|
หัวข้อ: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ เมษายน 03, 2007, 11:10:48 PM ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย
จากการที่หลายท่านต้องเจอข้ออ้างของนายทะเบียน ว่าไม่สามารถอนุญาตให้ได้บ้าง เป็นอาวุธสงครามบ้าง หรือเป็นอาวุธร้ายแรงที่ไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนธรรมดาทั่วไป (ต้องเป็นประชาชนพิเศษ) หรือถ้าคุยกับคนไม่รู้จริง ก็ต้องเจอกับคำพูดในทำนองว่า .๓๕๗ กับ ๑๑ มม. ประชาชนขอไม่ได้ ก็ขอถามแบบลูกทุ่งว่า..... นาย ก. พกปืนเถื่อนขนาด .๓๕๗ หรือ .๔๕ นาย ข. พกปืนเถื่อนเหมือนกัน แต่เป็นขนาด .๒๒ ทั้งสองคนถูกจับ ในสภาพแวดล้อมทางคดีเหมือนกัน อยากทราบว่าทั้งสองจะต้องโทษเท่ากันหรือไม่ นาย ก.จะโดนข้อหามีอาวุธร้ายแรงกว่านาย ข. อยู่ในครอบครองด้วยหรือไม่ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: rerng ที่ เมษายน 03, 2007, 11:22:52 PM แหม...ท่านก็... ;D ;D ;D ผมพยายามหาแต่ก็ยังไม่เจอ จะพยายามต่อไปครับ :~)
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: มะนาวโห่(ฮิ้ว) ที่ เมษายน 03, 2007, 11:45:26 PM อืม อันนี้น่าคิดแฮะ
หนับหนุนคำถามด้วย หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Rz' club ที่ เมษายน 04, 2007, 12:18:41 AM มารอฟังด้วยคนครับ :DD
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Colt Rampant ที่ เมษายน 04, 2007, 12:19:35 AM ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย จากการที่หลายท่านต้องเจอข้ออ้างของนายทะเบียน ว่าไม่สามารถอนุญาตให้ได้บ้าง เป็นอาวุธสงครามบ้าง หรือเป็นอาวุธร้ายแรงที่ไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนธรรมดาทั่วไป (ต้องเป็นประชาชนพิเศษ) หรือถ้าคุยกับคนไม่รู้จริง ก็ต้องเจอกับคำพูดในทำนองว่า .๓๕๗ กับ ๑๑ มม. ประชาชนขอไม่ได้ ก็ขอถามแบบลูกทุ่งว่า..... นาย ก. พกปืนเถื่อนขนาด .๓๕๗ หรือ .๔๕ นาย ข. พกปืนเถื่อนเหมือนกัน แต่เป็นขนาด .๒๒ ทั้งสองคนถูกจับ ในสภาพแวดล้อมทางคดีเหมือนกัน อยากทราบว่าทั้งสองจะต้องโทษเท่ากันหรือไม่ นาย ก.จะโดนข้อหามีอาวุธร้ายแรงกว่านาย ข. อยู่ในครอบครองด้วยหรือไม่ โดนจาย โดนจาย ..... แหม่....ไปนั่งคิดนอนคิดมากี่วันนี่ท่าน ตั้งคำถามได้แหลมคมมั่กๆ รอคำตอบด้วยคนครับ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: jo1911 ที่ เมษายน 04, 2007, 02:14:30 AM ต้องเป็น .45 แน่นอนครับพี่ เพราะถือว่าเป็นอาวุธสงครามครับ โทษของการมีอาวุธสงครามอาจจะร้ายแรงกว่าครับ
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: krudam ที่ เมษายน 04, 2007, 02:51:39 AM ต้องเป็น .45 แน่นอนครับพี่ เพราะถือว่าเป็นอาวุธสงครามครับ โทษของการมีอาวุธสงครามอาจจะร้ายแรงกว่าครับ เหอๆๆ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 04, 2007, 06:13:02 AM ท่าน NAPALM มีอะไรหรือเปล่าครับ อ่านแล้วดูมันยั๊วะ ๆ ยังไงพิกล ถ้าลำบากนักย้ายมาที่เมืองลุงเลยครับ แล้วเดี๋ยวไปขอ ป.๓ พร้อมกัน คาดว่าคงไม่มีปัญหา ค่าธรรมเนียม ๖ บาท
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: น้าพงษ์...รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2007, 06:45:46 AM เดาเอานะครับ..ปืนเถื่อนคงเหมือนกันมั้งครับ... ;D
เหมือน.เหล้าเถื่อน.ขวดใหญ่.ขวดเล็ก.ค่าปลับ.คงพอๆกัน.. ;D หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ เมษายน 04, 2007, 07:05:16 AM http://www.dopabook.com/
เถื่อน ก็โดนคือกัน แต่ถ้ามีแบบที่นายทะเบียนไม่สามารถออกให้ได้ คงจะต้องเพิ่มบทลงโทษ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: sigsax ที่ เมษายน 04, 2007, 07:52:27 AM ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย จากการที่หลายท่านต้องเจอข้ออ้างของนายทะเบียน ว่าไม่สามารถอนุญาตให้ได้บ้าง เป็นอาวุธสงครามบ้าง หรือเป็นอาวุธร้ายแรงที่ไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนธรรมดาทั่วไป (ต้องเป็นประชาชนพิเศษ) หรือถ้าคุยกับคนไม่รู้จริง ก็ต้องเจอกับคำพูดในทำนองว่า .๓๕๗ กับ ๑๑ มม. ประชาชนขอไม่ได้ ก็ขอถามแบบลูกทุ่งว่า..... นาย ก. พกปืนเถื่อนขนาด .๓๕๗ หรือ .๔๕ นาย ข. พกปืนเถื่อนเหมือนกัน แต่เป็นขนาด .๒๒ ทั้งสองคนถูกจับ ในสภาพแวดล้อมทางคดีเหมือนกัน อยากทราบว่าทั้งสองจะต้องโทษเท่ากันหรือไม่ นาย ก.จะโดนข้อหามีอาวุธร้ายแรงกว่านาย ข. อยู่ในครอบครองด้วยหรือไม่ อัตราโทษเท่ากันครับ เพราะกรณีถือว่ามีปืนเถื่อนเหมือนกัน ก็อัตราโทษเป็นไปตาม พรบ. อาวุธปืน ฯ มาตรา ๗ ห้ามมิให้ผู้ใด ...ซื้อ มี ใช้ ....ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ( ไม่มีป.๔ นั่นเอง ) หากฝ่าฝืน โทษของการมีปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง ก็เป็นไปตาม มาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท .๒๒ เถื่อน กับ .๓๕๗ / .๔๕ เถื่อน โทษก็ใช้อัตราโทษเดียวกัน และต้องโทษเท่าๆกันครับ ประเด็นหลักเขาดูว่าเข้าเรื่องปืนเถื่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องขนาดของกระสุน ก็เป็นประเด็นรองที่ศาลอาจนำมาใช้ประกอบ ในการใช้ดุลพินิจลงโทษได้เช่นกัน แต่ก็จะต้องอยู่ในเกณฑ์ จำคุกตั้งแต่ ๑ - ๑๐ ปี ปรับ ๒,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้ ::) ::) หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 04, 2007, 08:12:06 AM คำถามนี้แบ่งออกเป็นสองข้อครับ...
