เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

[b]ใครที่เคยพูดไว้ก็ไม่รู้ว่า ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืนไว้ป้องกันตนเองและครอบครัว เพราะมีตำรวจซึ่งมีอาวุธคอยดูแลอยู่แล้ว น่าจะอ่านข่าวนี้หน่อย เพราะมันไม่ได้เป็นเรื่องแรกและเรื่องสุดท้ายแน่นอน  ทุกวันนี้ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนน่าจะเท่ากับ 0 เพราะในเมืองหลวง ย่านชุมชนแท้ๆยังเกิดคดีปล้นฆ่าข่มขืนขึ้นได้ทุกวันซึ่งบางคดีตำรวจเปลี่ยนตัวเองไปเป็นคนร้ายก็มาก ลองอ่านกันดูครับ[/b]

 
"เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 5 เม.ย. ร.ต.อ.วิชิต สวัสดี ร้อยเวร สน.หนองแขม รับแจ้งเหตุฆ่ากันตายในร้านหยกทิพย์เนเจอร์โภคภัณฑ์ เลขที่ 14/26-27 หมู่ 2 ถนนเพชรเกษม แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม ฝั่งธนฯ ไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.จิรสิทธิ์ มหินทรเทพ ผบก.น.9 พ.ต.อ.อุดม เนตยสุภา ผกก. สน.หนองแขม พ.ต.อ.ชาญ แสงเสียงฟ้า ผกก. สส.น.9 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานและแพทย์ รพ.ศิริราช
ที่เกิดเหตุเป็นตึกแถว 4 ชั้น 2 คูหา ประตูม้วนบานหนึ่งเปิดแง้ม เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ชั้นล่างขายอาหารสัตว์เลี้ยงต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์การเลี้ยง สัตว์หลายชนิด ชั้นที่ 2 เป็นห้องเก็บของ ส่วนชั้นที่ 3 เป็นที่พักอาศัย มีห้องนอน 2 ห้อง ห้องโถงและห้องครัวอยู่ติดกัน กลางห้องโถงพบศพ น.ส.ณัฐวรรณ หรือนิ พิภพศิริรัตน์ อายุ 19 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปี 2 สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี นอนหงายจมกองเลือด สวมเสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ ตามร่างกายมีบาดแผลถูกแทงพรุน ที่หน้าอก สีข้าง แขนและขารวมแล้วทั้งสิ้น 16 แผล เสื้อชุ่มโชกไปด้วยเลือดแดงฉาน บริเวณห้องมีร่องรอยการต่อสู้อย่างสุดฤทธิ์เลือดสาดละเลงพื้นไปทั่ว ขาโต๊ะวางของหัก แก้ว จานชาม แตกละเอียด กองหนังสือล้มระเนนระนาด ส่วนห้องครัว เศษหมู กระเทียม พริกไทย กระจัดกระจายเกลื่อน คาดว่าผู้ตายกำลังเตรียมปรุงอาหาร แต่ยังไม่ทันลงมือ คนร้ายบุกเข้าไปก่อเหตุสยองเสียก่อน นอกจากนี้ พบหยดเลือดหยดเป็นทางออกจากบ้านไปตามถนนราว 20 เมตร คาดว่าฆาตกรโหดได้รับบาดเจ็บถูกมีดบาดไปด้วย

ในบ้านเกิดเหตุยังพบ ด.ญ.อรพรรณ หรือน้องเกรซ พิภพศิริรัตน์ วัย 7 ขวบ น้องสาวผู้ตาย ล็อกประตู นั่งร้องไห้จ้าด้วยความตกใจกลัวอยู่ในห้องนอน เจ้าหน้าที่ต้องเคาะประตูเรียกให้เปิด ก่อนปลอบประโลมให้คลายความหวาดผวา เด็กน้อยที่รอดเงื้อมมือมัจจุราชมาได้ หวุดหวิดเล่ารายละเอียดว่า เมื่อคืนนอนอยู่ในห้องกับผู้ตาย และ น.ส.ศุพิธษา หรือจูน อายุ 16 ปี พี่คนรอง ก่อนเกิดเหตุตอน 6 โมงเช้า น.ส.ศุพิธษาปลุกให้ลุกขึ้น ไปปิดประตูม้วนหน้าบ้าน เนื่องจากจะออกไปขายของที่ร้านอีกแห่งที่ตลาดซันเดย์ ติดกับสวนจตุจักร เมื่อปิดประตูเสร็จก็กลับขึ้นมานอนต่อ โดยเห็นพี่สาวที่ตายกำลังง่วนทำกับข้าว แต่ไม่ได้สนใจ เมื่อเข้าห้องนอนสักพัก ได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ข้าวของล้มดังโครมคราม เปิดประตูออกมาดู พบพี่สาวนอนดิ้นทุรนทุรายอยู่กับพื้น โดยมีชายรูปร่างสูง สวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงิน กางเกงยีน ตัดผมสั้นเกรียน ใช้ผ้ากันฝุ่นปิดปากจมูกอำพรางใบหน้า นั่งคุกเข่าใช้หัวเข่ากดทับที่หน้าอกของพี่สาวไม่ให้ขัดขืน มือขวาถือมีดปลายแหลม หันมาชี้หน้าตะคอกให้รีบกลับเข้าไปในห้องและอย่าส่งเสียงดัง จึงปิดประตูล็อกแล้วโทร.บอกพ่อทันที

