เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

 >:(

จาก ผู้จัดการ ครับ

http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9480000044423

     อาจารย์จุฬาฯ รำคาญงานเลี้ยงวันเกิดข้างบ้านเสียงดัง คว้า 9 ม.ม.ยิงขึ้นฟ้า 2 นัด หนุ่มขายข้าวแกงที่มาร่วมงานเลี้ยงไม่พอใจ เดินเข้าไปต่อว่า เลยถูกยิงสวน กระสุนเข้าหน้าอก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวไปตาย ร.พ. ส่วนอาจารย์หนุ่มปืนโหด หลังก่อเหตุควบจยย.หนี ตร.ตามสกัดจับ แต่ยังไร้วี่แวว
       
       เมื่อเวลา 24.00 น.วานนี้ (31 มี.ค.) พ.ต.ต.ชำนาญ วัยเจริญ สารวัตรเวร สน.เตาปูน รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่หน้าอาคารมิสเตอร์แสตมป์ เลขที่ 43 ภายในซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 3 แขวงและเขตบางซื่อ กทม.จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วรุดไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุกูล สรวมศรี รอง ผกก.สส.สน.เตาปูน เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน
       
       ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 4 ชั้น 3 คูหา ที่บริเวณหน้าอาคาร เจ้าหน้าที่พบเพียงกองเลือด และปลอกกระสุนขชนาด 9 ม.ม.ตกอยู่ 1 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้บาดเจ็บทราบว่าถูกนำตัวส่ง ร.พ.บางโพ แล้วจึงตามไปตรวจสอบ พบแพทย์กำลังช่วยเหลือชายผู้ได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือนาย สุธัญ อิทธิสุรสิงห์ อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 ซอยเรือนทอง ถ.ริมคลองประปา แขวงและเขตบางซื่อ กทม.อาชีพขายข้าวแกง ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 ม.ม.เข้าที่หน้าอก 1 นัด แต่นายสุธัญ ทนพิษบาดแผลไม่ไหว เสียชีวิตในเวลาต่อมา
       
       ส่วนมือปืนที่ก่อเหตุในครั้งนี้คือ นายสันติลักษณ์ ธัญญาหาร อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ซ.ส.ทวีทรัพย์ แขวงและเขตบางซื่อ กทม. อาจารย์ระดับ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งหลังก่อเหตุได้ขับรถจยย. ยี่ห้อฮอนด้า โซนิค หมายเลขทะเบียน 148 กทม.หลบหนีไป ซึ่งทางเเจ้าหน้าที่ได้แจ้งวิทยุเพื่อทำการสกัดจับแล้ว แต่ยังไม่มีวี่แวว
       
       จากการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุนั้น นายสุธัญ ผู้ตายได้ไปร่วมสังสรรค์ที่งานเลี้ยงวันเกิดของหลานเพื่อน ที่บ้านเช่าซึ่งอยู่ด้านหลังอาคารดังกล่าว จากนั้นนาย สันติลักษณ์ ซึ่งนั่งดื่มสุราอยู่ในอาคารดังกล่าว ก็ได้ออกมายิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด แล้วกลับเข้าบ้านไป นายสุธัญ จึงลุกขึ้นมาเดินไปปัสสาวะที่ริมคลองหน้าอาคารดังกล่าว แล้วตะโกนถามนายสันติลักษณ์ ว่า ยิงปืนทำไม จากนั้นนายสันติลักษณ์ ได้ยิงปืนสวนออกมาจากบ้านหลังดังกล่าว กระสุนเข้าที่หน้าอก 1 นัด ล้มฟุบลงทันที ซึ่งญาติได้รีบนำตัวส่ง ร.พ.บางโพ และเสียชีวิตดังกล่าว
       
       เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ สันนิษฐานว่า นายสันติลักษณ์ มือปืนผู้ก่อเหตุ คงจะเกิดความรำคาญเสียงดังจากงานเลี้ยง จึงได้ยิงปืนขึ้นฟ้า 2 นัด ซึ่งอาจทำให้นายสุธัญ ผู้ตายไม่พอใจ เดินมาต่อว่า จึงถูกนายสันติลักษณ์ ยิงใส่สุธัญ จนเสียชีวิตดังกล่าว ก่อนที่จะขับรถ จยย.หลบหนีไป ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ออกติดตามจับกุมนายสันติลักษณ์ มือปืนผู้ก่อเหตุ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เหล้า+ปืนย่อมเท่ากับคุกคับ

...ปัญหา EQ + สุรา (อีกแล้วครับท่าน  ดื่มกันเข้าไป)

ขอแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตครับ
ขอประนามการกระทำโดยไม่ยั้งคิดทำให้วงการคนรักปืนมัวหมอง คนอย่างนี้ไม่น่ามาเป็นอาจารย์เลย

