หัวข้อ: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:08:37 PM (http://www.bccorvetteclub.ca/bccorvetteclub/7-eleven_logo.gif)
โลโก้ 7-ELEVEn มีใครเคยสังเกตบ้างมั้ยครับ ทำไมตัว n ที่อยู่ข้างหลังสุดถึงต้องเป็นตัวเล็ก? :D เล่ากันว่า ผู้เป็นเจ้าของ 7-ELEVEn มีความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จึงได้เลือกใช้อักษร n ตัวเล็กแทนที่จะเป็น N ตัวใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะ n เล็ก มีรูปร่างคล้ายกับแม่เหล็ก (ที่เป็นทรงเกือกม้า) จะได้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตัวดูดเงินดูดทองเข้าร้านคอยนำมาซึ่งโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ให้แก่กิจการสืบไป หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: 51 ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:11:30 PM CP เป็นบริษัทหนึ่ง
ที่ใช้การดูโหวงเฮ้งจากการสมัครงานของผู้บริการระดับสูง ครับ และ 7-11 ก็เป็นบริษัทในเครือ CP จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น... หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: tra-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:16:21 PM ความเป็นมาครับ...
นับย้อนกลับไปเมื่อปีพ.ศ. 2470 ตั้งแต่ครั้งที่บริษัท เซาท์แลนด์ ไอซ์ (เซาท์แลนด์ คอร์ปเรชั่น) เริ่มต้นกิจการผลิตและจัดจำหน่ายน้ำแข็งที่เมืองดัลลัส มลรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำสินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ มาจำหน่าย เพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้าไปพร้อม ๆ กันด้วย จึงเปลี่ยนชื่อเป็น Tote'm Store และต่อมาในปีพ.ศ. 2489 ได้ปลี่ยนชื่ออีกครั้งเป็น Seven-Eleven (เซเว่น-อีเลฟเว่น) เพื่อรองรับการขยายกิจการนี้ และสื่อถึงเวลาที่เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่ 07.00 - 23.00 น. นับจากนั้นเป็นต้นมา เซเว่นอีเลฟเว่นกลายเป็นรูปแบบการค้าปลีกที่ได้รับความนิยม จนมีการขยายสาขาไปทั่วโลก ซึ่งช่วยกระตุ้นให้ธุรกิจค้าปลีกพัฒนารูปแบบไปสู่ความทันสมัย ในปัจจุบัน เซเว่นอีเลฟเว่นเป็นร้านสะดวกซื้อที่มีสาขามากที่สุดทั่วโลก จำนวน 26,898 แห่ง หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: JJ-รักในหลวง ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:22:38 PM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:38:57 PM :) มาเล่าต่อเรื่องของ 7 eleven
