|
หัวข้อ: เมื่อ ทิฐิ ออกท่องโลกกว้าง เริ่มหัวข้อโดย: E_mail ที่ กรกฎาคม 11, 2007, 02:15:45 PM น้ำกับทิฐิ
นานมาแล้ว มีชายคนหนึ่งชื่อว่า ทิฐิ เขามีนิสัยอวดดื้อถือดีไม่ต่างจากชื่อ เพราะเมื่อได้ลองเชื่อมั่นในสิ่งใดแล้ว ทิฐิคนนี้ก็จะเชื่อมั่นถือมั่นในสิ่งนั้นไม่เปลี่ยน และจะไม่ยอมรับฟังข้อคิดเห็นที่ผิดไปจากความเชื่อเดิมโดยเด็ดขาด แม้ว่านี่จะแสดงให้เห็นถึงความเป็นคนเอาจริงเอาจังและเคร่งครัดกับชีวิต แต่บางครั้งเขาก็ดื้อรั้นมากเกินไปจนขาดเหตุผล และทำให้สูญเสียสิ่งดีๆในชีวิตไปมากมาย โดยที่เขาเองก็ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน เนื่องจากทิฐิไม่ใช่คนร่ำรวย ดังนั้นเขาจึงต้องทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย จนกระทั่งมีฐานะดีขึ้นมาระดับหนึ่งแล้ว ทิฐิจึงคิดที่จะหยุดพักตัวเองจากการงาน แล้วเดินทางไปเรื่อยๆเพื่อชมโลกกว้าง ทิฐิเดินทางไปยังที่ต่างๆ ชมนั่น แลนี่ และพูดคุยกับผู้คนที่อยู่ในที่เหล่านั้นมากมาย การท่องโลกกว้างของทิฐิน่าจะทำให้เขามีความรู้ดีๆ หรือเกิดทัศนคติใหม่ๆขึ้นมาบ้าง แต่เมื่อไรก็ตามที่มีคนกล่าวคำผิดไปจากความรู้ หรือความเชื่อมั่นเดิมของเขา ทิฐิก็จะรีบกล่าวแก่คนนั้นทันทีว่า นั่นไม่ถูกเลยนะ ที่จริงแล้วมันต้องเป็นดังที่ข้ารู้มาต่างหากล่ะ .....สิ่งนี้เองที่ทำให้การเดินทางไปทั่วโลกของเขาแทบจะไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใดขึ้นในชีวิตของเขาเลย..... จนกระทั่งวันหนึ่ง ทิฐิได้พลัดหลงเข้าไปในดินแดนแห่งทะเลทรายอันแสนแห้งแล้ง และไร้ผู้คนสัญจร เขาหลงทางอยู่ในดินแดนแห่งนั้นสามวันสามคืน จนกระทั่งอาหารและน้ำดื่มหมดลง ทิฐิจึงเดินต่อไปไม่ไหว เขาล้มลงนอนบนผืนทรายอย่างคนสิ้นเรี่ยวแรง แต่ทิฐิยังไม่อยากตายตอนนี้ เขารวบรวมพลังใจของตนเฝ้ากล่าวคำภาวนาขอความเมตตาจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ช่วยเหลือเขาด้วย ข้าแต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้โปรดเมตตาข้า ผู้ซึ่งไม่เคยเบียดเบียนใครขอทรงประทานน้ำมาให้ข้าเพื่อรักษาชีวิตของตนเองไว้ แม้เพียงหนึ่งหยดก็ยังดี แล้วในตอนนั้นเอง ทิฐิก็เห็นชายแปลกหน้าชาวเยอรมันคนหนึ่งเดินตรงหาเขา ทิฐิดีใจสุดจะกล่าว แล้วรีบพูดขึ้นทันทีว่า โอ...ท่านผู้เป็นความหวังของข้า โปรดแบ่งน้ำของท่านให้ข้าดื่มด้วยเถิด ชายคนนั้นยื่นถุงสีน้ำตาลในมือให้แก่ทิฐิแล้วกล่าวว่า นี่คือ วาสซ่าร์ จงดื่มเสียสิ แต่ทิฐิไม่อยากได้วาสซ่าร์ เขาอยากได้น้ำ ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธที่จะรับถุงหนังสีน้ำตาลจากชายแปลกหน้าคนนั้น ชายคนนั้นจึงเดินจากไป ทิฐิภาวนาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง คราวนี้มีชายชาวจีนคนหนึ่งเดินถือถุงหนังสีแดงเข้ามายื่นให้แก่ทิฐิ นี่คือ น้ำ ใช่หรือไม่ ทิฐิถามชายชาวจีน นี่คือ ซือจุ้ย จงดื่มเสียสิ ชายชาวจีนตอบ ทิฐิรู้สึกไม่พอใจ ตอนนี้เขากระหายน้ำมากเหลือเกินแล้ว แต่ทำไมชายผู้นี้จึงนำซือจุ้ย มามอบให้แก่เขาเล่า ทิฐิจึงปฏิเสธถุงหนังสีแดงของชายชาวจีน ชายชาวจีนจึงเดินจากไป ทิฐิจึงเริ่มภาวนาถึงสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีก