หัวข้อ: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: big single ที่ เมษายน 10, 2007, 07:37:10 PM http://www.petitiononline.com/siam2007/petition.html
กลัวบ้านเมืองวุ่นวายกันไม่พอ เฮ้อ..... หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ เมษายน 10, 2007, 08:23:03 PM เวรกรรมแท้ๆ
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Tiger wut ที่ เมษายน 10, 2007, 09:05:27 PM ;) หรอครับ
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: goldmatch II ที่ เมษายน 10, 2007, 11:49:24 PM ไร้สาระ(ไอ้คนคิดไอเดียนี้)
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: harusame ที่ เมษายน 10, 2007, 11:54:40 PM อาจารย์ชาญวิทย์ เกษตรศิริ เป็นผู้เชียวชาญด้านประวัติศาสตร์มาก ในทุกแง่มุม
เป็นคนหนึ่งที่ติดตามผลงานของท่านมาตลอด และข้อมูลที่ใช้ในการทำงานกว่า 80 % ก็อิงจากหนังสือที่ท่านแต่ง ...... งง มาก ๆ กับการออกมาเรียกร้อง ในเรื่องนี้ ......... แต่ก็นะ.......... เป็นอีกมุมมอง และอีกความคิดเห็น ที่คนในประเทศประชาธิปไตย สามารถแสดงความคิดเห็นได้อย่างอิสระ ... หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ เมษายน 12, 2007, 03:33:04 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ
ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 12, 2007, 03:44:01 PM การที่คนเราคิดไม่เหมือนกันไม่ได้แปลว่าเค้าเป็นคนไม่ดีคนไม่ถูกต้องเป็นคนชั่วร้ายนี่ครับ แต่สำหรับความคิดเห็นผมกับเรื่องนี้ผมเฉย ๆ ครับ
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 12, 2007, 03:49:54 PM บรรพบุรุษเราอยู่ยุคก่อนก็เข้าใจในยุคก่อน เราอยู่ยุคนี้ก็เข้าใจสมัยนี้ ลูกหลานในอนาคตอยู่ยุคหน้าก็เข้าใจยุคหน้า ถ้าคนทั้งสามยุคมองไม่ตรงกันแล้วถือว่าตนเจ๋ง ยุคตนเจ๋ง ไม่ยอมรับยุคคนอื่น มันก็น่าปวดใจไม่ใช่หรือครับ เหมือน ๆ กับเราชอบปืน แต่ใครอีกหลาย ๆ คนเกลียดปืนนั่นแหละครับ
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ เมษายน 12, 2007, 03:55:20 PM อืมม์ ....... อาจารย์ท่านนี้ .... อยากเปลี่ยนชื่อประเทศ เพราะมองเห็นปัญหาอะไรหรือ ? และ เปลี่ยนเพื่อจะแก้ปัญหาอะไรหรือ ? ถ้าเปลี่ยนแล้ว ...... จะแก้ปัญหานั้น ๆ ได้หรือ ? หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 12, 2007, 03:57:41 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: ต่อครับ ที่ เมษายน 12, 2007, 04:00:25 PM อ่านดูแล้ว ก็กลางๆนะครับ
:D หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง ที่ เมษายน 12, 2007, 04:03:49 PM ขออนุญาตครับ
ผมคนไทยครับ ด้วยความเคารพครับ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 12, 2007, 04:07:23 PM จ้าลุงก้อน อิ อิ ไปเพ่นพ่านที่กระทู้เพื่อนด้ามขวานอีกบ้างซิครับ หายไปนานเลย ;D
