เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: Tontakarn รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 09:13:35 AM



หัวข้อ: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: Tontakarn รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 09:13:35 AM
นักธุรกิจเครียดปัญหาหนี้สิน เขียนจดหมายขอโทษ พ่อแม่ ตัดสินใจยุติปัญหาชีวิต ฆ่าลูก เมีย และยิงตัวตาย 5 ศพ นอนเฝ้าสมบัติในบ้านหรู
       
       วันนี้(6 ก.พ.)เวลา 06.00 น.พ.ต.ท.ปริญญา วงศ์กล้า พนักงานสอบสวน (สบ.3) สน.คลองตัน รับแจ้งมีเหตุยิงกันตายภายในบ้านเลขที่ 127 ซอยพัฒนาการ 40 ถนนพัฒนาการ แขวงเขตสวนหลวง กทม. จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น., พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น.พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5, พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.น.5, พ.ต.อ.สุคุณ พรหมายน ผกก.สน.คลองตัน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.คลองตัน และฝ่ายสืบสวนกก.สส.บก.น5 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง
       
       ที่เกิดเหตุเป็นบ้านหรูซึ่งปลูกติดกันจำนวน 2 หลัง ในเนื้อที่ประมาณ 2 ไร่ โดยบ้านหลังใหญ่เป็นบ้านทรงยุโรปแบบโบราณ ภายในบ้านมีรถหรูยี่ห้อต่างๆ จอดอยู่ประมาณ 10 คัน ส่วนหลังที่ 2 เป็นบ้านแบบสมัยใหม่ สูง 3 ชั้น และเป็นบ้านหลังเกิดเหตุ ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปบันทึกภาพทำข่าวภายในบ้านแต่อย่างใด
       
       จากการตรวจสอบภายในบ้านหลังเกิดเหตุ บนห้องนอนชั้น 3 พบศพผู้เสียชีวิตอีก 3 ศพ ศพแรกคือ นายบุญชัย สุรวุฒิพงศ์ อายุ 47 ปี สภาพศพนอนหงายอยู่บนพื้นห้อง สวมเสื้อกล้ามสีขาว กางเกงขาสั้นสีขาว มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับ 1 นัด ส่วนอีก 2 ศพอยู่บนเตียงนอนในห้อง ทราบชื่อต่อมาคือ นางเพ็ญพิมล สุรวุฒิพงศ์ อายุ 46 ปี ภรรยานายบุญชัย สภาพศพสวมชุดนอนสีเทา มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับเช่นเดียวกัน อีกศพคือ ด.ช.พาธิศ สุรวุฒิพงศ์ อายุ 5 ปี ลูกชายคนเล็ก สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อยืดแขนยาวสีดำแขนสีเขียว กางเกงขายาวสีเขียวขี้ม้า มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 2 นัด เข้าที่เหนือคิ้วซ้าย 1 นัดทะลุข้างศีรษะ และเข้าที่ขมับซ้าย 1 นัด
       
       จากการตรวจสอบภายในห้อง พบปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก และอาวุธปืนขนาด 9 มม.ตกอยู่บนพื้นข้างศีรษะนายบุญชัย ใกล้กันพบหัวกระสุนขนาด .38 ตกอยู่จำนวน 4 หัว และปลอกกระสุน จำนวน 8-9 ปลอก จึงเก็บรวมรวมไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังพบสมุดฉีกขนาดเล็ก เขียนบันทึกข้อความเป็นจดหมายลาตายเขียนด้วยลายมือของนายบุญชัย อยู่บนโต๊ะปลายเตียง โดยแผ่นแรกเขียนในทำนองที่ว่า ได้กล่าวขอโทษพ่อแม่ที่สร้างปัญหาให้ตลอดเวลา อีกทั้งได้ตัดสินใจผิดพลาดมาตลอด และขอโทษที่ยังไม่ได้ทดแทนบุญคุณพ่อแม่ จึงขอพาครอบครัวไปด้วย ส่วนแผ่นที่ 2 เขียนว่า ชูแสง ให้แขกมาเฟียมาอุ้มลูกเพื่อทวงหนี้
       
