เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากทราบว่าโคล์ท มาร์คโฟร์ ซีรี่80 กับ 1911 หรือ 1911a1 นี่ต่างกันอย่างไรบ้างครับ แล้วโคล์ทที่ผมกำลังจะซื้อเป็นมาร์คโฟร์ ซี่รี่80 แต่ที่แปลกเนื้อเหล็กทำไม่ออกเป็นสีแดงครับไม่เคยเห็นเลย

พี่พี่ท่านใดทราบช่วยให้ความรู้หน่อยนะครับ ;D

ดูที่นี่ครับ  :)

http://www.hlebooks.com/ebook/col6load.htm

เข้ามาเล่าให้ฟังนะครับ เอาตามลำดับนะจ๊ะ แต่คุณเรียงลำดับ มันคละกันไปหน่อย ผมจะขออนุญาต นับ 1 ถึง 10 ให้ใหม่นะครับ
เป็นเอ็ม 1911 หมายความว่า เป็นปืนพกชนิดหนึ่ง ใช้กระสุนขนาด .45 ออโตเมติก ต้นแบบการผลิต ออกตัวในปี 1911 และส่งเข้าประจำการกองทัพสหรัฐในปี 1912 เป็นครั้งแรก ( 1912 ก็ประมาณ รัชกาลที่ 6 กระมังครับ)
แบบ เอ็ม 1911 นั้น เป็นแบบแรกสุด ใช้ในการรบสมัยสงครามโลกครั้งที่1 สมรภูมิฝรั่งเศส ในยุโรป
หน้าตาของเอ็ม 1911 คุณหาดูได้จากเวปที่ท่านครูดำ ท่านเสนอให้คุณดู  แหละครับ
บริษัทผู้ผลิต เอ็ม 1911 ด้วยความสมัครใจคือ โคลท์ เจ้าตำหรับ(สุดที่รักของผม)
บริษัทผู้ผลิต เอ็ม 1911 ด้วยความไม่สมัครใจ (กองทัพให้ช่วยผลิตส่งไปช่วยสงคราม) ได้แก่ สปริงฟิลล์อาร์มโมรี่
เรมิงตัน ยูเอ็มซี ฯลฯ
สภาพทั่วไปของเอ็ม 1911 ก็ 11 มม. ที่รู้จักกันนั่นแหละครับ ....ตัวเป็นๆ ในประเทศไทยก็หาดูได้เยอะ หารูปดูในเวปนี้ก็ได้ กระทู้รวมพลคนโคลท์ ก็มีให้ดูครับ

ต่อมา เรื่องของเอ็ม 1911 เอ1
ก็มาถึงประมาณ ปี 1923 กองทัพสหรัฐได้มีการปรับปรุง เอ็ม 1911 เสียหน่อย เพื่อให้เหมาะสม (ผมไม่ทราบว่าเหมาะสมอย่างไรนะครับสำหรับเหตุผล รู้แต่ว่ามันมีการแก้ไขตามจุดนิดหน่อย)
เช่น นกปืน ก็แคบลง ไกปืน หน้าสั้นลง    มีปาดช่องเว้าข้างไกปืน ให้ล้วงนิ้วเข้าไปในโกร่งไกได้ง่ายขึ้น
มีการทำเหล็กปิดท้ายโครงปืน ให้โค้ง ซึ่งของเดิมเป็นแบบตรง (เขาว่าทำแล้วจับดีขึ้น อย่างไรผมไม่ทราบ แต่เขาแก้ไขในจุดนี้ ) หางหลังอ่อน ยาวออกมาอีกหน่อย
การแก้ไขครั้งนี้ เขาเป็นการแก้ไข ครั้งที่ 1 เขาก็เลยเรียกว่า เอ1 (คงเป็นคำย่อภาษาอังกฤษว่า พัฒนาหรือแก้ไข ครั้งที่ 1 กระมัง)

