หัวข้อ: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ken ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:20:52 AM เมื่อคืนที่ผ่านมามีเจ้าหนี้มาทวงเงินที่บ้าน จากภรรยา(เป็นหนี้เขาประมาณ 20,000 บาท) เขาขู่ว่าทวงมาหลายครั้งแล้วไม่ได้เลยมาทวงที่บ้าน ถ้าไม่ได้เขาจะให้สามีที่เป็นทหาร(ตอนนี้ไปทำหน้าที่ที่ภาคใต้) เอาลูกน้องที่กองพัน มีทั้งทหารและ อส. ด้วย(เขาบอก) มาขนเอาตู้เย็น ทีวี วิทยุเทป ไปขายเอาเงิน และขู่อีกว่าถึงมีปืนก็ไม่กลัว(เขารู้ว่าผมมีปืนเพราะชอบเล่นปืน)เพราะสามีเขาทำงานมียศใหญ่มากสามารถเอาลูกน้องและปืนหลวงออกมาใช้ได้เยอะแยะ พูดเป็นทำนองว่าสามารถเอาคนและปืนหลวงมาใช้เป็นเครื่องมือทวงหนี้ได้ ถ้าลูกหนี้ไม่มีให้จะใช้ให้จัดการกับลูกหนี้ได้สบาย ๆ หมายเหตุ ยืมโดยไม่มีสัญญาจ้างคนรู้จักแนะนำให้ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาทต่อเดือน อยากสอบถามท่านผู้การ พี่ และเพื่อน ๆ ในเว็บว่า เป็นไปได้ไหมที่เขาจะทำตามที่เขาข่มขู่ไว้ เราจะมีทางใดรับมือและแก้ไขสถานการณ์ ตอนนี้ผมไม่สบายใจมาก ลำพังค่านมลูกสาวทั้ง 2 คน ผมก็จะไม่ไหวแล้ว และตอนนี้ลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องหยุดเรียนชั่วคราว ลำพังตัวผมไม่ห่วงเท่าไหร่ครับ แต่เป็นห่วงลูกสาว ทั้ง 2 คนมากกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ใครจะดูเลี้ยงดูแลสาวผม ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาเอาลูกน้องและปืนหลวงมาทวงหนี้ที่บ้าน เราไม่มีให้เขาอาจเอาปืนยิงขู่หรืออาจจะยิงใส่เราจริง ๆ ผมจะมีสิทธิ์ต่อสู้ป้องกันตนเองได้ขนาดไหน ถ้าผมแจ้งตำรวจท่านคงไม่มาหรือมาไม่ทันเพราะบ้านผมอยู่ไกลปืนเที่ยง อยู่ชนบทห่างไกล ถ้าท่านมาถึงผมอาจโดนยิงตายไปแล้วก็ได้ วอนพี่ ๆ เพื่อน ๆ กรุณาชี้แนะด้วยครับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: tungsuk ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:28:05 AM เป็นหนี้เขาก็ใช้คืนเขาเถอะครับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:48:08 AM ส่วนตัวผม เป็นหนี้เค้าก็ต้องใช้ครับ อย่าคิดโต้ตอบ ดูจากเหตุการณ์ที่เล่าให้ฟัง เค้าทวงมาหลายครั้งแล้ว ยอมขายปืนสักกระบอกเพื่อใช้หนี้ก็เหมาะสมนะครับ แต่หากมีกระบอกเดียวก็ลองพิจารณาดูว่าจะชำระหนี้อย่างไร ลองมองในมุมที่เราเป็นเจ้าหนี้บ้างครับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: berm ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:53:38 AM ทำไมเขาจะทำไม่ได้ละครับคนสมัยนี้ ดูอย่างที่นครสวรรค์ซิครับไปทวงเงินไม่ได้ตัดมือเลยน่ากลัวมากครับ อย่าไปเสียงเลยกับอันตพาล หาเงินคืนเขาดีกว่า (และเข้าใจว่าคงไม่มีคืน เพราะถ้ามีคงคืนเขาไปแล้วใช่ไหมครับ)
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: yakdee ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:54:36 AM ปัญหาแรก....คือเป็นหนี้เขาจริงรึไม่...? ถ้าจริง...หาทางเจรจาคืนเงินไปแม้ไม่มีหลักฐานการยืม...เพราะตอนยืม..เขาก็ไม่ต้องการให้เราทำหลักฐานเหมือนกัน...เป็นเรื่องความถูกผิดตามศิลธรรม...ไม่ใช่กฎหมาย
ปัญหาที่สอง...เขามาขู่ว่าจะให้คน(หลายคนตามที่บอก) มาขนข้าวของในบ้านไป...คนที่มาทำอย่างนี้ มีความผิดอาญา...ทั้งบุกรุก และวิ่งราวทรัพย์ หรือชิงทรัพย์(ถ้ามีอาวุธมาด้วย) และถ้ามามากกว่า 3 คน ก็อาจเป็นการปล้นทรัพย์ได้ เราสามารถทำได้ด้วยการปกป้องกันทรัพย์สินได้...แต่จะใช้ปืนด้วยหรือไม่...ขึ้นอยู่กับเหตุการณ์ในขณะนั้นว่า หลีกเลี่ยงได้หรือไม่ และมีการใช้อาวุธมาทำร้ายหรือไม่ หนี้เป็นเรื่องทางแพ่ง แต่การขนทรัพย์ไปเพื่อบังคับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ กฎหมายให้ใช้อำนาจทางศาลเพื่อบังคับ...การบังคับเอาเองโดยไม่ผ่านกฎหมาย...กฎหมายก็ไม่รับรองความถูกต้องให้...(รวมทั้งไม่รับรองความปลอดภัยด้วย) ปัญหาที่สาม...จะทำประการใด เพราะค่านมลูกก็ยังมีน้อย ลูกสองคนก็ขาดเรียน.... อย่างแรก คือ เล่นปืนให้น้อยยยยลง แล้วเอาพยายามหาเงินไปคืนโดยมีคนกลาง(ที่น่าเชื่อได้ว่าจะเป็นกลาง) รับรู้ ถ้าทำหลักฐานการรับเงินคืนด้วย ก็จะดีมาก ๆ อย่างที่สอง คือ ให้ทำใจนิ่ง ๆ พิจารณาถึงความถูกต้องชั่วดีทั้งหลาย แล้วสติปัญญาก็จะเกิดตามมา อย่างที่สาม ถ้าจำเป็นจริง ๆ ก็เข้าหาสถานีโทรทัศน์ หรือหนังสือพิมพ์(เดี๋ยวนี้เขาชอบทำเรื่องแบบบนี้) ร้องเรียนถึงความประพฤติของเจ้าหนี้ ให้รู้โดยทั่วกันว่าจะมาทำกับเราแบบนี้....ให้สังคมประนาม.... :D สุดท้าย เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤติ... หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Watt ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:00:43 AM เป็นกำลังใจให้ครับ ค่อยๆดูว่าจะหาเงินมาใช้หนี้ได้อย่างไร คุณยิ่งใช้ช้าดอกเบี้ยยิ่งมากขึ้น
ลองดูว่าสมบัติมีอะไรพอจะขายใช้หนี้ได้บ้าง สมบัติมันของนอกกาย มีเงินก็หาซื้อใหม่ได้ครับ ค่อยๆคิดดูและให้ความรักแก่ครอบครัว หาทางต้องมีบ้างนะครับระวังเรื่องการพนัน อย่าไปข้องแวะ เดี๋ยวจะพันยุ่งมากขึ้น หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:06:17 AM หากเป็นหนี้จริง นายสมชายว่าขายปืนใช้หนี้ครับ...