กำลังเช็คข้อมูลครับว่าคนยิง อายุ 46 ปี เป็น อ. วิศวะฯ จริงๆ เหรอ ระดับ 3 คือคนเริ่มทำงานวุฒิ ป. ตรี ถ้าบรรจุเป็น อ. จริง ก็ต้องเป็นเด็กเพิ่งจบ รอทุนไปเรียนต่อ แล้วช่วงหลังรู้สึกว่าอาจารย์ก็มีแต่ตำแหน่งเป็นพนักงานราชการ

 ดุไปนิดครับ แค่ห้ามคนเมาแบบนี้น่าจะแค่เหยียบกรามก็พอแล้ว ไม่น่าจะใจเร็วด่วนยิงไปก่อนเลย

เรื่องของเรื่องคือมีฝ่ายหนึ่งไม่เกรงใจเพื่อนบ้าน  ทำเสียงดังโวยวาย        อีกฝ่ายที่จริงเป็นผู้ถูกระเมิดสิทธิ์แต่ก็ขาดความอดทนอดกลั้นเพราะเหล้าเข้าปากก็เลยเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น    ไม่น่าเลยเสียอนาคตท่านอาจารย์  :-\ :-\      ผมว่าหลายๆคนในเวปก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้   ผมเองก็เคยเจอที่บ้านเป็นทาวเฮาส์แต่ข้างบ้านแกมาทำเป็นโรงงานเย็บผ้า    ลูกน้องกินเหล้ากันประจำเมาเสียงดังโวยวายโชคดีที่รอดมาได้ไม่ไปยิงมันตาย  >:( >:(      ยังไงก็อยากให้สมาชิกในเวปเราดูไว้เป็นอุธาหรณ์

ผมว่านะคับจากประสบการณ์   มันน่าจะผิดทั้งคู่ละคับ  เพราะคนที่โดนยิงก็เมาแล้วยังไปตะโกนถามอีกว่ายิงทำไม   คนที่โมโห+กึ่งเมาขนาดออกมายิงปืนขึ้นฟ้า  เป็นผมไม่กล้าไปตะโกนถามหรอกคับว่ายิงทำไม    แล้วเราก็ไม่ทราบว่าไอ้ที่จัดงานเลี้ยงนะมันเอาลำโพงงานวัดมาเปิดเฝื่อแฝ่ทั้งซอยหรือเปล่าด้วยคับเพราะเวลาที่ได้รับแจ้งเหตุคือ24.00น.  มันก็ดึกแล้วนะคับ               อีกอย่างผมเจอเหตุการณ์เช่นนี้บ่อยๆๆ  ถ้าทนไม่ไหวหรือเกินเที่ยงคืนผมก็โทรแจ้งตำรวจข้อหารบกวนยามวิการ  แต่ส่วนใหญ่ใครจัดงานเค้าจะเดินมาบอกกันดีๆๆว่าขอวันนะคับเสียงดังนิดหน่อยวันนี้พอดีมีงานวันเกิด     เราก็จะอืมไม่เป็นไรคับ นิดหน่อยๆๆยอมกันได้ก็ยอมแล้วไม่ได้จัดกันบ่อยๆๆ

งานนี้สามัญสำนึก แย่พอ ๆ กันครับทั้ง 2 ฝ่าย ฝ่ายนึ่งก็สามัญสำนึกในเรืองความเกรงอกเกรงใจต่ำ อีกฝ่ายสามัญสำนึกในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าต่ำ บทสรุปเลยลงเอยแบบนี้ :P
อ้าวพี่ชอบเหยีบกรามหรือครับผมนึกว่าชอบหักแขนสะอีก ;D

 :(

เสียอนาคตไปอีกหนึ่ง

และคิดว่ามีผลกระทบต่อวงการปืนอีก ไม่มากก็น้อยครับ

ผมดูจากข่าวโทรทัศน์เช้านี้ เห็ฯว่าผู้ยิงมีพฤติกรรมชอบยิงปืนขึ้นฟ้าเวลาเมาจนชาวบ้านรำคาญอยู่เป็นนิสัย
และก่อนยิงมีการโต้เถียงกันนะครับ (รายการคุณสรยุทธ)
ไม่รู้ข้อเท็จจริงจากการเสนอข่าวเป็นอย่างไรกันแน่ แต่ที่แน่ๆผู้เสียชีวิตเป็นฝ่ายถูกครับ (ก็ถูกยิงไง)

  :OO ผมไม่ได้ดุดันหรือเก่งกล้าอะไรขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่อยากสื่อสารว่า ถ้ามันเป็นแค่เรื่องโต้เถียงกันธรรมดาก็ไม่น่าจะใจเร็วขนาดนั้น ถึงเค้าจะเมามาหาเรื่องแต่ก็เดินเซมาคนเดียว ต่อให้คุยกันไม่รู้เรื่องลามไปเป็นเป็นเรื่องวิวาทก็ไม่ได้เป็นเรื่องชั่วร้ายหรือคุกคามให้ถึงกับต้องฆ่ากันอยู่ดี  :P

