|
หัวข้อ: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: คูณ 3 superแก๊งค์ ที่ มิถุนายน 04, 2007, 10:15:30 PM :) ช่วยส่งข่าวให้รู้กันครับ .. ต้องระวังกันไว้ .. ;D
........................................................... ......................................... ;D พรบ. ฉบับใหม่ การส่งเมล์โป๊ติดคุก 5 ปี (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/20523.jpg) ข้อควรระวัง....ควรส่ง Mail ต่อเฉพาะคนใกล้ชิดสนิท กันเท่านั้น ผู้ที่ได้รับแล้ว ถ้าจะ Forward ต่อให้คน อื่น ๆ ที่ใกล้ชิดสนิทกันก็ควรลบ Mail ชื่อผู้ที่ส่งมาให้ออก ก่อน ถ้าไม่มีคนใกล้ชิดสนิทกัน ก็ Save ไปเก็บ แล้ว ลบ Mail ทิ้งไปเลย ผู้สื่อข่าวรายงาน จากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาว่าทางคณะกรรมการกฤษฎีกา(คณะพิเศษ)ได้พิจารณาตรวจแก้ไขร่า งพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติในหลักการเรียบร้อยแล้ว (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/20526.jpg) โดยบทกำหนดโทษที่น่าสนใจ ได้แก่ มาตรา 11 ระบุไว้ว่า หากการกระทำผิดนั้นน่าจะทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคง ทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือ บริการสาธารณะ ต้องระวางโทษ จำคุก ตั้งแต่ 3 ถึง 5 ปี และ ปรับตั้งแต่ 6หมื่นถึง 3 แสนบาท แต่ถ้าก่อให้เกิดอันตรายแก่ร่างกายหรือชีวิตของประชาชน ต้องระวางโทษ ประหาร ชีวิต จำคุกตลอด ชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปี ถึง 20 ปี (http://variety.teenee.com/foodforbrain/img6/20529.jpg) ส่วนมาตรา 13 ได้ระบุว่า หากเผยแพร่หรือส่ง ต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์อันมีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้ หากข้อมูลคอมพิวเตอร์ เป็นภาพลามก เป็นของบุคคลที่อายุไม่เกิน 18 ปี ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ถึง 5 ปี หรือปรับตั้งแต่ 4 หมื่นถึง 1 แสนบาทหรือทั้งจำทั้ง ปรับ สนับสนุนข้อคิดนานาสาระโดย: หนูดี จากhttp://xchange.teenee.com โดย :พราว โพสเมื่อ [ วันจันทร์ ที่ 7 พฤษภาคม 2550 เวลา 18:20 น.] ........................................................... ........................................................... ...... หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: * ต้น * ที่ มิถุนายน 05, 2007, 03:04:26 AM ก็ดีครับ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: เอก@ดอยฯ ที่ มิถุนายน 05, 2007, 04:32:13 AM สงสัยจะติดกันเยอะครับ เพราะเห็นส่งกันเกือบทั้งเมือง งานนี้คุกจะมีที่พอให้อยู่ไหมนะ ;D ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 05, 2007, 08:24:16 AM พรบ.นี้ผ่านวาระ ๓ ของ สนช.ไปแล้วรอส่งกลับมาที่ ครม.รับทราบเพื่อนำขึ้นทูลเกล้าทรงลงพระปรมาภิไทย แล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษา จากนั้น ๓๐ วันก็มีผลบังคับใช้
ส่งต่อโดยลบชื่อก็ไม่รอดครับ เพราะในกฏหมายนี้จะหาผู้กระทำความผิดได้จาก Log file หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: CCCF14 ที่ มิถุนายน 05, 2007, 09:10:11 AM ถ้าประกาศใช้แล้วจะสงสารหรืออิจฉา หน่วยงานผู้บังคับใช้ฯ ดี ต้องเข้าตรวจจนเป็นตากุ้งยิงมั๊ยนี่
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: natfd ที่ มิถุนายน 05, 2007, 09:40:40 AM ก็ดีครับ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: โก๋ต่อ วังเดิม ที่ มิถุนายน 05, 2007, 09:55:42 AM และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้
