เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

  เรื่องคล้ายๆกับที่เคยเกิดมาเมื่อไม่นานนี้


  มือมืดปาหินใส่รถ 'หยอง ลูกหยี' หวิดเป็นเหยื่อ

“หยอง ลูกหยี”ตลกดังหวิดสิ้นชื่อแบบเดียวกับตลกร่างแคระ”โจ้ มกจ๊ก” เมื่อนำลูกทีมไปแสดงที่สระแก้ว ขณะกำลังเดินทางกลับกรุงเทพมาตามถนนสายสระแก้ว-พนมสารคาม กลางดึก เจอวัยรุ่น 4 คน มารถ จยย. 2 คัน ซุ่มอยู่ข้างทางใช้ก้อนหินปาใส่รถเบนซ์ที่นั่งมา พร้อมกับรถลูกน้องอีก 2 คัน โชคดีถูกแค่ขอบกระจกไม่เสียหายมาก พอจอดรถลงไปดูมือขว้างหินรีบซิ่ง จยย.เผ่นหนี ฝากเตือนผู้ที่ใช้เส้นทางให้ระมัดระวัง พร้อมทั้งขอร้องให้ตำรวจช่วยออกตรวจด้วย

เรื่องราวของศิลปินตลกที่ถูกปาก้อนหินใส่รถครั้งนี้ถูกเปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 2 พ.ค. นายจงรวย สมจิตรนา หรือหยอง ลูกหยี อายุ 39 ปี ศิลปินตลกชื่อดัง ได้ฝากเตือนภัยไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนสายพนมสารคาม-สระแก้ว ให้ระมัดระวังเวลาใช้เส้นทางสายนี้ด้วย โดย "หยอง ลูกหยี" เปิดเผยถึงเหตุการณ์ที่ตนเองเพิ่งประสบมาว่า หลังจากที่เดินทางกลับจากการแสดงตลกจาก จ.สระแก้ว เพื่อเข้า กรุงเทพฯ ตนพร้อมกับชาวคณะรวม 16 คน นั่งรถมากัน 3 คัน ซึ่งมีรถฮอนด้า ซีวิค ของยาว ลูกหยี ขับนำหน้า มีรถ ของตนซึ่งเป็นรถเบนซ์ รุ่น 230E สีเหลือง หมายเลขทะเบียน 5 ค-9036 กรุงเทพมหานคร ขับตามมา และมีรถกระบะดีแมคซ์ของสมาชิกในคณะ ขับปิดท้ายอีกคัน โดยใช้เส้นทางสายพนมสารคาม-สระแก้ว ซึ่งทั้งหมดขับมาด้วยความเร็วประมาณ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หยอง ลูกหยี กล่าวต่อว่า เมื่อขับรถมาอีกประมาณ 1 กม. จะถึงเขต อ.พนมสารคาม   จ.ฉะเชิงเทรา รู้สึกเหมือนมีก้อนหินปะทะกับกระจกหน้ารถ ครั้งแรกเข้าใจว่าอาจเกิดจากเศษก้อนหินที่กระเด็นมาจากรถที่วิ่งสวนมา แต่จากการสังเกตดูก็ไม่เห็นว่ามีรถวิ่งสวนมาแต่อย่างใด จึงได้ให้คนขับส่งสัญญาณถึงรถคันที่นำหน้าเพื่อชะลอรถและนำรถเข้าจอดในที่สว่าง เนื่องจากตลอดระยะทางที่ผ่านมานั้นไม่มีไฟฟ้าข้างทาง เลยและเมื่อลงมาดูที่รถปรากฏว่า ที่บริเวณขอบ กระจกรถของตนนั้นมีรอยแตกจากโดนของแข็ง และจากการสอบถามสมาชิกในคณะทราบว่า รถทั้งสามคัน ก็โดนลักษณะคล้าย ๆ กัน  คือเหมือนมีก้อนหินปาเข้าที่กระจกหน้ารถ แต่ไม่ได้รับความเสียหายมากนัก

ศิลปินตลกชื่อดัง กล่าวต่ออีกว่า ต่อมาตนได้ตัดสินใจขึ้นรถขับวนกลับไปดูยังจุดที่เกิดเหตุซึ่งห่างจากจุดที่จอดรถประมาณ 500 เมตร ตนเห็นรถจักรยานยนต์ 2 คัน มีคนนั่งบนรถคันละ 2 คน จอดดูอยู่ และเมื่อเห็นพวกตน รถจักรยานยนต์ทั้งสองได้เร่งเครื่องขี่หนีไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าจะใช่กลุ่มคนที่ปาก้อนหินหรือไม่ อีกทั้งตนไม่กล้าตามเพราะไม่ชำนาญพื้นที่ประกอบกับเกรงว่าจะมีอันตราย