 ;D
สรุป...โหดทั้งคู่เลยคับ พี่จ้าวเยียบ นายสนหัก ส่วนผมจะรอส่งเสบียง...อิอิ

****เพราะเหล้าแท้ๆเลย (+สันดาน)**** ต้องวงเล็บไว้หน่อยเด๋วคอเหล้าปาท้วงอาววว
 ;D

เหอๆๆงั้นก็สมควรโดนจับครับชอบยิงปืนขึ้นฟ้าพวกนี้ทานเหล้าแล้งมีองค์มั้งครับต้องสำแดงเดช
::) ::) ::) ::) พี่จ้าวเหยียบคุณสนหักนายต่อส่งเสบียง  งั้นผมรับผิดชอบดูแลปืนทั้ง2ท่านให้เองครับเกรงมันจะขึ้นสนิม :<><> :<><>  :DD :DD :DD

เพิ่งเข้าไปดูเวปมา   เห็นหน้าแล้วถึงจำได้ว่าแกเป็นครูคุมห้อง Lab ที่ภาคไฟฟ้าของคณะวิศวกรรมศาสตร์  แต่ไม่ใช่อาจารย์ของภาควิชานะครับ  ขอแก้ข่าวหน่อยให้สถาบันหน่อย  :-[ :-[    ไม่น่าเลย   

เป็นอุทธาหรณ์อีกหนึ่ง......

เรื่องนี้สอนให้รู้เพิ่มว่า  คนถือปืน..ไม่จำเป้นต้องดื่มเหล้า...ก็อาจเมามายชีวิต..เพราะคนกินเหล้าได้เหมือนกัน :-[

มีปืนต้องมีสติ...

ด้วยความเคารพคนถูกยิง... แต่ตัดสินใจผิดพลาดอย่างร้ายแรงครับ... หรือไม่ก็เมาเอาเรื่องอยู่นะครับ...

ไม่กลัวตาย... ฝ่ายตรงข้ามเอาปืนมายิงขึ้นฟ้าไปแล้ว ไม่น่าสงสัยว่าจะกล้ายิงคนต่อหรือเปล่า...

เป็นนายสมชายแค่เห็นปืน ก็วิ่งแล้วครับ... ฝึกอยู่ทุกเย็น... ไม่ต้องสงสัยว่าปืนจริงปืนปลอม...


อีกข้างนึง ก็คงกลัวถูกแย่งปืน... ลงว่าไม่กลัวตายถึงขนาดเข้ามาต่อว่าได้เนี่ย... กล้าวิ่งเข้ามาแย่งปืนแน่ๆ... แต่ไม่น่ายิงปืนขึ้นฟ้าเลย... คนบางคนเขาไม่กลัวหรอกครับ เมาแล้วน่ะ...

นายสมชายนึกถึงคนอีกกลุ่มนึงไม่ค่อยกลัวตาย... พวกขี่มอเตอร์ไซค์ซิ่งครับ(ที่ดีๆ เขาก็มี)... แต่พวกที่ไม่ดีชอบวิ่งทางแคบๆ ทางกว้างๆไม่วิ่ง พอเราเปิดไฟเลี้ยว มันต้องเข้ามาแทรกครับ... บางทีต้องเปิดไฟล่อให้รีบแทรก แล้วเราค่อยย้ายเลนจริงๆ... ฮา

เวรกรรม ไม่รู้คิดได้ไง ทำได้ไง แล้วต่อไปอนาคตจะเป็นไง ครอบครัวจะเป็นไง หรือไม่เคยคิดเลย น่าสงสารครับ
มีปืนมีสติครับ
กินเหล้าต้องไม่เล่นปืน

เห็นด้วยครับ......

ผมคิดว่า....
1. คนที่อยู่ในวัยทำงาน ( อายุเท่าไหร่ก็ตามแต่ ) ผมคิดว่าเมื่อกลับมาถึงบ้านกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็อยากจะมุดหัวนอนทุกคนแหละครับเพราะเหนื่อยมาทั้งวันแล้วต้องไปทำงานแต่เช้าอีก
2. ผมว่าคนที่ชอบดื่มเหล้าจริงๆแล้วในสังคมทุกวันนี้ไม่มีใครตั้งข้อรังเกียจหรอกครับ  แต่
3. แต่ถ้าดื่มเหล้าแล้วชอบเปิดเพลงเผื่อแผ่ชาวบ้านหรือเพื่ออวดว่า “ บ้านตูมีเครื่องเสียงนะเฟ้ย”  ในยามวิกาลนี่มันก็น่าหาอะไรยัดปากแทนเหล้าจริงๆ
4. เหมาะไหมกับการที่ผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการส่งเสียงดังใช้เสียงปืน หรือ โชว์ปืนให้เห็นปืนเพื่อเป็นการบอกว่า “ตูนอนไม่หลับนะเฟ้ยหนวกหู ship หาย เดี๋ยวสอยซะนี่”  ก็ไม่เหมาะสมครับ
5. แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเหมาะสมที่สุดแต่
5.1จะมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ( อาจมีงานอื่นที่สำคัญกว่าจริงๆ )
5.2 หรือโทรฯแจ้งไปดันไปรู้จักกับคนในวงเหล้าอีก  ผู้แจ้งก็ซวยไป ( หากพบตำรวจไม่ดี )
6. การอยู่ร่วมในสังคมอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย รู้จักความเกรงใจซึ่งกันละกันสำคัญที่สุดครับและมันเป็นสิ่งที่ยั่งยืนด้วย

