เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ช่วยกันลง อ่าน วิจารณ์ ได้ครับ
 ข่าวแรก
  25 สตางค์มรณะ ปมดับ 2 ศพ เด็กกำพร้า ฆาตกร !
27 มีนาคม 2550 23:06 น.
เงินเพียง 25 สตางค์ ได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของผู้คนอย่างน้อย 6 ชีวิต เมื่อตำรวจเลือดร้อนใช้ปืนยิงเด็กปั๊มและภรรยา ที่กำลังจะให้กำเนิดชีวิตใหม่ ทิ้งเด็ก 3 ขวบเป็นกำพร้า ส่วนตัวเองกลายเป็นฆาตกร !?!

 เงินเพียง 25 สตางค์จริงๆ ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของคนบางคน ชนิดไม่สามารถหวนกลับไปแก้ไขได้ แม้อยากจะพยายามทำเพียงใดก็ตาม

 สามชีวิต ที่ต้องจากโลกไปก่อนวัยอันควร ได้แก่ หนึ่งชายอันเป็นผู้นำครอบครัว และหนึ่งหญิงพร้อมด้วยลูกน้อยในครรภ์ที่กำลังจะลืมตาดูโลกในอีก 2 เดือนข้างหน้า

 หนึ่งชีวิต ที่ต้องกลายเป็นฆาตกรต้องอาญาแผ่นดิน หนีหัวซุกหัวซุน และชีวิตหลังจากนี้จะต้องอยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่กี่นาทีเขายังเป็นผู้รักษากฎหมายอยู่แท้ๆ

 อีกหนึ่งชีวิต ที่ต้องกลายเป็นกำพร้า ด้วยพ่อแม่ถึงแก่มรณกรรม ทิ้งเขาให้อยู่เผชิญโลกกับยายตามลำพัง

 ... "ตอนนี้น้องแพ็คเรียกหาแต่แม่กวาง" สำเนียง สัญญา ยายน้องแพ็ค หรือ ด.ช.รัฐธรรมนูญ สะอาดดี วัย 3 ขวบ ลูกชายของ วิรัตน์ สะอาดดี กับ เพชรไพลิน พรมวงศ์ สองสามีภรรยาพนักงานปั๊มน้ำมัน พี.ที.ที่ถูกยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 24 มีนาคม บอกกับ "คม ชัด ลึก"

 เย็นวันเกิดเหตุน้องแพ็คเล่นอยู่กับญาติที่พิการขาด้วนทั้งสองข้างมาแต่กำเนิด อยู่ที่ฝั่งตรงข้ามปั๊มน้ำมัน พี.ที.ของ หจก.ปาริฉัตรการปิโตรเลียม เลขที่ 616/1 หมู่ 1 ต.วังใหม่ กิ่ง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว หากเป็นเช่นทุกๆ วัน เพชรไพลินจะวิ่งข้ามถนนไปมา เพื่อดูแลลูกวัยกำลังน่ารักน่าชังของเธอคนนี้

 แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็บังเกิดขึ้น !!!

 เสียงทะเลาะวิวาทที่ดังขึ้นๆ จบลงด้วยเสียงปืนพร้อมกับร่างอันไร้วิญญาณของ วิรัตน์ และเพชรไพลิน ที่หลุดลอยไป น้องแพ็คเห็นเหตุการณ์อย่างน้อยก็ตอนที่แม่ของเขาล้มลง จึงเอ่ยกับญาติผู้พิการ

 "เห็นแม่กวางล้มลง !?!"

 ญาติของเด็กน้อยใช้แขนทั้งสองข้างดันแล้วใช้ก้นไถลไปกับพื้นถนนอย่างรวดเร็ว จึงได้รู้ว่าพ่อกับแม่ของเด็กน้อยถูกยิงเสียชีวิตแล้ว

 นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่น้องแพ็คเรียกหาแม่กวางตลอดเวลา ภายหลังจากเกิดโศกนาฏกรรมกับครอบครัวของเขา ร้องไห้และถามหาแม่ จนเป็นที่เวทนาของผู้พบเห็น

 คืนหนึ่งน้องแพ็คโพล่งออกมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า "เดี๋ยวแม่ก็มาหา แม่อยู่ในโลงถูกตำรวจยิงตาย สงสารแม่" สร้างความงุนงงสงสัยแก่ญาติๆ และชาวบ้านที่มาร่วมงานศพ ทุกคนสอบถามหาตัวคนบอกเล่าเรื่องราวอันโหดร้ายนี้ ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับมาทำให้เกิดความงุนงงสงสัยยิ่งขึ้นไปอีก

 "แม่มาบอก นี่ไง แม่นั่งอยู่ข้างๆ นี่ไง ?"   

