เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: paty ที่ ธันวาคม 28, 2006, 07:55:01 PM



หัวข้อ: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: paty ที่ ธันวาคม 28, 2006, 07:55:01 PM
วันนี้ 29 ธันวาคม เป็นวันที่พวกเราคนไทยทุกคนควรระลึกถึง มหาราชองค์หนึ่งที่ทรงพระราชทานอิสรภาพและความเป็น"ไท"ให้กับพวกเรา ทรงเสี่ยงเอาชีวิตเข้าแลกกับอิสรภาพของคนไทย ครับ ..... ขอถวายบังคม...สำนึกในพระกรุณาธิคุณ ที่ทำให้ผมยืนอยู่ในแผ่นดินนี้อย่างมีอิสรภาพ..."ถวายบังคมด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ....ในองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช" ในวันตากสินมหาราช  นี้ และขอพระองค์ทรงพระราชทานพรให้พวกเราทุกคน มีความสุขความเจริญ ทุกท่านครับ


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: ไทสกล ที่ ธันวาคม 28, 2006, 07:59:17 PM
ขอถวายบังคมด้วยครับผม


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: paisan2 ที่ ธันวาคม 28, 2006, 08:42:28 PM
ขอถวายบังคมพระผู้กู้แผ่นดิน :)


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: neo1 ที่ ธันวาคม 28, 2006, 09:39:03 PM
ขอถวายบังคมพระผู้เป็นบุญคุณแก่แผ่นดินนี้


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: คูณ 3 superแก๊งค์ ที่ ธันวาคม 28, 2006, 09:53:24 PM
ขอถวายบังคมพระผู้เป็นบุญคุณแก่แผ่นดินนี้

 เช่นกันครับ..


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: Kimber ที่ ธันวาคม 28, 2006, 10:46:03 PM
วันนี้ 29 ธันวาคม

วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.2310 พระยาตาก ทรงปราบดาภิเษกเป็น สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี ดังนั้นวันที่ 28 ธันวาคม ของทุกปีครับ ถือเป็นวันพระเจ้าตากสิน

ประวัติโดยย่อครับ...

โดยทั่วไป ผู้ที่ได้รับการยกย่องว่าเป็น “วีรบุรุษ” นั้น นอกเหนือไปจากความเก่งกล้า สามารถในด้านต่างๆ โดยเฉพาะการรบแล้ว บุคคลผู้นั้นยังต้องเปี่ยมไปด้วยคุณงามความดี และมีคุณธรรมประจำใจ พูดง่ายๆว่าต้องเป็นคน “เก่งและดี” จึงจะได้รับการเคารพยกย่อง และเป็นผู้ที่ประทับอยู่ในความทรงจำของผู้คนอย่างมิรู้ลืมเลือน

ในบรรดาพระมหากษัตริย์ของไทยนับแต่อดีตจนปัจจุบัน พระเจ้าตากสินมหาราช ทรงเป็นวีรกษัตริย์ไทยอีกพระองค์หนึ่งที่ได้รับการเทิดทูน และเคารพบูชาจากประชาชนชาวไทยมาโดยตลอด ไม่เพียงเพราะพระปรีชาสามารถในการรบที่กอบกู้ชาติไทยให้เป็นเอกราช และสร้างความเป็นปึกแผ่นแก่บ้านเมืองของเราเท่านั้น แต่พระองค์ยังเป็นผู้นำที่เปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีความกตัญญูและเสียสละต่อผืนแผ่นดินไทยอย่างยากที่จะหาผู้ใดเสมือนเหมือนอีกด้วย

ตามพระราชประวัติ เราจะทราบได้ว่าทรงมีกำเนิดเป็นเพียงสามัญชน เป็นคนไทยเชื้อสายจีน กล่าวคือบิดาเป็นจีนชื่อ นายไหฮอง ส่วนมารดาเป็นไทยชื่อ นางนกเอี้ยง ทรงเข้ารับราชการมาแต่แผ่นดินกรุงศรีอยุธยาตอนปลายในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ต่อเนื่องมาจนรัชสมัยของพระเจ้าเอกทัศน์ อันเป็นเวลาที่กรุงศรีอยุธยาได้เสียทีแก่พม่าเป็นครั้งที่ ๒ และพระเจ้าตากสินมหาราชซึ่งดำรงตำแหน่งพระยาวชิรปราการ รักษาการเจ้าเมืองกำแพงเพชรในขณะนั้น ได้ใช้เวลาเพียง ๗ เดือนกอบกู้เอกราชเป็นผลสำเร็จ และปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาที่ ๔” แต่ประชาชนยังนิยมเรียกพระองค์ในตำแหน่งเดิมว่า“พระเจ้าตากสิน”

