|
หัวข้อ: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 09, 2007, 05:48:41 PM การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ที่ประชุมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งนายสิทธิชัย โภไคยอุดม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือ ไอซีที ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ นำร่างที่แก้ไขเสนอให้ที่ประชุมพิจารณา 3 วาระรวด ซึ่งในชั้นแปรญัตติ คณะกรรมาธิการชี้แจงถึงการกำหนดโทษขั้นต่ำของผู้กระทำความผิด ที่ให้ศาลเป็นผู้พิจารณาจากความเสียหายที่เกิดขึ้น ว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับส่วนรวม ประชาชน หรือความมั่นคง ส่วนกรณีการส่งข้อมูล หรืออีเมล์ถึงผู้อื่น ที่มีการปกปิด หรือปลอมแปลงแหล่งที่มานั้น หมายถึงการปลอมแปลงไอพีแอดเดรสของเครื่องที่ทำการส่ง โดยหลักการทั่วไป หากผลที่เกิดขึ้นมีความมุ่งหมายให้เกิดความเสียหายในราชอาณาจักรไทย ตามหลักประมวลกฎหมายอาญา ที่ดูจากผลของการกระทำ สามารถดำเนินการเอาผิดได้ แม้ตัวผู้กระทำผิดจะอยู่ต่างประเทศก็ตาม โดยเฉพาะหากเป็นเรื่องความมั่นคง ตามมาตรา 7 ของร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เช่นเดียวกับกรณีของเว็บไซต์ยูทูบ ซึ่งรัฐบาลโดยกระทรวงไอซีทีเตรียมยื่นฟ้องบริษัทกูเกิล ประเทศไทย ต่อศาลอาญา กรณีลงภาพหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 11 พฤษภาคม นี้ด้วย
ต่อไป Webmaster ต้องสามารถระบุผู้ที่มาโพสข้อความได้ด้วย หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 09, 2007, 06:24:15 PM ... ขอบคุณมากครับ ดร. :)
หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 09, 2007, 07:01:36 PM เยี่ยม เป็นการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
แล้วเมื่อไหร่ จะปรับปรุงพัฒนากฏหมายเกี่ยวกับ อวป. บ้างครับเนี่ย หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: MadFroG ที่ พฤษภาคม 10, 2007, 12:02:48 AM มองในภาพรวม ผมว่าก็เป็นประโยชน์นะครับ
หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2007, 12:55:58 AM ผมขออนุญาตเอาร่างส่วนหนึ่งมาให้ดูนะครับ
หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะ ถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๐/๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่น โดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาตรา ๑๑ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ (๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้น พร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท (๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาท ถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี มาตรา ๑๒ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๐/๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๓ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๔ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๓ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๓ มาตรา ๑๕ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติมหรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือบุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย มาตรา ๑๕ ตอนเข้าวาระสองมีการเพิ่มมาตรา ๑๕/๑ ให้การกระทำความผิดตามพรบ.นี้นอกราชอาณาจักรแต่มีผลในราชอาณาจักรเป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรเหมือน มาตรา ๘ ของประมวลกฏหมายอาญา หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 10, 2007, 12:59:48 AM มาตรา ๑๗/๑ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสอง ลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้องพร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับ การทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้
ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้ ...เป็นเรื่องการ Block Web ให้ขอศาลก่อน ป้องกันในอนาคตไม่ให้ใช้อำนาจบริหารไป Block web เพื่อประโยชน์ทางการเมืองหรือละเมิดสิทธิการแสดงความเห็นโดยสุจริต มาตรา ๒๔ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท ....มาตรา ๒๔ นี้ จะครอบคลุมถึงการแสดงความเห็นใน Webboard ด้วย ว่า Web master ต้องให้มีการลงทะเบียนผู้ใช้ หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: adisak5 ที่ พฤษภาคม 10, 2007, 09:30:55 AM ดีมาก ต้องไล่ให้ทันความเจริญของโลกITครับ
หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 05, 2007, 12:43:00 PM ขออนุญาตยกกระทู้
ร่าง พรบฉบับสมบูรณ์ที่ผ่าน สนช. จะเปลี่ยนแปลงจากข้างบนเฉพาะเลขมาตราเท่านั้น หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ มิถุนายน 05, 2007, 04:52:20 PM ขอบคุณมากครับ
หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 08, 2007, 12:31:18 PM พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 จะมีผลบังคับเมื่อพ้นกำหนด สามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. โดยมาตราต่าง ๆ ในพ.ร.บ.มีทั้งหมด 12 หน้า เกี่ยวกับบทลงโทษผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับคอม พิวเตอร์ รวมถึงกำหนดบทบาทการทำงานของ เจ้า หน้าที่ อาทิ หมวดที่ 1 มาตรา 14 ซึ่งสรุป ได้จากทั้ง 5 ข้อ ว่า ผู้ใดเผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ ที่เป็นข้อมูลเท็จ หรือเป็นข้อมูลที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคง ของประเทศ หรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน หรือมีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้น ประชาชนทั่วไปเข้าถึงได้ ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท ส่วนมาตรา 16 ระบุว่า ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลง ด้วยวิธีการทาง อิเล็กทรอนิกส์ หรือวิธีอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่จะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับ ความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 08, 2007, 12:33:07 PM บทบัญญัติที่กำหนดลักษณะการกระทำความผิดซึ่งกระทบโดยตรงต่อการรักษาความลับ(Confiden
tiality) , ความครบถ้วน (Integrity) , และสภาพพร้อมใช้งาน (Availability) ของระบบคอมพิวเตอร์และข้อมูลคอมพิวเตอร์ สำหรับการกระทำความผิดที่กระทบต่อการรักษาความลับ เช่น การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ของบุคคลอื่นซึ่งมีมาตรการป้องกันการเข้าถึงเอาไว้ (ร่างมาตรา 5) , การล่วงรู้มาตรการการป้องกันการเข้า ถึงระบบคอมพิวเตอร์ (ตัวอย่างคือ การล่วงรู้รหัสผ่าน (Password) หรือรหัสลับ (secret code) เป็นต้น) (ร่างมาตรา 6) , การเข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่น (ร่างมาตรา 7), หรือการดักข้อมูลคอมพิวเตอร์ (ร่างมาตรา 8) ส่วนการกระทำความผิดที่กระทบต่อความครบถ้วนของระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ นั้น ความครบถ้วนในที่นี้ หากกล่าวให้เข้าใจโดยง่ายหมายความว่า ในกรณีที่มีการป้อนหรือพิมพ์ข้อมูล คอมพิวเตอร์ไว้เช่นใด โดยทั่วไปหากจะเรียกข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมาอ่าน เรียกดู หรือใช้ข้อมูลดังกล่าว อีกครั้ง ข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อยู่หรือเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์นั้น ก็ควรจะแสดงบนจอคอมพิวเตอร์ด้วยข้อมูล หรือข้อความที่ครบถ้วนเหมือนที่พิมพ์หรือป้อนไว้แต่เดิม ตัวอย่างการกระทำความผิดในลักษณะนี้ เช่น การรบกวนการทำงานของข้อมูลคอมพิวเตอร์ด้วยการทำให้ เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมข้อมูลคอมพิวเตอร์ (ร่างมาตรา9) เป็นต้น