เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: Mango ที่ มกราคม 24, 2007, 02:01:17 AM



หัวข้อ: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mango ที่ มกราคม 24, 2007, 02:01:17 AM
เมื่อวานซืนตอนประมาณตีสอง...ผมเข้าเวรอยู่ที่ สน. ได้รับแจ้งจากทางวิทยุมีเหตุชิงทรัพย์กัน
ผู้เสียหายกำลังมาที่ สน. นั่งรอสักพัก ผู้เสียหายก็มาถึง เป็นผู้หญิงอายุประมาณ 30 ต้นๆ
เลยให้เล่าเหตุการณ์ให้ฟัง ผู้เสียหายแกเล่าว่าแกขับรถกลับมาจากออกเวร(เป็นพยาบาลนะครับ)
เพื่อที่จะกลับบ้านแถวถนนร่มเกล้า ขับมาคนเดียว พอใกล้ถึงบริเวณที่เกิดเหตุมีรถจักรยานบยนต์
ขับมาข้างๆลักษณะจะเบียดให้ชิดไหล่ทาง แกเห็นแกก็หักหลบพอหักหลบไปรถก็ไปเสยเอาขอบฟุตบาท
แกก็จอดรถ ไอ้สองคนนั้นมันก็จอดรถ แล้วมันก็เดินมาหาแก พร้อมกับควักเอาเอาปืนออกมา(แกบอกว่า
เป็นปืนออโต้) แต่ไม่รู้ว่ายี่ห้ออะไร แล้วบอกให้แกลงจากรถ แต่พี่ผู้หญิงคนนี้แกก็มีปืนที่แฟนแกซื้อให้รู้สึกว่าจะเป็น
ลูกโม่ .38 นี้แหละ แกก็หยิบออกมาเตรียมไว้กะว่าถ้ามันยิงก่อนแกก็จะยิงสวน แกก็แต่ไม่ทันทีจะได้เตรียมตัวอะไรมากกว่านี้
พวกมันอีกคนนึงก็มาทุบกระจกบริเวณข้างที่นั่งข้างคนขับแล้วเอามีดจี้แก แกเลยทำอะไรไม่ได้ สุดท้ายคนร้ายเลยได้ทั้งปืน
กระเป๋าตังค์ และสร้อยทองหนักสองบาทไป อย่างน้อยผมก็ว่ายังดีที่มันไม่ได้ทำอะไรแก แต่สุดท้ายก็ไปไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ
ตามจับตัวมาได้ รับสารภาพว่าทำมาแล้วหลายครั้ง แถมปืนที่ใช้ก็เป้นปืนปลอมอีกด้วย(ผมไปดูของกลางมาเป็นปืนบีบีกัน)สาเหตุที่
ตำรวจจับได้ก็เพราะเอาปืนกระบอกนั้นมาขายให้กับสายตำรวจซะ เลยโดนสอย อยากให้เป้นอุทธาหรณ์สอนใจสุจริตชนสักนิด
และอยากทราบว่าหากเป็นพี่ๆหากอยู่ในสถานการณืแบบนี้พี่ๆๆจะทำอย่างไง แบบสองรุมนึง มีดนึงอันกะปืนอีกหนึ่งกระบอก
แต่ผมว่าผมจะไม่สู้นะรอพวกมันเอาของไปก่อนและเผลอค่อยสอยทีหลังดีกว่า...รบกวนขอความคิดเห็นจากพี่ด้วย


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ มกราคม 24, 2007, 02:07:02 AM
นอนดึกนะน้อง ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: tOnz ที่ มกราคม 24, 2007, 02:09:02 AM
ผมคงเตรียมก่อน  แต่เหตุการณ์นี้ เป็นผู้หญิงอ่ะครับ ถ้าเป็นผมชนแม่มเลย


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 24, 2007, 02:29:36 AM
 :Pสมมติ...ว่าเป็นคุณผู้หญิงท่านนั้น

 :Pจะชนคนร้าย....ไม่มั่นใจว่า...เป็นคนร้ายจริงหรือเปล่า...อาจเป็นขี้เมา ที่พยายาม จะหอบสังขารกลับบ้าน...หรือไปที่ชอบ...(ชอบที่ไหน ไปที่นั่น)

 :Pพอโดนทุบกระจก...คราวนี้..ต้องมั่นใจว่าเป็นคนร้าย...