........อ้าวเดี๋ยวผมมาพิมพ์ต่อนะครับ  ไอ้ข้างบ้านส่งเสียงดัง >:(เดี๋ยวผมไปเคลียร์ก่อน.........  >:(  >:(  >:(


>
>
>
>
>
>
>
>
….กลับมาแย้ววววว............สรุปว่าเป็นเสียงร้องครวญครองของสาวๆครับ( ท่าทางจะ.... )  เลยให้อภัยครับ  อิอิอิ   :D~  :D~  :D~  :D~

 ;D ;D เสียงห้องข้าง ๆ หรือครับ

โถพี่ท่าน...มุขลงทุนนะเนี่ย อิอิ...
(น้องแซวเล่นนะ ห้ามโกรธ อุอุ)

 ;D

ความเห็นส่วนตัวสรุปได้ว่า ???
1. เห็นคนเมาที่ไหนอยู่ห่างๆไว้ก่อนไม่ว่าจะเห็นว่ามีปืนหรือไม่
2. พวกรถซิ่งทุกประเภทบนท้องถนนหลีกทางให้เขาเพราะเขาจะรีบไปตาย
3. พวกชอบส่งเสียงดังรบกวนเพื่อนบ้านอย่าพยายามแก้ปัญหาด้วยการเขาไปเคลียเองแจ้งตำรวจ
4. ฯลฯ
เราไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นคนประเภทใจร้อนโมโหร้ายแค่ไหนมีอาวุธหรือไม่
ให้ถือหลักที่ว่า  เราเป็นคนไม่ควรลดตัวลงไปกัดกับหมาเพราะจะเสียคนเราอาจพลั้งมือยิงหมาตาย ;Dกลายเป็นเรื่องหรือไม่ก็ไม่ทันระวังถูกคนประเภทหมาๆกัดถึงตาย :'(ลูกเมียเราเดือดร้อนอีก

"ครูระดับ 3 คณะวิศวกรรมศาสตร์" เป็นตำแหน่งครูครับ ไม่ใช่อาจารย์ .... เป็นสายช่างฯลฯ ดูแล  Lab .. เครื่องมือ...
  ... เหล้า ... ถ้าเข้าปากใครแล้ว ...... ไม่ว่าใคร ตำแหน่งอะไร เล็กใหญ่ไม่สำคัญแล้ว....   เหล้า ผสม EQ....

ของอย่างนี้มันอยู่ที่คน เหล้า ปืน หรือ เหตุการณ์ มันเป็นแค่สิ่งประกอบ สิ่งสำคัญที่สุดคือคน

เห็นมั้ยบอกแล้วว่าถ้ามีปืนน่ะมันอันตราย อย่างนี้ต้องยึดคืนให้หมด มีปืนกันแล้วเดี๋ยวก็เอาไปยิงกัน อย่างนี้ต้องยึดๆๆๆๆๆๆๆๆ :~) :~)
 มีคนคิดอย่างนี้จ้องอยู่หลายคนนะครับ    >:(
  มีปืนต้องใจเย็นนะ  ;)

   แล้วมีปืนก็ห้ามเอามาถือ-ถ่ายรูปเเล้วโพสต์เล่นในเน็ตนะครับ  เพราะคนอื่นเห็นแล้วเกิดอาการไม่ชอบใจเขาก็จะเอามาวิจารณ์แบบเสียๆหายๆ แถมละเมิดสิทธิส่วนบุคคลโดยการโพสต์เบอร์โทร  ผมรู้สึกแย่แทนเจ้าของรูปในอีกกระทู้นึงน่ะครับ

อย่าไปต่อว่ากันเลย

ขนาดคนที่มีวัยวุฒิ และคุณวุฒิ สูงส่ง จนขนานนามว่า "วุฒิสมาชิก" แก่จะเข้าโลงอยู่แล้ว
ยังขาดสติถึงขนาด Off เด็กหญิงมาบำเรอกาม และตีต่อยกันในที่ประชุมจนอับอายขายหน้าชาวโลกมาแล้ว

เด็กเพิ่งเรียนจบ อายุยังน้อย ขาดความคิดยับยั้ง สมควรให้อภัย  แต่ก็............หมดโอกาสไปเสียแล้ว................ :'(

ที่จริงปัญหานี่แก้ไขได้ไม่ยากครับ...............