"ช่วงนั้นผมสังเกตเห็นรถจักรยานยนต์ทั้งสองคัน แต่ไม่กล้าตาม เพราะเกรงจะเกิดเหตุร้าย และอีกอย่างรถก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก ตอนนั้นผมก็รู้สึกกลัวเพราะเกรงจะซ้ำรอยกับคุณโจ้ มกจ๊ก ตลกร่างแคระของคณะเหลือเฟือ มกจ๊ก และอีกอย่างคืออยากฝากเตือนผู้ที่ใช้รถใช้ถนนในเส้นทางนี้เพิ่มความระมัดระวังเพราะอาจเป็นการกระทำของวัยรุ่นที่คึกคะนองแต่อาจทำให้ผู้ที่ใช้รถใช้ถนนเกิดความเดือดร้อนได้ แต่คงไม่แจ้งความเพียงแต่อยากฝากเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจตราบริเวณนั้นเพื่อความปลอดภัยด้วย" หยอง ลูกหยี กล่าว และว่า โชคดีที่ก้อนหินแค่โดนขอบกระจก หากต่ำลงมาอีกก้อนหินคงโดน กระจกแตกและอาจเกิดอันตรายกับคนขับของตนจนอาจเป็นโศกนาฏกรรมอย่างที่เคยเกิดขึ้นกับตลกคณะเหลือเฟือก็ได้

สำหรับกรณีคนร้ายปาก้อนหินใส่รถแบบที่ตลกหยอง ลูกหยี โดนมานั้นได้เคยเกิดขึ้นมา แล้วกับคณะตลกของ "เหลือเฟือ มกจ๊ก" เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 26 ต.ค. 2547 ขณะที่ เหลือเฟือ มกจ๊ก นำคณะเดินทางจากกรุงเทพฯ จะไปแสดงที่ จ.ลำปาง โดยนั่งรถตู้โตโยต้า สีบรอนซ์ ทะเบียน อท 5564 กรุงเทพมหานคร มาบนถนนสายเอเซีย หลัก กม. 68 ต.คลองสวนพลู ก่อนที่จะถึงตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา 3 กม. ได้มีวัยรุ่นไม่ต่ำกว่า 7 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาทั้งหมด 5 คัน วิ่งสวนทางมาแล้วใช้ก้อนหินปา เข้าใส่หน้ารถตู้ของคณะเหลือเฟือ มกจ๊ก จนกระจกแตกก้อนหินขนาดใหญ่ไปถูกหน้าผากของ นายสมชาย จันเจือ อายุ 37 ปี หรือโจ้ หรือนฤเบศร์ ม๊กจ๊ก ตลกร่างแคระที่นั่งอยู่ด้านหลังคนขับได้รับบาดเจ็บสาหัส ต้องนำส่ง รพ.ราชธานี ซึ่งภายหลัง โจ้ มกจ๊ก ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทิ้งให้ นางศุภาพิชญ์ บัวติ๊ก ภรรยาคนแคระกับ "น้องจินนี่" ลูกสาววัยขวบเดียวเผชิญชะตากรรมต่อไป ส่วนคนร้ายที่ปาก้อนหินนั้นตำรวจสามารถจับกุมตัวได้เป็นวัยรุ่นที่คึกคะนองซึ่งตอนนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินคดี.

 ที่มา:http://www.dailynews.co.th/today/each.asp?newsid=52547
 >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:( >:(

They   are   ........   !     >:(

 >:( >:( >:(ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พวกนี้มันจะหมดไปเสียที >:( >:( >:(

ผมว่า คงจะต้องเสนอให้แก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระทำ (โดยเจตนา) ที่ทำให้... หรืออาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นทั้งในเรื่องของชีวิตและทรัพย์สิน ให้ผู้กระทำผิดรับโทษที่หนักกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ระบบตรวจสอบ สืบสวนในการจับกุมจะต้องดีกว่าที่เป็นอยู่ด้วยครับ...

ป.ล. ก็เหมือนกับคดีลักทรัพย์ หรือโจรกรรม ถ้าจับผู้กระทำความผิดได้ ติด...อยู่ไม่เท่าไหร่ก็ออกมากระทำความผิดเดิมๆ อีก แถมมีหลายๆ คนที่ยังไปฝึกฝีมือกันใน... มาซะอีก พอออกมาก็เกร่งกล้ากว่าเดิม..... ผมไม่รู้ว่ากระบวนการลงโทษและกระบวนการยุติธรรมรวมถึงกฎหมายต่างๆ ที่กี่ยวข้องว่าเมื่อไหร่จะได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้เข้ากับยุคสมัยซะที เหมือนกับท่านที่มีอำนาจในการบริหารฯ สูงสุด ได้ลั่นวาจาไว้ว่าจะสังคยนากฎหมายที่ล้าสมัยในเร็วๆ นี้ไงครับ เชื่อหรือไม่ ?????   :( :( :(

ตร.ยอมรับหมดทางปราบแก๊งปาหินใส่รถ!