 :Pจะยิงล่ะนะ...ว้าปืนแฟน....เด๋วโดนข้อหาฆ่าคนตาย.(กว่าจะหลุด ยาวแน่)...ปืนผิดมือ.....อยู่ในรถด้วย...หูพัง

 :Pชักปืนออกมา...มันเห็นปืน...มันต้องกลัวมั่งแหละ...บังเอิ้น..มันม่ายกลัว

จะทำไงดี

 ;)เปลี่ยนเอียร์ปลั๊ก....เป็นเอียร์มั๊ฟดีก่า...อุดหูได้เร็วกว่ากันเยอะ



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ มกราคม 24, 2007, 02:30:47 AM
ผมว่า ถ้าเป็นผม ไอ้2คนนั้นตาย ตั้งแต่เอารถมาเบียดแล้วครับ ผมขับเหยียบตายแน่ๆ ขนาดรถกระบะผมยังขับชนมาแล้วเลย นับประสาอ่ะไรกับมอเตอร์ไซ ผมไม่เอาไว้หรอกแบบนี้


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mango ที่ มกราคม 24, 2007, 02:35:19 AM
นอนดึกนะน้อง ;D
คร้าบพี่เข้าเวรอยู่คร้าบ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 02:42:58 AM
มีปืนอยู่กับมือแต่ไม่กล้าตัดสินใจยิง...

อย่างนี้ไม่มีปืนดีกว่าคับ...



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ETR ที่ มกราคม 24, 2007, 02:53:23 AM
อ้างถึง
กลับบ้านแถวถนนร่มเกล้า

แล้วเหตุเกิดที่ไหนแน่ครับ ผมอยู่แถวลาดกระบัง พักหลังๆ นี่กลางดึกอยู่ในบ้านได้ยินเสียงหวอรถตำรวจบ่อยเหลือเกิน  :(  :(


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mango ที่ มกราคม 24, 2007, 02:57:44 AM
อ้้อ..ถนนสเ้นร่มเกล้านะครับ
ขนาดว่ามีไฟสว่างอยู่นะครับนี่ยังโดน
ต่อไปต้องระวังตัวนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: P1911- รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 07:21:00 AM
ยิงที่หลังจะกลายเป็นเหตุที่อ้างเป็นข้อต่อสู้ทางกฏหมายที่ค่อนข้างเหนื่อย ถ้าน้องเป็น ตร. ก็น่าจะรู้ข้อกฏหมายดี  ป้องกันหรือป้องกันเกินกว่าเหตุ ดูฎีกาดีกว่า


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ มกราคม 24, 2007, 07:49:16 AM
 :) คนร้ายเลือกเหยื่อที่เป็นผู้หญิง เพราะทราบว่าผู้หญิงตัดสินใจไม่เด็ดขาด

 ;) แต่ถ้าเจอสาวๆในเวปเรา ผมว่าวิญญาณน่าจะออกจากร่างตั้งแต่ขับรถเบียดแล้ว


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: mETEr ที่ มกราคม 24, 2007, 08:12:47 AM
 :-X น่ากลัวมากครับ มีปืนใช่ว่าจะยิงส่งเดชได้ สุจริตชนมีปืนเอาไว้ขู่ให้คนร้ายกลัวเท่านั้น เรื่องจริง ....  ???


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: bigbang ที่ มกราคม 24, 2007, 08:22:42 AM
ขอชมตำรวจสายสืบที่สามารถจับได้ไว


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: saw ที่ มกราคม 24, 2007, 08:40:21 AM
เส้นแบ่งระหว่างจะยิงหรือไม่ยิงนี่  ในทางทฤษฎีแล้วดูไม่ยากที่จะตัดสินใจ   แต่ในทางปฎิบัติแล้วผมว่ามันยาก   เพราะคนดีๆมักจะคิดถึงถึงผลกระทบที่ตามมาอีกหลายๆชั้น   ซึ่งในสถานการณ์แบบนั้นไม่อำนวยให้เราใช้เวลาคิดนานๆ   ดังนั้นถึงจะมีปืนก็จริงก็ใช่ว่าจะคุมครองตัวเราได้   ถ้าไม่มีการฝึกมาอย่างดีทั้งใจและกาย  สำหรับผมแม้จะเคยเตรียมตัวคิดล่วงหน้าว่าจะต้องทำอย่างไรในสถานกาณ์ดังเช่นที่ว่ามา   ซึ่งมันก็เป็นแค่ความคิดแต่ถ้าเกิดขึ้นจริง   ผลที่ได้ก็อาจจะไม่ต่างกันกับคุณผู้หญิงท่านนั้นก็ได้    สำหรับในส่วนของโจรแล้วความคิดของมันไม่เกิน2ชั้นหรอกครับ  ตรงนี้จึงเป็นส่วนต่างระหว่างคนดีกับคนชั่ว


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 24, 2007, 08:50:49 AM
ว่าตาม อ. รุต ครับ มีปืนแต่ไม่กล้ายิง ไม่ควรมีครับ นี่ยังโชคดีที่มันแค่เอาปืนไป... เป็นผู้หญิงที่เปลี่ยวอย่างนั้นไม่อยากคิดไกลกว่านี้ครับ...