และครั้งนี้มีผู้หญิงชาวอินเดียคนหนึ่งมาปรากฎกายอยู่ตรงหน้าของเขาแทบจะทันที เธอผู้มีใจเมตตา ขอน้ำให้ข้าดื่มหน่อยเถิด ทิฐิพึมพำคำอ้อนวอนออกจากริมฝีปากที่แห้งผาก นี่คือ ปานี จงดื่มเสียสิ ชาวอินเดียกล่าวพร้อมกับยื่นถุงหนังสีเขียวให้แก่ทิฐิ แต่นั่นทำให้ทิฐิโกรธมาก เขารวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่มี ยกแขนปัดถุงหนังสีเขียวให้พ้นหน้า แล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า ข้าไม่เอาของๆเจ้า ข้าจะตายเพราะขาดน้ำอยู่แล้ว ข้าต้องการน้ำเท่านั้น! หญิงอินเดียเมื่อได้ยินดังนั้นก็เดินผ่านไปอีกคน ทิฐิเฝ้าอ้อนวอนขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง แต่คราวนี้ไม่มีอะไรนำมายื่นให้เขาอีกแล้ว จิตของทิฐิกำลังหลุดลอยจากร่างที่ใกล้แตกดับ แล้วในตอนนั้นเองเสียงๆหนึ่งก็ดังแว่วๆให้ได้ยินว่า ทิฐิคนถือดีเอ๋ย เราช่วยเจ้าแล้ว แต่เจ้ากลับไม่เคยให้โอกาสตนเองเลย หากเจ้าเปิดใจให้กว้างและยอมรับในข้อดีของสิ่งที่ไม่คุ้นเคยเสียบ้าง เจ้าก็คงรู้ว่าสิ่งที่อยู่ในถุงหนังทั้งสามนั้น ต่างก็เป็นน้ำดื่มบริสุทธิ์ทั้งสิ้น เมื่อสิ้นเสียงแว่วนั้น ทิฐิคนถือดีก็สิ้นลมหายใจทันที.............. เธอทั้งหลาย เรื่องราวของทิฐินั้นสอนให้เราเปิดตาของตนเองให้กว้างแล้วมองสิ่งต่างๆรอบตัวด้วยสายตาและหัวใจที่ไร้อคติ หากเธอปิดกั้นหัวใจและสายตาของเธอไว้ เธอก็อาจพลาดสิ่งดีๆในชีวิตไปอย่างน่าเสียดาย ซึ่งบางครั้งสิ่งดีๆเหล่านั้นอาจไม่หวนกลับมาหาเธออีกแล้ว หรืออีกนัยหนึ่ง นิทานเรื่องนี้กำลังบอกเธอทุกคนเรื่องนับถือศาสนาต่างกัน แต่กำลังยืนอยู่บนโลกใบเดียวกัน จงอย่าลืมว่า ศาสนาทุกศาสนานั้น ถือกำเนิดด้วยความปรารถนาที่จะให้มีคนดีๆอยู่ร่วมกันเป็นจำนวนมาก แม้คำสอนบางประการจะแตกต่างกัน แม้เสียงสวดมนต์จะเป็นคนละเสียง และธรรมเนียมปฏิบัติก็ไม่มีอะไรที่เหมือนกันเลย แต่เธอทุกคนล้วนได้รับการปลูกฝังให้เติบโตเป็นคนดีเหมือนกัน ดังนั้น ขอให้เธอเปิดใจตัวเองให้กว้าง และเคารพในคำสอนของศาสนาอื่น แม้เธอจะไม่ได้เป็นศาสนิกชนของศาสนานั้น เธออาจจะนำคำสอนของเขามาประยุกต์ใช้กับของตนเองบ้าง ถ้าพบว่ามันเข้ากันได้ดีกับการดำเนินชวิตของเธอ ไม่เห็นแปลกตรงไหน หากเธอจะนำคำสั่งสอนเหล่านั้นมาปฏิบัติ ในเมื่อทุกศาสนาล้วนหมายมั่นที่จะพิชิตยอดเขาเดียวกันนั่นคือ ยอดเขาแห่งความดี ความรัก และความเมตตา นิทานเรื่องนี้ คัดลอกจาก นิทานสีขาว โดย ดร. อาจอง ชุมสาย หัวข้อ: Re: เมื่อ ทิฐิ ออกท่องโลกกว้าง เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ กรกฎาคม 11, 2007, 02:29:32 PM ขอบคุณครับ จะเปิดโลกทัศน์ให้กว้างขึ้นครับ หัวข้อ: Re: เมื่อ ทิฐิ ออกท่องโลกกว้าง เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 11, 2007, 02:54:38 PM ขอบคุณมากครับ คุณจ้าว ..
จะพบเห็นก็ต่อเมื่อผู้นั้นได้ แสดงความเห็น. . แม้เป็นสิทธิ แต่เราก็อาจมีสิทธิ ปฎิเสธ ไม่เลือกคบ คนพันธ์ นี้ ผมก็ยังพบเห็น คนอย่าง ทิฐิ อยู่ในทุกชุมชน ในจำนวนที่มาก เสียด้วย แม้ ในเวปนี้ ก็ยังอาจพบได้ไม่ยากนัก. :) หัวข้อ: Re: เมื่อ ทิฐิ ออกท่องโลกกว้าง เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ กรกฎาคม 11, 2007, 03:04:20 PM ขอบคุณครับ
นำมาให้อ่าน อีกนะครับ |