       ตำรวจยอมรับ แม้จะรู้ตัวแก๊งวัยรุ่นกวนเมือง ขว้างปาก้อนหินใส่รถผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน แต่ไม่สามารถตามจับกุมได้ เนื่องจากไร้หลักฐาน และผู้เสียหายไม่สามารถจดจำหน้าคนร้ายได้
       
       ภายหลังจากที่นายจงรวย สมจิตรนา หรือที่รู้จักกันในนาม “หยอง ลูกหยี” นักแสดงตลกชื่อดัง ประสบเหตุถูกแก๊งกวนเมืองใช้ก้อนหินขว้างใส่รถเบนซ์ 230 อี สีเหลือง ทะเบียน 5 ค-9036 กทม. รวมทั้งรถฮอนด้า ซีวิคของ “ยาว ลูกหยี” ตลกในคณะ จนได้รับความเสียหาย กระจกแตกทั้ง 2 คัน แต่ยังโชคดีไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บกับเหตุการณ์ครั้งนั้น โดยเหตุเกิดบนถนนสระแก้ว – พนมสารคาม เมื่อตอนตีสองวันที่ 2 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
       
       เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พ.ต.อ.วันชัย โตปาน ผกก.สภ.อ.พนมสารคาม เปิดเผยว่า หลังจากที่ศิลปินตลก “หยอง ลูกหยี”ให้ข่าวเพื่อเตือนประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวว่า เหตุเกิดก่อนถึงอ.พนมสารคามราว 5 กม.นั้น เบื้องต้น อยากจะเชิญ “หยอง ลูกหยี”มาให้ข้อมูลว่า จุดเกิดเหตุเป็นตรงไหนแน่ เพราะค่อนข้างมีความมั่นใจว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับ “หยอง ลูกหยี” น่าจะยังไม่เข้าสู่เขตพื้นที่รับผิดชอบของสภ.อ.พนมสารคาม แต่จากการวิเคราะห์ เชื่อว่า น่าจะเกิดบริเวณที่เปลี่ยว ซึ่งอยู่ในเขตท้องที่อื่นมากกว่า ทั้งนี้ ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ก็ได้โทรศัพท์มาสอบถาม ซึ่งได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทราบในเบื้องต้นแล้ว
       
       พ.ต.อ.วันชัยกล่าวอีกว่า เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้สั่งให้มีการตรวจสอบแล้ว ปรากฏว่า ยังไม่พบกลุ่มที่ก่อเหตุในพื้นที่ ทั้งนี้ ยอมรับว่า เคยมีเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่มาก่อน ซึ่งทางสภ.อ.พนมสารคาม ได้ส่งสายตรวจ และสายสืบ ออกซุ่มโป่ง และตระเวนขับรถบนถนนสายดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่พบกลุ่มผู้ก่อเหตุ
       
       ด้านพ.ต.ต.เฉลิมชาติ ถาวรศิริ พนักงานสอบสวน (สบ.2) สภ.ต.เขาหินซ้อน ซึ่งมีพื้นที่เขตติดต่อกับสภ.อ.พนมสารคามกล่าวยอมรับว่า เมื่อราว 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตำรวจสภ.ต.เขาหินซ้อน ได้จับกุมวัยรุ่นรวม 9 คนที่ก่อเหตุ โดยใช้ขวดเบียร์ปากระจกรถบรรทุก 10 ล้อ และโชเฟอร์รถบรรทุกจำหน้าได้ จึงแจ้งให้ตำรวจไปจับกุมได้ทั้งหมด ซึ่ง1ใน9 ผู้ต้องหา ยอมรับว่า ใช้ขวดเบียร์ขว้างปาใส่รถที่วิ่งผ่านไปมาจริง จึงได้ทำสำนวนส่งฟ้องในข้อหา ร่วมกันเป็นซ่องโจรเพื่อทำให้ทรัพย์เสียหาย และข้อหาทำให้ทรัพย์เสียหาย จากนั้นส่งตัวทั้งหมดไปยังสถานพินิจฯ และทราบว่า ทั้งหมดได้ประกันตัวออกไปแล้ว
       
       พ.ต.ต.เฉลิมชาติกล่าวว่า ต้องยอมรับว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเกิดขึ้น ส่วนใหญ่ผู้เสียหาย ไม่สามารถรู้ หรือจำหน้า หรือรูปพรรณสัณฐานของคนร้ายที่ก่อเหตุได้ และในทางสืบสวนตำรวจรู้ว่า มีกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอยู่หลายกลุ่ม บางครั้งรู้ว่าเป็นกลุ่มไหนที่ก่อเหตุ แต่ไม่สามารถตามจับกุมมาดำเนินคดีได้ เนื่องจากไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ที่จับได้เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน เป็นเพราะโชเฟอร์รถบรรทุกจดจำกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ และหนึ่งในนั้นยอมรับสารภาพ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถตอบได้ชัดเจนว่า กลุ่มคนร้ายที่ใช้ก้อนหินปาใส่รถของตลก “หยอง ลูกหยี” จะเป็นกลุ่มเดียวกับที่เคยถูกจับกุมไปเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา และได้รับการประกันตัวไปจากสถานพินิจหรือไม่
       
