เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: โมเช่ ดายัน ที่ มกราคม 20, 2007, 03:41:43 PM



หัวข้อ: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: โมเช่ ดายัน ที่ มกราคม 20, 2007, 03:41:43 PM
>รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
>ฉันมีแฟนอยู่หนึ่งคน เราเติบโตมาด้วยกัน ชื่อว่า “จิน”
>ฉันคิดกับเขาแค่เพื่อนมาโดยตลอด
>จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วตอนที่เราไป Club trip ด้วยกัน
>ฉันพบว่า “ฉันตกหลุมรักเขา” เสียแล้ว
>ก่อนที่เราจะกลับจากที่ไปเที่ยว “ฉันได้สารภาพรักกับเขา”
>ในไม่ช้า “เราก็กลายมาเป็นคู่รักกัน” แต่เราสองคนรักกันในทางที่ต่างกัน
>ฉันสนใจแต่เขาเพียงคนเดียวเสมอ แต่ว่า
>ข้างกายเขากลับมีผู้หญิงหลายคนเข้ามา สำหรับฉันแล้ว
>เขาเป็นผู้ชายคนเดียว
>แต่สำหรับเขาฉันอาจจะเป็นเพียง ผู้หญิงคนนึงเท่านั้น.....
>"จิน อยากไปดูหนังไหม" ฉันถามเขา
>"เราไปไม่ได้"
>"ทำไมเหรอ หรือว่าต้องอ่านหนังสือที่บ้าน?"
>ฉันรู้สึกถึงความผิดหวังที่เข้ามาในใจฉัน
>"เปล่าหรอก เรานัดกับเพื่อนไว้..." เขาจะเป็นแบบนี้เสมอ
>เขาพบเพื่อนผู้หญิงต่อหน้าฉัน เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
>สำหรับเขาแล้วฉันคือเพื่อนหญิงคนนึงเท่านั้น คำว่ารัก
>ออกมาแค่จากปากของฉันเท่านั้น
>ตั้งแต่ฉันรู้จักเขา ฉันไม่เคยได้ยินเขาพูดคำว่ารักมาก่อน
>ไม่เคยมีฉลองวันครบรอบสำหรับพวกเรา เขาไม่เคยพูดอะไรตั้งแต่วันแรก
>และมันก็เป็นแบบนั้นต่อไป 100 วัน ก็แล้ว.....200วันก็แล้ว
>ทุกวันก่อนที่เขาจะพูดคำลา
>เขาจะแค่จะให้ตุ๊กตาตัวนึงกับฉันทุกวันไม่เคยขาด
>ฉันไม่รู้ว่าทำไม...
>จนกระทั่งวันหนึ่ง
>ฉัน: เออ จิน เรา....
>จิน: อะไรเหรอ...อย่าอ้ำอึ้งน่า แค่พูดมา..
>ฉัน: เรารักนายนะ
>จิน:....เออ เอาตุ๊กตาตัวนี้ไปแล้วก็กลับบ้านซะนะ เขาไม่ใสใจคำ 3
>คำของฉัน แล้วก็ส่งตุ๊กตาให้ฉัน จากนั้นเขาก็หายไป
>เหมือนกับว่าเขากำลังวิ่งหนีฉัน
>ห้องฉันเต็มไปด้วยตุ๊กตาที่เขาให้ฉันทุกวัน ทีละตัวทีละตัว จนเต็มไปหมด
>จนวันหนึ่งมาถึงวันเกิดของฉันตอนฉันอายุ 15 ตอนที่ฉันตื่นขึ้นมาตอนเช้า
>ฉันวาดฝันว่าจ่ะมีปาร์ตี้กับเขา
>แล้วฉันก็ขังตัวเองไว้ในห้องนอน รอโทรศัพท์จากเขา
>แต่ว่า......ข้าวเที่ยงก็แล้ว...ข้าวเย็นก็แล้ว.....ในไม่ช้าท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำ...เขาก็ยังไม่ได้โทรมา
>ฉันก็ไม่อยากที่จะเฝ้าดูโทรศัพท์อีกต่อไป จากนั้นประมาณตีสอง
>เขาก็โทรมาหาฉัน ปลุกฉัน...
>เขาบอกให้ฉันออกไปหาเขาที่หน้าบ้าน ฉันยังรู้สึกดี
>แล้ววึ่งออกไปหน้าบ้านอย่างมีความสุข
>ฉัน: จิน....
>จิน:นี่.....เอานี่ไป
>อีกแล้ว เขาให้ตุ๊กตากับฉันอีกแล้ว
>ฉัน: นี่อะไร
>จิน: ไม่ได้ให้เมื่อวานนี้ ก็เลยต้องให้ตอนนี้ กลับบ้านก่อนนะ บาย
ฉัน: เดี๋ยว!เดี๋ยว! รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?
>จิน: วันนี้เหรอ? อู? ฉันรู้สึกเศร้า
>ฉันหลงคิดว่าเขาจำวันเกิดของฉันได้
>เขาหันกลับไปแล้วก็เดินจากไปเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
>จากนั้นฉันตะโกน เดี๋ยว!
>จิน: มีไรจะพูดเหรอ?
>ฉัน: บอกเรามา บอกเรามาว่านายรักเรา....
>จิน: อะไรนะ!
>ฉัน: บอกเรามาสิ ฉันทิ้งความอ่อนแอของฉันไว้ข้างหลัง และจับตามองเขา
>แต่ว่าเขาแค่พูดง่าย ๆ อย่างเยือกเย็น แล้วก็ไป...
>"เราไม่อยากพูด....ว่าเรารักใครง่าย ๆ ถ้าอยากได้ยินมากนักละก็
>หาคนอื่นแทนเราซะ"
>นั่นคือสิ่งที่เขาพูด แล้วเขาก็จากไป
>ขาของฉันรู้สึกชา...แล้วฉันก็ทรุดลงไปบนพื้น เขาไม่อยากพูดมันง่าย ๆ
>เขาทำอย่างนั้นได้ไง?
>ฉันรู้สึกว่า... บางทีเขาอาจจะไม่ใช่คนที่ใช่สำหรับฉันก็ได้...
>จากวันนั้น ฉันขังตัวเองในบ้าน และร้องไห้ เอาแต่ร้องไห้
>เขาไม่ได้โทรหาฉันถึงยังไง ฉันก็ยังรออยู่
>เขายังวางตุ๊กตาไว้หน้าบ้านฉันทุก ๆ วัน เดือนนึงหลังจากนั้น
>ฉันรวบรวมตัวเอง แล้วก็ไปโรงเรียน
>แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ความเจ็บปวดของฉันกลับมาอีกครั้งก็คือฉันเจอเขาบนถนนกับผู้หญิงคนอื่น...
>เขามีรอยยิ้มบนใบหน้า
>รอยยิ้มแบบที่ฉันไม่เคยเห็นตอนที่เขาถือตุ๊กตาที่เหล่านั้น
>ฉันวิ่งตรงกลับบ้านและมองตุ๊กตาในห้อง แล้วน้ำตาก็ไหลออกมา
>เขาให้ตุ๊กตาฉันทำไม?
>เขาอาจจะเอาตุ๊กตาพวกนี้มาจากผู้หญิงบางคน
>ด้วยความโมโหของฉัน ฉันขว้างตุ๊กตาพวกนั้นไปรอบห้อง
>ทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดัง เขาโทรมา เขาให้ฉันออกมาที่ป้ายรถบัสหน้าบ้าน
>ฉันพยายามจะทำใจให้เย็นลง แล้วเดินออกไปที่ป้ายรถ ฉันบอกกับตัวเองว่า
>ฉันกำลังจะลืมเขา เรื่องของเราจะจบลง
>จากนั้นเขาเดินมาหาฉัน ในมือถือตุ๊กตาตัวใหญ่เอาไว้
>จิน: โจ ฉันคิดว่านายจะโกรธมาก แต่ว่านายออกมาจริง ๆ เหรอ?
>ฉันยังรู้สึกเกลียดเขาอยู่
>แต่ได้แต่ทำเป็นไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วพูดจาหยอกเย้าเขา
>ในไม่ช้าเขาก็ให้ตุ๊กตากับฉันเหมือนอย่างเคย
>ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน
>จิน: อะไรกัน?..ทำไมล่ะ?
>ฉันดึงตุ๊กตาจากเขาแล้วก็โยนมันทิ้งไปบนถนน
>ฉัน: ฉันไม่ต้องการมัน ไม่ต้องการอีกต่อไปแล้ว!!
>ฉันไม่อยากเจอคนอย่างนายอีกต่อไป! ฉันพูดทุกคำพูดในใจฉัน
>แต่ไม่เหมือนวันอื่นๆ ดวงตาของเขาดูตกตะลึง
>"เราขอโทษ" เขาพูดคำขอโทษเบาๆ
>แล้วเขาก็เดินออกไปที่ถนนเพื่อจะเก็บตุ๊กตานั้น
>ฉัน: โง่จริง! เก็บมันขึ้นมาทำไม ทิ้งมันไปนะ!!!
>แต่ว่าเขาไม่ได้สนใจ ยังคงเดินต่อไปเพื่อจะเก็บมัน ทันใด.....
>บรืน~บรืน~ ด้วยเสียงอันดัง รถบรรทุกคันใหญ่ก็วึ่งมา
>"จิน! หลบ! หลบไป!" ฉันตะโกน...
>แต่ว่าเขาไม่ได้ยินเสียงฉัน เขาก้มลงไปเก็บตุ๊กตา
>"จิน!หลบไป"
>บรืน~!! โครม!!!!!!เสียงนั้นช่างน่ากลัวมาก
>นั่นคือวิธีที่เขาจากไปจากฉัน
>จากไปโดยไม่สามารถลืมตาขึ้นมากล่าวคำใดกับฉันอีก จากวันนั้น
>ฉันจะต้องผ่านความรู้สึกผิดและความเศร้าเพราะว่าสูญเสียเขา...
>และหลังจากที่ฉันใช้เวลา 2 เดือนเหมือนคนบ้า ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมา
>มันคือของขวัญอย่างเดียวที่เขาให้ตั้งแต่เราคบกัน
>ฉันจำวันเหล่านั้นที่ฉันใช้เวลาอยู่กับเขาและเริ่มนับวันที่เราเคยรักกัน
>1..........2......3
>484...485....
>แล้วก็หยุดที่ตุ๊กตา 485 ตัว
>แล้วฉันก็เริ่มร้องไห้อีกครั้งพร้อมกับถือตุ๊กตาตัวนึงในแขนของฉัน
>ฉันกอดมันอย่างแรง ทันใดนั้น... "ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~"
>ฉันปล่อยมันหล่นลงพื้น ตกตะลึง... ฉัน.รั..ก..เธอ??
>ฉันหยิบตุ๊กตาขั้นมาแล้วก็กดลงไปที่ท้องของมัน
>"ฉันรักเธอ~ ฉันรักเธอ~" เป็นไปไม่ได้!
>ฉันกดลงไปที่ท้องของตุ๊กตาทุกตัว แล้วข้างๆฉันก็เต็มไปด้วยเสียง
>"ฉันรักเธอ~ "
>"ฉันรักเธอ~ "
>"ฉันรักเธอ~ " คำพูดเหล่านั้นหลั่งไหลออกมาไม่หยุด ฉัน...รัก....เธอ...
>ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น? ว่าหัวใจของเขาอยู่ข้าง ฉัน ปกป้องฉันไว้
>ทำไมฉันไม่รู้ตั้งแต่ตอนนั้น ว่าเขารักฉันขนาดนี้?
>ฉันหยิบตุ๊กตาอีกต้วหนึ่งใต้เตียง แล้วก็ กดท้องของมัน
>มันเป็นตุ๊กตาตัวสุดท้าย ตัวที่ตกบนถนน ยังมีคราบเลือดของเขาติดอยู่
>เสียงที่ออกมาเป็นเสียงที่ฉันคิดถึงมาก
>"โจ...รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร? เรารักกันมา 486 วันแล้วนะ นายรู้ไหมว่า
>486 คืออะไร?
>เราบอกรักนายไม่ได้....อืม...เพราะว่าเราขี้อายเกินไป....ถ้านายให้อภัยเราและเอาตุ๊กตาตัวนี้ไป
>เราจะบอกว่า เรารักนาย...ทุกวัน...จนวันตาย"
>"โจ...เรารักนาย...." น้ำตาหยดลงมาบนแก้มของฉัน ทำไม? ทำไม?
>ฉันถามพระเจ้า ...ทำไมฉันถึงเพิ่งมารู้ตอนนี้
>เขาไม่สามารถอยู่ข้างกายฉันได้
>แต่ว่าเขารักฉันจนนาทีสุดท้ายของชีวิตเขา


