เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มีนาคม 20, 2007, 11:26:32 PM



หัวข้อ: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มีนาคม 20, 2007, 11:26:32 PM
ลัทธิกะลาแตก [19 มี.ค. 50 - 16:21]
 
ต้นตอประชาธิปไตยเกิดขึ้นในกรีก ครับ

ราวสองพันปีที่แล้ว...กรีกมีคนสองกลุ่ม กลุ่มแรก เป็นพวกขุนนางและคนมั่งมี ภาษากรีกเรียกว่า อริส โตอิ เป็นที่มาของคำว่าอริสโตแครต

กลุ่มสอง เป็นชาวนาและคนยากจน ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ ภาษากรีกว่า เดมอส เป็นที่มาของคำว่า เดโมแครต เป็นรากของคำว่า เดโมเครซี่ หรือประชาธิปไตย

กาญจนาคพันธุ์ เขียนไว้ในเรื่องสภากาแฟว่า ระบบการปกครองแบบนี้ก็มีในอินเดีย เรียกว่าปรยาตันแตร แปลว่า เมืองประชาชน

จีนเรียกว่าเม่งจู๊เจ้งที้ แปลว่า การปกครองที่ประชาชนเป็นใหญ่

แต่การปกครองที่ประชาชนเป็นใหญ่...ดูจะเป็นธรรมดา ง่ายๆ ง่ายเกินไปจนทำให้เข้าใจยาก

กาญจนาคพันธุ์ยกตัวอย่างต้นไม้ใหญ่ริมทางต้นหนึ่ง ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาได้อาศัยความร่มรื่น ต่อมาก็เกิดมีคนไปสร้างศาล ตั้งต้นเป็นเฮียกงควบคุมต้นไม้

โดยทำลืมไปว่า ต้นไม้เป็นของคนทุกคน

แม้แต่กรีกต้นตำรับเดโมเครซี่เอง ตามพงศาวดารก็ยังมีเรื่องถลากไถล อยู่ๆก็มีใครต่อใครตั้งตัวเป็นเฮียกงผูกขาดต้นไม้ อยู่บ่อยๆ

ประชาชนก็หลงๆลืมๆไปชั่วขณะ จนเมื่อนึกขึ้นได้ นี่มันต้นไม้ของแผ่นดินนี่หว่า...เฮียกงจะผูกขาดคนเดียวได้ไง...

ทีนี้ก็เลยเอะอะกันขึ้น

คนเอะอะคนแรก ชื่อ คลิสเทเนส ขอแรงพรรคพวกยกโอ่งไปตั้งไว้กลางชุมชน ป่าวร้องให้ชาวบ้านใช้กระเบื้องถ้วย กะลาแตก หรือเปลือกหอยก็ได้ เขียนชื่อเฮียกง คนที่ไม่ชอบ เอาไปหยอดลงโอ่ง

แล้วก็ช่วยกันนับ เฮียกงคนใดมีคนเขียนชื่อไม่ชอบไว้ 6 พันชื่อ ก็ให้เนรเทศออกไปอยู่นอกประเทศ...เสียสิบปี

ว่ากันว่า นี่คือเค้าของการโหวตในสภา ที่ทั่วโลกใช้ กันจนถึงวันนี้

แต่การเมืองกรีกก็พลิกผันได้ง่าย ต่อมาไม่นาน ตัวคลิสเทเนสเองก็ต้องถูกกระเบื้องกะลาแตก เนรเทศให้ออกจากกรุงเอเธนส์

เข้าตำราหมองูตายเพราะงู

วิธีไล่เฮียกง กรีกเรียกว่า ออสตราซิส มาจากคำว่า ออสตราคอน ซึ่งแปลว่าเปลือกหอย หรือกระเบื้อง ยังใช้กันต่อๆมา มีเฮียกงระดับแม่ทัพนายกอง ทั้งแม่ทัพบก แม่ทัพเรือ ถูกเนรเทศไปอีกหลายคน

ตอนอริสติเตส แม่ทัพเรือถูกเนรเทศ มีเรื่องเล่า ตัวแม่ทัพเรือก็เดินปะปนอยู่กับประชาชนที่จะไปโหวต เจอชาวนาเขียน หนังสือไม่เป็น ขอร้องให้เขียนชื่อตัวเอง“เขาบริหารไม่ดี เขาทำให้เจ็บช้ำเรื่องอะไร” อริสติเตสถาม

