เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากทราบว่ามีสมาชิกท่านไหนเล่นรถรุ่นนี้อยู่ครับ... น่าเล่นไหม่... ความทนทาน+สมรรถนะเป็นยังไง... อะหลั่ยหายากรึเปล่า... จะเอามาติดแก๊สครับ... ที่สนใจรุ่นนี้... ก็เพราะมันเป็นรถคานแข็งครับ... แล้ว Option กับราคาก็พอรับได้... แต่ยังเป็นห่วงเรื่องการบำรุงรักษาอยู่... แล้วถ้าได้มาแล้ว... ต้องดูแลจุดไหนเป็นพิเศษครับ... ยังไม่ได้ซื้อนะครับ... กำลังเก็บตังค์อยู่... ขอบคุณล่วงหน้าครับ

เห็นเพื่อนขับอยู่ มันบอกว่ารถดีมากๆอาหลัยก็ไม่แพงน้ำมันก็ไม่ค่อยกินแข็งแรงทนทานใช้ได้  แต่ว่ามันจะขาย(งง งง)

จริงไม่จริงไม่รู้ อะไหล่แพง มากช่วงล่างไม่ทนจริง (เวลา ออฟโร้ด.)  มีอู่เพื่อนที่รู้จักเห็นมีเชิงโลกีและแกรน เข้าบ่อยๆ ผมชอบไปหาข้อมูล พอเวลาเอาไปใส่แก๊สชอบมีปัญหาเรื่องโอเว่อร์ฮีท  โดยเฉพาะแกรน...ราคาประเก็นเฉพาะฝาสูบ 2 ข้าง (  V 6. )ประมาณหมื่น.ผมไม่ใช่ผู้รู้  ข้อมูลเอามาจากอู่เพื่อน. :) เคยมีนัก ออฟโร้ดเมืองกรุงรวยๆขับ เข้าป่า 15 ชั้น โดนน้ำเข้าทั้งคัน ตาม ช่างทั้งในและนอกบริษัทปลุกผี ยังเอาไม่อยู่ต้องเอารถถูกๆลากออกมา.  ;D

ตัวแกรนด์ไม่สนครับ... สนตัวเชิงโลกีย์ เอ้ย... เชอโรกี... ชอบ option ภายในและเพราะชอบคานแข็งครับ... เคยลองขับดู... นุ่มนวลกว่าเก๋งบางรุ่นอีก...ความรู้สึกลำเอียงรึเปล่าไม่รู้นะครับ...  อีกอย่างมันเป็น Parttime 4WD ครับ... ไม่มีความจำเป็นต้องใช้ Fulltime
...เคยมีคนรู้จักกันร้อนเงิน...เอาเชอโรกี ปี 96 มาเสนอขาย... สภาพ 80-90% ...สามแสนสาม... ตอนนั้นยังสองจิตสองใจอยู่เลยครับ... ใจผมเชียร์เต็มที่... กำลังหาข้อมูลไปยืนยันกันหุ้นส่วนชีวิต... เพราะรายนั้นเขาอยากได้ D-MAX 4 ประตู... แต่ผมอยากได้ออฟโรด...

 พี่  Ro@d ใช้อยู่ครับ หรือลองเข้าไปศึกษาที่  http://www.jeepunityclub.com/     ดูก็ได้ครับ
แต่ถามพี่โรดรับรองได้รายละเอียดมากมาย พี่แกเล่นมานานครับ สมบุกสมบัน ทั้งแต่งทั้งอะไหล่
 

(http://jeep.gasthai.com/Data/picture/2210254911623.jpg)
(http://jeep.gasthai.com/Data/picture/2210254911403.jpg)
(http://jeep.gasthai.com/Data/picture/2210254911527.jpg)
(http://jeep.gasthai.com/Data/picture/2210254911855.jpg)

ท้วมๆก่อนนะครับ

        JUC..หมากกระจาย ;D ;D ;D

หมายถึง ชัย.......หมายกระจายปะคับ อิอิ

อย่าเสี่ยงดีกว่าครับยกเว้นแต่ใจรักและมีรถspareอีกคัน

....เล่นพวกนี้ต้องมีใจรัก..และมีก๊วนเล่นด้วยกัน คอยปรึกษาหารือได้..ตัว 4.0 อัตราซดน้ำมันประมาณ 5.5 ก.ม/ลิตรครับ..แต่ถ้าจะติดแก๊สแนะนำที่ ข่างชัย หมากกระจาย ชำนาญรุ่นนี้โดยเฉพาะครับ... ;D