ต่อสู้แล้วเรื่องมันก็ไม่จบ จะเสียมากกว่าหนี้นะครับ... ใช้ปืนยิงต่อสู้กันน่ะ ต่อให้เป็นฝ่ายถูกกฎหมาย... ก็ต้องเตรียมเงินสู้คิดเป็นแสนครับ... งานการเสียโม๊ด... แค่ 2 หมืนแล้วจบเรื่อง ตัดใจเถิดครับ... หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: จอยฮันเตอร์ ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:11:13 AM ตอบแบบฟันธงเลยครับ เป็นหนี้เขา ก็ต้องชำระ หากเราไปตุกติกกับเขาอาจจะมีปัญหากับครอบครัวได้ และอีกอย่างที่เขาบอกว่า
สามีเขาทำงานมียศใหญ่มากสามารถเอาลูกน้องและปืนหลวงออกมาใช้ได้เยอะแยะ พูดเป็นทำนองว่าสามารถเอาคนและปืนหลวงมาใช้เป็นเครื่องมือทวงหนี้ได้ หลักการแล้วไม่สามารถทำได้ครับ ลองปรึกษารายการ ร่วมด้วยช่วยกัน ซิครับ :P หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:15:40 AM คุณพ่อผมเมื่อปี 2517 กิจการไปไม่ไหว ขายปืนรับประทานหมดเลยครับ
1. Astra .22 magnum 9 นัด 2. ลูกซองแฝดของซาวเออร์ 3. .375 H&H ของ Winchester 4. ตัวสุดท้ายที่จำใจปล่อย S&W M67 ครับ มาถึงรุ่นลูก ( ผมเอง ;D ) ตอนนี้มี USP กระบอกเดียวเองครับ อยากซื้อ , อยากได้ แต่ผมเลือกความเป็นอยู่ของครอบครัวไว้ก่อนครับ และอีกอย่างผมเป็นเด็กโรงงาน ไม่รู้ว่าจะทำไปถึงเมื่อไหร่ ฉะนั้นช่วงนี้ของผม ผมต้องรีบสะสมทรัพย์สินสักพักหนึ่งก่อนครับ ...........งงไหมเนี่ย......................... ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: SV ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:19:12 AM "กู้ยืมเงินกันตั้งแต่ 50 บาทขึ้นไปสามารถทำเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้กู้และผู้ให้กู้ได้" ผู้ให้กู้หลบเลี่ยงการทำหนังสือเพราะคิดดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดมีเจตนาไม่สุจริตแต่จะว่ากันตามกฎหมายไม่ได้เพราะที่ว่ามาผู้ให้กู้กำลังจะใช้ศาลเตี้ย และที่ให้กู้ขู่ว่าจะไปยึดทรัพย์และขายทอดตลาดนั้นตามกฎหมายทำไม่ได้เพราะจะต้องให้ศาลสั่งเท่านั้น แต่ในกรณีนี้ศาลสั่งไม่ได้อีกเพราะการกู้ยืมไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ผมว่าทางออกนะแบ่งชำระเป็นบางส่วนดีกว่าเพราะจะเบี้ยวเค้าก็ไม่ได้เราไปเอาของเค้ามาจริงๆ ถามว่าจะอ้างป้องกันได้ไหม อ้างได้ถ้าเป็นเหตุซึ้งเกิดจากการประทุษร้าย และใกล้จะถึง แต่คุณโปรดอย่าลืมนะที่นี่เมืองไทย ขอให้คุณ ken ใช้สติมากกว่าอารมณ์นะครับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: aot ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:22:01 AM 1.เป็นหนี้จริงๆก็ใช้หนี้ครับ ไม่ว่าจะในระบบหรือนอกระบบ
2.เจ้าหนี้นอกระบบจะมีคนทวงหนี้ทั้งมีสีและไม่มีสีทั้งนั้นครับ และพวกนี้ส่วนใหญ่เอาจริง เบาบ้างหนักบ้าง 3.ถ้าเจรจาประนอมหนี้ไม่ได้จริงๆต้องตัดใจยอมขายทรัพย์สินที่มีครับ เอาตามลำดับที่จำเป็นน้อยไปมาก เช่นเครื่องเสียง ทีวี ตู้เย็น ปืน หนี้จำนวน 2-3หมื่น คงพอลดหนี้หรือเคลียร์หนี้ได้ 4.ถ้าภัยอันตรายถึงตัวหรือต้องป้องกันชีวิตและทรัพย์สินตนเองหรือครอบครัวก็ใช้ปืนป้องกันตัวได้ครับ แต่ต้องจำเป็นจริงๆไม่งั้นจะกลายเป็นเรื่องใหญ่โต ขอให้โชคดีครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ...GlockGlack™... ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:23:43 AM อ่านข้อความในกระทู้แล้วมีความคิดเกิดขึ้นอยู่ 2 อย่าง เมื่อเลื่อนลงมาจึงพบว่าตรงกับสมาชิกหลายๆท่านครับ
อันดับแรก คือขายปืนหรือขายทรัพย์สินอื่นเพื่อใช้หนี้เขาให้หมดสิ้นไปก่อนครับ คนที่เป็นหนี้ ก็เหมือนกับนกที่ขาข้างหนึ่งอยู่ในบ่วงของนายพราน โอกาสที่จะดิ้นหลุดเป็นอิสรภาพนั้นยากนัก อันดับที่สอง หากถึงขั้นว่าลูกๆของ จขกท. หยุดเรียนชั่วคราว คุณคงต้องหารายได้ให้มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่แล้วครับ แต่ขอว่าอย่าเป็นเรื่องที่ผิด กม. เพราะถึงแม้จะทำให้ได้เงินมาง่ายและเร็ว แต่ผลได้ก็ไม่คุ้มเสีย อันดับที่สาม แม้ จขกท. จะมีอาวุธปืนในมือ แต่กรณีนี้คงไม่สามารถนำมาใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินได้ (เขาจะทำจริงหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ แต่งานนี้ไม่ควรวัดใจกัน) เพราะถึงอย่างไรคุณก็ต้องคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนข้างหลัง นึกถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของบุคคลที่เรารักดีกว่าครับ ขาดคุณไปสักคนหนึ่ง คนข้างหลังคงลำบากเดือดร้อน จริงๆแล้ว จขกท. ก็ทราบดีอยู่ ว่าการที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไปนั้น มีผลกระทบหลายด้านแน่ๆ หากตัดใจขายปืนไม่ได้ คุณอาจจะต้องนำปืนไปฝากไว้กับคนที่เชื่อถือไว้วางใจได้ ตึ๊งไว้ก่อน เมื่อมีเงินในภายหลังแล้วค่อยไปขอคืนกลับมา คิดว่าคุณคงหากัลยาณมิตรที่พร้อมจะช่วยในเรื่องนี้ได้ เอาใจช่วยครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:31:07 AM เพื่อนๆพี่แนะนำในสิ่งที่ควรแล้วคับ...
การแก้ไขปัญหาควรใช้สติ พินิจถึงเหตุและผล ไตร่ตรองและแก้ไขอย่างเหมาะสมคับ... อย่าใช้อารมณ์และความรุนแรงคับ... หวังว่าปัญหาคงจะคลี่คลายได้โดยดีคับ... :) หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ken ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:34:36 AM เมื่อคืนเขามากัน 5 คนครับ ขึ้นรถปิคอัพมา คือผมก็พยายามขายทรัพย์สินไปหลายรายการ มอร์เตอร์คู่ชีพ โทรศัพย์มือถือ ที่สำคัญปืนยาว .22LR พร้อมกล้อง ก็ได้ขายไปแล้ว รายการหลังนี้ผมทำใจไม่ได้อยู่ เป็นเดือน ๆ แต่หนี้ก็ยังไม่หมด ตามที่บอกละครับ เหลือประมาณ สองหมื่น กว่า ๆ พร้อมดอกเบี้ย ผมก็อยากจะใช้หนี้ แต่มันไม่มีจะใช้ จะกินเข้าไปแต่ละวันยังจะไม่มี เจ้าหนี้เขาบอกว่าอยากได้คืนทั้งต้นทั้งดอกด้วย ก็เลยไม่มีจะให้ วันนี้ผมจะลองพูดกับเขาดี ๆ ขอใช้เฉพาะดอกก่อนได้ไหม ไม่รู้เขาจะว่าอย่างไร ???
