เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

KONI ครับ  ราคาไม่สูงมาก....เมื่อเทียบกับคุณภาพ
แนะนำให้เปลี่ยนสี่ตัวเลยครับ

ถ้าเปลี่ยนแค่คู่หน้า ใช้ของเดิม...ดีที่สุด...

ลองหาดูที่แถว ๆ สวนหลวง หลังสนามศุภฯ ซิครับ

www.koni-na.com

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

ขอคุณครับพี่51 ผมคิดว่าคงเปลี่ยนแค่คู่หน้าพอครับ เงินที่เหลือจะแอบเมียเอาไปซื้อลูกไว้ซ้อมแก้เหงาครับ ;D ;D[/b]

(http://www.altisclub.com/images/background/banner_01.jpg)


http://www.altisclub.com/


สำหรับผม  รถที่บ้าน...พ่อผมและพี่สาวใช้ toyota   และใช้แบบที่ปรับระดับความหนืดได้
คนละเรื่องเดียวกันเลยครับ...คริ คริ
toyota มีจุดด้อยอยู่ที่ช่วงล่าง เท่านั้น ครับ


ระหว่างซื้อกระสุน กับซื้อ KONI ผมเลือก KONI ครับ
เพราะ KONI อยู่กับเรานานกว่า และในกรณีเมื่ออยู่บนถนนในรถกับครอบครัว...ครับ

ผมเอง...ใช้แค่ mazda แต่เวลาไปกะครอบครัว...
ก็เลือกคันที่ใช้ KONI ละครับ...คริ คริ น้ำมันก็ไม่ต้องเติม

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

ขอบคุณพี่51 อีกครั้งที่เตือนถึงความสำคัญของรถที่เราใช้ทุกวันครับ ชีวิตคนในครอบครัวสำคัญที่สุด   

ทนจริงๆครับ  เงินในกระเป๋าพี่51 นะครับ  ทนอยู่ในกระเป๋าสตางค์ได้นานนะ  อิ  อิ  โช๊คก็ไม่ต้องเปลี่ยน  รถก็ไม่โทรม  เเถมน้ำมันก็ไม่ต้องเติม  ทนจริงจริ๊งงง.....  ;D ;D ;D

...เคยใช้ Koni กระบอกเหลืองกับรถรุ่นนี้ครับ  ของเขาดีจริง

(http://www2.uol.com.br/bestcars/carros/fiat/antigos/131-racing-78a82-4.jpg)

 ;D แนะนำ koni ด้วยอีก 1 เสียง แต่เลิกแต่งรถก็ใช้เดิม ๆ อย่างเดียวเลย ;D

 8)ตามมาฟังเงียบๆครับ..................................... ;D

kayabaก็okนะครับ ใช้รุ่นgas ก็น่าจะเกาะถนนดีกว่ารุ่นน้ำ้มัน ประหยัดเงินอีกหลายบาทครับ

 ;D โตโยต้าเก๋งผลิตในบ้านเรา ส่วนใหญ่เดิม ๆ ก็เป็นคายาบาแก๊สกึ่งน้ำมันอยู่แล้วครับ โคโรน่าของผมเป็นแบบนั้นครับ ;D

(http://www.rodthai.com/images/logo.jpg)


http://www.rodthai.com/partsdetails.html#26

http://www.rodthai.com/repair3.html

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

http://rungreung-autopart.pantipmarket.com/

จากนิ้ว..ที่จิ้มแป้น...

(http://www.caronline.net/images/CarOnlineLogo.gif)


http://www.caronline.net/Article.aspx?Article_ID=64

http://www.caronline.net/

จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

ผมแนะนำให้หาของเดิมๆ (standard) ของมือสองในตลาดเซียงกงที่ขายพร้อมคอยล์สปริงเพราะเปลี่ยนคู่หน้าคู่เดียว หาง่ายครับ  ถ้าจะใช้ยี่ห้ออื่นให้สังเกตุว่ามีเบ้าสปริงล่างมาด้วยหรือไม่ (หายากแน่ๆ) shockabsorber ของรถรุ่นหลังๆ ส่วนมากเป็นแบบแม๊คเฟอสันสตรัทซึ่งสปริงวางอยู่บนเบ้ากลางตัว shockabsorber เกือบทั้งหมด  ไม่อยากให้ดัดแปลงหากต้องเปลี่ยนโดยการกลึงเสื้อเดิมแล้วใส่ตัว shockabsorber แบบยัดไส้  อีกประการหนึ่งควรเลือกแบบที่ปรับความหนืดของการทำงานไม่ได้เพราะถ้าปรับให้หนืดน้อยที่สุดแล้วยังมีอาการกระด้างมากกว่าคู่หลังจะทำให้เกิดอาการเลี้ยวไม่เข้า (understeeer) หรือเกิดอาการที่เรียกว่าหน้าดื้อ
ด้วยความเคารพครับ