เคยเห็นบางคันวางเครื่องโตโยต้า พวก 1kz-1kd
ไม่รู้ว่าคุ้มหรือเปล่าน่ะครับ

              เเค่คิดผมก็หนาวเเล้ว......................บรื๋อๆๆๆๆๆๆ
(http://img102.imageshack.us/img102/4733/1990jeepcherokeelimitedgt3.jpg) (http://imageshack.us)

  ผมซื้อ Jeep ในปี ๑๙๙๖ ขณะที่ ๑ USD =  ๒๔ บาท   ค่าตัว ๑,๓๐๐,๐๐๐.-
  และปี่นั้น  Jeep ทำตลาด ราว ๑๒,๐๐๐ คัน  มากกว่าทุกยี่ห้อของ 4x4

  Jeep ราคาตก ไม่ใช่ว่าไม่ดี เป็นแต่ผู้บริโภคเลือกใช้รถผิด .
  นำ Jeep มาขับจ่ายตลาด.. ขับเล่นในเมือง ในอัตราซด ๒-๓ กิโล/ลิตร.
 
  ถ้ารายไหนผ่อน มาเจอพิษเศรษฐกิจช่วงปี ๔๐-๔๑ และน้ำมันราคาแพง
  ส่วนมาก รีบปลดภาระ แบบ ให้ไปผ่อนต่อฟรี ฟรีขนาดนี้บางคนยังไม่ยอมรับ.

  ผมเที่ยวป่า พบเห็นรถยนต์ 4x4 เกือบทุกยี่ห้อ เว้นแต่ Hummer เท่านั้น.
  บอกได้เลยว่า ถ้าไม่ใช่ลุยน้ำลึก ลุยโคลน  Jeep ทิ้งรถขับสี่.. ทุกตัว.
  ไม่มีตัวไหนจะมาทาบได้.

  รถฝรั่ง อะไหล่มีกำหนดระยะเวลา Jeep ก็เช่นเดียวกัน แต่มี sensor จำนวนมากเพื่อตรวจอาการ
  แต่จะมีที่สำคัญอยู่ ๖-๗ ตัว ที่ถึงเวลาต้องเปลี่ยน. ถ้าเปลี่ยนแล้วจบ. ถ้าไม่เปลี่ยนก็จบเห่  :OO
  แต่ Jeep ต้องเป็นรถคันที่ ๒ ที ๓ ของบ้าน  ถ้าซื้อเป็นคันแรก และคันเดียวขอให้เปลี่ยนใจ ครับ.

  ปี ๙๖ ราคา ๓๓๐,๐๐๐  ไม่ถือว่าถูก..แต่ถือว่าพอคบได้ นำมาติดตั้ง LPG อีกราว ๒๒,๐๐๐ +/- 
  วิ่งทางไกล ตก ๑.๗-๒ บาท   ในเมือง ตก ๓ บาท ต่อกิโล..
 
  อะไหล่ บัดเดี๋ยวนี้ มีชมรมเป็นที่รวบรวมเสาะหาอะไหล่ ราคาไม่สูงนัก
  ถ้ามีเวลา เข้าไปเที่ยวที่นี่เลยครับ คุณ jungle..
   http://www.jeepunityclub.com/

   ภาพที่คุณ ปูนำมานั้น  ขยับดีนิด จะเห็นหน้าผมแล้ว..  ;D
 
 

ใช้เชอโรคีมา4.0รุ่นแรก5ปีจำไม่ค่อยได้ประมาณ230000กม.   เฉพาะค่าน้ำมัน+ซ่อมประมาณ1.3ล้านได้     อยู่ตจว.บางครั้งต้องรออไหล่นอกครับ     สั่งจากสิงคโปร์ก็มี  ปรกติก็เรื่องความร้อนท่อยางหม้อน้ำเปื่อย        อุปกรณ์เกี่ยวกับไฟฟ้าเสียบ่อยจนถอดใจแต่ขับมันมาก     ทรงตัวดีคนขับมันคนนั่งเหมือนนั่งเรือหางยาว    มาตอนหลังคนกลับหาจีพเยอะเพราะคนขายทิ้งเยอะ    ราคาถูกสำหรับคนชอบลุยดีครับแต่ถ้าแค่ขับในกทม.   ใช้โตโยต้าพราโด้ดีกว่าผมใช้พราโด้มาประมาณ3ปีรับได้กับความสิ้นเปลือง(LPG)    อไหล่ถูกไม่เสียจุกจิก

