เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ผ้าขี้ริ้ว
(http://www.catholic.or.th/spiritual/sharing/shareing07/rags01.jpg)

1.ผ้าขี้ริ้วยอมสกปรกเพื่อให้สิ่งอื่นสะอาด เสน่ห์ของคนอยู่ที่ยอมลำบากเพื่อให้ผู้อื่นเป็นสุข พ่อแม่ยอมเหนื่อยเพื่อให้ลูกหลานอยู่สุขสบาย   
ความสุขแท้ของคนคือการได้ยืนแอบยิ้ม อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของผู้อื่น
 
2.ผ้าขี้ริ้วดูดซับความสกปรกได้ แต่ก็สลัดความสกปรกออกจากตัวได้ตลอดเวลา เสน่ห์ของคนอยู่ที่รู้ตัวเองว่าสกปรก     
ถึงเวลาต้องชำระล้างแล้ว  มิใช่อมความสกปรกไว้แล้ว แกล้งบอกว่าตนเองสะอาด

3.ผ้าขี้ริ้วเป็นผ้าที่สะอาดที่สุด ในขณะที่คนมองว่าสกปรกที่สุด เหมือนคนที่ฝึกหัดขัดเกลาตนเอง รู้จักถ่อมตนและอ่อนโยน
ไม่โอหังอวดดีให้เป็นที่รังเกียจหมั่นไส้ของคนอื่น เขาจะเป็นคนที่มีคุณค่า ไม่ว่าจะมาจากสกุลใด การศึกษามากหรือน้อยก็ตาม
เป็นผู้ใฝ่รู้แต่ไม่อวดดี เหมือนผ้าขี้ริ้วห่อทอง

4.ผ้าขี้ริ้วถึงจะเป็นผ้าไม่มีราคา แต่มีคุณค่ายิ่งใหญ่ได้ เหมือนคนที่พยายามทำตนให้มีคุณค่า ด้วยการทำงานมิใช่ด้วยการประจบ
ทำตนให้มีประโยชน์ ให้มีค่า ไม่ใช่งอมืองอเท้า น้อยเนื้อต่ำใจในวาสนาชะตาชีวิต ต้องสร้างกำลังใจให้ตนเองอย่ารอคอยจากคนอื่น

5.ผ้าขี้ริ้วไม่เกี่ยงงอนว่าจะถูกใช้เช็ดถูอะไร เหมือนคนที่ยอมตัวอาสาทำงานที่ได้รับมอบหมาย โดยไม่ปริปากบ่น
รู้จักอาสาคน อาสาทำงาน ต้องตั้งใจทำงานโดยไม่เกี่ยงงอน ไม่ว่าจะเป็นงานใด ๆ ก็ตาม คนที่ตกงานเพราะไม่ยอมทำงาน

6.ผ้าขี้ริ้วยอมให้ถูกใช้งานในที่สกปรกที่สุด เหมือนคนที่ยอมทำในสิ่งที่คนทั้งหลายรังเกียจ ที่เขาเห็นว่าเป็นงานชั้นต่ำ
แต่ก็ตั้งใจทำให้เป็นของมีค่าขึ้นมาได้ หรือยินดีในการบริการ เหมือนคนที่อิ่มเอิบเมื่อได้บริการรับใช้คนอื่น รับใช้สังคม
ดีใจเมื่อคนยินดีมา ใช้บริการความรู้ ความสามารถของตน และยินดีที่ได้เสนอตัวเข้าไปบริการมากกว่าเข้าไปบริหาร

7.ผ้าขี้ริ้วพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลังความสะอาด เหมือนคนควรพอใจที่ได้อยู่เบื้องหลัง ความสำเร็จของคนอื่นต้องมีความพอใจที่จะทำงาน
ปิดทองหลังพระเป็นนายอินหรือนางอิน ผู้ปิดทองหลังพระมีความสุขและภูมิใจที่ได้มอบความสำเร็จให้คนอื่น มีมากที่ผู้น้อยบางคน 
ทำงานแล้วทำให้ผู้ใหญ่เล็กลง ขณะที่ตัวเองโตขึ้น