       เหตุการณ์แก๊งกวนเมือง ซึ่งก่อเหตุใช้ก้อนหินขว้างปารถตามท้องถนน ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นกับตลกคณะ “คณะหยอง ลูกหยี”นั้น ไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่เคยเกิดขึ้นก่อนหน้านี้ที่จ.พระนครศรีอยุธยา จนทำให้ “โจ้ ม๊กจ๊ก” ตลกร่างแคระในคณะของ “เหลือเฟือ ม๊กจ๊ก” ต้องเสียชีวิตมาแล้ว


http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=3783.new#new

โดยส่วนตัว(ขอย้ำ)ผมมองว่ากฎหมายต่างๆ หลายมาตราบ้านเราลอกยุโรปตะวันตกและอเมริกาเหนือมาทั้งดุ้น ถึงแม้จะมีการยกร่างแก้ไข แต่เนื้อหาพื้นฐานก็ยังคงเดิมอยู่ โดยส่วนตัวมองว่ากฎหมายของประเทศใดๆก็ตาม ควรออกให้มีความสอดคล้องกับสภาพสังคม ทัศนคติ และสภาพพื้นฐานทางด้านอารมณ์ ความคิด ประเพณี ของมนุษย์ในสังคมนั้นๆ ระบบศาล ตำรวจ และกฎหมาย จริงๆผมมองว่าสิ่งเหล่านี้เป็น " โนว์ฮาวด์" ซึ่งเราตามแบบตะวันตกมา โดยมีข้ออ้างในการรับมาว่า "คือความเป็นสากล" ซึ่งบางอย่าง อาจจะ(โดยส่วนตัวนะครับ)ไม่สอดคล้องกับสังคมและความคิดของคนในบ้านเรา ดังนั้นการนำมาใช้อาจไม่บรรลุผลสูงสุดของเจตนาของสังคม ฝรั่งกับคนไทย นิสัยก็ไม่เหมือนกัน กลิ่นตัวก็ไม่เหมือนกัน อาหารรสชาดก็แตกต่างกันอย่างฟ้ากับเหว แต่เราก็รับของเขามาเป็นบรรทัดฐานของสังคมยุคใหม่(ปฎิบัติจริงในสังคมไทยไม่ได้ แทนที่จะแก้ระบบ กลับไปโทษที่คนอีกตังหาก)

แต่ชอบนิสัยของฝรั่งมาก และความจริงใจ เฟรนลี่  และที่สำคัญชอบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนของฝรั่งครับผม

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ในกรณีอย่างที่เกิดขึ้นนี้ ถ้าบังเอิญมีปืนในรถแล้วยิงสวนออกไป ถ้าไม่ถูกก็ไม่เป็นไรแต่ถ้าถูกขึ้นมาเราจะโดนข้อหาอะไรบ้างครับ  พอจะมีข้อแก้ต่างหรือมีทางออกทางไหนบ้าง

อ่านชื่อกระทู้แล้วตกใจ นึกว่านายบาร์ทเป็นอะไร ปกติไม่ค่อยเห็นเอ่ยปากว่าใคร

ใจเย็นๆ ครับ พี่
ใจเย็นๆ ครับ พี่
ใจเย็นๆ ครับ พี่
ใจเย็นๆ ครับ พี่
ใจเย็นๆ ครับ พี่





 

แหะๆ ;D ไม่มีอะไรหรอกครับ พอดีอินไปหน่อย  คือเห็นข่าวพวกนี้แล้วมันหงุดหงิดจริงๆครับ :~) >:(

"ตำรวจยอมรับ แม้จะรู้ตัวแก๊งวัยรุ่นกวนเมือง ขว้างปาก้อนหินใส่รถผู้สัญจรไปมาบนท้องถนน แต่ไม่สามารถตามจับกุมได้ เนื่องจากไร้หลักฐาน และผู้เสียหายไม่สามารถจดจำหน้าคนร้ายได้" [/color]

ได้ยินมาว่า...

