เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

........เป็นรูปแทนนะครับ.........

ถอดเหมือน Colt หรือเปล่าครับ (ทำแล้วแต่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย งง!)

(http://i17.tinypic.com/4kdz86g.jpg)

(http://i8.tinypic.com/6h6wvw0.jpg)

(http://i7.tinypic.com/4optssg.jpg)

 :~)

ปืนสวยมาก สภาพดีมาก เหลือเชื่อ.....แต่ผมไม่เคยถอดเหมือนกัน เคยแต่ถอด โคลท์ 1908 ลำกล้องบิดได้
เอางี้ คุณบอกถอดบูชหน้าแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จะมีอะไร ได้ไงละครับ ก็คุณดูในภาพลายเส้นให้ดี

ใต้ลำกล้อง ไม่มีโตงเตง แต่เป็นรอยคว้านเหล็กเป็นร่องๆ ซึ่งร่องๆ เหล่านี้ จะไปขัดอยู่กับร่องๆ ที่โครงปืน
เข้าใจไหมครับ พอถอดแล้วลำกล้องมันก็ถอดไม่ออกซิครับ สงสัยต้องหมุนไปทางใดทางหนึ่ง
ให้เขี้ยวลำกล้อง กับเขี้ยวโครงปืน หลุดพ้นจากกัน มันจึงจะถอดได้มั้งครับ ลงดูครับ
เพราะ 1908 ก็หมุนลำกล้อง มีเขี้ยวใต้ลำกล้องเหมือนกัน

ลองดูนะครับ.........

1.ตรวจปืนให้เรียบร้อย ปลดซองกระสุน......เคลียร์กระสุนออกให้หมด........

2. ดึงสไลด์ถอยหลัง เอาคันเซฟแขวนที่ร่องบากตัวหน้า

3.หมุนลำกล้อง เข้าใจว่า หมุนตามเข็มนาฬิกา จากปากลำกล้อง...........ให้แง่บากใต้ลำกล้องหมุนโผล่มาให้เห็นตรงช่องคัดปลอก.........

4. ถอดสไลด์ออกโดยการเลื่อนไปข้างหน้า............ไม่แน่ใจว่าจะต้องหมุนบูชปากลำกล้องออกก่อนหรือไม่......................แต่คิดว่าต้องหมุนบูชปากลำกล้องออกก่อน............เพื่อนำครอบสปริงรีคอยออกก่อน..............แล้วจึงเลื่อนสไลด์ออก

5.เอาสไลด์ออก................เอาสปริงรีคอยกับไกรอดออก.............เอาลำกล้องออก

ใส่ทำกลับกันครับ..............ตอนที่ใส่ ช่วงที่บิดลำกล้องให้ร่องใต้ลำกล้องไปขัด กับแง่บ่าโครงปืน อาจจะขลุกขลักหน่อย ต้องใจเย็นๆ

ลองดูครับ คำแนะนำนี้ใช้กับปืนลักษณะแบบนี้ครับ อาจจะไม่เหมือนกันบ้าง

ขอบคุณพี่เต๋ากับพี่มะขิ่นมากๆครับ เดี่ยวสิ้นเดือนกลับบ้านแล้วจะมารายงานผลครับ

ปล.ปืนลุงข้างบ้านครับ...แกเอามาให้ดูครับเพราะตั้งแต่แกซื้อมาแกไม่เคยถอดเลย แต่น่าเสียดายที่แกเอาไปรมดำใหม่ ไม่ได้เอาไปรมที่ร้านนะครับแต่มีรถมารับเอาไปรมนำทีมด้วยผู้ใหญ่บ้าน เอาไปรมกันที่ศาลาวัด ของพ่อผมก็โดน P-08 ตัวเลขตัวหนังสือหายหมด โดนกันทั้งหมู่บ้าน กระบอกละ 800 ร้อย ผมละเซ็งเลย....

P-08 ของพ่อดูชิครับตัวหนังสือหายหมดเลย

(http://i10.tinypic.com/52bkgw1.jpg)

ขอเข้ามาชมหน่อย    การถอดเหมือนที่ท่านมะขิ่นว่าครับ
แต่โชคดีนะครับรมดำเร่ร่อน ตัวหนังสือยังอยู่ ปรูพยังอยู่  ตอนหนุ่มๆเจอกระบอกหนึ่ง เอามาฝากขายที่ร้านว่อมลพบุรี มีด้ามไม้ต่อด้วย แต่จำไม่แม่นว่า ลูก 9 มม สั้นกว่า 9 ทั่วไป แต่ยาวกว่า 380 ใช่ไหมครับท่านมะขิ่นขอความรู้หน่อย