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Virus ที่ มกราคม 20, 2007, 03:58:46 PM
 :<<


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 20, 2007, 04:17:13 PM


โอว    ...............    สุดยอด       :~)

เรื่องความรัก    แบบเศร้า ๆ  ซึ้ง ๆ    อย่างนี้    .................

ผมชอบมาก    ..............    หามาให้อ่านอีกนะครับ

ขอบคุณครับ       :)



หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ มกราคม 20, 2007, 05:08:49 PM
โห.....รักอะไรยาวจัง      ผมม่ายหวายเวลาน้อย


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 20, 2007, 05:11:48 PM
 :D บางทีก้อรู้ว่าเค้ารัก แต่รักเค้าไม่ได้


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 20, 2007, 05:35:51 PM

 :D &ordm;&Ograve;&sect;&middot;&Otilde;&iexcl;&eacute;&Iacute;&Atilde;&Ugrave;&eacute;&Ccedil;&egrave;&Ograve;&agrave;&curren;&eacute;&Ograve;&Atilde;&Ntilde;&iexcl; &aacute;&micro;&egrave;&Atilde;&Ntilde;&iexcl;&agrave;&curren;&eacute;&Ograve;&auml;&Aacute;&egrave;&auml;&acute;&eacute;



  ::)      อืมม์    ..........    มีนัย          ;D








หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ มกราคม 20, 2007, 05:55:55 PM
รักแท้อันแสนยาวนาน..................


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ดอยหลวง ที่ มกราคม 20, 2007, 06:23:19 PM
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

 สิ่งที่คุณเห็นไม่เป็นอย่างที่คุณคิดเสมอไป  ??? ??? ;D ;D


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ณัฐพนธ์ ที่ มกราคม 20, 2007, 06:30:34 PM
ลงอ่างเลยดีกว่าสบายใจ........ ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:28:41 AM
ขอแจมบ้างครับ ( ยางมาก )


เรื่องราวของฉันเกิดขึ้นมาเมื่อ 2 ปีก่อน
>> > เรื่องราวความทรงจำของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันคิดว่า
>> > ในชีวิตนี้ฉันคงตอบแทนสิ่งดีๆ จากชายคนนั้นไม่หมด …..
>> > 2 ปีที่แล้วหลังจากฉันจบการศึกษาปริญญาตรีทางด้านการตลาด
>> > ฉันก็ได้งานทำที่บริษัททางด้าน IT ชั้นนำแห่งหนึ่งในตำแหน่งพนักงานฝ่ายขาย
>> >>> > และที่แห่งนี้เองเป็นจุดเริ่มต้นของสิ่งต่าง ที่ฉันปรารถนาให้เวลานั้นย้อนกลับมาอีกหากทำได้
>> >หลังจากที่ฉันทำงานได้ประมาณ 2 อาทิตย์ผู้จัดการฝ่ายขายได้ให้ฉันเดินทางไปพบลูกค้ารายหนึ่ง
>> >ซึ่งจะว่าไปนี่เป็นงานแรกที่ฉันต้องฉายเดี่ยวเพียงลำพัง
>> > แต่จะว่าไปก็ไม่เดี่ยวนักหรอกเพราะว่ามีเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์
>> > เพื่อที่จะอธิบายรายละเอียดทางด้านเทคนิคให้ลูกค้าฟังอีก 1 คน
>> > ที่ทำงานของฉันอยู่ชั้น 6 ของบริษัท แต่ฝ่ายผลิตภัณฑ์อยู่ชั้น 2