“เปล่า...” ลุงชาวนาตอบ “ได้ยินเขาพูดกันว่า ท่านเป็นคนตรง เข้าหูจนเบื่อ เมื่อเบื่อจนทนรำคาญไม่ไหว ก็อยากไล่ให้ ไปพ้นๆ”
ไม่น่าเชื่อนะครับ ด้วยเหตุผลความเบื่อแค่นี้ นักการ เมืองดีๆของกรีกเมื่อสองพันปีต้องมีอันเป็นไป.


 
http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics02&content=40518


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: narongt ที่ มีนาคม 20, 2007, 11:57:50 PM
รบกวนขอทดสอบหน่อยครับพอดีตั้งกระทู้ไม่ได้
อืมม... ::)


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ มีนาคม 21, 2007, 07:49:02 AM
จากหัวข้อกระทู้เป็นเรื่องของกระแส เป็นเรื่องของจิตวิทยามวลชน
ซึ่งคนที่ถูกชักจูงไม่ได้ใช้ความคิดและข้อมูลแยกแยะ แล้วตัดสินใจกระทำตามกลุ่ม

เรื่องของความเบื่อเป็นเรื่องของช่วงเวลา เป็นธรรมดาของมนุษย์ ซึ่งต้องคิดหน้าคิดหลัง แล้วเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในอดีตกับอนาคต
บางครั้งเราเบื่อความเป็นเรา เบื่องาน เบื่อบ้าน เบื่อ เบื่อ เบื่อ... แต่ถ้าลองเปรียบเทียบความเบื่อเหล่านั้นกับสิ่งที่เลวร้ายกว่า ก็จะรู้สึกดีขึ้น
หรือลองเปรียบเทียบความเบื่อ..กับสิ่งที่คิดว่าถ้าความเบื่อตอนนี้เรายังยอมรับได้ แต่ถ้าเปลี่ยนไปแล้วเจอความเบื่อ..ความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
แล้วเราเป็นส่วนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เปลี่ยนแปลงหรือผลักดันเอง  เราจะรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำร้ายจิตใจเรามากกว่าความเบื่อเสียอีก
ความเบื่อจริงๆ หายไปไม่ยากเพราะอยู่ที่ใจเป็นความรู้สึกนึกคิด  แต่ต้องคิดให้ได้แล้วการทำกิจกรรมอื่นๆ ควบคู่ไป
และออกจากสถานการณ์หรือกลุ่มนั้นๆ เสีย


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: KTB ที่ มีนาคม 21, 2007, 08:01:24 AM
ผมไม่ได้เบื่อคุณดาวนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มีนาคม 21, 2007, 09:19:04 AM
เหมือนที่คนไทยเคยเบื่อป๋าเปรมแล้ววิบากกรรมก็เริ่มขึ้น .... ก็ได้พล.อ.ชาติชายมาสอนคนไทยให้รู้จักกู้เงิน มาตั้งรมต.ไว้สอนมนุษย์เงินเดือนให้รู้จักเวอซาเช่ 

ได้พักยกนั่งดูเต่าแป๊บๆ ก็ได้นายกฯหลงจู๊ที่ไม่รู้จักกระทั่งโครงการแก้มลิง โง่ขนาดเอาชื่อดารา12ผัวมาเรียกราชินีอังกฤษ...ดีที่ไม่เลวร้ายขนาดเป็นปัญหาระหว่างประเทศ แค่คนไทยโดนดูถูกไปค่อนโลกเอง....

ถัดจากหลงจู๊หน้าโง่ก็ได้ตาลุงอัลไซเมอร์มาเป็นผู้นำ เอาไอ้ห้อยร้อยยี่มายำเศรษฐกิจซะบรรลัยแถมเอาเมียมานั่งอุ้มช้างแสดงให้คนไทยรู้ว่าควรนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปลัดขิกเสมียนJim...เป็นสิ่งที่ควรนับถือ...ยิ่งกว่าสัจจะหรือคุณธรรม

ว่าแล้วคนไทยก็หายเบื่อ ประเทศไทยเลยได้นั่งพักยกดูเต่าคลานล้างขี้ที่หมักหมมอีกช่วงสั้นๆ....