ทรชนพวกนี้มันเลือกเป้าก่อนนะครับ ลักษณะการขับรถยนต์ก็เป็นสาเหตุหนึ่ง... ขับรถช้าทั้งที่ถนนว่าง ขับไม่ตรงกลางเลน ขับรถแสดงอาการเงอะงะ ควบคุมรถได้ไม่ดี... ลักษณะแบบนี้แสดงให้เห็นว่ามือใหม่หัดขับ หรือสติไม่ครบ... มักเป็นเป้าหมายครับ...

หลักทั่วไปสำหรับเรื่องนี้คือประเมินคนว่าเป็นคนดีหรือคนร้าย... หากเป็นคนร้าย ให้ยิงก่อน แต่อย่าให้กองอยู่กับที่ หรือให้เหลือเพื่อนที่อันตรายน้อยกว่าไว้ลากเพื่อนมันกลับไปครับ... พวกนี้ไม่แจ้งความหรือไปโรงพยาบาล...

หากกองอยู่กับที่ หรือเจอกับคนดีเข้าแล้วเราลุแก่โทสะ... เรื่องถึงตำรวจแน่ครับ คนยิงจะเดือดร้อนเอา และระวังคนดีเล่นปืนสวนเอาด้วย...

คนเล่นปืนกับคนนานๆยิงทีนึง มีความแตกต่างกันมาก... คนนานๆยิงปืนทีนึง แค่ยืนนิ่งๆ ยิงเป้าวงดำระยะ 15 เมตรหลุดดำเนี่ย เป็นเรื่องปรกติครับ... แต่คนซ้อมบ่อยๆ ระยะไม่เกิน 15 เมตรนี่เดินยิง แว้งตัวยิงเข้ารูปขวดใช้เวลาแค่ไม่เกินสิ้นเสียงตะโกนให้หยุดครับ แค่ไม่เกิน 2 วิฯ เอง นี่ยังไม่นับพวกนักกีฬาฯ ที่แค่ตกใจเผลอยิงนัดเดียวอาจถึงตายครับ...
นายสมชายไม่ได้โม้แม้แต่นิดเดียว...

ที่น่ากลัวที่สุดเป็นสายสืบตำรวจเข้าใจผิด เพราะกำลังจับยาเสพติดอยู่ แล้วรูปพรรณรถดันไปคล้ายกับตามข่าวที่สายรายงานมา... คือสายสืบเนี่ยสภาพแทบเหมือนโจรครับ เขาอำพรางตัวได้ดี ไม่ฮา...

เมื่อหลายปีก่อนมีคนเคยโดนเคาะกระจกรถยื่นบัตรที่คอแนบกระจกข้างเพื่อขอตรวจค้นรถยนต์ที่สี่แยกวงศ์สว่างเวลาใกล้เที่ยงคืน เดินมาหนึ่งคนอีกคนคล่อมรถเครื่องรอ... คนที่โดนเคาะไม่ลดกระจกลงแต่เอาม้าฯ มาขึ้นลำจ้องหน้าจ้องปืนใส่ แล้วบอกให้ขี่มอร์ไซค์ตามไปเจอกันที่ สน.ประชาชื่นฯ... คนเคาะกระจกไม่ขยับมือขยับไม้ผิดสังเกต แต่โบกให้รถเลยไปเลยไม่เกิดเรื่อง... หากขยับมือตลบชายเสื้อหรือเดินบังเหลี่ยมรถเพื่อชักปืน คนในรถคงแจกคนเคาะและคนขี่รถเครื่องไปนักละคนแล้วขับหนี... ก็นึกไม่ออกวันนี้จะเป็นยังไง...

เรื่องผ่านมาแล้วมานั่งนึกสงสัยว่าอาจเป็นตำรวจจริงก็ได้ ไม่จริงก็ได้ แต่คิดว่าคงเป็นตำรวจจริงมากกว่า จุดสังเกตุคือแววตาครับ จ้องหน้ากันใกล้แค่นั้นตำรวจจริงจะนิ่ง ไร้อารมณ์ อดกลั้นได้ ไม่มีโทสะ... วันรุ่งขึ้นไปยืนดูที่บอร์ดติดรูปของ สน. ประชาชื่นก็ไม่พบรูปคนนั้น...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Tontakarn รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 08:51:14 AM
เป็นผมคงเลือกจอดรถในที่ที่เป็นที่สาธารณะมากว่านี้ครับ ..
ยิ่งเป็นผู้หญิงนี่ .. ยิ่งต้องคิดหาที่จอดให้ดูปลอดภัยมากกว่านี้ ..