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:30:13 AM
>> >>> > ด้วยความตื่นเต้นกับงานแรกฉันโทรไปหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์คนนั้น
>> >ตามเบอร์ภายในที่อยู่ในเอกสารรายละเอียดงานที่ฉันได้รับมา
>> > "สวัสดีครับ ผมปัญทัตน์รับสายครับ"
>> > นั่นเป็นเสียงของเจ้าของสายปลายทางที่พูดกลับมา
>> > "สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อยุวดีจากฝ่ายขายคะ ดิฉันโทรมาเพื่อสอบถามคุณว่า
>> >>> > คุณได้รับเอกสารเรื่อง Present งานลูกค้าในวันศุกร์นี้หรือยังค่ะ"
>> >>> > "อ๋อ..ครับได้รับแล้วคุณยุวดีต้องการข้อมูลอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่าครับ"
>> >>> > "เปล่าค่ะ เอ่อ…พอดีนี้เป็นงานแรกของดิฉัน
>> >>> > ก็เลยจะโทรมานัดแนะเรื่องเวลาและความพร้อมอื่นๆ นะค่ะ"
>> >>> หลังจากนั้นฉันก็คุยรายละเอียดและนัดแนะเรื่องเวลากับเขาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
>> >>> > ฉันก็เตรียมตัวอย่างหนักด้วยความตื่นเต้น กึ่งๆ กลัวปะปนกัน
>> >>> >>> > แล้ววันนั้นก็มาถึงฉันถือแฟ้มรายละเอียดต่างๆ ที่เตรียมไว้
>> >>> > แล้วเดินมาลงลิฟต์ ไปลานจดรถชั้น B
>> > พอออกจากลิฟต์ฉันกดโทรศัพท์เพื่อโทรหาเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:31:56 AM
>> >>> > แล้วสิ่งที่ฉันไม่อยากได้ก็เข้ามาในโสตรับรู้ของฉันว่า
>> >>> > รถตู้บริษัทที่ฉันทำเรื่องใช้ไว้นั้นเกิดอุบัติเหตุเมื่อเช้านี้
>> >>> > ฉันรู้สึกว่าฤกษ์วันนี้ชักไม่เข้าท่าเสียแล้ว
>> >>> > ฉันตอบเขาไปว่าถ้างั้นเดี๋ยวขับรถส่วนตัวดิฉันไป
>> >>> > เขาตอบตกลงและจะตามไปที่รถของฉัน
>> >>> > ฉันนั่งสตาร์ทเครื่องรถทิ้งไว้รอเขา และแล้วเขาก็มายืนอยู่ข้างรถ
>> >>> > "คุณยุวดี ใช่ไหมครับ"
>> > นี่คือครั้งแรกที่ฉันพบเขา ผู้ชายที่จะไปทำงานกับฉันวันนี้
>> >>> > ฉันรู้สึกว่าวันนี้ฤกษ์คงจะไม่ดีจริงๆ เสียแล้ว
>> >>> > เพราะผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างรถของฉันตอนนี้ ในสายตาฉันบอกได้เลยว่า
>> >>> > นายนี่จะพูดภาษาคนได้รู้เรื่องหรือเปล่า หน้าตาออกจะต๊องๆ
>> > ไม่มีแววฉลาด
>> > (ไม่น่าตอบคำถามอะไรจากลูกค้าได้เลย)
>> >>> > บุคลิกก็ดูไม่สง่า ยิ่งการแต่งตัวด้วยแล้ว
>> > ฉันไม่รู้ว่านายนี่หลงยุคหรือเปล่า


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:33:30 AM
>>>ฉันได้แต่คิดว่านี่ผู้จัดการของฉันแกล้งฉันหรือเปล่าที่ต้องให้ฉันมาทำงานกับนาย สกั๊งนี่
>> > ตอนนี้เขาเปิดประตูเขามานั่งในรถของฉันแล้ว
>> > ฉันจึงถามเขาไปว่า "คุณจะขับเองไหมคะ"
>> > เขายิ้มและพูดว่า "ผมขับรถไม่เป็นครับ"
>> > นายนี่นอกจากจะเห่ยแล้วยังไม่ได้เรื่องอีก ไม่เป็นสุภาพบุรุษเลย
>> >>> > ฉันขับรถออกมาเพื่อมุ่งหน้าไปยังบริษัทลูกค้า
>> >>> > ตลอดเวลาฉันรู้สึกได้อีกอย่างว่าอีตานี่คงจะเป็นคนใบ้
>> >>> > เพราะถ้าฉันไม่ถามเขาก็ไม่ตอบ ไม่ชวนคุย เอาแต่นั่งมองถนนข้างๆ ทาง
>> >>> > ฉันชักไม่แน่ใจแล้วซิว่ามากับคนปรกติ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:34:49 AM
>>>พอมาถึงบริษัทลูกค้าเขาเป็นคนเดินนำหน้าฉันไปยังเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์บริษัท
>> >>> > เพื่อขอเข้าพบและอีกหลายๆ อย่างด้วยความคล่องแคล่ว
>> > ฉันเสียอีกที่เงอะๆ เงิ่นๆ เหมือนกับว่าเขาเป็นคนละคนกับนายบื้อเมื่อกี้
>> >>> > เราเริ่มงานวันนี้ได้ด้วยดี
>> > แล้วระหว่างนั้นเวลาที่ลูกค้ามีปัญหาข้อซักถาม
>> > นายบื้อนั่นสามารถตอบได้รวดเร็ว ปราดเปรื่องขัดแย้งกับหน้าตาต๊องๆ ของเขา
>> >>> > อย่างที่ฉันเองก็เผลอนึกชื่นชมอยู่ในใจ เราผ่านงานนั้นมาด้วยดี
>> >>> > ขากลับฉันชวนเขาทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง
>> >>> > แล้วนายบื้อนี่ก็ตอบอย่างหน้าตาเฉยว่ากินไม่เป็น
>> >>> > เชยอย่างที่ฉันเองก็ไม่เคยพบไม่เคยเห็นมาก่อน
>> >>> > ท้ายสุดฉันต้องมานั่งกินข้าวแกงริมทางกับตาบื้อนี่
>> >>> > ฉันได้แต่นึกในใจว่าผู้ชายอะไรไม่มีรสนิยม แถมไร้ยางอายอีกตะหาก
>> >>> > ฉันกลับบริษัทไปพร้อมข่าวดี
>> > หลังจากวันนั้นฉันก็ได้ออกไปทำงานติดต่อลูกค้าบ่อยขึ้น
>> >>> > หน้าที่การงานของฉันรวมทั้งค่าคอมมิชชั่นดีขึ้น
>> >>> > แต่ที่ไม่ดีก็คือต้องไปกับผู้ชายซื่อบื้อนั่นเป็นประจำ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:36:34 AM
>> >>> > หลังจากที่ฉันทำงานที่บริษัทมาเป็นเวลาเกือบปี
>> > ฉันได้รู้จักพนักงานหลายฝ่าย มีเพื่อนมากขึ้น
>> > ฉันก็พบผู้ชายในฝันของฉัน
>> > เขาอยู่ฝ่ายวิศวกรรม แถมอยู่ในตำแหน่งวิศวกรด้วย
>> > หน้าตาดี สมาร์ท ดูดีมีรสนิยมในทุกๆ เรื่อง
>> > และที่สำคัญฉันคิดว่าเขาก็ชอบฉัน เขาชื่ออนันต์
>> > เรารู้จักและสนิทสนมกันเร็วมากจนเรียกได้ว่าเป็นแฟนกัน
>> > อนันต์มักนัดฉันไปทานข้าว ฟังเพลงบ่อย
>> > คำพูดของเขาเป็นคำที่ฉันรู้สึกว่ามันไพเราะน่าฟัง
>> > ทุกๆ เช้าจะมีดอกกุหลาบสีขาวมาวางบนโต๊ะทำงานฉันทุกวัน
>> > และฉันก็มั่นใจแน่นอนว่าเจ้าของดอกกุหลาบนี้ชื่ออนันต์แน่นอน
>> >>> > ฉันมีความสุขและคิดว่าคงรักเขาคนนี้
>> >>> > จนวันหนึ่งฉันออกไปพบลูกค้ารายหนึ่งพร้อมนายบื้อ
>> > ระหว่างที่ฉันขับรถอยู่นั้น นายบื้ออยู่ๆ ก็เป็นฝ่ายถามฉันขึ้นมาว่า
>> >>> > "คุณยุวดีสนิทสนมกับคุณอนันต์ดีจัง
>> > รู้จักกันก่อนหน้ามาทำงานที่นี่หรือครับ"
>> > ฉันตอบนายบื้อไปว่า
>> > "เปล่า…เราพึ่งรู้จักนันต์ที่นี่แหละ"
>> > นายบื้อยิ้มแล้วก็เงียบไปไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลยจนเสร็จงาน
>> >>> >>> > เดือนธันวาคมใกล้วันเกิดของฉัน
>> > ฉันมีโปรแกรมจะไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
>> >>> > และแน่นอนว่าหนึ่งในนั้นมีอนันต์ไปด้วย
>> > เช้าวันเกิดฉันระหว่างที่ฉันดื่มกาแฟอยู่ที่บ้าน
>> >>> > โทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น แต่เป็นเบอร์ที่ไม่คุ้นฉันรับสาย
>> >>> > เสียงที่ได้ยินในสายนั้นเป็นเสียงดนตรีจากหีบเพลงเป็นเพลงอวยพรวันเกิด