ที่จริงคำถามนี้มีผู้ถาม มีผู้ตอบ มีผู้ให้ความเห็น มีผู้วิจารณ์ในเว็บนี้รวมจำนวนทั้งกระทู้และตอบกระทู้ทั้งสิ้นเป็นหมื่นครั้งครับ... ไม่ได้ฮา... ...ขอให้ค้นหาดูเถิด... หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ เมษายน 04, 2007, 09:18:13 AM ท่าน NAPALM มีอะไรหรือเปล่าครับ อ่านแล้วดูมันยั๊วะ ๆ ยังไงพิกล ถ้าลำบากนักย้ายมาที่เมืองลุงเลยครับ แล้วเดี๋ยวไปขอ ป.๓ พร้อมกัน คาดว่าคงไม่มีปัญหา ค่าธรรมเนียม ๖ บาท ;D ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ เมษายน 04, 2007, 09:22:28 AM ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย จากการที่หลายท่านต้องเจอข้ออ้างของนายทะเบียน ว่าไม่สามารถอนุญาตให้ได้บ้าง เป็นอาวุธสงครามบ้าง หรือเป็นอาวุธร้ายแรงที่ไม่สามารถอนุญาตให้ประชาชนธรรมดาทั่วไป (ต้องเป็นประชาชนพิเศษ) หรือถ้าคุยกับคนไม่รู้จริง ก็ต้องเจอกับคำพูดในทำนองว่า .๓๕๗ กับ ๑๑ มม. ประชาชนขอไม่ได้ ก็ขอถามแบบลูกทุ่งว่า..... นาย ก. พกปืนเถื่อนขนาด .๓๕๗ หรือ .๔๕ นาย ข. พกปืนเถื่อนเหมือนกัน แต่เป็นขนาด .๒๒ ทั้งสองคนถูกจับ ในสภาพแวดล้อมทางคดีเหมือนกัน อยากทราบว่าทั้งสองจะต้องโทษเท่ากันหรือไม่ นาย ก.จะโดนข้อหามีอาวุธร้ายแรงกว่านาย ข. อยู่ในครอบครองด้วยหรือไม่ อัตราโทษเท่ากันครับ เพราะกรณีถือว่ามีปืนเถื่อนเหมือนกัน ก็อัตราโทษเป็นไปตาม พรบ. อาวุธปืน ฯ มาตรา ๗ ห้ามมิให้ผู้ใด ...ซื้อ มี ใช้ ....ซึ่งอาวุธปืนหรือเครื่องกระสุนปืน เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ ( ไม่มีป.๔ นั่นเอง ) หากฝ่าฝืน โทษของการมีปืนเถื่อนไว้ในครอบครอง ก็เป็นไปตาม มาตรา ๗๒ วรรคหนึ่ง ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๗ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ หนึ่งปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสองหมื่นบาท .๒๒ เถื่อน กับ .๓๕๗ / .๔๕ เถื่อน โทษก็ใช้อัตราโทษเดียวกัน และต้องโทษเท่าๆกันครับ ประเด็นหลักเขาดูว่าเข้าเรื่องปืนเถื่อนหรือไม่ ส่วนเรื่องขนาดของกระสุน ก็เป็นประเด็นรองที่ศาลอาจนำมาใช้ประกอบ ในการใช้ดุลพินิจลงโทษได้เช่นกัน แต่ก็จะต้องอยู่ในเกณฑ์ จำคุกตั้งแต่ ๑ - ๑๐ ปี ปรับ ๒,๐๐๐-๒๐,๐๐๐ บาท เท่านั้น เกินกว่านี้ไม่ได้ ::) ::) ;) เยี่ยมครับ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2007, 09:35:09 AM คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย
ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่ 0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้ ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้ หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้ ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม. สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357 ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ไม่ทราบว่ายกเลิกไปรึยัง หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Daimyo ที่ เมษายน 04, 2007, 09:40:31 AM การรับโทษตามพรบ.อาวุธปืนกรณีที่มีหรือใช้ปืนที่ไม่มีใบอนุญาต(เถื่อน)...ไม่ได้ระบุขนาดกระสุนว่ารับโทษมากน้อยตามความใหญ่เล็กของกระสุนนะครับ....เถื่อนยังไงก็เถื่อน...จะขนาดไหนก็น่าจะไม่ต่าง
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ake_2420 ที่ เมษายน 04, 2007, 10:14:21 AM ตามที่พี่ๆว่าแหละเถื่อนก็คือเถื่อน แต่น่าจะให้ขอได้ง่ายๆหน่อยนะนอกจากเพื่อการกีฬา เอาไว้ป้องกันตัวและทรัพย์สินอะไรทำนองนี้อะ ที่เห็นมีข่าวยิงกันส่วนใหญ่แล้วก็มีกันเกือบทุกขนาดเลยนะ ขนาด11จะมีน้อยไปด้วยวะอีก ผมว่านะ
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: คนส่องกล้อง ที่ เมษายน 04, 2007, 10:36:01 AM อยากเรียนถามว่า มีกฏหมายใด มาตราใด ที่กำหนดว่า ปืนทั้งสองขนาดเป็นอาวุธสงคราม
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: rerng ที่ เมษายน 04, 2007, 10:41:20 AM อยากเรียนถามว่า มีกฏหมายใด มาตราใด ที่กำหนดว่า ปืนทั้งสองขนาดเป็นอาวุธสงคราม :)ยังหากฏหมายฉบับนี้ไม่เจอครับ ;Dหัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: plo-รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2007, 11:00:00 AM µéͧà»ç¹ .45 á¹è¹Í¹¤ÃѺ¾Õè à¾ÃÒж×ÍÇèÒà»ç¹ÍÒÇØ¸Ê§¤ÃÒÁ¤ÃѺ â·É¢Í§¡ÒÃÁÕÍÒÇØ¸Ê§¤ÃÒÁÍÒ¨¨ÐÃéÒÂáç¡ÇèÒ¤ÃѺ àËÍææ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: p@rinya ที่ เมษายน 04, 2007, 11:27:41 AM ถ้าเป็นอาวุธสงครามแล้ว ::) ::) นำเข้ามาขายกันยังงัยเยอะแยะไป ??? ???
