เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อาจจะมีหลายๆท่านได้อ่านมาแล้วบ้าง
ซ้ำก็ขออภัยนะครับ ;D


> >> >> > >   พออ่าน เรื่องนี้จบ นํ้าตาผมก็ไหล
> >> >> > >
> >> >> > >   ที่มา : ไม่ระบุ ( อ่านแล้วรู้สึกซึ้ง ใจ )
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >   น้องนกเป็นเด็กน่ารักมีอยู่วันนึงขณะที่นั่งทำการบ้าน
> >> >> > >
> >> >> > >   ก็มี เสียงกริ่งดังขึ้น  น้องนกก็รีบไปเปิดประตู
> >> >> > >
> >> >> > >  เห็นผู้ชายหน้าตาดีคน หนึ่งยืนอยู่หน้าประตู
> >> >> > >
> >> >> > >   ขณะที่ยืนสงสัยอยู่นั้น
> >>แม่ก็เดิน ออกมาจากครัว
> >> >> > >
> >> >> > >   ยิ้มให้ชายคนนั้นแล้วพูดว่า
> >> >> > >
> >> >> > >   "มาแล้วเหรอ"
> >> >> > >
> >> >> > >   จาก นั้นหันมาพูดกับน้องนกว่า "เรียกพ่อสิ"
> >> >> > >
> >> >> > >   น้องนกยืนอึ้ง และถามตัวเอง ว่า ชายคนนี้เป็นใคร?
> >> >> > >   ทำไมแม่บอกให้เรียกพ่อ?
> >> >> > >
> >> >> > >   หรือ ว่า........................
> >> >> > >
> >> >> > >   แม่เห็นน้องนกยืนนิ่ง ก็บอกซํ้าว่า "เรียก พ่อสิ"
> >> >> > >
> >> >> > >   น้องนกก็ยังเงียบอยู่เหมือนเดิม
> >> >> > >
> >> >> > >  จนแม่ต้องเอ็ดซํ้า "เรียก พ่อ
> >> >> > >
> >> >> > >  เร็วสิ"
> >> >> > >
> >> >> > > 
> >>เมื่อเห็นน้องนกยังนิ่งเฉย
> >> >> > >
> >> >> > >   คราวนี้จึงโดน แม่ฟาดด้วยฝ่ามือพร้อมกับเอ็ดว่า
> >> >> > >
> >> >> > >  "ใบ้กินรึไง?
> >> >> > >
> >> >> > >   เรียกพ่อสิ"
> >> >> > >
> >> >> > >   น้อง นกยืนนํ้าตาไหล
> >> >> > >
> >> >> > >  นึกไม่ถึงว่าจะถูกแม่ตีเพราะคนแปลกหน้า
> >> >> > >
> >> >> > >   พร้อม กับพูดอย่างไม่เต็มเสียงว่า " พะ พะ พ่อ"
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >จาก นั้น............................................
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >
> >> >> > >   แม่ก็ส่ายหัวพร้อมกับ เอ็ดน้องนกด้วยความโมโหว่า
> >> >> > >
> >> >> > >   "พ่อแกอยู่ในห้อง
> >>เรียกยัง งี้จะได้ยินได้ไง
> >> >> > >
> >> >> > >  รีบไปเรียกเร็ว
> >> >> > >
> >> >> > >   ช่างเค้าจะไปซ่อมแอร์ที่อื่น อีก"
>>>>>>>>
>>>>>>>> กำ

เคยได้รับเหมือนกันครับ

มาซื้ออีกใบ

คนขายลอตเตอร์รี่:ซื้อลอตเตอร์รี่ไหมครับคุณผู้หญิง
คุณผู้หญิง:ฉันซื้อแล้วย่ะ
คนขายลอตเตอร์รี่:ซื้ออีกใบก็ได้ครับ
คุณผู้หญิง:ถ้าเกิดฉันไม่ถูกละ
คนขายลอตเตอร์รี่:ก็มาหาผมสิครับ
คุณผู้หญิง:มาหาคุณแล้วได้อะไรในเมื่อฉันไม่ถูกรางวัล
คนขายลอตเตอร์รี่:ก็มาซื้ออีกใบสิครับ

