เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

พอดีผมไปซื้อที่ดินไว้ที่จังหวัดพิษณุโลกอำเภอนครไทยไว้200กว่าไร่ ได้จ่ายเงินไปแล้วแต่ทำสัญญาไว้มีผู้ใหญ่บ้านเป็นพยานในสัญญาในการส่งมอบที่ดินว่าที่ดินนี้สามารถส่งมอบแก่คนซื้อได้ กะจะลงยางพาราทั้งหมด แต่คนแถวนั้นเค้าบอกว่าที่ดินแถวนี้เป็นที่ของป่าไม้ ถ้าทำละก็จะถูกจับและยึดรถแทรคเตอร์ เอาละครับที่นี่ผมจะทำยังไงดี สมาชิกท่านใดมีคำแนะนำดีๆบ้างครับ ขอคำแนะนำด้วยจะเป็นพระคุณมากครับ

... มีหลักฐานอะไรบ้างหรือเปล่าครับ.. อย่างใบ นส.๓ ก. บภท.๕.. 
    หรือหลักฐานการเสียภาษีที่ดิน  หรือภาษีดอกหญ้า ที่ชาวบ้านเรียกกัน..

    หากมีหลักฐานอยู่ในมือบ้าง ก็ไปพบกำนันในตำบลนั้น สอบถามถึงที่ดินว่า
    มีการเสียภาษี หรือไม่..  ห้ได้ทราบเป็นเบื้องต้นก่อนที่จะดำเนินการอย่างไร ลงไป.. ครับ. :)
 

มีเอกสารสิทธิอะไรบ้างครับ

 :OO :OOโอ้โฮพี่....อย่าว่าโดนหลอกนะครับ :OO :OO

เท่าที่ทราบที่ดินแถบๆอำเภอนครไทยส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่เขตป่าสงวน(พื้นที่สีชมพูเดิม) จริงๆแล้วน่าจะดูเอกสารก่อนทำสัญญาครับ

ขออนุญาตครับ
เอกสารที่อยู่ในมือผู้ถือครอง ยึดถือไม่ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ครับ     
ตรงกันข้ามกับที่แปลงของผม ถือ นส.๓ ก ออกเมื่อปี ๒๕๑๙ อยู่หลายราย ฝั่งผมเปลี่ยนเป็นโฉนดกันหมดแล้ว แต่ฝั่งเขาเปลี่ยนไม่ได้ ด้วยว่าเป็นพื้นที่ป่าสงวน ???  ตั้งแต่สมัยนู้น   ถามว่า แล้วออกเอกสารสิทธิ์เมื่อปี ๑๙ มาได้อย่างไร แจ้งเพื่อทราบว่า ข้าราชการขี้ฉ้อ ไม่ได้เพิ่งมีตอนยุคหลังนี้หรอกครับ มีมาตั้งแต่สมัยโน้นแล้วล่ะครับ
ด้วยความเคารพครับ

เอกสารมีแต่ใบ ภบท5 ครับ ใช้ในการอ้างอิงอะไรไม่ได้เลย นายหน้ารับเงินแล้วหายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว ส่วนตอนจ่ายเงินผู้ใหญ่บ้านได้มาดูพื้นที่แล้ว รับรองว่าทำกินได้แน่นอน (ตอนหลังเพิ่งมาบอกว่าต้องจ่ายเงินให้เจ้าที่......ก่อนแล้วถึงจะทำกินได้) ภาษีบำรุงท้องที่เจ้าของเก่าเสียทุกปี แต่พอผมซื้อจะไปเสีย อบตไม่รับเสียบอกว่าต้องรอสำรวจพื้นที่ก่อน นี่ก็ปาเข้าไปเกือบปีแล้ว เอกสารส่งให้หมดแล้วยังไม่ได้รับการติดต่อมาเลย ผมอยู่หาดใหญ่ไม่ได้ไปเองเพียงแต่ส่งเอกสารไปให้แล้วติดต่อประสานงาน :~) :~) :~) :~)