เบื่อได้ที่อีกที คราวนี้สนุก.........เราได้คนต่ำช้ามาเป็นนายก   >:(
ยุคที่คนไทยทะเลาะกันเองมากที่สุด คำพูดของคนเชื่อถือไม่ได้มากที่สุด คนไทยดูถูกตัวเองมากที่สุด มีตัวอย่างของความอกตัญญูจนได้ดีมากที่สุด คนหยาบช้าจาบจ้วงไม่ถือว่าเสียหายขอแค่ประจบเก่งกระดิกหางได้แรงเป็นมีคนอุ้มชู..........

นี่ก็จะเริ่มเบื่อกันอีกแล้วเรอะ   :P


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: S.V ที่ มีนาคม 21, 2007, 09:28:16 AM
จากหัวข้อกระทู้เป็นเรื่องของกระแส เป็นเรื่องของจิตวิทยามวลชน
ซึ่งคนที่ถูกชักจูงไม่ได้ใช้ความคิดและข้อมูลแยกแยะ แล้วตัดสินใจกระทำตามกลุ่ม

เรื่องของความเบื่อเป็นเรื่องของช่วงเวลา เป็นธรรมดาของมนุษย์ ซึ่งต้องคิดหน้าคิดหลัง แล้วเปรียบเทียบกับสถานการณ์ในอดีตกับอนาคต
บางครั้งเราเบื่อความเป็นเรา เบื่องาน เบื่อบ้าน เบื่อ เบื่อ เบื่อ... แต่ถ้าลองเปรียบเทียบความเบื่อเหล่านั้นกับสิ่งที่เลวร้ายกว่า ก็จะรู้สึกดีขึ้น
หรือลองเปรียบเทียบความเบื่อ..กับสิ่งที่คิดว่าถ้าความเบื่อตอนนี้เรายังยอมรับได้ แต่ถ้าเปลี่ยนไปแล้วเจอความเบื่อ..ความน่ากลัวมากขึ้นไปอีก
แล้วเราเป็นส่วนหนึ่งซึ่งเป็นผู้เปลี่ยนแปลงหรือผลักดันเอง  เราจะรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก ซึ่งจะทำร้ายจิตใจเรามากกว่าความเบื่อเสียอีก
ความเบื่อจริงๆ หายไปไม่ยากเพราะอยู่ที่ใจเป็นความรู้สึกนึกคิด  แต่ต้องคิดให้ได้แล้วการทำกิจกรรมอื่นๆ ควบคู่ไป
และออกจากสถานการณ์หรือกลุ่มนั้นๆ เสีย


คุณดาวน่าจะเป็นนักปฏิบัติธรรมคนนึงเหมือนกันนะครับ   เมื่อไหร่จะได้ดวลโคขุนสักมื้อดี .. ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ มีนาคม 21, 2007, 10:56:51 AM
แปลกแต่จริง  ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: halls13 ที่ มีนาคม 21, 2007, 11:20:54 AM
เหมือนที่คนไทยเคยเบื่อป๋าเปรมแล้ววิบากกรรมก็เริ่มขึ้น .... ก็ได้พล.อ.ชาติชายมาสอนคนไทยให้รู้จักกู้เงิน มาตั้งรมต.ไว้สอนมนุษย์เงินเดือนให้รู้จักเวอซาเช่

ได้พักยกนั่งดูเต่าแป๊บๆ ก็ได้นายกฯหลงจู๊ที่ไม่รู้จักกระทั่งโครงการแก้มลิง โง่ขนาดเอาชื่อดารา12ผัวมาเรียกราชินีอังกฤษ...ดีที่ไม่เลวร้ายขนาดเป็นปัญหาระหว่างประเทศ แค่คนไทยโดนดูถูกไปค่อนโลกเอง....