    โถ น้องนกโดนฟาดเพราะช่าง แอร์ :~)

 ;D ;D ;D แปลกหน้า

ณ .  คุกแห่งหนึ่ง
นักโทษเก่า...ติดคุกข้อหาอะไรวะ
นักโทษใหม่...ขับรถช้า
นักโทษเก่า...มีหรอวะติดคุกข้อหาขับรถช้า  เค้ามีแต่ขับรถเร็ว
นักโทษใหม่.....ก็ข้าขับรถช้าไปหน่อยตำรวจเลยตามทัน

หญิงผู้หนึ่งอุ้มลูกเดินขึ้นรถเมล์  ขสมก.
เมื่อคนขับรถหันมาเห็นเข้าก็พูดขึ้นว่า เป็นเด็กที่น่าเกลียดที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา
หล่อนได้ยินดังนั้นก็โกรธมาก จึงเดินกระทืบเท้าไปนั่งที่ท้ายรถ
ผู้ชายที่นั่งข้างๆ เห็นหล่อนออกอาการกระฟัดกระเฟียดเช่นนั้นจึงถามว่า
เกิดอะไรขึ้นครับ.....
ก็คนขับรถนะซิคะ เขาพูดไม่ดีกันฉัน ทำร้ายจิตใจฉันมาก
แย่จังนะครับ....ทำไมเขาทำน่าเกลียดอย่างนั้น
.......เขามีอาชีพที่จะต้องให้บริการ น่าจะพูดกับผู้โดยสารให้ดีกว่านี้..
....ใช่ นี้ฉันว่าจะไปต่อว่าเขาสักหน่อย..
….เอาเลยครับ  ชายหนุ่มสนับสนุน
....คุณเดินไปต่อว่าเขาได้เลย..เดียวผมจะช่วยอุ้มลูกลิงตัวนี้ไว้ให้เอง

 ;D ;D ;D ;D ;D

ยายต้องการสอนให้หลานรู้จักบาปบุญคุณโทษ
จึงได้พูดกับหลานว่า
ยาย......หลานรู้ไหม ? ถ้าเราฆ่ามดตายตัวหนึ่ง ชาดหน้าเราก็จะเกิดเป็นมด
ถ้าเราฆ่ายุง..ชาดหน้าเราก็จะเกิดเป็นยุง
หลาน......งั้นชาดหน้าผมอยากเกิดเป็นคนผมก็ต้องฆ่าคนใช่ไหมครับ
ยาย.........!

ทวนคำสั่ง
เรื่องมีอยู่ว่าภายในบ้านพักของค่ายทหารแห่งหนึ่ง
วันนั้นท่านผู้พันได้เรียก พลฯเปี๊ยก ซึ่งเป็นทหารประจำตัว เพื่อให้ไปซื้อของ
(ตามปกติเมื่อผู้บังคับบัญชาสั่ง จะต้องมีการทวนคำสั่ง เพื่อจะได้ไม่ผิดพลาด)
ผู้พัน ฯ ...นี่พลทหารเปี๊ยก ไปซื้อบุหรี่ 2ซอง “ มึง 1 ซอง  กู 1 ซอง”
พลฯ เปี๊ยก.. “ครับบุหรี่2ซอง  มึง 1 ซอง  กู 1 ซอง”
ผู้พัน”.............”

มีชายคนหนึ่งเข้ามาชวนคุยด้วยและพูดว่า
ชาย..........หวัดดีครับ  อ่านหนังสืออะไรอยู่ครับ
หญิง.........มองหน้า  แล้วก็ตอบว่า อ่านเรื่องเพศศึกษาค่ะ
ชาย.......หนังสือว่าอย่างไรครับ
หญิง........หนังสือว่าในบรรดาอวัยวะเพศของผู้ชายนั้น
                คนอินเดียจะใหญ่และยาว  คนลาวจะแข็งมาก
   ส่วนคนญี่ปุ่นจะอึด มากคะ แล้วคุณชื่ออะไร
   มายืนคุยกับฉันตั้งนาน  ยังไม่รู้จักชื่อคุณเลย
ชาย.......เออ  !!!ผมชื่อ ท้าวคำปัน รามาซิงค์ ยามาโกโต้ ครับผม
หญิง........^o^!!!!!