ALTIS ยังเป็นรุ่นที่ถือว่าออกมาไม่นาน อายุการใช้งานโช๊คปกตินานครับ ผมใช้ TOYOTA EXIOR  เพิ่งมาเปลี่ยนเมื่ออายุ 9 ปี  หากรั่วหน้าเปลี่ยนเฉพาะโช๊คคู่หน้าเป็นเสป็ค standard ดีที่สุดเพราะสปริง,เบ้าหัวโช๊ค เดิมอาจยังใช้งานได้ต่อ หากเปลี่ยนเป็นยี่ห้ออื่นอาจยาวได้   ของTOYOTA หลายรุ่นโช๊คที่ติดมากับรถเป็น KAYABA  คราวนี้ต้องลองมาดูว่าจะเอาโช๊คใหม่ หรือเชียงกง  ซึ่งราคาโช๊คใหม่คู่หน้าคงอยู่ที่ประมาณข้างละประมาณ 3,700   บาทบวกลบนิดหน่อย  เชียงกงก็แล้วแต่ร้านผมไม่ทราบว่าคุณ51 บ้านอยู่แถวไหน  ลองโทรเช็คราคาร้านใกล้บ้านดูเพื่อตัดสินใจหาไม่ยากครับอะไหล่ยี่ห้อนี้       อีกประเด็นหากรถยังอยู่ในประกันสามารถเคลมกับศูนย์ได้ครับ

Fait racing...

รถแรง จากแดนมักกะโรนี...

ตั้งแต่ผมเรียนประถม...

ชอบชะมัดเลยครับ... ;D

Fiat 131 Racing Super mirafiori ครับพี่หมอ
ด้วยความเคารพครับ

ถ้าเป็นตัวนี้ รถแข่งแรลลี่สมัยผมยังวัยรุ่นครับ
(http://img221.imageshack.us/img221/4028/131rally1ju1.jpg) (http://imageshack.us)

สายการผลิตครับ
Model range
1-serie 1974-
Mirafiori 1297cc SOHC (65 PS) and 1585cc SOHC (75 PS)
Familiare 1297cc and 1585cc (station wagon)
Abarth 1995cc DOHC (140 PS)
2-serie 1978-
Mirafiori 1301cc SOHC (65 PS)
Supermirafiori 1301cc DOHC (78 PS) and 1585cc DOHC (96 PS)
Panorama 1301cc and 1585cc (station wagon)
Diesel 1995cc (60 PS) and 2445 cc (72 PS)
Racing 1995cc DOHC (115 PS DIN)
3-serie 1981-
Mirafiori 1367cc SOHC (70 PS) and 1585cc SOHC (85 PS)
Supermirafiori 1367cc DOHC (75 PS), 1585cc DOHC (97 PS) and 1995cc DOHC (113 PS)
Diesel 1995cc and 2445cc
Panorama 1301cc and 1995cc, diesels: 1995cc and 2445cc
Volumetrico Abarth 1995cc (140 PS) (supercharged)

         กลายเป็นกระทู้   ความหลังอีกแล้ว  ;D หาตัวของนอกมาพร้อมกับดิสท์กับ คาลิปเปอร์ น่าจะเห็นความแตกต่างได้แล้วครับ :OO :OO

จากช๊อคข้างเดียวรั่วนะเนี่ย
 ;D ;D ;D

รู้หมดเลย ว่ารุ่นราวคราวเดียวกัน  ;D

ท่านพี่ RroamD ใส่ตัวเข้มที่ตัวโวลูมเมตริโค อบาร์ท...

อย่าบอกนะครับว่าพี่มีไว้ในครอบครอง...

เท่าที่ทราบมีแค่ 12 คันในบ้านเรา...