ถัดจากหลงจู๊หน้าโง่ก็ได้ตาลุงอัลไซเมอร์มาเป็นผู้นำ เอาไอ้ห้อยร้อยยี่มายำเศรษฐกิจซะบรรลัยแถมเอาเมียมานั่งอุ้มช้างแสดงให้คนไทยรู้ว่าควรนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปลัดขิกเสมียนJim...เป็นสิ่งที่ควรนับถือ...ยิ่งกว่าสัจจะหรือคุณธรรม

ว่าแล้วคนไทยก็หายเบื่อ ประเทศไทยเลยได้นั่งพักยกดูเต่าคลานล้างขี้ที่หมักหมมอีกช่วงสั้นๆ....

เบื่อได้ที่อีกที คราวนี้สนุก.........เราได้คนต่ำช้ามาเป็นนายก >:(
ยุคที่คนไทยทะเลาะกันเองมากที่สุด คำพูดของคนเชื่อถือไม่ได้มากที่สุด คนไทยดูถูกตัวเองมากที่สุด มีตัวอย่างของความอกตัญญูจนได้ดีมากที่สุด คนหยาบช้าจาบจ้วงไม่ถือว่าเสียหายขอแค่ประจบเก่งกระดิกหางได้แรงเป็นมีคนอุ้มชู..........

นี่ก็จะเริ่มเบื่อกันอีกแล้วเรอะ :P



 ;D บรรยายซะเห็นภาพชัดเลยครับ ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: glocklover ที่ มีนาคม 21, 2007, 01:33:30 PM
อย่าเพิ่งเบื่อเลยครับ ชีวิตอันแสนสั้นนี้ ยังมีความรื่นรมย์รออยู่อีกมาก  ;D ;D

ผมว่า ทุกวันที่เราตื่นขึ้นมาเจอ ไม่มีวันไหนเหมือนกันเลยแม้แต่วันเดียว จริงไหมครับ  ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: ลานดาว ที่ มีนาคม 21, 2007, 05:00:00 PM
ผมไม่ได้เบื่อคุณดาวนะครับ

ถือว่านี่เป็นสัญญาก็แล้วกันนะค่ะ.. ;D


คุณดาวน่าจะเป็นนักปฏิบัติธรรมคนนึงเหมือนกันนะครับ เมื่อไหร่จะได้ดวลโคขุนสักมื้อดี .. ;D ;D ;D

ไม่ดื่มเหล้า  ชวนดวลส้มตำหรือเปล่าค่ะ.... ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ มีนาคม 21, 2007, 05:35:38 PM
เหมือนที่คนไทยเคยเบื่อป๋าเปรมแล้ววิบากกรรมก็เริ่มขึ้น .... ก็ได้พล.อ.ชาติชายมาสอนคนไทยให้รู้จักกู้เงิน มาตั้งรมต.ไว้สอนมนุษย์เงินเดือนให้รู้จักเวอซาเช่

ได้พักยกนั่งดูเต่าแป๊บๆ ก็ได้นายกฯหลงจู๊ที่ไม่รู้จักกระทั่งโครงการแก้มลิง โง่ขนาดเอาชื่อดารา12ผัวมาเรียกราชินีอังกฤษ...ดีที่ไม่เลวร้ายขนาดเป็นปัญหาระหว่างประเทศ แค่คนไทยโดนดูถูกไปค่อนโลกเอง....

ถัดจากหลงจู๊หน้าโง่ก็ได้ตาลุงอัลไซเมอร์มาเป็นผู้นำ เอาไอ้ห้อยร้อยยี่มายำเศรษฐกิจซะบรรลัยแถมเอาเมียมานั่งอุ้มช้างแสดงให้คนไทยรู้ว่าควรนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปลัดขิกเสมียนJim...เป็นสิ่งที่ควรนับถือ...ยิ่งกว่าสัจจะหรือคุณธรรม

ว่าแล้วคนไทยก็หายเบื่อ ประเทศไทยเลยได้นั่งพักยกดูเต่าคลานล้างขี้ที่หมักหมมอีกช่วงสั้นๆ....

เบื่อได้ที่อีกที คราวนี้สนุก.........เราได้คนต่ำช้ามาเป็นนายก >:(
ยุคที่คนไทยทะเลาะกันเองมากที่สุด คำพูดของคนเชื่อถือไม่ได้มากที่สุด คนไทยดูถูกตัวเองมากที่สุด มีตัวอย่างของความอกตัญญูจนได้ดีมากที่สุด คนหยาบช้าจาบจ้วงไม่ถือว่าเสียหายขอแค่ประจบเก่งกระดิกหางได้แรงเป็นมีคนอุ้มชู..........