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: St.Bernard ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:46:57 AM ผมว่ารีบคืนเขาไปเถอะครับ
หยิบยืมญาติพี่น้อง หรือ แปลงทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เป็นทุนแล้วคืนเขาไป ดอกเบี้ยทบต้นเร็วมาก คนและเงินนอกระบบ เราเสียเปรียบอยู่แล้ว เอาใจช่วยครับให้เรื่องจบลงด้วยดี หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: BEAMSOUND ที่ มีนาคม 16, 2005, 11:41:22 AM แค่มาขู่ครับ ไม่ต้องกลัว แต่เป็นหนี้ต้องใช้หนี้ครับ
อันที่จริงเขาก็กลัวโดนไล่ออกจาก ราชการเหมือนกันแหละ ถ้ามาขู่ชาวบ้านแบบนี้ ค่อยๆคิดหาทางออกครับ ไปคุยกับเจ้าหนี้ครับ กราบเขาสักที ส่งเดือนละ 500 ก็ยังดี กว่ามีเรื่องกัน หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Naradini ที่ มีนาคม 16, 2005, 11:46:28 AM อ้างถึง ข้อความโดย: ken ขออนุญาตแนะนำปัญหาข้อกฎหมายอย่างนี้นะครับใส่การอ้างถึงคำพูด เมื่อคืนที่ผ่านมามีเจ้าหนี้มาทวงเงินที่บ้าน จากภรรยา(เป็นหนี้เขาประมาณ 20,000 บาท) เขาขู่ว่าทวงมาหลายครั้งแล้วไม่ได้เลยมาทวงที่บ้าน ถ้าไม่ได้เขาจะให้สามีที่เป็นทหาร(ตอนนี้ไปทำหน้าที่ที่ภาคใต้) เอาลูกน้องที่กองพัน มีทั้งทหารและ อส. ด้วย(เขาบอก) มาขนเอาตู้เย็น ทีวี วิทยุเทป ไปขายเอาเงิน และขู่อีกว่าถึงมีปืนก็ไม่กลัว(เขารู้ว่าผมมีปืนเพราะชอบเล่นปืน)เพราะสามีเขาทำงานมียศใหญ่มากสามารถเอาลูกน้องและปืนหลวงออกมาใช้ได้เยอะแยะ พูดเป็นทำนองว่าสามารถเอาคนและปืนหลวงมาใช้เป็นเครื่องมือทวงหนี้ได้ ถ้าลูกหนี้ไม่มีให้จะใช้ให้จัดการกับลูกหนี้ได้สบาย ๆ หมายเหตุ ยืมโดยไม่มีสัญญาจ้างคนรู้จักแนะนำให้ ดอกเบี้ยร้อยละ 10 บาทต่อเดือน อยากสอบถามท่านผู้การ พี่ และเพื่อน ๆ ในเว็บว่า เป็นไปได้ไหมที่เขาจะทำตามที่เขาข่มขู่ไว้ เราจะมีทางใดรับมือและแก้ไขสถานการณ์ ตอนนี้ผมไม่สบายใจมาก ลำพังค่านมลูกสาวทั้ง 2 คน ผมก็จะไม่ไหวแล้ว และตอนนี้ลูกสาวทั้ง 2 คน ต้องหยุดเรียนชั่วคราว ลำพังตัวผมไม่ห่วงเท่าไหร่ครับ แต่เป็นห่วงลูกสาว ทั้ง 2 คนมากกว่า ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ใครจะดูเลี้ยงดูแลสาวผม ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาเอาลูกน้องและปืนหลวงมาทวงหนี้ที่บ้าน เราไม่มีให้เขาอาจเอาปืนยิงขู่หรืออาจจะยิงใส่เราจริง ๆ ผมจะมีสิทธิ์ต่อสู้ป้องกันตนเองได้ขนาดไหน ถ้าผมแจ้งตำรวจท่านคงไม่มาหรือมาไม่ทันเพราะบ้านผมอยู่ไกลปืนเที่ยง อยู่ชนบทห่างไกล ถ้าท่านมาถึงผมอาจโดนยิงตายไปแล้วก็ได้ วอนพี่ ๆ เพื่อน ๆ กรุณาชี้แนะด้วยครับ ๑. การยืมเงินเกินกว่าห้าสิบบาทขึ้นไป ถ้ามิได้มีหลักฐานแห่งการกู้ยืมเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้กู้ยืม จะฟ้องร้องบังคับคดีกันไม่ได้ ๒. เรื่องดอกเบี้ยถ้าคิดกันเกินร้อยละสิบห้าต่อปี เป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ. ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด ส่วนดอกเบี้ยเป็นโมฆะทั้งหมด ผู้ให้กู้ไม่สามารถเรียกได้ และผู้ให้กู้จะมีโทษทางอาญาด้วย ปัญหาข้อเท็จจริง ๑. การที่ผู้ให้กู้จะให้ลูกน้องมาบ้านคุณ มาขนเอาตู้เย็น ทีวี วิทยุเทป ไปขายเอาเงิน จะเป็นความผิดฐานลักทรัพย์ หรือไม่ นั้น ศาลฎีกาเคยวางบรรทัดฐานว่า การลักทรัพย์นั้น จะต้องมีเจตนาโดยทุจริตเพื่อแสวงหาประโยชน์ที่ไม่ควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น แต่การที่เจ้าหนี้ใช้อำนาจไปยึดทรัพย์ของลูกหนี้เองนั้น แม้จะไม่มีกฎหมายให้อำนาจที่จะทำได้ แต่ถ้าทรัพย์ที่เจ้าหนี้ยึดมาเมื่อเทียบกับหนี้สิ้นแล้วมีราคาพอๆ กัน เจ้าหนี้ก็อาจจะไม่ผิดฐานลักทรัพย์ ๒. แต่ถ้ามีการใช้กำลังประทุษร้ายกันด้วย อันนี้ ผิดฐานทำร้ายร่างกายแน่ๆ ๓. ส่วนความผิดฐานบุกรุกนั้น การเข้าไปทวงนี้ถือว่ามีเหตุอันสมควรที่จะเข้าไปได้ ผู้เข้าไปก็ไม่มีความผิดฐานนี้ ๔. แต่ถ้าฝ่ายเจ้าหนี้ถึงขนาดเอาปืนมายิงคุณหรือบุคคลในครอบครัว คุณก็มีสิทธิทำการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของครอบครัวคุณได้ครับ ตาม ป.อ. มาตรา ๖๘ แต่ต้องทำพอสมควรแก่เหตุนะครับ ตามแนวศาลฎีกา ปืนต่อสู้กับปืน ถือว่า พอสมควรแล้ว แต่ต้องดูองค์ประกอบอื่นๆ อีก เช่น ภยันตรายผ่านพ้นไปแล้วหรือยัง หรือคุณเป็นฝ่ายก่อเหตุก่อนหรือสมัครใจเข้าเสี่ยงภัยเองหรือไม่ เป็นต้น ป.ล. ถ้าเป็นข้าฯ จะขอผ่อนชำระหนี้เป็นงวดๆ กับเจ้าหนี้ อย่าไปเสี่ยงชีวืต กับเงิน ๒๐,๐๐๐ บาท ถึงมันจะเยอะ แต่ก็ไม่คุ้มกับชีวิตหรอกครับ ยอมเสียทรัพย์เพื่อรักษาอวัยวะ ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ มีนาคม 16, 2005, 12:03:01 PM คุณพ่อผมเมื่อปี 2517 กิจการไปไม่ไหว ขายปืนรับประทานหมดเลยครับ ไม่งงครับ ... คล้ายบ้านผมเลย แต่พ่อไม่มีกิจการ ชอบสังสรรค์ และเป็นสมาชิกราชตฤณมัยสมาคม เล่นแต่ม้า หนี้แบงค์ หมดตอน ๕๘ ขวบ ... ส่วนหนี้เอกชน แม่ผมช่วยเคลียร์ โดยหลังเกษียณ บ. มีเงินบังคับออมก้อนหนึ่ง แม่ผมประกาศเลยว่า ใครเป็นเจ้าหนี้ให้มาเอาเงินคืนเสีย หลังจากนี้จะไม่จ่ายอีกแล้ว :o ... แม่ผมเป็นนักประนอมหนี้ชั้น ๑ จริง ๆ ครับ :VOV:1. Astra .22 magnum 9 นัด 2. ลูกซองแฝดของซาวเออร์ 3. .375 H&H ของ Winchester 4. ตัวสุดท้ายที่จำใจปล่อย S&W M67 ครับ มาถึงรุ่นลูก ( ผมเอง ;D ) ตอนนี้มี USP กระบอกเดียวเองครับ อยากซื้อ , อยากได้ แต่ผมเลือกความเป็นอยู่ของครอบครัวไว้ก่อนครับ และอีกอย่างผมเป็นเด็กโรงงาน ไม่รู้ว่าจะทำไปถึงเมื่อไหร่ ฉะนั้นช่วงนี้ของผม ผมต้องรีบสะสมทรัพย์สินสักพักหนึ่งก่อนครับ ...........งงไหมเนี่ย......................... ;D ผมเอาใจช่วยท่าน จขกท. ครับ หวังว่าเจ้าหนี้จะยอมให้ผ่อนครับ แล้วอนาคต ท่าน จขกท. ควรพยายามออมเงินไว้ด้วยครับ หยอดกระปุกวันละบาทก็ยังดี หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 16, 2005, 12:08:10 PM ขอให้หาทางออกได้ด้วยดีครับ ;D
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: APACHE _ Love The King ที่ มีนาคม 16, 2005, 12:10:06 PM เป็นหนี้ก็ต้องใช้ครับ...
