เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ฮือฮาทักษิณบริจาค10ล.ช่วยใต้ กังขาเงินบาป เอ็นจีโอรุมสับเจตนาสร้างภาพ 

จากกรณีสถานีโทรทัศน์สี กองทัพบกช่อง 5 ถ่ายทอดสดรายการ"สายธารใจให้ชีวิต"ซึ่งเป็นรายการของ ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล ประธานกรรมการเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจอาสาสมัครชายแดนในพระบรมราชินูปถัมภ์ เพื่อเปิดรับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศ นำไปมอบให้พี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อเวลา 21.30 น.-24.00 น.วันที่ 13พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น

ล่าสุด เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม มีประเด็นสำคัญที่สังคมวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางคือ การที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และคุณหญิงพจมาน ชินวัตร ภริยา บริจาคเงิน ให้กับรายการดังกล่าวถึง 10 ล้านบาท โดยหลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เงินที่บริจาคครั้งนี้บริสุทธิ์หรือไม่ ขณะที่ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรีและพล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ ร่วมบริจาคเงินเพียง 5 หมื่นบาทเท่านั้น

ดร.เชียรช่วง กัลยาณมิตร คณะทำงานเพื่อการประชาสัมพันธ์ของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ(คมช.) กล่าวว่า การบริจาคเงินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่น่าจะปกติเพราะสังคมต้องไม่ลืมว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีปัญหาด้านภาพลักษณ์ในสายตาของสังคมว่า ได้เงินมาจากการใช้อำนาจรัฐโดยไม่สุจริต หรือพูดง่ายๆภาษาชาวบ้านคือ ได้เงินมาจากการทุจริตคอร์รัปชั่นและเรื่องนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนคดีความมากมาย แต่หากจะเร่งรีบสรุปว่าเงิน 10 ล้านบาทนี้ เป็นเงินไม่บริสุทธิ์ ก็อาจจะไม่เป็นธรรมกับอดีตนายกฯมากเกินไป เพราะความจริงเงินเพียง 10ล้านบาท อาจจะไม่ใช่ปัญหาใหญ่โตเกินไปของเขา เพราะอดีตนายกฯอาจบริจารสัก 100ล้านบาทก็ได้ เพราะมีเงินมหาศาล แต่ต้องพิจารณาประเด็นว่า ที่มาของเงินที่เขาถือครองอยู่นั้นสะอาดบริสุทธิ์เพียงใด หากสังคมได้ข้อสรุปชัดเจนว่า อดีตนายกฯครอบครองเงินที่ไม่สุจริต ก็เท่ากับการบริจาคเงินไม่บริสุทธิ์ ผู้รับเงินบริจาคก็อาจไม่สบายใจกับการรับเงินก้อนนี้

"อย่าลืมว่า ตามธรรมดาของคนที่กำลังตกทุกข์ได้ยาก โดยเฉพาะพี่น้องใน 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจจะไม่มีเวลาตั้งคำถามกับเงินที่ได้รับบริจาค เพราะชีวิตของเขาในแต่ละวันมีเรื่องวุ่นวายและร้ายแรง มากกว่าจะมาคิดถึงเงินบริจาคว่าจะมาจากคนทุจริตหรือสุจริต ดังนั้น คนที่จัดงานรับบริจาคต้องพิจารณากลั่นกรองที่มาของเงินให้ดี มิฉะนั้นอาจจะมีอาชญากรการเงิน ใช้การบริจาคเพื่อฟอกเงินและล้างภาพชั่วร้ายของตนเองได้" ดร.เชียงช่วง กล่าว

ด้าน น.ส.รสนา โตสิตระกูล แกนนำเครือข่าย 10 องค์กรพัฒนาเอกชน กล่าวว่า การบริจาคเงิน 10 ล้านบาท ของพ.ต.ท.ทักษิณ และภริยาในครั้งนี้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจ เพราะไม่แน่ใจว่าเจตนาแท้จริงของการบริจาคเงินครั้งนี้เพื่อจุดประสงค์ใด เพราะที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ อาศัยการประชาสัมพันธ์เชิงการตลาดเพื่อสร้างภาพลักษณ์ของตนเองมาตลอด เช่น การจะซื้อทีมฟุตบอลต่างประเทศ แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นความจริง เหตุที่อดีตนายกฯทำเช่นนี้ เพราะต้องการปรากฏตัวเป็นข่าวในสังคม เพื่อไม่ให้สังคมลืมและเพื่อยึดพื้นที่สาธารณะในเชิงข่าวให้มาก

