เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผ่านๆตามาว่ามีประกาศกระทรวงการคลัง เป็นรายการลดอัตราอากรขาเข้า
ปืนลดจาก 40% ลงเหลือ 30%
แล้วเงินบาทตอนนี้ก็แข็งโป๊ก

ปืนใหม่ที่เริ่มเข้ามา2550นี้  ราคาลงบ้างไหมครับ  ::)

อัตราอากรฯกล้องเล็งสำหรับติดปืน ก็ลดจาก 35% เหลือ 10% ด้วย

น่าจะลดครับ  แต่จะลดแบบฮวบฮาบก็ต่อเมื่อแก้ยกเลิกระบบโควต้าครับ

ไม่มีทางครับ  เพราะคนขายปืนบ้านเราเป็นคนกำหนดราคากันเอาเอง  ไม่สนราคาต้นทุนจริง ปี 47 ค่าเงิน 48-48 บาทต่อดอลล่า กล๊อก 19 ราคา 42000  ปี 50 ขนาดเงินแข็ง 36-38บาท/ดอลล่าร์  กล๊อก 19ของวันนี้ (ราคาเฉลี่ยนะ แบบไม่ต้องจอง 58000-72000 )  โอว์  สงสัย5ปีข้างหน้า ปืนใช้งานบ้านเราคงเข้าไกล้กระบอกละแสนเหมือนๆโคลท์ตราม้าแน่ๆเลย (เซ็ง)  :~)

ตราบใดที่ยังต้องนำเข้าปืน...เราก็ต้องทำใจครับ

ตายแน่ ๆ เลยเรา  >:( >:( >:( >:(

ท่านคิดว่ามันจะถึงจุดอิ่มตัวไหมครับ    ราคาปืนนี่........ ??? ???

โทรถามราคาปืนใหม่ ทุกร้านแพงกว่าปี 49 ทุกรุ่นเลยครับ  :o
อยากได้คาร์ pm9 มาครอบครองซักกระบอก ถามร้านที่นำเข้า
ราคา 85k  :OO ซื้อไม่ลง เฮ้อ ปืนแพงขึ้นทุกวันยิ่งกว่าทองคำอีก

ยากครับ ราคาปืนตอนนี้ไม่มีทางลงครับ จนกว่าจะมีข่าวให้ประชาชนทราบทั่วกัน นี่ถ้าไม่มาบอกในเวปนี้ผมก็ไม่มีทางรู้ครับ มันเป็นเรื่องของคนกลุ่มน้อยครับ ทีวีถึงไม่ทำข่าวให้ทราบถ้าทีวีออกข่าวสิครับ ราคาน่าจะมีการลดลงแต่คงจะเป็นช่วงกลางปีไปแล้วละครับถ้าราคาจะลงต้องยกเลิกระบบโควต้าครับรับรองเรื่องการตลาดปืนแข่งขันกันแน่ๆและยกเลิกการจำกัดการเปิดร้านปืนด้วยนะครับ  :D

ไม่น่าถูกครับ เช็คราคาดูเเล้วสูงก่วาปี49 หลายบาทอยู่ครับ

ภาษีขาเข้าจาก 40 ลดเหลือ 30  บวกภาษีมูลค่าเพิ่ม 7  % ลดมาเป็นปีแล้วครับท่าน   :D :D :D

แต่พฤฒิกรรมของร้านปืนยังไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง   :D :D :D
ช่วยกันเขย่าเรื่องใบกำกับภาษีอีกรอบ   จะได้มีฮา  ;D ;D
ตอนนี้หลังจากถูกระชากหน้ากาก  แล้วมีข้อสรุปต้องออกขั้นต่ำใบละ 48,000.-
มันก็ยังมีกำไรที่ไม่ต้องจ่ายภาษีเอารัดเอาเปรียบอาชีพอืนอีกมากมาย  ;D ;D
มาเขย่ากันอีกสักที ........ก็ดีเหมือนกัน   :D :D :D
เรื่องใบกำกับภาษี....จะเขย่าใครง่ายนิดเดียว  ............5555   ;) ;)

ผมว่าเป็นเรื่องยากส์แม้ภาษีจะลดแล้ว.. ทำใจครับ

...ภาษีปืนลด...แต่ค่าอำนวยความสะดวกเพิ่ม...ต้นทุนเพิ่ม...กำไรต้องไม่ต่ำกว่าเดิม(ไม่งั้นอยู่ไม่ได้).....ประชาชนรับกรรมเหมียนเดิม
...แน่จริง ยกเลิกระบบโควต้า ราคาลงแน่...