8.ผ้าขี้ริ้วทนทานต่อการขัดถูซักล้างไม่เปราะบาง เหมือนคนที่มีความอดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคปัญหา
แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็อดทนได้ เพื่อให้สำเร็จ ประโยชน์สุขแก่ผู้อื่น มีจิตใจหนักแน่น ไม่เปราะบางหักง่าย
คือไม่เป็นคนทุกข์ง่ายใจเบา แต่นิ่งและหนักแน่นคงดุจแผ่นดิน

9.ผ้าขี้ริ้วแม้จะถูกมองว่าเป็นผ้าขี้ริ้ว แต่ไม่ทำตัวให้ขี้เหร่ เหมือนคนที่รู้ตัวเองว่า กำลังถูกึนปรามาสสบประมาท
จ ะต้องตั้งใจเอาชนะอุปสรรค ครงนั้นให้ได้ ไม่พ่ายแพ้ต่อคำปรามาสของผู้อื่น รู้ตัวตลอดเวลาว่ากำลังทำอะไรและมีกำลังใจในสิ่งนั้น 
มองเห็นคุณค่าจากสิ่งที่คนทั้งหลายมองว่าไร้ค่า เมื่อมีปัญหาให้หัดมองสองด้านเสมอ ผ้าขี้ริ้วมีเสน่ห์เพราะยอมสัมผัสกับสิ่งสกปรก

 :VOV: ชีวิตของคนเราก็เช่นกัน หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ก็จะมีเสน่ห์ และมีความหมาย
ทุกคนจึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง คุณเห็นด้วยไหม
ที่ว่าเราต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า และมองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง

  :):~) :~)  สุดยอดครับ โดนใจมากๆครับ   :~) :~) :)

ปรัญญานี้หน้าคิดมากๆครับ

(http://img108.imageshack.us/img108/2674/bigtupmn7.gif)(http://img108.imageshack.us/img108/2674/bigtupmn7.gif)(http://img108.imageshack.us/img108/2674/bigtupmn7.gif)

คมมากครับ

 :Dได้คิด ขอบคุณมากๆครับ  :D

ขอบคุณครับ  คุณ Watt

เราถึงมีกระทู้ดีดี ให้อ่านอยู่ตลอด

สุดยอด  ให้คนท้อแท้ได้อ่านคงมีกำลังใจต่อสู้ชีวิตไม่ต้องโทษวาสนาตัวเอง

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ คุณ  watt

ได้อ่านข้อความทั้งเก้าข้อแล้ว  กำลังใจเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าครับ
ขอบคุณพี่วัฒน์

แต่ยังมีอีกหนึ่งข้อครับ
ผ้าขี้ริ้ว...อร่อยสำหรับคนชอบเครื่องในวัว...อีกหนึ่งความหมาย... :D

ด้วยความเคารพครับ

คมกว่า Spyderco.

ใครนะ ........ ช่างเขียนจริงๆ

   ขอบคุณครับคุณ watt ที่นำข้อความดีๆมาให้อ่าน

 ผมถามกลับหน่อยสิครับ ผมชอบกิน ผ้าขี้ริ้ว ที่ใส่ในลาบเนื้อมากๆ บางทีก็สั้งลวกจิ้มผ้าขี้ริ้ว มากิน
 ผมอยากรู้ว่ามันคือส่วนไหน ของวัวครับ ใช่กระเพาะ มันหรือเปล่า
 

แหล่ม... ;D ;D ขอบคุณพี่ Watt มากครับที่มีสิ่งดีๆมาให้เสมอ... :VOV:

ขอบคุณครับพี่ watt สุดยอดครับ

ขอบคุณครับพี่วัฒน์


ขออนุญาตตอบคำถามแทนพี่WATTนะครับ

ถูกต้องครับเป็นกระเพาะอาหารมี 4 กระเพาะครับ

เป็นกระเพาะ่สวนที่เรียกว่าOmasumครับ ;D ;D

ขอบคุณพี่วัฒน์มากครับ..ลึกซึ้งกินใจมาก ๆ



ขออนุญาตตอบครับ



ผ้าขี้ริ้ว ส่วนนี้เป็นอวัยวะ ๑ ใน ๔ กระเพาะ ...เวลาชำแหละ เจ้าส่วนกระเพาะทั้ง ๔ นี้  น่าตื่นเต้นเร้าใจดีมากครับ.....ถ้าเล่าให้ฟังแล้ว..พี่ฟูอาจไม่อยากกิน อีกเลย...เอาเป็นว่า ที่เขาทำมาให้เรากินนั้น...สะอาดสุดยอดแล้วครับ... ;D

ยอดเยียมครัยพี่watt    ชีวิตของคนเรา หากทนความทุกข์ยากลำบาก ยอมสัมผัสกับงานที่ต่ำต้อยได้ ก็จะมีเสน่ห์และมีความหมาย จึงควรพากเพียรพยายามสร้างเสน่ห์ให้กับชีวิต อย่างที่ผ้าขี้ริ้วสร้างเสน่ห์ให้กับตนเอง ต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า มองเห็นค่าของตัวเองก่อน แล้วเราจะไม่รู้สึกท้อแท้หมดหวัง ;)

คมคาย

อ่านแล้วกินใจ ได้ข้อคิด อยากให้ชนชั้นผู้นำและอดีตชนชั้นผู้นำของบ้านเราได้อ่านบ้าง อาจจะดวงตาเห็นธรรม ปลง ปล่อยวาง สะอาด สว่าง สงบ เสียที ขอบพระคุณมากครับ

 :D :D :D...ผ้าขี้ริ้ว...ทำความสะอาดอะไรในกระเพาะวัวครับ... ;D ;D ;D

โดนใจครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณครับพี่

ขอบคุณค่ะสำหรับข้อคิดดี ๆ ทำให้มีกำลังใจขึ้นมาอีกมาก  :D

เหอ. ๆ ...เปล่าเป็นแบบนั้นครับพี่...คือ  เวลาเราผ่าส่วนกระเพาะส่วนนี้ออกมา จะพบว่ามี กากอาหาร เพียบ...และอื่น ๆ ที่น่ารังเกียจ แถมส่งกลิ่นรุนแรงสุดยอด..ชวน อาเจียน  ..(ขอนุญาตไม่เล่าต่อ).....แต่ พอเราผ่าออกมา ล้าง ทำความสะอาด เหมือนการขยี้ผ้าขี้ริ้ว  เพราะลักษณะคล้าย ๆ กัน...ล้างจนหมดสิ่งสกปรก แล้ว...แหม...พี่...ทางบ้านผมเขากินกันดิบ ๆ เดี่ยวนั้นเลย...และจะให้อร่อย  ต้องทำน้ำจิ้มวัว  แบบว่า มี...เพลี้ยหัวดี...คือ   มูลอ่อน  ๆ ที่อยู่ในลำไส้อ่อน   มีรสขม  ...นำมาผสมกับเครื่องปรุงของ ชุดลาบ....ปรุงเค็ม เผ็ด บ้าง...พอให้แซบ....ก็ทำจิ้มกินกัน ดิบ ๆ เดี่ยวนั้นเลย.....อร่อยอย่าบอกใครเชียว  แกล้มกับเหล้าเสรีด้วย  แล้ว..สุดยอด............. :D~

        งานนี้....เชื้อโรคไม่เกี่ยว.... ;D

ขอบคุณครับ

นึกถึงเพลงของคาราบาว ที่ว่า  ผ้าขี้เหร่ขี้ริ้ว ผิวกระดำกระด่าง มอมแมมแต่ร่าง สร้างสังคมสะอาด.. ;)