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: หมีอ้วน ที่ เมษายน 04, 2007, 12:37:28 PM ก็เพราะว่ายังมีคนที่สามารถขอใบ ป3 ซื้อได้ก็เลยมีคนนำมาขายได้ครับ ผมละคนหนึ่งที่ขอ ป3 .45 ไม่ได้
ว่าจะลองย้ายบ้านไปขอที่ใหม่ดู หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ เมษายน 04, 2007, 02:02:55 PM ขออนุญาตครับ
ผมว่านะ ข้อแตกต่างมีมั๊ย น่าจะมีกรณีย์นี้ครับ คือถ้าคน ๒ คน ถูกจับปืนเถื่อนพร้อมกัน คนแรก ปืน .๒๒ ลูกกรดยาวกระสุนพร้อม สมมุติว่า ๑๐/๒๒ เอ้า ....กับอีกคน เป็น .๓๕๗ สมมุติว่า ๖๘๖-๓ กระสุนเต็มเช่นกัน ทีนี้ ถามว่า คนพิจารณาโทษคนเดียวกัน เงื่อนไขอื่น ๆ เหมือนกัน แล้วโทษเหมือนกันมั๊ย เด็กหนีเรียนมีกฏว่า ต้องตีไม่เกิน ๑๐ ที คนที่หนีเรียนไปหุงข้าวให้ยายกิน กับคนหนีเรียนไปลักมะม่วงไม่น่าได้รับโทษเท่ากัน คนแรกน่าจะถูกตี ๑ ที พร้อมกับกำชับว่า คราวหลังจะไปไหนขอให้บอก คนหลังน่าจะโดนเต็มมิเตอร์ ผมแค่ลองเทียบกับเรื่องอื่น ๆ ดู เพราะเรื่องแบบนี้มันมักจะไปเกี่ยวกับ ดุลยพินิจ ซึ่งคำ ๆ นี้ มีอำนาจมากมาย ทำไห้ผมขอ ป.๓ .๔๕ ไม่ได้อยู่ทุกวันนี้แหละครับ ด้วยความเคารพครับ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Gummy44 ที่ เมษายน 04, 2007, 02:43:43 PM .45, 357............ สงครามตรงไหน ?????????
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: nattakan ที่ เมษายน 04, 2007, 03:00:06 PM คงยึดติดว่า 11 มม.เคยใช้ในสงครามมั้งครับ มันน่าจะทำให้ชัดเจนไปเลยเพื่อลดช่องว่างของกฏหมายนะครับ
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: สุพินท์ - รักในหลวง ที่ เมษายน 04, 2007, 03:27:23 PM คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่ 0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้ ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้ หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้ ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม. สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357 ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ไม่ทราบว่ายกเลิกไปรึยัง ยกเลิกแล้วหรือยัง ก็ไม่สำคัญ เพราะคำสั่งนี้ใช้บังคับไม่ได้ เนื่องจากออกมาโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 6 (2) นอกจากนั้น เนื้อหาของคำสั่งยังขัดกับรัฐธรรมนูญ เรื่องความเสมอภาคของบุคคล หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: MAYA ที่ เมษายน 04, 2007, 03:29:43 PM งั้นต่อไปก็คงต้องเป็น 9 ม.ม.แน่เพราะใช้ในสงคราม อาวูธประจำกายทหารหลายประเทศ :OO ว่าจะไม่โพสแล้วเชียว :-X
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 04, 2007, 03:34:25 PM คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่ 0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้ ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้ หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้ ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม. สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357 ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ไม่ทราบว่ายกเลิกไปรึยัง ยกเลิกแล้วหรือยัง ก็ไม่สำคัญ เพราะคำสั่งนี้ใช้บังคับไม่ได้ เนื่องจากออกมาโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ มาตรา 6 (2) นอกจากนั้น เนื้อหาของคำสั่งยังขัดกับรัฐธรรมนูญ เรื่องความเสมอภาคของบุคคล อ่านดูแล้วยิ่งมั่วๆ ขัดแย้งในตัวเองหลายอย่างนะครับ 1. ข้อ ก. ตัวเลขก็ผิด กฎหมายเขาให้ถึง 11.44 มม. (ไม่รู้ว่าเกิน 11.43 มาหน่อยนึงทำไม?) 2. ข้อ ข. ยิ่งเข้ารกเข้าพงไปใหญ่ อ้างกฎหมาย แต่เนื้อความขัดกับกฎหมายฉบับนั้นเอง และยังอ้างกฎกระทรวงอื่นซึ่งไม่มีข้อความสนับสนุนเนื้อหานี้ซะอีก หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: sopon7 ที่ เมษายน 04, 2007, 05:57:03 PM เอ...ตอนนี้ ผมรู้สึกงง ๆแล้ว ว่าจริง ๆมันคืออะไรกันแน่.