ผมเอง เคยโทรแจ้งตำรวจ มาหลายครั้งหลายคราว (ยิ่งช่วงเทศกาลนี่ประจำ) เกี่ยวกับเพื่อนบ้านตั้งวงเหล้า เมาเอะอะเอดตะโร................โทรไปแจ้งความ.............แล้วให้แม่บ้านโทรไปอีกรอบ...............ให้น้องโทรอีกรอบ..........เดี๋ยวก็มาครับ พอตำรวจมา ก็เรียบร้อยเงียบ.......ถ้าเสียงดังอีกก็โทรเรียกตำรวจอีก ให้รู้กันไปว่าตำรวจมาอีกรอบสองรอบ มันยังส่งเสียงอีก แต่ที่เห็นๆมาก็เงียบ ถ้าแจ้งครั้งที่สอง ผมเห็นตำรวจเขาสลายวงเหล้าเลย ไล่ให้เข้าไปกินในบ้านแล้วให้ปิดหน้าต่างด้วย(แอบดูอยู่ กลั้นหัวเราะแทบแย่ ;D).............ก็จบ

เรื่องนี้ ก็บันดาลโทสะครับ...............เลยย่ำแย่กันไป.........แถมกระเทือนซางคนเล่นปืนดีๆอีก :P

แล้วผลลัพธ์มันก็สูญเสียทั้งคู่ครับ ::)

 ::)  เสียชื่อวงการหมดคับ...  ::)

อาววว ที่โทรหลายครั้งนี่ไม่ใช่ตำรวจไม่ยอมมาหรือครับ เพราะเคยโทรตอนเที่ยงคืนโทรตามจนเบื่อ พ่อแม่นอนไมงหลับจนต้องไปคุยเองคร๊าบบบ คุณมาตอนตี2 :~) บ้านอยู่ห่างจากโรงพัก2กม. :<< ตามตำรวจยอดรักยากกว่าคุยกับวงเหล้าครับบบบบบบบบบ :~)

โทรหลายครั้ง แบบคนละคนกัน ตำรวจรีบมาครับ เพราะเข้าใจว่าเดือดร้อนกันมาก.............แต่อาจเป็นที่ สน.แถวบ้านผมมาเร็วกว่าท้องที่อื่นก้เป็นได้ ;D ;D ;D

hello pee makin, khun bobby, pom u Japan again.
when can we go out for drinking and showing the new lot of guns (privately)
my gun sanim ja gin u leaw.
Songkran nee pai teaw nai kan dee ah.  Pai sad  nam kan(sad kraoon too) tee sor ror por dee kwa.5555555

สันติวิธี

ยกเหล้าไปให้อีก 1 ลัง บอกว่า "มาช่วยงาน ขอให้พี่ๆ จัดการให้หมดคืนนี้เลยครับ เดี๋ยวก็สลบไปเอง....."

คุณต้อมจะกลับมาจากญี่ปุ่นเมื่อไหร่ครับ ;D

..."โทร. หลายครั้ง แบบคนละคนกัน" เข้าท่าครับ  ;D

 :D

คุณต้อม... กลับเมื่อไรบอกกันด้วยครับ

สนิมจะกินปืนเหมือนกัน เอาไปนั่งลูบๆกันก็ดีครับ

ขอให้เดินทางกลับบ้านปลอดภัย

ข้าน้อยว่ามะต้องถึงกับเป็นลังหรอกคับขวดเดียวก็พอคับที่บ้านยังมียานอนหลับเหลือ(เอาไว้เวลาทำแผลลูกๆๆกับฉีดยา)ใส่ไปในขวดรับรองคับไม่นาน ;D ;D ;D ;D ใส่ปริมาณเยอะหน่อย ;D ;D ;D  ให้เป็นลังเกรงว่าเมาหลับตื่นมาเหล้าเหลือต้องกินต่อเกรงใจคนยกมาให้คับ   ว่าแล้วว่างๆๆจับตาต่อมอมเหล้าดีก่าตื่นมาจัดฉากให้สาวๆๆนอนล้อมร้องไห้ :DD :DD :DD พี่ต่อทำกะหนูยังงี้ได้งายยยยยยยยย :DD :DD :DDเอ๋หรือเอาผู้ชายนอนร้องไห้ดีหว่า :D~ :D~ :D~ :D~

