เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: lek ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 08:35:00 AM



หัวข้อ: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: lek ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 08:35:00 AM
http://www.manager.co.th/Motoring/ViewNews.aspx?NewsID=9500000022578


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: tum610 ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 09:44:02 AM
ขอบคุณมากครับ..ที่นำสาระดี ๆ มาเสนอ..เป็นความรู้... ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 10:35:09 AM
นำเสนอวิธีการใช้แอร์รถยนต์ เพื่อที่จะยืดอายุการตันของคอยเย็นให้นานมากที่สุด

โดยวิธีการใช้งานท่านก็ใช้วิธีปกติที่ท่านใช้อยู่และครับ ระดับความเย็นไม่ต้องเร่งมาก สุดๆก็ประมาณ 1ใน3 ของระบบ(ที่ใช้การหมุน)หรือถ้าเป็นสไลท์ ก็ดันไปประมาณนั้น ไม่ควรมากกว่า เพราะจะทำให้เปลืองเกินเหตุ และไม่ดีกับระบบ ทีนี้เย็นมากเร็ว ก็เมื่อเปิดแอร์ใหม่ๆหรือเริ่มต้น ควรเร่งความเร็วพัดลมสูงๆ อาจระดับ2-3 พอรู้สึกเริ่มเย็น ก็ค่อยลดระดับพัดลมลงมา

ทีนี้ก็มาถึงตอนสำคัญ คือการปิดแอร์ ควรให้ความสำคัญกว่าการเปิดครับ เราต้องระลึกถึงทุกครั้ง พยายามทำให้เป็นนิสัย จะช่วยได้มาก รถผมใช้มา 4-5ปีแล้ว วิ่งมาป็นแสนกิโล ยังไม่มีปัญหาเรื่องแอร์เลยครับ ใช้ตลอดเมื่อใช้รถ

เราขับรถเรารู้เป้าหมายว่าเราจะจอดที่ใหน ฉะนั้น ก่อนที่เราจะจอดรถ ดับเครื่อง หรือดเราจะหยุดการใช้งานแอร์ในรถยนต์ หรือแอร์ในบ้านก็ใช้หลักการเดียวกันได้ ครับ เรื่องมันจะมีอยู่ว่า

ระบบแอร์ที่เราเปิดใช้อยู่นั้น ถ้าเราปิดเครื่องเลยทันที จะเกิดอะไรขึ้นครับ....

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ตัวคอยล์เย็น จะมีความเย็นอยู่ แต่อากาศภายนอก หรืออากาศรอบๆ จะมีอุณหภูมิสูงกว่า ผิวโลหะของตัวคอยล์เย็น(คิดถึงแก้วที่ใส่น้ำแข็ง แล้วเห็นภาพเปล่าครับ นั่นแหละ ทีนี้เจ้าหยดน้ำที่เกาะอยู่ตามผิวหน้าสัมผัสของคอยเย็น ก็จะเป็นที่เกาะของเจ้าฝุ่นละออง และบ่อเกิดของกลิ่นอับ ในระบบแอร์ ระยะเวลาสั้นๆไม่เป็นไรครับ แต่พอนานๆไป ฝุ่นนั้นสะสมมากเข้า มันจะเกาะแน่นมาก นี้คือตัวปัญหาในการทำให้เกิด ระบบคอยล์เย็นตัน

การป้องกัน หรือการแก้ไขปัญหา ดังที่กล่าวใว้แล้ว เมื่อเราทราบจุดหมายที่เราจะหยุดรถจอดรถ หรือเลิกใช้งานระบบทำความเย็นในรถ สักประมาณ200เมตร หรือมากกว่า 2-3นาที เราสมควรที่จะปิดระบบน้ำยา (ตัวปรับอุณหภูมิ) โดยที่เรายังคงเปิดพัดลมแอร์ให้ทำงานอยู่ อาจเร่งระดับพัดลมให้แรงขึ้นอีก เพื่อช่วยเป่าคอยล์เย็นให้แห้งหายเย็นเร็วขึ้น เพื่อปรับระดับอุณหภูมิ ให้เท่ากับ หรือใกล้เคียงอุณหภูมิภายนอกมากที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เกิดใอน้ำมาเกาะ หรือเกิดน้อยที่สุด แอร์บ้านก็เช่นกันครับ ปิดระบบความเย็น หรือปรับให้ทำงานเฉพาะพัดลม การที่เราทำอย่างนี้ได้ให้เป็นนิสัย

จะสามารถช่วยเราได้เยอะมากครับ ยืดอายุการใช้งาน ยืดระยะการซ่อมบำรุง ช่วยให้ระบบทำงานไม่หนักจนเกินไป

ลองปฏิบัติดูครับ แล้วจะช่วยท่านได้


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: adisak5 ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 10:46:53 AM
ขอบคุณมากครับ..ที่นำสาระดี ๆ มาเสนอ.