 นอกจากความตกใจแล้วทุกคนก็ไม่อาจหาคำตอบได้ว่า เรื่องที่ว่านี้เกิดจากความถวิลหาแม่ ภาพหลอน หรือเป็นเรื่องนอกเหนือกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ว่าด้วยเรื่องของวิญญาณหลังความตาย ทุกคนจึงทำได้เพียงช่วยกันปลอบโยนไม่ให้น้องแพ็คคิดถึงพ่อแม่ที่จากไป

 ในวัย 3 ขวบ เพียงพอที่น้องแพ็คจะต้องเข้าโรงเรียนแล้ว โดยเปิดภาคการเรียนใหม่นี้ น้องแพ็คจะเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 ณ ศูนย์เด็กเล็ก อบต.วังใหม่ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไม่มากนัก เมื่อต้องกลายเป็นเด็กกำพร้าพ่อแม่เช่นนี้แล้ว ชีวิตหลังจากนี้จึงเปลี่ยนไป ยายสำเนียงบอกว่าฐานะของเธอนั้นไม่ดีนัก และอาจจะถึงขั้นยากจนด้วยซ้ำ จึงอยากให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) มาดูแลช่วยเหลือหลานของเธอด้วย

 "ถึงแม้ไม่มีพ่อแม่ แต่ก็ยังมีญาติก็จริง แต่ฐานะเรายากจน พ่อแม่น้องแพ็คเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของครอบครัว พอไม่มีพวกเขาแล้ว น้องแพ็คจะได้เรียนหนังสือหรือเปล่าก็ไม่รู้" สำเนียง กล่าวเครือสะอื้น โดยมีน้องแพ็คนั่งตาบวมเป่ง อันเนื่องมาจากร้องไห้ตลอดเวลานั่งอยู่ข้างๆ

 ฐานะที่ยากจนของครอบครัวน้องแพ็ค แสดงออกมาให้เห็นด้วยการหยิบยืมเงินจากญาติๆ มาจัดงานศพ ถึงแม้จะเป็นงานที่เรียบง่าย แต่ก็มีค่าใช้จ่ายไม่ใช่น้อย ยังดีอยู่บ้างที่มีตำรวจระดับสารวัตรในพื้นที่คนหนึ่ง หยิบยื่นความช่วยเหลือค่างานศพเป็นเงิน 1.5 หมื่นบาท ทว่าก็ยังไม่พออยู่ดี

 บรรยากาศงานศพที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังสอดแทรกขึ้นมาเป็นระยะ จากชาวบ้านที่จับกลุ่มพูดคุยถึงเรื่องที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะความไม่ชอบธรรมของผู้ก่อเหตุ ซึ่งเป็นตำรวจมีอำนาจหน้าที่รักษากฎหมาย แต่กลับเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเสียเอง

 ส.ต.อ.เทพฤทธิ์ จริงบำรุง ผบ.หมู่งาน ป.สภ.กิ่ง อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว ต้องกลายเป็นฆาตกรหลบหนีการจับกุมของเพื่อนตำรวจโรงพักเดียวกัน นับตั้งแต่เขาระเบิดกระสุน 9 มม.เข้าใส่วิรัตน์ในระยะประชิด กระสุนทะลุหน้าอก 2 นัด ชายโครงซ้ายทะลุขวา 1 นัด ส่วนเพชรไพลินหรือแม่กวางของน้องแพ็ค ถูกตามยิงจากด้านหลังกระสุนทะลุปอด

 นอกจากคำยืนยันของประจักษ์พยานจำนวนมากในปั๊มน้ำมัน พี.ที.แล้ว ปลอกกระสุนขนาด 9 มม. หัวกระสุนชนิดเดียวกัน พร้อมทั้งรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ดรีม สีแดง ทะเบียน พ 6489 นครศรีธรรมราช ก็เป็นหลักฐานมัดตัว ส.ต.อ.เทพฤทธิ์ได้เป็นอย่างดี เพียงพอให้ พล.ต.ต.พงศ์กานต์ ปัญจพรรค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ออกหมายจับกุมในข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา และให้ออกจากราชการไว้ก่อนทันที

 ผลการสืบสวนสอบสวนยังปรากฏด้วยว่า ก่อนที่จะก่อเหตุอันน่าเศร้าสลด ส.ต.อ.เทพฤทธิ์ เกิดมีปากเสียงทะเลาะกับแฟนสาวอย่างรุนแรง จากนั้นได้หุนหันออกจากบ้านเช่าไป เหตุการณ์ต่อมาจึงสอดคล้องเข้ากับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปั๊มน้ำมัน เมื่อวิรัตน์เติมน้ำมันขาดไป 25 สตางค์ จากจำนวนเต็ม 50 บาท จึงเกิดการโต้เถียงกันขึ้น

 แม้วิรัตน์จะยอมจ่ายเงินคืน 1 บาท แต่ก็ยังไม่อาจยุติความวุ่นวายที่ก่อตัวขึ้นมาได้ เย็นวันนั้นจึงจบลงด้วยความตายของสองสามีภรรยาและลูกในครรภ์วัย 7 เดือน ปล่อยให้เด็ก 3 ขวบเป็นกำพร้า และผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คนหนึ่งกลายเป็นฆาตกร

 ทั้งหมดเป็นเพราะอารมณ์ชั่ววูบกับเงินอีก 25 สตางค์เท่านั้น !?!
 