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:37:52 AM
>> > พบจบสายก็ตัดไปฉันโทรกลับไปที่เบอร์นั้นปรากฏว่าเป็นเบอร์สาธารณะ
>> >>> > พอฉันมาถึงที่บริษัทบนโต๊ะทำงานฉันมีดอกกุหลาบสีขาววางไว้เช่นทุกวัน
>> >>> > แต่วันนี้มีหีบเพลงรูปเด็กผู้หญิงน่ารักวางไว้ด้วย
>> > ฉันไขลานหีบเพลงนั้น
>> > เพลงที่เปล่งออกมาเป็นเพลงและเสียงเดียวกันกับที่ฉันรับโทรศัพท์
>> >>> > ฉันยิ้มออกมาและอดคิดถึงความน่ารักของอนันต์ไม่ได้
>> >>> > ว่าเขาช่างโรแมนติกอะไรเช่นนี้
>> > ตอนเย็นเราเป็นไปเที่ยวกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง อย่างสุกสนาน
>> >>> > พอเลิกงานขณะที่กำลังจะแยกย้ายกันกลับ
>> > อนันต์เดินเข้ามาหาฉันพร้อมกล่องของขวัญในมือ
>> > เขาก็อวยพรวันเกิดให้ฉันพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญนั้นให้
>> >>> > ฉันมีสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ก็เลยถามอนันต์เรื่องหีบเพลงเมื่อเช้า
>> >>> > แต่เขากลับปฏิเสธว่าเขาไม่รู้เรื่อง ฉันกลับมาบ้านพร้อมความสงสัย
>> >>> > ฉันนั่งพินิจพิเคราะห์เจ้าหีบเพลงอันนั้น
>> > แต่ฉันก็คิดไม่ออกว่าเป็นของใครจริงๆ
>> > แล้วในบริษัทมีคนมาจีบฉันหลายคนก็จริงอยู่
>> > แต่ตั้งแต่ฉันคบกับอนันต์ หนุ่มๆ พวกนั้นก็ล่าถอยกันไปหมด
>> >>> >>> > จนปีใหม่ฉันได้รับการ์ดอวยพรในลักษณะมาวางไว้คู่กับดอกกุหลาบสีขาวเช่นเดิม
>> >>> > มีข้อความที่ทำให้ฉันสงสัยมากขึ้นอีก ในการ์ดนั้นมีข้อความว่า
>> >>> > "คุณอย่ารู้เลยว่าผมเป็นใคร รู้เพียงว่าผมไม่มีเจตนาร้ายต่อคุณ
>> >>> > ขอให้คุณมีความสุขมากๆ ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:39:22 AM
>> > มีความสุขกับคนที่คุณรัก ปรารถนาดี สายลม"
>> >>> > ฉันตัดสินใจแล้วว่าฉันจะต้องหาตัวเจ้าของกุหลาบสีขาวและการ์ดนี้ให้ได้
>> >>> > วันรุ่งขึ้นฉันมาทำงานเช้ากว่าทุกวันและแอบไปนั่งที่โต๊ะทำงานเพื่อน
>> >>> > โดยหลบอยู่หลังพาร์ติชั่นโต๊ะทำงานของเพื่อน
>> >>> > และสิ่งที่ฉันเห็นก็คือผู้ชายคนนั้น
>> >>> > นายบื้อนั่นเองเขาเดินมามองซ้ายมองขวาพร้อมล้วงเอาดอกกุหลาบสีขาว
>> >>> > ออกจากกระเป๋าเอกสารของเขามาวางไว้บนโต๊ะทำงานของฉัน
>> > ฉันโกรธมากฉันลุกขึ้นและเรียกชื่อเขา
>> > เขาตกใจแต่กลับไม่วิ่งหนีไปยืนรอจนฉันเดินเข้าไปใกล้
>> > ฉันถามเขาว่าทำอย่างนี้ทำไมด้วยน้ำเสียงโกรธอย่างเต็มที่
>> > เขาก้มหน้าลงและพูดกับฉันว่า
>> > "ผมขอโทษนะ ถ้าสิ่งที่ผมทำมันทำให้คุณรำคาญ
>> > ผม…ผมแค่อยากทำอะไรให้คุณรู้สึกดีแค่นั้นเอง
>> > ผมรู้ตัวเองดีว่าไม่คู่ควรหรือเหมาะสมกับคุณ
>> > แต่นี่มันเป็นเรื่องของจิตใจ ผมรักคุณ
>> > แต่ผมก็ไม่ต้องการหรือเรียกร้องให้คุณมารักผม
>> > หัวใจคุณเป็นของคุณผมบังคับไม่ได้
>> > เช่นกันนี่ก็หัวใจผมคุณจะห้ามไม่ให้ผมรักคุณผมก็ทำไม่ได้
>> >>> > ผมไม่มีอะไรต่ออะไรมามอบให้คุณได้อย่างคนอื่น
>> > ผมจะมีก็แค่ความหวังดีให้ ถ้าคุณคิดว่ามันผิด
>> > ผมก็ขอโทษและจะไม่มีเหตุการณ์อย่างนี้อีก"
>> > เขาพูดจบเขาก็เก็บดอกกุหลาบนั่นไว้ในกระเป๋าแล้วเดินออกไป
>> >>> > หลังจากวันนั้นก็ไม่มีดอกกุหลาบสีขาวบนโต๊ะฉันอีก
>> > ฉันขอให้ผู้จัดการฉันเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตภัณฑ์คนใหม่
>> >>> > ฉันจึงไม่เจอหน้านายบื้อนั่นอีก
>> >>> > จะมีก็บางครั้งที่เจอแต่เขาก็จะเป็นฝ่ายหลบหน้าฉันตลอด


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:40:54 AM
>> > จนวันหนึ่งฉันตั้งใจลางานช่วงบ่ายครึ่งวันเพื่อไปดูหนังกับอนันต์
>> >>> > พอพักเที่ยงฉันก็ออกไปทานข้าวเที่ยงกับอนันต์ แล้วก็ไปดูหนังกันต่อ
>> >>> > ก่อนเข้าโรงหนังฉันปิดโทรศัพท์มือถือ
>> >>> > หนังสนุกมากหรือเพราะฉันมากับอนันต์ก็ไม่รู้ทุกอย่างก็เลยดูดีไปหมด
>> >>> > พอหนังจบอนันต์ก็มาส่งฉันที่บ้าน
>> > อนันต์กลับไปแล้วฉันก็เดินเข้ามาในบ้าน
>> > บ้านของฉันเงียบจัง
>> > แม่และน้องชายไม่อยู่
>> > ฉันจึงโทรไปหาน้องชาย
>> > น้ำตาของฉันก็ไหลออกมา
>> > แม่ของฉันล้มป่วยด้วยโรคหัวใจ ซึ่งเรื้อรังมานานมาก
>> > หมอเคยบอกให้ผ่าตัดเปลี่ยนหัวใจ
>> > แต่ทางโรงพยาบาลก็ยังหาหัวใจจากผู้บริจาคไม่ได้
>>>และที่มีก็เปลี่ยนกันไม่ได้
>> >>> > จนถึงวันนี้ ฉันงงไปหมด รู้ตัวอีกทีฉันก็มาถึงที่โรงพยาบาล
>> >>> > น้องชายฉันวิ่งมากอดฉันไว้
>> >>> > และบอกกับฉันว่าเมื่อซักครู่มีอุบัติเหตุมีคนเสียชีวิตด้วย
>> >>> >>> และคนที่เสียชีวิตนั้นก็ยื่นความประสงค์ที่จะบริจาคอวัยวะไว้กับโรงพยาบาลด้วย
>> >>> > หมอกำลัง เช็คกันว่าจะเปลี่ยนให้แม่ได้หรือเปล่า
>> >>> > ฉันนั่งรอผลอยู่หน้าห้องผ่าตัดกับน้องชายด้วยความหวัง
>> >>> > แต่กระนั้นฉันกับน้องก็ยังร้องไห้อยู่ด้วยความเป็นห่วงแม่
>> >>> > หมอเดินออกมาและบอกกับเราว่าหัวใจจากผู้ตายสามารถเข้ากับแม่ได้