 Cherokee 4.L  เป็น Parttime Hi  Low .. 
 หรือจะขับ แบบ  Fulltime  ๔  ล้อในความเร็วปรกติก็ได้ครับ

 เบนซิน เลือกใช้ ๙๑ ได้ครับ .  :)

ขออนุญาติเก็บความรู้ครับ
ชอบ JEEP รุ่นนี้อยู่เช่นกัน ครับ

ผมขับมา 13 ปีแล้ว ซ่อม สามครั้ง ซ่อมเอง  เปลี่ยน water pump  ,  Crankshaft  positioning sensor ,  Gasket ที่ฝาครอบ วาวล์   นอกนั้นไม่เคยมีปัญหา  เรื่องทำเบรคเปลี่ยนสายพานไม่นับ  เพราะปกติ   
ช่วงล่าง  เป็นแบบ เก่า  ทนทานตามตำรับ Jeep กินน้ำมันจริงเพราะเครื่อง high output  inline 6  ฝรั่งเรียกว่า straight six motor  ซึ่งความทนทานสูง  ไม่จุกจิก  ขอแนะนำว่าอย่าซื้อรุ่น 6 สูบขวาง 2.5L ปัญหามาก

ขอบคุณสำหรับทุกคำแนะนำครับ... โดยเฉพาะพี่ Road ที่กรุณาให้ข้อมูลเพิ่ม... ถ้าได้มาก็จะเป็นคันที่ 3 ในบ้านครับ... ตอนนี้มี Civic 1.7 Exi กับ Isusu Space cab SL ... ตอนนี้ผมใช้ Isusu อยู่ครับ อัตราสิ้นเปลือง 14-15 ก.ม. / ลิตร ครับ... ที่อยากได้ 4WD เพราะหน้าฝน... บางทีต้องผ่านถนนลื่น+เละ ครับ

*****

อีกใจก็มองๆ โตโยต้า สปอร์ตไรเดอร์ ตัว D4D ครับ... จะเอามาทำช่วงล่างหลังใหม่ครับ

ไม่มีเชอโรกีครับ แต่จากที่คุยๆ พบว่า

1. เบาะหลังเตี้ยมาก ต้องนั่งชันเข่า
2. ตัวถังไม่หนา เรียกได้ว่าบาง มีคนเคยเห็นชนฉีกขาดน่ากลัว
3. เร่งไม่ขึ้น สู้ Toyota Harrier เครื่อง 3 ลิตร ไม่ได้
4. กินน้ำมันดุมากๆ
5. ศูนย์มีประวัติพิกล เคยบำรุงรถคันนึง เสร็จแล้วขับออกมา 30 เมตร ล้อวิ่งแซงรถไปข้างหน้า รถล้มตึง    ...ศูนย์ลืมไขน๊อตล้อครับ !!!!

ส่วนตัวผมว่าเลือก Toyota Harrier ดีกว่าครับ...

harrier ไม่น่าลุยได้ดีเท่า เชอโรกี (prado น่าจะทำได้ดีกว่า)
และค่าตัวก็น่าจะต่างกันมาก


ก็แล้วแต่ความต้องการใช้งานและงบประมาณครับ ;)

http://www.one2car.com/CarInfor/carbody.aspx?ct=รถทุกประเภท&bn=JEEP&sm=CHEROKEE
http://www.one2car.com/CarInfor/carbody.aspx?ct=รถทุกประเภท&bn=TOYOTA&sm=HARRIER
http://www.one2car.com/CarInfor/carbody.aspx?ct=รถทุกประเภท&bn=TOYOTA&sm=LAND%20CRUISER