5555.......เรื่องของพ่อค้า  หากต้องไปคิดแทนเขา    ;D ;D
เราคงต้องซื้อปืนในราคาที่ไม่สมเหตุผลต่อไป    ;D ;D ;D ;D

พวกเราต้องช่วยกันใครที่มีญาติทำสื่อต่าง ๆ ต้องลงข่าวเรื่องการจำหน่ายอาวุธปืน ขั้นตอนต่าง ๆ รายละเอียด ร้านปืนเอาเปรียบผู้บริโภคมาก ประเทศไทยปืนแพงสุด ๆ พยายามทำให้เป็นข่าว เขียนจดหมาย ทำรายการโทรทัศน์บ้าง เป็นต้น

 ;) ;) ;ไม่ต้องเปลืองพลังงานอย่างนั้นหรอกครับ  ....มีวิธีที่ง่ายกว่านั้นอีก  ;) ;) ;)
เรื่องอาวุธปืนเป็นเรื่องที่อ้างอิงได้ง่ายที่สุด  .................5555555 ;D

ให้ความเห็นแบบนี้มาหลายกระทู้แล้วครับ .... ราคาปืนเหมือนเงินเดือน  ไม่มีลดลง   8)

เรื่องของโควต้ามันเป็นเรื่องของพ่อค้า   ที่เห็นช่องว่างของการใช้ประโยชน์ครับ    ;D :D~

ฟังท่านหมึกดำแล้ว.......เรื่องภาษีกลายเป็นจิ๊บจ๊อยไปเลย  :-\
หรือว่าการมีโควต้าเป็นเรื่องสุดคุ้มสำหรับพ่อค้า....เลยไม่อยากเลิกไม่อยากแก้
ปืนสั้นโควต้าละ30.........48000/30=1600..........เป็นต้นทุนแอบแฝงก็จริง
แต่เป็นเครื่องมือคุมราคาเอาไปบวกเพิ่มร่วม 40000 บนต้นทุน 20000 ...... มาเป็นราคาปืน 60K
ขายน้อย ไม่เหนื่อย แต่กำไรแยะดี ..........  ???

สุดท้ายก็โก่งราคาโดยอาศัยโควต้าเช่นเดิม...

ท่าน ธำรง เคยเห็นใบอนุญาตโรงรับจำนำ  ใบอนุญาตอาบอบนวด  ใบอนุญาตโรงแรมม่านรูดไหมครับ
พวกนี้เขาก็จำกัดจำนวนเหมือนกัน  แล้วทำไมเรายังเลือกเบอร์ตองได้ในราคา 3,000.-
เหตุผลก็คือมันมีการแข่งขันในตัวมันเองอยู่แล้ว   ;D ;D ;D

แต่เรื่องของการค้าอาวุธปืนมันไปกระจุกตัวอยุ่กลุ่มเดียว   :D :D

ใบอนุญาตให้ค้าอาวุปืนคือ ป.5  ตอนนี้เขายกใบให้เช่าเป็นปี
ร้านที่ซื้อโควต้าปืนแล้วเอามาขายในกรุงเทพ  แย่งกันซื้อ(เช่า)ยกใบ
ในราคาปีละ 700,000-800,000.-  หากจะซื้อขาด  ก็ต้องราคา 4-5 ล้าน

ซึ่งตามทฤษฎีเขาเอามูลค่าของป.5 มาเป็นต้นทุนไม่ได้  เพราะว่ามันไม่มีอายุ
จำนวนปีเหมือนสัมประทานมากำหนดระยะเวลา    มันเป็นการเอารัดเอาเปรียบ
อย่างรุนแรงต่อคนที่จำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืน   ;D ;D ส่วนพวกคหบดี
เรายกเว้นไม่กล่าวถึง   :D :D :D

...ขออภัย...พี่ธำรงไม่รู้จักเบอร์ตอง...รู้จักแต่ไซด์ลายด์ครับ...อิอิ...
   ดำเนินการต่อคาดว่าอาทิตย์นี้คงได้เอาเอกสารยัดใส่มืออธิบดีกรมสรรพากร.....ถ้าหากยังไม่ได้รับการขอโทษอย่างเป็นทางการ...ก็จะดำเนินการไปเรื่อยๆ..และเข้มข้นกว่านี้...
   