"อย่าให้ใครเห็น & ผีพูดไม่ได้    8)  ::)

แสบหูน่าดูถ้า...ออกจากรถ   ::)

ปลอกกระสุนอีก (สำหรับออโต).....    :o "

 ???ขนาดพี่หยอง ยังไม่กล้าแจ้งตำรวจเลย ???แปลว่าพี่แกมั่นใจมากใช่เปล่าครับ

ใจเย็นๆ ครับ พี่  (เวลาจะยิง)  ;D  :D  ;)

ฝากพี่เพื่อนที่ต้องเดินทางยามวิกาล หรือ ดึกมากๆ ระมัดระวังด้วยครับ    โดยเฉพาะเส้นมอเตอร์เวย์ (ประจำ แต่ไม่ค่อยเป็นข่าวในช่วงหลัง)  หรือ เส้นต่างจังหวัดเวลาขับลอดผ่านสะพานคนข้ามถนน (เหลือบมองหน่อยก็ดีครับ)

อ้อ! ติดฟิลม์กระจกหน้า(แบบ 40) พอจะบรรเทาได้บ้างครับ

และอย่าลืม "เพื่อนคู่ใจ" ในยามเดินทางกลางคืน

 

 ;)

 ;)

นายสมชายคิดอย่างนี้ครับ...

1) กฏหมายไทยไม่ได้ล้าสมัยไปหมดครับ เรื่อง E-Business น่ะ นายสมชายเห็นด้วย... แต่เรื่องกฏหมายอาญาตามท้องเรื่องนี่... คนขว้างก้อนหินน่ะ เล็งเห็นผลครับ แปลว่ามีเจตนา... ติดคุกหัวโตชัวร์ครับ หากสามารถบังคับใช้กฏหมายได้... จับตัวมันมาได้...

2) หากว่าใครยิงสวนออกไป แล้วโดนพวกแก๊งค์ขว้างก้อนหินตาย... ต้องยอมรับอยู่อย่างนึงนะครับ ว่าพวกนี้มันมืออาชีพ มันเลือกสถานที่ และเวลาได้พอเหมาะเจาะตามสายอาชีพของตนเอง... คือไม่ค่อยมีตำรวจ, คนผ่านไปผ่านมาน้อย หรือไม่ก็ไม่มีใครสนใจคนอื่น... สรุปเลยก็คือหากเรายิงมันตายแหงแก๋ ในเวลาและสถานที่อย่างนั้นไม่มีใครรู้หรอกครับ... อยู่ที่ตัวคนยิงเองจะนิ่งได้แค่ไหน... ที่เห็นอยู่ มักวิ่งโร่ไปแจ้งตำรวจเอง... ฮา

พวกนอกกฏหมาย โดนยิงแล้วไม่เคยไปแจ้งความตำรวจครับ แล้วพวกเพื่อนๆแก๊งค์สิ้นคิดพวกนี้ ไม่เคยพาเพื่อนไปโรงพยาบาลให้สืบสาวราวเรื่องอีกครับ...

พิจารณาเองเน้อ...

แถวอำเภอ สันกำแพง บ้านนายยก มีสารพัดแก๊งเลยทั้งยิงทั้งฟัน แถมข่มขืนด้วย ถนนเส้นนี้หลังห้าทุ่มอันตรายมากโดยเฉพาะมอเตอร์ไซฮ่าง เพราะบิดหนีไม่ทัน หรือว่าท่านนายกถือว่าเดี๋ยวนี้ท่านย้ายบ้านไปอยู่ อ.แม่ริมแล้วก็ไม่ทราบ

สรุปหากเรายิงมันตายในเวลา และ สถานที่อย่างนั้นไม่มีใครรู้หรอกครับ อยู่ที่ตัวคนยิงเองว่าจะนิ่งแค่ไหน :~)เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับพี่

ลองเอามุขแบบนั้น มาลองหากินกับคนแถวบ้านผมบ้านผมดูดิ :P

ไม่รู้จะพูดว่าไงกับไอ้พวกนี้ ป้องกันยากด้วยแล้วแต่ดวง ( ยากเอาทุเรียนทุ่มใส่มันบ้างจริงๆ) :~)

กับคนชั่วพวกนี้มันมีทั่วไป  มีคนเล่าให้ผมฟังว่าคนรู้จักกันยืนรอรถเมล์แถวบ้านตอนดึก แล้วถูกจี้ คนร้ายเป็นวัยรุ่นขี่มอร์เตอร์ไซค์มากัน 2 คน ลงมาจี้พี่แกก็วิ่งตามไปดึงคอเสื้อไอ้คนซ้อน มันกระโดดลงมาชักมีดจะแทง แกชะงักแล้วควักเป้ล้วงปืนมายิงไล่ไปนัดสองนัด ไม่โดน วันหลังยังถูกไอ้พวกนี้ตามจะเอาคืนอีกตะหาก( พวกมอร์เตอร์ไซค์วินแถวนั้นเล่าให้ฟัง ) ตอนนี้เลยต้องยิ่งระวังตัวกว่าเดิม..