การที่พระเจ้าตากสินมารับราชการงานเมือง ทั้งๆที่บิดาของท่านเป็นพ่อค้า หากจะคิดว่าเป็นเพราะพระองค์หวังให้เป็นเกียรติยศ ชื่อเสียงแก่วงศ์ตระกูลแล้ว อย่างน้อยพระองค์ก็ประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะทรงสามารถทำความดีความชอบได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งมาโดยตลอด แต่หลังจากเสียกรุงแล้ว แม้จะมีตำแหน่งเป็นถึงเจ้าเมืองกำแพงเพชร แต่พระองค์ก็ยังคงเป็นสามัญชนคนธรรมดา มิได้มีเชื้อพระวงศ์หรือเกี่ยวข้องอันใดกับพระมหากษัตริย์ เมื่อกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย เหตุใดพระองค์จึงต้องฝ่าฟันอุปสรรคนานัปการเพื่อกอบกู้แผ่นดินไทย คงมิใช่เพราะทรงมักใหญ่ใฝ่สูงหรือคิดจะตั้งตนเป็นพระมหากษัตริย์แต่แรก แต่เชื่อว่าด้วยบุคลิก ตลอดจนพระปรีชาสามารถที่โดดเด่น กอปรกับน้ำพระทัยอันห้าวหาญ และความรัก ความกตัญญูต่อแผ่นดินบ้านเกิด จึงทำให้พระองค์ท่านได้รับการยอมรับจากเหล่าอาณาประชาราษฎร์ จนสามารถรวบรวมอาณาจักรได้เป็นปึกแผ่นภายในระยะเวลาเพียง ๓ ปี ซึ่งตลอดระยะเวลาแห่งการครองราชย์ ๑๕ ปี มิได้ทรงสุขสบายเลย ทรงต้องตรากตรำทำศึกสงครามเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินไทยมาโดยตลอด หากมิได้มีน้ำพระทัยยิ่งใหญ่ที่เปี่ยมไปด้วยความเสียสละแล้ว คงยากที่คนธรรมดาสามัญคนหนึ่งจะทำได้ เพราะไหนจะต้องทำศึกกับคนไทยด้วยกันเอง ไหนจะต้องรบกับพม่า ข้อสำคัญ ยังต้องเหนื่อยยากในการหาเงินทองมาบริหารจัดการฟื้นฟูบ้านเมืองให้คืนสภาพด้วย อันที่จริง หากจะศึกษาบุคลิกลักษณะของพระองค์จากพระราชประวัติแล้ว จะเห็นได้ว่าทรงมีคุณลักษณะที่โดดเด่นหลายประการ อาทิ

ด้านพระปรีชาสามารถ ทรงศึกษาภาษาจีน ญวนและแขก จนสามารถตรัสทั้งสามภาษาได้อย่างคล่องแคล่ว นอกจากนี้ยังทรงฉลาด รอบรู้ด้านขนบธรรมเนียม และภารกิจต่างๆเป็นอย่างดี จนได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศให้ทำงานต่างพระเนตรพระกรรณ โดยโปรดเกล้าฯให้เป็นมหาดเล็กรายงานราชการทั้งหลายในกระทรวงมหาดไทย กรมวัง และศาลหลวง ครั้นมาสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ ยังได้รับการโปรดเกล้าฯให้เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราราชสีห์ขึ้นไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือ ทำความดีความชอบได้เลื่อนเป็นหลวงยกบัตรเมืองตาก ช่วยราชการพระยาตาก และเมื่อพระยาตากถึงแก่กรรม ก็ได้เลื่อนเป็นพระยาตากแทน และต่อมาได้เลื่อนเป็นพระยาวชิรปราการ อันเป็นตำแหน่งสุดท้ายก่อนเสียกรุง