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Sympho ที่ เมษายน 05, 2007, 12:41:26 AM ปู่ผม เป็นข้าราชการธรรมดา มีทั้ง .357 และ .45 แบบถูกกฏหมาย
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ เมษายน 05, 2007, 01:49:58 AM เรียน.....ท่านสมชายและอีกหลายท่าน.......
เท่าที่เข้ามาอ่านกระทู้ที่นี่มาเป็นเวลาพอสมควร ก็จริงอย่างที่ท่านสมชายว่า ในประเด็นอาวุธสงครามหรือไม่ ประชาชนบุคคลทั่วไปมีสิทธิ์ขอได้หรือไม่ได้ นายทะเบียนมีอำนาจสั่งอนุญาตหรือไม่ ก็ถามกันมาก็หลาย ตอบกันก็มาก ประเด็นที่ผมพยายามจะถามก็คือ " ปืนเถือน " ผ่านเลยไปจากว่า ขอได้หรือไม่ได้ ให้หรือไม่ให้ หมายความว่า จำเป็นต้องครอบครองปืนเถื่อน แน่ละต้องผิดกฎหมาย ทีนี้ก็อยากทราบว่าผิดมากผิดน้อย ผิดเท่ากันหรือไม่ จึงยก นาย ก. กับ นาย ข. ขึ้นเปรียบเทียบถาม เพราะในมุมมองนี้เท่าที่ผมอ่านผ่านมายังไม่มีท่านใดถาม เพราะยังมีบางความ เข้าใจ ที่ยังปักใจเชื่อว่าคนที่มี .๓๕๗ หรือ ๑๑ มม. อย่าง นาย ก. น่าจะผิดมากกว่า ส่วนตัวผมก็ไม่แน่ใจนักเพราะไม่มีข้อมูล หรือศึกษามาด้านนี้ จึงมาขออนุเคราะห์ความรู้ความเข้าใจที่น่าจะถูกต้องในเวปบอร์ดนี้ ซึ่งต้องขอขอบคุณท่าน Sigsax และท่าน Daimyo ที่ได้หาคำตอบมาให้ ทำไมผมต้องถามเรื่องปืนเถื่อน.......? จากเหตุการณ์ความไม่สงบใน ๓ จชต. ก้าวเข้าปีที่ ๔ แล้ว ไม่มีทีท่าหรือวี่แววที่บงชี้ว่าว่าจะดีขึ้นในระยะอันใกล้นี้ ในความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่ หน่วยงานด้านความมั่นคงจะดำเนินการทางลึกทางตื้นอย่างไร ก็ไม่จำเป็นต้องร้องประกาศให้ประชาชนรู้เสียทุกเรื่อง อย่างที่หลายท่านว่าไว้ในหลายครั้งที่เราท่านได้เสวนาเรื่องนี้กันในเวปบอร์ด แต่กับเวลาที่ผ่านมาขนาดนี้ รูปธรรมบางอย่างน่าจะมีให้รู้สึกได้ว่ากำลังจะดีขึ้น แต่ ณ. ปัจจุบันเหมือนนิ่ง เมื่อเป็นอย่างนี้ชาวบ้านส่วนหนึ่งต้องดิ้นร่นเพื่อป้องกันตนเอง กับราคาปืนในห้างหนึ่งกระบอกชาวบ้านเหล่านั้นซื้อจักรยานยนต์ได้สองคัน เทียบกับรายได้ในสถานการณ์ที่ไม่อาจทำงานได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่ กว่าจะหาเงินมาซื้อปืนถูกกฎหมายได้ ต้องยอมเสี่ยงซื้อปืนเถื่อนใช้ไปพลาง ๆ ก่อน หรืออาจต้องใช้ปืนเถื่อนต่อไปเพราะไม่มีปัญญาซื้อของแพง ๆ ได้แน่ เมื่อมีปืนเถื่อนในครอบครองด้วยความจำเป็น ก็ต้องระลึกอยู่ตลอดว่าเป็นของผิดกฎหมายแน่นอน ชาวบ้านเหล่านี้บาง ส่วนเป็นคนที่ผมรู้จักคุ้นเคย มีคนรู้มากไปพูดให้ไม่สบายใจหนักขึ้นไปอีก ว่าปืนที่เขาพกพาอยู่นั้นนอกจากผิดว่าเป็นปืนเถื่อนแล้ว ยังเข้าข่ายอาวุธสงครามอีกด้วย ไปกันใหญ่ ผมไม่อยากให้เขาเหล่านั้นต้องกังวลหลายด้าน จะได้บอกเขาว่าถ้าโดนจับมันก็คดีปืนเถื่อนกระบอกหนึ่งเท่านั้นเอง ผมอยากได้คำตอบเพื่อจะบอกเขาประมาณว่า " มีอาวุธปืนในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตจากนายทะเบียน " ไม่ใช่ " มีอาวุธปืนซึ่งนายทะเบียนไม่สามารถอนุญาตได้ อยู่ในครอบครอง " ผมมิได้มีเจตนาสนับสนุนการใช้ปืนเถื่อน แต่เขาเหล่านั้นก็ควรทราบข้อกฎหมายที่จะเกี่ยวข้องกับกับเขาด้วย หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ เมษายน 05, 2007, 07:22:43 AM เหตุผลของประชาชนที่มีปืนเถื่อน ตามความคิดเห็นของผม ลองอ่านบทความสัมภาษณ์ในหนังสือ Gun Magazine ฉบับเดือนเมษายนนี้ดูครับ
และผมได้คุยกับเพื่อนๆที่มีอำนาจเหล่านี้ ผลที่ได้ส่วนใหญ่คือ แทบทุกคนได้รับการปลูกฝังว่า รัฐฯต้องการให้มีการควบคุมจำนวนอาวุธปืน ดังนั้นอำนาจและดุลยพินิจจึงตกกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ที่จะอนุญาตหรือไม่ และผมเห็นด้วยกับท่านผู้การสุพินท์ที่ออกความเห็นในคำสั่งกระทรวงหมาดไทยที่ผมลงไปก่อนหน้านี้ ซึ่งขัดต่อสิทธิและความเสมอภาคของประชาชน แต่ถึงอย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองที่ออกอนุญาตก็ยังยึดถือและปฏิบัติตลอดมา ส่วนเรื่องของความผิดการรับโทษ กรณีปืนเถื่อน และอาวุธราชการสงคราม นั้นคงต้องไปค้นในฎีกาแล้วหละครับ เพราะบ้านเราเรื่องอาวุธปืนมันไม่เหมือนประเทศอื่นๆ บางอย่างเรามีได้ในขณะที่ประเทศที่ผลิตไม่อนุญาตให้ประชาชนของเขาครอบครอง หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ตะบันไฟ ที่ เมษายน 05, 2007, 07:50:59 AM ;Dอาวุธสงครามก็พวกปืนกลมือ / เอ็ม 16 ฯลฯ ไงครับ