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: ไม่ค่อยแม่น รักในหลวง ที่ เมษายน 12, 2007, 04:13:21 PM จ้าลุงก้อน อิ อิ ไปเพ่นพ่านที่กระทู้เพื่อนด้ามขวานอีกบ้างซิครับ หายไปนานเลย ;D คุณครูได้สิทธิ์นั้น ......เดี๋ยวนี้ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: babor ที่ เมษายน 12, 2007, 04:17:11 PM จ๊ากกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ เมษายน 13, 2007, 07:59:46 AM ...เป็นคนไทย หรือคนสยาม สำหรับผมไม่ขัดข้องครับ :)
...แต่เปลี่ยนแล้วมันจะยุ่งยากมากไป ไม่จำเป็นครับ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: ARMSCOR ที่ เมษายน 13, 2007, 10:24:15 AM ถ้ามองอย่างผิวเผินเราคงไม่เห็นด้วย แต่ถ้าคิดเยอะๆก็ชักลังเล ได้ทั้งสองอย่าง ::) ::) ::)
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ เมษายน 16, 2007, 11:37:37 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? ผมค่อนข้างแน่ใจว่า เล่มสำนวน อจ.ชาญวิทย์ แกวางก่อนครับ สำนวนผมว่า อจ.คึกฤทธิ์ ท่านจะวิลิสสมาหรากว่า พวกคำขยายต่างๆจะอลังการงานสร้างกว่า รวมทั้งท่านจะตีความเชิงศาสนามากกว่าของ อจ.ชาญวิทย์ ซึ่งงาน อจ.ชาญวิทย์ จะค่อนข้างเป็นปรัชญา และไม่ค่อยมีการตีความต่อครับผม จำได้ว่าถ้าออกแนวเพื่อชีวิตจะถือหาง อจ.ชาญวิทย์ คนชอบสำนวน อจ.คึกฤทธิ์ จะโดนค่อนขอดเป็นพวกทุนนิยม ;D เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่โตกันพักใหญ่เหมือนกันครับ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: east ที่ เมษายน 17, 2007, 01:05:30 AM เปลี่ยนชื่อประเทศ เปลี่ยนคนดีกว่า พวกไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: ตะบันไฟ ที่ เมษายน 17, 2007, 03:25:24 AM ขออนุญาตคัดลอกลงมานะครับ :-*
เรื่อง ขอให้ลงชื่อเรียกร้องให้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 โดยใช้นามประเทศว่า สยาม แทน ไทย (Siam not Thailand) View Current Signatures - Sign the Petition -------------------------------------------------------------------------------- To: กัลยาณมิตร (1) เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2482 รัฐบาลในสมัยนั้นได้ประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศจาก สยาม เป็น ไทย และจาก Siam เป็น Thailand (2) รัฐบาลสมัยนั้นให้เหตุผลทาง เชื้อชาตินิยม ว่า รัฐบาลเห็นสมควรถือเป็นรัฐนิยมให้ใช้ชื่อประเทศ ให้ต้องตามชื่อเชื้อชาติและความนิยมของประชาชน (3) เหตุผลที่รัฐบาลในสมัยนั้น ยกขึ้นมาอ้างว่าด้วยเชื้อชาตินั้น ไม่ถูกต้องตาม ความเป็นจริง และ ข้อมูล ทางประวัติศาสตร์ (4) ประชาชนที่ประกอบกันขึ้นเป็นพลเมืองของประเทศของเรานั้น มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ภาษาและอัตลักษณ์วัฒนธรรม มีทั้งไทย ลาว มอญ เขมร กูย แต้จิ๋ว กวางตุ้ง ฮกเกี้ยน ไหหลำ แคะ จาม ชวา มลายู ซาไก มอแกน ทมิฬ เปอร์เซีย อาหรับ ฮ่อ พวน ไทใหญ่ ไทดำ ผู้ไท ขึน เวียด ยอง ลั๊วะ ม้ง เย้า กะเหรี่ยง ปะหล่อง มูเซอร์ อะข่า ขะมุ มลาบรี ชอง ญากูร์ ฝรั่ง (ชาติต่างๆ) แขก (ชาติต่างๆ) ฯลฯ ฯลฯ (5) รัฐธรรมนูญฉบับวันที่ 10 ธันวาคม 2475 ก็ใช้นามประเทศว่า สยาม และในการร่างรัฐธรรมนูญอีกหลายครั้ง ก็ได้มีการอภิปรายในประเด็นที่จะเปลี่ยนนามประเทศเป็น