ต่อมานายปฐม พิภพศิริรัตน์ อายุ 58 ปี พ่อผู้ตาย เดินทางไปที่เกิดเหตุ ให้การว่าเปิดร้านขายอาหารสัตว์มานานแล้ว ร้านที่เกิดเหตุไม่ที่จอดรถ ทำให้ขายไม่ดี ต้องเซ้งร้านใหม่ที่ตลาดนัดซันเดย์ เป็นร้านขนาดใหญ่ขายอาหารสัตว์ทุกประเภท รวมทั้งพักอยู่กับภรรยาที่ร้านใหม่ด้วย บ้านหลังเกิดเหตุ ส่วนมากใช้เป็นที่เก็บของ ปกติกลูกๆอาศัยอยู่กัน 3 คน เมื่อตอนตี 4 ตนเดินทางไป จ.นครปฐม เพื่อซื้ออาหารสัตว์ที่โรงงาน แล้วแวะนำอาหารสัตว์ไปเก็บไว้ที่บ้านเกิดเหตุ ก่อนไปที่ร้านตลาดนัดซันเดย์ พอตอนเช้าลูกสาวคนเล็กโทรศัพท์ ไปบอกว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นจึงแจ้งตำรวจ ที่ผ่านมามีลูกจ้าง ผู้ชายหลายคน ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้าไปทำงานแล้วก็ออกไปนับไม่ถ้วน เนื่องจากเป็นงานหนักแบกหาม ต้อง ใช้แรงงานและเงินเดือนน้อย บางคนทำได้วันสองวันก็ออกไป สำหรับผู้ตาย ปกติเป็นคนพูดจาโผงผาง แข็งแรงไม่ยอมคนง่ายๆ ล่าสุดเมื่อปลายเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ลูกสาวไล่คนงานออกไป 1 คน เนื่องจากจับได้ว่าแอบลักอาหารสัตว์ไปขาย แต่เมื่อน้องเกรซดูหน้าแล้ว ยืนยันว่าไม่ใช่ฆาตกรที่ลงมือ

ในเบื้องต้น ตำรวจเชื่อว่าคนร้ายต้องรู้ช่องทางหนี ที่ไล่ของบ้านเกิดเหตุเป็นอย่างดี ก่อนดอดย่องเข้าบ้านหลังน้องสาวผู้ตายปิดประตูไม่มิดชิด อาจมีจุดประสงค์บุกเข้าไปชิงทรัพย์ แต่เมื่อผู้ตายสู้ขัดขืน เลยจ้วงแทงอย่างไม่ยั้งมือ ก่อนเผ่นหนีโดยไม่ได้ทรัพย์สินอะไร หรืออาจเป็น คนงานเก่า ย้อนกลับมาแก้แค้นก็เป็นได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ อยู่ระหว่างตรวจสอบผู้ต้องสงสัยที่เป็นฆาตกรโหดรายนี้"

 

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้สูญเสียด้วยครับ อ่านแล้วเศร้าใจครับ นั้นแหละครับเรามันไม่มีคนคอยอารักขา จึงต้องมีอาวุธปืนไว้ป้องกันตัวเอง หลานผมอายุ 15ปีฝึกให้ใช้อาวุธปืนแล้วครับ