มันไม่ใช่เพิ่งเกิดขึ้น......มีมานานแล้ว
ช่วงที่ผมทำงานที่หาดใหญ่ราวปี 39 เจอมาแล้ว กดด้วย .45 หมดแม๊กฯ วิ่งป่าราบไปเลย
แต่ตัวเองนอนไม่หลับ ........ ถ้าเกิดตอนนี้สำรองไว้อีก 4 แม๊กฯ  >:( >:( >:(

 >:(

ขับรถทางมืดๆ ข้างทางมีที่หลบเดี๋ยวนี้ต้องระวังครับ อย่าเห็นว่าถนนโล่งๆแล้วขับตามสบาย
เพราะพวกกวนเมืองมีวิธีแกล้งคนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต้องมองไกลๆ เห็นใครยืนข้างหน้า หรือขับ
มอเตอร์ไซด์สวนมาต้องโยกรถ เปลี่ยนตำแหน่งบ้างครับ

ฮึ่ม...อย่าให้เจอนะ ไม่คุณก็ผม (อ่านแบบภาษายุคพ่อขุนรามหน่อยนะ...อิอิ)

 >:(

 :~) :~) :~)

...พวกนี้ยังไม่เคยเจอของจริงครับ  ดีแต่ลอบกัด ทำคนไม่รู้ตัว  ไม่มีทางสู้  สักวันพวกมันจะโดน :(

...เจ้าหน้าที่บ้านเมืองน่าจะส่งยอดฝีมือออกไปอ่อยเหยื่อล่าพวกมันบ้าง  8)

อ่อยเหยื่อ??

ทำให้นึกถึงการโบกรถ โดยเลิกขากางเกงโชว์น่องขาวๆ ::)

 >:( ...รถเก๋งญาติผมโดนแถวสะพานพระราม 6 ช่วงเวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม เมื่ออาทิตย์ก่อน...ขับรถอยู่ดีๆกระจกหลังแตกดังเปรี๊ยะ.....สงสัยกันว่าจะโดนก้อนหินจากไอ้พวกสารเลวกวนเมือง.... >:(

 :-\ มีเกลื่อนเมืองจริงๆคับ คนพวกนี้...

ทั้งทำเพราะคะนอง หวังปล้นทรัพย์ และหวังขายกระจกรถ...  :P

จับได้ต้องถามมือไหนปาครับ  ;D ;D ;D ;D  น่าจะให้กฎหมายแบบตาต่อตาฟันต่อฟันเนอะ  มือไหนปาตัดมือนั้นทิ้งอย่างเก่งมันก็ปาได้แค่2ครั้งครับ ;D ;D ;D   ตรงนี้น่าคิดว่าหากติดฟิมล์ใสที่กระจกนี้จะผ่อนหนักเป็นเบาได้ไหมครับ

;D ;D ;D ;D ;D :DD :DD :DD :DD :DD :~)

 >:( >:(  อันตรายครับ  เดี๋ยวนี้ตามไฟแดงกรุงเทพฯ  จะมีเด็กๆ มาเช็ดกระจกรถครับ  ปกติไม่เจอ  หรือมีมานานแล้วแต่ไม่พบกันก็ไม่รู้

เช็ดเสร็จก็ให้ตังค์ไป 5 บาท   ถ้าเช็ดแล้วไม่ให้ เพื่อนบอกว่าอาจจะมีแถมเหรียญบาท ที่สีรถ   แลกกับความปลอดภัย   >:( >:( 

แบบนี้แย่จริงๆ   :~)

ติดฟิล์มช่วยได้เหรอครับ คือพี่ชายผมเคยโดนรถชนแล้วกระจกแตก กลับกลายเป็นว่าเพราะติดฟิล์ม เลยทำให้กระจกแตกมาบาดแทนเพราะ จะแตกเป็นชิ้นใหญ่ๆ แทนที่จะแตกเป็นเม็ดข้าวโพดอะครับ ผมจึงกลัวว่าถ้าหินโยนเข้ามา กระจกจะแตกมาช่วยบาดด้วยนะสิครับ เพราะตามหลัก ฟิสิกข์ ขับรถเร็วๆแล้วถูกอะไรกระแทก ก็เกิดแรงบวกนะครับ

อืมมม น่าคิดครับ  เป็นไปได้ที่จะแตกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ;) แต่กระจกรถเนี่ยะ ที่ผมเคยเห็นก็คือเมื่อโดนของแข็ง,หนักมากระแทกแล้ว ถ้ามันไม่แตก,หลุดออกมาเลย มันก็จะเป็นเหมือนกับร้าวเป็นวงๆคาอยู่บนกระจกแบบนั้นแหละครับ แต่ถ้าโดนหินปะทะด้วยความเร็วสูง ก็อาจแตกได้ ฟิล์มให้เหนียวยังไงก็คงเอาไม่อยู่ครับ :OO แต่แตกเป็นชิ้นใหญ่ๆ ไม่เคยเห็นซักทีแฮะ เห็นแต่แตกเป็นเม็ดข้าวโพด เศษเล็กเศษน้อย :DD