แต่ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ น่าจะไปสอบถามความเห็นของพี่น้องใน 3 จังหวัดภาคใต้ที่กำลังเดือดร้อนว่า ต้องการได้เงินบริจาคของ พ.ต.ท.ทักษิณและครอบครัวหรือไม่ เพราะเหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่กำลังเกิดกับพี่น้องภาคใต้ ส่วนหนึ่งมาจากการกำหนดนโยบายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งเป็นนโยบายที่นิยมความรุนแรง ทั้งนี้ ไม่แน่ใจว่าอดีตนายกฯบริจาคเงินให้จริงหรือไม่ เพราะเท่าที่ผ่านมานั้นไม่เคยปรากฏว่าอดีตนายกฯบริจาคเงินให้องค์กรใดมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยสึนามิ ที่มีผู้ร่วมบริจาคกันทั่วโลก ก็ยังไม่เห็น พ.ต.ท.ทักษิณ จะบริจาคเงินส่วนตัวแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม สังคมมักเข้าใจผิดคิดว่าอดีตนายกฯบริจาคเงินให้กับหน่วยงานต่างๆ ตลอดเวลา เพราะเห็นจากภาพข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ บริจาคเงินบ่อยๆ แต่ในความเป็นจริงเขาไม่ได้ ใช้เงินตัวเองบริจาค แต่เอาเงินหลวงมาบริจาค ดังนั้น สังคมไทยต้องติดตามให้ได้ว่า ครั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ บริจาคเงินจริงหรือไม่ เพราะเกรงจะเพียงประสงค์จะออกนาม แต่ไม่ประสงค์จะออกเงิน

ขณะที่ น.ส.สารี อ๋องสมหวัง ประธานมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า การบริจาคเงิน 10ล้านบาทของอดีตนายกฯและภริยานั้น มองเผินๆ เหมือนจงใจทำความดีช่วยเหลือสังคม โดยเฉพาะพี่น้องภาคใต้ที่กำลังเดือดร้อนอย่างหนัก แต่การให้เงินเพียงอย่างเดียวใช่ว่าจะแก้ปัญหาได้ทุกอย่าง อาจเป็นการมองปัญหาที่ง่ายเกินไป เพราะปัญหา 3 จังหวัดภาคใต้ไม่ใช่แก้ไขได้ด้วยการทุ่มเงินลงไปเท่านั้น แต่ต้องไปพิจารณาเหตุปัจจัยอื่นๆ ด้วย

"การบริจาคเงินของอดีตยนายกฯน่าเป็นการพยายามจงใจสร้างภาพลักษณ์ของตัวเองให้ดูดีในสังคมมากกว่า แต่อาจมีบางฝ่ายมองว่าการบริจาคให้ ยังดีกว่าคนที่ไม่ยอมบริจาค แต่การจะวิจารณ์ผู้จัดรายการรับบริจาคว่าไม่รู้จักจำแนกแยกแยะเงินบริจาคนั้น อาจจะวิจารณ์เรื่องนี้ยาก เพราะตามธรรมดาของผู้จัดงานก็ต้องการได้เงินให้มากที่สุด แต่ต้องไปสืบเสาะให้ได้ความจริงว่า อดีตนายกฯบริจาคเงินด้วยเจตนาอะไร เพื่อมุ่งสร้างภาพเบี่ยงเบนประเด็นหรือเปล่า"น.ส.สารี กล่าว

อย่างไรก็ตาม "แนวหน้า"ได้ติดต่อไปที่มูลนิธิฯเพื่อขอทราบรายละเอียดการรับบริจาค แต่เจ้าหน้าที่ของมูลนิธิฯอ้างว่ายังไม่มีรายละเอียดของการรับบริจาคที่สมบูรณ์แบบ

ความรู้สึกผมนะครับ ถ้าท่านตั้งใจบริจาคจริงๆ โดยไม่หวังผลอย่างอื่น  ผมอยากพูดกับท่านสั้นๆประโยคเดียวว่า "พึ่งคิดได้เหรอ"