สยาม อีก เช่น ในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2492 และฉบับ 2511 เป็นต้น (6) ดังนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับ ความเป็นจริง ทางเชื้อชาติ ภาษาและอัตลักษณ์วัฒนธรรม และตรงตาม ข้อมูล ทางประวัติศาสตร์ จึงเห็นเป็นการสมควรที่จะให้ใช้นามประเทศในรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2550 นี้ว่า สยาม และ Siam สืบไปทั้งนี้เพื่อ หลักการณ์ของความสมานฉันท์ การยอมรับในความหลากหลายทางเชื้อชาติ ภาษาและอัตลักษณ์วัฒนธรรม และประโยชน์สุขของประเทศชาติและประชาชน เช่นเรา (7) หากท่านเห็นชอบด้วยขอให้ร่วมลงชื่อในจดหมายนี้ หรือส่งความเห็น หรือรวบรวมความเห็น รายชื่อ หมู่คณะของท่านเสนอโดยตรงต่อ ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ นายกรัฐมนตรี ประธานศาลฎีกา สสร. พรรคการเมืองและองค์กรที่เกี่ยวข้อง หรือจะเสนอผ่านมายังข้าพเจ้า เพื่อรวมรวมส่งอีกครั้งหนึ่งก็แล้วแต่จะเห็นควร ชาญวิทย์ เกษตรศิริ โครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Sincerely, The Undersigned View Current Signatures -------------------------------------------------------------------------------- The เรื่อง ขอให้ลงชื่อเรียกร้องให้กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับพุทธศักราช 2550 โดยใช้นามประเทศว่า สยาม แทน ไทย (Siam not Thailand) Petition to กัลยาณมิตร was created by and written by ชาญวิทย์ เกษตรศิริ (charnvitkasetsiri@yahoo.com). This petition is hosted here at ;)คิดเสียว่าเขาอยากให้ประเทศเราเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เจตนาเขาดี ไม่ได้คิดแอบแฝงสิ่งใด แต่ชื่อเดิม ว่าไทยก็ดีอยู่แล้ว คงไม่ต้อง ไปเปลี่ยนอะไร แต้ถ้าเป็นว่าเมื่อเปลี่ยนเป็นชื่อ สยาม แล้ว เหตุการณ์ใน ๓ จังหวัด ชายแดนภาคใต้สงบสุขตลอด ไม่มีแบบนี้อีก ก็น่าลอง แต่ใครจะการันตีได้ ::) ::) ::) หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ เมษายน 17, 2007, 08:08:37 AM มีอีกหลายเรื่องที่สำคัญกว่าไม่ทำ ทำแต่ละเรื่อง..................
พวกอยากสร้างกระแสให้ตัวเอง หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Arthorn Art. ที่ เมษายน 17, 2007, 11:45:39 AM เฮ้อ!!!! ขี่จ้างจับตักแตน อีกแล้ว >:( รู้สึกจะเอาอกเอาใจโจร กันจัง มันคงเข้าใจหรอก นักวิชาการมองมุมหนึ่งแต่โจรมันมองอีกมุม ครับ ไม่อย่างนั้นคงม่มีคุกไว้ขังโจรหรอกครับ ....ก็เพราะคิดกันอย่างนี้โจรมันถึงได้ใจ
หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ เมษายน 17, 2007, 12:11:22 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? เล่มที่มีเก็บไว้เป็นฉบับที่แปลโดยมรว.คึกฤทธิ์เหมือนกันครับ แต่ฉบับที่ชอบจะชอบที่แปลโดยอ.ชาญวิทย์ มากกว่า สำนวนต่างกันยังไงผมก็บอกไม่ถูก แต่รู้สึกว่าฉบับของอ.ชาญวิทย์อ่านแล้วสมใจกว่า มีความรู้สึกร่วมมากกว่า :) หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ เมษายน 17, 2007, 12:13:23 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? ผมค่อนข้างแน่ใจว่า เล่มสำนวน อจ.