 คิดว่าเลือกติดฟิล์มดีๆหน่อยจะช่วยผ่อนหนักให้เป็นเบาได้ครับ เมื่อวันตรุษจีนที่ผ่านมาคนในครอบครัวไปขับรถชนคน(เสียชีวิต)เข้าอย่างจัง ชนแรงมากจนช่วงหน้ารถยุบเข้ามาถึงหม้อน้ำ ตัวผู้ตายกลับกระเด็นพับเข้ามาหาคนขับ ศรีษะพุ่งเข้ามาคาอยู่ครึ่งท่อนอยู่ที่กระจกซึ่งแตกเป็นเม็ดละเอียดบางส่วนกระเด็นเข้ามาในรถอย่างแรงจนคนในรถได้เลือดซิบๆกันถ้วนหน้า โชคดีที่มีฟิล์มช่วยยึดเอาไว้เศษกระจกส่วนใหญ่จึงเกาะกันอยู่เป็นแผงไม่งั้นคงเสียโฉมกันทั้งคัน เผลอๆคนขับอาจโดนผู้ตายพุ่งเข้ามากระแทกจนได้ตายตกตามกันแหละครับ :P

ขอแสดงความเสียใจกับผู้ตายและขอแสดงความเสียใจกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับญาติพี่อีเมล์ครับผม

ขอบคุณครับสำหรับคำแนะนำ คนดีศรีสังคม จะได้ไม่เสียเปรียบคนเลวกร่อนสังคม สักที ขอบคุณครับผม

เสียใจด้วยครับ... ทั้งต่อผู้เสียชีวิตและผู้ขับรถฯ...

งานนี้คงหมดเงินไม่น้อยครับ... ทนายเก่งๆ จะช่วยได้มาก...

 :)..เห็นด้วยครับ.. ปรกติตอนนี้กระจกบังลมหน้า ก็มีแบบ ๒ ชั้นมีฟิลม์ประสานอยู่ตรงกลาง  ถ้าจะติดฟิลม์เพิ่มไปอีก น่าจะปลอดภัยขึ้น.. ถึงกระจกจะแตกแต่ไม่หลุด เพราะมีฟิลม์เกาะไว้รถยังวิ่งได้.. สายเอเซีย แถบ ตาคคี ใกล้บ้าน นายใหม่ ผมเคยแตก ไป ๒ บาน เพราะหินดีดใส่.. มาเปลียนที่ กทม ครับ.. ;D ;D
... กระจกบังรถหน้าแบบกันความร้อน กันรังสีฯ  ผลิตในประเทศ ราคาถูกมาก รถยุโรป .. ราคา ราว ๓,๐๐๐-๔,๐๐๐ บาท ซึ่งถูกมากเมื่อเทียบกับความปลอดภัยครับ.. ;D
     

ขอให้เรื่องเคลียร์เร็วๆนะครับ ;)

ขอบพระคุณครับ :) งานนี้โชคดีที่มีพยานทั้งชุมชนรวมถึงอากำนันซึ่งเป็นนายจ้างของผู้ตาย ว่าผู้ตายเมาแอ๋ตั้งแต่เย็นแล้วครับ และทางผมเมื่อชนแล้วก็ไม่ได้หนียังลงมาโทรตามตำรวจ/รถพยาบาลแล้วก็รออยู่ในที่เกิดเหตุ ทั้งได้แสดงความรับผิดชอบและน้ำใจตามสมควรแก่กรณีแล้ว(ยืนยันมั่นใจตั้งแต่ชั้นสอบสวนว่าไม่ได้เกิดจากความประมาท แต่ยินดีรับผิดชอบเต็มที่)จึงได้รับความเมตตาอาทรจากจนท.ผู้เกี่ยวข้องมาโดยตลอดตั้งแต่ชั้นสวส. , อัยการ , จ่าศาลและ...ครับ :-*

อ่อ เป็นแบบนี้นี่เอง :DD ดีครับที่ไปได้ดี :DD

จริงๆๆแล้วตามกฎหมายพวกเช็ดกระจกรถหรือขายของบนถนนนี้ผิดกฎหมายนะครับ และมีการส่งส่วยให้กับเจ้าหน้าที่บางท่านด้วยคิดกันเล่นๆๆนะครับรถวันหนึ่งผ่านจุดนั้นกี่คัน   คันละ5บาทหมื่นคันก็5หมื่นบาทของบางอย่างเราเห็นว่าเป็นเงินจำนวนน้อยแต่คิดถึงปริมาณซิครับไม่น้อยเลยนะครับ     เรื่องนี้เคยออกรายการทีวีนานมาแล้วครับเห็นจับอยู่พักหนึ่งแล้วก็เงียบไปตามกระแสข่าว      กระจกเดี๋ยวนี้หากได้มาตราฐานผมเข้าใจว่าผ่านการอบมาให้แตกเป็นเม็ดทรายนะครับเป็นอย่างที่ทราบกันคือมี2ชั้นแล้วมีฟิลม์กันตรงกลาง  หากติดฟิลม์เพิ่มซึ้งปกติเราติดในรถ น่าจะช่วยเพิ่มความเหนียวได้นะครับส่วนที่จะแตกเป็นแผ่นผมยังไม่เคยเจอเลยนะครับ   