ด้านการรบทัพจับศึก เมื่อมังมหานรธา แม่ทัพพม่ายกมาตีปักษ์ใต้ และตีเรื่อยมาจนถึงเมืองเพชรบุรี กรุงศรีอยุธยาก็ได้ส่งพระยาโกษาธิบดีและพระองค์คือพระยาตากในขณะนั้น ไปรักษาเมืองและสามารถตีพม่าจนถอยร่นไปได้ และต่อมาเมื่อพม่ายกมาตีไทยอีก พระยาตากก็ได้มาช่วยรักษาพระนครไว้ได้ (จึงได้เลื่อนเป็นพระยาวชิรปราการ) ครั้นต่อมา เมื่อเห็นว่ากรุงศรีอยุธยาต้องเสียทีแก่พม่าแน่แล้ว เพราะผู้นำอ่อนแอ ไม่นำพาต่อราชการบ้านเมือง พระองค์จึงตัดสินใจรวบรวบสมัครพรรคพวกจำนวนหนึ่งตีฝ่าวงล้อมพม่าออกไปเพื่อเตรียมกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง ซึ่งพระองค์ก็ได้ใช้เวลาเพียง ๗ เดือนเท่านั้น ก็สามารถประกาศอิสรภาพได้สำเร็จ จากนั้นยังต้องยกกองทัพไปปราบปรามก๊กต่างๆที่ตั้งตัวเป็นใหญ่ เพื่อรวบรวมอาณาจักรไทยให้เป็นปึกแผ่น และตลอดรัชสมัยของพระองค์ยังต้องต่อสู้กับพม่าที่จะมาช่วงชิงอาณาจักรคืนอีกถึง ๙ ครั้งใหญ่ นอกจากนี้ยังได้ทำการรบเพื่อขยายอาณาจักรอีกหลายครั้ง เป็นผลให้ไทยได้ประเทศราชคืนมาหลายแห่งเหมือนสมัยกรุงศรีอยุธยา เช่น กัมพูชา หลวงพระบาง จำปาศักดิ์และเวียงจันทร์ เป็นต้น ซึ่งทั้งหมดนี้ ย่อมแสดงให้เห็นว่าพระองค์เก่งด้านการรบเพียงไร และต้องเป็นนักวางแผนยุทธวิธีที่ดีด้วย จึงสามารถเอาชนะข้าศึกศัตรูได้ตลอดมา

ด้านความเด็ดเดี่ยวและเด็ดขาด จะเห็นได้จากตอนที่จะบุกตีเมืองจันทบุรี ได้ให้ทหารหุงหาอาหารรับประทานแล้ว มีรับสั่งให้ทุบหม้อข้าวหม้อแกงเสีย และมีบัญชาว่าหากเข้าเมืองไม่ได้วันนี้ ก็ต้องอดตายกันหมด ครั้นแล้วพระองค์ก็ทรงช้างนำเข้าชนประตูเมืองจนพังทลาย และบุกเข้ายึดจันทบุรีได้สำเร็จในคืนนั้น หรือแม้แต่ตอนตัดสินพระทัยฝ่าวงล้อมออกมาจากกรุงศรีอยุธยาก่อนเสียกรุงฯก็เช่นกัน หากมัวละล้าละลัง ไม่คิดให้เด็ดขาดแล้ว ก็อาจถูกจับเป็นเชลยหรือสิ้นชีพไปแต่ครั้งนั้นแล้ว

ด้านความกตัญญู แม้พระเจ้าเอกทัศน์จะเป็นผู้นำที่อ่อนแอและเป็นต้นเหตุให้เสียกรุง แต่พระเจ้าตากสินก็เคยรับราชการกับพระเจ้าเอกทัศน์มาก่อน เมื่อพระองค์สามารถขับไล่พม่าและประกาศอิสรภาพได้แล้ว ก็ได้โปรดให้ขุดพระศพสมเด็จพระที่นั่งสุริยาศน์อมรินทร์หรือพระเจ้าเอกทัศน์มาแห่แหนและทำการถวายพระเพลิงให้