 :) ผมก็ใช้อยู่ครับ โฉมเหลี่ยม 97 ชอบมาตั้งนานแล้ว แต่ตอนที่ออกใหม่เพิ่งทำงาน แต่ก็รู้ว่ากินน้ำมันเลยไม่ได้ซื้อ แต่พอระยะเศรษฐกิจฟองสบู่มีคนปล่อยถูก ๆ ก็ไม่มีเงินซื้อ และเมื่อปีที่แล้วสมใจอยากได้จัดหาตามกิเลส เพราะได้เจอพรรคพวกที่ทำงานเล่นเหมือนกันเลยตัดสินใจซื้อ พอได้ขับรู้สึกได้อารมณ์เมื่อนำไปใช้ทาง ขรุขระ หรือที่ชัน ๆ มาก ไปได้สบาย โดยเฉพาะ ได้นำท่านพ่อตา แม่ยายไปเที่ยวทางเหนือเมื่อต้นปี ท่านชอบมากครับ เพราะไปได้ทุกที่ (ประโยชน์ข้อนี้เหมาะสำหรับท่านที่กำลังต้องการเอาใจว่าที่ พ่อตา แม่ยายที่ยกลูกสาวให้โดยไม่คิดค่าสินสอด) ก็อย่างที่ พี่ๆ แนะนำไว้ครับ ต้องใจรักครับ มีเวลาให้มันบ้างในการดูแล สำหรับอู่เดี๋ยวนี้มีเยอะครับ อะไหล่มือสองก็มี หรือหาจากในเวป JEEP UNITY CLUB สุดท้าย หากท่านชอบลุยที่ไม่ใช้ถนนดำ เรียบๆ จัดเลยครับ ;D

เรื่องลุยเชอโรกีผมว่าน่าจะลุยได้มากกว่าครับ แต่ราคาใหม่ๆ เหมือนกันแฮริเออร์ไม่น่าแพงกว่าครับ

ตอนนี้ผมมองนิสสันเทอราโน่แวน   รุ่นหน้าหักคล้ายๆรถกระบะ   เครื่อง2.7ดีเซล2.4เบนซินซ่อมง่ายดูแลไม่ยาก    ผมเข็ดกับรถในฝันแล้วครับ   เคยใช้เซียทอัลฮัมบราสุดท้ายฝรั่งได้นั่งเครื่องบินมาซ่อมให้    แต่สุดท้ายก็เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าอีกซ่อมที2-3เดือน    จนบอกกับช่างว่าคุณบอกก็ได้ว่ามันตายแล้ว    จะได้ไม่ซ่อมแต่แปลกใช้2ปีขายต่อได้900000บาท    ซื้อมือ2มา1100000บาทขับรถเตี้ยๆไม่เป็น   ท้องรถขูดประจำใช้ไม่ชัวร์มันเสียวครับ     ไปดับตอนอยู่บนทางด่วนหรือรถติดเสียความรู้สึก

โตโยต้า แฮร์ริเออร์กับพราโด้... มันเกินงบไปเยอะเลยครับ... ตั้งสเปคว้ 2 รุ่น... เชอโรกี กับ สปอร์ตไรเดอร์ D4D แต่ตัวสปอร์ตไรเดอร์... ตอนนี้ที่เจอและอยู่ในงบ... มันดันเป็นตัว 1KZ ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องดื่มจัดครับ

บางทีเราก็ต้องมาคิดแหละครับ    ถ้ารถมันดีจริงเจ้าของเก่าเขาจะขายทำไม    ทุกอย่างมันมีอายุการใช้งานทั้งนั้นแหละครับ        แต่รถอเมริกันมันดัดแปลงยาก      เห็นเครื่องยนต์6สูบเหล็กหล่อใหญ่ๆ         ตำราก็บอกว่าทนแต่พวกไฟฟ้าอิเลคโทนิกส์นี่ไม่ทนเลย   เพราะรถจีพพื้นฐานเป็นรถที่ปั๊มขึ้นรูปง่ายๆ    ซีลยางต่างๆก็เป็นของรีไซเคิลฝนรั่วก็เอาทิชชู่อุดวิ่งๆไปเหม็นสายไฟไหม้   หม้อน้ำเดือดนี่ผมเจอเกือบ20ครั้งใน5ปี    แต่ลุยดีถ้าดอกยางใหญ่บางคนเอายางดอกตื้นๆไปลุยมันก็ไม่ได้    แต่ดอกใหญ่ๆก็หนวกหูเวลาวิ่งทางเรียบ      ถ้าเราอยู่ใกล้ช่างและมีรถหลายคันก็พอไหว     มันไม่เหมือนเอาตัวถังจีพซีเจ.มาดัดแปลง   เพราะชิ้นส่วนมันเยอะกว่ากัน   ก่อนจะขายผมก็คิดว่าจะทำยังไงสุดท้ายก็ขายแหละครับ