เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

http://www.posttoday.com/newsdet.php?sec=finance&id=164506


รัฐเลิกประชานิยม เงินกู้เถื่อนระบาด

โพสต์ทูเดย์ — แบงก์ชาติปวดหัว เศรษฐกิจชะลอตัวปล่อยกู้เงินเถื่อนผุดขึ้นราวดอกเห็ด

นายพงศ์อดุล กฤษณะราช ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักเศรษฐกิจภาคใต้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานภาคใต้ได้ตั้งเป้าปราบปรามธุรกิจปล่อยกู้เถื่อนในเขตภาคใต้ให้ได้อย่างน้อย 5 รายในแต่ละปี เพื่อชะลอการขยายตัวแพร่หลายของบริษัทปล่อยกู้เถื่อนและเพื่อป้องปราม


อย่างไรก็ดี ขณะนี้มีปัญหาด้านกำลังเจ้าหน้าที่มีไม่เพียงพอ ที่จะสืบค้นข้อมูล เข้าล่อซื้อ ทุกครั้งจึงต้องประสานงานกับตำรวจ และพยายามดำเนินการเฉพาะรายที่เห็นปล่อยกู้เปิดเผย ท้าทายอำนาจกฎหมายชัดเจนเท่านั้น ไม่เน้นไปสืบค้นตามล่ากวาดให้เกลี้ยง เพราะอาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ได้ เนื่องจากกลุ่มธุรกิจปล่อยกู้เถื่อนมักเป็นผู้มีอิทธิพลมีอำนาจมืดอยู่เบื้องหลัง ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวัง


“การปราบก็มีการตรวจ ส่งปรับ และมีบางรายส่งฟ้องศาล เพื่อให้รายอื่นๆ ขยาดไม่ขยายเพิ่ม ซึ่งก็ได้ผลดีขึ้น เพราะแต่ก่อนเห็นเดินแจกใบปลิวกู้กันเกลื่อน ติดตามเสาไฟฟ้าบ้าง แต่ตอนนี้ดีขึ้นถึงทำก็ระมัดระวังกันมากขึ้น ยังกลัวกฎหมายบ้าง แต่ต้องปราบปรามอย่างจริงจังไปเรื่อยๆ เพราะธุรกิจพวกนี้ถูกปิดก็เปิดใหม่ เปลี่ยนชื่อใหม่ได้ เพราะตราบใดที่รัฐยังช่วยรากหญ้าเข้าถึงเงินกู้ในระบบไม่ได้ก็คงมีอยู่” นายพงศ์อดุล กล่าว


นายพงศ์อดุล กล่าวว่า ในการดูแลภาคสถาบันการเงินของสำนักภาคใต้ปัจจุบันจะเน้นดูแลใน 2 ด้าน คือ การตรวจสอบการซื้อขายเงินตราต่างประเทศ (FX) ที่ผิดกฎหมาย และการปราบปรามบริษัทเงินทุนเถื่อนหรือธุรกิจปล่อยกู้เถื่อนเป็นสำคัญ ซึ่งตั้งแต่ปี 2548–2549 สำนักงานภาคใต้ดำเนินการจับกุมได้ปีละประมาณ 5 ราย ซึ่งสำนักงานทุกภาคก็จะเร่งทำเช่นกัน


ก่อนหน้านี้ แบงก์ชาติได้ดำเนินการตรวจสอบสถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคาร (นันแบงก์) ที่ได้รับอนุญาตบางแห่ง ซึ่งร่วมมือกับธุรกิจปล่อยกู้เถื่อน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยสูงกว่ากฎหมายกำหนด 15% ที่ใช้การ ซื้อสินค้าบังหน้า


ทั้งนี้ จากสถิติจำนวนคดีอาญาที่ แบงก์ชาติร้องทุกข์กล่าวโทษและอยู่ระหว่างดำเนินการทั้งหมด 87 คดี ในสิ้นเดือนมีนาคม พบว่ามีคดีที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาตถึง 32 คดี


นอกจากนี้ มีคดีที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ ที่ไม่ได้รับอนุญาตอีก 5 คดี ซึ่งคดีเหล่านี้เกิดขึ้นทั่วทุกภาคของประเทศ จึงต้องดำเนินการปราบปรามให้ถึงที่สุด เพราะถือว่าทำธุรกิจเอาเปรียบประชาชน


แหล่งข่าวจากแบงก์ชาติ กล่าวว่า บริษัทเงินกู้เถื่อนในขณะนี้ มีมากขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัว โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลเลิกโครงการประชานิยมต่างๆ ทำให้ประชาชนกลุ่มรากหญ้าขาดแคลนเงินมาก และเข้าไม่ถึงแหล่งเงินกู้ จึงต้องหันไปหาเจ้าหนี้นอกระบบ แม้จะคิดดอกเบี้ยสูง แต่ก็ดีกว่าไม่ได้รับเงินกู้


“สิ่งที่จะต้องติดตามก็คือ เมื่อรู้แล้วว่าจะมีปัญหาอย่างนี้ การทวงหนี้จากเจ้าหนี้นอกระบบที่เข้มข้นอาจจะทำอันตรายให้กับชีวิตและทรัพย์สินของลูกหนี้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องคอยสอดส่อง ไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงในการทวงหนี้ เหมือนที่เคยมีในอดีต” แหล่งข่าวกล่าว
"""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