ส่วนการกระทำความผิดที่กระทบต่อสภาพพร้อมใช้งานตามปกติของระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูล คอมพิวเตอร์ เช่น การกระทำความผิดด้วยการป้อนชุดคำสั่งหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่ไม่พึงประสงค์ อาทิ ไวรัส ในคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ระบบคอมพิวเตอร์ทำงานผิดเพี้ยนไปจากเดิมหรือไม่สามารถทำงาน ได้ตามปกติ (ร่างมาตรา 10) อย่างไรก็ตามในการกระทำความผิดอันเป็นการรบกวนระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์ ให้ทำงานหรือแสดงผลต่างไปจากเดิมหรือไม่เป็นไปตามปกตินั้น ร่างพระราชบัญญัติก็ได้มีการกำหนด โทษหนักขึ้นในกรณีที่มีเหตุฉกรรจ์ไว้ด้วย กล่าวคือ หากกระทำความผิดก่อให้เกิดผลอันเป็นความเสียหาย แก่ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือกระทบต่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การบริการสาธารณะ หรือการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือการกระทำดังกล่าวก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือชีวิตของประชาชน ผู้กระทำผิดดังกล่าวก็ต้องรับโทษหนักขึ้น (ร่างมาตรา 11) นอกจากนั้น ยังได้มีการกำหนดฐานความผิดสำหรับการจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นเพื่อใ ช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดที่กล่าวมาข้างต้น เช่น การจงใจหรือเจตนาเผยแพร่ไวรัสที่ใช้ในการก่อ ให้เกิดความเสียหายหรือทำลายข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือชุดคำสั่งที่เรียกว่า spyware เพื่อไว้ใช้โจรกรรม ความลับทางการค้า เป็นต้น (ร่างมาตรา 12) ส่วนร่างพระราชบัญญัติตั้งแต่ร่างมาตรา 13 ถึงร่างมาตรา 15 นั้น จะเป็นลักษณะการกระทำความผิดที่เกี่ยวเนื่อง กับการใช้คอมพิวเตอร์ในทางมิชอบเพื่อกระทำความผิดในลักษณะต่างๆ เช่นการปลอมแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ , การเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จซึ่งก่อให้เกิดความตื่นตระหนกกับประชาชน , การเผยแพร่ข้อมูล คอมพิวเตอร์อันมีลักษณะลามก , การกระทำความผิดของผู้ให้บริการที่มิได้ลบข้อมูลคอมพิวเตอร์อันไม่เหมาะสม , และการตัดต่อภาพอันทำให้บุคคลอื่นเสียหาย เป็นต้น หัวข้อ: Re: สนช.ผ่านกฎหมายการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ กรกฎาคม 08, 2007, 12:34:00 PM หน้าที่ของผู้ให้บริการในการเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์
เนื่องจากข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์เป็นพยานหลักฐานสำคัญในการหาตัวผู้กระทำความผิด ร่างพระราชบัญญัติจึงได้กำหนดให้ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวไว้ไม่น้อย กว่า 30 วัน และในกรณีที่จำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ก็อาจสั่งให้ผู้ให้บริการเก็บข้อมูลดังกล่าวไว ้เกิน 30 วัน แต่ไม่เกิน 90 วันก็ได้ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้กฎหมายที่จะใช้บังคับมีความยืดหยุุ่่น ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ร่างพระราชบัญญัติจึงได้กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กำหนดว่าผู้ให้บริการที่มีหน้าที่ซึ่งกฎหมายกำหนดไว้ข้างต้น ได้แก่ผู้ให้บริการประเภทใดและจะกำหนดให้ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เมื่อใด ให้เป็นไปตามที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ ร่างพระราชบัญญัติก็ได้กำหนดว่า หากผู้ให้บริการใด ไม่ปฏิบัติตามหน้าที่ซึ่งกำหนดไว้ ก็ต้องระวางโทษที่กำหนดไว้ อีกทั้งยังได้กำหนดว่า หากผู้ใดขีดขวางการ ปฏิบัติหน้าที่ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ อันรวมถึงอำนาจสั่งการเกี่ยวกับชุดคำสั่งไม่พึง ประสงค์ (โปรแกรมชั่วร้าย) (ร่างมาตรา 16 และร่างมาตรา 19 ตามลำดับ) ก็ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจสั่งปรับ ทางปกครอง (ร่างมาตรา 25) |