       นอกจากนี้บนห้องนอนชั้น 3 ถัดไปอีกห้อง เจ้าหน้าที่ยังพบศพ น.ส.นัทธมน สุรวุฒิพงศ์ อายุ 15 ปี ลูกสาวคนกลางของนายบุญชัย เสียชีวิตอยู่บนเตียงนอน สภาพศพนอนหงายสวมเสื้อแขนยาวสีดำ กางเกงขาสั้นสีขาวลายทาง มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ขมับ 1 นัด ส่วนที่บริเวณห้องนอนชั้น 2 ยังพบศพ น.ส.ณัฐนิช สุรวุฒิพงศ์ อายุ 18 ปี ลูกสาวคนโตของนายบุญชัย สภาพศพนอนหงายอยู่บนเตียงนอน สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีดำ มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด .38 เข้าที่ขมับ 1 นัด
       
       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามนายปุน จันหอม เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของบ้านหลังเกิดเหตุ เล่าว่า ตนอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าวมา 8 ปี โดยก่อนหน้านี้เป็นคนขับรถแต่สายตาไม่ดี เจ้าของบ้านจึงเปลี่ยนงานให้มาเป็น รปภ. สมัยก่อนบ้านที่เกิดเหตุเป็นโรงงานทำน้ำหอมส่งออกนอก ชื่อบริษัท แพ็กเซิร์ฟ รวมทั้งทำน้ำหอมส่งให้บริษัทในไทยยี่ห้อ แอกซ์ จนกระทั่งทางเจ้าของบ้านได้ไปซื้อที่ดินย่านร่มเกล้าเพื่อขยายกิจการทำโรงงาน และได้ดัดแปลงโรงงานเดิมเป็นบ้าน โดยปลูกบ้านหลังทรงยุโรปก่อน และให้พ่อแม่อยู่อาศัย ซึ่งครอบครัวนี้มีลูก 6 คน นายบุญชัยผู้ตายเป็นคนโต จนกระทั่ง 2 ปีได้ปลูกบ้านหลังใหม่ และเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาครอบครัวผู้ตายได้ย้ายเข้ามาอยู่
       
       นายปุน กล่าวอีกว่า จากการสอบถามแม่บ้านพบว่า เมื่อช่วงเช้าแม่บ้านได้ขึ้นไปเพื่อปลุกลูกชายคนเล็กมาอาบน้ำ โดยได้เรียกอยู่เป็นเวลานานแต่ไม่มีใครเปิดประตู จึงได้เปิดประตูเข้าไป พบว่านายบุญชัย ภรรยา และลูกคนเล็กนอนเสียชีวิต จากนั้นจึงวิ่งไปเพื่อเปิดประตูห้องนอนลูกชายคนกลาง และคนโตก็พบว่าทั้ง 2 ลูกยิงเสียชีวิตเช่นกัน
       
       ด้าน พ.ต.ท.ปริญญา พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี กล่าวว่า เบื้องต้นคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเรื่องหนี้สิน เพราะผู้ตายลงทุนขยายกิจการโรงงานที่ย่านบางปะกง เนื้อที่ประมาณ 20 ไร่ มูลค่าประมาณ 800 ล้านบาท จากนั้นก็มากู้เงินจากแบงค์อีก จำนวน 130 ล้าน เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในโรงงาน แต่ธุรกิจมีปัญหา และเป็นหนี้สินจำนวนมาก จึงตัดสินใจฆ่าตัวตาย แต่ไม่อยากให้ครอบครัวทั้งลูกและภรรยารับภาระหนี้สินจึงตัดสินใจฆ่าภรรยาและลูกทั้ง 3 คนตามตัวเองไปด้วย
       
       พ.ต.ท.ปริญญา กล่าวต่อว่า จากการตรวจตามห้องที่เกิดเหตุทั้ง 3 ห้อง พบรอยเลือดหยุดเป็นทางยาว มีรอยเท้าเหยียบย่ำต่อเนื่องกัน เบื้องต้นจึงคาดว่า นายบุญชัย น่าจะใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงนางเพ็ญพิมล ภรรยาก่อนเป็นคนแรก จากนั้นก็ใช้อาวุธปืนกระบอกเดิม ยิง ด.ช.พาธิศ แต่คาดว่ากระสุนนัดแรกเข้าที่บริเวณเหนือคิ้วซ้ายทะลุออกข้างศีรษะ จึงยิงซ้ำเข้าที่ขมับอีก 1 นัด จนเสียชีวิต จากนั้นนายบุญชัย จึงเดินออกจากห้องไปที่ห้องนอนของ น.ส.นัทธมน ใช้อาวุธปืนกระบอกเดิมยิงเข้าที่ขมับจนเสียชีวิต ตามด้วย น.ส.ณัฐนิช ลูกสาวคนโต ก่อนที่จะเดินกลับมาที่ห้องตัวเอง นั่งเขียนจดหมายดังกล่าว แล้วใช้อาวุธปืนยิงขมับตัวเองเป็นคนสุดท้าย
       
       พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก.สส.น.5 กล่าวว่า เบื้องต้นจะให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ กก.สส.บก.น.5 แบ่งทีมกันตรวจสอบประวัติของนายชูแสง ไม่ทราบนามสกุล ที่พบชื่อระบุอยู่ในจดหมายลาตายของนายบุญชัย ซึ่งเบื้องต้นพบว่า นายชูแสง เป็นคนวิ่งเต้นพานายบุญชัยไปกู้เงินจากแบงค์จำนวน 130 ล้านมาทำธุรกิจ ซึ่งจะได้เงินค่านายหน้าเป็นเงินจำนวน 4-5 ล้านบาท แต่ยังไม่ได้จ่ายเงินให้นายชูแสง นอกจากนี้ยังพบว่า ภรรยานายบุญชัยนั้นยังเล่นหุ้น ซึ่งก็ประสบปัญหาหุ้นตกสูญเงินไปเป็นจำนวนมาก จึงไม่เงินมากจ่ายค่านายหน้านายชูแสง จึงถูกนายชูแสงตามทวงหนี้ พร้อมทั้งขู่จะอุ้มลูกๆของนายตามที่ระบุไว้ในจดหมายจึงตัดสินใจยิงตัวตายพร้อมภรรยาและลูกๆเพื่อหนีปัญหา ส่วนประเด็นอื่นๆกำลังปะสานทางญาติมาสอบปากคำว่า ผู้ตายมีหนี้สินหรือปัญหาส่วนตัวกับใครอีกหรือไม่

ที่มา : http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9500000014712


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: มะกอกบ้า@รักในหลวงครับ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:10:36 AM
ผมก็ดูข่าวนี้ครับ
ถ้าเป็นการฆ่าตัวตาย ตัวการก็ความเครียดแหละครับ
เรื่องในหัวสมองคนเราใครคิดอะไรมากมายแค่ไหนไม่มีใครรู้ได้ครับถ้าไม่พูดออกมา
เอาเป็นว่า ระบายออกอย่างถูกวิธีคงช่วยได้นะครับ
 :)
เป็นห่วงทุกๆท่านครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: trinnawat *love the king* ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:13:48 AM
น่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้นะ ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวสุรวุฒิพงศ์ ครับ :'(


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: tra-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:19:23 AM
http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=30795.0


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: gopo ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:25:25 AM
ไม่น่าเป็นแบบนี้นะครับ สงสารเด็กพ่อแม่สร้างปัญหาแต่เด็กต้องมารับเคราะห์


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: paisan2 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:42:52 AM
น่าสงสารเด็กและผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่อง  ต้องมารับผลของการกระทำที่เห็นแก่ตัวแบบสุดๆ >:(


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: van-เรารักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:48:21 AM
สงสัยจะไม่ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงครับ  เฮ้อทักษิโณมิกส์ :~)


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:50:28 AM
แย่จัง


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: billy the kid @ Love The King @ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 10:53:09 AM
ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ ข่าวอย่างนี้ทำให้คิดถึงหลักความพอเพียงครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: mETEr ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 11:34:26 AM
น่าเสียใจมากครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: * : L๐OKPlaNoi *:.รักแม่ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 12:34:44 PM


         เศร้าสลดใจ  :-[


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: at75 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 12:59:24 PM
ทำไมยิง ปืนตั้ง 10กว่านัด แถมคนตั้ง4-5คนทำไม ถึงนั่งให้ยิงเฉยๆ ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนเลยเหรอ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: นายอันตราย ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 02:07:47 PM
ทำไมยิง ปืนตั้ง 10กว่านัด แถมคนตั้ง4-5คนทำไม ถึงนั่งให้ยิงเฉยๆ ไม่มีใครได้ยินเสียงปืนเลยเหรอ