:) นอกจากจะเป็นเรื่องการจัดการที่ดีแล้ว เรื่องของฮวงจุ้ยก็มีส่วนสำคัญมากในการเจริญเติบโตของ 7 eleven ฮวงจุ้ยที่ทำให้เจริญเติบโตสิ่งแรก คือ โลโก้ เพราะเป็นสิ่งที่ชี้นำการตกแต่งร้านได้ ชี้นำอย่างไรต้องอ่านต่อครับ โลโก้ของ 7 eleven ประกอบไปด้วย 3 สี 3 ธาตุ คือ เขียว (ธาตุไม้) ส้ม (ธาตุไฟ) ขาว (ธาตุดิน) ธาตุทั้งสามนี้เกื้อหนุนกัน คือ ไม้ส่งเสริมไฟ ไฟส่งเสริมดิน อ่านตามความหมายการดำเนินธุรกิจได้ดังนี้ ธาตุไม้ คือ เครื่องอุปโภคบริโภค ธาตุไฟ คือ การกระตุ้นให้เจริญเติบโต ดิน คือ มั่นคง แข็งแรง การตกแต่งสีภายในร้านจึงใช้สีของธาตุสุดท้ายที่ส่งเสริม คือ สีขาว ทั้งนี้ทั้งนั้นเพื่อความมั่นคง เจริญก้าวหน้าของธุรกิจ เรื่องชื่อก็มีส่วนสำคัญมากเช่นกัน 7 eleven เขียนเป็นตัวเลขได้ 7 กับ 11 ถ้าวิเคราะห์ตามหลักของฮวงจุ้ยไทยแล้ว เลข 7 คือ ดาวเสาร์ ธาตุไฟ เลข 11 คือ พระอาทิตย์ ธาตุไฟเช่นกัน เพราะฉะนั้นสิ่งที่นำมาใช้ตกแต่งร้านตามโลโก้ คือ ธาตุไฟ สังเกตดูซิครับ ว่าสิ่งที่ทำให้ 7 eleven โดดเด่นกว่าร้านสะดวกซื้อทั่วไป คือ ร้านสีขาวที่ประดับไฟไว้อย่างอลังการงานสร้าง โดดเด่นทุกมุมมอง แม้แต่ตอนกลางวันก็ไม่ได้เบาไฟลงเลยแม้แต่น้อย ส่วนที่สอง คือ การเปิดประตูมังกร สังเกตดูร้อยละ 90 ของ 7 eleven จะเปิดประตูมังกร ทีนี้สังเกตอย่างไรจึงจะเป็นมังกร คนจีนเชื่อว่าถ้าหันหน้าออกนอกบ้านประตูอยู่ซ้ายมือ หันเข้าบ้านประตูอยู่ขวามือประตู นั่นคือ ประตูมังกร จะส่งเสริมเรื่องของการค้า ธุรกิจ ให้เจริญก้าวหน้าร่ำรวย เพราะมังกรคือสัตว์มงคลของชาวจีน ความเชื่อเรื่องของมังกรเขียวและเสือขาวได้รับอิทธิพลมาจาก หยิน หยาง ของลัทธิเต๋า ที่มีความเชื่อว่า สิ่งที่เคลื่อนไหวต้องอยู่คู่กับความนิ่งเฉย มังกรเขียวคือการเคลื่อนไหว เสือขาวคือความนิ่งเฉย ควรมีสองสิ่งอย่าง “สมดุล” กัน ไม่ให้มีมากหรือน้อยจนเกินไป ถ้าเปิดประตูฝั่งหนึ่งควรปิดอีกฝั่งหนึ่ง ไม่ควรเปิดประตูไว้สองฝั่ง เพราะคนจีนมีความเชื่อที่ว่าถ้ามีความเคลื่อนไหวมากเกินไปจะเก็บทรัพย์ไว้ ไม่อยู่ จะว่าไป ความเชื่อนี้ตั้งอยู่บนหลักการวิทยาศาสตร์ เพราะถ้าสมมติว่าเปิดประตูทั้งสองด้าน เราจะไม่สามารถควบคุมสอดส่องดูแลมิจฉาชีพที่มาจ้องขโมยสินค้าของเราไปได้ ถ้าของที่เราค้าขายเกิดหายไปวันละนิดวันละหน่อย เท่ากับว่าเราค้าขายเท่าไหร่ก็ไม่มีกำไร เมื่อเป็นเช่นนี้ก็เท่ากับการเก็บทรัพย์ไม่อยู่นั่นเอง การเปิดประตูมังกรของ 7 eleven มีนัยอีกอย่าง คือประตูอยู่ด้านขวาเมื่อมองเข้าไป เท่ากับว่าจะทางร้านจะมีพื้นที่ให้โฆษณาแคมเปญ หรือสินค้าทั้งหลาย เมื่อใครที่เดินผ่านจากขวาไปซ้าย จะมีเวลาให้ตัดสินใจซื้อสินค้า ดูแคมเปญโปรโมชั่นต่างๆ และพิจารณาว่าขาดเหลืออะไรก่อนที่จะผ่านประตูทางเข้า เป็นการใช้จิตวิทยาสำหรับการขายสินค้า หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: Ramsjai ที่ สิงหาคม 11, 2007, 05:48:00 PM ขอบคุณค่ะ ได้ความรู้อีกเรื่อง ;D