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: saming ที่ มีนาคม 16, 2005, 12:14:45 PM ค่อย ๆ คิดครับคุณ ken ปัญหาทุกปัญหาย่อมมีทางออกครับ
คุณอาจจะกำลังเครียดอยู่ก็ได้ จากปกติที่เคยมีสติปัญญาแจ่มใส มองปัญหา เป็น ปัญญา มาตลอด เพราะถ้าเครียดมาก ๆ แล้วมันจะคิดอะไรไม่ออก ลองมองจากข้างนอกตัวคุณดูครับ คุณอาจจะคิดอะไรออกก็เป็นได้...อย่าเอาปัญหาหลาย ๆ อย่างมารวมกันครับ มันจะเครียดมาก อย่าลืม...คุณมีครอบครัวนะครับ... เป็นกำลังใจให้ฝ่าปัญหาไปได้ด้วยดีครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: โทน73 -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 16, 2005, 12:54:07 PM หนี้สินคุณเหลืออีกไม่มาก แล้วทำไม่เขาถึงต้องมาข่มขู่คุณถึงเพียงนี้ ? แปลกจัง
จริงๆแล้วเขาไม่พอใจคุณเรื่องอื่นหรือเปล่า ? หรือพฤติการในอดีตของคุณ ? พยายามหาสาเหตุให้พบแล้วรีบแก้ไขเสีย คุณต้องแสดงให้เขาเห็นด้วยครับ ว่ากำลังจะพยายามใช้หนี้เขา ไม่เบี้ยวแน่นนอน แถวบ้านผม ตอนฟองสบู่แตก เจ้าของกิจการมีหน้ามีตาในจังหวัด ยังผ่อนจ่ายลูกหนี้ รายวันวันละ 50-60 บาทเลย แม่ค้ารายย่อยผ่อนวันละ 20-30 บาทก็มี คุณต้องเอาไปให้เขาเอง อย่าให้เขามาถึงบ้าน หนี้สินต้องรีบจ่ายครับ วันละนิดละน้อยเผลอแป๋บเดียว ก็จ่ายหมดแล้ว อย่าประวิงผลัดผ่อน ดอกเบี้ยมันขึ้นไวมาก เรื่องขู่คุกคามคุณ ก็หาแนวทางสู้อย่างที่พี่ๆแนะนำข้างต้น แค่หาแนวทางนะครับ ทำเงียบๆอย่าแสดงให้เห็นว่าคุณกำลังท้าทายเขา เอาไว้เป็นเขี้ยวเล็บถ้าเขาล้ำเส้นมาจริงๆเท่านั้น นอกจากปืนแล้ว คอมพิวเตอร์ ก็ขายไปใช้หนี้ได้ครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: phofah ที่ มีนาคม 16, 2005, 01:49:45 PM หนี้ที่มีอยู่จริง ควรชำระคืน ฝ่ายเราเป็นคนก่อให้เกิด
เงินตั้ง 20000 บาท แม้ ดอกเบี้ยอาจจะไม่ชอบด้วยกฎหมาย แต่เราเต็มใจก่อ หากสู้ในทางกฎหมาย อาจชนะในส่วนดอกเบี้ย เมื่อคำนวณค่าใช้จ่ายแล้วมากกว่าดอกเบี้ย เสียเวลา น่าเข้าไปเจรจาขอผ่อนชำระ เขาคงไม่ใจดำหรอกน่า หากตกลงไม่ได้ ถ้าเป็นผม ปืนเป็นสิ่งที่ผมรัก หากจำเป็นก็ต้องเสียสละ ขายไปชำระหนี้ มีเมื่อไร ค่อยหาเพิ่ม ดีกว่ามั้ยครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มีนาคม 16, 2005, 01:55:25 PM การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลกนะโยม รีบๆเคลียร์ซะ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มีนาคม 16, 2005, 02:04:18 PM แม้ จขกท. จะมีอาวุธปืนในมือ แต่กรณีนี้คงไม่สามารถนำมาใช้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สินได้ (เขาจะทำจริงหรือไม่ก็ยังไม่ทราบ แต่งานนี้ไม่ควรวัดใจกัน) เพราะถึงอย่างไรคุณก็ต้องคำนึงถึงชีวิตความเป็นอยู่ของคนข้างหลัง นึกถึงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของบุคคลที่เรารักดีกว่าครับ ขาดคุณไปสักคนหนึ่ง คนข้างหลังคงลำบากเดือดร้อน จริงๆแล้ว จขกท. ก็ทราบดีอยู่ ว่าการที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามลงไปนั้น มีผลกระทบหลายด้านแน่ๆ หากตัดใจขายปืนไม่ได้ คุณอาจจะต้องนำปืนไปฝากไว้กับคนที่เชื่อถือไว้วางใจได้ ตึ๊งไว้ก่อน เมื่อมีเงินในภายหลังแล้วค่อยไปขอคืนกลับมา คิดว่าคุณคงหากัลยาณมิตรที่พร้อมจะช่วยในเรื่องนี้ได้ เอาใจช่วยครับ ถ้าเสียดายขายปืนทิ้งไม่ลงอยากเก็บเอาไว้ให้ลูก ก็ลองเอามา(แอบๆ)ฝากไว้กับพี่ๆในนี้ซักคนก็ได้ครับ สะสมเงินได้แล้วค่อยกลับมารับคืน ปัญหาเร่งด่วนคือจัดการกับหนี้สินก้อนนี้ซะก่อน ในเวบอวป.นี้น่าจะมีพี่-น้องที่คุณพอจะเชื่อถืออยู่บ้างกระมังครับ? หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ken ที่ มีนาคม 16, 2005, 02:19:33 PM ขอขอบคุณ บรรดา พี่ ๆ เพื่อนทุกท่านที่ให้กำลังใจครับ ตอนแรกที่เห็นโฆษณาการโอนหนี้นอกระบบมาเป็นหนี้ในระบบของธนาคารออมสิน ผมหัวเราะชอบใจ ตอนลูกน้องเจ้าหนี้เตะเจ้าของรถเข็นนึกว่าเป็นถังแก๊ส ไม่นึกว่ามันจะมาเกิดขึ้นกับเรา ขำไม่ออก นึกว่าเป็นเรื่อง make ขึ้นมาเล่น ๆ อ้าวมันจริงนี่หว่า ถ้าใครไม่ประสพหรือเกิดกับตัวเองไม่รู้ครับ ความรู้สึกยากที่จะบรรยาย มีเงินอยู่เท่าไหร่ให้เอามาให้หมดเดี๋ยวนี้ยังกะกาตูนต์ขายหัวเราะ หมดทั้งบ้านมีเงินแค่ สองร้อยพอซื้อนมให้ลูกกินถ้าให้ไปแล้วลูกเราจะกินอะไร พ่อแม่ยังอดได้ แต่ลูกนี่สิจะไม่ให้กินได้อย่างไร ??? นึกว่าจะได้ใช้ 11 มม คู่กายล้างหนี้ซะแล้ว ผมต้องเดินหนีออกไปทำใจข้างนอก ??? ??? ปล่อยให้คุณภรรยาคู่กรณีพูดจาต่อรองกันเอาเอง ผมไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ และเล่นการพนันทุกชนิดครับ ต้นเหตุอยู่ที่ท่านศรีภรรยาคุณแม่ของลูกครับ >:(
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: nick ที่ มีนาคม 16, 2005, 03:30:57 PM ทำใจร่มๆ ครับ
มีอะไรเข้ามาคุยกันนะครับ จะได้สบายใจขึ้น สู้ต่อไปอย่างสันติ ท่านken หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 16, 2005, 04:27:57 PM ตอบท่านเจ้าของกระทู้นะคับ ขอเรียนบอกก่อนว่าผมเป็นผู้น้อยความคิดอ่านอาจจะน้อยนิดแต่อยากช่วยเหลือ หากไม่อยากขายขอแค่เป็นคนมีสัจจะบอกเค้าไปเลยคับจะค่อยๆๆผ่อนให้แต่ขอแค่หยุดต้นและดอกแค่ตรงนี้ได้ไหมคับ คือโอเค2หมื่นเนี้ยใช้ให้นะแต่ขอให้เป็นแค่2หมื่นไม่ใช่ทบต้นทบดอก จะค่อยๆๆผ่อนให้ทีละนิดละหน่อย มีก็จะรีบใช้คืนให้ แล้วพี่ก็ออกมาทำพิเศษ คนเราถ้าขยันประหยัดอดทนไม่อดตายแน่นอนคับหนทางมันต้องมี ไม่ทราบพี่อยู่แถวไหนคับเฝื่อพอมีหนทางอะไรจะได้ช่วยคิดช่วยกันแก้ได้คือผมอยากทราบทำเลนะคับว่าเป็นอย่างไร มีน้อยก็กินแต่น้อย ยืมเค้ามาก็ต้องคืน ขอเป็นกำลังให้นะคับใจเย็นๆๆนะคับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ มีนาคม 16, 2005, 07:04:05 PM :'( เห็นใจมากครับ
ติดต่อเจ้าหนี้โดยตรง อธิบายเหตุผลและความเป็นจริง ขอผ่อนผันเช่น ขอให้ลดดอกเบี้ย และทยอยชำระ อย่าหนีหน้า อย่าท้าทาย เพราะเขาเป็นเจ้าหนี้เราไม่ว่าจะมีอิทธพลหรือคนธรรมดา หรือไม่มีจริงๆก็ยกทรัพย์สินบางส่วนหักหนี้ไปบ้าง.....ให้เขาไปตอนลูกไม่อยู่นะ :'( :'( สงสารเด็กไม่รู้เรื่องด้วย คนไม่มีก็คือไม่มีจริงๆ แต่ต้องแสดงความจริงใจในการชำระหนี้ น่าจะยืดหยุ่นกันได้ เจ้าหนี้ส่วนใหญ่มักถือคติ ................... กำขี้ ดีกว่ากำตด.........................ถ้าเราไม่มีจริงๆเขาคงรับได้กับของที่ขู่ว่าจะมาขนไป ลองต่อรองให้เขายึดไปสัก 2-3 อย่าง แล้วหมดหนี้กันไป ปืนเก็บไว้เป็นสิ่งสุดท้าย บอกเขาว่าจำนำไปหมดแล้ว ขอให้รอดพ้นบ่วงกรรม นะครับ ............. สิ่งศักดิ์สิทธิ์จงคุ้มครองให้ครอบครัวท่านปลอดภัยทุกคน หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: muk ที่ มีนาคม 16, 2005, 07:15:08 PM เห็นใจคุณเคนครับ...ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ขอให้ใช้สติในการแก้ปัญหานะครับ..........