 :(

จะว่าไปสำหรับเคสนี้ถ้ามีปืนก้ออาจจะช่วยอะไรไม่ได้มากล่ะครับ
เด็กๆอยู่บ้านกันเองเวลาเข้า-ออกคงต้องเพิ่มความระมัดระวังกันให้มากหน่อย ถ้าถูกประชิดตัวคงหมด
โอกาสป้องกันตัวเอง นอกจากการมีอาวุธปืนไว้ป้องกันตัวเองแล้วคงต้องดูแลความเป็นอยู่ทั่วๆไปให้
ปลอดภัยด้วยนะครับ

ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียของครอบครัวนี้ครับ

 :(

ฆาตกรใจเหี้ยมจริงครับ

 ก่อนอื่นของแสดงความเสียใจด้วยครับ........และมองอีกมุมนึง ปล่อยให้ลูกสาววัยรุ่นและเด็กอยู่บ้าน แล้วชั้นล่างทำเป็นที่เก็บสินค้า ต้องมีคนงานชายเข้า-ออก เพื่อนำสินค้าส่ง กรณีอย่างนี้มีอัตราเสี่ยงมากโขอยู่นะครับ ได้คนงานดีก็ดีไป แต่ถ้าเป็นพวก...มันก็แย่นะครับ โปรดพิจารณา

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตครับ ( มีกิจการภายในที่พักอาศัยและมีแรงงานเป็นคนนอกต้องแยกเป็นสัดส่วนและกำชับให้พึงระมัดระวังอย่าไว้ใจไปเสียทั้งหมด รู้หน้าไม่รู้ใจ)

สงสารน้องเค๊าน่ะครับ

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวน้องเขาด้วยครับอนาคตยังอีกยาวไกลกลับต้องมาจบชีวิตลงเช่นนี้.........และไม่อยากแสดงความคิดเห็นเรืองว่าถ้ามีปืนแล้วน้องเขาอาจรอดเพราะเหมือนสีซอให้ควายฟังนะครับ

  :OO :OOไม่น่าเล้ย...ปล่อยให้อยู่กันยังไง..ผู้หญิงสองสามคน...เสียใจด้วยครับ.. :OO :OO

 :D~ :~)

....ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียครับ....ส่วนเรื่องประชาชนไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืน...คนพูดประโยคนี้มันผู้นั้นมีสมองสุนัขปัญญากระบือมากๆ...พูดมาได้งัย...

 :OO :OO :OOเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ

ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ ::)

 :'(    and    >:(

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้สูญเสียด้วยครับ และขอสาบแช่งไอ้ฆาตกรได้รับกรรมที่มันกระทำในเร็ววันนี้ด้วย

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต ที่เสียลูกสาวที่มีอนาคตไกลเจ้าคะ

ทุกครั้งที่ได้ยินข่าวแบบนี้เศร้าใจจัง

ขอให้น้องเค้าเห็นแสงสว่างนำทางไปสู่สุขติภพเถิด

 :)..ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว..พิภพศิริรัตน์ อย่างที่สุดครับ.. คนที่มีอาวุธปืน สามารถทำตนให้เป็นที่พึ่งพิงได้เสมอ..ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ไม่เคยวางเฉย ยอมที่จะให้เหตุร้ายเกิดขึ้นกับใคร ต่อหน้าต่อตา.. ..ในบางครั้ง เสียงร้องขอความช่วยเหลือ.. ช่วยยึดชีวิตได้.. ถ้ามีคนที่ได้ยินได้ช่วยกัน..ครับ .. :)

 :'( เสียใจและเสียดายคับ...  :'(

ภัยมันมาได้ทุกเวลาจริง  ผมมักจะบอกคนใกล้ชิดว่า  ถ้าโจรอยากได้อะไรให้มันไปห้ามขัดขืน  ให้มีสติหน่วงเวลาชีวิตให้มากที่สุด  แต่ไม่รู้ว่าโจรมันจะเหี้ยมแค่ไหนกลัวว่ามันไม่ให้คิดมาถึงมันฆ่าเลย  ขออย่าให้เกิดกับคนที่ผมรู้จักเลย

โจรผู้ร้ายมันรู้ว่าสุจริตชนทั่วไปโดยส่วนใหญ่ไม่มีปืน(ก็มันขอยากขอเย็นนิ) มันก็ปล้นก็ฆ่าง่ายๆ ถ้าโจรผู้ร้ายมันคิดว่าทุกบ้านมีปืนมันคงคิดหนักว่าจะปล้นดีไม่ดีหว่าเดียวเจ้าของบ้านยิงมันตายเอา ผมว่าหลายประเทศคงใช้เหตุผลประมาณนี้ให้ประชาชนมีปืน(สิทธพื้นฐานในการป้องกันตัวเอง)

"ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืน"

พวกคิดอย่างนี้ เกิดเรื่องกับตัวเองหรือลูกหลายก่อนถึงจะรู้ความจริง >:(

ขออนุญาติสนับสนุนความคิดนี้ล้านเปอร์เซนต์(และยกกำลังสองครับ) ไม่แต่เฉพาะคนร้ายที่จ้องจะปล้นทรัพย์สินหรอกครับที่คิดแบบนี้ คนร้ายที่จ้องทำร้ายร่างกายผู้อื่น(ด้วยเหตุผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างวาน หรือฯลฯ) ก็คิดแบบนี้เช่นกัน คนร้ายหาปืนเถื่อนง่าย คนดีขอปืนมีทะเบียนยากยิ่งกว่าคิดจะผลิตเอง ยิ่งพูดยิ่งอยากร้องไห้ :~) :~) :~) :~) :~) :~)


ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

น่าสงสารนะครับ สมัยนี้มันไว้ใจใครไม่ได้ทั้งนั้น ต้องรู้จักป้องกันไว้ดีที่สุด

 ;D ถ้าประชาชนไม่ควรมีปืน ท่านๆทั้งหลายก็ไม่ต้องมี รปภ.คุ้มกัน :D
ถ้าเป็นอย่างนี้ได้ผมยอมไม่มีปืน

ถ้าประชาชนไม่มีอาวุธก็ตายเหลือแต่คนชั่วครองเมือง

;D ;Dบางทีเขาอาจพูดว่าแค่ลูกคนเดียว..แต่ผลประโยชน์ซิช่างมากเหลือเกินจลทลม่ายหวาย ;D ;Dก็ได้นะ

ประชาชนขอมีทางเลือกมั่งครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

ได้อ่านบทความนี้ในกรุงเทพธุรกิจฉบับจุดประกายน่าสนใจมากอยากเผยแพร่ให้ได้อ่านกัน
www.bangkokbiznews.com/2005/04/07/jud/index.php (http://www.bangkokbiznews.com/2005/04/07/jud/index.php)
คอลัมน์เวทีวิพากษ์ เรื่องปืนของผู้บริสุทธ์

ประชาชนไม่จำเป็นต้องมีอาวุธปืน คนร้ายจำเป็นต้องใช้อาวุธปืน ประชาชนธรรมดาขอยาก คนร้ายของ่าย

ขอไว้อาลัยแก่น้องผู้จากไป ......... เสียใจกับครอบครัวด้วยครับ  :'( :'( :'(
เฝ้าดูแลปลอบขวัญน้องคนเล็กที่เผชิญเหตุการณ์อันโหดร้ายอย่างดีด้วยนะ
หนูต้องพบสิ่งชั่วร้าย เลวทราม ตั้งแต่เยาว์วัย อาจฝังใจไปตลอดชีวิต
เอาฆาตกรมาลงโทษถึงที่สุดก็ไม่อาจลบเลือนจิตใจคุณพ่อคุณแม่ญาติๆโดยเฉพาะน้องคนเล็กได้

ทำอย่างไรกับสังคมไทยดี.........จะลงโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิต.........ก็เกรงต่างชาติว่า "ป่าเถื่อน"
พยายามใช้ไม้นวมด้วยการ "ดัดสันดาน" แต่ส่วนใหญ่เหมือนส่งเข้าไปฝึกวิชาให้แข็งแกร่งมากขึ้น ออกมาก็รังแต่สร้าง
ความเดือดร้อนมากยิ่งขึ้น เพราะเดี๋ยวนี้มันเริ่มต้นกันตั้งแต่วัยเด็กแล้ว คล้ายๆมีการปลูกฝังก่อนคลอดเสียอีก.........เศร้าจัง

 :-[ :-[ :-[ ไม่น่าเลยครับ ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวด้วยครับ  :-[ :-[ :-[

 ::) ...หากตำรวจท้องที่จะกระตือลือล้น เหมือนเมื่อคราวกระเป๋าคุณหญิงโดนฉก ไม่เกิน 7 วัน รับรองได้ตัวคนร้ายแน่นอน....แต่เมื่อเป็นประชาชนคนชั้นสอง....คงต้องทำใจกันต่อไป... >:(

;D ;Dตำรวจก็คงอ้างไม่มีเงินค่าใช้จ่ายสูง...แต่คดีใหนคนดังก็จำเป็นต้องทำเพราะสื่อสนใจ...ถ้าสื่อไม่สนใจ...กะซ่างมัน.. ;D ;D

...ขอยกบทความดังกล่าวมาให้อ่านกันครับ  8)

........................................................... ........................................................... ................
 