โจรสมัยนี้ก็ใจเด็ดจริง .. ถือปืน BB มา  เจอปืนจริงยังใจแข็งนิ่งพอตัว
(คงเพราะเป็นผู้หญิงกระมัง ถึงไม่กลัว)
แย่จังครับ ..



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: สีอำพัน-รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 09:28:11 AM
ขอบคุณครับ แฟนผมชอบขับปิคอัพมากกว่าเก๋งทำให้ปลอดภัยไปได้ระดับหนึ่ง
เพราะรถติดกันชนเกือบรอบคัน และคุยกับแฟนไว้แล้วในกรณีเช่นนี้ให้ชนเลยห้ามจอด ถ้าจอดไปจอด
ที่สถานีตำรวจ หรือจุดตรวจเท่านั้น ถ้ารถไปไม่ได้ยิงไว้ก่อนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลังครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: mayis ที่ มกราคม 24, 2007, 09:34:54 AM
ผมว่าคุณผู้หญิงโชคดีครับ..ที่มันไม่ได้ทำอะไรหนักๆไปกว่านี้..แต่คราวหน้าถ้ามีเหตุเกิดขึ้นแบบนี้อีก..กลัวว่า
จะไม่โชคดีทุกๆครั้งไปนะครับ...ลองคิดดูว่า..ปืนก็มีอยู่ในมือคุณ..ควรจะตัดสินใจอย่างไร

                       


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: อ้วน 008 รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 09:36:48 AM
ขอชมสายของตำรวจที่หูไว ตาไว คนที่ใช้ปืนหากจำเป็นต้องใช้ คำว่า "ลังเล" ต้องตัดทิ้งให้ได้ครับ หากต้องเสี่ยงถึงชีวิตและทรัพย์สิน "สู้ความดีกว่า" ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Arthorn Art. ที่ มกราคม 24, 2007, 09:56:44 AM
เส้นแบ่งระหว่างจะยิงหรือไม่ยิงนี่ ในทางทฤษฎีแล้วดูไม่ยากที่จะตัดสินใจ แต่ในทางปฎิบัติแล้วผมว่ามันยาก เพราะคนดีๆมักจะคิดถึงถึงผลกระทบที่ตามมาอีกหลายๆชั้น ซึ่งในสถานการณ์แบบนั้นไม่อำนวยให้เราใช้เวลาคิดนานๆ ดังนั้นถึงจะมีปืนก็จริงก็ใช่ว่าจะคุมครองตัวเราได้ ถ้าไม่มีการฝึกมาอย่างดีทั้งใจและกาย สำหรับผมแม้จะเคยเตรียมตัวคิดล่วงหน้าว่าจะต้องทำอย่างไรในสถานกาณ์ดังเช่นที่ว่ามา ซึ่งมันก็เป็นแค่ความคิดแต่ถ้าเกิดขึ้นจริง ผลที่ได้ก็อาจจะไม่ต่างกันกับคุณผู้หญิงท่านนั้นก็ได้ สำหรับในส่วนของโจรแล้วความคิดของมันไม่เกิน2ชั้นหรอกครับ ตรงนี้จึงเป็นส่วนต่างระหว่างคนดีกับคนชั่ว

เห็นด้วยครับ ผมก้คงไม่ต่างจากผู้หญิงรายนีเหมือนกัน เผลอโดนปืน BB ตบปากอีก ฐานปากเสีย มองหน้ากวนนนนน


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Prinya T ที่ มกราคม 24, 2007, 09:57:24 AM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: พราน ที่ มกราคม 24, 2007, 11:36:21 AM
ถ้ากรณีเหมือนเหตุที่ยกมา ก็ยิงเลยครับ และยิงแล้วก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่ในที่เกิดเหตุให้ตัวเองยุ่งยาก ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ek_suwat ที่ มกราคม 24, 2007, 11:46:45 AM
..................ดับเบิ้ลแทป 2 ครั้ง ขอรับ........................