มีหญิงสาว กับชายหนุ่ม อยู่ในห้อง
สองต่อสอง ชายจับแท่ง แกว่งให้สั่น
ชายสั่งหญิง ให้อม ในปากพลัน
หญิงดื้อรั้น ชายเร่งเร้า ด้วยอารมณ์

จับโคนไว้ เอาปลายแหย่ ให้เข้าปาก
หญิงกระดาก หุบปากนิ่ง เอาหน้าก้ม
ชายก็บ่น เหตุผลใด ถึงไม่อม
ต้องขู่ข่ม ให้หายดื้อ กันหรือไร

พูดดีดี ก็ไม่ฟัง ต้องบังคับ
เอามือจับ ปากให้อ้า คว้าแท่งใส่
ใช้ปากอม เธอไม่เคย เลยหรือไง
นี่ปรอท...วัดไข้ หมอให้อม   ;D   ;D

      เรื่อง น้องนก กับ ลูกลิง ตลกดีครับ

ไอ้หนุ่มชาวไร่นายหนึ่งประสบอุบัติเหตุรถยนต์และคิดว่าบริษัทรถบรรทุกคู่กรณีควรจะรับผิดชอบกับอาการบาดเจ็บของเขา แต่บริษัทรถบรรทุกไม่ยอมจ่าย เรื่องจึงต้องมาจบลงที่ศาลสถิตยุติธรรม
“ในที่เกิดเหตุคุณได้พูดหรือเปล่าว่า ผมสบายดี” ทนายความของบริษัทคู่กรณีถามไอ้หนุ่มชาวไร่ต่อหน้าผู้พิพากษา
“คือว่างี้ครับ” ไอ้หนุ่มตอบ “ตอนนั้นผมเพิ่งจะยกไอ้เจ้าเบสซี่ลาตัวโปรดของผมขึ้นไปบน...”
“เดี๋ยวๆ” ทนายขัดจังหวะ “ผมไม่ได้ต้องการรายละเอียด ขอให้คุณตอบมาก็พอว่าในที่เกิดเหตุคุณได้พูดหรือเปล่าว่า ผมสบายดี”
“ผมเพิ่งจะยกเจ้าเบสซี่ขึ้นไปบนรถบรรทุกของผมแล้วขับออกมาที่ถนน...” ไอ้หนุ่มพยายามเล่าต่อ
“ข้าแต่ท่านผู้พิพากษา” ทนายความประท้วง “ผมพยายามที่จะแสดงข้อเท็จจริงว่า ในที่เกิดเหตุชายผู้นี้ได้บอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรว่าเขาสบายดี หลายสัปดาห์ต่อมาเขากลับพยายามฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายจากลูกความของกระผม กระผมเชื่อว่าเขาพยายามฉวยโอกาส กรุณาบอกให้เขาตอบคำถามของกระผมอย่างตรงไปตรงมาด้วยขอรับ”
“ฉันอยากจะฟังเขาเล่าต่ออีกสักหน่อย” ผู้พิพากษาไม่รับคำประท้วง
ไอ้หน่มชาวนาจึงเล่าต่อ
“ก็อย่างที่ผมบอกแหละครับ ผมเพิ่งจะขนเจ้าเบสซี่ขึ้นไปบนรถบรรทุกแล้วขับออกมาบนถนน แล้วก็เจอไอ้เจ้ารถบรรทุกของบริษัทนี้วิ่งฝ่าไฟแดงมาชนรถบรรทุกของผมเข้าที่ด้านข้างจนผมกระเด็นไปทาง ไอ้เจ้าเบสซี่กระเด็นไปอีกทาง ตอนนั้นน่ะผมเจ็บไปหมดทั้งตัว ขยับตัวยังไม่ไหวด้วยซ้ำ แต่ผมก็ยังได้ยินเสียงเจ้าเบสซี่ร้องด้วยความเจ็บปวด ผมรู้ว่ามันต้องเจ็บมากแน่มันถึงได้ร้องอย่างนั้น”
“หลังจากนั้นไม่นานตำรวจจราจรก็มาถึง เขาคงได้ยินเจ้าเบสซี่ร้อง เลยเดินไปดูมัน ดูอยู่ได้สักพักเขาก็ควักปืนออกมาแล้วยิงเข้ากลางแสกหน้ามัน”
“แล้วเขาก็เดินมาที่ผม บอกผมว่า ลานายมันเจ็บมาก ฉันเลยต้องยิงมันให้พ้นทรมาน ตอนนั้นในมือเขายังถือปืนอยู่เลย”
“แล้วเขาก็ถามผมว่า นายล่ะรู้สึกยังไงบ้าง?”

