เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เมื่อสิงคโปร์ถูกรุมยำ! [15 ก.พ. 50 - 18:59]
 
กระแสต่อต้านสิงคโปร์ ในสังคมไทยปะทุขึ้นตั้งแต่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ขายหุ้น บ.ชินคอร์ป ให้กองทุนเทมาเสก ยิ่งหลังรัฐประหารและท่านแม้วดอดไปพบรองนายกฯลอดช่องเมื่อเดือนที่แล้ว ความหวาดระแวงแคลงใจดูจะทวีขึ้น ถึงขั้นไทยระงับความร่วมมือระหว่างข้าราชการพลเรือน (CSEP) กับสิงคโปร์

ในช่วงหลังๆ ความบาดหมางระหว่างสิงคโปร์ กับเพื่อนบ้านในอาเซียนไม่ใช่มีเฉพาะไทยเท่านั้น แต่ยังรวมถึง “มาเลเซีย” และ “อินโดนีเซีย” ด้วย

กรณีมาเลเซีย ซึ่งปกติก็มึนตึงกันอยู่แล้ว รวมทั้งเรื่องพรมแดนและน้ำ ก็มีเรื่องใหม่ผสมโรงเข้ามาอีก เมื่อเกิดน้ำท่วมครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 40 ปี แถบภาคใต้มาเลเซียเดือนที่แล้ว มุขมนตรีรัฐยะโฮร์ออกมาชี้นิ้วกล่าวหาว่า สาเหตุอาจมาจากการถมทะเลสร้างแผ่นดินของสิงคโปร์

ไล่เลี่ยกันรัฐบาลอินโดนีเซียก็สั่งห้ามส่งออกทรายบกให้สิงคโปร์ทั้งหมด ยกเว้นที่ได้ทำสัญญาซื้อขายกันแล้ว หลังจากเมื่อปี 2546 สั่งห้ามส่งออกทรายทะเลไปก่อนแล้ว

อินโดฯอ้างว่าหยุดขายทรายเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมและพรมแดน เพราะนักอนุรักษ์ฯชี้ว่า การดูดทรายทำให้แผ่นดินกร่อนเซาะและอาจทำให้ บางเกาะหายไปทั้งเกาะและส่งผลให้หลักเขตพรมแดนเปลี่ยนไป

แต่ว่ากันว่า มูลเหตุลึกๆ เป็นเพราะอินโดฯ ไม่พอใจที่สิงคโปร์ “เตะถ่วง” ไม่ยอมลงนามข้อตกลงปักปันเขตแดนและ “สนธิสัญญาส่งผู้ร้าย ข้ามแดน” เสียที เพราะสนธิสัญญาดังกล่าวจำเป็นอย่างยิ่งในนโยบาย “ล้างบางคอรัปชัน” ของรัฐบาลประธานาธิบดี สุสิโล บัมบัง ยูโดโยโน เพราะผู้ถูกกล่าวหาว่าคอรัปชันจำนวนมาก หนีไปกบดานในสิงคโปร์โดยที่ทางการอินโดฯทำอะไรไม่ได้

แม้ปากบอกว่าหาซื้อทรายจากที่อื่นได้ แต่การหยุดขายทรายกระทบกระเทือนสิงคโปร์อย่างหนักจนต้องสั่งตรึงราคาทราย เพราะสิงคโปร์ซึ่งมีพื้นที่แค่ราว 700 ตร.กม. เป็นผู้นำเข้าทรายอินโดฯรายใหญ่สุด เพื่อนำมาถมทะเลสร้างแผ่นดินเพิ่มและ เป็นส่วนผสมของคอนกรีตในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่กำลังบูมสุดๆ

การถูก “รุมยำ” จาก 3 ชาติเพื่อนบ้าน ทำให้ นักการเมืองลอดช่องชักมีอารมณ์ถึงขั้นเปิดฉากฉะรัฐบาลในสภา บางคนชี้ว่าชาติเพื่อนบ้านกำลังเล่นเกมการเมืองเพราะอิจฉาที่สิงคโปร์ร่ำรวยกว่า บางคนพูดประชดว่า สิงคโปร์ควรชะลอการขยายตัวทางเศรษฐกิจเพื่อเอาใจเพื่อนบ้านหรือไร?

ในกรณีของไทย ส.ส.บางคนเรียกร้องให้ยุติความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกับไทยเพื่อตอบโต้ จนนายจอร์จ เหยียว รมช.ต่างประเทศ ต้องปรามว่าควรรับ มือกับท่าทีไม่เป็นมิตรของไทยอย่างมีเหตุผล เพราะเพื่อนบ้านก็เหมือน “ลิ้นกับฟัน” ต้องกระทบกระทั่งกันเป็นธรรมดา แต่ต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีไว้

แม้จะมีสิทธิ์เดือดแค้น แต่สิงคโปร์ควรหันกลับไปพิจารณาตัวเองด้วย โดยเฉพาะข้อครหาที่ว่าคิดแต่เรื่อง ผลประโยชน์ของตัวเองมากเกินไป...บางทีอาจได้รู้ว่าถูกเพื่อนบ้านรังเกียจเพราะเหตุใด!
 
 

http://www.thairath.co.th/news.php?section=international04&content=36964

ถ้ามาเลย์ ไทย อินโด ไม่ขายน้ำ ทราย หินให้ เศรษฐกิจสิงค์โปร์คงชะงักเป็นแน่ เพราะทราย มีความถ่วงจำเพาะสูง หากต้องนำเข้าจากที่ไกลๆ ราคาทรายในสิงค์โปร์คงแพงเกือบเท่าเหล็กที่เดียวครับ

อื่ม............โดนใจ ครับ

สิงคโปร์มีกฎหมายห้ามธนาคารเปิดเผยบัญชีลูกค้า  จึงเป็นที่ ๆ ข้าราชการประเทศในภูมิภาคนี้ นิยมไปรับเงินผิดกฎหมายก้อนใหญ่ ๆ กันที่นั่น

กรณีอย่างนี้เอาผิดเขาไม่ได้เลยหรอครับ :)

อ้อ อย่างนี้เอง ทำให้เข้าใจอะไรหลาย ๆ อย่างครับ

ขอบคุณมากครับ มิน่าพวกนี้ถึงยอมอ่อนน้อม...

ลอยเกาะซะเลย

ในรัฐบาลที่แล้ว  บางคนลำพองใจถึงขนาดรับเงินแล้ว ก็เปิดบัญชีฝากกับธนาคารกรุงเทพ สาขาสิงคโปร์ (อยู่ที่โกลเด้นไมลพลาซ่า) เพราะถือว่าไม่มีใครบังคับให้เปิดเผยได้  เพราะเป็นธนาคารไทยที่ต้องทำตามกฎหมายสิงคโปร์   ทิ้งไว้สักพักแล้วก็ไปถอนเงินเอากลับบ้าน  หรือถ้าเป็นเงินก้อนใหญ่จริง ๆ ก็ซื้อหน่วยลงทุนที่สิงคโปร์  ซื้อหุ้นปั่นหุ้นในตลาดหุ้นไทยสามสี่รอบ ก็ฟอกเงินได้แล้ว  มีเหตุผลชี้แจงกับ ปปช.ได้ด้วย

อืม.....ขอบคุณครับพี่

ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