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:42:32 AM
>> > ฉันดีใจมาก ยิ้มทั้งน้ำตา แม่ฉันกำลังจะหาย แม่ฉันกำลังจะหาย
>> >>> > หัวใจฉันบอกฉันย้ำๆ อยู่อย่างนั้น
>> >>> > การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี
>> > แม่เข้าพักที่ห้องผู้ป่วยในแล้วฉันกับน้องเข้าไปดูอาการแม่
>> >>> >>> แล้วก็กลับบ้านเพื่อที่ฉันจะได้ไปเตรียมของมานอนเฝ้าแม่และให้น้องชายอยู่บ้าน
>> >>> > ระหว่างขับรถกลับบ้านฉันจึงถามน้องชายว่าพาแม่มาโรงพยาบาลอย่างไร
>> >>> > น้องฉันตอบว่าโทรหาฉันตอนที่แม่ป่วยแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับ
>> >>> > เลยโทรไปที่บริษัทหลายครั้ง
>> > เพื่อนของฉันรับและมารับแม่ฉันไปโรงพยาบาล
>> > ฉันเลยถามว่าเพื่อนคนนั้นชื่ออะไร ทำไมไม่เห็นโทรบอกฉันเลย
>> > น้องชายฉันบอกว่า เพื่อฉันเป็นผู้ชายชื่อ ปัญทัตน์
>> >>> > ฉันแปลกใจมากว่านายบื้อนั่นรับโทรศัพท์ที่โต๊ะทำงานฉันได้อย่างไร
>> >>> > และที่สำคัญเขาขับรถมารับ แม่กับน้องฉันได้อย่างไร
>> >>> > แต่อย่างไรเสียพรุ่งนี้ฉันตั้งใจจะไปขอบคุณเขา
>> >>> > และคงต้องขอโทษเขากับเรื่องที่ผ่านๆ มา
>> >>> > เช้าวันรุ่งขึ้นฉันไปทำงาน บนโต๊ะทำงานมีกระดาษโน้ตแผ่นหนึ่งเขียนไว้ว่า
>> >>> > "ขอโทษที่รับโทรศัพท์คุณโดยไม่ขออนุญาต
>> > พอดีผมผ่านมาเห็นว่าดังหลายครั้ง แม่คุณป่วยอยู่โรงพยาบาล…ครับ"
>> >>> > ช่วงสายฉันเดินไปที่แผนกเขาแต่ไม่พบ ฉันจึงถามเพื่อนร่วมงานเขาคนหนึ่ง
>> >>> > คำตอบที่ได้ฉันนั้นทำให้น้ำตาฉันคลอหน่วย อย่างที่ฉันเองก็ไม่เข้าใจ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:43:42 AM
>> > เขา…เขาเสียชีวิตใกล้ๆ กับโรงพยาบาลที่แม่ฉันรักษาตัวอยู่
>> >>> > เขาหัดขับรถได้ไม่นาน นั่นคือสิ่งที่ฉันรู้จากเพื่อนของเขา
>> >>> > ฉันถามเพื่อนเขาว่าศพเขาตั้งอยู่ที่วัดไหน
>> >>> > เพื่อนเขาบอกว่า ศพของเขาอยู่ที่โรงพยาบาล
>> >>> > เขาบริจาคร่างกายให้ไว้กับโรงพยาบาลตั้งแต่ก่อนตาย
>> >>> > อนุสติฉันดึงเรื่องราวมาปะติดปะต่อกัน
>> >>> > ฉันรีบขับรถไปโรงพยาบาล สอบถามเรื่องอุบัติเหตุเมื่อวาน ใช่เขาจริงๆ
>> >>> > ฉันจึงไปถามหมอที่รักษาแม่ฉันว่าหัวใจที่เปลี่ยนให้แม่เป็นของใคร
>> >>> > หมอตอบว่าไม่สามารถบอกได้ แต่ฉันคิดว่ามันคงไม่ผิดจากที่ฉันคิดไว้
>> >>> > หัวใจที่เปลี่ยนให้แม่ฉันเป็นของเขาคนนั้นอย่างแน่นอน
>> >>> > ฉันนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียงของแม่มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง
>> >>> > ภาพของเขาเสียงของเขาก้องอยู่ในจิตใจฉัน
>> >>> > น้ำตามันไหลออกมา ออกมาอย่างที่ฉันไม่เคยคิดมาก่อน
>> >>> > ไม่มีเขาคนนั้นอีกแล้ว ฉันเองคงไม่มีสิทธิแม้แต่คำว่าขอโทษ หรือขอบคุณ
>> >>> >>> > หลายวันต่อมามีเจ้าหน้าที่บริษัทประกันมาติดต่อฉัน
>> >>> > เรื่องสิทธิในการขอรับเบี้ยประกันจากผู้ชายที่ชื่อ ปัญทัตน์
>> >>> > เขาเลือกที่จะให้ฉันเป็นผู้รับเบี้ยประกันของเขา


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:46:12 AM
>> > หลังจากที่ฉันติดต่อจัดการกับเงินประกันของเขา
>> >>> > ฉันก็นำเงินจำนวนนั้นไปบริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ
>> > เท่าที่ฉันรู้จักในนามของเขา
>> > บางส่วนฉันก็เอาไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้เขา
>> > หลังจากวันนั้นมาฉันก็พยายามที่จะสืบค้นเรื่องราวเกี่ยวกับตัวของเขา
>> >>> > ข้อมูลที่ฉันได้มาเป็นสิ่งที่ฉันเองต้องยอมรับว่า
>> >>> > คนคนนี้เป็นที่สุดของสุภาพบุรุษ ที่สุดของนักสู้ชีวิต
>> >>> > พ่อกับแม่ของเขาแยกทางกัน เขาเองอยู่กับยาย
>> >>> > เรียนเก่งได้ทุนเรื่อยมา
>> > หลังจากยายเสียเขาก็ไม่มีพี่น้องหรือญาติที่ไหน
>> > เขาเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดีกับทุกๆ คน ทุกคนเสียใจกับการจากไปของเขา
>> > ฉันรู้สึกว่าเขาเป็นผู้ให้ที่คงไม่มีวันได้รับคืนเลย
>> >>> > ฉันได้บันทึกของเขาจากเพื่อนสนิทของเขาคนหนึ่ง
>> > มีข้อความหนึ่งในบันทึกนั้น
>> > เขาเขียนถึงวันที่ฉันจับได้ว่าเขาเป็นคนส่งดอกกุหลาบให้ฉัน
>> >>> > เนื้อความในหน้านั้นเขียนไว้อย่างปวดร้าว และทุกๆ
>> > หน้าจะมีเรื่องราวของฉัน
>> > และก็เกือบจะทุกๆ
>> > หน้าที่เขามักจะย้ำตัวเองเสมอว่า
>> > "ผมรักคุณนะแต่ผมไม่คู่ควรคุณหรอก ชีวิตผมมันไม่เคยสมบูรณ์
>> > หากชีวิตที่ไม่เติมเต็มของผม มันพอที่จะเติมเต็มให้คุณได้ผมยินดีเสมอ"
>> >>> > ฉันอดที่จะร้องไห้ไม่ได้ทุกครั้งที่อ่านบันทึกของเขา
>> >>> > แต่ฉันก็อ่านมันทุกๆ วันและตลอดไป
>> >>> >>> > วันนี้แม่ของฉันหายเป็นปรกติแล้ว
>> > แม่มักพูดถึงเจ้าของหัวใจที่บริจาคให้ว่าใครหนอ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:47:17 AM
>> > ฉันอยากตอบแม่จังเลยว่าเขาเป็นใคร
>> > แต่ฉันไม่อยากให้แม่รับรู้เรื่องราวเหล่านั้น
>> > ฉันได้แต่กอดแม่ทุกครั้งที่แม่พูดถึง
>> > เพราะอย่างน้อยฉันก็กอดหัวใจอีกดวงหนึ่งไว้ด้วย
>> > กอดเพื่อให้คำว่าฉันขอโทษ ฉันรักเธอ ซึมผ่านไปหาเจ้าของหัวใจ
>> > ที่อยู่ข้ามไป ณ.ที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งไม่มีวันกลับมา

********   จบบริบูรณ์   **************


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 10:50:07 AM
........................................


