เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

อยากรบกวนพี่ๆ ครับ ใครเป็นคนเริ่มคิด เริ่มทำ และปืนกระบอกแรกที่มีเกลียวนะครับ

ขอบคุณครับผม   :) :) :)

เกลียวลำกล้อง มีหน้าที่ทำให้กระสุนที่วิ่งผ่านเหลียวลำกล้องหมุนตัวไปตามเกลียว เมื่อพ้นปากลำกล้องแล้ว กระสุนก็ยังหมุนตัวอยู่จนกระทั่งหมดแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ ทำให้กระสุนนัดนั้นวิ่งเป็นวิถีที่คงที่ ไม่เบี่ยงเบนมากเหมือนกับปืนที่ไม่มีเกลียวในลำกล้อง

ส่วนปืนกระบอกแรกที่มีเกลียวผมยังหาคนคิดคนแรกไม่เจอ ไม่แน่ใจว่า เป็น ใคร แต่ที่แน่ ๆ เป็นช่วงสมัยก่อนที่ อเมริกา แยกตัวออกจากจักรภพอังกฤษ เป็นปืน บรรจุกระสุนจากทางปากลำกล้อง การสร้างเกลียวสมัยนั้นทำโดยนำเหล็กเส้น 5-6 เส้นมา เผาให้ร้อนแล้วตีบิดเป็นเกลียวไปตามแกนกลางเมื่อถอดแกนกลางออก จึงได้ลำกล้องปืนที่เป็นเกลียว จากนั้นจึงนำปลายด้านหนึ่งไปเผาไฟ และตีปิด จะได้ลำกล้องของปืน คาบศิลาที่มีเกลียวในลำกล้อง มีความแม่นยำมากขึ้น ต่อมาเมื่อมีการหล่อลำกล้องปืนได้สำเร็จ การนำเหล็กเส้นมาตีลำกล้องจึงได้ยกเลิกไป

ขอบคุณ จขกท. ที่ถาม และขอบคุณมากๆ สำหรับท่านที่ตอบ เพราะผมก็อยากรู้ เรื่องในอดีตเกี่ยวปืนต่างๆ เป็นเรื่องที่ผมชอบ แต่ไม่ค่อยศึกษา มาหาอ่านเอาในนี้แหล่ะ พี่ๆ หลายๆ ท่านเก่งมากๆ ยอมรับ

ถามเป็นความรู้นะครับ  ไม่ทราบว่าเกลียวในลำกล้อง หมุนไปทางเดียวกันทุกกระบอกรึเปล่า  ???

ผมจำได้ว่าเลาๆว่า เริ่มทีเดียวเกลียวลำกล้องไม่ได้ทำเพื่อหวังผลในการยิงและบังคับทิศทางกระสุนนะครับ
แต่เป็นผลพลอยได้โดยบังเอิญจากการทำอะไรซักอย่างกับลำกล้อง จำไม่ได้จริงๆ
เดี๋ยวขอทบทวนความจำก่อน (เคยดูทางช่อง discovery เดือนที่แล้วนี่เอง) ใครทราบช่วยขยายความหน่อยนะครับ

ขอบคุณพี่ 686  และ  พี่ big single ครับ
บอร์ดนี้มีทุกคำตอบจิงๆ ครับ ทีแรกผมยังนึกว่าเกลียวลำกล้องมันเริ่มพร้อมๆ กับกระสุนแบบมีปลอกซะอีก
ถ้ามีพี่ๆ ท่านใดช่วยขยายความ รบกวนด้วยนะครับ
ด้วยความนับถืออย่างยิ่งครับผม

ทีแรกเกลียวในลำกล้องทำเพื่อให้ร่องตรงๆ เพื่อให้เขม่าที่เกิดจากการเผาใหม้มาอยู่ในร่องลดการสะสมของเขม่า พอนานๆ ไปค่อยพัฒนามาเป็นเกลียวทีหลัง

เคยดูเหมือนกันครับ  :VOV: :VOV: :VOV:  เกิดตั้งแต่ปืนสมัยสงครามโลกครับ ที่เอาแท่งเหล็กแหย่ๆดินปืน แล้วเอาลูกกลมๆหยอดลงไปในลำกล้องอะครับ  เรียกไม่ถูกเหมือนกัน