โอ้ย...อย่ากลุ้ม อย่าคิดมากไปเลยครับ
ผมรับรองว่าผมจะทำให้ก้อนหินหมดจากประเทศไทยภายใน 5 ปี

5555555555555555555555 :VOV: :~) :~) :~) :~) :<<

 :-X นานแล้วหรือยังครับพี่ ถ้านานเกิน 4-5 ปีที่แล้ว อาจเป็นไปได้ว่าไม่ใช่กระเด็นครับ เพราะช่วงนั้นแถวนั้นมีแก๊งขว้างกระจกเหมือนกันครับ ;D

 ;D ;Dจอดรถแล้วก็ขว้างระเบิดไส่เลยครับแล้วจะไม่มีแก็งค์แบบนี้อีกต่อไป ;D ;D

:o  ยิงเสร็จก็ตัวใครตัวมันแหล่ะครับ   ;D

....ท่านคร้าบบ..แล้วไอ้พวกที่ใช้โทรศัพท์มือถือ...โดยเฉพาะค่ายพญาแม้ว.........จุดระเบิดทางภาคใต้....ท่านจะทำอย่างไรคร้าบบบ... :OO  :OO

 :)..
 :-X นานแล้วหรือยังครับพี่ ถ้านานเกิน 4-5 ปีที่แล้ว อาจเป็นไปได้ว่าไม่ใช่กระเด็นครับ เพราะช่วงนั้นแถวนั้นมีแก๊งขว้างกระจกเหมือนกันครับ ;D
...  :)..บานแรกราว ปี ๒๕๓๔ ครับ เป็น BMW 318 IA M 40 .. บานที่สอง เมื่อ มีนาคม ๒๕๔๗ เป็นคันที่ใช้อยู่นี่แหละครับ.. ราว ๒๑.๐๐ เศษ.. :) ;D

สงกาสัยเป็นกระจกธรรมดานะครับ ลองเปลี่ยนมาใช้กระจกนิระภัย2ชั้นแบบรถทัวร์ ดูสิครับไม่แตกเป็นเม็ดข้าวโพด แต่ร้าวเป็นจุดเฉพาะที่โดนกระแทก ยังพอขับไปได้โดยไม่ต้องเอากระจกออกทั้งแผ่น   กระผมมีข้อเตือนสำหรับทุกท่านที่ต้องผ่านสายเหนือช่วงจังหวัดลำปาง ในช่วงก่อนถึงตลาดทุ่งเกวียน ซักหนึ่งกิโลเมตร ขอให้ท่านชลอความเร็วจนกว่าจะผ่านตลาดทั้งขาเข้าและขาออกเพราะมีแก๊งหนังสติ๊กคอยยิงกระจกอยู่โดยฉพาะช่วงเช้ามืด และหน้าฝน (ผมโดนมาแล้วถนนโล่งๆอยู่ดีๆกระจกแตก ) สมัยก่อนเมื่อทำถนนใหม่ๆมีร้านทำกระจกเยอะมาก แต่เดี๋ยวนี้มีกระจกตกค้างอยู่มากและเป็นกระจกไม่ได้มาตรฐานส่วนโค้งไม่รับรูป ค่าเปลี่ยน3000บาทฝนตกนำยังไหลเข้ามาทางมุมกระจก แต่พอผมขับเข้ามาเปลี่ยนที่ ชม. แค่800บาทเอง กระจกเก่าต้องทิ้งไปถึงรู้ว่าเสียค่าโง่แล้ว ถ้าท่านเจอแบบผมขขอแนะนำว่าให้ขับรถย้อนเข้าไปในตัวเมืองลำปางแค่20-30โลเองแต่คุ้มกว่าเยอะเลย

...เคยได้ยินมาเหมือนกันว่าร้านกระจกกับพวก "นักขว้าง" อาจมีเอี่ยวกัน  :-\

เหมือนกันกับนักโรย"เรือใบ"  กับร้านปะยางอ่ะ >:(

ใช่ครับ เคยได้ยินเหมือนกัน ....... คล้ายๆยัดยาบ้าที่ฝาเติมน้ำมัน ขับออกจากปั้มสักครึ่งกิโล ตร.ทล.เจาะจงเปิดดู เก่งจริงๆ

 :OO :OO :OO...........กึ๋ย กึ๊ย.......... :OO :OO :OO

ท่านครับแล้วเวปที่มีสมาชิกชอบแซวท่านละครับมีแผนอย่างไรใน5ปีบ้างครับ :DD :DD :DD :DD :DD ;D ;D

;D ;Dจะเปลี่ยนกระจกให้มันขว้างเล่นอีกละซิ...ทำอย่างไรถึงมันถึงจะเลิกขว้างซะที ;D ;D