เวทีวิพากษ์ : ปืนของผู้บริสุทธิ์
นิรันศักดิ์ บุญจันทร์

ใครที่เคยดู "ซูโม่ตู้" หรือคุณ "จรัสพงษ์ สุรัสวดี" ให้สัมภาษณ์ออกทีวีช่องหนึ่ง เมื่อสองสามปีก่อน ในฐานะที่เป็นคนชอบสะสมปืน และต้องมีปืนเป็นเพื่อน ไว้คอยป้องกันตัวอยู่ตลอดเวลา โดยซูโม่ตู้แสดงความคิดเห็น และให้เหตุผลว่า

ที่ต้องพกปืนเพราะสังคมไทยอันตราย ไม่น่าไว้วางใจ และอาจตายได้ทุกเมื่ออย่างไม่มีเหตุผล นั้น….นับว่าเป็นความคิดที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

ผมยังจำได้อีก…"ซูโม่ตู้" ได้อธิบายและยกตัวอย่างถึงความไม่น่าไว้วางใจในสังคมบ้านเราว่า….

แค่ขับรถปาดหน้ากัน หรือขับรถสวนทางกันในที่แคบๆ ไม่ได้ ก็อาจจะมีฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดถือปืนลงจากรถมากระหน่ำยิงได้

และที่น่าสนใจอย่างมาก ก็คือ เหตุผลที่ทำให้ซูโม่ตู้ และคนในครอบครัวต้องมีความรู้เรื่องเกี่ยวกับการใช้ปืน สามารถป้องกันตัวได้ทุกเมื่อ….ก็เนื่องจากว่า ในสังคมบ้านเรา ส่วนมากแล้วปืนจะอยู่ในมือของคนชั่ว หรือโจรผู้ร้ายมากกว่าคนบริสุทธิ์นั่นเอง

ในทัศนะทั้งหมดดังที่กล่าวมาข้างต้น ผมเชื่อว่า คนไทยจำนวนมากเห็นด้วยทุกประการ เพราะคนไทยมีสิทธิตายได้ทุกเวลาอย่างไร้เหตุผล อาจจะมองหน้าใครแวบหนึ่ง หรือขับรถอยู่บนถนนดีๆ หรือนั่งอยู่บนรถเมล์ ก็อาจจะถูกยิงถูกแทงตายได้โดยไม่มีสาเหตุ ดังที่ปรากฏเป็นข่าวตามสื่อต่างๆ บ่อยครั้ง ซึ่งบางเหตุการณ์ไม่น่าจะต้องมาตายฟรีๆ แต่ก็ต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า

สังคมที่ยังมีระบบผู้มีอิทธิพล มีมาเฟีย มีการใช้เครื่องแบบมาหากินอย่างผิดๆ และการปล่อยให้คนชั่วพกปืนก๋าได้เต็มบ้านเต็มเมือง สามารถจะจิกหัวใครมายิงก็ได้ ….เหมือนกับที่มันกำลังเกิดขึ้นในบ้านของเราทุกวันนี้นั้น

ผมว่า ความคิดของซูโม่ตู้ถูกต้องที่สุด และควรอย่างยิ่งผู้ที่คิดร่างกฎหมายควรนำไปพิจารณาหาหนทางแก้ไขเพื่อจะได้ปกป้องชีวิตชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ให้ปลอดภัย และจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อของคนเลวที่มีอาวุธอยู่ในมือ

จากกรณีมาเฟียตลาดโบ๊เบ๊ก็เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งเท่านั้น ในจำนวนความชั่วร้ายอีกมากมายทั้งที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด โดยผู้บริสุทธิ์หรือชาวบ้านตาดำๆ ต้องยอมจำนนและตกเป็นเหยื่อของความชั่วร้ายอย่างน่าสงสาร เนื่องจากไม่สามารถจะพึ่งพาใครได้ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย หรือเจ้าหน้าที่บ้านเมืองก็ตาม