   ได้ดูข่าวนี้เช่นกัน เห็นว่าเมื่อทะเลาะกัน ฝ่ายผู้หญิง เอาหลอดไฟตีใส่ตำรวจ .... เท็จจริงไม่ทราบ ว่าเป็นเช่นไร ......

     ผมมองปัญหานี้ เป็น หลายประเด็น ถ้า เติม ให้ครบ 50 บาทคงไม่เกิดเรื่อง
        และถ้ายอมรับ เงินทอน ก็คงไม่เกิดเรื่องเช่นกัน
        และถ้าเป็นจริง ดังข่าวว่ามีการเอา หลอดไฟนีออนตีจริง ถ้าไม่เขาไปตีปัญหาก็คงไม่รุนแรงบานปลายขนาดนี้ และถ้า ตร. มีความยับยังความโกรธบ้างก็คงไม่มีการสูญเสียแบบนี้  ......  :-\

คนที่รับผลเคราะห์จากความที่ไม่รู้จักความยับยั้งชั่งใจของทั้งคู่ก็คือคนที่อยู่เบื้องหลัง....
เดี้ยวนี้ไม่รู้ว่าคำพูดที่จะไม่ให้เรื่องลุกลามไปมันหายไปใหนหมดเช่น...ไม่เป็นไรครับ,ค่ะ...ขอโทษครับ,ค่ะ...ไม่รู้ว่าเพราะความเข้าใจในเรื่องของศักดิ์ศรีแบบผิดๆหรือเปล่าที่ทำให้คนเดี๋ยวนี้พูดกันยากเหลือเกิน...

ตามข่าวบีบน้ำมันขาดไปสลึงนึง หมู่แกไม่ยอม คนบีบคืนเงินให้บาทนึง ก็ไม่เอาจะเอาแค่สลึงเดียว
เด็กปั้มไม่มีเลยเถียงกันถึงชกต่อย ฝายเมียก็มาช่วยผัวเลยโดนหมู่แกส่องซะหมอบทั้งคู่ ..... พูดยากจริงๆ

ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่

ชีวิตหนอ :~)

น่าสงสารน้องแพ็คครับ...

ขอถามหน่อยครับตำรวจอยู่ในเครื่องแบบหรือเปล่าครับ ถ้าไม่ใช่ผมว่าควรจะเปลื่ยนระบบของตำรวจได้แล้ว  ไม่สมควรให้ตำรวจนอกเวลาราชการพกปืน 

อารมภ์ชัววูปจริงๆ

เงินแค่นี้ไม่คุ้มกับชีวิตคนอ่านแล้วหน้าสงสารจับใจ

สงสารน้องแพ็คครับ เป็นกำพร้าซะงั้น ผู้ทิพักษ์สันติราชหนอ ทำไมเกิดเรื่องแบบนี้ได้

เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ  บางคนมีปืนมีอำนาจแล้วขาดสติ  เกิดเรื่องเศร้ามามากต่อมากแล้ว

มุมมองของผมนะครับ ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยครับ

เงินแค่.25 บาท ท่านเจ้าหน้าที่ ได้ท้วงติงไป..กลับโดนย้อน

และเอาเงินบาทมาข่ม เป็นการดูถูกกัน

แต่ท่านก็ทำเกินกว่าเหตุที่เกิด ชกต่อยกันก็คงแค่ทะเลาะวิวาท

แต่ถึงกับยิงกันตายไม่คุ้มครับ..........ไม่คุ้มจริงๆ

ด้วยคราวเคารพครับ

สงสารคนที่อยู่ข้างหลังครับ มีแต่ความเจ็บปวด

ได้อ่านข่าวเหมือนกันครับ ขอแสดงความเสียใจกับน้องที่ต้องกำพร้า...บีบอีก25สตางค์มันก็ไม่น่าจะล้นถังได้นี่นา ส่วนท่านเจ้าหน้าที่ขาดไป 25 สตางค์ก็ไม่น่าจะต้องคิดอะไรมากทำเหรียญตกหายยังมากกว่า25สตางค์ซะอีก... ถ้ามีใครยอมสักหน่อยเรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้