ทำงานกว่าจะได้เงินมาซักบาทเก็บมาตั้งหลายปี  ต้องเสี่ยงตายไปทำงานใต้ล่างนึกแล้วช้ำทรวงครับพี่น้อง หวังว่าจะเป็นอุทาหรณ์ให้อีกหลายๆคน เป็นตัวอย่างนะครับ :~) :~)

พระราชบัญญัติเขตป่าสงวนประกาศใช้ปี 2497

พระราชบัญญัติเขตอุทธยานประกาศใช้ปี 2524

เอกสารออกปี 2519 ก็ต้องตรวจสอบว่า น.ส.3ก.ออกมาจากเอกสารอะไรปีใหนครับ

ยังมีอีกหลายคนครับที่เป็นแบบนี้ ได้ข่าวว่าแถวนั้นชาวบ้านถางป่าขายกันไร่ละประมาณ 5000 บาท มีคนไปซื้อกันจำนวนมากบ้างก็ 1000ไร่ 500 ไร่ ก็มี สุดท้ายจะโดนยึดคืนหมดเพราะใบ ภบท5 โอนขายไม่ได้ยกเว้นมรดก แถวบ้านพ่อตาผม(แถวค่ายสฤษดิ์)ก็มีการซื้อขายกันแต่ก็โอนไม่ได้เหมือนกัน

ขออนุญาตครับ
บ้านนอกคอกนา บางทีมีเหตุอันอธิบายไม่ได้เยอะครับ
อย่างมหาวิทยาลัยเปิดใหม่แถวบ้านผม มีชาวบ้านตั้งบ้านเรือนอยูหลายสิบครัวเรือน  แถมมีเอกสารสิทธิ์เสียด้วย
แล้วออกเอกสารสิทธิ์มาได้อย่างไร ในเมื่อที่ดินนั้น เป็นของกรมธนารักษ์ทั้งแปลง ร่วมหมื่นไร่
จนเดี๋ยวนี้ ก็ยังทะเลาะกันไม่จบครับ  นายทะเบียนออกเอกสารก็เสียชีวิตไปแล้ว เรื่องนี้พูดมากไปไม่ดีครับ ขออภัยด้วย
ที่ยกมาเพื่อจะบอกว่า ประเทศกว้างใหญ่ เอกสารสิทธิ์ไม่รู้กี่ล้านใบ มันมีหลายใบที่ถูกต้องแต่ผิดอยู่มากมาย  โดยเฉพาะแถวชนบท...

ด้วยความเคารพครับ

ขอเอาใจช่วยครับ  เก็บเงินมาตั้งนานมาเสียรู้เเบบนี้หมดกำลังใจครับ

ติดต่อ อบต.หรือผู้ใหญ่บ้าน ให้ช่วยน่าจะได้ รู้ๆกันอยู่ว่าเขาต้องอะไร เสร็จแล้วก็จ้างเขาเป็นคนดูแลสวนให้ด้วยเลย

มีเพื่อน ในเวป PM มาบอกว่า ถ้าเราลงยางพาราไว้เต็มพื้นที่แล้ว เจ้าที่เจ้าทางก็ให้ทำกินไปครับ แต่โค่นไม้ไปขายไม่ได้ (ถ้าโค่นไม้ยางที่เราปลูกเองกะมือ ต้องเสียเงินค่าโค่นต้นยางของเราอีก) :OO :OO :OO มันเป็นอย่างนี้ไม่รู้จะจริงเท็จขนาดไหน
ยิ่งพูดยิ่งช้ำระกำทรวง

จริงๆแล้วปัญหาที่เกิดขึ้นก็เกิดขึ้นระหว่าง กรมที่ดินVSกรมป่าไม้ ต่างฝ่ายก็ยึดระเบียบคำสั่งของตนเอง ยกตัวอย่างเช่น สมัยก่อนกรมที่ดิน ใช้รูประวางแผนที่ภาพถ่าย