พอแก้แบบเป็นเอ1 แล้ว ก็ผลิตต่อมาเรื่อยๆ  มีทั้งรุ่นปืนพาณิชย์ ปืนทหาร จำนวนมหาศาลเลยทีเดียว
ปืนโคลท์ .45 ออโต้ที่ผลิตขายในเชิงพาณิชย์ มีความเหมือนกันแทบทุกอย่างกับเอ็ม 1911 เอ1 ในทางทหาร  อะไหล่ ถอดใส่กันได้ทุกชิ้นเลย สลับกันได้เลย เพียงแต่อาจแตกต่างเรื่องรูปแบบ เหลี่ยมมุม เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้นเอง
ในช่วงปี 1970-1979 โดยประมาณ โคลท์ก็ได้ปรับปรุง โคลท์ .45 ออโต้ของตน ให้เป็นปืนพาณิชย์ที่มีความสวยงามด้านฝีมือ ปราณีต ขึ้นจากรุ่นพาณิชย์เดิมของตน ได้เปลี่ยนชื่อเป็น โคลท์มาร์คโฟร์ ซีรีส์ 70
มีการแก้ไขรายละเอียดอะไหล่นิดหน่อย ลำกล้องนิดหน่อย บูชปากลำกล้องนิดหน่อย แต่อะไหล่ ก็สามารถนำไปใส่กับรุ่นตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 ได้อย่างสบาย ๆ
เหตุการบ้านเมืองผ่านไปถึงปี 1980
เข้าใจว่ากฎหมายบ้านเมืองสหรัฐ คงระบุว่า ปืนที่จะขายในอเมริกา จะต้องมีระบบความปลอดภัย ล็อคเข็มแทงชนวน คือว่า ถ้าไม่เหนี่ยวไกแล้ว ปืนจะต้องไม่มีโอกาสลั่นได้เลย เขาคิดออกกฎหมายนี้ เพื่อความปลอดภัยของประชาชนคนรักปืนของเขา หรืออย่างไร ก็ไม่ทราบได้

บริษัทโคลท์ ในปี 1980 ก็ยังคงจับตลาดปืนในประเทศตัวเองเหมือนเดิม ก็ได้จับเอาปืนโคลท์ กัฟเวอร์นเม้นท์ โมเดลมาร์ค์ โฟร์ ซีรีส 70 ของตนนั่นแหละ  มาคิดค้นระบบล็อคเข็มแทงชนวนขึ้นมา ปืนตกไม่ลั่น เพราะมีสมอล็อคเข็มแทงชนวนอยู่ อะไรมาโดนนก ไปฟาดเข็ม เข็มก็ไม่วิ่งไปชนจนท้ายปลอกกระสุนเพราะถูกล็อคอยู่
เมื่อเพิ่มเติมระบบนี้ เข้าไป ก็ได้ชื่อว่าเป็นโคลท์มาร์คโฟร์ ซีรีส์ 80 กัฟเวอร์นเม้นท์ โมเดลขึ้นมานับแต่บัดนั้น

สรุปว่าจุดแตกต่างที่ชัดเจนที่สุด ก็คือระบบล็อคเข็มแทงชนวนนั่นแหละครับ ส่วนเรื่องรายละเอียดปลีกย่อย เช่นลายนก ลายไกปืน ความหนาของศูนย์หน้า ความชัดเจนของศูนย์หลัง ต้องว่ากันยาวกว่านี้ครับ

คุณถามอีกข้อว่า ทำไมมันสีออกแดงๆ ที่สไลด์
อันนี้ ต้องขอดูตัวครับ ....อะแซหวุ่นกี้ ของดูปืน.......
เพราะว่า โรงงาน อาจรมดำมาไม่ดีแต่แรกจากโรงงานก็ได้ หรือเจ้าของเดิม เขาเอาปืนไปรมดำมาแล้วทำไม่ดี น้ำยาไม่จัด หรือรมไม่ได้อุณหภูมิความร้อนที่ต้องการก็ได้ มีความเป็นไปได้หลายประการ ต้องให้ดูรูปกันหน่อย ชัดๆ จึงจะฟันธงกันได้ ผมก็เคยเห็นเหมือนกัน ก็มีทั้งสองสาเหตุนั่นแหละ เพราะถ้าไปรมมาใหม่ ตัวอักษรอาจบาง หรือขาดความคมชัด
อะไรทำนองนั้นแหละครับต้องขอดูตัว สนใจคุยกันได้ เรื่องโคลท์เนี่ย คนคอเดียวกันจ๊ะ