ มีนาคม 01, 2005, 10:49:02 PM
...ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอุจจาระคนหรือสุนัข ให้แน่ชัดแล้วจึงดำเนินการต่อไป ::)

 ;)..แม่นแล้ว ..ต้องพิสูจน์ว่า....
....อุจจาระคนโดนคน
....อุจจาระสุนัขโดนคน
....อุจจาระคนโดนสุนัข
....อุจจาระสุนัขโดนสุนัข

...ให้ชัดเจนก่อน..ค่อยดำเนินการต่อไป.... ;D

ล้ำลึกๆ.. ;D ตลกร้ายมากครับพี่ ;D ;D ;D  ระวังเจ้าตัวเขาเป็นฟืนเป็นไฟนะครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มีนาคม 02, 2005, 10:32:55 AM
...ต้องพิสูจน์ก่อนว่าเป็นอุจจาระคนหรือสุนัข ให้แน่ชัดแล้วจึงดำเนินการต่อไป ::)

 ;)..แม่นแล้ว ..ต้องพิสูจน์ว่า....
....อุจจาระคนโดนคน
....อุจจาระสุนัขโดนคน
....อุจจาระคนโดนสุนัข
....อุจจาระสุนัขโดนสุนัข

...ให้ชัดเจนก่อน..ค่อยดำเนินการต่อไป.... ;D
;D ;D ;D พี่คิดได้ไง...  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: yakdee ที่ มีนาคม 02, 2005, 10:37:19 AM
SOM  NAM  NAR...... :DD


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ มีนาคม 02, 2005, 11:01:45 AM
SOM  NAM  NAR...... :DD

... ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: หงส์ซิ่ง ♥ รักในหลวง ♥ ที่ มีนาคม 02, 2005, 12:18:27 PM

 แค่เรื่อง" ขี้หมา "เองไม่น่าทำให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าเป็น" ขี้ควาย ขี้ช้าง" ว่าไปอย่าง :D :D


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 02, 2005, 12:31:50 PM
ขี้ปากคับเป้นเรื่องยิ่งกว่า...ขนาดด่านักวิชาการด่าคนไปทั่วยังต้องกลืนน้ำลายตัวเองเลยคับท่าน :DD :DD :DD


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มีนาคม 02, 2005, 12:47:39 PM
ที่จริง พวกเขา ไม่น่าจะรู้สึกว่า มีของเหม็นมาโดนตัวนะครับ

เพราะจริงๆแล้ว ลมที่พ่นออกมาจากปาก นักการเมืองเหล่านี้ ก็เหม็นพอๆกัน


หัวข้อ: Re: โปรยละอองน้ำ"ขี้หมา"ใส่ ส.ส.-ผู้สมัคร ส.ก.ไทยรักไทย
เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มีนาคม 02, 2005, 04:06:06 PM
ก็แค่เรื่องขี้หมา เรื่องแค่นี้มันขี้หมา