น่าจะแปลความไปถึงพวกการโพสท์รูปดังกล่าวไว้ในเวบบอร์ดมากกว่า ใน E-Mail นะครับ E-Mail เป็นการเข้าถึงส่วนบุคคล ซึ่งต้องใช้พาสเวิร์ด ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ใครก็เข้าถึงได้ ถ้าเราไม่ได้โดนละเมิดสิทธิ์ แต่ถึงไม่เกี่ยวกับบทลงโทษ ก็เห็นด้วยกับวิธีนี้อยู่แล้วครับ ควรส่ง Mail ต่อเฉพาะคนใกล้ชิดสนิท กันเท่านั้น ผู้ที่ได้รับแล้ว ถ้าจะ Forward ต่อให้คน อื่น ๆ ที่ใกล้ชิดสนิทกันก็ควรลบ Mail ชื่อผู้ที่ส่งมาให้ออก ก่อน ถ้าไม่มีคนใกล้ชิดสนิทกัน ก็ Save ไปเก็บ แล้ว ลบ Mail ทิ้งไปเลย หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: spocid ที่ มิถุนายน 05, 2007, 11:39:46 AM สงสัยจริง ๆ ครับ แค่ไหนจะเรียกว่าโป้ รับรองเถียงกันแบบไม่ยอมกันแน่เลยครับ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: salin - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 05, 2007, 12:37:24 PM ร่างที่ผ่านกรรมาธิการและ สนช. ออกมาต่างจากร่างที่ผ่านกฤษฏีกามากครับ ผมเคยโพสร่างที่ผ่าน สนช. ไว้แล้ว
ขออนุญาตเอาเฉพาะที่กำลังสนใจมากล่าวถึง มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามก และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑) (๒) (๓) หรือ (๔) ใน (๔) หมายถึงข้อมูลอันลามกเท่านั้น ไม่ได้หมายถึงภาพโป๊ วาบหวิวทั่วไป หากส่งต่อภาพภาพลามก จะผิดตาม (๕) แต่ถ้าเป็นภาพโป๊ก็ยังไม่เข้าข่าย หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: ผู้น้อย ที่ มิถุนายน 05, 2007, 09:29:38 PM ต่อไปนี้เราจะดูอะไร :~)
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: นายขม รักในหลวง ที่ มิถุนายน 05, 2007, 10:13:42 PM ภาพโป๊ ภาพลามก Node, Art ...... what's the difference ?? ???
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 06, 2007, 07:18:13 AM แล้วดูเมล์โป๊เฉยๆแล้วเก็บไว้มีโทษมั๊ยครับ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: yotinpen ที่ มิถุนายน 06, 2007, 07:42:13 AM การบังคัยใช้กฎหมายทำได้ยากครับ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ มิถุนายน 06, 2007, 08:05:36 AM ให้ตุลาการ ให้ศาลสั่ง (5 ปี..ก็เท่ากับ ทรท. ) ;D ;D ;D
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: STANBYME ที่ มิถุนายน 06, 2007, 10:22:14 AM สงสัยต้องดูคนเดียวแน่ๆๆๆๆเลยว้า
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: SigPro-รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2007, 10:34:17 AM สงสัยต้องดูคนเดียวแน่ๆๆๆๆเลยว้า >:( ผมขอประนามการกระทำเช่นนี้ครับ...... อ่ะแบ่งกันดูบ้างดี้.... ;D :D~หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2007, 10:49:24 AM ........................................................... ...................... ........................................................... ...................... อย่ามาริดรอนสิทธิในการรับ/ส่งรูปโป๊ของเราน๊า.... ใครไปมั่ง ::) ;D ;D ... เข้าใจว่า คุณจ้าวพูดเล่น. เรื่องกฎหมาย ที่บังคับใช้เพื่อความสงบสุข และศีลธรรมอันดีแก่ประชาชน . เป็นเรื่องจริง จัง. ครับ. แค่รูปภาพบาดจิต ในที่ระโหฐาน.. นำมาโพสท์ ในเวปนี้ ยังถูกลากไปทิ้งทันทีที่พบเห็น. แนวทางที่ดีควรปฎิบัติตาม หรือ จะรับมือก็น่าจะเป็นไปตามคุณ เป็นต่อ 8911 ให้ความเห็นไว้ ครับ. และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ น่าจะแปลความไปถึงพวกการโพสท์รูปดังกล่าวไว้ในเวบบอร์ดมากกว่า ใน E-Mail นะครับ E-Mail เป็นการเข้าถึงส่วนบุคคล ซึ่งต้องใช้พาสเวิร์ด ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ใครก็เข้าถึงได้ ถ้าเราไม่ได้โดนละเมิดสิทธิ์ แต่ถึงไม่เกี่ยวกับบทลงโทษ ก็เห็นด้วยกับวิธีนี้อยู่แล้วครับ ควรส่ง Mail ต่อเฉพาะคนใกล้ชิดสนิท กันเท่านั้น ผู้ที่ได้รับแล้ว ถ้าจะ Forward ต่อให้คน อื่น ๆ ที่ใกล้ชิดสนิทกันก็ควรลบ Mail ชื่อผู้ที่ส่งมาให้ออก ก่อน ถ้าไม่มีคนใกล้ชิดสนิทกัน ก็ Save ไปเก็บ แล้ว ลบ Mail ทิ้งไปเลย หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: โจ ™ ที่ มิถุนายน 06, 2007, 01:03:39 PM อิอิ ถ้าส่งครั้งละห้าปี ป่านนี้ตลอดชีวิตก็ใช้โทษไม่หมด อิอิ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: xiehua dun ที่ มิถุนายน 06, 2007, 01:27:07 PM เอ่ คนจะล้นคุกจริงๆก็คราวนี้แหละ คริๆ