ติดตาม และขอเป็นกำลังใจพี่โชกุนเสมอครับ

ผมเกิดความสงสัย.... ถ้าเราสามารถร้องเรียน... เปิดโปง... ประจาน  ว่าร้านปืน "ค้ากำไรเกินควร" แล้วร้านปืนทั้งหลายถูกปิดไปหมดเลย....  คราวนี้บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสิทธิ์ในช่องทาง  "สวัสดิการ" จะซื้อปืนจากไหนครับ

สงสัยว่ารัฐฯ จะบีบให้ปืนแพงขึ้นไปเรื่อยๆ  เพื่อใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ เป็นตัวกำหนดจำนวนปืนในมือประชาชน ??

เห็นด้วยกับอาจารย์ครับ ...

ขออนุญาตคิดไปทางซะใจเเบบไม่มีเหตุผลลองรับครับ

ร้านปืนโดนปิดเท่ากับว่าตกงานต้องไปทำอาชีพอื่นหลังจากเอาเปรียบนอนกินมานาน 

ส่วนผู้บริโภคเพียงเเค่ไม่มีอาวุธมาป้องกันตัวซึ่งอาจจะไปพึ่งพาอาวุธอย่างอื่นแต่ไม่ตกงานเพราะไม่เกี่ยวเนื่องกับอาชีพของผู้บริโภค

โดยรวมได้ผลลบทั้งคู่เเต่ร้านปืนสะเทือนมากกว่ากระมังครับ

ผมว่าถูกร้องเรียนก็ไม่ถึงขั้นต้องถูกปิดมั้งครับ
แต่น่าจะมีหน่วยงานเข้าไปดูแล ควบคุมมากกว่านี้
ในเมื่อทางร้านค้ากลัวถูกปิด ก็ต้องมีการแก้ไข
เพื่อให้ตัวเองอยู่รอด

ด้วยความเคารพ

ร้านปืนคงไม่ถึงกับปิด...แต่เกรงว่า จะมาบวกค่าใช้จ่าย(ภาษี)ที่เพิ่มขึ้นในราคาขาย...
อย่างที่คุณหมึกดําบอก...ฮั้วกันอยู่แล้ว...
ธุรกิจค้าปืนไม่ใช่แข่งขันกันสมบูรณ์แบบธุรกิจอื่น...เพราะฉะนั้นร้านค้าไม่ต้องกลัวเรื่องขายไม่ได้
ส่วนการควบคุมการค้ากําไรเกินควร...ปืนไม่ใช่สินค้าที่ต้องควบคุมราคาขายปลีก หรือ เป็นสินค้าที่
กระทบกับการดํารงชีพของประชาชนแบบพวกอุปโภคบริโภคที่รัฐต้องเข้ามาดูแลควบคุม...

สุดท้าย...ปืนจะยิ่งแพงเข้าไปอีก..ผมว่านะ

ประเด็นหลักอยู่ที่ร้านปืนครับ ..

ผมว่ามีตัวตายตัวแทนครับ น่าจะมีรายอื่นมารับสัมปทานทำร้านปืนต่อ

 ถ้าราคาปืนสูง ไปเรื่อยๆ     อย่างนี้ ปืนเถือนคงได้ระบาดใหญ่อีกครั้งแน่เลย

อยยากไดด้อีกแต่เห็นนราคาแล้วก็ถอดจัย

ดีใจจัง ปืนจะถูกลงแล้ว :D :D :D

ไม่มีทางครับ เพราะร้านปืนประสบความสำเร็จ ในการแบ่งแยกตลาดได้อย่างชัดเจนแล้ว  ตั้งแต่สมัย รสช. วิ่งเต้นให้ระงับโควต้าบุคคล จนราคาปืนแพงหูฉี  ใครไม่ง้อร้านปืน ก็ไม่สามารถสั่งนำเข้าในนามบุคคลได้อีก 