ไม่น่าบ่นมาก เงินก็คือเงิน รับมาแล้วก็เอาไปลงในกองทุนแล้วใช้ให้คุ้มค่าก็แล้วกัน

สำคัญที่รับเงินมันมาแล้ว ก็ช่วยอย่าปลื้มจนลืมไปว่าใครคนไหนที่ทำให้3จังหวัดฯไฟลุกท่วมจนผลาญไปเป็นพันๆชีวิตอยู่อย่างนี้

เงินที่กองทุนรับมาจากใครก็ตามแต่  เป็นเงินช่วยเหลือที่ถูกต้อง ..... ผู้คนที่เดือดร้อนทางโน้นยังมีความจำเป็นต้องใช้ครับ

                                    :) เอาน่า! อย่าคิดมาก   ปล่อยให้คนบริจาคคิดไปคนเดียวพอ 8)

ngo.ทั้งหลายไม่เห็นลงไปประท้วงพวกโจรที่มันทำร้ายประชาชนบ้างเลย เก่งแต่ประชาสัมพันธ์ตนเอง
หรือไม่ก็ช่วยตรวจสอบให้ทีว่างบช่วยเหลือได้ลงไปแล้วกี่มากน้อย

ผมว่าเป็นการดีครับ ที่มีคนร่วมกันบริจาคมากๆ...........

ว่าตามพี่มะขิ่นและพี่จ้าวครับ

ดีครับ มีคนนำเงินไปบริจาค ขอให้คนที่บริจาคเป็นเงินที่บริสุทธิ์..

 8)มีอีกมั้ย...บริจาคมาเหอะ...เอามาเยอะๆ ....เงินชำระหนี้ได้ตามกฏหมาย...จะได้นำไปใช้ให้เป็นประโยขน์กับบ้านเมือง

NGO นอกจากด่ามันตะบี้ตะบันทำอะไรบ้าง >:(
เห็นด้วยครับ เราขาดเงินอีกมากไปช่วยเหลือพี่น้องทางนั้น

ผมเองก็เห็นด้วยกับผู้การมะขิ่นนะครับ....และก็ยังอดคิดไม่ได้ว่าระดับนี้แล้วมันน่าจะบริจากมากกว่านี้อีกน๊า....

NGO ยุ่งจริง ๆ  ตัวเองไม่ช่วยแล้วยังมือราน้ำอีก เฮ้อ

น้อยจังโกยไปตั้งเยอะ

แล้ว NGO บริจาคกี่บาทกันครับ จะมาจากไหนก็ช่าง ทางนู้นยังต้องการอีกเยอะครับ  

...ด้วยความเคารพ ผมว่าประเด็นเรื่องที่ว่าเงินบริจาคนั้นเป็นเงินบริสุทธิ์หรือไม่นั้น ไม่น่าจะเป็นเรื่องหลัก ที่สำคัญสำหรับเรื่องของเงินบริจาคก็คือการนำเงินที่ได้รับการบริจาคมานั้น (ไม่ว่าจะได้รับมาจากใครก็ตาม) ไปใช้ให้ถูกต้องให้เกิดประโยชน์สูงสุดตามวัตถุประสงค์ที่ได้ตั้งไว้...

...ส่วนถ้าจะมาให้ความสำคัญเป็นการเฉพาะกับเรื่องที่ว่า "เงินบริจาค" นั้นบริสุทธิ์หรือไม่ ถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้บริจาคทุกคน คงจะต้องตรวจสอบที่ไปที่มาของเงินที่ได้รับบริจาคมาจาก "ผู้บริจาคทุกท่าน" มากกว่าจะเจาะจงไปที่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง ซึ่งโดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องทำถึงขนาดนั้นครับ... 

ผมอยากให้    NGO    ทั้งหลาย    .....    ช่วยสร้างภาพแบบนี้   (  การบริจาคเงิน    เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม  )    ....    สักหน่อยเถอะ


 :)

ดีครับ แต่น่าจะจ่ายภาษีแล้วเงินที่ได้ไปมิชอบคืนให้ประเทศดีกว่า
จะได้นำไปใช้ประโยชน์มากกว่าบริจาค
ป.ล. กรรมไม่มีอายุความ แต่ผ่อนหนักเป็นเบาได้