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Virus ที่ มกราคม 21, 2007, 10:59:19 AM
เหมือนเคยอ่านค่ะ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 21, 2007, 11:11:25 AM
ขอบคุณครับคุณณัฐพล  ......... ทำไมเวลาจะบอกความในใจให้คนที่เราชอบนี่ช่างยากเย็นเสียจริงๆ


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 21, 2007, 12:33:44 PM
 :)  ขอบคุณลุงณัฐ ครับ

ขอบคุณครับคุณณัฐพล ......... ทำไมเวลาจะบอกความในใจให้คนที่เราชอบนี่ช่างยากเย็นเสียจริงๆ

 :D แล้วเวลาบอกกับแฟนคนปัจจุบันว่าเราไปไหน ตอนที่เมื่อต้นปี 49 ที่ห้องอาหารโรงแรมนารายณ์ ล่ะพี่ปู ยากมั๊ย....พลาดพลั๊งอาจถึงตาย....


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ มกราคม 21, 2007, 12:34:46 PM
ถ้ามันบอกรักยากนักก็ให้มันตายซะ ;D ;D


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 21, 2007, 05:22:14 PM



อู้ย    ............    มีเรื่องความรักแบบซึ้ง ๆ  บีบหัวใจ    ...........    มาให้อ่าน    อีกแล้ว       :~)

ขอบคุณครับ    ........    ชอบมาก       ;)




หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 05:43:59 PM



อู้ย    ............    มีเรื่องความรักแบบซึ้ง ๆ  บีบหัวใจ    ........... มาให้อ่าน    อีกแล้ว :~)

ขอบคุณครับ    ........    ชอบมาก    ;)




  พี่Nakin   ชอบจริงๆ หงะ............ผมมีอีกเพียบ ( เก็บมาจากอีเมล์แหละพี่ )


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 21, 2007, 05:51:40 PM


ชอบจริง ๆ  ครับ    .......     :D   

ขอบคุณล่วงหน้าครับ       ;)



หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 05:58:06 PM
                              ปราการแห่งทิฐิ

เป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่บันทึกไว้ในข้อเขียนเรื่องเมตตาภาวนา : คำสอนว่าด้วยรัก ของท่าน ติช นัท ฮันท์

 ชายหนุ่มกับหญิงสาวคู่หนึ่งเพิ่งแต่งงานกันได้ไม่นาน
ฝ่ายชายก็ถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม หญิงสาวไปส่งสามีจนสุดสายตา
เขาหายไปในสงครามเป็นเวลากว่า 3 ปีจึงส่งข่าวคราวกลับมา
เธอดีใจมากจูงมืออ้ายตัวเล็กไปรับผู้เป็นพ่อแต่เช้าตรู่
ทันทีที่พบกันทั้งสองโผเข้าหากัน สัมผัสไออุ่นจากกันและกัน นิ่ง..... นาน.......
จนเกือบลืมไปว่ามีลูกชายตัวเล็กยืนจ้องตาแป๋วอยู่

    ผู้เป็นพ่อดีใจมาก
 ยื่นมือไปหมายกอดลูกชายแต่เจ้าหนูถอยกรูด
แม่ปลอบว่า "อย่าตกใจ   
 เจ้าหนูไม่เคยเห็นหน้าพ่อมาก่อนก็เป็นเช่นนี้แหละ"
ทั้งสามเดินกลับมาตามทางจนถึงตลาด
หญิงสาวขอตัวเข้าไปซื้อข้าวของสำหรับทำกับข้าวมื้อพิเศษ
ชายหนุ่มมีโอกาสอยู่กับลูกชาย
 จึงขออุ้มเจ้าตัวน้อยอีกครั้งหนึ่งแต่ไม่สำเร็จ
เท่านั้นยังไม่กระไร..........................

พอเจ้าลูกชายเริ่มพูดบางสิ่งบางอย่างเขาจึงรู้สึกได้ถึงที่มาแห่งปฏิกิริยาอันผิดปกติ
"น้าไม่ใช่พ่อของหนู พ่อหนูมาหาแม่ทุกคืน พอแม่นั่งพ่อก็นั่งพอแม่ยืนพ่อก็ยืน..."

 เพียงไม่กี่คำเท่านี้เอง       
หัวใจของชายหนุ่มผู้เหนื่อยหนักมาจากสงครามอันแสนหฤโหดยาวนานก็พลันกระด้างดังกับแผ่นศิลา
         
 สักพักหนึ่งพอหญิงสาวเดินกลับมาจากตลาด
เธอก็พบว่าทุกอย่างไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

 เขาไม่เพียงแต่เปลี่ยนไปเป็นคนละคน   
หากหน้าเธอเข้าก็ไม่ปรายตามองอีกต่อไป เธอไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
 เย็นวันนั้น         
อาหารที่เธอบรรจงทำอย่างสุดฝีมือเพื่อต้อนรับการกลับมาของเขาจืดสนิท
ทั้งคู่เข้านอนแต่หัวค่ำ ต่างนอนลืมตาโพลงอยู่ในความมืด

เธอถามตัวเองว่าเกิดอะไรขึ้นขณะที่เธอแวะไปซื้อของ      
เขาถามว่าเธอยังเป็นผู้หญิงคนที่เขาสุดรักอย่างจับใจคนเดิมอยู่หรือเปล่า

ต่างคนต่างถามกันและกันในความมืด ทว่าเป็นการถามที่เงียบงำจนวังเวง
         
 เขาเย็นชากับเธอจากวันแรกจนถึงวันที่สาม ไม่มีการถามไถ่
ไม่มีการโอบกอดอันอบอุ่น   
ไม่มีการรับประทานอาหารร่วมกันอย่างเอร็ดอร่อย
ไม่มีแม้แต่การปรายตามองกันและกันอย่างเต็มสองตาฉันสามีหนุ่มภรรยาสาว
การณ์เป็นไปดังนั้นอยู่จนถึงเย็นวันที่สาม
 แล้วความอดทนของเธอก็สิ้นสุดลง

เธอตัดสินใจลาจากความระทมทุกข์ที่แม่น้ำสายหนึ่ง
ทิ้งปมปัญหาทุกอย่างไว้ข้างหลังอย่างไม่ไยดี


 เย็นวันนั้นเขารู้ข่าวการจากไปของเธอด้วยน้ำตานองทั้งสองแก้ม
เขาไปรับศพเธอมาบำเพ็ญกุศลอย่างเงียบๆในบ้านของตัวเอง
มีเพียงเจ้าหนูเท่านั้นที่อยู่เป็นเพื่อนเขาจนดึกดื่น

และคืนนี้ความลึกลับทั้งปวงก็ได้รับการคลี่คลาย

ตะเกียงน้ำมันก๊าดที่จุดไว้บนโลงศพค่อยๆหรี่ลงจวนเจียนจะดับ   
เขาเติมน้ำมันแล้วจุดใหม่ เปลวไฟโชนแสงวูบวาบ......เขาลุกเดินกลับไปกลับมา
ขณะนั้นเองเงาของเขาทาบทอไปปรากฏยังฝาเรือน

เจ้าหนูชี้ไปที่เงาพลางตะโกนลั่น
" นั่นไง พ่อหนูมาแล้ว พอแม่นั่งพ่อก็นั่ง พอแม่ยืนพ่อก็ยืนคนนั้นแหละพ่อของหนู "
ชายหนุ่มมองตามเจ้าหนู เห็นเงาของตัวเองทาบทออยู่ที่ฝา
จึงเข้าใจขึ้นมาในนาทีนั้นเองว่า "พ่อ" ที่เจ้าหนูเอ่ยถึงก็คือ "เงา" ที่เห็นอยู่นี่เอง

 ปริศนาทุกอย่างกระจ่างแล้ว
 เธอ...คงรักเขามากสินะ
ถึงขนาดสมมุติให้เงาตัวเองเป็นเขา
แล้วบอกเจ้าหนูว่าเงาก็คือตัวเขา คือ "พ่อ"ที่หายไปในสงคราม
 โอ้...ไม่น่าเลย....................................   
         
 ความจริงนี้เจ็บปวดเกินไป   
 เจ็บเกินกว่าหัวใจของคนธรรมดาจะรับไหว

รุ่งขึ้นอีกวัน เขาชดใช้ความผิดพลาดอย่างมหันต์ของตัวเอง      
ด้วยการให้แม่น้ำเป็นตุลาการผู้พิพากษาชีวิตเขาอีกชีวิตหนึ่ง...      
                     
