เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

จ่าตำรวจคลั่งบุกงัดคลังฉกปืนเอ็ม.16 พร้อมกระสุนกว่า 200 นัดซิ่งจยย.เข้าไปในรพ.สุราษฎร์ฯ ตระเวณยิงปืนขึ้นฟ้าหลายชุด หมอ-พยาบาล หนีตายจ้าละหวั่น สุดท้ายไปไม่รอดตำรวจบุกจู่โจมตอนเผลอซื้อน้ำดื่ม พบมีประวัติเคยรักษาอาการทางประสาท แถมเครียดจัดเมียหอบลูก 3 คนหนี



เหตุระทึกตำรวจใช้อาวุธสงครามบุกเข้าไปในโรงพยาบาล ก่อนใช้ปืนยิงขึ้นฟ้าหลายระลอก ท่ามกลางความแตกตื่นครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 23 เมษายน 2548 พ.ต.ท.ชิงชัย ภู่รัตนโอภา สารวัตรเวร สภ.อ.เมือง สุราษฎร์ธานี ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีว่า มี จ.ส.ต.จำโนช แก้วยัง อายุ 41 ปี ผบ.งานส่งกำลัง สังกัดกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ขับรถจักรยานยนต์เข้ามาภายในโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยอาวุธปืนเอ็ม.16 จำนวน 1 กระบอก และพกปืนขนาด 11 มม. อีก 1 กระบอก บรรจุกระสุนปืนเต็มรังเพลิง พร้อมยิงปืนขึ้นฟ้ากว่า 10 นัด ทำให้แพทย์ พยาบาล ผู้ป่วยและประชาชนที่เฝ้าผู้ป่วยแตกตื่นวิ่งหนีตายอลหม่าน

เมื่อไปถึงที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ปรากฎว่า จ.ส.ต.จำโนช ได้ขับรถจักรยานยนต์หลบหนี พร้อมด้วยอาวุธที่อยู่ในสภาพเตรียมพร้อมต่อสู้ โดยได้ขับรถวนเวียนไปตามถนนสายต่าง ๆ ในเขตเทศบาลเมืองสุราษฎร์ธานี ก่อนยิงปืนใส่ในกลุ่มของตำรวจที่ติดตามเป็นระยะๆ

ต่อมาเวลาประมาณ 07.45 น. วันเดียวกัน จ.ส.ต.จำโนช ได้ขับรถย้อนกลับมาที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีอีกครั้ง โดยก่อนถึงโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีประมาณ 500 เมตร ยางรถจักรยานยนต์ล้อหลังเกิดแตก จ.ส.ต.จำโนช จึงได้ยิงปืนเอ็ม.16 ขึ้นฟ้าอีก 3 นัด จากนั้นได้เดินเข้าไปในโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี โดยเดินเข้าไปที่ห้องคนไข้ ห้องตรวจโรค ที่มีคนไข้จำนวนมากรอพบแพทย์อยู่ จากนั้นได้เดินผ่านเข้าไปในร้านขายของของสหกรณ์โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี เพื่อซื้อน้ำดื่มจำนวน 1 ขวด ก่อนเดินกลับออกมา

ช่วงเวลาดังกล่าว ตำรวจนอกเครื่องแบบของ สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี และเจ้าหน้าที่ สรบ.(อาสาสมัครรักษาความสงบประจำหมู่บ้าน) อาศัยจังหวะบุกเข้าจู่โจมจับตัวไว้ได้ พร้อมกับยึดอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนทั้งหมด โดยไม่มีเหตุการณ์รุนแรง

พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ศรีวัฒนพงศ์ ผกก.สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จ.ส.ต.จำโนช เกิดอาการคลุ้มคลั่งมาจากสาเหตุเป็นโรคประสาท มีประวัติเคยรักษาตัวที่โรงพยาบาลสวนสราญรมย์ ประกอบกับมีปัญหาภายในครอบครัว โดยทราบว่าภรรยาได้หอบลูกทั้ง 3 คนหลบหนีไปอยู่ต่างจังหวัด กระทั่งคืนที่เกิดเหตุได้เกิดความเครียดอย่างหนัก จึงบุกเข้าไปงัดห้องคลังเก็บอาวุธและได้ขโมยปืน เอ็ม.16 พร้อมกระสุนกว่า 200 นัด ออกจากคลังเก็บอาวุธปืนของกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้วไปก่อเหตุดังกล่าว