นี่ก็จะเริ่มเบื่อกันอีกแล้วเรอะ :P

คำบรรยาย ถูกใจจริงๆ ครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: vana_Art ที่ มีนาคม 21, 2007, 06:20:27 PM
มีกระทู้อยู่มากมาย แต่การเขียนหัวกระทู้หลาย ๆ กระทู้ดูไม่น่าสนใจครับ ผมคิดว่า..ผมได้มองข้ามกระทู้ดี ๆ ไปหลาย ๆ กระทู้ และกระทู้เรื่องของความเบื่อ...ก็เกือบจะเป็นหนึ่งในนั้น พอเข้ามาจึงได้ทราบว่าเป็นเรื่องของการบ้านการเมือง ที่ประชาชนทุกคนต้องสนใจใส่ใจ เพราะการเมืองเกี่ยวกับพลเมืองทุก ๆ คน ต่อไปหมายเหตุไว้หน่อยนะครับว่า "เรื่องการเมือง" ผมก็ชอบเรื่องการเมืองครับ
ความเบื่อนี่เป็นรสชาติของชีวิตอย่างหนึ่งนะครับ ผมก็เป็นกะเขาบ้างเหมือนกัน เบื่อ ๆ อยาก ๆ เซ็งโคดวอย แต่เป็นเพียงความรู้สึกทางจิตวิญญาณของบางช่วงเวลาเท่านั้น เนื้อหากระทู้ทำให้ผมนึกถึงการเมืองตอนนี้ครับ ประธาน คมช.และคณะ ออกมาแถลงผลงาน ก็น่าจะเริ่มรู้เนื้อรู้ตัวว่าคนไทยเป็นอย่างไรน่ะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: wichais ที่ มีนาคม 21, 2007, 06:36:47 PM
เบื่อ ๆ อยาก ๆ ครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ มีนาคม 21, 2007, 07:08:26 PM
เหมือนที่คนไทยเคยเบื่อป๋าเปรมแล้ววิบากกรรมก็เริ่มขึ้น .... ก็ได้พล.อ.ชาติชายมาสอนคนไทยให้รู้จักกู้เงิน มาตั้งรมต.ไว้สอนมนุษย์เงินเดือนให้รู้จักเวอซาเช่

ได้พักยกนั่งดูเต่าแป๊บๆ ก็ได้นายกฯหลงจู๊ที่ไม่รู้จักกระทั่งโครงการแก้มลิง โง่ขนาดเอาชื่อดารา12ผัวมาเรียกราชินีอังกฤษ...ดีที่ไม่เลวร้ายขนาดเป็นปัญหาระหว่างประเทศ แค่คนไทยโดนดูถูกไปค่อนโลกเอง....

ถัดจากหลงจู๊หน้าโง่ก็ได้ตาลุงอัลไซเมอร์มาเป็นผู้นำ เอาไอ้ห้อยร้อยยี่มายำเศรษฐกิจซะบรรลัยแถมเอาเมียมานั่งอุ้มช้างแสดงให้คนไทยรู้ว่าควรนับถือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ปลัดขิกเสมียนJim...เป็นสิ่งที่ควรนับถือ...ยิ่งกว่าสัจจะหรือคุณธรรม

ว่าแล้วคนไทยก็หายเบื่อ ประเทศไทยเลยได้นั่งพักยกดูเต่าคลานล้างขี้ที่หมักหมมอีกช่วงสั้นๆ....

เบื่อได้ที่อีกที คราวนี้สนุก.........เราได้คนต่ำช้ามาเป็นนายก >:(
ยุคที่คนไทยทะเลาะกันเองมากที่สุด คำพูดของคนเชื่อถือไม่ได้มากที่สุด คนไทยดูถูกตัวเองมากที่สุด มีตัวอย่างของความอกตัญญูจนได้ดีมากที่สุด คนหยาบช้าจาบจ้วงไม่ถือว่าเสียหายขอแค่ประจบเก่งกระดิกหางได้แรงเป็นมีคนอุ้มชู..........