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: NatthaphoN_ ที่ มิถุนายน 06, 2007, 02:44:22 PM เลยอดดูเลย ;D
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2007, 03:20:06 PM เอ่ คนจะล้นคุกจริงๆก็คราวนี้แหละ คริๆ ... น้องเอ๋ย.. อย่าไปหมกมุ่นนัก. โทษในความผิดฐานนี้ จำคุกไม่เกิน ๕ ปี .. ในแต่ละการกระทำ ต้องดูพฤติการณ์.. อาจรอการลงโทษเท่านั้น. แต่ เขาอาจจะแถม ปี๊บ ให้ ๑ ใบ ..ไว้คลุมหัว. :OO หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ มิถุนายน 06, 2007, 04:27:42 PM ........................................................... ...................... ........................................................... ...................... อย่ามาริดรอนสิทธิในการรับ/ส่งรูปโป๊ของเราน๊า.... ใครไปมั่ง ::) ;D ;D ... เข้าใจว่า คุณจ้าวพูดเล่น. เรื่องกฎหมาย ที่บังคับใช้เพื่อความสงบสุข และศีลธรรมอันดีแก่ประชาชน . เป็นเรื่องจริง จัง. ครับ. แค่รูปภาพบาดจิต ในที่ระโหฐาน.. นำมาโพสท์ ในเวปนี้ ยังถูกลากไปทิ้งทันทีที่พบเห็น. แนวทางที่ดีควรปฎิบัติตาม หรือ จะรับมือก็น่าจะเป็นไปตามคุณ เป็นต่อ 8911 ให้ความเห็นไว้ ครับ. พูดเล่นสิครับ กรณีเดียวที่จะยอมเอาจริงคือพี่Ro@dยอมมาช่วยผมถือป้ายผ้าอ่ะครับ เคี๊ยกๆๆๆๆ ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: อู๋ รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2007, 04:39:32 PM ดีเหมือนกันครับ ช่วยกันส่งเสริมศีลธรรมในสังคมกันหน่อยครับ ที่ผ่านมารู้สึกเสื่อมโทรมเหลือเกิน
หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: C.J. - รักในหลวง ที่ มิถุนายน 06, 2007, 06:03:34 PM ดูหนังสือบันเทิง..ครับ...ไม่รู้เรียกว่าโป๊หรือป่าว..สุดยอดครับ.. :D~ :D~ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: คูณ 3 superแก๊งค์ ที่ มิถุนายน 09, 2007, 07:32:50 AM ดูหนังสือบันเทิง..ครับ...ไม่รู้เรียกว่าโป๊หรือป่าว..สุดยอดครับ.. :D~ :D~ ขอบคุณครับ ทางเลือกใหม่ .......ความหวังยังมีอยู่ .......55 ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: พ.ร.บ.ฉบับใหม่ ..การส่งเมล์โป้ .. ติดคุก ๕ ปี เริ่มหัวข้อโดย: thanakij ที่ กรกฎาคม 20, 2007, 05:41:37 PM พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ให้ประกาศว่า
โดยที่เป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคำแนะนำและยินยอมของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ดังต่อไปนี้ มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. ๒๕๕๐” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ ในพระราชบัญญัตินี้ “ระบบคอมพิวเตอร์” หมายความว่า อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ของคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมการทำงานเข้าด้วยกัน โดยได้มีการกำหนดคำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใด และแนวทางปฏิบัติงานให้อุปกรณ์หรือชุดอุปกรณ์ทำหน้าที่ประมวลผลข้อมูลโดยอัตโนมัติ “ข้อมูลคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูล ข้อความ คำสั่ง ชุดคำสั่ง หรือสิ่งอื่นใดบรรดาที่อยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ในสภาพที่ระบบคอมพิวเตอร์อาจประมวลผลได้ และให้หมายความรวมถึงข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ด้วย “ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์” หมายความว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งแสดงถึงแหล่งกำเนิด