เรื่องราวของเขาและเธอเป็นโศกนาฏกรรมแห่งความรักที่เล่าขานกันมาอีกนานแสนนาน


 วันนั้น หลังจากเจ้าหนูพูดถึง "พ่อ" ของตัวเองให้เขาฟังที่กลางตลาด หากเขาไม่หุนหันพลันแล่น
 มีสติสักนิดหนึ่ง         
ถามไถ่จากเธอว่า "พ่อ" คนที่เจ้าหนูพูดถึงคือใคร

 และหลังจากที่เขาเย็นชา      
ปิดปากเงียบสนิท หากเธอจะอาจหาญถามเขากลับไปว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เธอก็คงไม่ต้องเจ็บจนเกินเยียวยา      
และเขาเองก็คงไม่ต้องจบชีวิตอย่างน่าอนาถเช่นนั้น


 ไม่ใช่เธอไม่รักเขา และไม่ใช่เขาก็ไม่รักเธอ   
 หากทั้งเธอและเขาต่างรัก ต่างภักดีต่อกันอย่างสุดซึ้ง
ความรักของคนทั้งสองบริสุทธิ์ งดงาม หมดจด   
จนกลายเป็นตำนานเล่าขานดังเรื่องราวของวีรบุรุษวีรสตรีผู้พิชิต
            
ความผิดพลาดหากจะพึงมีบนเส้นทางแห่งรักแท้จนกลายมาเป็นโศกนาฏกรรมของคนทั้งคู่
เกิดจากเส้นบางๆของ " ปราการแห่งทิ ฐิ" โดยแท้
            
    หากทั้งเธอและเขา ยอมวาง " ทิฐิ " ลง
แล้วหันหน้าเข้าหากันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย   
ถามไถ่จากกันและกันอย่างให้เกียรติกันทั้งสองฝ่าย
ไหนเลยจะต้องมาจำพรากทั้งที่ยังรักล้นใจเช่นนั้น

รักเอยรักนั้นงดงามบริสุทธิ์ อ่อนหวาน ไม่ใช่ความผิดของความรักหรอกจะบอกให้
ผิดที่ใจอันมากด้วย "ทิฐิ" ของทั้งคู่นั่นต่างหาก
   
ปรารถนารักที่ยั่งยืนหมื่นปี อย่าให้มี"ปราการแห่งทิฐิ"มากางกั้นแค่นั้นพอ........





หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: m620- รักในหลวง ที่ มกราคม 21, 2007, 06:02:30 PM
เรื่องแรก จิน กับ โจ
ตอนหลังๆ อ่านดูเหมือนชายทั้งคู่เลยครับ ;D


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 06:05:10 PM
พี่ Nakin จำเพลงนี้ได้ไหมครับ

      Tell Laura I Love Her

ขับร้องโดย( Ray Peterson )               

Laura and Tommy were lovers
He wanted to give her everything
Flowers, presents,   
But most of all, a wedding ring
      
He saw a sign for a stock car race
A thousand dollar prize it read
He couldn't get Laura on the phone
So to her mother, Tommy said
      
Tell Laura I love her   
Tell Laura I need her
Tell Laura I may be late
I've something to do, that cannot wait
      
He drove his car to the racing grounds
He was the youngest driver there
The crowed roared as they started the race
Around the track they drove at a deadly pace
      
No one knows what happened that day
Or how his car overturned in flames
But as they pulled him from the twisted wreck
With his dying breath, they heard him say
      
Tell Laura I love her   
Tell Laura I need her
Tell Laura not to cry   
My love for her will never die
      
Now in the chapel where Laura prays
For her poor Tommy, who passed away
It was just for Laura he lived and died
Alone in the chapel she can hear him cry
      
Tell Laura I love her   
Tell Laura I need her
Tell Laura not to cry   
My love for her will never die
      
Tell Laura I love her   
Tell Laura I need her
Tell Laura not to cry   
My love for her will never die



หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 06:07:00 PM
แปลผิดแปลถูกนะพี่


                     บอกลอว์ล่าว่าผมรักเธอ

ลอว์ล่า และ ทอมมี่ เป็นคู่รักกัน         
เขามอบทุกๆสิ่งให้กับเธอ         
ดอกไม้ , หนังสือ         
แต่ที่สุดของทั้งหมดทั้งมวลคือ แหวนแต่งงาน         
         
เขาเห็นป้ายประกาศการแข่งรถ         
สิ่งที่เขาเห็นคือ เงินรางวัล 100 ดอลลาร์ สำหรับผู้ชนะ         
เขาไม่มีโอกาสได้คุยกับลอว์ล่าทางโทรศัพท์         
ทอมมี่จึ่งกล่าวกับแม่ของเธอว่า         
         
บอกลอว์ล่าว่าผมรักเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าผมต้องการอยู่กับเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าผมอาจจะช้าไปนิดหน่อย         
ผมมีบางสิ่งที่ต้องทำ , ซึ่งไม่สามารถรอได้         
         
เขาขับรถของเขาไปยังสนามแข่ง         
เขายังเป็นนักขับที่ยังอ่อนหัดอยู่         
เสียงชัยโยโห่ร้องเมื่อการแข่งขันเริ่มขึ้น         
พวกเขาขับรถไปรอบๆเส้นทางแข่งขันอย่างเอาจริงเอาจัง         
         
ไม่มีใครสักคนที่จะรู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในวันนั้น         
รถของเขาคว่ำลงท่ามกลางเปลวไฟ         
แต่ทุกๆคนช่วยดึงตัวเขาออกจากซากรถ         
แม้ว่าลมหายใจของเขากำลังจะสูญสิ้น,ทุกๆคนได้ยินเขาพูดว่า         
         
บอกลอว์ล่าว่าผมรักเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าผมต้องการอยู่กับเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าอย่าร้องไห้         
ความรักของผมที่มีต่อเธอจะเป็นนิรันด์         
         
ณ เวลานี้ ลอว์ล่าได้พร่ำสวดมนต์ในห้อง         
สำหรับเคราะห์กรรมของทอมมี่ , ที่ใครๆเห็นว่าเป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว         
สำหรับลอว์ล่ามันเหมือนเพิ่งจะเกิดขึ้นไม่ว่าเขายังคงอยู่หรือจากไปแล้ว         
ท่ามกลางความเงียบสงัดในห้อง เธอได้ยินเสียงร้องไห้ของ ทอมมี่         
         
บอกลอว์ล่าว่าผมรักเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าผมต้องการอยู่กับเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าอย่าร้องไห้         
ความรักของผมที่มีต่อเธอจะเป็นนิรันด์         
         
บอกลอว์ล่าว่าผมรักเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าผมต้องการอยู่กับเธอ         
บอกลอว์ล่าว่าอย่าร้องไห้         
ความรักของผมที่มีต่อเธอจะเป็นนิรันด์         


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 21, 2007, 06:08:42 PM


อืมม์    ..................    เรื่องราว    เข้ากับ    ชื่อกระทู้    ...........    (  ปากหนักกันทั้งนั้นเลย  )       :~)


ขอบคุณครับ       :)


   


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 06:08:47 PM
อันนี้เพลงแก้ครับพี่

         Tell Tommy I miss him

ขับร้องโดยSkeeter Davis         
         
Tommy my sweetheart has gone now         
He's up in the heaven somewhere so little star high above         
If you see Tommy tell him all my love         
         
Tell Tommy I love him         
Tell Tommy I miss him         
Tell him thro' I may cry,         
My love for her will never die         
         
He drove his car in the stock car race         
To win money so we could wed         
He wanna so much to make me his wife         
Mow my lovely Tom though he lost his life         
I'm so lonely without him near         
Oh, how I miss his warm embrace         
I love no other, I want him to know         
Oh little star please tell him so         
         
Although he wanted to give me the world         
Why did he do such a reckless thing         
Little star he should realize         
I was wretched and mean when he looked into my eyes         
         
Tell Tommy I love him         
Tell Tommy I miss him         
Tell him thro' I may cry,         
My love for her will never die         


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 06:10:44 PM
แปลแบบงูๆปลาๆ ( อีกตามเคย )

                 บอกทอมมี่ว่า ฉันคิดถึงเขา

ทอมมี่ที่รักตอนนี้เธอจากฉันไปแล้ว      
เธออยู่ ณ ที่ใดที่หนึ่งบนสรวงสวรรค์ ดาวดวงน้อยข้างบน      
ถ้าเธอพบทอมมี่ บอกเขาด้วยว่าฉันรักเขาคนเดียว      
      
บอกทอมมี่ด้วยว่าฉันรักเขา      
บอกทอมมี่ด้วยว่าฉันคิดถึงเขา      
บอกเขาว่า ฉันอาจจะร้องไห้      
ความรักของฉันที่มีต่อเธอจะเป็นนิรันด์      
      