นั้นหมายถึงว่าเขาได้ส่วนแบ่งตลาดอยู่ในกำมือไม่กี่คน

ต่อมา ร้านปืนขายของไม่ได้ ตั้งหลายเดือน  เพราะนโยบายรัฐบาลไม่ยอมออกไปอนุญาต จนพวกเราเรียกร้องสิทธิ ฟ้องศาลปกครอง จนมีการคลายมาตราการผ่อนฝันออกใบอนุญาตซื้อได้บ้าง ประกอบกับมีกำลังซื้อจากภาคใต้สูง  ปืนจากที่เคยขายไม่ได้ ราคาไม่สูงมากนัก ฉวยโอกาส ขึ้นราคาเป็นหมื่นไปเลย  :OO

พอมีคนภายนอกพยายามจะเข้ามาเจาะตลาดปืนหลังวัง พวกร้านปืนนี้แหละครับ แทนที่จะนึกว่า มีคนเข้ามาแชร์ธุรกิจ เพิ่มอำนาจต่อรองในการสั่งซื้อสินค้าส่ง
กลับ ไปมองว่า เขาเป็นศัตรู  ก็เลยปัดแข้งขากัน จน ผู้มาใหม่ล้มไม่เป็นท่า
พร้อมทั้ง วิ่งเต้น ออกปืนสวัสดิการ โดยระบุห้ามโอน  เข้าไปอีก

ก็เท่ากับว่า ร้านปืน มีอิทธิพล แบ่งแยกตลาดออกจากกัน  โดยสินค้าในแต่ละตลาดไม่สามารถ ถ่ายโอนเพื่อสนองความต้องการของตลาดอีกตลาดได้

เป็นอย่าง ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เบื้องต้น เรื่องการกำหนดราคาตามประเภทตลาด  Third Degree แต่นั้นมันเป็นแค่แนวคิด ไม่มีใครคิดว่าการแบ่งแยกตลาดจะเกิดขึ้นได้จริงโดยสมบูรณ์  แต่พอมอง เรื่องตลาดปืนบ้านเราเข้าไป......น่าจะถือได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว   :OO :-\

คือราคาและปริมาณปืน ในตลาดสวัสดิการ จะสูง-ต่ำ เพียงใด  ไม่มีผลต่อ ราคา - ปริมาณความต้องการในตลาดปืนทั่วไป

อย่างนี้แล้ว  จะขายถูกว่าทำไม ละครับ

สมาคมฯ ชมรมฯ(เกี่ยวกับนักยิงปืน)  หรือ ใครก้ได้  ไม่ลองเสนอเรื่องไปสคบ.ดูหรือครับ?

ถ้าเงื่อนไขเป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคเขาก็น่าจะเข้ามาดูแลตรงนี้ด้วย

รบ.เก่าที่ว่าไม่ส่งเสริมเรื่องปืนก็ลาโรงไปแล้ว...อะไรต่างๆเกี่ยวกับปืนมันก็น่าจะดีขึ้นด้วย


สคบ.  ทางนี้ก้ได้ครับhttp://www.ocpb.go.th/index.asp

ผมยังติดใจกับคำของท่านหมึกดำที่ว่า....มันเป็นการเอารัดเอาเปรียบอย่างรุนแรงต่อคนที่จำเป็นต้องมีและใช้อาวุธปืน

ท่านอาจารย์ผณิศวรว่า....สงสัยว่ารัฐฯ จะบีบให้ปืนแพงขึ้นไปเรื่อยๆ  เพื่อใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ เป็นตัวกำหนดจำนวนปืนในมือประชาชน ??