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: วรกฤษ ที่ มีนาคม 16, 2005, 07:33:22 PM ;Dขอเป็นกำลังใจให้ครับ..........ความคิดเห็นเหมือนกับหลายๆท่านครับ.......ชำระเท่าที่เรามีไม่ต้องซีเรียสครับ....
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: นาจา™รักในหลวง ที่ มีนาคม 16, 2005, 07:42:53 PM ...มูลเหตุมาจากหนี้....
ในปัญหาข้อกฎหมาย มีเพื่อนๆ ให้ข้อแนะนำอย่างชัดเจนแล้ว....แต่...เรื่องที่เกิดขึ้น และความเป็นจริงคุณกำลังทุกข์ใจขณะนี้ ปัญหามันยังไม่ไปถึงศาล หรือต้องเอาข้อกฎหมายมาตัดสิน ณ ปัจจุบันคุณต้องเคลียร์ปัญหานี้ให้ลุล่วงไปก่อน แม้ไม่มีเงินก็น่าจะพูดคุยกับเจ้าหนี้ได้ครับ นึกถึงตอนยืมเค้าไว้ด้วย....ลองคุยกับเจ้าหนี้ อ้างเหตุตอนนี้ยังไม่สามารถใช้เงินต้นได้...ก็ขอชำระดอกเบี้ยเค้าก่อน คุยดีๆ ให้น่าเห็นใจ ผมว่าปัญหาก็น่าจะลุล่วงไปด้วยดี...ขอเป็นกำลังใจครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: sak ที่ มีนาคม 16, 2005, 09:47:01 PM :D~
ครับ มีหนี้ ก็ต้องใช้ครับ :D~ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:10:52 PM ขอให้กำลังใจนะครับ
ขอให้หนี้สินหมดเร็วๆครับ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: 524 ที่ มีนาคม 16, 2005, 10:59:34 PM เห็นใจคุณเคนครับ...ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้ขอให้ใช้สติในการแก้ปัญหานะครับ.......... ..... :D :D :D :D :D. ...การเป็นหนี้..กับการเป็นมนุษย์ ..เป็นของคู่กัน ..ถือเป็นคนส่วนข้างมาก.. มากที่สุดของคนในสังคมไทย..สังคมโลก.. เป็นเรื่องปรกติ ธรรมดา.. ขอเอาใจช่วยครับ... :) หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มีนาคม 17, 2005, 01:29:17 AM ถ้าเป็นผม และอยู่ที่ไกลปืนเที่ยงแบบนั้นผมคงไม่ขายปืนใช้หนี้หละครับ แต่ผมคงจะพยายามประนีประนอมกับเจ้าหนี้เพื่อหาทางผ่อนชำระมากกว่า เพราะการที่ต้องจ่ายเงินก้อนทั้งหมดเลยนั้นก็เข้าใจครับว่ามันค่อนข้างลำบาก พูดจากันดีๆดีกว่าครับ ค่อยๆผ่อนจ่ายน่าจะดีที่สุดครับเจ้าหนี้ก็อุ่นใจว่าจะค่อยๆได้เงินคืนมา ลูกหนี้ก็ไม่ลำบากเกินไป
ต้องมองมุมกลับเป็นเจ้าหนี้บ้างครับ ตัวผมเองก็โดนมาเยอะครับที่ลูกหนี้หายตัว อย่างครั้งแรกเลยที่โดนนี่ผมเคยจีบเค้าตอนเรียนอยู่ abac แล้วก็แห้ว ผ่านไปสองปีพอจบมาผมก็แต่งงานอยู่มาวันดีคืนดีเปิ้ลก็โทรมาหาผม ก็ทำทีคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ทำงานอะไรเป็นไงบ้าง ก็เป็นมารยาทครับผมก็ต้องถามตอบไป เปิ้ลแกเล่นปล่อยมาเป็นชุดเลยว่าช่วงนี้ลำบากอย่างโน้นอย่างนี้ตกงานอยู่หางานยังไมใด้ ผมก็เลยได้แต่สอนและให้ข้อคิดในการทำงานไป อีกวันนึงเปิ้ลโทรมาอีกบอกผมว่าต้องรีบใช้เงินจะเอาไปลงหุ้นกับเพื่อนจัดแข่งโบร์ลิ่งแต่พอดีช่วงนี้ไม่มีเงินขอยืมก่อนได้มั้ยซัก20000แล้วจะรีบคืนให้ ไอ้เราก็เห็นว่าเปิ้ลคงหยายามหาเงินในช่วงไม่มีงานทำ ไอ้เราก็เลยคิดในแง่ดีว่าเออก็ยังดีน๊ะพยายามหาเงินในช่วงตกงาน แต่ผมก็บอกเปิ้ลไปว่าตอนเนี้ย20000 น๊ะผมไม่มีหรอก แต่ผมจะไปถามแฟนผมดูละกันว่าพอจะมีเงินให้ยืมได้เท่าไหร่ เปิ้ลก็บอกผมว่าไม่เป็นไรซัก 8000 ก็ได้ ผมก็เลยไปถามแฟนผมดูว่าพอจะมีเงินให้เค้ายืมได้มั้ยเห็นเค้ากำลังเดือดร้อน แฟนผมก็ดูในบัญชีแล้วก็บอกผมว่า8000น๊ะพอไหวแต่20000นี่อาจทำให้พวกเราลำบากน๊ะ ผมก็เลยโทรกับไปบอกเพื่อนผมว่าแฟนผมมีให้ยืมแค่8000น๊ะ เปิ้ลก็ว่าได้8000ก็ยังดีแล้วพูดขอบคุณอยู่หลายหน เงียบหายไปสองเดือนโดยไม่ติดต่อหาผมเลย(ไอ้เราก็ไม่อยากทวงเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน)แล้วก็โทรมาหาผมอีกคราวนี้เค้าว่าตอนนี้เค้าต้องใช้เงินด่วนมากเลยอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้เอาbookbankมาเบิกเงินไม่ได้ แต่ตอนนี้อยู่กับแฟนเค้าatmของแฟนก็เงินไม่พอ อยากจะให้ผมช่วยโอนเงินให้หน่อยซัก5000 ไอ้ผมก็พาซื่อบื้อ(โง่ไม่เลิก)กลัวว่าเค้าจะลำบาก ไอ้เราอุตส่าห์พาแฟนวนหาตู้atm เพื่อที่จะโอนเงินให้เปิ้ล พอเสร็จก็โทรไปบอกเค้าว่าเรียบร้อยแล้วน๊ะว่าแต่ว่าจะคืนผมได้เมื่อไหร่รวมกันก็13000แล้ว เค้าก็บอกมาว่าเดี๊ยวต้นอาทิตย์หน้าจะรีบโอนคืนให้ทั้งหมดเลย ผ่านไปอีก6เดือน แฟนผมเค้าก็บอกผมว่าเราน่าจะโทรไปทวงบ้างน๊ะ ผมก็เลยลองโทรไปทวงดู มือถือก็ไม่ยอมเปิด โทรศัพท์บ้านก็ไม่ยอมรับ ก็เลยลองโทรไปบ้านเค้าที่ปัตตานีดู เลยคุยกับแม่เค้าแล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่เค้าฟัง แม่เค้าก็บอกว่าตอนนี้เปิ้ลอยู่กรุงเทพอยู่ถ้ากลับมาจะให้โทรไปหาน๊ะ พร้อมกับจดเบอร์มือถือผมเอาไว้ ผ่านไปสองอาทิตย์เปิ้ลโทรกลับมาหาผมแล้วก็พูดขอโทษผมและจะรีบคืนเงินให้อย่างโกรธเค้าน๊ะ ผมก็บอกว่าผมไม่โกรธหลอกมีอะไรบอกกันก็ได้ไม่ต้องใช้วิธีหายตัว จนถึงวันนี้ผ่านแล้ว3ปี เปิ้ลไม่เคยติดต่อผมอีกเลย มีอยู่วันนึงผมขับรถเจอเค้าบนทางด่วนจาก งามวงศ์วานมุ่งหน้าพระรามเก้า