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: chew - รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 11:50:10 AM
อันนี้ไม่เข้าข้างผู้เสียหายนะครับ  แต่ในสถานการณ์แบบนี้มีเวลาน้อยมากที่จะตัดสินใจถ้าไม่เทรนมาดีตกใจหมดครับ
ถามท่านๆที่มีปืนนะครับว่าแน่ใจว่าจะยิงจริงๆเหรอครับเวลาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้
คนทำมาหากินอย่างเราๆท่านๆหลายคนไม่ได้มีอาชีพต้องต่อสู้กับใคร บางทีก็ทำใจไม่ค่อยได้เวลา
ต้องทำร้ายคนอื่นนะครับ  ทุกครั้งที่ผมเอาปืนไปไหนด้วยก็หวังว่าจะไม่ต้องใช้ หรือผมขี้กลัวก็ไม่ทราบนะครับ
คนขับรถปาดหน้าผมก็ช้าลงเพราะไม่อยากมีเรื่อง หรือผมขี้กลัวก็ไม่ทราบนะครับ  :) :P



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: makarms ที่ มกราคม 24, 2007, 12:07:54 PM
ถ้ากรณีเหมือนเหตุที่ยกมา ก็ยิงเลยครับ และยิงแล้วก็ไม่จำเป็นอะไรที่จะต้องอยู่ในที่เกิดเหตุให้ตัวเองยุ่งยาก ;D
เห็นด้วยครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: มะขิ่น ที่ มกราคม 24, 2007, 12:51:38 PM
เรื่องนี้ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า..........

การที่จะมีปืนติดตัวนั้น.............ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีด้วย

มิฉะนั้นก็จะเป็นของแถมให้โจรไป


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: saha ที่ มกราคม 24, 2007, 01:04:11 PM
เรื่องนี้ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า..........

การที่จะมีปืนติดตัวนั้น.............ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีด้วย

มิฉะนั้นก็จะเป็นของแถมให้โจรไป
    เห็นด้วยครับพี่... ;D  แต่แหมหากเกิดเหตุการณ์อย่างนี้มั่งคงแย่นะครับ
น่าเห็นใจพยาบาลสาวจริงๆเชียว.....วว ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มกราคม 24, 2007, 01:10:37 PM
ขึ้นอยู่กะการปรับสภาพจิตใจ ว่าเคยฝึกเตรียมใจไว้รองรับเรื่องร้ายมาก่อนหรือไม่

นึกถึงคุณ ทัศนีย์ จังเลย


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Mango ที่ มกราคม 24, 2007, 02:07:04 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มกราคม 24, 2007, 02:46:08 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์

เป็นที่พึ่งของประชาชนครับ...

ขอให้มีดาวมีมงกุฏเพิ่มที่บ่าครับ... เย้


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: นปพ2201 ที่ มกราคม 24, 2007, 03:13:50 PM
คงแสดงอาการกลัว หรือส่อแววว่าใช้ปืนไม่เป้น  มันเลยไม่กลัว  ท่านสามีทั้งหลายจะเอาปืนให้ภรรเมียใช้  ก้พึงสังวรว่า การจับปืนในการเตรียมพร้อมเขาทำอย่างไร จับไปฝึกให้คล่อง ไม่งั้นอาจสูญทุกอย่าง
สำหรับในกรณีนี้หากคุณผู้หญิงใจกล้าหน่อย หรือได้รับการฝึกใช้ปืนมาดีกว่านี้ น่าจะยิงปืนขู่ไปก่อนหากไม่หยุดยิงจุดที่ไม่ตาย คงคงเพียงพอครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 24, 2007, 03:30:49 PM
คุณผู้หญิงโชคดีมาก

สายก็ฟลุคมาก  ;D ;D ;D ที่ไปเจอปืน



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มกราคม 24, 2007, 03:32:30 PM
ผมคงเตรียมก่อน แต่เหตุการณ์นี้ เป็นผู้หญิงอ่ะครับ ถ้าเป็นผมชนแม่มเลย

ไม่น่าจอด   ;D ;D ;D กดแตรไล่ขับไปเรื่อยๆน่าจะดี


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Arthorn Art. ที่ มกราคม 24, 2007, 04:26:33 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์

เป็นที่พึ่งของประชาชนครับ...

ขอให้มีดาวมีมงกุฏเพิ่มที่บ่าครับ... เย้

อย่างนี้ซิครับ ถึงเรียกว่าอยู่ในหนึ่งกระบวนการยุติธรรม


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: อั๋น ที่ มกราคม 24, 2007, 04:37:11 PM
เรื่องนี้ทำให้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมอีกว่า..........

การที่จะมีปืนติดตัวนั้น.............ต้องได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีด้วย