ต้นทาง ปลายทาง เส้นทาง เวลา วันที่ ปริมาณ ระยะเวลาชนิดของบริการ หรืออื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อสื่อสารของระบบคอมพิวเตอร์นั้น “ผู้ให้บริการ” หมายความว่า (๑) ผู้ให้บริการแก่บุคคลอื่นในการเข้าสู่อินเทอร์เน็ต หรือให้สามารถติดต่อถึงกันโดยประการอื่น โดยผ่านทางระบบคอมพิวเตอร์ ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการให้บริการในนามของตนเอง หรือในนามหรือเพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น (๒) ผู้ให้บริการเก็บรักษาข้อมูลคอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ของบุคคลอื่น “ผู้ใช้บริการ” หมายความว่า ผู้ใช้บริการของผู้ให้บริการไม่ว่าต้องเสียค่าใช้บริการหรือไม่ก็ตาม “พนักงานเจ้าหน้าที่” หมายความว่า ผู้ซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งให้ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ “รัฐมนตรี” หมายความว่า รัฐมนตรีผู้รักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๔ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ และให้มีอำนาจออกกฎกระทรวงเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ กฎกระทรวงนั้น เมื่อได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้วให้ใช้บังคับได้ หมวด ๑ ความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ----------------------------------------- มาตรา ๕ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหกเดือน หรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๖ ผู้ใดล่วงรู้มาตรการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ที่ผู้อื่นจัดทำขึ้นเป็นการเฉพาะถ้านำมาตรการดังกล่าวไปเปิดเผยโดยมิชอบในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๗ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะและมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๘ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อดักรับไว้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นที่อยู่ระหว่างการส่งในระบบคอมพิวเตอร์ และข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นมิได้มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อให้บุคคลทั่วไปใช้ประโยชน์ได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๙ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทำด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวนจนไม่สามารถทำงานตามปกติได้ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๑ ผู้ใดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือจดหมายอิเล็กทรอนิกส์แก่บุคคลอื่นโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มาของการส่งข้อมูลดังกล่าว อันเป็นการรบกวนการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของบุคคลอื่นโดยปกติสุข ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท มาตรา ๑๒ ถ้าการกระทำความผิดตามมาตรา ๙ หรือมาตรา ๑๐ (๑) ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ไม่ว่าความเสียหายนั้นจะเกิดขึ้นในทันทีหรือในภายหลังและไม่ว่าจะเกิดขึ้นพร้อมกันหรือไม่ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสิบปี และปรับไม่เกินสองแสนบาท (๒) เป็นการกระทำโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวกับการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ ความมั่นคงในทางเศรษฐกิจของประเทศ หรือการบริการสาธารณะ หรือเป็นการกระทำต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่มีไว้เพื่อประโยชน์สาธารณะ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบห้าปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสามแสนบาทถ้าการกระทำความผิดตาม (๒) เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สิบปีถึงยี่สิบปี มาตรา ๑๓ ผู้ใดจำหน่ายหรือเผยแพร่ชุดคำสั่งที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดตามมาตรา ๕ มาตรา ๖ มาตรา ๗ มาตรา ๘ มาตรา ๙ มาตรา ๑๐ หรือมาตรา ๑๑ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๑๔ ผู้ใดกระทำความผิดที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ (๑) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน (๒) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศหรือก่อให้เกิดความตื่นตระหนกแก่ประชาชน (๓) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ อันเป็นความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรหรือความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามประมวลกฎหมายอาญา (๔) นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใด ๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ (๕) เผยแพร่หรือส่งต่อซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยรู้อยู่แล้วว่าเป็นข้อมูลคอมพิวเตอร์ตาม (๑)(๒) (๓) หรือ (๔) มาตรา ๑๕ ผู้ให้บริการผู้ใดจงใจสนับสนุนหรือยินยอมให้มีการกระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ ในระบบคอมพิวเตอร์ที่อยู่ในความควบคุมของตน ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับผู้กระทำความผิดตามมาตรา ๑๔ มาตรา ๑๖ ผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ที่ประชาชนทั่วไปอาจเข้าถึงได้ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ปรากฏเป็นภาพของผู้อื่น และภาพนั้นเป็นภาพที่เกิดจากการสร้างขึ้น ตัดต่อ เติม หรือดัดแปลงด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการอื่นใด ทั้งนี้ โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นนั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ถูกเกลียดชัง หรือได้รับความอับอาย ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ถ้าการกระทำตามวรรคหนึ่ง เป็นการนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์โดยสุจริต ผู้กระทำไม่มีความผิด ความผิดตามวรรคหนึ่งเป็นความผิดอันยอมความได้ ถ้าผู้เสียหายในความผิดตามวรรคหนึ่งตายเสียก่อนร้องทุกข์ ให้บิดา มารดา คู่สมรส หรือ บุตรของผู้เสียหายร้องทุกข์ได้ และให้ถือว่าเป็นผู้เสียหาย มาตรา ๑๗ ผู้ใดกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้นอกราชอาณาจักรและ (๑) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนไทย และรัฐบาลแห่งประเทศที่ความผิดได้เกิดขึ้นหรือผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษ หรือ (๒) ผู้กระทำความผิดนั้นเป็นคนต่างด้าว และรัฐบาลไทยหรือคนไทยเป็นผู้เสียหายและผู้เสียหายได้ร้องขอให้ลงโทษจะต้องรับโทษภายในราชอาณาจักร หมวด ๒ พนักงานเจ้าหน้าที่ ----------------------------------------- มาตรา ๑๘ ภายใต้บังคับมาตรา ๑๙ เพื่อประโยชน์ในการสืบสวนและสอบสวนในกรณีที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ เฉพาะที่จำเป็นเพื่อประโยชน์ในการใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิดและหาตัวผู้กระทำความผิด (๑) มีหนังสือสอบถามหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้มาเพื่อให้ถ้อยคำ ส่งคำชี้แจงเป็นหนังสือ หรือส่งเอกสาร ข้อมูล หรือหลักฐานอื่นใดที่อยู่ในรูปแบบที่สามารถเข้าใจได้ (๒) เรียกข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์จากผู้ให้บริการเกี่ยวกับการติดต่อสื่อสารผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง (๓) สั่งให้ผู้ให้บริการส่งมอบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ใช้บริการที่ต้องเก็บตามมาตรา ๒๖ หรือที่อยู่ในความครอบครองหรือควบคุมของผู้ให้บริการให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ (๔) ทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ จากระบบคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในกรณีที่ระบบคอมพิวเตอร์นั้นยังมิได้อยู่ในความครอบครองของพนักงานเจ้าหน้าที่ (๕) สั่งให้บุคคลซึ่งครอบครองหรือควบคุมข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ ส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ดังกล่าวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ (๖) ตรวจสอบหรือเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด อันเป็นหลักฐานหรืออาจใช้เป็นหลักฐานเกี่ยวกับการกระทำความผิด หรือเพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิดและสั่งให้บุคคลนั้นส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ที่เกี่ยวข้องเท่าที่จำเป็นให้ด้วยก็ได้ (๗) ถอดรหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ของบุคคลใด หรือสั่งให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเข้ารหัสลับของข้อมูลคอมพิวเตอร์ ทำการถอดรหัสลับ หรือให้ความร่วมมือกับพนักงานเจ้าหน้าที่ในการถอดรหัสลับดังกล่าว (๘) ยึดหรืออายัดระบบคอมพิวเตอร์เท่าที่จำเป็นเฉพาะเพื่อประโยชน์ในการทราบรายละเอียดแห่งความผิดและผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ มาตรา ๑๙ การใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อมีคำสั่งอนุญาตให้พนักงานเจ้าหน้าที่ดำเนินการตามคำร้อง ทั้งนี้ คำร้องต้องระบุเหตุอันควรเชื่อได้ว่าบุคคลใดกระทำหรือกำลังจะกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดอันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เหตุที่ต้องใช้อำนาจ ลักษณะของการกระทำความผิด รายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิดและผู้กระทำความผิด เท่าที่สามารถจะระบุได้ ประกอบคำร้องด้วยในการพิจารณาคำร้องให้ศาลพิจารณาคำร้องดังกล่าวโดยเร็วเมื่อศาลมีคำสั่งอนุญาตแล้ว ก่อนดำเนินการตามคำสั่งของศาล ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งสำเนาบันทึกเหตุอันควรเชื่อที่ทำให้ต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) มอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐาน แต่ถ้าไม่มีเจ้าของหรือผู้ครอบครองเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ ณ ที่นั้น ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ส่งมอบสำเนาบันทึกนั้นให้แก่เจ้าของหรือ ผู้ครอบครองดังกล่าวในทันทีที่กระทำได้ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้เป็นหัวหน้าในการดำเนินการตามมาตรา ๑๘ (๔) (๕) (๖) (๗) และ (๘) ส่งสำเนาบันทึกรายละเอียดการดำเนินการและเหตุผลแห่งการดำเนินการให้ศาลที่มีเขตอำนาจภายในสี่สิบแปดชั่วโมงนับแต่เวลาลงมือดำเนินการ เพื่อเป็นหลักฐานการทำสำเนาข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามมาตรา ๑๘ (๔) ให้กระทำได้เฉพาะเมื่อมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ และต้องไม่เป็นอุปสรรคในการดำเนินกิจการของเจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นเกินความจำเป็น การยึดหรืออายัดตามมาตรา ๑๘ (๘) นอกจากจะต้องส่งมอบสำเนาหนังสือแสดงการยึดหรืออายัดมอบให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองระบบคอมพิวเตอร์นั้นไว้เป็นหลักฐานแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งยึดหรืออายัดไว้เกินสามสิบวันมิได้ ในกรณีจำเป็นที่ต้องยึดหรืออายัดไว้นานกว่านั้น ให้ยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอขยายเวลายึดหรืออายัดได้ แต่ศาลจะอนุญาตให้ขยายเวลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งรวมกันได้อีกไม่เกินหกสิบวัน เมื่อหมดความจำเป็นที่จะยึดหรืออายัดหรือครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องส่งคืนระบบคอมพิวเตอร์ที่ยึดหรือถอนการอายัดโดยพลัน