พ.ต.อ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า พนักงานสอบสวนตั้งข้อหา 4 ข้อหา คือ 1.ลักทรัพย์ 2.มีอาวุธปืนสงครามไว้ในครอบครอง 3. พกพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะ และ4.ยิงปืนในที่สาธารณะ โดย พล.ต.ต.วรเวทย์ วินิตเนตยานนท์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัสุราษฎร์ธานีได้มีคำสั่งห้ามประกันตัวผู้ต้องหาโดยเด็ดขาด เนื่องจากเกรงว่าจะไปก่อเหตุร้ายขึ้นอีก ขณะนี้ได้ควบคุมตัวไว้ในห้องขัง สภ.อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมใช้วิธีแยกขังเดี่ยวจากผู้ต้องหารายอื่น

พล.ต.ต.วรเวทย์ กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งขัง จ.ส.ต.จำโนช ไว้ก่อน เพราะอาการยังน่าเป็นห่วง หากอาการดีขึ้นจะให้พนักงานสอบสวนสอบถามรายละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ในส่วนของมาตรการเก็บคลังอาวุธคงต้องเข้มงวดให้มากขึ้นกว่าเดิม ต้องมีเวรยามอย่างใกล้ชิด จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยอมรับว่า ประชาชนและคนไข้ในโรงพยาบาลมีความตกใจกลัวอยู่บ้าง แต่เคราะห์ดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือได้รับอันตรายแต่อย่างใด

พล.ต.ท.สมศักดิ์ บุปผาสุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 8 กล่าวว่า หลังทราบเรื่องดังกล่าวได้ย้ำเตือนเรื่องการจัดเก็บอาวุธต้องมีความรัดกุมให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยได้กำชับไปยัง พล.ต.ต.วรเวทย์ แล้ว ส่วนจังหวัดอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม คดีนี้ขอให้กระทำไปตามกฏหมาย และทราบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวกับอาการทางประสาทมาก่อน จึงต้องรอให้แพทย์ตรวจอาการอีกครั้งหนึ่ง

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นมีการวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะระหว่างที่เข้าจู่โจมจับ จ.ส.ต.จำโนช นั้น พบว่า ตำรวจส่วนหนึ่งต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมาก เนื่องจากในช่วงตอนเช้ามีประชาชนที่มามุงดูเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และภายหลังจากที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้แล้ว ก็ได้ติดต่อไปยังญาติ แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีญาติเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวนแต่อย่างใด

จกาการสังเกตุอาการล่าสุดขณะถูกคุมขังอยู่ปรากฎว่า อาการของจ.ส.ต.จำโนชเริ่มมีอาการสงบลง แต่ยังไม่ยอมเปิดเผยรายละเอียดใดๆกับตำรวจ หรือบุคคลอื่น

 :-\ โชคยังดี :-\

 :OO :OO 

! เฮ้อ  เวรกรรม.... :'( :'( :'(

 :<< :<<  :OO  :OO  หย่อนไปก็ไม่ดี  ตึงไปก็ไม่ดี    ??? ???

โหย๋ว......
อีกแย้ว ....

 :OO โชคยังดีที่แกยิงขึ้นฟ้า ;D

 :-\ ต้อบอกว่าโชคดีที่หัวกระสุนที่พี่แกยิงขึ้นไป มันไม่หล่นมาโดนหัวใครบาดเจ็บหรือเสียชีวิต :-\