หากแยกแยะเป็นเรื่อง ๆ ไปได้จะเป็นการดีที่ผิดก็ว่ากันไป  ส่วนของการบริจาคเพื่อนำไปใช้กับประโยชน์ส่วนรวมนั้นถือเป็นการดีแล้ว เอามาเป็นประเด็นหาเรื่องกันไม่เห็นเกิดประโยชน์

อาจเริ่มมีสำนึกอยากทำบุญ

บริจาคทำบุญแท้ๆ ยังว่าเป็นการสร้างภาพอีก...เวร...กรรม..จริงๆๆ

นานๆ ท่านอดีตนายยก จะควักกระเป๋าออกมาบริจาค
มาคราวนี้ขอบริจาคตั้ง 10 ล้านบาท
เงินบริจาคเพื่อการกุศลดีค่ะ ขอให้บริจาคจริงๆ เถอะค่ะ
จะขออนุโมทนาด้วยค่ะ.

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ การบริจาคไม่สำคัญว่ามาจากใคร เท่าไหร่ แม้ว่าใครๆจะมองว่าเป็นการสร้างภาพหรืออยากให้เป็นข่าวอยู่เนืองๆก็ตาม แต่มันเป็นการช่วยเหลือสังคม ส่วนสังคมจะยกย่องหรือไม่นั้นมันอยู่ที่ว่าสมควรหรือไม่
บ้านเมืองของเรา ชอบยกย่องคนมีเงิน ว่าเป็นคนดี แต่ไม่เคยมองว่าการที่คนมีเงินนั้น ได้เงินมาจากทางไหนสะอาด หรือสกปรก ตราบใดที่ยังมีการยกย่องกันอยู่อย่างนี้ ประเทศชาติไม่ไปไหนหรอกครับ อยู่อย่างนี้ต่อไป

เงินได้มายังไงก็ช่าง ขอให้ช่วยเหลือส่วนรวมก็โอแล้วครับ
ก็ยังกว่าพวกngo(อ่านไทยว่าโง่)เยอะ

รับมา... รับมา...

ถามต่อว่าจะบริจาคเพิ่มไหม... แน่จริงบริจาคอีกร้อยล้าน แค่นี้ขนหน้าแข้งไม่ร่วงร๊อก...

รับมาแล้วไม่ต้องไปคิดมาก เงินก็คือเงิน... ใช้ให้คุ้มค่า เอาไปจ่ายเป็นเบี้ยเลี้ยงอัดฉีดขวัญและกำลังใจท่านที่ยังอยู่ เอาไปช่วยเหลือท่านที่เสียสมาชิกในครอบครัว...

มันก็เหมือนเงินซื้อเสียงแหละครับ... รับเงินมาแล้ว แต่ว่าคุณธรรมยังสถิตย์อยู่กับใจเรา...

Force be with you... be with me... be with us... be with all...

พอเหลือบเห็นว่าพี่สมชายเข้ามาตอบ เลยเข้ามาตามอ่าน ไม่ผิดหวั่ง ไม่ผิดหวั่งจริง ๆ ข้าน้อยขอคาราวะซัก 1 โอ่งเอ๊ย 1 จอก :D

มาววว... อ๊อกซ์... ตั้งหนึ่งโอ่งงงง... มาวหัวทิ่มโอ่ง... อ๊อกซ์...

ผมว่าเป็นการดีครับ ที่มีคนร่วมกันบริจาคมากๆ..........

ศาลยังไม่ได้ตัดสิน

หากเป็นจริง ก็ขออนุโมทนาสาธุ...กับท่านอดีตนายกฯ อย่างจริงใจครับ

ผมว่าท่านอดีตนายกอยากจะทำบุญช่วยเหลือ เค้าก็มีใจในกุศลอยู่แล้วก็เป็นสิทธิของท่านครับ

    อคติ ทำให้ จิตใจมืดบอด  :)

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]

... การให้ .. การบริจาค เป็นเรื่องดี. ไม่ใช้เรื่องการบังคับ หรือขอร้อง กัน. .
    เป็นความสมัครใจ. หวังจะช่วยผู้ที่ทุกข์ยาก.. ให้มากย่อมนำไปใช้ประโยชน์ได้มาก.
    ไม่ใช่เรื่อง จะมาเปรียบเทียบ ยกสรรพคุณของคนให้.

    แต่ควรได้รับการปรบมือ แสดงความชื่นชมเหมือนกัน.   :)