นี่ก็จะเริ่มเบื่อกันอีกแล้วเรอะ :P



ชัดเจนครับผม


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มีนาคม 21, 2007, 07:59:34 PM
มีกระทู้อยู่มากมาย แต่การเขียนหัวกระทู้หลาย ๆ กระทู้ดูไม่น่าสนใจครับ ผมคิดว่า..ผมได้มองข้ามกระทู้ดี ๆ ไปหลาย ๆ กระทู้ และกระทู้เรื่องของความเบื่อ...ก็เกือบจะเป็นหนึ่งในนั้น พอเข้ามาจึงได้ทราบว่าเป็นเรื่องของการบ้านการเมือง ที่ประชาชนทุกคนต้องสนใจใส่ใจ เพราะการเมืองเกี่ยวกับพลเมืองทุก ๆ คน ต่อไปหมายเหตุไว้หน่อยนะครับว่า "เรื่องการเมือง" ผมก็ชอบเรื่องการเมืองครับ
ความเบื่อนี่เป็นรสชาติของชีวิตอย่างหนึ่งนะครับ ผมก็เป็นกะเขาบ้างเหมือนกัน เบื่อ ๆ อยาก ๆ เซ็งโคดวอย แต่เป็นเพียงความรู้สึกทางจิตวิญญาณของบางช่วงเวลาเท่านั้น เนื้อหากระทู้ทำให้ผมนึกถึงการเมืองตอนนี้ครับ ประธาน คมช.และคณะ ออกมาแถลงผลงาน ก็น่าจะเริ่มรู้เนื้อรู้ตัวว่าคนไทยเป็นอย่างไรน่ะครับ

 เนื้อหากระทู้ทำให้ผมนึกถึงการเมืองตอนนี้ครับ ประธาน คมช.และคณะ ออกมาแถลงผลงาน ก็น่าจะเริ่มรู้เนื้อรู้ตัวว่าคนไทยเป็นอย่างไรน่ะครับ

นิสัยคนไทยส่วนใหญ่เบื่อง่าย ใครทำอะไรให้นับว่าดี แม้ว่าคนนั้นจะทำความวิบัติแก่บ้านเมืองอย่างไรก็ยังดีอยู่เพราะเขาทำอะไรให้ฉัน คนไทยอีกส่วนก็เลือดร้อนเอ๊ะปฏิวัติแล้วทำไมยังทำอะไรไม่ได้อีก ภาคใต้ก็ยังยุ่งไม่จบ คลื่นใต้น้ำก็ยังมี เศรษฐกิจก็ฝืดเคืองผมเองก็ยอมรับว่าเป็นคนใจร้อนเคยไปคุยกับรัฐมนตรี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าได้อำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแล้วน่าจะทำอะไรที่รัฐบาลเลือกตั้งที่ต้องเกรงใจสส.ไม่สามารถทำได้ รัฐบาลแต่งตั้งน่าจะทำนะครับ ผู้ใหญ่ท่านก็ใจดีค่อยๆอธิบายให้ผมฟังเป็นชั่วโมง(ถ้าเป็นรัฐบาลเลือกตั้งคงไล่ผมออกจากห้องแล้วครับ)ว่าการจะปรับอะไรนี่ พลิกฝ่ามือมันง่าย แต่แผ่นดินพลิกไม่ได้ต้องค่อยๆขยับ แม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่ในชนบทจะยังเห็นแก่ได้แต่ก็เป็นคนไทยต้องให้สิทธิให้เสียงเขา จะริดรอนสิทธิเขาไม่ได้ สิ่งที่เราทำควรจะปรับและส่งเสริมพัฒนาเขาให้เขาปากอิ่มท้องอิ่มก่อน แล้วจิตสำนึกทางการเมืองก็จะค่อยๆพัฒนา   "   หากเราทำอะไรที่เป็นการพลิกแผ่นดิน แผ่นดินมันจะคว่ำและทลายลง   "     อืมม ผมก็ค่อยใจเย็นขึ้นมองอะไรในมุมที่กว้างขึ้นและมุมที่สูงขึ้น อย่างน้อยๆการที่ท่านเสียเวลาอธิบายให้ผมฟังก็ทำให้ผมเข้าใจได้ว่าผู้ใหญ่ที่เขาไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตัวคำนึงถึงผลประโยชน์บ้านเมือง ผู้ใหญ่เขามองอะไรเหมือนนกอินทรี นกอินทรีนี่จะเห็นอะไรกว้างๆสุดลูกหูลูกตา ตรงไหนมีพายุ ตรงไหนมีน้ำท่วม ตรงไหนไฟไหม้ป่านกจะเห็นหมด ผิดกับเด็กที่มองอะไรเหมือนเสือที่แม้จะมีกำลังก็อยากใช้กำลัง หากเสือไล่เนื้อเข้าไปตรงที่แผ่นดินไหวไฟไหม้ป่าก็คงไม่รอด แต่จริงๆนะแม้จะเข้าใจเหตุผลของผู้ใหญ่แต่ผมก็ทำใจจะยอมรับความช้าแต่ชัวร์ไม่ค่อยได้อยู่ดีครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: ^-^ภูพาน~รักพ่อหลวง^-^ ที่ มีนาคม 21, 2007, 09:00:36 PM
เบื่อมากต้องซด...ค..ลิดอน  ไม่ก็ฟูลาดานครับ ;D