มิฉะนั้นก็จะเป็นของแถมให้โจรไป
เห็นด้วยกับ พี่มะขิ่น ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ มกราคม 24, 2007, 05:15:15 PM
เสียใจด้วยครับ......แต่โชคดีที่ไม่เป็นไร...
ถ้าเป็นผมคงยิงก่อน...อย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลังครับ..
เห็นด้วยอย่างยิ่งต้องฝึกบ่อยๆ + ฝึกแบบจำลองสถานการณ์จริงยิ่งดีครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มกราคม 24, 2007, 06:08:53 PM
อืมมม เวลาขับรถแล้วโดนเบียดโดยเจตนา ผมไม่เคยหลบครับ(ถ้าไม่ใช่พวก 10 ล้อ หรือรถใหญ่) เพราะผมกลัวว่าถ้าหักหลบแล้วจะไปชนอย่างอื่น เบียดกันอย่างมากก็เป็นลอยนิดหน่อย แต่ถ้าจำเป็นต้องหลบเพราะเจตนาแกล้งผมและหยุดรถจะเดินมาหาผม ผมคงยิงขั้นฟ้าเตือนก่อนแน่เลยครับ ถ้าพุ่งเข้ามาอีกหรือเห้นอะไรแปลกๆในมือคงรัวยิกแน่เลยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ มกราคม 24, 2007, 06:38:17 PM
ตำรวจแบบนี้ใช่ไหมที่เรียกว่า อยู่ที่ไหนประชาอุ่นใจ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: milo ที่ มกราคม 24, 2007, 07:51:51 PM
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์[/color]
อ้างถึง

มีตำรวจสักกี่คนที่คิดเช่นนี้ ขอแสดงชื่นชมด้วยใจจริงครับ 
ส่วนมากก็จะเป็นช่องทางหาเงินเข้ากระเป๋าเสียมากกว่า รู้ๆกันอยู่ ผู้บริสุทธิก็จะเหมือนหนีเสือปะจรเข้


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ไทสกล ที่ มกราคม 24, 2007, 08:04:14 PM
ผู้หญิงก็อย่านี้ไม่กล้าตัดสินใจ 


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: หรอย ที่ มกราคม 24, 2007, 08:52:51 PM
ผู้หญิงคงจะตกใจ และควบคุมสติไม่ได้นะครับ เลยตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำอย่างไรนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: vuttichai ที่ มกราคม 24, 2007, 09:40:19 PM
อ่านกระทู้นี้แล้วสงสัยเวลาฉุกเฉิน เมียผมจะกล้าหรือเปล่า :o


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: chew - รักในหลวง ที่ มกราคม 24, 2007, 09:46:06 PM
ขึ้นอยู่กะการปรับสภาพจิตใจ ว่าเคยฝึกเตรียมใจไว้รองรับเรื่องร้ายมาก่อนหรือไม่

นึกถึงคุณ ทัศนีย์ จังเลย
ตั้ง 30 ปีแล้วมั้งครับเรื่องนี้  อันนั้นก็ใจถึงจริงๆ เจ็บมาบ้างแต่ยังดีที่ได้โอกาสต่อสู้นะครับ  เลยรู้ว่า .38 โดนไม่จังก็ ก็เอาโจรไม่อยู่นะครับ
ไม่ทราบว่าคุณ ทัศนีย์ ตอนนี้เป็นไงบ้างนะครับ :)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ มกราคม 24, 2007, 10:13:04 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์

 :VOV:เยี่ยมครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: โมโม่153 ที่ มกราคม 24, 2007, 10:14:44 PM
ขอบคุณมากค่ะสำหรับเรื่องเล่าดี ๆ ... :)

ถ้าเจอคุณตำรวจแบบนี้คงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น...



หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: ETR ที่ มกราคม 24, 2007, 10:19:36 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์

ฝากเนื้อฝากตัวครับ บังเอิญผมอยู่ลาดกระบัง แต่ สน.ฉลองกรุงครับ  ;D

แต่ว่า งงอยู่อย่าง การเลี่ยงหลบมันผิดตรงไหน ทำไมคำแนะนำมันหายไปได้เฉยๆ  8)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: korn ที่ มกราคม 24, 2007, 10:33:41 PM
ยังคิดไม่ออกเลย ว่าถ้าเจอแบบนี้จะทำไงดี


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Giant ที่ มกราคม 24, 2007, 11:51:27 PM
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์


นี่แหละครับตำรวจของประชาชน ขอให้ตำแหน่งขึ้นทุกปีนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: สตางค์ ที่ มกราคม 24, 2007, 11:57:07 PM
สำหรับผมคงชนกระเด็นตั้งแต่แรกแล้วครับ..หรือไม่ก็ไม่มีทางขี่มอเตอร์ไซตามผมทันยกเว้นเป็นรถ 400cc. ขึ้นไป
เป็นผม ผมก็คงใช้รถเบียดมันออกไปตั้งแต่มันเบียดเข้ามาและเร่งเครื่องหนีก่อน ถ้ามันตามมาก็จอดรถปิดไฟถือปืนรอเลย ถ้ามันจอดมอไซค์เดินถืออาวุธอะไรมาก็แล้วแต่ ไม่ต้องคิดแล้ว ใส่ก่อนเลย
แต่ขอถามจขกท กรณีนี้จะดำเนินคดีกับคุณผู้หญิงคนนี้หรือไม่ในกรณีพกพาปืนผิดมือ..........
ผมไม่ดำเนินคดีหรอกครับ....เพราะว่าผมถือว่าเป็นการสมควรที่ภรรยาจะนำปืนสามีมาไว้เพื่อการป้องกันตัว
กรณีนี้ผมขอใช้หลักรัฐศาสตร์ในการพิจารณาครับ...ไม่ใช้หลักนิติศาสตร์