55555555 ระวังจะโดนตาต่อกรอกยานอนหลับให้ทั่น แล้วเรียกสาวๆมาล้อม  เสร็จแล้วก็ถ่ายรูปส่งอาหมวย หรือเรียกอาหมวยมาดูเต๊อะ :D~

 :~)
ครับ
เรื่องเศร้า
 บ า ง ค น รู้ อ ยู่ แ ก่ ใจ   ช อ บ แ ก ล้ ง   ก ว น เ ข า    บางครั้งขันติก็เลย  แ ต ก  ครับ
คน1 เป็นอาจารย์  คน 1 เป็นพ่อค้า น่าเสียดายอนาคตของทั้ง 2
 :~)

การมีสติเป็นสิ่งทำสำคัญครับ

อันนั้นไม่ต้องมอมคับข้าน้อยเต็มใจโดนเพราะไหนๆๆจะโดนแฟนตืบละขอแบบทำให้มันตรงกับที่เค้าเข้าใจดีกว่าคับ

555 เอิ๊กๆๆ :D~ งั้น ลงมือเลย :~) จ๊ากกก :D~

หุ หุ งั้นใส่ "สลอด" ดีกว่าครับ

เอ แต่สลอดนี่เป็นยังไง ขายที่ไหนครับ ผมแค่เห็นใน พล นิกร กิมหงวน

ถ้าจำไม่ผิด สลอดนี่เป็นพืชนะครับ ที่มีฤทธิ์เป็นยาถ่ายนี่คือส่วนใบครับ ;) มีขายที่ไหน อืมมม นั่นสิ :D~

พยายามหาคำดีๆมาลง แต่ก็ไม่ชัดเจนเท่าที่ท่านโทน73อธิบายครับ
เรื่องจริงในสังคมไทยเป็นแบบนี้ครับ
เรื่องฆ่ากันก็เรื่องขาดสติ อารมณ์ชั่ววูบนี่แหละ
ยิ่งโดนย้ำๆ บ่อยๆ ซักวัน
มันจะเหมือนฟางเส้นสุดท้ายบนหลังมะอูฐ..เอ้ย..บนหลังอูฐ ;D ;D


ท่านสมชายทำให้นึกถึงคน คนหนึ่ง
หาเรื่องหาราวเค้าไปทั่ว เดินผ่านบ้านโน้น บ้านนี้ ต้องด่าลอยๆ แบบไม่เอ่ยชื่อใคร...
ทำประจ๊ำ...ประจำ....
วันดีคืนดี มีคนทนไม่ไหว...คนที่ทนไม่ไหว เพิ่งกลับจากสวน เอาปืนลูกกรด ไปยิงสัตว์รบกวนพืชสวน
เค้าเลยเอาปืนลูกกรดขู่.....
คนถูกขู่ไม่กลัวแถมยังท้าทาย "ยิงเล้ย..ยิงตรงหน้าอกนี่..ตะรางไม่ได้มีไว้ขังหมานะว้อย.ย.ย....."

อูย.ย...ดูเหมือนน่าตาย แต่คนแก่ แม่ของคนถือปืนลูกกรด เข้ามาขัดตาทัพ เรื่องเลยจบแบบไม่มีใครตาย

คนที่รอดไปก็ยิ่งเอาใหญ่ครับ..
หาเรื่อง ด่าลอยๆ ไปทั่ว...
และคำพูดที่ว่า
"ยิงเล้ย..ยิงตรงหน้าอกนี่..ตะรางไม่ได้มีไว้ขังหมานะว้อย.ย.ย....."
ใช้ได้ผลอีกครั้ง กะปืน.38ในไม่กี่เดือนถัดมา

หลังจากนั้น ก็มาตายกะ9มม.
อ้อ... ยิงไม่ตรงอกครับ เข้าดั้งจมูกเลย.....

เรื่องนี้อยู่ในสมัยก่อนผมทำบัตรประชาชนครั้งแรก
อ้อ...คนยิงขายที่ดินไปหลายไร่ครับ หลังจากเสียกระสุนไป1เม็ด ;D ;D ;D

 :) ถ้ามีศาลเฉพาะ  รับพิจารณาคดีเล็กน้อยแบบนี้โดยตรง  แบบศาลเด็ก ศาลแรงงาน ก็คงจะดีครับ :)

 >:ผมเห็นใจ คุณ อาจารณ์ มากกว่าครับ ท่านใดไม่เคยประสบเหตุการณ์แบบนี้ คงไม่ทราบว่า มันสุดแสนทรมารขนาดไหน