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: Enruoblem ที่ มีนาคม 22, 2007, 12:02:46 AM
แสดงว่า คนไทยเหมือนกับคนกรีกเมื่อ 2000ปีก่อนครับ  :<<

"ใครๆก็ชอบ hero แต่เมื่อเวลาผ่านไป ที่เค้าชอบมากกว่าคือ เห็น hero ตะเกียกตะกายหนีตาย"
จาก Spiderman
หนังเรื่องนี้ บอกความจริงเกี่ยวกับคนเรา  :P


หัวข้อ: Re: เรื่องของความเบื่อ!
เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ มีนาคม 25, 2007, 02:49:44 AM
เบื่อมากต้องซด...ค..ลิดอน ไม่ก็ฟูลาดานครับ ;D

เห็นชื่อฟูลาดานแล้วนึกขึ้นได้ พอดีวันนี้พึ่งกลับจากไร่ ผมไปทดลองทำไร่พริกระบบน้ำหยด contract farm กับบริษัทส่งออก ทำให้ได้ทราบว่า พริกที่เรากินๆกันทุกวันนี่เขาใส่ฟูลาดานกันทั้งนั้น(หากใช้ยาชนิดที่ไม่ตกค้างจะมีต้นทุนค่าแรงค่ายามากกว่าฟูลาดานเป็นสิบเท่า) ซึ่งมาตรฐาน eu จะไม่อนุญาติเพราะเป็นสารพิษประเภทดูดซึมตกค้างนาน หากเขาตรวจพบเผาทิ้งทั้งตู้แล้วขึ้น black list บริษัทฯและประเทศเลย แตงกวาและถั่วฝักยาวที่เรากินๆกันก็พ่นยาชื่ออะไรจำไม่ได้คนสวนที่จ้างมาช่วยเดินท่อน้ำบอกว่า ยาที่เขาฉีดแตงกวานี่พ่นปุ๊บหนอนร่วงปั๊บเลยครับ คนไทยสมัยนี้ตายผ่อนส่งอายุสามสิบกว่าก็เป็นมะเร็งกันแล้วครับ แอ๊ปเปิล สาลี่ที่มาจากจีนก็เหมือนกัน ลังละไม่กี่ร้อยลูกสวยๆทั้งนั้น ลำใยเราส่งไปขายต่างประเทศบางประเทศเขาไม่ยอมซื้อเพราะบอกว่าอบกำมะถัน แต่องุ่นที่เรานำเข้านี่อบกำมะถันwashington apple ,australain apple ลูกมันเงาน่ากินก็เคลือบสารเคมีทั้งนั้น ก.เกษตร เราน่าจะออกมาตรการตอบโต้ทางการค้าประเทศที่เอาเปรียบเราบ้างนะครับ ตอนนี้หมดยุคแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ผู้นำ(ดาวเทียมแลกสินค้าเกษตรจากจีน)แล้วขยับซะหน่อยก็น่าจะดีครับ