ทางอากาศออกเอกสารหรือด้วยการออกเดินสำรวจเพื่อออกเอกสารสิทธิ์ พูดง่ายๆคือทำมาตั้งแต่สมัยรัชการที่ 5 แต่กรมป่าไม้พึ่งจะมาประกาศใช้พื้นที่เขตป่าสงวนเมื่อปี

พ.ศ. 2497 โดยใช้ระบบดาวเทียมกำหนดจุด หากจะสังเกตุส่วนใหญ่จะมีปัญหาระหว่างเขตติดต่อ กรมที่ดินจึงอ้างระบบค่าพิกัดฉากของกรมที่ดิน กรมป่าไม้จึงอ้างค่า

พิกัดทางดาวเทียม เถียงกันยังงัยก็ไม่จบหรอกครับ ;D

ปกติแล้ว บภท 5 ไม่ไช่เอกสารสิทธิ์อยู่แล้ว แต่หากกำนันผู้ใหญ่บ้านได้ชี้เขตแนวให้แล้วก็น่าจะทำปลูกยางได้นะครับ แต่ก็เสี่ยงเหมือนกันหากทางกรมป่าไม้ประกาศว่าเป็นเขตของอุทธยานหรือป่าไม้และไห้อพยพออกจากเขตพื้นที่นั้นๆ แต่ที่จริงแล้วส่วนใหญ่ประชาชนต่างก็บุกรุกป่าเสื่อมโทรมเพื่อทำกินทั้งนั้นแหละครับ นานๆจะได้ยินซักครั้งว่าทางกรมป่าไม้ได้ไล่ไห้ออกจากเขตพื้นที่ไป...

แต่หากคุณจะปลูกยางในพื้นที่ประมาณ 200 ไร่อย่างที่กล่าว ขอแนะนำให้ไปติดต่อที่สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัด เล่ารายละเอียดและโครงการของคุณให้เขาฟัง ก็น่าจะมีสิทธิ์ทำกินได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโดนจับหรือถูกไล่ที่นะครับ แถมหากทาง สปก มีโครงการจัดสรรที่แถวนั้นก็โชคดีไป..

จำไว้อีกอย่างคือ บภท 5 ไม่ใช่เอกสารสิทธิ์นะครับ...

บภท.5 = ใบภาษีบำรุงท้องที่

สำนักงานสิ่งแวดล้อมจังหวัด  ผมจะลองไปติดต่อดูครับ เดี๋ยวได้เรื่องยังไงจะมาเล่าให้ฟัง เพราะโดนอย่างกรณีของผมหลายคนเหมือนกันครับ

ไปติดต่อที่กรมส่งเสริมสิ่งแวดล้อมแล้ว ไม่ได้เรื่องอะไรมาก เลยติดต่อไปที่กรมที่ดิน ได้รับการแจ้งมาว่าพื้นที่แถบนั้นไม่มีอยู่ในระวางแผนที่ :OO :OO ในประเทศไทยเป็นพื้นที่ตกสำรวจ

แสดงว่าค่าพิกัดระวางยังไปไม่ถึงครับ

ไหนๆก็เสียเงินไปแล้ว ก็ลงไปเลยครับ ค่อยๆลงก่อนซัก 10-20 ไร่และก็คอยดูเหตุการณ์จนใบยางเริ่มแตกชั้นที่สอง หากไม่มีอะไรก็ค่อยลงต่อ....

ของผมก็มีที่ มภท 5 เหมือนกัน ที่ ต.แม่สิน อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย...ที่นั่นมีทั้ง สปก, มทภ 5 จนไปถึงไม่มีอะไรเลย ผมลงส้มไว้จนขายได้ตั้งหลายรุ่นแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรเลยครับ...

ของผมก็เป็นกรณีตกสำรวจครับ.....ก็ต้องพิสูจน์สิทธิครอบครองต่อไป.......เพื่อขอออกเอกสารสิทธิ์ครับ