สุดยอดไม่รู้จะสุดยอดอย่างไรแล้วครับ...:D~

พี่ RroamD เล่นมาเยอะครับ รถที่พิเศษกว่านั้นผมว่าพี่เขาก็มีหรือเคยมี

ผมไม่กล้าเล่นรถอิตาลียี่ห้อนี้เพราะสมัยนั้นมักพบปัญหาเรื่องความร้อนในระบบน้ำหล่อเย็น ช่างต้องละเอียดและเก่งจริงๆ พี่สาวบุญธรรมของผมเคยใช้อยู่ 1 คันเป็นรุ่น 131 Racing Super mirafiori สองประตูสีขาวเป็นเครื่อง 1995cc DOHC (113 PS) ซนมากอยากให้รถแรงกว่าเดิมๆ สั่งเพลาราวลิ้นสองตัวชุดแต่งของ Abarth ซื้อคาบูเรเตอร์ webber 45 DCOE มาเปลี่ยน แต่ไม่ได้ปรับแต่งวาวล์กับฝาสูบ กว่าจะจูนส่วนผสมของน้ำมันกับอากาศได้เล่นเอาช่างปวดหัวเป็นอาทิตย์ ผลที่ได้ไม่คุ้มกับเงินที่จ่ายไปเลยครับ

ไม่หรอกครับพี่อ๋อง ผมเล่นแต่รถญี่ปุ่น ส่วนรถที่พิเศษกลัวเรื่องหาอะไหล่ยากครับ
เราคลุกคลีกับรถซิ่งบนถนนมาพอๆ กัน พี่ก็เล่นมาไม่น้อยกว่าผม
ด้วยความเคารพครับ

...ถ้าผมจำไม่ผิด สมัยนั้นรุ่นนี้เวลาแต่งตามประสาวัยรุ่น มักต้องใส่ Rial ขอบ 13" ยาง Series 50 ใช่มั้ยครับ...

      รถโซนยุโรปกับยี่ปุ่น จะใช้ p.c.d. ต่างกันมากครับ ถ้าญี่ปุ่นคราวนั้นก็ต้อง watanabe กล้วยหอมครับ ;Dตอนนี้อยากมี-86 มากครับเสียแต่ขอ ป.4 น่าจะยากมากๆ ;D ;D ;D

KONI อีกเสียงครับ ผมก็ใช้อยู่ครับ แต่ระวังของหนีด้วยนะครับ และที่สําคัญขอใบรับประกันด้วยนะครับ

...131 R ที่ผมเคยใช้  ใส่แคมชาฟท์ 300 องศาของ Abarth ขัดแต่งท่อไอดีด้วย  คาบูเรเตอร์แบบตั้งท่อคู่ Weber 40 DCNF ใส้กรองอากาศยี่ห้ออะไรลืมไปแล้ว กับคอยล์ตัวใหญ่ยี่ห้ออะไรก็ลืมเหมือนกัน  มีนมหนูไว้เปลี่ยน 2 ชุด  ลงตัวมากๆ  วิ่งได้ทั้งแบบจิบๆ ไม่กินน้ำมัน  หรือจะวิ่งแบบซ่า 190+ ก็มันส์ไปอีกแบบ  ไม่มีปัญหาความร้อนครับ  ผมให้ "ช่างเคี้ยง" ช่วยทำให้   :VOV:

...ทำให้นึกถึงความหลังอ่ะนะ  ;D

พูดถึง    รถซิ่ง   (  โดยเฉพาะรถญี่ปุ่น    เช่น   TOYOTA  )    ในสมัยก่อนโน้น     ......    (  ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังอยู่หรือไม่  ?  )

มีอยู่ทีมหนึ่งชื่อ   Racing  Kong    (  ถ้าจำไม่ผิด  )    มีอู่อยู่แถว  ๆ  เซียงกงจุฬา    ....   

อู่นี้ชอบเอา    TOYOTA    โคโลร่า   รุ่นแปลก  ๆ   เช่น   Levin    และ    Starlet   2   ประตู    ....    มาแต่งแรง   (  หลายคันเป็นทะเบียนลำปาง  )

วางเครื่อง   K  ตรงบ้าง    2  TG   บ้าง    ใส่คาร์บู ฯ  คู่    เจียร์แคม ฯ   ,  ฯลฯ    ....

แล้วเอาลงไปซิ่ง    ทั้งหน้า      The  Palace   (  วิภาวดีเซอร์กิต  )    และ    สนามบินของทหารที่    ลพบุรี    .....       :D~


อืมม์    ......    นึกถึงบรรยากาศเก่า  ๆ   สมัยหนุ่ม  ๆ    ....    ก็สนุกดีเหมือนกัน

ตอนโน้น    .......    ผมก็เป็น    ขาซิ่ง     กับเขาเหมือนกัน      ;D

ผมมีรถ    MITSUBISHI    LANCER    Colt  -  F    (  8   เกียร์  )    อยู่    1    คัน    .....