ด้านน้ำพระทัยที่กว้างขวางและเมตตา กล่าวกันว่าพระเจ้าตากสินนั้น แม้จะยกทัพไปปราบปรามหรือตีเมืองใด หากเจ้าเมืองมาสวามิภักดิ์ ก็มักจะแต่งตั้งให้ครองเมืองหรือให้การสนับสนุนส่งเสริม มิได้ทำร้ายหรือเข่นฆ่าให้ตาย ยกเว้นจะแข็งข้อหรือตั้งต้นเป็นศัตรู แต่กระนั้นก็มิได้ทำร้ายไปถึงลูกเมียหรือญาติพี่น้องของผู้นั้น และเมื่อครั้นอะแซหวุ่นกี้แม่ทัพพม่าได้ทำนายทายทักว่า พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกหรือเจ้าพระยาจักรีในขณะนั้นจะได้เป็นพระมหากษัตริย์ต่อไปในอนาคต หากพระเจ้าตากสินจะไม่เปี่ยมไปด้วยน้ำพระทัยที่หนักแน่นมั่นคงแล้ว ก็อาจจะคิดระแวง หาทางกลั่นแกล้ง หรือกำจัดเจ้าพระยาจักรีเสียตอนนั้นก็ได้ แต่พระองค์ก็มิได้กระทำเช่นนั้น

ที่กล่าวมาข้างต้น ดูจะเป็นภาคบู๊ของพระองค์ท่าน แต่จริงๆแล้ว ในภาคบุ๋นพระองค์ก็มีพระปรีชาสามารถไม่น้อย ทรงรักกวีนิพนธ์ และแม้จะทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่แทบจะทรงไม่ว่างเว้นจากการรบ แต่ก็ปรากฏว่าได้ทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ที่ เรียกว่า รามเกียรติ์ ฉบับกรุงธนบุรี ไว้ด้วย ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อใช้ในการเล่นละครหลวงในงานฉลองต่างๆ

จากบุคลิกลักษณะบางส่วนของพระเจ้าตากสินมหาราชที่ยกมานี้ เราคงจะได้เห็นและซาบซึ้งถึงพระปรีชาสามารถ และพระคุณงามความดีต่างๆของพระองค์ท่านชัดเจนยิ่งขึ้น หากไม่มีพระองค์ที่ทรงเสียสละเพื่อชาติเพื่อแผ่นดินแม่แล้ว เราลูกหลานไทยคงจะไม่มีบ้านเมืองที่สุขสบายดังเช่นทุกวันนี้

ดังนั้น เนื่องในวันคล้ายวันปราบดาภิเษกของพระองค์ท่าน ในวันที่ ๒๘ ธันวาคมของทุกปี ที่เรียกว่า “วันพระเจ้าตากสิน” สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม จึงขอเชิญชวนพี่น้องชาวไทยได้น้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ ด้วยการไปร่วมวางพวงมาลา ณ พระบรมราชานุสาวรีย์ หรือจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในวันนี้

........................................................... .

อมรรัตน์ เทพกำปนาท

กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ กระทรวงวัฒนธรรม


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: boon8868 ที่ ธันวาคม 28, 2006, 11:00:21 PM
ชาติกำเนิดพระองค์เป็นแค่สามัญชนแต่ทุกคนกราบไหว้เพราะพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อความเป็นไทย


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: Chayanin-We love the king ที่ ธันวาคม 29, 2006, 10:38:19 AM
ขอน้อมเกล้าถวายบัมคม ขอดวงพระวิญญาณจงสุขสถิตในสรวงสวรรค์ และเป็นความภาคภูมิใจแก่คนไทยตลอดไป


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ ธันวาคม 29, 2006, 10:45:05 AM
 ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: Octonews ที่ ธันวาคม 29, 2006, 11:11:46 AM
ขอพระบารมีอันศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำนวยพรให้ชาวอาวุธปืนทุกท่านจงประสบความสุขความเจริญ ตลอดปีใหม่ 2550 นี้ครับ


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: M a x O n e ที่ ธันวาคม 29, 2006, 11:22:52 AM
ขออนุญาติคัดลอดนะครับ . . .