หนังสือแสดงการยึดหรืออายัดตามวรรคห้าให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง มาตรา ๒๐ ในกรณีที่การกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่อาจกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามที่กำหนดไว้ในภาคสองลักษณะ ๑ หรือลักษณะ ๑/๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา หรือที่มีลักษณะขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พนักงานเจ้าหน้าที่โดยได้รับความเห็นชอบจากรัฐมนตรีอาจยื่นคำร้อง พร้อมแสดงพยานหลักฐานต่อศาลที่มีเขตอำนาจขอให้มีคำสั่งระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ ในกรณีที่ศาลมีคำสั่งให้ระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามวรรคหนึ่ง ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทำการระงับการทำให้แพร่หลายนั้นเอง หรือสั่งให้ผู้ให้บริการระงับการทำให้แพร่หลายซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นก็ได้ มาตรา ๒๑ ในกรณีที่พนักงานเจ้าหน้าที่พบว่า ข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดมีชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์รวมอยู่ด้วย พนักงานเจ้าหน้าที่อาจยื่นคำร้องต่อศาลที่มีเขตอำนาจเพื่อขอให้มีคำสั่งห้ามจำหน่ายหรือเผยแพร่ หรือสั่งให้เจ้าของหรือผู้ครอบครองข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นระงับการใช้ ทำลายหรือแก้ไขข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นได้ หรือจะกำหนดเงื่อนไขในการใช้ มีไว้ในครอบครอง หรือเผยแพร่ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ดังกล่าวก็ได้ชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์ตามวรรคหนึ่งหมายถึงชุดคำสั่งที่มีผลทำให้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือชุดคำสั่งอื่นเกิดความเสียหาย ถูกทำลาย ถูกแก้ไขเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มเติมขัดข้อง หรือปฏิบัติงานไม่ตรงตามคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือโดยประการอื่นตามที่กำหนดในกฎกระทรวงทั้งนี้ เว้นแต่เป็นชุดคำสั่งที่มุ่งหมายในการป้องกันหรือแก้ไขชุดคำสั่งดังกล่าวข้างต้น ตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาตรา ๒๒ ห้ามมิให้พนักงานเจ้าหน้าที่เปิดเผยหรือส่งมอบข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ให้แก่บุคคลใดความในวรรคหนึ่งมิให้ใช้บังคับกับการกระทำเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ หรือเพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดีกับพนักงานเจ้าหน้าที่เกี่ยวกับการใช้อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ หรือเป็นการกระทำตามคำสั่งหรือที่ได้รับอนุญาตจากศาลพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดฝ่าฝืนวรรคหนึ่งต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๒๓ พนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ใดกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๒๔ ผู้ใดล่วงรู้ข้อมูลคอมพิวเตอร์ ข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลของผู้ใช้บริการ ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามมาตรา ๑๘ และเปิดเผยข้อมูลนั้นต่อผู้หนึ่งผู้ใด ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปี หรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ มาตรา ๒๕ ข้อมูล ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ที่พนักงานเจ้าหน้าที่ได้มาตามพระราชบัญญัตินี้ ให้อ้างและรับฟังเป็นพยานหลักฐานตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาหรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยานได้ แต่ต้องเป็นชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจมีคำมั่นสัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น