การที่ชาวบ้านจะหันหน้าไปพึ่งกฎหมาย หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจ บางครั้งก็ไม่ต่างจากการหนีเสือปะจระเข้เท่าไหร่นัก เนื่องจากกฎหมายมันคือคำที่สวยหรูบนหน้ากระดาษเท่านั้น ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์ยุติธรรมอะไรนัก ใครมีเงินมีอิทธิพล หรือมีพรรคพวก ก็สามารถจะทำอะไรที่อยู่เหนือกฎหมายได้ และคิดว่ามันเป็นเพียงข้อความบนเศษกระดาษเท่านั้น

หรือจะหันหน้าไปพึ่งตำรวจ ก็ไม่มีหลักประกันใดเลยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจคนนั้นเป็นตำรวจมือสะอาด สามารถจะเป็นที่พึ่งได้จริงๆ หรือไม่ เพราะภาพพจน์ตำรวจไทยใครๆ ก็รู้ดีว่าเป็นอย่างไร และสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ระบบมาเฟียเติบโต ก็เนื่องจากมีตำรวจในคราบโจรบางกลุ่มบางพวกนั่นเองที่คอยเกื้อกูลซึ่งกันและกัน

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัด ก็คือ กรณี น.ส.มณีนุช สนทนาสัมพันธ์ นักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่เข้าร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรี เพราะน้องชายถูกยิงเสียชีวิต ส่วนตัวเองและแม่ถูกยิงบาดเจ็บสาหัส ที่ตลาดโบ๊เบ๊ โดยคนที่ลงมือยิงอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายท่ามกลางสายตาผู้คนจำนวนมาก กลับได้รับการประกันตัวไปอย่างสบายๆ

สำหรับเหตุผลของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ให้ผู้ตกเป็นผู้ต้องหาอุกฉกรรจ์ได้รับการประกันตัวอย่างง่ายดาย ก็คือ….เพราะผู้ต้องหาได้มอบตัวโดยไม่คิดหนี และมีที่อยู่เป็นหลักแหล่งนั้น ฟังแล้วน่าเศร้าใจอย่างมาก

ถ้ายึดเอาแบบนี้เป็นบรรทัดฐานแล้ว อีกหน่อยถ้าใครอยากจะฆ่าใครสักคน ก็สามารถจะเดินถือปืนไปจ่อยิงได้เลย

ยิงแล้วไม่ต้องหนีให้ลำบากลำบน ให้ยืนรอมอบตัวอยู่ที่บ้านนั่นแหละ ยิ่งใครมีบ้านเป็นหลักแหล่งหลังใหญ่ๆ โตๆ ก็ยิ่งสบาย….เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ประกันตัวอย่างทันทีทันใด เหมือนกับกรณีที่เกิดขึ้นกับ น.ส.มณีนุช สนทนาสัมพันธ์ นักศึกษาธรรมศาสตร์ ที่น้องของเธอถูกยิงตาย และเธอกับแม่ก็ถูกยิงบาดเจ็บนั่นแหละ

นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่ง ที่ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะเกิดขึ้นได้ในกลางเมืองหลวงกลางวันแสกๆ โดยมีเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกจำนวนมากมายที่เกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์ทั่วทั้งแผ่นดิน

เพราะฉะนั้น….แนวความคิดของคุณ "จรัสพงษ์ สุรัสวดี" หรือซู่โม่ตู้ เกี่ยวกับมีอาวุธปืนไว้ป้องกันตัว จึงน่าสนใจอย่างมากสำหรับผู้บริสุทธิ์ แทนที่จะปล่อยให้คนเลวมีสิทธิถือปืนอยู่ฝ่ายเดียว….

ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์จะต้องมีอาวุธปืนไว้ป้องกันบ้าง…อย่างน้อยๆ ครอบครัวละ 1 กระบอกก็ยังดี!

คุณ-ผู้บริสุทธิ์จะปล่อยให้คนชั่วเหนี่ยวไกปืนใส่คุณฝ่ายเดียว โดยที่คุณไม่มีสิ่งใดป้องกันชีวิตคนในครอบครัวของคุณอย่างนั้นหรือ?
 

ขอแสดงความเสียใจ และเห็นใจเป็นอย่างมากครับ ทั้งผู้เสียชีวิตและครอบครัว   ตัวผมเองเคยคิดอยู่ หากลูกสาวของผมเป็นอะไรไป ผมจะเป็นอย่างไร
             ดูจากรูปการณ์แล้ว น่าจะมีความแค้นส่วนตัวนะครับ   หากประสงค์ทรัพย์คงไม่เลือกเวลาแบบนี้เป็นแน่