ไอ้หนุ่มคนหนึ่งกลับจากงานในเย็นวันหนึ่งแล้วได้ยินเสียง
“จงออกจากงาน ขายบ้านซะ รวบรวมเงินทั้งหมด แล้วไปลาสเวกัส”
ไอ้หนุ่มรู้สึกรำคาญ และทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้น
วันต่อมาเมื่อเขากลับจากงานเขาก็ได้ยินเสียงเดิมอีก
“จงออกจากงาน ขายบ้านซะ รวบรวมเงินทั้งหมด แล้วไปลาสเวกัส”
เช่นเดิม ไอ้หนุ่มรู้สึกรำคาญ และพยายามทำเป็นไม่สนใจเสียงนั้น
หลังจากนั้นทุกวันเมื่อเขากลับจากงานก็จะได้ยินเสียงเดิมซ้ำซาก เมื่อสองสัปดาห์ผ่านไป เขาก็สุดทน ตัดสินใจลาออกจากงาน ขายบ้านแล้วรวบรวมเงินทั้งหมด มุ่งหน้าไปยังลาสเวกัส
เมื่อไอ้หนุ่มไปถึงลาสเวกัส เสียงนั้นก็บอกเขาอีก
“ไปที่ฮาร่าส์”
ไอ้หนุ่มจึงเรียกรถแทกซี่ไปยังฮาร่าส์ซึ่งเป็นคาสิโนชื่อดัง
ทันทีที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในนั้น เสียงเดิมก็สั่งอีก
“ไปที่โต๊ะรูเลตต์”
เมื่อไปถึงโต๊ะรูเลตต์เสียงเดิมก็สั่งต่อ
“แทงเบอร์ 17 หมดตัวเลย”
ไอ้หนุ่มรวบรวมความกล้า แลกเงินสดทั้งหมดเป็นชิป แล้วใส่ลงไปที่ช่อง 17”
เจ้ามืออวยพรให้ไอ้หนุ่มโชคดีแล้วหมุนวงล้อ
ไอ้หนุ่มกลั้นหายใจดูวงล้อหมุนปั่นรอบแล้วรอบเล่าก่อนจะหมุนช้าลงช้าลง จนในที่สุดลูกเหล็กก็ตกลงที่ช่อง]21
เสียงเดิมกลับมา “แม่งเอ๊ยยยย”