ขอชมคุณตำรวจที่พึ่งของประชาชนคนนี้ด้วยครับ ขอให้ได้ดาวหลายๆดวง ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Akira ที่ มกราคม 25, 2007, 12:43:51 AM
จากกระทู้นี้ทำให้นึกถึงเรื่องที่เกิดกับแฟนผมเมื่อ 2ปีก่อน

จะเล่าให้ฟังนะครับ

แฟนผมเธอขับรถจะกลับบ้านช่วงเวลา 21.00น. กลับมา กะลูกชายตัวเล็ก 5ขวบ ที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ตรงคูเมืองด้านใน ถนนมณีนพรัตน์ จะยูเทิร์นออกถนนนอกรอบคูเมือง 

ก่อนยูเทิร์นมีรถมอเตอร์ไซด์ขับโดยวัยรุ่นซ้อน2คน  วิ่งแซงไปก่อน แล้วไปจอดตรงริมถนนทางเชื่อมยูเทิร์น(ที่เชียงใหม่ ถนนเชื่อมระหว่างยูเทิร์นจะเป็นถนน2เลนนะครับ)

แล้วทั้งคนขี่ และคนซ้อน(ตามรูปสีแดง) ลงมาโดยคนขับอยู่ท้ายรถมอไซด์ ส่วนคนซ้อนท้ายข้ามไปยืนอยู่เกือบขวางเลน เดินตรงจะเข้ามาขวางหน้ารถ

แฟนผมเห็นตั้งแต่มันจอดรถเดินลงมากันแล้ว เธอเบรคจอดรถสนิทตั้งแต่อยู่หัวโค้งแล้ว พอเห็นคนเดินเข้าหารถเท่านั้นแหละ เธอเร่งเครื่องเต็มที่(รถ CRVถ้ากระทืบคันเร่งมันจะดังสนานครับ) พุ่งเข้าใส่คนที่เดินมาหา กะว่าไม่หลบเหยียบแบนแน่ ได้ผลครับพวกมันกระเจิงคนละทาง แล้วเธอก็ยูเทิร์น มองกระจกหลังเธอเห็นทั้ง2คน วิ่งขึ้นรถแล้วขับย้อนศรทะลุเข้าซอยหนีไป

พอกลับบ้านเธอเล่าให้ผมฟังพร้อมความมั่นใจว่า  นั่นต้องเป็นโจรแน่ๆ ไม่งั้นจะย้อนศรหนีทำไม เธอว่าจำหน้ามันได้ด้วยเพราะตอนที่เธอวิ่งรถมา มันตามหลังช้าๆ แล้วขับตีคู่ไม่ยอมแซง จนเธอเปิดไฟเลี้ยวจะยูเทิร์นมันรีบแซงไปดักหน้าทันที รถที่มันขับแทบจะมีแต่โครงกะเครื่อง ไม่มีจุดให้สังเกตได้เลย

ข้อสังเกต
1)ถนนตรงนั้นค่อนข้างมืด แต่ก็มีคนไม่ขาด  มันกล้ามาก เล่นซะกลางเมือง
2)รถแฟนผมเธอแต่งซะคิขุ ดูแค่ภายนอกก็รู้ว่ารถผู้หญิงขับ อันนี้หลังเหตุการณ์ผมเตือนเธอให้เอาออกแล้ว แต่เธอไม่สน เธอว่าถ้ามาอีกก็เหยียบแบนเลย 555

สรุปว่า ถือว่าโชคยังเข้าข้างครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Virus ที่ มกราคม 26, 2007, 11:09:43 AM
แล้วมะม่วงทำยังไงละ ตอนนั้น ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: yut-904 ที่ มกราคม 26, 2007, 11:58:12 AM
วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการขัยรถกลางคืน   ถ้าจำเป็นต้องจอดรถชิดขอบทางให้ผู้ขับจอดรถในช่องเดินรถปกติพร้อมเข้าเกียร์ค้างไว้   เพราะหากมีความจำเป็นให้พุ่งรถเข้าในทันทีอย่าหวงทรัพย์สินมากกว่าชีวิตครับ   
       ถ้าจำเป็นต้องพูดคุยกับคนที่เข้ามา และไม่แน่ใจว่าเป็นตำรวจหรือไม่  ให้เข้าเกียร์ค้างไว้  แล้วให้เปิดกระจกด้านซ้ายผู้โดยสารนั้งพูดคุยเท่านั้น


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: Boss888 ที่ มกราคม 27, 2007, 09:26:45 PM
shoot for life...........the only one word.........