ขอพระบารมีอันศักดิ์สิทธิ์แห่งองค์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อำนวยพรให้ชาวอาวุธปืนทุกท่านจงประสบความสุขความเจริญ ตลอดปีใหม่ 2550 นี้ครับ


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐพนธ์ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 11:31:16 AM
พระองค์ดำ ผู้กู้เอกราชให้ชาติกลับมาเป็นไทย ขอถวายบังคม


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ ธันวาคม 29, 2006, 11:46:56 AM
..."พระองค์ดำ" หมายถึงสมเด็จพระนเรศวรมหาราชครับ  :)


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:06:13 PM
ทุกครั้งที่ ขับรถไปผ่านทางจังหวัดตาก ผมจะแวะเข้าไปสักการะท่านทุกครั้ง และอีกท่านหนึ่งซึ่งนับว่า เป็นทหารเอก ของพระองค์คือ พระยาพิชัย   ถ้าหากมีโอกาสผมจะไม่ลืมแวะไปสักการะ ที่อุตรดิตถ์ด้วยเช่นกัน ....


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:13:31 PM
(http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9510/Ts_001.jpg)



อนุเสาวรีย์นี้สร้างขึ้นเป็นอนุสรณ์เฉลิมพระบรมราชกฤดาภินิหารแห่งสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
พระองค์ผู้เป็นมหาวีรบุรุษของชาติไทย ประสูติ พ.ศ. ๒๒๗๗ สวรรคต พ.ศ. ๒๓๒๕
รัฐบาลไทยพร้อมด้วยประชาชนชาวไทยได้ร่วมกันสร้างขึ้นประดิษฐานไว้ เมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๙๗
เพื่อเตือนใจให้ประชาชนไทย รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงเพียรพยายามปราบปราม อริราชศัตรู
กอบกู้เอกราชของชาติไทย ให้กลับคืนดำรงอิสรภาพสืบมา


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:14:19 PM
๏ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หรือ สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี มีพระนามเดิมว่า “สิน” พระราชสมภพเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน พ.ศ. ๒๒๗๗ เป็นบุตรของ “ นายไหฮอง ” และ “ นางนกเอี้ยง ” ซึ่งพระยาจักรีได้ขอไปเลี้ยงเป็นบุตรบุญธรรม ตั้งแต่ยังเยาว์ เมื่ออายุได้ ๕ ปี พระยาจักรีได้นำไปฝากเรียนกับพระอาจารย์ทองดี วัดโกษาวาส ( วัดคลัง ) โดยเรียนหนังสือขอมและหนังสือไทยจนจบบริบูรณ์ แล้วจึงเรียนพระไตรปิฎกจนแตกฉาน เมื่ออายุครบ ๑๓ ปี เจ้าพระยาจักรีได้นำตัวเด็กชายสิน ไปถวายตัวเป็นมหาดเล็ก ในสมเด็จพระธรรมราชาธิราชที่ ๓ ( สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ) พระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ทำราชการกับหลวงศักดิ์นายเวร ซึ่งเป็นบุตรของพระยาจักรี เมื่อมีเวลาว่างจะไปเรียนวิชากับอาจารย์จีน อาจารย์ญวนและอาจารย์แขก จนสามารถพูดภาษาทั้งสามได้อย่างคล่องแคล่ว

เมื่ออายุครบ ๒๑ ปี ได้อุปสมบท ณ วัดโกษาวาส พระภิกษุสิน อยู่ในสมณเพศได้ ๓ พรรษา ก็ลาสิกขา และกลับเข้ารับราชการตามเดิม ด้วยความฉลาด รอบรู้ขนบธรรมเนียม ภารกิจต่างๆเป็นอย่างดี จนสามารถทำงานต่างพระเนตรพระกรรณได้ จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นมหาดเล็ก รายงานราชการทั้งหลายในกรมมหาดไทย และกรมวังศาลหลวง



หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:14:45 PM
ครั้น พ.ศ. ๒๓๐๑ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศเสด็จสวรรคต สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอุทุมพรเสด็จเสวยราชสมบัติได้ ๓ เดือนเศษ ก็ถวายราชสมบัติให้พระเชษฐาสมเด็จพระบรมราชาที่ ๓ ( สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์ ) สมเด็จพระเจ้าเอกทัศน์โปรดเกล้าฯ ให้นายสินมหาดเล็กรายงาน เป็นข้าหลวงเชิญท้องตราราชสีห์ขึ้นไปชำระความหัวเมืองฝ่ายเหนือ ซึ่งนายสินปฏิบัติราชการได้สำเร็จเรียบร้อย จนมีความชอบมาก จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เป็นหลวงยกบัตรเมืองตาก ช่วยราชการพระยาตาก เมื่อพระยาตากถึงแก่กรรม ก็โปรดให้เลื่อนเป็นพระยาตากเพื่อปกครองเมืองตาก