ปืนพกสั้น .๔๕ / .๓๕๗ ไม่ใช่อาวุธสงครามหรอก เพียงแต่นายทะเบียนออกยาก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถ้าเป็นอาวุธสงครามอย่าง เอ็ม 16 / ปืนอาร์ก้า / ปืนกล ฯลฯ เขาห้ามประชาชนมีไว้ในครอบครอง ถ้างั้นใครที่มี.๔๕ .๓๕๗ ก็ผิดกฎหมายกันหมดสิครับ :DD ::) ::) ::) หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: duriankuan 2499 ที่ เมษายน 05, 2007, 08:44:25 AM แวะมาขอความรู้ครับ
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: naisomchai ที่ เมษายน 05, 2007, 08:54:57 AM เรียน.....ท่านสมชายและอีกหลายท่าน....... เท่าที่เข้ามาอ่านกระทู้ที่นี่มาเป็นเวลาพอสมควร ก็จริงอย่างที่ท่านสมชายว่า ในประเด็นอาวุธสงครามหรือไม่ ประชาชนบุคคลทั่วไปมีสิทธิ์ขอได้หรือไม่ได้ นายทะเบียนมีอำนาจสั่งอนุญาตหรือไม่ ก็ถามกันมาก็หลาย ตอบกันก็มาก ประเด็นที่ผมพยายามจะถามก็คือ " ปืนเถือน " ผ่านเลยไปจากว่า ขอได้หรือไม่ได้ ให้หรือไม่ให้ หมายความว่า จำเป็นต้องครอบครองปืนเถื่อน แน่ละต้องผิดกฎหมาย ทีนี้ก็อยากทราบว่าผิดมากผิดน้อย ผิดเท่ากันหรือไม่ จึงยก นาย ก. กับ นาย ข. ขึ้นเปรียบเทียบถาม เพราะในมุมมองนี้เท่าที่ผมอ่านผ่านมายังไม่มีท่านใดถาม เพราะยังมีบางความ เข้าใจ ที่ยังปักใจเชื่อว่าคนที่มี .๓๕๗ หรือ ๑๑ มม. อย่าง นาย ก. น่าจะผิดมากกว่า ส่วนตัวผมก็ไม่แน่ใจนักเพราะไม่มีข้อมูล หรือศึกษามาด้านนี้ จึงมาขออนุเคราะห์ความรู้ความเข้าใจที่น่าจะถูกต้องในเวปบอร์ดนี้ ต้องขออภัยหากนายสมชายยังตอบไม่ชัดเจนครับ... คือ .45 กับ .357 ไม่ใช่อาวุธสงครามโดยสภาพไงครับ เช่นเดียวกับปืนสั้นขนาด 9 มม. พาราทั่วไปเช่นเบอเร็ตต้า 92SF, Sig 228 ก็เป็นปืนสงครามครับ... แต่ไม่ใช่อาวุธสงครามที่ออก ป.4 ไม่ได้ แปลว่าทหารเอาไปใช้ในสงคราม แต่ประชาชนก็เอามาใช้ในบ้าน ซึ่งก็เป็นปืนแบบเดียวกัน... กรณี .45 กับ .357 มีประชาชนได้รับอนุญาตให้มีและใช้มากมาย... ดังนั้นปืนเถื่อนไม่ว่าขนาดใด .357 หรือ .45 หรือ 9 มม.พารา... ก็คือปืนเถื่อนธรรมดาๆ เช่นเดียวกัน ความผิดก็เหมือนกัน แต่จะเท่ากันหรือไม่ เช่นสารภาพแล้วลดเหลือ 1 ปีกับ 6 เดือน... หรือมีเหตุเพิ่มโทษฯ นั่นแล้วแต่ศาลครับ... มีผู้อธิบายให้ท่าน จขกท. มามากมายแล้วครับ... นายสมชายสรุปหลักการว่าถ้าชาวบ้านสามารถมีได้อย่างถูกกฏหมาย แล้วกระบอกนั้นดันเป็นปืนเถื่อน... ก็ไม่ผิดมากไปกว่าปืนเถื่อนธรรมดาครับ มีต้องระวังอีกคือเรื่องรับของโจรฯ... ส่วนความจำเป็นต้องใช้ปืนเถื่อนนั้น นายสมชายมองอย่างไรก็ไม่เห็นความจำเป็นครับ... ถ้าปืนราคาแพงมาก ทำไมไม่เดินขบวนประท้วงที่อำเภอมั่งให้จัดสรรปืนราคาถูกฯ หรือรวมตัวเรียกร้องอย่างอื่นให้ความจำเป็นต้องใช้ปืนมันหมดไปครับ... หากทำไม่ได้ก็ต้องหาวิธีอื่นอีก แต่ไม่ใช่ไปซื้อปืนเถื่อนครับ... เรื่องรวมกลุ่มเดินขบวนประท้วงที่หน้าอำเภอนี่ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอยนะครับ... การประท้วงให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการตามกรอบกฏหมายเป็นเรื่องที่สมควรทำครับ... หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: udom. ที่ มกราคม 27, 2009, 08:30:08 PM มีชาวนาคนหนึ่ง พก 9 มม.อยู่ในนา เพราะมีอาชีพทำนา แกอายุก็ 60 กว่ามั้ง ปืนที่ได้มาก็มรดก (ที่ไม่มีทะเบียน) แล้วจู่ๆมรดกก้เป็นพิษ ตำรวจจับข้อหาพกพาอาวุธในที่สาธารณะ (ที่นาของแกเป็นที่สาธารณะตั้งแต่เมื่อไหร่) พอโดนจับหนังสือสักตัวก็ไม่รู้ เค้าให้ปั๊มนิ้วลงในกระดาษแกก็ปั๊มไป พอลูกหลานกลับจาก กทม. ถึงรู้ศาลตัดสินแล้ว 9 เดือน (จำคุก) ก็เข้าใจนะว่าอาวุธสงคราม แต่แกก็ไม่ได้ใช้มันค่าใครสักหน่อย และที่ค้างคาใจก็คืน(นาของแกเป็นที่สาธารณะที่แหละ) ???