        ผมจะเล่าให้ฟังครับ ผมเองก็มีฐานะปานกลางไม่สามารถเลือกที่อยู่หรูๆแบบบ้านเดี่ยวได้ ก็ซื้อทาวเฮ้าส์ อาศัยอยู่นั้นแหละ ก่อนซื้อก็คิดปลงแล้วครับว่า สักวันหนึ่งคงต้องเจอคนประเภทเดียวกับ อาจารณ์คนนี้เจอ
          และแล้วก็เป็นจริง คนเข้ามาอาศัยข้างบ้าน เป็นนักศึกษาต่างจังหวัดเป็นญาตเจ้าของบ้าน อาศัยอยู่ได้สักพัก เริ่มออกลาย กินเหล้าตั้งวงหน้าบ้านกันไม่ต่ำกว่า 10 คน ส่งเสียงเอะอะ โวยวาย เล่นกีต้า ตั้งแต่หัวค่ำยันเช้า คนทำงานเช้าตื่นจากนอนออกจากช้าน ยังเห็นมันกินเหล้าไม่เลิก เวงกำจริงๆ กลางคืนก็ไม่ได้นอน แฟนก็ท้อง เป้นแบบนี้ตลอด บางครั้งก็กินติดต่อกันหลายๆวัน ยิ่งวันหยุดสวรรค์ของมัน แต่นรกสำหรับผมและครอบครัว ต้องมาทนฟังมันคุยกันร้องเพลงเล่นกีต้า เอะอะโวยวายทั้งคืน ไม่ได้หลับได้นอน เป้นแบบนี้ตลอดตั้งแต่แฟนผมท้องอ่อนยันจะคลอด  เครียดก็เครียด ถึงขนาดว่าวันไหนได้ยินเสียงพวกมันนั่งคุยหน้าบ้านตอนเย็น ถึงกับประสาทหลอนเลย ลุ้นว่ามันจะกินเหล้าอีกป่าวคืนนี้ โชคดีผมและแฟนเป็นคนใจเย็นมากๆ คุยกะมันดีๆก็แล้ว แจ้งเจ้าของบ้านก็แล้ว ช่วงหลังๆ เริ่มเอาใหญ่ พอผมโทรไปแจ้งเจ้าของบ้าน นึกว่าพวกมันจะเลิกกิน ที่ไหนได้ กลับมาป่วนในบ้านแทน แกล้งทำเสียงดัง ล่มโต๊ะ เก้าอี้ เอาไม้ฟาดพื้นบางล่ะ ช่วงหลับก็ สะดุ้งตื่นทุกครั้ง บางคืนวันไหนพวกมันกินกันกลุ่มใหญ่ ผมก็ใช้วิธีโทรแจ้งตำรวจ ตำรวจที่นี่ดีมากๆครับ ขอชม แจ้งทุกครั้งก็มาทุกครั้ง ไม่ว่าจะดึกดื่นเที่ยงคืน ตีเท่าไหร่  พี่แกก็มา ช่วงหลังแกเริ่มรู้ว่าบ้านไหนเป็นคนแจ้ง บางที่แกโบกมือให้เลยครับ ว่าจัดการให้เรียบร้อยแล้ว (ผมแอบดูหน้าต่างชั้นสองครับ แฮะๆ) เดี่ยวเพื่อนๆสงสัยผมรู้ได้ไง
          และแล้ว วันที่ฟ้าใสก็มาถึง ผมได้รับแจ้งจากเจ้าของบ้านว่า พวกมันกำลังจะย้ายออกเร็วๆนี้ เกือบปีที่ทรมารใจมากๆ
     แต่ยังไม่จบ ช่วงหนึ่งเดือนก่อนที่มันจะออก เล่นผมซะน่วมเลย ไม่ได้หลับแทบทุกคืน กินเหล้าเมาแล้ว ทุบพื้นห้อง ล้มโต๊ะ เก้าอี้ ตลอด ช่วงหลังเที่ยงคืนไป คิดดูครับ ผนังบ้านทาวเฮ้าส์บางขนาดนั้น เสียงดังไปอีกถึง 2 บ้าน ไม่สะดุ้งตื่นได้ไงไหว
   ยิ่งใกล้ 2 อาทิตย์สุดท้ายพวกมันมีการระดมพลมากินหน้าบ้านอีกเพียบเลย เหมือนแกล้งกันชัดๆ
มาถึงตอนนี้ แฟนผมเริ่มไม่ทนแล้ว บอกผมว่าไปเอาปืนมาต้องทำอะไรซะอย่าง ยิงหัวแ...ง
ทิ้งเลย อารมณ์ช่วงนั้นผมเองก็บันดาลโทสะแล้วครับ ขึ้นไปชั้นสอง หยิบปืน สมิทธ M67 บรรจุกระสุนหัวรู เต็มโม่ หิ้วออกไปหน้าบ้าน ก็กะว่าถ้าพูดแล้วไม่เลิกกินกันอีก จะยิงแ...งให้ตายทั้งหมด พอเปิดประตูบ้านออกไป มันเหมือนมีอะไรมายับยั่งให้สติกลับคืนมา ก็คิดทบทวนว่าถ้าเราเหนี่ยวไกปืนออกไป อะไรจะเกิดขึ้น กับแฟนเราลูกเราที่ใกล้จะคลอด แล้วพ่อแม่เรา อนาคตล่ะ
พอถึงตอนนี้อารมณ์โกรธก็เริ่มเย็นลง ก็เปลี่ยนเป้นใช้วิธีแบบเดิม โทรแจ้งตำรวจ
เชื่อหรือไม่ ผมไม่เคยได้เตะปืนกระบอกนี้มานานเกือบปี ถ้าวันนั้นผมเปลี่ยนจากเป้ากระดาษมาเป็นเป้าคนอะไรจะเกิดขึ้นตามมา