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: jim ที่ มกราคม 28, 2007, 12:40:03 AM
ผมก็เคยเจอครับ ตอนนั้นขับรถปิคอัพไปขากลับซึ่งทางปลี่ยวและมืด  มีรถเครื่องขับตามหลังมาแล้วแซงทางด้านขวา เมื่อแซงไปได้ระยะหนึ่งรถเครื่องมันจอดหยุด ผมก็เลยสงสัยเตรียมพร้อมกะชนแน่ ถ้าเกิดอะไรขึ้น ดีว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: east ที่ มกราคม 28, 2007, 12:57:54 AM
  สมัยนี้ต้องระวังภัยกว่าเดิมมาก พวกโจรมีวิธีการที่ดี และที่สำคัญ ตำรวจน้อยกว่าโจรมาก
 คงต้องอาศัยพึ่งตนเองก่อนครับ  ขอบคุณที่แจ้งใทราบครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: BOY ที่ มกราคม 28, 2007, 11:42:45 AM
ผมคงเตรียมก่อน  แต่เหตุการณ์นี้ เป็นผู้หญิงอ่ะครับ ถ้าเป็นผมชนแม่มเลย

เห็นด้วยครับถ้าผิดสังเกตุผมเบียดเลย ???


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: nine รักในหลวง ที่ มกราคม 28, 2007, 12:46:36 PM
ยิงครับ..แก้ต่างในชั้นศาลง่ายกว่า ตอบคำถาม ยมบาล


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: countrypolice ที่ มกราคม 28, 2007, 01:42:36 PM
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา371ผู้ใดพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันควร รวมถึงงานที่จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการงานรื่นเริง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน100บาทและให้ศาลมีอำนาจริบอาวุธปืนนั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวคุณพยาบาลกลับบ้านดึกนำปืนใส่ไว้ในรถเนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยและมีอาชีพการงานมั่นคงข้อนี้น่าจะหายห่วงทนหายห่วง
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา69 ผู้ใดป้องกันตัวแต่ได้กระทำไปเกินกว่าเหตุให้ศาลลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าโทษที่กำหนดไว้เท่าใดก็ได้ถ้าการกระทำเช่นนั้นกระทำไปด้วยความตกใจกลัวศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้
จากเหตูการณ์คนร้ายขับรถเข้ามาประกบชักมีดชักปืนขู่ใครๆก็ต้องกลัวและตกใจจริงมั้ยครับเพราะฉะนั้นยิงมันให้ตายเลยครับไอ้2คนนั้นตายแผ่นดินก็คงสูงขึ้น


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ มกราคม 28, 2007, 01:55:58 PM
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา371ผู้ใดพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยเปิดเผยและไม่มีเหตุอันควร รวมถึงงานที่จัดให้มีขึ้นเพื่อนมัสการงานรื่นเริง ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน100บาทและให้ศาลมีอำนาจริบอาวุธปืนนั้น
จากเหตุการณ์ดังกล่าวคุณพยาบาลกลับบ้านดึกนำปืนใส่ไว้ในรถเนื่องจากไม่มั่นใจในความปลอดภัยและมีอาชีพการงานมั่นคงข้อนี้น่าจะหายห่วงทนหายห่วง
ประมวลกฎหมายอาญามาตรา69 ผู้ใดป้องกันตัวแต่ได้กระทำไปเกินกว่าเหตุให้ศาลลงโทษผู้นั้นน้อยกว่าโทษที่กำหนดไว้เท่าใดก็ได้ถ้าการกระทำเช่นนั้นกระทำไปด้วยความตกใจกลัวศาลจะไม่ลงโทษเลยก็ได้

จากเหตูการณ์คนร้ายขับรถเข้ามาประกบชักมีดชักปืนขู่ใครๆก็ต้องกลัวและตกใจจริงมั้ยครับเพราะฉะนั้นยิงมันให้ตายเลยครับไอ้2คนนั้นตายแผ่นดินก็คงสูงขึ้น


...อย่าแนะนำแบบนี้เลยครับ.... ::) ::) ::)


หัวข้อ: Re: เรื่องเล่าเป็นอุทธาหรณ์....สอนใจ
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มกราคม 28, 2007, 03:04:28 PM
เป็นผมยังนึกไม่ออกเลยว่าจะทำอย่างไรดี คิดไปคิดมาคงไม่กล้ายิงมากกว่า