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: 张龙不败...มังกรจางผู้ไม่แพ้ ที่ มกราคม 27, 2009, 08:45:04 PM ...ถ้าเป็นอาวุธสงครามจริงตำรวจคงตั้งข้อหา..มีอาวุธสงครามไว้ในครอบครองแล้วละครับ...ผมมีขนาด.๔๕สองกระบอก..และบางท่านคงมีกันมากกว่านี้มากนักและผมทำงานเป็นพนักงานบริษัทเอกชนธรรมดาครับ...ถ้านายทะเบียนจังหวัดไหนไม่ให้อยากได้สำเนาป.๔ผมไปให้ท่านดูผมก็ยินดีทำสำเนาให้นะครับ..
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ศรีวิชัย. ที่ มกราคม 27, 2009, 08:57:29 PM มีชาวนาคนหนึ่ง พก 9 มม.อยู่ในนา เพราะมีอาชีพทำนา แกอายุก็ 60 กว่ามั้ง ปืนที่ได้มาก็มรดก (ที่ไม่มีทะเบียน) แล้วจู่ๆมรดกก้เป็นพิษ ตำรวจจับข้อหาพกพาอาวุธในที่สาธารณะ (ที่นาของแกเป็นที่สาธารณะตั้งแต่เมื่อไหร่) พอโดนจับหนังสือสักตัวก็ไม่รู้ เค้าให้ปั๊มนิ้วลงในกระดาษแกก็ปั๊มไป พอลูกหลานกลับจาก กทม. ถึงรู้ศาลตัดสินแล้ว 9 เดือน (จำคุก) ก็เข้าใจนะว่าอาวุธสงคราม แต่แกก็ไม่ได้ใช้มันค่าใครสักหน่อย และที่ค้างคาใจก็คืน(นาของแกเป็นที่สาธารณะที่แหละ) ??? ตาม พรบ.อาวุธปืน ฯ พศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ ห้ามมิให้ผู้ใดพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือ ทางสาธารณะโดยไม่มีป.๑๒ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นเร่งและด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๗๑ ผู้ใดพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยเปิดเผย หรือโดยไม่มีเหตุอันควร ...ต้องระวางโทษ... อย่าลืมว่า หากว่าทุ่งนา นั้น อยู่ในหมู่บ้าน ( มิใช่ไปอยู่ในป่าทึบป่าลึก ๆ เช่นอย่างป่าดงดิบ ไกลหมู่บ้านไกลชุมชน ) ก็อาจต้องถือว่า ทุ่งนานั้นอยู่ในเขตของหมู่บ้านได้เช่นกันครับ และก็ถือว่าเข้าข้อกฎหมายเป๊ะเลย อีกข้อหนึ่ง หากท้องทุ่งนานั้นมีถนนทอดผ่าน แนวข้าง เฉียง ทางสัญจร ทางเดิน ใกล้ๆท้องทุ่งนา อาจตีความได้ด้วยว่า ที่มานาได้ก็เพราะผ่านถนน หนทาง สายเหล่านั้น ทางสาธารณะ ... อาจตีความเข้าได้ด้วยครับ หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ธำรง ที่ มกราคม 27, 2009, 10:22:09 PM มีชาวนาคนหนึ่ง พก 9 มม.อยู่ในนา เพราะมีอาชีพทำนา แกอายุก็ 60 กว่ามั้ง ปืนที่ได้มาก็มรดก (ที่ไม่มีทะเบียน) แล้วจู่ๆมรดกก้เป็นพิษ ตำรวจจับข้อหาพกพาอาวุธในที่สาธารณะ (ที่นาของแกเป็นที่สาธารณะตั้งแต่เมื่อไหร่) พอโดนจับหนังสือสักตัวก็ไม่รู้ เค้าให้ปั๊มนิ้วลงในกระดาษแกก็ปั๊มไป พอลูกหลานกลับจาก กทม. ถึงรู้ศาลตัดสินแล้ว 9 เดือน (จำคุก) ก็เข้าใจนะว่าอาวุธสงคราม แต่แกก็ไม่ได้ใช้มันค่าใครสักหน่อย และที่ค้างคาใจก็คืน(นาของแกเป็นที่สาธารณะที่แหละ) ??? สิ่งที่ฟังมา กับสิ่งที่ปรากฎในสำนวน อาจแตกต่างกัน ไม่ชัดเจนครับว่า ได้ถูกกล่าวหาและส่งฟ้องในข้อหาใดบ้าง และศาลลงโทษในข้อหาใด อย่างไร หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: wanchalerm sutthanon ที่ มกราคม 28, 2009, 12:47:27 AM จริงๆแล้วกฎหมายน่าจะระบุไปเลยว่ามีปืนขนาดใดบ้างที่บุคคลทั่วไปสามารถมีหรือไม่สามารถมีใด้ เอากันชัดๆไปเลยเช่น