ในใจก็คิดว่าจะปาดหน้าให้หยุดแล้วเรียกลงมาคุยดีมั้ย ก็เลยขับตามไปเรื่อย แล้วผมก็โทรหาแฟนผมว่าเอาไงดี แฟนผมก็บอกว่าปล่อยเค้าไปเถอะคนจะไม่ยอมคืนทวงยังไงก็คงไม่ได้คืน จนทุกวันนี้ก็เลยได้แต่ทำใจครับ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนกันจะทำกันได้ ทั้งๆที่ฐานะที่บ้านเค้าก็รวย ขับรถก็แพง(WolkPassart) ไม่คิดเลยว่าเงินแค่นิดเดียวจะให้รู้ถึงสันดานของคนได้ นี่เป็นครั้งแรกที่โดนครับเลยเล่ายาวหน่อย ยังมีหลังจากนั้นอีกหลายยยครั้งเลยครับ :~) ไม่รู้เป็นไรไม่หายโง่ซะที เจอแรกๆก็พยายามทวงครับ จนหลังๆนี่ปล่อยแล้วครับ เดี๊ยวนี้มีคนมายืมเงิน ถ้าพอช่วยได้ก็ช่วย แต่ก็ทำใจไว้เลยครับว่าไม่ได้คืนแน่นอน ไม่รู้เป็นโรคอะไรเหมือนกันครับใจอ่อนทุกที จนเดี๊ยวนี้แฟนไม่ให้พกเงินแล้วครับ atmผมแฟนก็ใส่ไว้ให้ไม่กี่พัน เพราะแฟนผมเบื่อแล้วครับ :<><> หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 17, 2005, 01:40:11 AM ถ้าเป็นผม และอยู่ที่ไกลปืนเที่ยงแบบนั้นผมคงไม่ขายปืนใช้หนี้หละครับ แต่ผมคงจะพยายามประนีประนอมกับเจ้าหนี้เพื่อหาทางผ่อนชำระมากกว่า เพราะการที่ต้องจ่ายเงินก้อนทั้งหมดเลยนั้นก็เข้าใจครับว่ามันค่อนข้างลำบาก พูดจากันดีๆดีกว่าครับ ค่อยๆผ่อนจ่ายน่าจะดีที่สุดครับเจ้าหนี้ก็อุ่นใจว่าจะค่อยๆได้เงินคืนมา ลูกหนี้ก็ไม่ลำบากเกินไป มองในมุมผมนะคับเงิน13000ซื้อคนได้คนนึง(ที่ไม่ดี)ให้มันไปไกลๆๆจากชีวิตเราได้คุ้มแสนคุ้มคับ เวรกรรมนะมีจริงคับไม่ต้องกลัวใครทำอย่างไรย่อมได้อย่างนั้นกลับไปไม่ช้าก็เร็วคับต้องมองมุมกลับเป็นเจ้าหนี้บ้างครับ ตัวผมเองก็โดนมาเยอะครับที่ลูกหนี้หายตัว อย่างครั้งแรกเลยที่โดนนี่ผมเคยจีบเค้าตอนเรียนอยู่ abac แล้วก็แห้ว ผ่านไปสองปีพอจบมาผมก็แต่งงานอยู่มาวันดีคืนดีเปิ้ลก็โทรมาหาผม ก็ทำทีคุยถามสารทุกข์สุขดิบ ทำงานอะไรเป็นไงบ้าง ก็เป็นมารยาทครับผมก็ต้องถามตอบไป เปิ้ลแกเล่นปล่อยมาเป็นชุดเลยว่าช่วงนี้ลำบากอย่างโน้นอย่างนี้ตกงานอยู่หางานยังไมใด้ ผมก็เลยได้แต่สอนและให้ข้อคิดในการทำงานไป อีกวันนึงเปิ้ลโทรมาอีกบอกผมว่าต้องรีบใช้เงินจะเอาไปลงหุ้นกับเพื่อนจัดแข่งโบร์ลิ่งแต่พอดีช่วงนี้ไม่มีเงินขอยืมก่อนได้มั้ยซัก20000แล้วจะรีบคืนให้ ไอ้เราก็เห็นว่าเปิ้ลคงหยายามหาเงินในช่วงไม่มีงานทำ ไอ้เราก็เลยคิดในแง่ดีว่าเออก็ยังดีน๊ะพยายามหาเงินในช่วงตกงาน แต่ผมก็บอกเปิ้ลไปว่าตอนเนี้ย20000 น๊ะผมไม่มีหรอก แต่ผมจะไปถามแฟนผมดูละกันว่าพอจะมีเงินให้ยืมได้เท่าไหร่ เปิ้ลก็บอกผมว่าไม่เป็นไรซัก 8000 ก็ได้ ผมก็เลยไปถามแฟนผมดูว่าพอจะมีเงินให้เค้ายืมได้มั้ยเห็นเค้ากำลังเดือดร้อน แฟนผมก็ดูในบัญชีแล้วก็บอกผมว่า8000น๊ะพอไหวแต่20000นี่อาจทำให้พวกเราลำบากน๊ะ ผมก็เลยโทรกับไปบอกเพื่อนผมว่าแฟนผมมีให้ยืมแค่8000น๊ะ เปิ้ลก็ว่าได้8000ก็ยังดีแล้วพูดขอบคุณอยู่หลายหน เงียบหายไปสองเดือนโดยไม่ติดต่อหาผมเลย(ไอ้เราก็ไม่อยากทวงเห็นว่าเป็นเพื่อนกัน)แล้วก็โทรมาหาผมอีกคราวนี้เค้าว่าตอนนี้เค้าต้องใช้เงินด่วนมากเลยอยู่ต่างจังหวัดไม่ได้เอาbookbankมาเบิกเงินไม่ได้ แต่ตอนนี้อยู่กับแฟนเค้าatmของแฟนก็เงินไม่พอ อยากจะให้ผมช่วยโอนเงินให้หน่อยซัก5000 ไอ้ผมก็พาซื่อบื้อ(โง่ไม่เลิก)กลัวว่าเค้าจะลำบาก ไอ้เราอุตส่าห์พาแฟนวนหาตู้atm เพื่อที่จะโอนเงินให้เปิ้ล พอเสร็จก็โทรไปบอกเค้าว่าเรียบร้อยแล้วน๊ะว่าแต่ว่าจะคืนผมได้เมื่อไหร่รวมกันก็13000แล้ว เค้าก็บอกมาว่าเดี๊ยวต้นอาทิตย์หน้าจะรีบโอนคืนให้ทั้งหมดเลย ผ่านไปอีก6เดือน แฟนผมเค้าก็บอกผมว่าเราน่าจะโทรไปทวงบ้างน๊ะ ผมก็เลยลองโทรไปทวงดู มือถือก็ไม่ยอมเปิด โทรศัพท์บ้านก็ไม่ยอมรับ ก็เลยลองโทรไปบ้านเค้าที่ปัตตานีดู เลยคุยกับแม่เค้าแล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้แม่เค้าฟัง แม่เค้าก็บอกว่าตอนนี้เปิ้ลอยู่กรุงเทพอยู่ถ้ากลับมาจะให้โทรไปหาน๊ะ พร้อมกับจดเบอร์มือถือผมเอาไว้ ผ่านไปสองอาทิตย์เปิ้ลโทรกลับมาหาผมแล้วก็พูดขอโทษผมและจะรีบคืนเงินให้อย่างโกรธเค้าน๊ะ ผมก็บอกว่าผมไม่โกรธหลอกมีอะไรบอกกันก็ได้ไม่ต้องใช้วิธีหายตัว จนถึงวันนี้ผ่านแล้ว3ปี เปิ้ลไม่เคยติดต่อผมอีกเลย มีอยู่วันนึงผมขับรถเจอเค้าบนทางด่วนจาก งามวงศ์วานมุ่งหน้าพระรามเก้า ในใจก็คิดว่าจะปาดหน้าให้หยุดแล้วเรียกลงมาคุยดีมั้ย ก็เลยขับตามไปเรื่อย แล้วผมก็โทรหาแฟนผมว่าเอาไงดี แฟนผมก็บอกว่าปล่อยเค้าไปเถอะคนจะไม่ยอมคืนทวงยังไงก็คงไม่ได้คืน จนทุกวันนี้ก็เลยได้แต่ทำใจครับ ไม่คิดเลยว่าเพื่อนกันจะทำกันได้ ทั้งๆที่ฐานะที่บ้านเค้าก็รวย ขับรถก็แพง(WolkPassart) ไม่คิดเลยว่าเงินแค่นิดเดียวจะให้รู้ถึงสันดานของคนได้ นี่เป็นครั้งแรกที่โดนครับเลยเล่ายาวหน่อย ยังมีหลังจากนั้นอีกหลายยยครั้งเลยครับ :~) ไม่รู้เป็นไรไม่หายโง่ซะที เจอแรกๆก็พยายามทวงครับ จนหลังๆนี่ปล่อยแล้วครับ เดี๊ยวนี้มีคนมายืมเงิน ถ้าพอช่วยได้ก็ช่วย แต่ก็ทำใจไว้เลยครับว่าไม่ได้คืนแน่นอน ไม่รู้เป็นโรคอะไรเหมือนกันครับใจอ่อนทุกที จนเดี๊ยวนี้แฟนไม่ให้พกเงินแล้วครับ atmผมแฟนก็ใส่ไว้ให้ไม่กี่พัน เพราะแฟนผมเบื่อแล้วครับ :<><> หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มีนาคม 17, 2005, 01:59:03 AM ผมก็คิดแบบพี่ axolot ว่าแหละครับ แต่ยิ่งทียิ่งโดนหนักขึ้นเรื่อยๆนี่ก็เจ็บใจตัวเองเหมือนกันครับว่าทำไมโง่อย่างนี้น๊ะเรา ล่าสุดนี่ก็ผู้รับเหมาก่อสร้างโกงไปสองแสน แถมทำงานไม่เสร็จทิ้งคนงานไว้ไม่ยอมจ่ายค่าแรงอีก ผมก็เลยเละเลยครับ สงสารคนงานก็ต้องจ่ายค่าแรงให้เค้าครับ แต่คนงานเค้าก็ดีครับได้เงินจากผมแล้วก็ไม่ยอมกลับอยู่ช่วงงานผมจนเสร็จจนได้ ซึ้งน้ำใจคนต่างจังหวัดครับ