และกับที่ท่านโทน73ว่า....เป็นอย่าง ทฤษฎีเศรษฐศาสตร์ เบื้องต้น เรื่องการกำหนดราคาตามประเภทตลาด  Third Degree แต่นั้นมันเป็นแค่แนวคิด ไม่มีใครคิดว่าการแบ่งแยกตลาดจะเกิดขึ้นได้จริงโดยสมบูรณ์  แต่พอมอง เรื่องตลาดปืนบ้านเราเข้าไป......น่าจะถือได้ว่ามันเกิดขึ้นจริงๆแล้ว   

มันจะต้องเป็นไปอย่างนี้ต่อไปอีกนานเท่าใด....หรือว่า.....ปืนกลายเป็นเครื่องแบ่งกลุ่มแบ่งชั้นในสังคมไปซะแล้ว  :o  :-\

ผมยังยืนยันประโยคข้อความที่ผมแสดงข้างต้น   ;) ;)
และยังมีความความเคารพศรัทธาท่านอาจารย์  ดร.ผณิศวร ชำนาญเวช   ที่ท่านมีทั้งความรุ้และประสบการณ์

สถานะการณ์ตอนนี้  คนที่ลำบากมากที่สุดคือเพื่อนของเราที่อยู่ตอนใต้
เมื่อเปรียบเทียบสถานะของความพร้อม  พวกเรามีมากกว่าแน่
เขากำลังดิ้นรนปกป้องชีวิตของพวกเขาเอง  โดยที่รัด-ถะ  ยื่นมือไปช่วยเหลือเขาไม่ได้

ส่วนนาทีนี้หากท่านผู้มีอาชีพค้าอาวุธ  เกิดจำเป็นต้องเลิกรา  ผมก็ยังคงแสดงความยินดีมาก
เพราะ  มันก็คงไม่กลับไปเป็นการผูกขาดอีก  ส่วนจะเป็นใคร  ขั้นตอนไหน  ถ้าหากว่าราคามัน
ถุกกว่าเดิม  วัตถุประสงค์ของเราก็บรรลุไปส่วนหนึ่ง  :D :D

ตั้งแต่นาทีนี้ผมเชื่อว่าราคาปืนจะมีการปรับตัวให้สอดคล้องกับความเป็นจริงมากกว่าเดิม  :D :D

อันนี้จะเป็นข่าวดีสำหรับท่านใดหรือไม่  ก็สุดแล้วแต่พิจารณา
แต่ผมเห็นว่าได้มีโอกาสช่วยเพื่อน  ที่มีความจำเป็นต้องใช้อาวุธ เพื่อป้องกันชีวิตของเขาเอง   :D :D

          พูดกันตามความเป็นจริง    ใน 3 จชต. นั้น    ชาวบ้านส่วนหนึ่งได้เสี่ยงที่จะยอมใช้ปืนเถือนกันไปแล้ว

ด้วยความจำเป็น   ด้วยราคาปืนถูกกฎหมายมันสูงจนเกินเหตุและความยุ่งยากในการขออนุญาต   ประกอบกับส่วนใหญ่อยู่ในชนบท

ประเมินแล้วว่าโอกาสพบพานกับ  จนท. น้อย      ช่วงนี้ จนท. อาจทำเป็นไม่เห็นบ้างสำหรับบางพื้นที่    เพราะเข้าใจสถานการณ์