เอาไปตัดสปริงให้เตี้ยลง    อัดช็อคอัพให้แข็ง  (  หนืดขึ้น  )   ....    ใส่ล้อ    HAYASHI    (  หน้า  6  นิ้ว  ,  หลัง  7  นิ้ว   Offset  เป็นลบ  )  ,  ยางพิเรลรี่   P 7  (  175 / 50 / 13  )

ล้อล้นบังโคลนเลย    ....    ตีเฮดเดอร์   แบบ   4 - 2 - 1   ....    ใส่หม้อพักแบบตรงเล็ก  ๆ   (  เน้นเสียงดังไว้ขู่  )    ....

ก็    ....   ไม่แรงอะไรหรอกครับ    แต่ตีนต้นจัดดีเหมือนกันเมื่อเทียบกับพวก   TOYOTA    เครื่อง  4  K    ธรรมดา    ......   

แต่เสียงดัง    เอาไว้อัดเล่นกับ    รถของเพื่อน ๆ   หน้าเธค     (  สมัยก่อนเขาเรียกปลุกผี    ก่อนพวกขาซิ่งตัวจริง    แรงจริง    ....    มาลงสนาม  )       ;D


อืมม์    ......    กว่า  20  ปีแล้วนะเนี่ย    .....    นึกแล้วยังเหมือน    เพิ่งเมื่อคืนวานเลย    .............        ;D




 

กระทู้นี้ชักมันแฮะ   ;D
ขออนุญาตยกเพื่อให้สมาชิก สว ขาซิ่ง(เก่า)อีกหลายท่านมาลงทะเบียนกันก่อนครับ    ;D
วัยสะรุ่นอย่างผม ชอบฟังอาวุโสคุยกัน   ;D

แต่ก่อนคงซิ่งน่าดูเลยป๋า ;D ;D ;D

สงสัยว่านายสมชายคงเห็นคันนี้จอดแถวถนนพระอาทิตย์แถวๆ หน้าสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเช้าตรู่บ่อยๆ แหง  ช่วงปี 2523-24 ครับ... ม่ายรู้ว่าพี่แก้วจบจากท่าพระจันทร์ไปแล้วหรือยัง... นายสมชายเพิ่งปีหนึ่งเองอ่ะ ชอบยืนดูรถสวยๆ... ฮา

ตามท้องเรื่องของ จขกท. ครับ...

โช้คเดิมของ Toyota นิ่มมาก โยนยวบยาบมากแบบเวลาจะมุดซ้ายมุดขวาในกรุงต้องทิ้งจังหวะให้ตัวถังโยกเยกให้เหมาะๆ... ฮา

มีคนรู้จักทนไม่ได้เลยเปลี่ยนทั้งสปริงและโช้คเป็น TRD Sportivo แล้วก็น่าใช้ดีนะครับ แต่แข็งหน่อย... เทียบกับช่วงล่างเดิมๆ ของ Optra 1.8 LT แล้วแข็งพอๆ กันเหมือนกับนัดกันเลยครับ คือหนืดแต่ไม่กระด้าง เข้าใจว่าสปริงทรงถังเบียร์คงช่วยไว้แยะ... นายสมชายลองขับบนทางด่วนแค่รอบเดียวแต่บอกได้ว่านิ่งมาก โยกซ้ายขวาบนทางด่วนบางนาชลช่วงบ่ายๆ โดนลมตีข้างๆ ไม่เซครับ (อัลติสของนายสมชายวิ่งเส้นทางเดียวกันเซแซดๆ ตลอดทาง... ฮา)

ตัวนายสมชายเองแก่แล้ว ส่วนใหญ่วิ่งในเมืองหากโช้เสียคงเปลี่ยนใหม่เอาของสแตนดาร์ด เพราะชอบช่วงล่างนิ่มๆครับ...

...จริงครับ  แต่เลิกนานแล้ว


...คันของผมสีแดงแปร๊ด  ใส่ล้อแบบเดียวกับรุ่น Volumetrico ไม่เคยไปจอดแถวนั้นครับนายสมชาย

KONI กระบอกเหลือง ใช้แล้วสบายใจครับ

รถร่นนี้นิยมจริงๆ สัก30-40ปีที่แล้วถ้าพูดตรงๆ คือเฉพาะกล่ม ที่นิยมตามยุคนั้น ปัจัจุบัน คือหาค่ามิได้ครับ