ว่าแต่ ชอบ display ของคุณวัฒน์จังค่ะ รูปปืนน่ะ :D หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 11, 2007, 06:05:05 PM :) ต่ออีกนิดนะครับ 7 eleven นอกจากเรื่องฮวงจุ้ยที่ดีแล้ว มีข้อแตกต่างกับร้านสะดวกซื้อทั่วๆไป อันน่าจะศึกษา
ดูเบื้องหลังความสำเร็จของร้าน 7-eleven ... 1. เป้าหมายขององค์กร “ ต้องการเป็นผู้นำในธุรกิจร้านสะดวกซื้อ ในย่านอินโดจีน” 2. ปรัชญาขององค์กร “ เราปรารถนารอยยิ้มจากลูกค้า ด้วยทีมงานที่มีความสุข” 3. วิสัยทัศน์ (Vision) “ เราคือผู้ให้บริการความสะดวกซื้อ กับลูกค้าทุกชุมชน” 4. พันธกิจ (Mission) • มุ่งมั่นอย่างไม่หยุดยั้งในการสรรหา และส่งมอบสินค้าและบริการที่ลูกค้าสะดวกซื้อต้องการ • สรรหา ทำเลร้านสาขาที่เข้าถึงลูกค้า ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ • สร้างภาวะผู้นำทุกระดับ และส่งเสริมให้เกิดบรรยากาศการทำงานที่ดี • สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับสังคมและชุมชน • สร้างองค์กรคุณภาพ และมุ่งสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ • บริหารกิจการให้มีผลตอบแทนการลงทุนที่ดี และบริหารตามหลักธรรมาภิบาล 5. มาตรฐานของการดำเนินงาน • สินค้าต้องมีคุณภาพ เน้นความสดและสะอาด • การให้บริการดี • การติดป้ายราคาต้องเห็นชัดเจน ไม่เอาเปรียบหลอกลวง • การจัดวางสินค้าเป็นระเบียบ สวยงาม • การกระจายสินค้ามีประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยเฉพาะระบบอินทราเน็ตที่สามารถเชื่อมข้อมูลเข้าสู่ส่วนกลางทันที • การจัดระบบการทำงาน โดยเฉพาะระบบ Back office ที่มีประสิทธิภาพ • การอบรมและให้ความรู้กับพนักงาน • มีกิจกรรมประชาสัมพันธ์เพื่อช่วยเหลือสังคม ทั้งทางด้านการศึกษา ศาสนา วัฒนธรรม สิ่งแวดล้อม และกีฬา :) แม้ว่าปรัชญาของ 7-Eleven จะเน้น “ เราปรารถนาให้ทีมงานมีความสุข” …แต่ความสุขท่ามกลางความเหนื่อย ก็ค่อนข้างจะเกิดขึ้นได้ยาก - ทำไม จึงพูดว่าท่ามกลางความเหนื่อย ...เพราะสไตล์การทำงานของ 7-Eleven ทุกคนจะต้องขยันและทำงานหนัก คือ ยืนตลอดเวลา ทำงานตลอดเวลา ว่ากันว่าจะทำงานหนักกว่าทำงานในห้าง มือแทบจะไม่อยู่ว่าง มีเวลาพักเหนื่อยและทานอาหารในช่วงสั้นๆ วันหยุดบางครั้งจะถูกขอร้องให้ไปทำงานเพราะขายดี เช่น วันหยุดวันสงกรานต์ วันขึ้นปีใหม่ วันพ่อ ฯลฯ(โดยจะได้รับค่าล่วงเวลา) และบางช่วงจะต้องลงผลัดกลางคืนด้วย ....แต่จะได้ค่าจ้างเป็นรายวันเป็นส่วนใหญ่ ...หากลาป่วย ค่าจ้างของวันนั้นจะไม่ได้ ...หากทำมาครบปี ค่าจ้างก็ยังไม่ขึ้น ....