และมีภาระด้านอื่นที่สำคัญกว่าอยู่     

             แต่ถ้าสถานการณ์สงบเมื่อไหร่    ผมว่าจะมีการจับปืนเถื่อนกันไม่น้อย

ความเห็นส่วนตัวน๊ะครับ

ร้านปืนหน๊ะกำไรดีอยู่แล้วหละครับ แต่ก้ไม่น่าจะกำไรมากถึงขนาดเท่าตัว เพราะเบี้ยบ้ายรายทางคงจะเยอะน่าดูอยู่เหมือนกัน อันนี้ก็น่าเห็นใจเพราะร้านปืนคงไม่สามารถเอามาเปิดเผยให้เราฟังกันได้ และอีกอย่างนึงคนทุกคนไม่ได้ต้องการซื้อปืนทุกคน ปืนถูกจำกัดอยู่ในวงเล็กๆวงนึง ถ้ากำไรน้อยคงไม่มีใครอยากทำร้านขายปืน เพราะจำนวนคนซื้อไม่เยอะมากเลยต้องmarginสูงหน่อย ทำให้ผมไม่ค่อยรู้สึกแย่กับร้านปืนเท่าไรถึงแม้จะรู้ว่าแพงกว่าเมืองนอกเยอะ จะรู้สึกแย่ก็เฉพาะร้านปืนที่โกหกลูกค้าเพื่อราคาover กว่าร้านอื่นไปอีกเกือบเท่าตัว
และสิ่งที่ผมกับรู้สึกแย่กว่าน่าจะเป็นพวกสินค้าจำพวกอุปโภคบริโภคเสียมากกว่าที่ขึ้นราคากันเกินจริง อย่างเช่นตอนแรกข้าวแกงจานละ 15 บาท พอน้ำมันลอยตัวก็อ้างว่าน้ำมันขึ้นราคา กลายเป็นข้าวแกงจานละ 20 บาท พอน้ำมันลดราคามันไม่เห็นลดราคาบ้างเลย ลองคิดดูซิครับว่ามันขึ้นราคาทีละ 30% เลยน๊ะ และมันเป็นของที่เราต้องกินต้องใช้อยู่ทุกวัน และอย่างเช่นน้ำดื่มขวด 500cc. ที่ขายกันอยู่เกลื่อนกลาดในราคาขวดละ 10 บาท ทราบกันมั้ยครับว่าราคาที่มาส่งให้ร้านค้าหน๊ะเท่าไร ขวดละ 3.50 บาทเองน๊ะครับ กำไรกี่% อย่างนี้ไม่เรียกว่าค้ากำไรเกินควรหรอครับ ทั้งได้ margin สูงและปริมาณคนกินก็เยอะด้วย ยกตัวอย่างร้านสุกี้ชื่อดัง ทั้งหม้อที่คุณสั่งมาถ้าไปเดินซื้อในตลาดราคาไม่เกิน 200 บาทแน่นอน แต่ไปนั่งกินในร้านกลับต้องเสียเงิน 500 บาท ตัดต้นทุนทุกอย่างยังไงก็ต้องกำไรประมาณ 150 บาท วันนึงมีคนเข้ามากินประมาณ 100 โต๊ะ แสดงว่ากำไรวันละ 15,000 บาท ตกกำไรเดือนละ 450,000 บาท
สำหรับร้านปืนกำไรต่อกระบอกหักค่าใช้จ่ายทุกอย่างอาจจะประมาณ 10,000-15,000 บาท เฉลี่ยเดือนนึงขายได้ประมาณ 15 กระบอก ก็จะได้กำไร 150,000 - 225,000 บาท
ผมเลยไม่ค่อยรู้สึกอะไรครับเพราะผมไม่ได้ซื้อปืนทุกเดือนหรือทุกปี ผมอาจจะเปรียบเทียบแบบข้างๆคูๆไปบ้าง แต่แค่อยากให้มองเห็นประเด็นเท่านั้นเองครับ

เพิ่มเติมครับ  :D

ผมว่าถ้าจะให้ราคาปืนถูกลงได้ รัฐคงจะต้องทำให้การซื้อขายปืนมันง่ายขึ้นครับ และต้องยกเลิกระบบโควต้าและสวัสดิการซะ ไม่อย่างนั้นก็จะล้มระบบ monopoly ไม่ได้ครับ และการค้าเสรีก็จะไม่เกิดแน่นอนสำหรับวงการปืน

ไม่ทราบว่าจะมีใครกล้าตายที่จะเปิดโปงร้านขายปืนบ้างหละครับ....แค่เอาเจ้าหน้าที่สรรพากรเข้าไปตรวจสอบบัญชีก็เสร็จแล้ว อีกอย่างต้องมีคนกล้าที่จะเปิดโปงการคอรับชั่นในกรมการปกครองที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากร้านปืน จากประชาชนที่ขออนุญาตมีและใช้อาวุธปืน  ถ้าทำได้ประชาชนก็จะได้ซื้อปืนได้ในราคาที่สมเหตุและผล ต่อให้รัฐบาลลดภาษีลงอีกหรือไม่เก็บภาษี...ยังไงปืนก็ยังแพงอยู่ดี.....หากเราไม่ปราบพวกเหลือบในวงการปืนให้สิ้นซาก

......หลายคนคงไม่ได้อ่าน...นี่แค่ดอกแรก....ยังมีอีกหลายดอก....
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02pol04010150&day=2007/01/01

