|
หัวข้อ: พม่ากับการเกษตรที่ถูกถ่ายทอดโดยไทย เริ่มหัวข้อโดย: visa ที่ พฤษภาคม 08, 2007, 06:28:10 PM ช่วง2-3ปีมานี้ รัฐบาลไทยเริ่มเข้มงวดการนำเข้าไม้จากพม่า ทำให้ส่งผลกระทบและเกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมากของผู้คนในแทบชายแดนไทยพม่าทั้งชาวไทยและชาวพม่า อาชีพหลักของคนไทยแถบริมชายแดนส่วนมากจะทำไร่ข้าวโพดและไร่ถั่วแต่เนื่องจากภาวะปัจจุบันการทำไร่ดั่งกล่าวมีต้นทุนเรื่อง ยา ปุ๋ย เพิ่มสูงขึ้นทำให้เกษตรชาวไทยต้องหันมาลดต้นทุนค่าแรงจากการทำโดยใช้แรงงานพม่า ซึ่งสามารถหาได้โดยง่าย เพียงวันละ 70 บาท ต่อคนและเมื่อแรงงานเหล่านี้มาทำงานทำให้ได้รับการถ่ายทอดการทำไร่โดยปริยายเช่น การพ่นยา การใส่ปุ๋ย การเก็บเกี่ยว พอ ถึงปัจจุปันฝั่งพม่าไม่สามารถขายไม้ให้กับไทยได้ก็หันมา ทำการเกษตรโดยการซื้อวัตถุดิบจากไทยเข้าไปทำบนพื้นป่า ดั่งเดิม คล้ายกับจับจองการทำไร่ของไทยเมื่อในอดีต เมื่อก่อนมองไปฝั่งพม่าจะมีแต่ต้นไม้เขียวขจี แต่เดี๋ยวนี้มองไปฝั่งพม่ามีแต่ภูเขาล้นที่มีการเพาะปลูกทางการเกษตรเต็มไปหมด นี้คงเป็นกระแสของการเปลี่ยนแปลงของโลกนะครับ แต่ผมมองว่าสิ่งเหล่านี้ในอนาคตจะส่งผลทำให้คนไทยจะเลิกทำการเกษตรเพราะพม่ามีต้นทุนในการทำการเกษตรถูกกว่าไทยถึงแม้ปัจจัยการผลิตจะซื้อกับไทยก็ตาม อีกไม่นานคงเห็นด่านจับไม้เถื่อนกลายมาเป็นการจับพืชไร่เถื่อนจากพม่าแทน นึกแล้วปวดหัวแทนชาวไร่ชาวส่วนไทยเลยครับ :~) :~)
หัวข้อ: Re: พม่ากับการเกษตรที่ถูกถ่ายทอดโดยไทย เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ พฤษภาคม 08, 2007, 09:20:58 PM เรื่องการแอบลักลอบนำเข้าผลิตผลเกษตรของเพือนบ้านมีมานานแล้วครับ...สุดท้ายก็ไม่ประสพผลสำเร็จ เพราะโดนจับเยอะ อีกอย่างถ้าหากคุณภาพไม่ดีจริงก็ขายไม่ออกครับ...ยกตัวอย่างหัวหอมกระเทียมแห้งที่นำเข้าจากจีน ช่วงแรกก็ตื่นเต้นเพราะหัวใหญ่กว่าของไทยเยอะ แต่ตอนหลังก็เรียบร้อยเพราะรสชาติสู้ของ ลำพูน หรือของ อุตรดิตถ์ไม่ได้...
สู้ลักลอบนำเข้าผลไม้เมืองหนาวไม่ได้ กำไรกว่าเยอะ..... หัวข้อ: Re: พม่ากับการเกษตรที่ถูกถ่ายทอดโดยไทย เริ่มหัวข้อโดย: visa ที่ พฤษภาคม 08, 2007, 10:41:25 PM ใช่เลยครับ กระเทียมรสชาดสู้ไทยไม่ได้จริงๆ ที่ปาย คนปลูกขายได้กำไรกันเยอะเลยครับปีนี้แต่ก็ยังงงๆข่าวตามสื่อบอกเกษตรกรปลูกกระเที่ยมเดือดร้อน
หัวข้อ: Re: พม่ากับการเกษตรที่ถูกถ่ายทอดโดยไทย เริ่มหัวข้อโดย: Narin CZ ที่ พฤษภาคม 09, 2007, 11:16:44 AM ก็ต้องฟังหูไว้หูกับสื่อบางสื่อนะครับ....ขนาดเรื่องเดียวกันแท้ๆก็ยังเขียนข่าวไปคนละคุ้งคนละแควเลย...
|