ไม่อนุญาตให้มีปืน 11มมและ.357หรือมีได้แค่สั้นหนึ่งยาวหนึ่งเท่านั้นจะได้หายสงสัยกันไปเลย ยิ่งต้องใช้ดุลยพินิจของนายทะเบียนยิ่งไปกันใหญ่ มีหลายมาตรฐานเหลือเกิน บางคนมีปืน11มมสะสมไว้เป็นโหลๆ สบายๆ บางคนจะขอแค่.22เดินเรื่องกันแทบรากแตกเมืองไทยก้งี้ล่ะครับ เขียนกฎหมายออกมาแต่ละทีต้องมาตีความกันวุ่นวายไปหมด บ่นไปก็เท่านั้นแหล่ะครับเซ็งเปล่าๆ ::008:: เท่าที่ได้ศึกษามา ปืนขนาด.357และขนาด.45หรือ11มม.นายทะเบียนสามารถออกให้ได้ครับ แต่ต้องขึ้นกับดุลยพินิจของนายทะเบียนเอง ผมสะสมใบป.4ของคนที่อยากขายปืน11มม.แล้วโพสท์กันในเว็ปมีมากกว่า30ใบแสดงว่าปืน11มมคนไทยสามรถครอบครองได้แน่นอนครับ อยากได้มีไว้ในครอบครอง หนึ่ง ต้องรวยมีฐานะดีเมื่อมีแล้วไม่เอาไปปล้นจี้คนอื่น ปัดโธ่มีเงินซื้อปืนราคาเป็นแสนแล้วยังจะไปปล้นเขาทำไม สอง ต้องรู้จักหรือสนิทสนมกับนายทะเบียนหรือผู้เกี่ยวข้องกับนายทะเบียนจะง่ายหน่อย ::007:: ::007:: ::007:: หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: wanchalerm sutthanon ที่ มกราคม 28, 2009, 12:56:36 AM ส่วนพกปืนเถื่อนขนาด.22หรือ11มม ยังไงมันก็ผิดทั้งนั้นแหละครับไม่มีผิดมากผิดน้อยหรอกครับ ใช้ถังแก๊สตีหัวคนตายหรือใช้ไม้ขาโต๊ะฟาดคนตาย
มันก็โดนข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนาเหมือนกันครับ ถ้าจะกำหนดบทโทษตามขนาดอาวุธปืน กฎหมายคงเขียนยาวไปจากเชียงรายถึงสุไหงโกลกเลยล่ะครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: ton68 ที่ มกราคม 28, 2009, 02:47:15 AM ผมขอป.3 .45 ผมเคยขอพร้อมกันทีเดียว2กระบอกผมขอได้ครับตอนนี้ผมมี.45 สี่กระบอกและจองไว้อีก2กระบอก
ก็ไปขอป.3พร้อมกันซึ่งผมเป็นประชาชนธรรมดาก็ขอได้ครับแต่นายอำเภอก่อนเซ็นต์ ป.3 ต้องขอคุยก่อนทุกครั้งและถาม ว่า.45เป็นอาวุธที่มีความแรงสูงคุณมีความจำเป็นต้องใช้ปืนขนาดนี้หรือ ผมตอบว่าจำเป็นครับผมมีไว้เพื่อการแข่งขันและสะสมท่านก็ดูเอกสารที่นำมาท่านก็เช็นต์ให้ครับ และบอกความจริงท่านไม่อณุญาตแต่เห็นว่านำไปใช้เพื่อการกีฬาและอาชีพการงานดี พอขอหลายกระบอกก็เลยคุ่นเคยผมเลยถามท่านนายอำเภอว่าทำไมปืนขนาด.45 และ.357ทำไมขอยากบางท้องที่ก็ไม่อณุญาตหรือว่า เพราะเป็นอาวุธสงคราม นายอำเภอถามว่าใครบอกคุณว่าปืนขนาด.45และ .357เป็นอาวุธสงคราม ผมบอกว่าได้ยินเขาพูดกันมานานแล้ว นาอำเภอยิ้มและบอกว่าถ้าเป็น อาวุธสงครามผมคงไม่ออกใบอณุญาตป.3.ให้คุณได้หรอก แต่ที่ขอยากหรือบางท้องที่ไม่ออกใบ ป.3 ให้เพราะปืนขนาด .45 .357 เป็นปืนที่ มีความแรงกว่าปืนขนาด .22 .38 และขนาด 9mm ซึ่งบุคคนทั่วไปถ้ามีไว้ป้องกันตัวและทรัพย์สินคงขอได้ไม่เกินขนาด 9mmแต่ถ้าต้อง การขนาด .45หรือ .357ก็ต้องแล้วแต่นายอำเภอว่าท่านจะอณุญาตหรือไม่ ::014:: ตามความเห็นส่วนตัวปืนขนาด .45และ .357ไม่ใช่อาวุธสงครามครับ และถ้าถูกจับปืนเถื่อนขนาด.22หรือ.45 หรือ.357 เสียค่าปรับหรือถูกจำคุกเท่ากันครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: supermankrab ที่ มกราคม 28, 2009, 10:10:31 AM ผมขอป.3 .45 ผมเคยขอพร้อมกันทีเดียว2กระบอกผมขอได้ครับตอนนี้ผมมี.45 สี่กระบอกและจองไว้อีก2กระบอก อำเภอนี้น่าอยู่ :) เขาเรียกว่า อำเภอยิ้ม ::005::ก็ไปขอป.3พร้อมกันซึ่งผมเป็นประชาชนธรรมดาก็ขอได้ครับแต่นายอำเภอก่อนเซ็นต์ ป.3 ต้องขอคุยก่อนทุกครั้งและถาม ว่า.45เป็นอาวุธที่มีความแรงสูงคุณมีความจำเป็นต้องใช้ปืนขนาดนี้หรือ ผมตอบว่าจำเป็นครับผมมีไว้เพื่อการแข่งขันและสะสมท่านก็ดูเอกสารที่นำมาท่านก็เช็นต์ให้ครับ และบอกความจริงท่านไม่อณุญาตแต่เห็นว่านำไปใช้เพื่อการกีฬาและอาชีพการงานดี พอขอหลายกระบอกก็เลยคุ่นเคยผมเลยถามท่านนายอำเภอว่าทำไมปืนขนาด.45 และ.357ทำไมขอยากบางท้องที่ก็ไม่อณุญาตหรือว่า เพราะเป็นอาวุธสงคราม นายอำเภอถามว่าใครบอกคุณว่าปืนขนาด.45และ .357เป็นอาวุธสงคราม ผมบอกว่าได้ยินเขาพูดกันมานานแล้ว นาอำเภอยิ้มและบอกว่าถ้าเป็น อาวุธสงครามผมคงไม่ออกใบอณุญาตป.3.ให้คุณได้หรอก แต่ที่ขอยากหรือบางท้องที่ไม่ออกใบ ป.3 ให้เพราะปืนขนาด .45 .357 เป็นปืนที่ มีความแรงกว่าปืนขนาด .22 .38 และขนาด 9mm ซึ่งบุคคนทั่วไปถ้ามีไว้ป้องกันตัวและทรัพย์สินคงขอได้ไม่เกินขนาด 9mmแต่ถ้าต้อง การขนาด .45หรือ .357ก็ต้องแล้วแต่นายอำเภอว่าท่านจะอณุญาตหรือไม่ ::014:: ตามความเห็นส่วนตัวปืนขนาด .45และ .357ไม่ใช่อาวุธสงครามครับ และถ้าถูกจับปืนเถื่อนขนาด.22หรือ.45 หรือ.357 เสียค่าปรับหรือถูกจำคุกเท่ากันครับ ::014:: หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: NOOM 19 รักในหลวง ที่ มกราคม 28, 2009, 11:22:20 AM ขอถามเพิ่มครับ