ชุดยูนิฟอร์ม ก็จะต้องหักจากค่าจ้างตนเอง :) ยิ่งกว่า นั้น สไตล์การทำงานของ 7-Eleven ทุกคนจะต้องตรงเวลา มีวินัย อดกลั้น และสุภาพต่อลูกค้าทุกคน ตามมาตรฐานของ 7-Eleven ทั้งนี้จะมีการฝึกอบรมให้ความรู้ และมีผู้ตรวจสอบ ไป ณ ร้าน 7-Eleven โดยไม่บอกล่วงหน้า เพื่อให้คะแนนการทำงานแก่พนักงาน และยังจะต้องทำงานเป็นทีม .... :) ตรงนี้ ...เป็นเรื่องดีมากๆสำหรับลูกค้า แต่กับพนักงานของร้าน 7-Eleven เขาจะรู้สึกอึดอัดใจ เพราะเขามักจะถูกบรรจุเข้าทำงานในร้านที่อยู่ใกล้บ้าน เพื่อมุ่งหวังลดปัญหาการเดินทาง กับเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชน.....แต่เขาจะต้องไหว้และนอบน้อม กับลูกค้า ทั้งๆที่ลูกค้าบางคนเป็นคนที่เขารู้จัก แถมบางคนก็ไม่ถูกชะตากันด้วย :) ฉะนั้น จึงมีพนักงานร้าน 7-Eleven หลายคน หากหางานใหม่ทำได้ ก็มักจะขอลาออก เพราะหากทำงานบริษัท โรงงาน หรือในห้าง งานจะเบากว่า รายได้อาจเป็นรายเดือน มีสวัสดิการ มีวันหยุดแน่นอน ไม่ต้องทำงานอยู่ผลัดกลางคืน และรู้สึกสบายใจกว่า ...หมายเหตุ : ผลัดบ่าย จะเหนื่อยมากที่สุด เพราะมีลูกค้าเข้าร้านในตอนเย็นและตอนหัวค่ำมากกว่าผลัดอื่นๆ :) ปัญหา ของร้าน 7-Eleven จึงไม่ใช่อยู่ที่ยอดขาย แต่อยู่ที่พนักงานเข้าออกสูง และเนื่องจากร้าน 7-Eleven มีวิสัยทัศน์ พันธกิจ และมาตรฐานการทำงานที่แน่ชัดเป็นมาตรฐาน ทุกครั้งที่มีพนักงานใหม่เข้าสู่ร้าน จึงต้องมีการพัฒนาฝึกอบรมพนักงานทุกคนเสียก่อน ซึ่งเป็นงานที่ใหญ่ไม่น้อยหากต้องพัฒนาคนนับร้อยนับพันคนบ่อยๆ - ยัง งี้แหละ โรงเรียน 7-Eleven จึงถือกำเนิดขึ้น ...เพื่อพัฒนาพนักงานของร้าน 7-Eleven และเพื่อช่วยสร้างบุคลากรในวงการค้าปลีกที่มีคุณภาพให้กับประเทศ - เฉกเช่นเดียวกับ โรงเรียนวิชาการโรงแรมแห่งโอเรียนเต็ล(โอ แฮป) ที่เปิดสอนวิชาการด้านการโรงแรม สาขาพนักงานต้อนรับส่วนหน้า สาขาการปฏิบัติการฝ่ายแม่บ้านและซักรีด สาขาการปรุงอาหารนานาชาติ สาขาการครัวไทย สาขาการทำขนมและขนมปัง และสาขาการปฏิบัติการห้องอาหารและการผสมเครื่องดื่ม(ภายใต้การรับรองของ กระทรวงศึกษาธิการ) หรือวิทยาลัยดุสิตธานี ที่จัดหลักสูตรการเรียน การสอนระดับปริญญาตรีและปริญญาโท เพื่อพัฒนาพนักงานของโรงแรมเอง และเพื่อช่วยสร้างบุคลากรในวงการด้านการโรงแรมที่มีคุณภาพให้กับประเทศ (http://www.bloggang.com/data/yyswim/picture/1184768949.jpg) :) โรงเรียนปัญญาภิวัฒน์ เทคโนธุรกิจ เป็นโรงเรียนที่อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ศึกษาภิวัฒน์ จำกัด ในเครือ บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด( มหาชน) เปิด รับสมัครนักเรียนที่จบระดับมัธยมปีที่ 3 เข้ารับการศึกษาในระดับปวช. และเรียนต่อในระดับปวส. ในสาขาวิชา ธุรกิจค้าปลีก โดยนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือก จะได้เรียนฟรีทุกคน ไม่ต้องเสียค่าเทอมตลอด 3 ปีที่เรียนระดับปวช. และยังจะมีรายได้ระหว่างการฝึกงาน และที่สำคัญเมื่อเรียนจบปวช.