กาลครั้งหนึ่งมีเศรษฐีผู้หนึ่งที่ชอบสะสมจระเข้เป็นๆ เขาเลี้ยงมันไว้ในบ่อหลังบ้าน เศรษฐีคนนี้มีลูกสาวอยู่คนหนึ่งที่ทั้งสวยแล้วยังโสดอีกต่างหาก
วันหนึ่งเขาจัดงานเลี้ยงใหญ่ที่บ้าน ระหว่างงานเลี้ยงนั้นเขาก็ได้ประกาศว่า
"ท่านผู้มีเกียรติทั้งหลาย ผมมีข้อเสนอที่จะให้เงินหนึ่งล้านบาท หรือยกลูกสาวของผมให้แต่งงานกับคนที่สามารถว่ายน้ำข้ามบ่อจระเข้ไปได้โดยไม่ได้รับอันตราย"
ทันทีที่เขาพูดจบก็มีเสียงดัง "ตูม" แล้วมีไอ้หนุ่มคนหนึ่งพยายามว่ายน้ำข้ามบ่อจระเข้อย่างสุดชีวิต ฝูงชนที่อยู่ที่นั่นพยายามเชียร์เขาเต็มที่ ในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จ เขาปีนขึ้นไปยังอีกฟากของบ่อได้อย่างปลอดภัย
เศรษฐีรู้สึกประทับใจมาก
"พ่อหนุ่ม คุณนี่ร้ายจริงๆ ผมไม่คิดว่าจะมีใครทำได้นะนี่ แต่เอาเถอะ ในเมื่อคุณทำได้ ผมก็จะรักษาสัญญา คุณต้องการเงินหนึ่งล้าน หรือจะแต่งงานกับลูกสาวผมล่ะ"
ไอ้หนุ่มพยายามข่มจิตใจกัดกรามตอบ
"ฟังนะ ผมไม่ได้ต้องการเงิน และผมก็ไม่ได้พิศมัยลูกสาวคุณด้วย ผมแค่อยากรู้ว่า "ไอ้ลูกหมาตัวไหนวะที่ผลักผมลงน้ำ"

;D ;Dหลงดีใจเก้อนะครับ... :~)

วัดพระแก้วเป็นสถานที่ ๆ สวยงามมาก
มีนักท่องเที่ยวมากมายมาชมสถานที่แห่งนี้
ทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ มีนักท่องเที่ยว
ชาวต่างประเทศคนหนึ่ง ต้องการทราบว่าขณะนี้กี่โมงแล้ว
เลยถามคนไทยว่า ”ยู  วอท  ทาม  อีส อิท ”
คนไทยไม่ทราบว่าชาวต่างชาติพูดอะไร คิดว่าเขาพูดว่า
วัด ไทย ทำ ด้วย อิฐ  เขาเลยตอบฝรั่งไปว่า  “วัดอังกฤษทำด้วยปูน”
ฝรั่ง  ....งง!!!!!!

จำกันไม่ได้
เด็กชายตัวเล็กนั่งดูอัลบั้มครอบครัวแล้วถามแม่ขึ้นว่า
เด็ก........แม่ฮับ  ผู้ชายคนที่อยู่กับแม่บนชายหาด ผมหยิกๆ กล้าเป็นมัดๆ
          คนนี้นะครับ  เขาเป็นใครหรือครับ
แม่..........พ่อของลูกไงจ๊ะ  แม่ตอบด้วยความภาคภูมิใจ
เด็ก........มองหน้าแม่อย่างงง!!!!แล้วถามว่า
   ก็แล้วคนหัวล้าน พุงใหญ่ๆ ที่อยู่กับเราตอนนี้ละครับ
   เขาเป็นใคร!!!!!
แม่.........??????