ยากครับ  ตราบใดทีตลาดปืนยังเป็นของตลาดผู้ขาย  ซึ่งผู้ขายผูกขาด ถึงแม้ว่าภาษีจะลดลงก็ตาม    ::)

   ราคาไม่ลดครับ...นอกจากความต้องการปืน.....ที่สูงขึ้นทุกปี....แล้วยังเจอมุขเดิมๆของร้านปืน.....จะบอกว่าโคต้านี้....จ่ายเงินไปตั้งแต่กลางปีที่แล้ว.....บาทจะอ่อนจะแข็ง.....ไม่สนใจ.....ตูจะขายราคานี้.....จะซื้ออ่ะป่าว.....อิอิ  ;D ;D ;D

ผมรับความจริงได้ครับแต่ความจริงมันต้องสมเหตุสมผลของมัน ปัญหาราคาปืนผมรับไม่ได้จริงๆ แต่ถ้าถามว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร บอกตรงๆ ว่าไม่รู้ ประชาชนอย่างผม อย่างพี่ๆ น้องๆ ทั่วประเทศ (ยังเว้นไว้สักพวกก็ได้) จะใช้สิทธิ์ในการเป็นพลเมืองไทยอย่างไรกับปัญหานี้ ผมยังมองไม่เห็นทาง หรือว่ามีคนจะไปทุบปืนโชว์ให้ออกข่าวดังไปเลยเหมือนกรณีรถยี่ห้อหนึ่งมันคงไม่ได้ ขืนทำคงเป็นเรื่องตลกระดับชาติแน่ๆ

ที่หลายๆ คนบอกอาวุธปืนไม่ใช่สินค้าที่จำเป็นเหมือนกับสบู่ ยาสีฟัน แต่ทำอย่างไรให้ม้นราคาเหมาะสม ผมเคยเชื่อว่าการผูกขาดสินค้าจะนำมาซึ่งปัญหาของตัวสินค้าหรือองค์กรนั้นๆ แต่กรณีนี้อาจจะไม่ใช่เพราะอะไรผมก็ไม่ทราบ  :-[

กล็อคกับซีแซด ขึ้น ไป 70 k แล้วเด้อ พี่น้อง...

ขอบคุณท่านโชกุนครับ ไม่ทราบข่าวเรื่องนี้เลยจริงๆ  :OO :OOมีประโยชน์มากครับ

Demand VS Supply

ราคาคงลงยาก เป็นโอกาสและข้ออ้างของร้านปืน..

ผมเกิดความสงสัย.... ถ้าเราสามารถร้องเรียน... เปิดโปง... ประจาน  ว่าร้านปืน "ค้ากำไรเกินควร" แล้วร้านปืนทั้งหลายถูกปิดไปหมดเลย....  คราวนี้บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสิทธิ์ในช่องทาง  "สวัสดิการ" จะซื้อปืนจากไหนครับ

สงสัยว่ารัฐฯ จะบีบให้ปืนแพงขึ้นไปเรื่อยๆ  เพื่อใช้มาตรการทางเศรษฐกิจ เป็นตัวกำหนดจำนวนปืนในมือประชาชน ??

คนที่รักชีวิตและอยากป้องกันตัวเองอย่างเรา ความคิดเห็นส่วนตัว ในชีวิตก่อนการเริ่มต้นปืนกระบอกแรกที่ได้รองยิ่ง
จะเป็นปืนที่ไม่มีทะเบียน(ปืนเถื่อน) และใช้ประมาณ 3-10 กระบอก ในช่วงอายุ 16-20 ปี จากนั้นก็มีแนวคิดที่เปลี่ยนไป ว่าจะไม่หวนกลับไปใช้ไม่ยุ่งเกียวกับปืนเถื่อนอีก และตอนนี้ก็ยังไม่มีปืนสักกระบอก ก็เลยได้แต่รอๆ ราคา แต่หากจะโดนบีบเช่นนี้ ก็คงต้องรอๆ แต่ยังยืนยันว่าจะไม่ใช้ปืนเถื่อนอีก ที่มีราคาที่ 9. 6,000-8,000.- 11. 6,000-8,000.-  ak 5,500.- .38 4,500  12. 500-800.- .22 700-1,200.- .357 หายากมาก .410 500-700.- บรรจุกระบอก(แก๊ป) 1,800-2,200.-