อื่ม...........ยานอนหลับไงครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: Footballmania ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 02:17:00 PM
เศร้าจัง ..... :-[


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: KENG 92FS ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 02:38:29 PM
แย่มาก  จ่อยิงขมับลูกทีละคน  จิตใจยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า   ถ้าเป็นผม  ผมจะขายรถที่มีอยู่ 10 กว่าคันออกไปก่อน  แล้วขายคฤหาสย้ายไปอยู่บ้านพ่อแม่ชั่วคราว  น่าจะได้สักเกือบ 100 ล้าน แล้วล่ะมั๊ง   เอาโป๊ะไปก่อนยังได้   ทำไมต้องคิดสั้นด้วย

คอยดูนะ  ผลพวงจากข่าวนี้ จะทำให้เราขอ ป.3 ยากขึ้นกว่าเดิมอีกแน่นอน


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: Jedth ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 02:45:03 PM
แย่มาก  จ่อยิงขมับลูกทีละคน  จิตใจยังเป็นคนอยู่หรือเปล่า   ถ้าเป็นผม  ผมจะขายรถที่มีอยู่ 10 กว่าคันออกไปก่อน  แล้วขายคฤหาสย้ายไปอยู่บ้านพ่อแม่ชั่วคราว  น่าจะได้สักเกือบ 100 แล้วล่ะมั๊ง   เอาโปะไปก่อนยังได้   ทำไมต้องคิดสั้นด้วย

เห็นด้วยครับและน่าสลดใจมากๆ ครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 03:37:49 PM
เป็นหนทางของการแก้ปัญหาที่ใช้ไม่ได้   เลยคิดสูตรสำเร็จ    แบบคงไม่ได้ปรึกษาใครเลยนะครับ   ที่ทำแบบนี้   ผมคิดว่าถ้าเขามีคนที่ให้คำปรึกษาได้ก็คงจะแนะทางออกได้ดีกว่านี้....น่าเห็นใจครับสำหรับคนที่อยู่ข้างหลัง   หลังจากที่เขาได้ก่อเรื่องไว้....


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: เรียวมะ ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 03:47:00 PM
น่าสลดใจครับน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้นะครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: jojo19 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 03:51:12 PM
So So Sad  :(  :(  :(  How could someone killed all of his family????? just because he did something wrong financially.
Hope this would be the last case na krub. Rest in Peace.


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 03:54:27 PM
คุณ JOJO 19  ช่วยแปลเป็นไทยหน่อยครับ  ขอโทษครับผมภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงครับ ....


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: jojo19 ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 03:57:36 PM
คุณ JOJO 19 ช่วยแปลเป็นไทยหน่อยครับ ขอโทษครับผมภาษาอังกฤษไม่แข็งแรงครับ ....
So Sorry krub, I cant. Coz my keyboard has no Thai Letter and it will take time for me to type in Thai.
Hope you do understand this time. Thanks krub.


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: เบิ้ม ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 04:09:34 PM
    ผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก  ไม่น่าคิดสั้นแบบนี้  สงสารครอบครัวนี้จริงๆ  :-[


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 06:14:10 PM
เห็นด้วยคับ ผมว่าคนทำธุรกิจระดับ700-800ล้าน น่ามีความคิด ทางออกที่สร้างสรรค์กว่านี้

   เป็นอุทาหรณ์ที่ดีครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: werasak ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 06:49:19 PM
ตั้งกระทู้ผิดหน้าครับ


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: ChatKLF-รักในหลวง ที่ กุมภาพันธ์ 07, 2007, 11:34:11 PM
ครับได้ยินข่าวแล้วสลดใจมากครับ....เป็นผมก็จะขายทุกอย่างที่มีเพื่อล้างหนี้ครับ....ชีวิตนี้ยังไม่ตายก็หาใหม่ได้....ทำไมเขาไม่คิดบ้างว่าคนพิการที่ยากไร้เขายังสู้ชีวิตเลยครับ...ส่วนเรื่องมาเฟียถ้ามันคุกคามผมจะเล่นมันกลับครับ....ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย....


หัวข้อ: Re: น่าสลดใจกับข่าวนี้จังครับ ...
เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ กุมภาพันธ์ 08, 2007, 08:27:14 AM
ขอบคุณ JOJO 19 ครับ ที่ช่วยอธิบาย....