มาตรา ๒๖ ผู้ให้บริการต้องเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้ไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับแต่วันที่ข้อมูลนั้นเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ แต่ในกรณีจำเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่จะสั่งให้ผู้ให้บริการผู้ใดเก็บรักษาข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ไว้เกินเก้าสิบวันแต่ไม่เกินหนึ่งปีเป็นกรณีพิเศษเฉพาะรายและเฉพาะคราวก็ได้ ผู้ให้บริการจะต้องเก็บรักษาข้อมูลของผู้ใช้บริการเท่าที่จำเป็นเพื่อให้สามารถระบุตัวผู้ใช้บริการนับตั้งแต่เริ่มใช้บริการและต้องเก็บรักษาไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่าเก้าสิบวันนับตั้งแต่การใช้บริการสิ้นสุดลง ความในวรรคหนึ่งจะใช้กับผู้ให้บริการประเภทใด อย่างไร และเมื่อใด ให้เป็นไปตามที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้ให้บริการผู้ใดไม่ปฏิบัติตามมาตรานี้ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินห้าแสนบาท มาตรา ๒๗ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ที่สั่งตามมาตรา ๑๘ หรือมาตรา ๒๐ หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของศาลตามมาตรา ๒๑ ต้องระวางโทษปรับไม่เกินสองแสนบาทและปรับเป็นรายวันอีกไม่เกินวันละห้าพันบาทจนกว่าจะปฏิบัติให้ถูกต้อง มาตรา ๒๘ การแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้รัฐมนตรีแต่งตั้งจากผู้มีความรู้และความชำนาญเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์และมีคุณสมบัติตามที่รัฐมนตรีกำหนด มาตรา ๒๙ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่เป็นพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามีอำนาจรับคำร้องทุกข์หรือรับคำกล่าวโทษ และมีอำนาจในการสืบสวนสอบสวนเฉพาะความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ในการจับ ควบคุม ค้น การทำสำนวนสอบสวนและดำเนินคดีผู้กระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ บรรดาที่เป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจชั้นผู้ใหญ่ หรือพนักงานสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ประสานงานกับพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป ให้นายกรัฐมนตรีในฐานะผู้กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติและรัฐมนตรีมีอำนาจร่วมกันกำหนดระเบียบเกี่ยวกับแนวทางและวิธีปฏิบัติในการดำเนินการตามวรรคสอง มาตรา ๓๐ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องแสดงบัตรประจำตัวต่อบุคคลซึ่งเกี่ยวข้อง บัตรประจำตัวของพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นไปตามแบบที่รัฐมนตรีประกาศในราชกิจจานุเบกษา ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในปัจจุบันระบบคอมพิวเตอร์ได้เป็นส่วนสำคัญของการประกอบกิจการและการดำรงชีวิตของมนุษย์ หากมีผู้กระทำด้วยประการใด ๆ ให้ระบบคอมพิวเตอร์ไม่สามารถทำงานตามคำสั่งที่กำหนดไว้หรือทำให้การทำงานผิดพลาดไปจากคำสั่งที่กำหนดไว้ หรือใช้วิธีการใด ๆ เข้าล่วงรู้ข้อมูล แก้ไข หรือทำลายข้อมูลของบุคคลอื่นในระบบคอมพิวเตอร์โดยมิชอบ หรือใช้ระบบคอมพิวเตอร์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จหรือมีลักษณะอันลามกอนาจาร ย่อมก่อให้เกิดความเสียหาย กระทบกระเทือนต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของรัฐ รวมทั้งความสงบสุขและศีลธรรมอันดีของประชาชน สมควรกำหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำดังกล่าว จึงจำเป็นต้องตราพระราชบัญญัตินี้ ที่มา : ราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๒๔ ตอนที่ ๒๗ ก หน้า ๔ – ๑๓ ประกาศ ณ วันที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๐ |