 ;D ;D ;D

ไม่มีใครไปทำอะไรใครหรอกครับ   ;) ;) ;)  มาตรการเรื่องภาษี  เป็นเรื่องของรัฐที่เรียกเก็บต่อ
ธุรกิจที่ทำมาค้าขายปกติ  กำไรหรือขาดทุน  ทุกคนก็อยู่ใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน   :D :D

ตอนนี้หุ้นร่วงไม่ถึง700   ทุกคนขาดทุนหมด   แต่ระบบภาษีมูลค่าเพิ่มซึ่งเป็นกฎหมายคนละฉบับ
ไม่ได้ยกเว้นอะไรทั้งสิ้น    กรุณาเข้าใจใหม่ครับ   :D :D

ลองนึกดูนะครับต่อให้มันมีร้านดีอยู่บ้างมันก็เท่านั้น เพราะร้านนั้นก็ขายได้แค่ไม่กี่กระบอก   สุดท้ายเราก็ ต้องไปดิ้นรนหาแล้วก็เจอโก่งอีกแหละครับ

   เรื่อง ราคาปืน ขึ้น นี่ผมพ่อรับได้นะครับ แต่ขึ้นแบบไม่มีเหตุผล ขึ้นบ่อยๆ ขึ้น ตามใจชอบ ไม่มีบรรทัดฐาน แบบนี้ ผมว่าเอาเปรียบประชาชนมากเกินไป ครับ อย่างปีที่ผ่านมาเนี่ยถ้าจำไม่ผิด น่าจะขึ้นมา2-3รอบแล้วปี ใหม่ยังขึ้นอีก ตายเลยชาวบ้านที่มีความจำเป้นต้องใช้ปืน แต่งบจำกัด เลยกลายเป้นว่าวงการร้านขายปืน เป็น วงการ ที่ เน้นลูกค้าร่ำรวยเท่านั้น คนที่พอมีอันจะกินก็ซื้อ แบบลำบาก  คนหาเช้ากินค่ำชีวิต ไม่มีค่า ก็ถูก พวก โจรแบ่งแยกแผ่นดินยิงตายเหมือนสุนัข เพราะไม่มีเงินซื้อ ปืนไว้ต่อสู้
   ที่ผมบ่นนี้ ไม่ใช่ไม่ควรขึ้นราคาปืน แต่ผมว่าควรขึ้นตามสมควร ไม่ใช่ตามใจ มีแต่จะเอาอย่างเดียว

ได้อ่านแล้วรู้สึกดีใจครับที่มีคนในนี้รู้ข้อมูล เมื่อใครได้อ่านแล้วก็นำไปบอกต่อ ๆ กันนะครับ จะได้กระจายไปสู่วงกว้าง ว่ามันเกิดการผูกขาดอย่างไร

ได้แคฝันและหวังเท่านั้นละครับว่าปืนราคาจะถูกลง.....

อ่านแล้วสบายใจครับเป็นไปตามกลไก คนนิยมน้อยของมักแพง ทำใจแล้วครับ

ไม่ลดแน่ๆครับ  ขนาดราคาสูงยังขายได้  จะลดราคาไปทำไมกัน

ทำไม่ไม่เห็นใจคนรักปืนเหมือนกันมั่งนะ  เซ็ง

 :~)ขออนุญาติเซ็งด้วยคนเห็นกระทู้เรื่องราคาปืนทีไรเซ็งทุกที :~)

ขึ้นได้ขึ้นไป...:P

รับทราบ

กลุ้ม โทรไปถามร้าน .... เมื่อวาน  G26 ,CZRami  เจ็ดสิบเค....

               สมมุติ   คุณต้องการซื้อปืน GLOCKหรือCZ ขนาด9มม.แต่ทุกร้านขายกระบอกละ100K

     คุณจะซื้อหรือเปล่าครับ  ถ้าปล่อยให้ขึ้นราคาแบบนี้คงได้เห็นอีกไม่นาน