THE EYE…..คนเห็นผี


เป็นที่ลือกันทั่วไปในหมู่ของคนขับรถแท็กซี่ว่า
บริเวณป้ายรถเมล์หน้าห้างสรรพสินค้า เดอะมอลล์(งามวงศ์วาน)
ตอนกลางดึก หลังห้างปิดแล้วเนี่ย   ผีดุเป็นบ้า  ลือกันเป็นตุเป็นตะว่า
เคยมีแท็กซี่หลายคันถูกผู้หญิงผมยาว เรียกจากหน้าห้างฯ ให้ไปส่งที่วัดสมรโกฎิ
ถ.รัตนาธิเบศร์  พอคนขับแท็กซี่ขับไปถึงหน้าวัดปรากฏว่าผู้หญิงสาว ผมยาว
คนนั้นก็หายตัวไป เป็นที่เลื่องลือกันว่า ผีหน้าห้างฯ นี้คือสาวที่เคยใช้ที่จอดรถ
ของห้างเป็นสถานที่ฆ่าตัวตาย  จนปัจจุบันนี้ทางห้างฯ ได้นะลวดตาข่ายมาอ๊อก
ปิดไว้หมดทุกด้าน เพื่อป้องกันไม่ให้ใคร มาใช้เป็นสุสานอีก แต่ก็ยังมิวาย
มีข่าวมาเรื่อยๆ ว่ามีคนกระโดดตึกตายที่นี่เป็นประจำ  เรื่องข่าวลือนี้
นายกล้า โชเฟอร์แท็กซี่(มือใหม่) ที่เพิ่งมาหางานทำในกรุงเทพฯ ก็ได้ยินมา
แต่ความที่แกเป็นคนกล้า สมชื่อ แกจึงไม่เชื่อ แล้วแกยังวนเวียนรับ-ส่งผู้โดยสาร
แถวงามวงศ์วาน และใกล้เคียงเป็นประจำ เพราะรายได้ดี เนื่องจากดึกๆ ไม่ค่อยมี
แท็กซี่กล้าขับผ่าน
เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า.......วันหนึ่งดึกมากแล้ว นายกล้าขับรถผ่าน
หน้าห้างเดอะมอลล์(งามวงศ์วาน) ก็ปรากฏว่า มีผู้หญิงสาวสวยไว้ผมยาว
ยืนโบกรถอยู่หน้าห้าง ฯ ฉับพลันที่เห็น นายกล้านึกไปถึงเรื่องที่เพื่อน ๆ
ชาวแท็กซี่โจทย์ขานกันถึงเรื่องผีดุขึ้นมาทันที  แต่ความที่แกเป็นคนกล้า
ประกอบกับ ผู้หญิงคนนั้นดูเป็นคนชัดๆ แกจึงจอดรถเข้าไปรับ
พอหญิงสาวเปิดประตูรถ กลิ่นน้ำหอมฉุนกึก ก็ปะทะจมูกของนายกล้าทันที
“โชเฟอร์  ไปแถววัดธาตุทองนะ จะไปไหม ??”หญิงสาวถาม
“ไปครับผม” นายกล้าตอบ ในใจคิดว่า ไม่ใช่วัด สมรโกฎิ แบบที่ลือกันนี่หว่า!!!
หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งที่เบาะหลัง  พร้อมกับบอกนายกล้า ว่า ไปทางด่วนนะ 
นายกล้ากดมิเตอร์ แล้วออกรถขับตรงไป ขึ้นทางด่วนงามวงศ์วาน
กลางดึกเช่นนี้ บนทางด่วน เงียบสนิท นานๆจะมีรถขับมาสักคัน
กลิ่นน้ำหอมหญิงสาวยังแตะจมูก อยู่ บรรยากาศ เงียบเชียบชวนอึดอัด
ถึงนายกล้าจะกล้าเพียงไรก็ตามแต่ แกก็อดชำเลืองมองกระจกส่องหลังไม่ได้
เมื่อเห็นหญิงสาวนั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จา แกก็เลยชวนคุยเพื่อทำลายบรรยากาศที่อึดอัดนี้
“รอรถนานไหมครับ”  นานซิ แท็กซี่หายไปไหนกันหมดก็ไม่รู้  นายกล้าตัดสินใจพูดหยั่งเชิงเพื่อดูท่าที
ก็มีขาวลือเรื่อง........เอ้อ.....เรื่องผีแถวนี้ดุซิครับ เลยไม่ค่อยมีแท็กซี่คันไหนกล้าวิ่งแถวนี้