  ธุระกิจ  นันแบงก์ ....  กู้ง่าย จ่ายสดวก เป็นมิตร ยามกู้ เป็นศัตรู ยามทวง  ทำเอาพ่อค้า แม่ขาย ในตลาดบ้านผม บ่นไปตาม ๆ กัน เงินแทนที่จะหมุนอยู่ในชุมชน กลับถูกดูดออกนอกชุมชนไปซะหมด ??? ???  ร้อยละสิบ  ร้อยละสิบห้า ธุระกิจนี้เริ่มคึกคักอีกครั้ง

 

จำนวนคนเดือดร้อนมากกว่าปลายวิกฤติต้มยำกุ้งเมื่อ6-7ปีที่แล้วมากไหมครับ  ::)

แถวที่บ้านผม ชาวบ้านก็มีเงินนะครับ**แต่ก็กำเงินไว้แน่น** แต่ก็ยังเอาเงินกู้นอกระบบมาซื้อยา ซื้อปุ๋ย ร้อยละ 3 บวกกับยาปุ๋ยแพงกว่าท้องตลาด 30 เปอร์เซน+กับเงินกู้ ธกส ที่ให้กู้พ่วงกับต้องซื้อปุ๋ย และย่าที่แพงเช่นเดียวกัน ไปๆมาๆกลายเป็นอีกอาชีพที่กำลังเติบโตครับ ส่วนที่บ้านเน้นขายเงินสดอย่างเดียวแต่เน้นขายถูกเพราะไม่อยากเสี่ยงปล่อยไปก่อนแบบว่ากลัวโดนเป็นหนี้สูญนะครับ

เห็นรัฐกำลังกระตุ้นหลายหมื่นล้าน แต่ตาสีตาสาจะกู้ได้หรือเปล่าม่ายยยยยรุ

   ยังไม่ถึงขั้นนั้นครับ  แถบที่ผมอาศัยอยู่ จะเป็น พวกทำงาน กินเงินเดือน ซะส่วนใหญ่ (ลูกจ้าง บริษัท)  สามารถ เข้าหาพวก ธุระกิจ  นันแบงก์ กับพวกเงินกู้นอกระบบได้ง่ายมาก แต่ส่วนใหญ่ นิยมกู้กับ ธุระกิจ  นันแบงก์ เพราะดอกถูกกว่า  พอสิ้นเดือน เหมือนสิ้นใจ สตางค์ในกระเป๋า ลดลง เพราะต้องเอาไปจ่ายให้กับพวก ธุระกิจ  นันแบงก์ ก่อน ไม่งั้นพวกตามซะจน ไม่เป็นอันทำการทำงาน เงินไม่ถูกหมุนในชุมชน ก็ด้วยเหตุนี้ แหละครับท่าน E-Mail  :D

ถ้าเป็นรถรัฐบาลที่ผ่านมาเหยียบจนมิด    รัฐบาลนี้แค่ผ่อนคันเร่งนิดหน่อย     มันจะมีผลกับคนหนี้เยอะ(เช่นผม)   

ตรงข้ามบ้านผม กู้เงินดอกร้อยละ 20 เก็บเป็นรายวัน
เฮ้อ เห็นแล้วกลุ้มแทนเลย

โอ้โห้พี่ :o........โหดสุดๆ

...............................................
  แถวบ้านผม กู้ 1000 ผ่อนวันละ 50 บาท 24 วัน
 ไม่มีส่งก็จ่ายดอกวันละ 20 บาท ทุกวันแต่ต้นไม่ลด
 ถ้าคิดหนี "เจอตบ หลบตาย" สโลแกนโต๊ะเงินกู้แถวบ้านผม

  แต่ตอนนี้เจ้าของโต๊ะเงินกู้มันโดนยิงตายไปแล้ว สมน้ำหน้ามัน เพราะก่อนตายมันทำกรรมกับคนอื่นไว้มาก
 เช่น ตบแม่ค้า ต่อหน้าลูกค้า สาเหตุเพราะจ่ายช้า ยึดหม้อข้าวหม้อแกงเค้า เอามาขัดดอก
 ทำตัวเป็นมาเฟีย มีลูกน้องเดินตามเป็นพรวน โดนจับตอน 4ทุ่ม ตีหนึ่งมันประกันตัวออกมานั้งกินเหล้ากันต่อเจ๋งไหมละ
 หลังจากลูกพี่โดนยิงกระบาลตาย ลูกน้องก็ระเห็ด เร่ร่อน ไม่สามารส สร้างความเดือดร้อนได้อีก

  สรุปคนไม่ดี คุกเอาไม่อยู่ก็ต้อง ลูกปืนแหละครับ แก้ปัญหาตรงเหตุที่สุด
 
 

 :)ผมว่าน่าจะหาทางทำมาหากินให้เค้านะครับ มันเหมือนกับให้เบ็ดเค้าไปให้เค้าไปหาตกปลาเอง ดีกว่าต้องคอยให้ปลาเค้าวันละตัวทุกวัน แรกๆอาจจะเหนื่อยกันหน่อยแต่อย่างว่าล่ะครับหวานเป็นลมขมเป็นยา (เกี่ยวกันไหม ???) แต่วิธีนี้ยั่งยืนกว่าครับ :)

รวยกระจุก....จนกระจาย ทำงานให้พวกเจ้าหนี้นอกระบบ น่าเบื่อ อันตราย..