...มีปืนขนาด .45 ของพ่อทะเบียนถูกต้องอยู่ที่เอว...อีกกรณีมีกระสูน.22LRอยู่ในกระเป๋ากางเกง 1 นัดโดยที่ไม่มีใบอนุญาติอะไรเลยอันไหนโทษร้ายแรงกว่ากันครับ.... หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มกราคม 28, 2009, 12:03:53 PM ขอถามเพิ่มครับ ...มีปืนขนาด .45 ของพ่อทะเบียนถูกต้องอยู่ที่เอว...อีกกรณีมีกระสูน.22LRอยู่ในกระเป๋ากางเกง 1 นัดโดยที่ไม่มีใบอนุญาติอะไรเลยอันไหนโทษร้ายแรงกว่ากันครับ.... มีปืนขนาด .45 ของพ่อทะเบียนถูกต้องอยู่ที่เอว.(เชื่อว่าต้องถูกจับในขณะพกพาในระหว่งเดินทาง) โดน ๒ ข้อหา มีอาวุธปืนไว้โดยไม่ได้รับอนุญาต(ปืนมีทะเบียนของบุคคลอื่น) +พาอาวุธปืนติดตัว ไปในเมืองฯ โทษ จะหนักกว่านิด ส่วน กระสุน .๒๒ เพียงหนึ่งนัด ที่แล้วมา เป็น ขนาด .๓๘ ๑ นัด ศาลจะปรับ ไป ๕๐ บาท . ;D พอเข้า่ใจครับว่าบางท่าน อยากจะใช้กระทู้นี้เพื่อระบายความอัดอั้น แต่ในประเด็นที่เกี่ยวด้วยข้อกฎหมาย ต้องเชิญชวน บางท่านที่ร่วมแชร์กระทู้นี้ ไปเยี่ยมชม และเก็บสาระที่เป็นความรู้ไว้ ครับ. http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=33376.0 http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=32218.0 http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=39047.0 หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: long_g ที่ มีนาคม 06, 2012, 10:12:49 AM โทษของปืนเถื่อนขนาด .๒๒ กับขนาด .๔๕ กับระหว่างฆ่าคนตายโดยยิงที่ศีรษะ ๑ นัด และฆ่าคนตายโดยยิงที่ศีรษะ ๕ นัด โทษจะเหมือนกันมั๊ย ก็น่าคิดครับ
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: NUTAPHOL ที่ มีนาคม 06, 2012, 03:40:46 PM โทษของปืนเถื่อนขนาด .๒๒ กับขนาด .๔๕ กับระหว่างฆ่าคนตายโดยยิงที่ศีรษะ ๑ นัด และฆ่าคนตายโดยยิงที่ศีรษะ ๕ นัด โทษจะเหมือนกันมั๊ย ก็น่าคิดครับ ปืนเถื่อน .22 และ .45 โทษเท่ากัน แต่ยิงเข้าที่หัว 1 นัด กับยิงเข้าที่หัว 5 นัด อันนี้โทษน่าจะไม่เหมือนกันเพราะว่ายิงเข้าหัว 5 นัดนี้จิตใจโหดเหี้ยมผิดคนธรรมดา...หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Teang-รัก-Gun-ไว้- ที่ มีนาคม 06, 2012, 03:53:19 PM ปัญหา โลกแตก กับ .45/.357 ใน ไทย >,<
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: NAPALM ที่ มีนาคม 07, 2012, 10:51:29 AM โห.........ขุดขึ้นมาจากหลุมเลยนะนี่ กระทู้ปี 2007 ;D
หัวข้อ: Re: ขอทราบข้อกฎหมายปืน กรณี .๓๕๗ และ .๔๕ เอาให้ชัด ๆ ไปเลย เริ่มหัวข้อโดย: Marcuechio ที่ มีนาคม 07, 2012, 11:59:59 AM คำสั่งกระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่ 0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้ ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้ หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้ ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม. สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357 ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย ไม่ทราบว่ายกเลิกไปรึยัง ผมมี 11 มม มาตั้งนานแล้วครับ ถ้าไม่ยกเลิก ผมเป้น ประชาชน ธรรมดา จะขอ 11 มม ได้ ยังไงครับ |