ในปี พ.ศ. ๒๓๐๗ พม่ายกกองทัพมาตีหัวเมืองปักษ์ใต้ของไทย โดยมีมังมหานรธาเป็นแม่ทัพ ปรากฎว่าพม่าตีเมืองทางใต้ได้อย่างง่ายดาย จึงตีเรื่อยตลอดหัวเมืองทางใต้จนถึงเมืองเพชรบุรี ทางกรุงศรีอยุธยาได้ส่งกองทัพไทยซึ่งมีพระยาโกษาธิบดีกับพระยาตาก ไปรักษาเมืองเพชรบุรีไว้ จนตีพม่าแตกถอยไปทางด่านสิงขร

ต่อมาปี พ.ศ. ๒๓๐๘ พม่ายกกองทัพมาตีไทยอีก พระยาตากได้มาช่วยรักษาพระนครไว้ได้ จึงได้บำเน็จความดีความชอบในสงคราม จึงโปรดให้เลื่อนเป็น พระยาวชิรปราการ เจ้าเมืองกำแพงเพชร แต่ยังไม่ทันได้ปกครองเมืองกำแพงเพชร ก็เกิดศึกกับพม่าครั้งสำคัญขึ้น จึงถูกเรียกตัวให้เข้ารับราชการในกรุง เพื่อป้องกันพระนคร จนถึงปี พ.ศ. ๒๓๐๙ ขณะที่ไทยกับพม่ากำลังรบกันอย่างดุเดือด พระยาวชิรปราการ เกิดท้อแท้ใจหลายประการคือ



หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:15:06 PM
๑. พระยาวชิรปราการ คุมทหารออกไปรบนอกเมืองจนได้ชัยชนะยึดค่ายพม่าได้ แต่ทางผู้รักษาพระนครไม่ส่งกำลังไปหนุน ทำให้พม่าสามารถยึดค่ายกลับคืนได้

๒. ขณะที่ยกทัพเรือออกรบร่วมกับพระยาเพชรบุรีนั้น พระยาวชิรปราการ เห็นว่าพม่ามีกำลังมากกว่าจึงห้ามมิให้พระยาเพชรบุรีออกรบ แต่พระยาเพชรบุรีไม่เชื่อฟัง ขืนออกรบ และพ่ายแพ้แกพม่าจนตัวตายในที่รบ พระยาวชิรปราการ ถูกกล่าวหาว่าทอดทิ้งให้พระยาเพชรบุรีเป็นอันตราย

๓. ก่อนเสียกรุง ๓ เดือน พม่ายกทัพเข้าปล้นพระนคร ทางด้านที่พระยาวชิรปราการรักษาอยู่ เมื่อเห็นจวนตัว พระยาวชิรปราการจึงยิงปืนใหญ่ขัดขวาง โดยมิได้ขออนุญาตจากศาลาลูกขุน จึงถูกฟ้องชำระโทษให้ภาคทัณฑ์

ด้วยสาเหตุดังกล่าว พระยาวชิรปราการเห็นว่าขืนอยู่ช่วยป้องกันพระนครต่อไป ก็ไม่มีประโยชน์อันใด และเชื่อว่ากรุงศรีอยุธยาต้องเสียแก่พม่าในครั้งนี้เป็นแน่
ด้วยผู้นำอ่อนแอ และไม่นำพาต่อราชการบ้านเมือง จึงรวบรวมสมัครพรรคพวกได้ประมาณ ๕๐๐ คน ตีฝ่าวงล้อม ออกจากค่ายพิชัย มุ่งออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ เพื่อรวบรวมกำลังกลับมากู้กรุงศรีอยุธยาต่อไป ครั้นถึงพ.ศ. ๒๓๑๐ พม่าก็ยกทัพตีพระนครและยกเข้าพระนครได้ นับเป็นเวลาที่พม่าล้อมค่ายอยู่ถึง ๑ ปี ๒ เดือน กรุงศรีอยุธยาจึงเสียแก่พม่า ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ จึงนับว่าเป็นพระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายของกรุงศรีอยุธยา



หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:15:37 PM
หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยาแล้ว บ้านเมืองเกิดแตกแยก หัวเมืองต่างๆตั้งตัวเป็นใหญ่ ต่างคนต่างรวมสมัครพรรคพวก ตั้งเป็นก๊กต่างๆ ได้แก่ ก๊กสุกี้พระนายกอง ก๊กพระยาพิษณุโลก ก๊กเจ้าพระฝาง ก๊กเจ้าพระยานครศรีธรรมราช และก๊กเจ้าพิมาย
 




พระยาวชิรปราการได้จัดเตรียมกองทัพ สะสมเสบียงอาหาร ศาสตราวุธ และกองทัพเรืออยู่เป็นเวลา ๓ เดือน ก็ยกกองทัพเรือเข้ามาทางปากน้ำเจ้าพระยา ตีเมืองธนบุรีแตก จับนายทองอินประหารแล้วเลยไปตีค่ายโพธิ์สามต้นจนแตกยับเยิน สุกี้พระนายกองตายในที่รบ ขับไล่พม่าออกไปพ้นแผ่นดินไทยสำเร็จ ในปี พ.ศ. ๒๓๑๐ ซึ่งใช้เวลากู้อิสรภาพกลับคืนจากพม่า ภายในเวลา ๗ เดือนเท่านั้น

จากนั้น พระยาวชิรปราการจึงยกทัพกลับมากรุงธนบุรี และปราบดาภิเษกเป็นพระมหากษัตริย์ ทรงพระนามว่า “สมเด็จพระบรมราชาที่ ๔” แต่ประชาชนนิยมเรียกพระนามว่า “พระเจ้าตากสิน” เมื่อวันที่ ๒๘ ธันวาคม พ.ศ. ๒๓๑๑ และสถาปนากรุงธนบุรีเป็นราชธานีด้วย และต่อจากนั้นพระเจ้าตากสินก็ยกกองทัพไปปราบปรามก๊กต่างๆ จนราบคาบ ทรงใช้เวลารวบรวมอณาเขตอยู่ ๓ ปี คือตั้งแต่ พ.ศ. ๒๓๑๑ - พ.ศ. ๒๓๑๓ จึงได้อณาเขตกลับคืนมา รวมเป็นพระราชอณาจักรเดียวกันดังเดิม



หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 29, 2006, 01:16:13 PM
สมเด็จพระเจ้าตากสิน ทรงสวรรคตเมื่อ พ.ศ. ๒๓๒๕ สิริพระชนมายุได้ ๔๘ พรรษา ทรงครองราชย์เป็นเวลา ๑๕ ปี พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ กอบกู้ประเทศชาติให้เป็นเอกราชอิสรภาพตราบเท่าทุกวันนี้ ประชาราษฎร์ผู้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จึงยกย่องถวายพระเกียรติพระองค์ท่านว่า “มหาราช” คณะรัฐบาล ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชนทุกหมู่เหล่า ได้พร้อมใจกันสร้างอนุเสาวรีย์ เพื่อน้อมรำลึกในพระเกียรติประวัติ เกียรติยศ เกียรติคุณ ให้ปรากฎกับอนุชนตราบเท่าทุกวันนี้

ที่มา ..... http://www.geocities.com/Tokyo/Garden/9510/tks001.html


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ ธันวาคม 29, 2006, 04:08:02 PM
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ ที่ทรงพระปรีชามาก  ด้วยความสํานึกในพระมหากรุณาธิคุณ เป็นล้นพ้น ยิ่ง   


หัวข้อ: Re: วันสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช
เริ่มหัวข้อโดย: Tew@75 ที่ ธันวาคม 30, 2006, 01:18:36 AM
 :o คนรุ่นโน้นยอมตายเพื่อสร้างชาติรวมแผ่นดิน แล้วทำไมคนรุ่นเราไม่ร่วมมือกันรักษาชาติให้มั่นคง ไม่แบ่งแยก :~)