ถามถึงปืนอะไรครับ..............ผมงง

คุณเชื่อไหมครับ   พอผมเห็น พี 08 แบบโล้นล้านเลี่ยนเตียนโล่งแบบนี้แล้ว เหมือนหัวใจผมสลายไปทันที
ช่างรมปืนคนนั้น ท่านคงเป็นช่างอย่างแท้จริง เป็นช่างที่ทำงานเพียงแค่หาเงินเข้ากระเป๋าเลี้ยงชีพ โดยมิได้คิดถึงศิลปะ หรือคุณค่าทางประวัติศาสตร์อะไรเลย
ผมเหลือเชื่อว่า ในพื้นทื่ต่างจังหวัด ยังมีปืนสภาพดีๆ แบบนี้หลงเหลืออยู่
แต่เนื่องจาก การจะนำปืนมารมในกทม. และเข้ารมกับร้านที่เป็นช่างปืน และช่างศิลปะ และผู้อนุรักษ์ประวัติศาสตร์ นั้น
ค่าใช้จ่าย มันแพงกว่า 800 บาทของคุณ เป็น 3-5 เท่าตัว บางคนก็เลยเอาง่ายเข้าว่า ถูกเข้าว่าด้วย ไม่ต้องหิ้วปืนเข้ามากทม.
แต่คุณทราบไหมครับ สิ่งที่อยู่ในมือของคุณ เอฟเอ็น 1903  หรือ พี 08 ของลุงคุณนั้น คือประวัติศาสตร์ของโลกไปแล้ว ปืนเหล่านี้ เป็นประวัติศาสตร์คู่กับประเทศไทย ตั้งแต่ยังใช้ชื่อ ประเทศสยามอยู่เลย
ปืนเหล่านี้ มีค่ามาก พอๆ กับถ้วยชามสังคโลก เลยทีเดียว
คิดดู ใครเอาชามสังคโลก มาลบลายออก ชามสังคโลก ก็มีสภาพเป็นชามตราไก่ สวนจตุจักรนั่นเอง

ดังนั้น ขอให้ท่านได้โปรด ดูหมู่บ้านข้างๆ ด้วยนะครับ เพราะท่านโดนทั้งหมู่บ้านแล้ว  ช่างรมเจ้านี้มาเมื่อไหร่ ก็อย่าไปสนับสนุนเขานะครับ
สงสารปืนที่มีคุณค่าเหล่านี้ จะถูกทำลายไปโดย รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของเจ้าของปืน และความง่ายๆ ของช่างรมปืน

 ;)ครับพี่เต๋า......นี้เป็นเพียงแค่ปืนของพ่อผมกับลุง (ปืนมรดกทั้งคู่) กลับบ้านคราวหน้าผมจะขอถ่ายรูปปืนที่มีอยู่ในหมู่บ้านผมมาให้ดู เท่าที่ทราบตาบอกว่า พาราเบลลัม กับ เมาเซอร์ มีอยู่หลายบ้านเหมือนกัน ฟังตาเล่าเรื่องเก่าๆแล้วอยากไปอยู่เวลานั้นจัง คือตาเล่าว่าแถวๆนั้นผู้ชายจะพกปืนกันทุกคนไม่ว่าจะไปไหนแล้วอาชญากรรมมีน้อยมากมีทีก็ปล้นหมู่บ้านปล้นตลาดเลย.... ;)

ขอบพระคุณครับ ถ่ายภาพมาเยอะๆ เลยครับ ท่านยิ่งถ่ายมามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นการยืนยันประวัติศาสตร์อาวุธปืนในเมืองไทยเลยครับ
การกระทำของท่าน เหมือนพวกนักสำรวจ ที่กำลังจะไปขุดพื้นดินสำรวจ ซากกระดูกไดโนเสาร์นั่นแหละครับ
ยิ่งเราเห็นปืนในท้องที่มากเท่าไร เราก็ยิ่งเข้าใจประวัติศาสตร์ปืนในท้องที่นั้นๆ รวมทั้งประเทศไทย มากขึ้นด้วย

อย่างเช่น ปืน ตีตรา ยูเอสอาร์มี่ ทำไมมาอยู่ในเมืองไทย มากกว่าประเทศอื่นๆ ในโลกนี้ ทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นฐานทัพของอเมริกันซักกะหน่อย ........................นั่นแหละครับ มันจะเรื่องราวให้ค้นหาว่าทำไม  มันจึงเข้ามากนัก แล้วแถมยังเอาสมบัติของสหรัฐมาตีทะเบียน เป็นของส่วนตัวกันได้อีกด้วยนั่นแหละ ..............................