เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อ้างจาก  อวป. ฉบับ 376 และ  377

หัวข้อ กฎหมายปืน    เรื่อง  " อาวุธปืนใช้ในการกีฬา " 

โดย  คณะทำงานติดตามการแก้ไข พ.ร.บ. อาวุธปืน ฯ
       
        ข้อความ
     
        " การขออนุญาตปืนขนาด .๓๕๗, .๔๔ และ .๔๕   ถ้าไม่ใช่เป็นข้าราชการตำรวจหรือข้าราชการทหารก็จะ
ต้องมีหลักฐานการเป็นนักกีฬายิงปืน  ซึ่งเป็นเรื่องที่นักกีฬายิงปืนตัวจริงเขารู้สึกพะอืดพะอมกับหลักการเรื่องนี้ของหน่วย
งานทะเบียนอาวุธปืนมานานแล้ว  เนื่องจากไม่มีการแข่งยิงปืนประเภทไหนที่เขากำหนดว่าจะต้องใช้อาวุธปืนสามขนาดนี้ "

         " เนื้อหาของประกาศที่กำหนดว่า  ผู้ขอใบอนุญาตอาวุธปืนขนาด .๓๕๗, .๔๔ และ .๔๕ ต้องขออนุญาต
เพื่อการกีฬาและต้องเป็นสมาชิกสมาคมยิงปืน  เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง  เพราะไม่มีกีฬายิงปืนประเภทไหน
ที่กำหนดให้ใช้ปืน ๓ คาลิเบอร์นี้ "

          จากข้อความที่ยกมานี้  หมายความว่า 
        ๑.   การแข่งขันยิงปืนชาวบ้านและการแข่งยิงปืน IPSC  โดยข้อกฎหมายไม่ถือว่าเป็นการกีฬาใช่ไหมครับ 
        ๒.   การที่กฎหมายจะถือว่าเป็นกีฬาได้นั้นจะต้องเป็นอย่างไรในข้อกำหนดปลีกย่อยอะไรบ้าง

ผมไปได้เอกสารที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ซึ่งโบราณมากแล้วครับเป็นคำสั่งตั้งแต่ปี พ.ศ.2517 ลองอ่านดูเล่นๆครับ

ชนิดและขนาดอาวุธปืน ซึ่งจะอนุญาตให้พิจารณาถึงฐานะ และความจำเป็นของผู้อนุญาตเป็นราย ๆ ไป
โดยระลึกว่าการอนุญาตให้เอกชนมีอาวุธปืนนั้นเป็นการอนุญาตตามความในพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ 2490
มาตรา 9 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้มีไว้เพื่อป้องกันตัวหรือทรัพย์สินหรือในการกีฬา หรือในการยิงสัตว์
      การพิจารณาอนุญาตดังกล่าวข้างต้นนี้ มีหลักเกณฑ์ในการอนุญาตสำหรับชนิดและขนาดอาวุธปืนตามคำสั่ง
กระทรวงมหาดไทยที่ 674/2490 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2490 ข้อ 13 และหนังสือกระทรวงมหาดไทย
ที่ 0515/13548 ลงวันที่ 25 ตุลาคม 2515 ที่ 0313/ว8583 ลงวันที่ 25 กรกฏาคม 2517 และที่
0515/ว686 ลงวันที่ 30 ธ.ค. 2517 ดังนี้
      ก. ถ้าผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการ ซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย หรือมีหน้าที่ ปฏิบัติงานเขตพื้นที่ที่เสี่ยง
อันตรายต่อชีวิตและผู้บังคับบัญชา ตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไป รับรองหน้าที่การงานมาเป็นที่เชื่อถือได้
หรือผู้ขออนุญาตเพื่อการกีฬาโดยมีหนังสือรับรองเป็นนักกีฬายิงปืน และมาฝึกซ้อมยิงปืนเป็นประจำจากเลขาธิการ
สมาคมยิงปืน หรือนายสนามยิงปืนนั้น ๆ ในการพิจารณาอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนพกให้อนุญาตขนาดลำกล้อง
ไม่เกิน .45 หรือ 11 มม.ได้
      ข.สำหรับบุคคลทั่วไปที่มีความจำเป็นต้องมีอาวุธปืนพก อนุญาตให้มีได้ลำกล้องไม่เกินขนาด .38 หรือ 9 มม.
สำหรับบุคคลที่มีคุณสมบัติไม่ขัดกับมาตรา 13 แห่งพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ พ.ศ. 2490 ทั้งนี้ต้องไม่ขัดต่อ
กฏกระทรวงที่ใช้บังคับอยู่ตามที่ระบุไว้ในข้ออื่น ๆ ด้วย
      สำหรับอาวุธปืนที่มีอานุภาพร้ายแรงแม้ขนาดลำกล้องไม่เกิน .38 หรือ 9 มม. เช่นอาวุธปืนขนาด .357
ก็ไม่ควรอนุญาตเว้นแต่ผู้ขออนุญาตเป็นข้าราชการตำรวจ ทหารหรือข้าราชการอื่นซึ่มีหน้าที่ปราบปรามตามกฏหมาย
หรือเป็นข้าราชการในท้องที่กันดาร และผู้บังคับบัญชาตั้งแต่หัวหน้ากองหรือเทียบเท่าขึ้นไปรับรองหน้าที่การงาน
มาเป็นที่เชื่อถือได้ก็ให้พิจารณาอนุญาตได้ สำหรับในต่างจังหวัดให้นายทะเบียนฯ เสนอขอรับความเห็นชอบจาก
ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย

เรื่องกฎหมาย  ใช้ความรู้สึกไม่ได้ครับ  ต้องมีที่มาที่ไป อ้างอิงได้
คำสั่งกระทรวงมหาดไทย ที่260/2535 ลงวันที่ 2 เม.ย.35  กำหนดปืนกีฬาไว้ดังนี้
ขนาด .22,  .32  และ.38  วัดคัตเตอร์
แบบลูกโม่ ลำกล้องยาว 6 นิ้ว
แบบออโต หรือบรรจุทีละนัด  ระยะห่างศูนย์ ไม่น้อยกว่า 18 ซม.

.........................อย่างนี้ที่ขอขนาด .45 แล้วขอเพื่อการกีฬาก็มิสิทธิ์ไม่อนุญาตสิขอรับ.........................

น่าจะแก้กฎ ระเบียบ คำสั่ง ให้ทันสมัยกับสังคมปัจจุบัน เพื่อให้เกิดความเสมอภาคครับ

ทำไม  IPSC  ซึ่งมีการแข่งขันในระดับนานาชาติ     จึงไม่ถือว่าเป็นกีฬา   

เพราะไม่ตรงกับข้อความนี้ใช่ไหมครับ

หนังสือ คำสั่งของกระทรวงมหาดไทย ที่ออกมา แต่ละฉบับ  เป็น กฏหมาย หรือ ป่าวครับ ถ้าต้องการให้เป็นกฏหมาย บังคับใช้กับคนทั่วไปต้องออกเป็นกฏกระทรวง ใช่ หรือไม่  และต้องประกาศในราชกิจจานุเบกษา
    สำหรับผม แล้ว คิดว่า คำสั่งของ กระทรวงมหาดไทย ใช้บังคับ กับข้าราชการ ในกระทรวงและผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น   , ถ้าเช่นนั้น คำสั่งกระทรวงกลาโหม , สาธารณสุข , เกษตร ฯลฯ คำสั่ง กอง คำสั่ง กรม นำมาใช้กับบุคลทั่วไป คงยุ่งตาย ชัก. 
 คำสั่งที่ออกมา คิดว่า เพื่อ เป็นแนวทางปฏิบัติให้กับ นายทะเบียน พอเปลี่ยนตัว รัฐมนตรี นโยบายก็อาจเปลี่ยนไป

เรื่องนี้ต้องอธิบายยาวครับ
คำสั่งของทางราชการ  ตามปกติจะมีผลกับข้าราชการ
คำสั่งบางแบบ  ก็มีผลกับประชาชนเป็นการทั่วไป   บางแบบก็มีผลกับประชาชน เฉพาะรายที่เข้ามาเป็นคู่สัญญากับราชการ
ประกาศของทางราชการบางแบบ (ส่วนใหญ่ของกรมสรรพากร และกรมศุลกากร) มีผลเป็นข้อยกเว้นในทางกฎหมายได้ด้วย

สองข้อนี้เขาไม่ได้ระบุขนาดหรือครับท่านผู้การ

ขนาดเดียวกันครับ