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Hybrid Guns ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 11:04:36 AM


ทีนี้ก็มาถึงตอนสำคัญ คือการปิดแอร์ ควรให้ความสำคัญกว่าการเปิดครับ เราต้องระลึกถึงทุกครั้ง พยายามทำให้เป็นนิสัย จะช่วยได้มาก รถผมใช้มา 4-5ปีแล้ว วิ่งมาป็นแสนกิโล ยังไม่มีปัญหาเรื่อง
การป้องกัน หรือการแก้ไขปัญหา ดังที่กล่าวใว้แล้ว เมื่อเราทราบจุดหมายที่เราจะหยุดรถจอดรถ หรือเลิกใช้งานระบบทำความเย็นในรถ สักประมาณ200เมตร หรือมากกว่า 2-3นาที เราสมควรที่จะปิดระบบน้ำยา (ตัวปรับอุณหภูมิ) โดยที่เรายังคงเปิดพัดลมแอร์ให้ทำงานอยู่ อาจเร่งระดับพัดลมให้แรงขึ้นอีก เพื่อช่วยเป่าคอยล์เย็นให้แห้งหายเย็นเร็วขึ้น เพื่อปรับระดับอุณหภูมิ ให้เท่ากับ หรือใกล้เคียงอุณหภูมิภายนอกมากที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เกิดใอน้ำมาเกาะ หรือเกิดน้อยที่สุด แอร์บ้านก็เช่นกันครับ ปิดระบบความเย็น หรือปรับให้ทำงานเฉพาะพัดลม การที่เราทำอย่างนี้ได้ให้เป็นนิสัย

จะสามารถช่วยเราได้เยอะมากครับ ยืดอายุการใช้งาน ยืดระยะการซ่อมบำรุง ช่วยให้ระบบทำงานไม่หนักจนเกินไป

ทำกับรถที่ใช้อยู่เป็นประจำครับ ส่วนแอร์บ้านไม่รู้ว่าจะปิดตัวน้ำยาอย่างไรครับ  :)


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: glocklover ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 11:48:03 AM
ขอบคุณครับ

ทำกับรถที่ใช้อยู่เป็นประจำครับ ส่วนแอร์บ้านไม่รู้ว่าจะปิดตัวน้ำยาอย่างไรครับ :)

ผมคิดว่า ก่อนปิดแอร์ที่บ้าน ให้ปรับ mode บน remote control จากระบบ air เป็น ระบบพัดลมธรรมดา ทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนนะครับ  ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 12:00:04 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: * ต้น * ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 12:05:09 PM
ผมว่าก่อนเปิดแอร์ในบ้านให้เปิดหน้าต่างก่อนให้อากาศข้างในกับข้างนอกเท่ากันครับแอร์จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 12:06:39 PM
ทำอยู่เหมือนกันครับ ของผมถ้าขับระยะใกล้ ช่วงเช้าหรือค่ำ ไม่เปิดแอร์ครับ เปิดกระจกรับลมแทน... :D


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 12:45:35 PM
ทำอยู่เหมือนกันครับ ของผมถ้าขับระยะใกล้ ช่วงเช้าหรือค่ำ ไม่เปิดแอร์ครับ เปิดกระจกรับลมแทน... :D

อาจอันตรายจากสารพิษต่างๆนะครับ......โดยเฉพาะแถวๆบ้านพี่แพะนี่

ลมอาจจะมีสารตะกั่ว.......................เป็นก้อนๆปนเปื้อนนะครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: เมื่อแอร์เหมือนพัดลม...ทำอย่างไรดี
เริ่มหัวข้อโดย: Udomkd ที่ พฤษภาคม 15, 2007, 12:54:09 PM


ทีนี้ก็มาถึงตอนสำคัญ คือการปิดแอร์ ควรให้ความสำคัญกว่าการเปิดครับ เราต้องระลึกถึงทุกครั้ง พยายามทำให้เป็นนิสัย จะช่วยได้มาก รถผมใช้มา 4-5ปีแล้ว วิ่งมาป็นแสนกิโล ยังไม่มีปัญหาเรื่อง
การป้องกัน หรือการแก้ไขปัญหา ดังที่กล่าวใว้แล้ว เมื่อเราทราบจุดหมายที่เราจะหยุดรถจอดรถ หรือเลิกใช้งานระบบทำความเย็นในรถ สักประมาณ200เมตร หรือมากกว่า 2-3นาที เราสมควรที่จะปิดระบบน้ำยา (ตัวปรับอุณหภูมิ) โดยที่เรายังคงเปิดพัดลมแอร์ให้ทำงานอยู่ อาจเร่งระดับพัดลมให้แรงขึ้นอีก เพื่อช่วยเป่าคอยล์เย็นให้แห้งหายเย็นเร็วขึ้น เพื่อปรับระดับอุณหภูมิ ให้เท่ากับ หรือใกล้เคียงอุณหภูมิภายนอกมากที่สุด เพื่อป้องกันมิให้เกิดใอน้ำมาเกาะ หรือเกิดน้อยที่สุด แอร์บ้านก็เช่นกันครับ ปิดระบบความเย็น หรือปรับให้ทำงานเฉพาะพัดลม การที่เราทำอย่างนี้ได้ให้เป็นนิสัย

จะสามารถช่วยเราได้เยอะมากครับ ยืดอายุการใช้งาน ยืดระยะการซ่อมบำรุง ช่วยให้ระบบทำงานไม่หนักจนเกินไป

ทำกับรถที่ใช้อยู่เป็นประจำครับ ส่วนแอร์บ้านไม่รู้ว่าจะปิดตัวน้ำยาอย่างไรครับ :)



แอร์บ้าน ผมก็ไม่แน่ใจระบบครับ ถ้ารุ่นเก่าๆ ส่วนมากแล้วมันเลือกระบบมากไม่ได้ ที่บ้านยังมีอยู่ ก็ใช้วิธี ปรับอุณหภูมิ ให้สูงขึ้น ก่อนจะปิด สักระยะ ความเย็นก็ยังมีอยู่ แล้วเราค่อยปิด เคยสังเกตุเห็นว่า คอมฯก็จะไม่ทำงานครับ (ไม่เห็นพัดลมระบายความร้อน คอนเดนเซอร์หมุน อุณหภูมิห้องก็ค่อยๆสูงขึ้น

ส่วนรุ่นใหม่ๆ ก็เลือกกดไปที่โหมด พัดลมเฉยๆ ก่อนปิด ก็โอเค แล้วครับ ผมปฏิบัติอยู่อย่างนั้นครับ