มีสองสมมุติฐานครับ
1  เกิดจากความฟลุ๊ค  ทำร่องตรง ๆ เพื่อเก็บเขม่า จะได้ยืดเวลาล้างปืนออกไป  แล้วเกิดมีช่างปืนทดลองทำร่องเวียนเพื่อให้ร่องยาวมากขึ้น    และพบว่าทำให้ปืนแม่นยำมากขึ้น
2  เจตนาทำร่องเวียนเพื่อให้กระสุนหมุนตัว   เนื่องจากคนโบราณค้นพบตั้งแต่สามพันปีแล้วว่าถ้าบิดขนนกให้ลูกธนูหมุนตัวแล้วจะแม่นขึ้น   พอถึงยุคปืน แล้วต้องการทำหัวกระสุนทรงยาวเพื่อเพิ่มน้ำหนักหัวกระสุน ก็เลยทำเกลียวลำกล้องให้หัวกระสุนหมุนตัวเหมือนกับลูกธนู

ปืนเล็ก   จะเวียนทางไหนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จะเวียนขวา  และมีไม่เกิน 5% ที่เวียนซ้าย
ปืนใหญ่  แบบเดียวกัน จะเวียนในทางเดียวกันทั้งหมด  เพราะกระสุนปืนใหญ่ต้องการ การหมุนตัวเพื่อปลดชนวนนิรภัยหัวรบ

ขอบคุณสำหรับความรู้นี้มากครับ

ปืนลูกซอง   ไม่มีเกลียวในลำกล้อง   

ก็ใช้วิธี  ทำกระสุนลูกโดด  มีเกลียว  หรือมีครีบ เพื่อประคองวิถีกระสุน

เสริมรองฯป้อม
(http://www.corbins.com/images/slugs.gif)

ลูกซองที่ออกแบบมาสำหรับยิงลูกโดด บางกระบอกก็เห็นทำเกลียวลำกล้องครับ

เหมาะสำหรับกระสุนลูกโดดแบบ sabot ครับ

(http://img168.imageshack.us/img168/5407/premiercoppersolidsabotpq8.jpg) (http://imageshack.us)

ไม่ทราบว่า โรงกลึงบ้านเราทำได้ไหมครับ
ไม่เคยเห็นใครทำสักที

ลำกล้องเกลียว ต้องคู่กับกระสุนทรงกระบอกด้วยครับ ...

ยุคแรก ๆ ใช้เม็ดกระสุนกลม ๆ เวลาหมุนจะไม่ได้ประโยชน์เต็มที่นัก (ลูกกอลฟ์กลม ๆ ใช้หลักการอื่นในการทรงตัว)

กระสุนทรงกระบอกเกิดขึ้นตอนไหน จำไม่ได้ แต่ตอนแรกคนคิดกะว่าถ้าหล่อกรสุนเป็นทรงกระบอก ท้ายกลวง จะทำให้ท้ายกระสุนบานออกเพื่อซีลกาซ กระสุนจะได้แรงขึ้น ...

กระสุนทรงกระบอกทำให้ได้ประโยชน์จากการหมุนรอบแนวแกนยิงครับ คือยิงได้แม่นยำขึ้นครับ ...

เดวี่ ครอกเกต ตายที่อลาโม่ ปี 1836 ครับ ช่วงนั้นมีปืนไรเฟิลแล้ว แต่ทำยากและแพงครับ

เขาว่านายเดวี่แม่นปืนมาก ยิงสายป่านว่าวขาด แต่ไม่ได้บอกว่ายิงที่ระยะเท่าไหร่ ถ้าจ่อๆ รับรองขาดดแน่ถ้าใส่ดินดำมากๆ ไฟแลบยาว ชาวเมกันสมัยนั้นต้องประหยัดดินปืน จะทดสอบยิงเวลามีหิมะบนพื้น ลดขนาดดินปืนให้พอดีไหม้หมดเท่าระยะลำกล้อง ไม่ให้เหลือผงดินดำที่ไม่ไหม้ตกบนหิมะให้เห็น

สมัยแรกๆ ท่ลำกล้องมีเกลียวแต่กระสุนยังเป็นเม็ดกลม บางทีเขาใช้แผ่นหนังแข็งหุ้มกระสุนไว่้ก่อนกระทุ้งลงปากลำกล้องเพื่อช่วยให้จับกับเกลียว ต่อมาก็ทำเป็นทรงกระบอกท้ายกลวงอย่างที่พี่จักกฤษบอก