ชาญวิทย์ แกวางก่อนครับ สำนวนผมว่า อจ.คึกฤทธิ์ ท่านจะวิลิสสมาหรากว่า พวกคำขยายต่างๆจะอลังการงานสร้างกว่า รวมทั้งท่านจะตีความเชิงศาสนามากกว่าของ อจ.ชาญวิทย์ ซึ่งงาน อจ.ชาญวิทย์ จะค่อนข้างเป็นปรัชญา และไม่ค่อยมีการตีความต่อครับผม จำได้ว่าถ้าออกแนวเพื่อชีวิตจะถือหาง อจ.ชาญวิทย์ คนชอบสำนวน อจ.คึกฤทธิ์ จะโดนค่อนขอดเป็นพวกทุนนิยม ;D เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่โตกันพักใหญ่เหมือนกันครับ อ้าว......เพิ่งเปิดหน้า2มาเห็น ตามนี้เลยครับ ตอบได้แจ่ม :D หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ เมษายน 17, 2007, 12:32:19 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? ผมค่อนข้างแน่ใจว่า เล่มสำนวน อจ.ชาญวิทย์ แกวางก่อนครับ สำนวนผมว่า อจ.คึกฤทธิ์ ท่านจะวิลิสสมาหรากว่า พวกคำขยายต่างๆจะอลังการงานสร้างกว่า รวมทั้งท่านจะตีความเชิงศาสนามากกว่าของ อจ.ชาญวิทย์ ซึ่งงาน อจ.ชาญวิทย์ จะค่อนข้างเป็นปรัชญา และไม่ค่อยมีการตีความต่อครับผม จำได้ว่าถ้าออกแนวเพื่อชีวิตจะถือหาง อจ.ชาญวิทย์ คนชอบสำนวน อจ.คึกฤทธิ์ จะโดนค่อนขอดเป็นพวกทุนนิยม ;D เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่โตกันพักใหญ่เหมือนกันครับ อ้าว......เพิ่งเปิดหน้า2มาเห็น ตามนี้เลยครับ ตอบได้แจ่ม :D ตอบตามความรู้สึกครับ ไม่มีหลักวิชาอ้างอิง ;D หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ เมษายน 17, 2007, 02:05:30 PM ผมก็อ่านงานของอาจารย์มานานแล้วเหมือนกันครับ ตั้งแต่ยุคแปล โจนาธาน ลิฟวิงสตันน่ะแหละ ก็มีมุมมอง ความคิดต่างๆให้เราได้เก็บมาคิดต่อกัน สนุกบ้าง ไม่สนุกบ้าง ;D ในกรณีนี้ ถ้าหากข้อเสนอของอาจาร์ยมีเหตุผลสนับสนุนเพียงเท่านี้ ผมก็ขอแสดงความเห็นว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ แรกเริ่ม มรว. คึกฤทธิ์ แปลนี่ครับ อยากลองอ่านของ อ. แปลว่าสำนวนจะต่างกันยังไง? ผมค่อนข้างแน่ใจว่า เล่มสำนวน อจ.ชาญวิทย์ แกวางก่อนครับ สำนวนผมว่า อจ.คึกฤทธิ์ ท่านจะวิลิสสมาหรากว่า พวกคำขยายต่างๆจะอลังการงานสร้างกว่า รวมทั้งท่านจะตีความเชิงศาสนามากกว่าของ อจ.ชาญวิทย์ ซึ่งงาน อจ.ชาญวิทย์ จะค่อนข้างเป็นปรัชญา และไม่ค่อยมีการตีความต่อครับผม จำได้ว่าถ้าออกแนวเพื่อชีวิตจะถือหาง อจ.ชาญวิทย์ คนชอบสำนวน อจ.คึกฤทธิ์ จะโดนค่อนขอดเป็นพวกทุนนิยม ;D เถียงกันเป็นเรื่องใหญ่โตกันพักใหญ่เหมือนกันครับ ขอบคุณมากครับพี่ อือม์ น่าหยิบมาอ่านอีกที อิ อิ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: Boss888 ที่ เมษายน 17, 2007, 03:11:39 PM เปลี่ยนแล้วคงวุ่ยวายน่าดู........อย่างตอนที่ผู้ว่าอภิรักษ์อยากจะเปลี่ยนชื่อถนนชื่อซอยหรือบ้านเลขที่ใหม่
ยังโดนซะจมเลย......ไม่รู้ว่าเรื่องถึงไหนต่อแล้วหล่ะ หัวข้อ: Re: ไม่มีอะไรจะทำกันแล้ว คนพวกนี้ เริ่มหัวข้อโดย: เพนกวิน ที่ เมษายน 17, 2007, 04:44:56 PM มีอีกหลายเรื่องที่สำคัญกว่าไม่ทำ ทำแต่ละเรื่อง.................. เห็นด้วยครับ....รู้อยู่ว่าไม่ได้ประโยชน์แต่ก็ทำพวกอยากสร้างกระแสให้ตัวเอง |