บางคน  พูดคำว่าขอโทษ,ขอบคุณ  ฯลฯ  ลำบาก
เพราะอาจถูกอบรมมาอย่างนั้น
  บางครั้ง  หากพูดผิดเวลา ดูไม่จริงใจ
เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ได้ 

โอย.....ถ้ามีคนแบบนี้...เยอะ ๆ คงมีตายกันวันหนึ่งหลายศพ... :-[

สงสารเด็กต้องมารับเคราะห์

คงอารมณ์เสียมาจากบ้านนะครับ
บางครั้งเด็กปั้มฯ นี่ก็เหลือเกินจริง ๆ ปากเสียอีกต่างหาก ผมเคยโดนมาแล้วครับ เปิดถังน้ำมันช้า แกตะคอกผม "ช้าจริงจะเติมหรือไม่เติม" ถ้าตอนผมเป็นวัยรุ่นผมเตะเอาจริง ๆ ด้วยเอ้า

มีปืนควรมีสตินะครับ  ขนาดเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญครับ

เด็กปั้มคงพูดไม่ดีด้วยมั๊งครับ วัยวุฒิ คุณวุฒิ ขนาดนั้น บริการลูกค้าดีๆ พูดกับท่านดีๆคงไม่มีอะไร

มนุษย์เราเวลาโมโหเลือดขึ้นหน้า ทำอะไรได้โดยไม่คิดครับ :-[
อะไรใกล้ตัวหรือพกอะไรอยู่ ก็จะนำออกมาใช้ทันที แต่ถ้าไม่พกปืน
คิดว่าเดี๋ยวก่อนๆ จะกลับไปเอาปืนมายิง ระยะทางที่เรากลับบ้าน
ไปเอาปืนนั้น ทำให้เราหายโมโหลงบ้าง ทีนี้แหล่ะได้คิดครับ 8)
ฉนั้นใครที่คิดจะพกปืนติดตัว ต้องใจเย็นๆครับ ส่วนตัวผมเองถ้า
เลี่ยงได้จะไม่พกครับ ในว่ายังไม่นิ่งพอครับ

ก่อนอื่นขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วยนะครับ
ต่อไปเป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ(เพราะไม่ได้อยู่ในที่เกิดเหตุ)ดูจากข่าวtvผมคิดว่าพอกันทั้งคู่ต่างคนต่างไม่ยอมกันเรื่องจึงไปกันใหญ่
ที่น่าคิดคือฟังเจ้าหน้าที่ออกมาให้ข่าวกับสื่อถ้าเป็นความจริงทั้งหมด ผมว่าเป็นผมถ้ามีการชกต่อยกัน(หนีไม่ได้จริงๆ)แต่ไม่มีการลุมทำร้ายผมคงจะไม่ยิง
แต่ที่เจ้าหน้าที่ออกมาพูดนั้น ฝ่ายภรรยานำหลอดนีออนมาตีที่หัวของคนยิง แถมยังมีเด็กปั้มอีกหลายคนวิ่งเขามาจะทำร้าย นาทีนั้นเป็นผมผมยิงครับแต่จะลงดินหรือเข้าเนื้อนั้นไม่แน่ใจครับ
เคยมีเหตุหนึ่งที่ลพบุรีครับ (ท่าจำไม่ผิด) เกี่ยวกับการเติมน้ำมันเกินหรืออะไรประมาณนี้ คนตายเป็นทหารครับมากับภรรยา เติมน้ำมันเสร็จมีปากเสียงกับเด็กปั้มทหารท่านนั้นเกิดไม่พอใจชักปืนขู่เด็กปั้มเห็นเลยยิบ 11 ม.ม. ในลิ้นชักซัดโป้งเดียวหลับยาวครับ   ทั้งหมดทั้งมวลผมว่าอภัยได้ก็อภัยให้กันดีกว่าครับ อากาศมันร้อนก็อย่าทำใจให้ร้อนตามนะครับ จะได้อยู่กับคนที่เรารักไปอีกนานๆ

ช่วงนี้กระแสมาแรง พอๆกับพระจตุคาม หลายคดี ไม่น่าทำถึงขนาดนั้นสงสารเด็ก ส่วนตำรวจไม่รู้จะเป็นอย่างไรจะติดคุกไหมหรือบันดาลโทสะเพราะสำนวนตำรวจก็คนเขียนไม่รู้ไปแนวไหน โจทย์ก็ตายจะมีใครกล้าเป็นพยาน ข้าราชการถ้าผิดจริงควรจะต้องรับโทษเป็น2เท่าของพลเรือนจะได้ไม่เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนอื่น หน้าที่ให้มาดูแลทุกข์สุขประชาชนแล้วอย่างจะไปพึ่งใคร

ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวทั้งคู่ด้วยครับ

แต่มีข่าวบ่อยๆยังงี้แล้วเมื่อไหร่ปืนจะถูกลงหล่ะเนี่ย.......