จาก http://en.wikipedia.org/wiki/Bullet

As firearms became more technologically advanced, from 1500 to 1800, bullets changed very little. They remained simple round lead balls, called rounds, differing only in their diameter.
ปืนมีการพัฒนามากในช่วงปี 1500 - 1800 แต่หัวกระสุนเปลี่ยนแปลงน้อยมาก มันยังคงเป็นลูกตะกั่วกลม ๆ เรียกเป็นนัด ความแตกต่างอยู่ที่เส้นผ่านศูนย์กลาง

The first half of the nineteenth century saw a distinct change in the shape and function of the bullet. In 1826, Delirque, a French infantry officer, invented a breech with abrupt shoulders on which a spherical bullet was rammed down until it caught the rifling grooves. Delirque's method, however, deformed the bullet and was inaccurate
ช่วงแรกของศตวรรษที่ 19 มีการเปลี่ยนแปลงในรูปร่างและการทำงานของหัวกระสุน ในปี 1826 Delirque นายทหารฝรั่งเศสได้ประดิษฐ์ หน้าเลื่อนปืนที่มีไหล่ลาดเอียง ทำให้หัวกระสุนทรงกลมถูกบีบจนจับเกลียวลำกล้อง อย่างไรก็ตามกระสุนที่ผิดรูปไม่มีความแม่นยำ

Among the first pointed or "bullet-shaped" bullets were designed by Captain John Norton of the British Army in 1823. Norton's bullet had a hollow base which expanded under pressure to catch the rifling grooves at the moment of being fired; the British Board of Ordnance rejected it because spherical bullets had been in use for the last 300 years.
ในยุคแรก ๆ ของ "หัวกระสุนที่มีรูปร่าง" หัวกระสุนที่ถูกออกแบบโดย Captain John Norton แห่งกองทัพอังกฤษในปี 1823 หัวกระสุนของ Norton จะขยายตัวจับเกลียวลำกล้องในเวลายิง แต่ British Board of Ordnance ไม่ใช้ เนื่องจากการใช้หัวกระสุนทรงกลม มีมานานกว่า 300 ปี

ฯลฯ มีอีกเยอะครับ ลองไปอ่านกันดู ;D ;D

Renowned English gunsmith William Greener invented the Greener bullet in 1836. It was very similar to Norton's bullet except that the hollow base of the bullet was fitted with a wooden plug which more reliably forced the base of the bullet to expand and catch the rifling. Tests proved that Greener's bullet was extremely effective but it too was rejected for military use because, being two parts, it was judged as being too complicated to produce.

The soft lead bullet that came to be known as the Minié ball, (or minnie ball) was first introduced in 1847 by Claude Étienne Minié (1814? - 1879), a captain in the French Army. It was nearly identical to the Greener bullet. As designed by Minié, the bullet was conical in shape with a hollow cavity in the rear, which was fitted with a little iron cap instead of a wooden plug. When fired, the iron cap would force itself into the hollow cavity at the rear of the bullet, thereby expanding the sides of the bullet to grip and engage the rifling. In 1855, the British adopted the Minié ball for their Enfield rifles.

ขอบคุณพี่ๆ ทุกท่านครับผม  :D :D :D

แล้วการหมุนของหัวกระสุน มีผลถึงอำนาจทะลุทะลวงด้วยมั้ยครับ

แล้วการหมุนของหัวกระสุน มีผลถึงอำนาจทะลุทะลวงด้วยมั้ยครับ

มีแน่นอนครับ เมื่อยิงปืนขนาดเดียวกันไปยังแท่งเจลทดสอบการทะลุทะลวง กระสุนที่ยิงจากปืนที่มีเกลียวลำกล้อง กระสุนจะทะลุเป็นทาง ส่วนกระสุนที่ยิงจากปืนที่ไม่มีเกลียวการทะลุจะหมุนคว้างเข้าไม่ลึกแต่คว้านแท่งเจลเป็นรูใหญ่กว่า เพราะ กระสุนเข้าไปอย่างไม่มีทิศทาง

ได้ความรู้เพิ่มอีกแล้ว ;D