เขาขับรถของเขาในการแข่งขัน      
เพื่อนำเงินจากชัยชนะมาใช้ในการแต่งงานของเรา      
เขาต้องการฉันเพื่อเป็นภรรยาของเขา      
ทอมที่รักของฉันเขาได้จากไปแล้ว      
ฉันรู้สึกโดดเดียวเมื่อไม่มีเขาอยู่เคียงข้าง      
โอ , ฉันยังคงคิดถึงการโอบกอดอันแสนอบอุ่นของเขา      
ฉันต้องการให้เขารับรู้ , ว่าฉันรักเขาเหนือสิ่งอื่นใด      
โอ้เจ้าดาวดวงน้อยโปรดบอกเขาด้วย      
      
แม้ว่าเขาต้องการให้โลกทั้งโลกกับฉันก็ตาม      
ทำไมเขาถึงไม่ไตร่ตรองใคร่ครวญดูก่อน      
ขอให้เขาสมปราถนาด้วยเถิดดาวดวงน้อย      
เมื่อเขามองเข้ามาในดวงตาของฉัน ฉันมีแต่ความเศร้าหมอง      
      
บอกทอมมี่ด้วยว่าฉันรักเขา      
บอกทอมมี่ด้วยว่าฉันคิดถึงเขา      
บอกเขาว่า ฉันอาจจะร้องไห้      
ความรักของฉันที่มีต่อเธอจะเป็นนิรันด์      


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 21, 2007, 06:16:47 PM


Tell    Laura   ....    I    love    her

Tell    Tommy    ....    I    miss    him

เพลงเก่า    .............    เศร้า ๆ  ซึ้ง ๆ  เหมือนกัน    .........  (  น่าสงสารทั้ง  2  คน  )      :)


ขอบคุณครับ       :)



หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มกราคม 21, 2007, 06:18:22 PM
อีก 1 เรื่องนะพี่


                             ไม่ใช่สิ่งสำคัญ

>> ...ชายหนุ่มไฟแรงมุมานะทำงานอย่างมุ่งมั่น เขามีความฝันจะสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับแฟนสาว
>เธอจะมารอการกลับมาหน้าประตูบ้านเขาทุกวัน เขาพบเธอยิ้มแย้มต้อนรับสนทนากันและเธอก็กลับไป
>วันนี้เขากลับช้ากว่าปกติมาก แต่แปลกที่ยังเห็นเธอยืนรอเช่นทุกวัน
>"โทษทีนะที่รัก วันนี้มีงานด่วนเลยกลับช้า" เธอยังยิ้มให้เขา
>
>"คุณทำงานจนมีรถมีบ้านอย่างที่ตั้งใจแล้วทำไมยังทำงานหนักอีก"
>
>"ผมอยากมีบ้านที่มีบริเวณมากกว่านี้ รถที่ดูโอ่อ่ากว่านี้..เพื่อคุณนะจ้ะ"
>
>เวลาผ่านไป1ปีหญิงสาวมาบ้างไม่มาบ้างแต่เขาไม่มีเวลามาใส่ใจกับเรื่องนี้
>
>วันหนึ่งเธอเอ่ยถามเขา "คุณมีเงินพอจะซื้อบ้านหลังใหญ่รึยัง"
>"ขอเวลาอีกหน่อย ผมอยากซื้อแหวนวงใหม่มาเปลี่ยนให้คุณ"
>
>เขาจุมพิตมือที่สวมแหวนทองวงเล็กเบาๆ"ฉันบอกหรือว่าอยากได้แหวนวงใหม่"
>
>"ผมอยากให้สิ่งที่ดีที่สุดเสมอ..ที่รัก" 
>3เดือนแล้วที่เขาไม่เห็นเธอหน้าประตูบ้าน วันนี้เขามีบ้านหลังใหญ่จึงตัดสินใจลางาน1วันเพื่อไปหาเธอ
>เขาขับรถคันหรูผ่านเส้นทางที่ขรุขระอย่างยากลำบาก "นี่คุณต้องเดินผ่านทางเส้นนี้มาหาผมทุกวันเหรอ.."
>
>เมื่อมาถึงแม่ของเธอออกมาต้อนรับและมอบกล่องไม้ใบหนึ่งให้เขาและบอกทางไปสถานที่ที่เขาจะพบเธอได้
>....เนินเขาเล็กๆรายล้อมไปด้วยดอกไม้แท่นหินสลักชื่อหญิงสาวตั้งอยู่กลางเนิน
>มือสั่นเทาเปิดกล่องไม้ อย่าง ช้าๆ ข้างในอัดแน่นไปด้วยกระดาษแผ่นเล็กเขาเริ่มอ่านข้อความทีละใบ
>
>"วันนี้คุณกลับมาช้า ฉันรอ2ชม.ไม่เป็นไร ฉันรักคุณ"
>"วันนี้ฝนตกฉันยังรอแม้ไม่เจอคุณ แต่ฉันยังรักคุณ"
>"ฉันเริ่มป่วยจนไปหาไม่ได้คุณคงไม่ทันสังเกต แต่ฉันยังรักคุณ"
>"วันนี้คุณบอกจะเปลี่ยนแหวนวงใหม่..คุณคงลืมว่าฉันตอบแต่งงานกับคุณเพราะแหวนวงนี้ ฉันยังรักคุณ"
>"ฉันป่วยมากจนไม่อาจไปพบคุณได้..ภาวนาให้คุณรู้สึกตัวสักทีว่าฉันแค่ต้องการคุณ เพราะฉันรักคุณ"
>
>.....ชายหนุ่มเรียนรู้แล้วว่าบางทีสิ่งที่เขาไขว่คว้ามาตลอดชีวิตอาจเทียบไม่ได้กับสิ่งเล็กน้อยที่เขาเคยได้รับจนเป็นเรื่องปกติของทุกวัน
>รถคันหรูแล่นไกลออกไปมีเพียงกล่องแหวนเพชรราคาแพงหน้าหลุมศพที่ดูไม่เหลือค่าอะไรสำหรับเขาอีกต่อไป
>
>ผมมีบ้านหลังใหญ่แต่คงกว้างไปสำหรับอยู่คนเดียว
>ผมมีรถราคาแพงแต่ไม่รู้จะขับพาใครไปไหน
>ผมมีเวลาอยู่กับงานครึ่งชีวิตแต่ไม่เคยมีเวลาที่จะได้อยู่กับคนที่ผมรัก
>ตอนนี้ผมมีเงินมากมายแต่ไม่อาจซื้อเวลาเพียง1นาทีที่จะบอกรักเธอ
>ผมมีทุกอย่างเพียบพร้อมแต่ขาดส่วนที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้ครอบครัวสมบูรณ์ได้
………………………………………………………………………………………….


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ มกราคม 21, 2007, 06:27:18 PM

เรารักใคร   .................    ให้เงิน    ให้สิ่งของ    เท่านั้นไม่พอ      ต้องมีเวลา    .......   ด้วยเนอะ     :)


ขอบคุณครับ      :D



หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: auauto ที่ มกราคม 21, 2007, 06:47:07 PM
ฃึ้งจริงๆๆ  สรุปความรักคือการเสียสละให้คนที่เรารัก(อย่างน้อยต้องมีสักครั้งในชีวิต) :~)


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 21, 2007, 08:45:00 PM
เข้ามาทำความเข้าใจเรื่องรักให้มากขึ้น เผื่อมีโอกาสได้รักใครอีก


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ มกราคม 22, 2007, 07:28:22 AM
เรารักใคร   .................    ให้เงิน    ให้สิ่งของ    เท่านั้นไม่พอ      ต้องมีเวลา    .......   ด้วยเนอะ     

ขอบคุณครับ     

จริงค่ะ..เห็นด้วยค่ะ.


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ มกราคม 22, 2007, 07:42:49 AM
(http://i18.tinypic.com/3z91c9w.jpg)
เรารักคน คนใดมักไม่รัก (เรา)
คนที่ภักดิ์ รักเรา เราไม่หลง
คนที่เรารักเขา (เขา)ไม่พะวง
คนที่หลงรักเรา เราไม่มอง...

ฮือ.....เมาดีก่า... :~)


หัวข้อ: Re: รู้ว่าเขา "รัก"...ก็สายเสียแล้ว
เริ่มหัวข้อโดย: korpat ที่ มกราคม 22, 2007, 09:36:17 AM
ซึ้งจริง ๆ ครับ