แถมยังมีอีกกรณีครับเพื่อนสนิทเลยเรียนมาด้วยกันนอนหอด้วยกันไปไหนไปด้วยกัน สุดท้ายก็มาหักหลังผมไปเป็นล้าน ทำอะไรไม่ได้อีก ได้แต่มองมันนั่ง BMW S7 ไปทำงานแล้วดันมาบอกผมว่าไม่มีเงินคืนให้ เห้อออออ คนเรา :<><> ก็เลยเลิกเลยครับขายหุ้นส่วนของผมให้มันไปได้เงินกลับมาแค่สามแสน โยนทิ้งหมดเลยครับตำรา computer network ทั้งหลาย กลับมาเดินทาง electronic เหมือนเดิมดีกว่า หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 17, 2005, 02:09:12 AM อย่าเรียกพี่เลยคับผมอายุ20ปลายสุดๆๆเองคับ เรื่องผู้รับเหมานี้เห็นมาหลายเจ้าเหมือนกันคับ คนต่างจังหวัดโดยเฉพาะคนงานน่าสงสารคับที่บ้านผมมีผู้รับเหมามาปลูกที่พักให้คนงานอาศัยที่หลังบ้าน คน10กว่าคนมันให้ตังร้อยเดียวคับ100บาทถ้วนๆๆให้ไปซื้อข้าวกิน ที่บ้านผมอดรนทนไม่ไหวหุงข้าวทำกับข้าวไปให้คิดซะว่าทำบุญคับสงสารคนเหมือนๆๆกัน สุดท้ายไอ้เจ้าของก็โดนฟ้องล้มละลายสะจายยยยยยยยยยยยยยยยยย :DD :DD :DDส่วนเรื่องเพื่อนนี้อ่า....เพื่อนกินหาง่ายคับเพื่อนดีๆๆหายยาก แต่เพื่อนตายถ้าเราซัก70-80จะหาง่ายมากๆๆเลยคับ :DD :DD :DDไม่รู้เราหรือมันจะตายก่อนกัน แฟนผมก็จบบัญชีเอแบ็คคับผมก็เคยเรียนแต่รับสภาพสังคมไม่ไหวเลยออก ผมเข้าใจความรู้สึกคุณดีเลยละคับมหาลัยนะดีแต่สังคมนะ......เว้นไว้ฐานเข้าใจคับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มีนาคม 17, 2005, 02:39:26 AM งั้นขอเรียกว่าคุณ axolot ละกันครับ ;D สงสัยว่าจะอายุเท่าๆกันเพราะผมก็ปลายยยยยสุดของ29 เหมือนกันครับ พฤษภาคมนี่ก็วิ่งขึ้นเลขสามแล้วครับ :<><>
ผมเองตอนแรกก็เข้าabac มาตอนรหัส 352 ครับ เรียนไปได้เทอมเดียวก็เผ่นครับ ไม่ชอบสังคมเด็กBBA วิชาก็น่าเบื่อเลยสอบเข้าใหม่เลือก engineer ครับสังคมคณะนี้ก็ใช้ได้ครับจบมาได้เพื่อนดีๆมาหลายคนเหมือนกัน หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ken ที่ มีนาคม 17, 2005, 10:05:24 AM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ มีนาคม 17, 2005, 12:42:49 PM รีบๆจ่ายไปเลยครับ ถ้ามีเงิน หากไม่มีก็ไปยืมมาครับ :( :( :<< :DD :OO :VOV: :o
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ มีนาคม 17, 2005, 12:50:54 PM งั้นขอเรียกว่าคุณ axolot ละกันครับ ;D สงสัยว่าจะอายุเท่าๆกันเพราะผมก็ปลายยยยยสุดของ29 เหมือนกันครับ พฤษภาคมนี่ก็วิ่งขึ้นเลขสามแล้วครับ :<><> ผมเองตอนแรกก็เข้าabac มาตอนรหัส 352 ครับ เรียนไปได้เทอมเดียวก็เผ่นครับ ไม่ชอบสังคมเด็กBBA วิชาก็น่าเบื่อเลยสอบเข้าใหม่เลือก engineer ครับสังคมคณะนี้ก็ใช้ได้ครับจบมาได้เพื่อนดีๆมาหลายคนเหมือนกัน ;D อ่า...ถ้าเช่นนั้น ท่านแมวบ้า (ทำไมไม่ไปฉีดยา..อิอิ) กะผมคงเฉือนกันไม่กี่วันล่ะครับ อย่างที่ท่านเป็นผมก้อเคยเป็นครับ จนมันเข้าตัว ทำให้ตัวลำบาก เลยปิดประตูให้กู้ยืมโดยสิ้นเชิง เวลาเค้าเดือดร้อนเราเห็นใจ แต่เวลาเราเดือดร้อนขอคืนเค้าไม่สน แต่คนเราจะไม่ช่วยกันเลยก้อกะไรอยู่ จึงเลี่ยงเป็นว่างั้นผมช่วยค่าข้าวละกันพร้อมอวยพรขอให้เค้าพบทางออกแห่งหนี้ให้เร็วที่สุด ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มีนาคม 17, 2005, 12:58:01 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ เรื่องจริงอันน่าสยองของผมก็คือ " เมียให้ตังมาทำงานวันละ 10 บาท " :~) :~) :~) หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 17, 2005, 01:04:35 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ เรื่องจริงอันน่าสยองของผมก็คือ " เมียให้ตังมาทำงานวันละ 10 บาท " :~) :~) :~) แต่กลับบ้านต้องเหลือให้ครบนะคับ :~) :~) :~) :~)ไม่งั้นตายยยยยยยย หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ มีนาคม 17, 2005, 01:44:24 PM หลายที่มีคำแนะนำดีๆ ให้แล้วผมไม่มีอะไรเสริมครับ :)