หญิงสาวหันขวับ มามองนายกล้า ทันที “มิหน้าละ  เมื่อกี้ ฉันเรียกตั้งหลายคัน ไม่มีใครจอดเลย”
แล้วนายไม่กลัวหรอ  ???”เอ้อ...ไม่กลัวครับ”  ก็ดี หญิงสาวพูกพร้อมกับหันหน้าไปมอง
ที่หน้าต่าง นายกล้าขับรถต่อไปเรื่อยๆ บรรยากาศกลับเงียบสงัดอีกครั้ง เงียบจนนายกล้า
ได้ยินเสียงลมหายใจ ของตัวเองเพียงคนเดียว!!!นายกล้าแหงนขึ้นไปมองกระจกส่องหลัง
เมื่อนึกขึ้นได้  ทันใดนั้น!!!หัวใจของเขาแทบจะหยุดเต้น เมื่อเห็นภาพในกระจกว่างเปล่า
ไม่มีแม้แต่เงาของผู้หญิงผมยาวที่นั่งมาและคุยด้วยกันเมื่อกี้นี้เลย!!!!!
“ชิปหายแล้ว กู  เนี่ยเขาว่าไม่เชื่ออย่าลบหลู่  โดนดีเข้าแล้วไหมละ”นายกล้าคิดขณะที่
กลิ่นน้ำหอมฉุน ๆ ของหญิงสาวยังคงคละคลุ้งอยู่ในรถ มือที่กำพวงมาลัย สั่นสะท้าน
เหงื่อแตกพลัก ทั้งที่แอร์ในรถเย็นเฉียบ ขาของนายกล้าที่เหยียบคันเร่ง ชาจนแทบจะไม่รู้สึกแล้ว
บทสวดมนต์กี่บท ที่นายกล้านึกได้ นายกล้าท่องหมด  ทว่ากลิ่นน้ำหอมก็ยังไม่หายไปไหน
แถมบางครั้งยังแรงขึ้นด้วยซ้ำ มนต์บทแล้วบทเล่า  ก็ไม่ทำให้กลิ่นน้ำหอมจางลงเลย
นายกล้าแหงนมองกระจกมองหลังอีกครั้งก็ เบาะหลังก็ยังว่างเปล่าอยู่  มีแต่กลิ่นน้ำหอมเท่า
นั้นที่บอกให้รู้ว่าเธอยังอยู่  ยังไม่ไปไหน  นายกล้าเหยียบคันเร่งอย่างไม่คิดชีวิต
ในใจก็อาราธนาพระดังทั่วเมืองไทย ให้มาอยู่เป็นเพื่อนเขา  ใจอยากบึ่งให้ไปถึงวัดธาตุทอง
เร็วๆ เผื่อว่ากลิ่นน้ำหอมจะหายไป  เพราะ”เธอ” คงอยากไปลงที่นั่นจริงๆ
“โอ้ย!!มาไกลเหลือเกินแม่คุณ”นายกล้าคิดในใจ ขณะที่เท้ายังเหยียบคันเร่งมิด
นายกล้ารู้สึกตัวอีกทีเมื่อรถมาติดไฟแดง ตรงเชิงทางด่วน  นายกล้าสูดลมหายใจ
เข้าปอดเต็มที่3ครั้งก่อนกลั้นใจแหงนหน้าขึ้นไปมองกระจกส่องหลังอีกครั้ง
และแล้วนายกล้าก็แทบจะหัวใจหยุดเต้น อีกครั้ง มือ เท้าเย็นวาบแทบจะหมดแรง
ขนลุกซู่ทั้งตัว เหมือนใครเอาน้ำแข็งมาโปะที่ต้นคอ ภาพที่ทำให้นายกล้าแทบช็อก
ก็คือหญิงสาวคนเดิมมาปรากฏตัวที่เบาะหลังอีกครั้ง
แต่คราวนี้หน้าตาเธอเปลี่ยนไป!!!.ใบหน้าของเธอมีเลือดไหล
ออกทางจมูก และปาก นายหล้าตัดสินใจรวบรวมความกล้าอีกครั้ง
“เป็นไงเป็นกันวะคราวนี้ ไหนๆ ก็ไหน ๆ แล้ว จะถามให้รู้เรื่องกันไปเลย
 ว่า  เธอ  ต้องการอะไร”พอคิดได้ดังนั้น นายกล้าก็หันกลับไป
เผชิญหน้ากับ เธอ  ผู้นั้นก่อนที่จะถามเป็นคำถามแรกว่า
“คุณเป็นอะไรตาย???”......!!!ตายพี่น้า  ตายพี่อาเอ็งสิ!!!
 หญิงสาว คนนั้นตอบดังลั่นรถ  อ้เวร!!!
ฉันก้มลงไปแต่งหน้าหน่อยเดียว  ล่อเหยียบซะหน้าตาฉันแหกหมด
  แล้วยังเสือกมาถามว่าเป็นอะไรตาย.....!!!!