กรณีของ อาจารณ์ท่านนี้ถึงน่าเห็นใจครับ อาจจะเจอเหตุการณ์ซ้ำซากแบบที่ผมเล่ามาก็ได้ครับ
การมีอาวุธปืนไว้ครอบครองก็เท่ากับแหย่ขาข้างหนึ่งในตารางแล้วครับ

                                           ใช้ปืนต้องมีขันติ และสติ

        ผมจะเล่าให้ฟังครับ ผมเองก็มีฐานะปานกลางไม่สามารถเลือกที่อยู่หรูๆแบบบ้านเดี่ยวได้ ก็ซื้อทาวเฮ้าส์ อาศัยอยู่นั้นแหละ ก่อนซื้อก็คิดปลงแล้วครับว่า สักวันหนึ่งคงต้องเจอคนประเภทเดียวกับ อาจารณ์คนนี้เจอ
        เหมือนผมเลยครับอยู่ทาวเฮ้าส์แต่แล้วข้างบ้านก็มาทำเป็นโรงงานเย็บเสื้อผ้า  เสียงจักรดังทั้งวัน  บางวันคนงานก็กินเหล้าเมาเอะอะโวยวาย   ของคุณ KITTISAK ยังดีครับแค่ปีเดียว  ของผมมันทำมาห้าปีแล้วยังไม่เลิกเลย  จะไปร้องที่เขตก็กลัวเรื่องมันจะยาวแล้วเวลาที่เราไม่อยู่บ้านไปทำงานมันก็จะแกล้งเอาได้   เลยต้องทนๆอยู่ไปไม่คุ้มที่เราจะไปแลกกับพวกมัน    เมืองไทยก็เป็นอย่างนี้แหละครับคนที่ละเมิดสิทธิ์คือผู้ที่ได้สิทธิ์  :-[ :-[

ผมเอง ก็ประสบเหมือนกัน  คือ ผมเพิ่งมาสร้างบ้านได้ 3ปีแล้ว ลักษณะ จะเป็นที่4แปลง ติด2 ซอย ก็ขนาดประมาณ 4 หลังของเพื่อนบ้าน หลังบ้าน จะติดกับหน้าบ้านของบ้านข้างๆ (งงหรือเปล่า) ซึ่งเลี้ยงหมาปากเปราะ  ปีแรกทรมานมาก มันเห่าทั้งคืน และทุกคืนไม่ได้นอนเลย พอไปคุยกับเจ้าของบ้าน มันกลับตอบว่า จะให้ทำยังไง คุยกับหมามันไม่รู้เรื่อง กวนตีนมาก  ผมก็คุยดีๆ ขอร้องก็แล้วว่าช่วยเอาหมาไว้ในตัวบ้านเพราะถ้าหมามันอยู่ในบ้าน มันจะไม่เห็นอะไร ก็จะไม่เห่า แต่ท่านไม่ทำอะไรเลย ยังเหมือนเดิม  ผมเลยเอายาเบื่อโยนเลย หมามันตายมันก็คิดว่าเป็นเราแต่ไม่มีหลักฐาน มันเลยเขียนป้าย ด่าสาปแช่งเรา คิดดูแล้วกัน ถ้าคนเขาไม่เดือดร้อนเขาคงไม่บากหน้าไปขอร้องหรอก เห็นแก่ตัว พอเจอกันข้างนอกก็ทำมาเป็นจ้องเราแบบจะหาเรื่อง ผมเองก็จ้องกลับไป แบบว่ามีอะไรเหรอ ก็ไม่รู้จะโดนหาเรื่องเมื่อไหร่ จนทุกวันนี้ และถ้าโดนมันหาเรื่องแกล้งจะทำยังไงเนี่ย    ยังไงฝากเพื่อนๆที่เลี้ยงสุนัขช่สยดูแลด้วยก็แล้วกันเวลาหมาท่านเห่าแบบ ปากเปราะ ก็ช่วยหาวิธีทำให้มันเงียบเถอะครับ เพราะบางทีท่านคิดว่า ท่านไม่รำคาญ แต่บ้านอื่นเขาอาจรำคาญได้ นี่อาจเป็นชนวนให้คนทะเลาะกันจนถึงฆ่ากันก็ได้ครับ