ผมอยากพูดรวมๆ ว่าเราต้องรู้จักตัวเองให้ดีครับ อย่าใช้เกินตัวและอย่าให้คนอื่นยืมไปใช้เกินตัว ผู้ใหญ่เขาชอบสอนว่าถ้าจะให้ใครยืมเงิน (แยะๆ หน่อย) ก็คือต้องคิดว่าจะให้เขาไปได้อยู่แล้ว คือเป็นลูกหลานกัน หรือไม่ก็เป็นจำนวนที่ให้เพื่อนฝูงยืมได้โดยถ้าเขาใช้ไม่ไหวตามเวลาเราก็ไม่เดือดร้อน อาจฟังดูเป็นนโยบายใส่เกลือสูงหน่อยนะครับ ผมยอมรับ ;) หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ มีนาคม 17, 2005, 03:09:25 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ เรื่องจริงอันน่าสยองของผมก็คือ " เมียให้ตังมาทำงานวันละ 10 บาท " :~) :~) :~) :~) ขอเชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวันหรือเย็น ณ ที่ทำการของผมครับ (ของพี่ณัฐ 10 บาท ของผมอีก 10 บาท รวมกันแล้วน่าจะได้กับข้าวซัก 2 อย่าง ข้าวฟรี...สบม...เย่) ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 17, 2005, 05:04:44 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ ใจเย็นๆๆนะคับบางครั้งต้องเดินออกจากปัญหาบ้างคับ ไม่ได้หนีแต่ออกมาตั้งหลักแล้วกลับเข้าไปสู้ใหม่คับผมเป็นกำลังใจให้นะคับหัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: Nattapol ที่ มีนาคม 17, 2005, 05:06:47 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ เรื่องจริงอันน่าสยองของผมก็คือ " เมียให้ตังมาทำงานวันละ 10 บาท " :~) :~) :~) :~) ขอเชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวันหรือเย็น ณ ที่ทำการของผมครับ (ของพี่ณัฐ 10 บาท ของผมอีก 10 บาท รวมกันแล้วน่าจะได้กับข้าวซัก 2 อย่าง ข้าวฟรี...สบม...เย่) ;D ;D ;D ประหยัดเข้าไว้ครับ เมียจะได้รัก :D :D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: วายุ - รักในหลวง ที่ มีนาคม 17, 2005, 05:14:41 PM >:( ...........
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ มีนาคม 17, 2005, 07:38:55 PM ขอขอบคุณอย่างมากอีกครั้ง ที่บรรดาพี่ ๆ เพื่อน ๆ ให้ข้อคิดเสนอแนะ คนเราบางครั้งเมื่อถึงคราวตกอับหรือจนตรอก ไม่มีทางไป มันนึกอะไรไม่ออก มืดแปดด้าน คำแนะนำดีดีและกำลังจาก พี่ ๆ เพื่อน ๆ ผมขอน้อมรับด้วยใจ มันมีคุณค่าต่อผมมากครับ เรื่องจริงอันน่าสยองของผมก็คือ " เมียให้ตังมาทำงานวันละ 10 บาท " :~) :~) :~) :~) ขอเชิญร่วมรับประทานอาหารกลางวันหรือเย็น ณ ที่ทำการของผมครับ (ของพี่ณัฐ 10 บาท ของผมอีก 10 บาท รวมกันแล้วน่าจะได้กับข้าวซัก 2 อย่าง ข้าวฟรี...สบม...เย่) ;D ;D ;D ประหยัดเข้าไว้ครับ เมียจะได้รัก :D :D ;D ;D ;D ;D ชะเอิงเอย... :D :D :D ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: คนเหนือฟ้า ที่ มีนาคม 17, 2005, 07:59:52 PM เป็นหนี้ ใช้หนี้ ของนอกกายทั้งหลายหาได้ใหม่ในภายหลัง
หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ มีนาคม 19, 2005, 10:05:44 AM อ่า...ถ้าเช่นนั้น ท่านแมวบ้า (ทำไมไม่ไปฉีดยา..อิอิ) กะผมคงเฉือนกันไม่กี่วันล่ะครับ
อย่างที่ท่านเป็นผมก้อเคยเป็นครับ จนมันเข้าตัว ทำให้ตัวลำบาก เลยปิดประตูให้กู้ยืมโดยสิ้นเชิง เวลาเค้าเดือดร้อนเราเห็นใจ แต่เวลาเราเดือดร้อนขอคืนเค้าไม่สน แต่คนเราจะไม่ช่วยกันเลยก้อกะไรอยู่ จึงเลี่ยงเป็นว่างั้นผมช่วยค่าข้าวละกันพร้อมอวยพรขอให้เค้าพบทางออกแห่งหนี้ให้เร็วที่สุด ;D อ้างถึง ชื่อนี้นี่แฟนผมตั้งให้เองเลยน๊ะครับเนี่ยย พอดีเค้าเห็นผมหน้าเหมือนแมว แล้วขี้หงุดหงิดอีกเลยเรียกว่าแมวบ้าซะเลย บางทีก็เรียก ผมว่า กาฟิว :D~ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ มีนาคม 19, 2005, 10:30:40 AM อ่า...ถ้าเช่นนั้น ท่านแมวบ้า (ทำไมไม่ไปฉีดยา..อิอิ) กะผมคงเฉือนกันไม่กี่วันล่ะครับ :D~ :D~ :D~ :D~ :D~อย่างที่ท่านเป็นผมก้อเคยเป็นครับ จนมันเข้าตัว ทำให้ตัวลำบาก เลยปิดประตูให้กู้ยืมโดยสิ้นเชิง เวลาเค้าเดือดร้อนเราเห็นใจ แต่เวลาเราเดือดร้อนขอคืนเค้าไม่สน แต่คนเราจะไม่ช่วยกันเลยก้อกะไรอยู่ จึงเลี่ยงเป็นว่างั้นผมช่วยค่าข้าวละกันพร้อมอวยพรขอให้เค้าพบทางออกแห่งหนี้ให้เร็วที่สุด ;D อ้างถึง ชื่อนี้นี่แฟนผมตั้งให้เองเลยน๊ะครับเนี่ยย พอดีเค้าเห็นผมหน้าเหมือนแมว แล้วขี้หงุดหงิดอีกเลยเรียกว่าแมวบ้าซะเลย บางทีก็เรียก ผมว่า กาฟิว :D~ หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: visith ที่ มีนาคม 19, 2005, 11:19:53 AM ชื่อนี้นี่แฟนผมตั้งให้เองเลยน๊ะครับเนี่ยย พอดีเค้าเห็นผมหน้าเหมือนแมว แล้วขี้หงุดหงิดอีกเลยเรียกว่าแมวบ้าซะเลย บางทีก็เรียก ผมว่า กาฟิว :D~ ...ตกลงว่า หุ่นเหมือนเจ้ากาฟิลด์....หรือน่ารักเหมือนเจ้ากาฟิลด์..... ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ มีนาคม 19, 2005, 12:38:23 PM ชื่อนี้นี่แฟนผมตั้งให้เองเลยน๊ะครับเนี่ยย พอดีเค้าเห็นผมหน้าเหมือนแมว แล้วขี้หงุดหงิดอีกเลยเรียกว่าแมวบ้าซะเลย บางทีก็เรียก ผมว่า กาฟิว :D~ ...ตกลงว่า หุ่นเหมือนเจ้ากาฟิลด์....หรือน่ารักเหมือนเจ้ากาฟิลด์..... ;D ;D 55555 ผมกาลังจะถามเลย ถ้าวัดที่หุ่นสงสัยกระผมต้องเปลี่ยนชื่อเหมือนกัน อิอิ ;D หัวข้อ: Re: เหตุการณ์จริง เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ มีนาคม 19, 2005, 02:03:49 PM หนี้นอกระบบ
ทวงนอกระบบครับ กู้ง่าย แต่จ่ายยากจะหมด ถือวาผิดพลาดไปครับ ต่อไปจะได้ไม่พลาดอีก เป็นผม ถ้าไม่มีจริงๆ..คงต้องหยิบยืมญาติๆ ไปก่อน ใช้หนี้ญาติ ทีหลังดีกว่า |