แล้วอย่างนี้จะเอามาเป็นข้ออ้างในการยึดปืนหลวงคืนได้มั้ยเนี่ย...ฮา

จ่าแกอายุ 41 ปี น่าจะผ่านศึกมาโชกโชน ไม่ทราบว่าเคยสังกัด ตชด. หรือไม่
สาเหตุที่จ่าเกิดอาการทางประสาท หากเป็นเพราะกรำศึกมากจนเครียด ก็น่าเห็นใจ ทางการควรส่งตัวไปบำบัดรักษา
ทหารผ่านศึก ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เคยเผชิญศึกสงครามนานาชนิด มีจำนวนมากเกิดอาการประสาทหลอน บางท่าน
ก็รุนแรงจนก่อเหตุสลดใจหลายครั้ง.........ควรให้อภัย (ถ้าเป็นกรณีนี้) และควรได้รับการรักษาอย่างดี เพราะทำคุณต่อ
ชาติบ้านเมือง
แต่ถ้าเกิดจากสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นเรื่องส่วนตัว ก็ต้องว่ากันไปตามกฎหมาย

 ???...ไม่รู้ว่าจะเกี่ยวกับเหตุร้ายทางภาคใต้...ทำให้ประชาชนคนธรรมดาเกิดอาการเครียดมากกว่าปกติ...หากเครียดมากๆ และสะสมมาเป็นเวลานาน อาจเกิดจิตหลอนได้.... ::)

 :-[ :-[ :-[

ตัวหนังสือเยอะจังอ่านจนตาลายเลย ???

 ;D ขโมยปืนหลวงแต่ซื้อน้ำสหกรณ์ดื่ม... 

จ่าแกนิสัยน่ารักแฮะ... ;D

หากข้อเท็จจริงเป็นดังที่พี่ปูชี้แจง เป็นเรื่องน่าเห็นใจอย่างยิ่ง เนื่องจากโดยส่วนตัวผมเชื่อเสมอว่าทหารหรือตอชอดอ ที่อยู่ตามชายแดน นอกจากจะต้องกดดันสภาวะความเสื่ยงในการปฎิบัติหน้าที่แล้ว ยังต้องผจญถึงความเหงา และความคิดถึงครอบครัวในแนวหลัง สิ่งเหล่านี้หากมิใช่จิตใจที่เข้มแข็งและเสียสละตามหน้าที่และคำปฎิญาณที่ตนเองได้รับ คงไม่เกิดผู้เสียสละต่อส่วนรวมได้ขนาดนี้ ผมว่าทหารผ่านศึก(เพื่อปกป้องมาตุภูมิ)รวมทั้งเจ้าหน้าที่ ถึงแม้เงินเดือนน้อย เสี่ยงภัยสูง จำจากห่างไกลบุคคลแนวหลัง เป็นบุคคลที่น่าเคารพในความเสียสละจริงๆ

ส่วนเรื่องกฎหมาย ก็คงต้องว่าตามกฎหมาย แต่ก็น่าน้อยใจว่า ทำไมคนที่เสียสละขนาดนี้ ตอนจบต้องมาลงเอยเช่นนี้ด้วย

ขอพระอวยพรทหารและเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่เสียสละอยู่ตามชายแดน และพี่น้องทุกท่านครับผม

เป็นห่วงแต่เจ้าหน้าที่ 3 จังหวัดภาคใต้ด้วยครับ  หลังจากลงพื้นที่ต้องระวังตัวตลอด  กลัวกลับต้นสังกัดเดิม  แล้วจะมีความเครียดแบบตำรวจท่านนี้   ผมไม่โทษแกหรอกครับแกคงจะเครียดทั้งเรื่องงาน เงินและส่วนตัวแหล่ะครับ  เคยมีทหารอเมริกันที่ไปรับที่อิรัก  หลังจากกลับ  เขาจะมีคอร์ทให้ทหารผ่อนคลาย  เช่น  เล่นเกมส์ที่เกี่ยวข้อง หรือกิจกรรมอื่น ๆ อีก 2-3  เดือน เพราะเขาตระหนักกลัวจะเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆอย่างนี้  ประเทศไทยน่าจะมีแบบนี้บ้างนะครับ   หรือจะรอให้ทหารที่กลับจากการรบ จับใครเป็นตัวประกันก่อนครับ  เดี๋ยววัว(ควาย)หาย  แล้วล้อมคอก

สงสารจังเลย