แล้ว จะมีงานทำที่ร้าน 7- Eleven ทันที โดยรับเงินเดือนและพิจารณาผลงานตามมาตรฐานของบริษัทฯ อีกทั้งสามารถที่จะเรียนต่อในระดับปวส. และปริญญาตรีอีกด้วย (http://www.bloggang.com/data/yyswim/picture/1184768653.jpg) :) วัตถุประสงค์ของการจัดตั้งโรงเรียน เพื่อยกระดับการศึกษาด้านอาชีวศึกษา ให้เป็นที่น่าสนใจของเยาวชน เนื่องจากผู้สำเร็จระดับอาชีวศึกษาจะสามารถหางานทำได้ง่ายและเร็ว มีรายได้ดี สามารถเรียนต่อในระดับปริญญาตรีและโทได้ มีเกียรติและมีศักดิ์ศรีไม่ด้อยไปกว่าผู้ที่หวังจะเรียนเพื่อสอบ เอนทรานส์เข้ามหาวิทยาลัยโดยตรง :) สถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ (http://www.bloggang.com/data/yyswim/picture/1184769116.jpg) :) สถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์”Panyapiwat Institute of Technology (PIT)” เป็นสถาบันการศึกษาในระดับปริญญา ถือกำเนิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 เม.ย.2550 โดยได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงศึกษาธิการให้เปิดสอนระดับปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ 3 สาขา คือ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก สาขาวิชาการจัดการโลจิสติกส์ และสาขาวิชาการจัดการธุรกิจอาหาร ....กับจะเปิดสอนระดับปริญญาโท หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจค้าปลีก ในอนาคตอันใกล้ :) หลักสูตรของสถาบันฯ จะเป็นแบบสหกิจศึกษา คือเรียนรู้วิชาการควบคู่ไปกับการทำงาน อาจจะเรียกว่าสอดคล้องกับการเรียนระดับปริญญาตรีของพนักงาน 7-Eleven เพราะจะมีประสบการณ์ตรงที่จะทำให้เข้าใจเนื้อหาวิชาได้ดียิ่งขึ้น ทำให้ไม่จำเป็นต้องแยกไปเรียนระดับปริญญาตรีในสาขาอื่นที่มหาวิทยาลัยอื่น อีก อย่างไรก็ตามบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ทำงานที่ร้าน 7-Eleven ก็สามารถจะสอบเข้าเรียนในสถาบันนี้ได้ โดยทางสถาบันได้เตรียมทุนการศึกษาเรียนฟรี ระดับปริญญาตรี จำนวน 600 ทุนเพื่อมอบให้นักศึกษาในปีนี้ และนักศึกษาที่ได้รับการคัดเลือกยังจะมีโอกาสได้ทำงานเพื่อเป็นรายได้เสริม ในระหว่างการเรียนด้วย :) ทางสถาบันฯ กล่าวว่า บัณฑิตที่จบจากสถาบันฯ จะมีโอกาสหางานทำได้ไม่ยาก เพราะบริษัทในเครือเซเว่น อีเลฟเว่น เช่น บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด( มหาชน) เป็นเจ้าของร้าน 7-Eleven 4,029 สาขา และจะเปิดอีก 500 สาขาในปี 2550, บริษัท ไดนามิค แมนเนจเม้นท์ จำกัด ทำธุรกิจด้านขนส่งสินค้าและกระจายสินค้า ซึ่งจะขยายตัวตามร้านค้าของ 7-Eleven, บริษัท ซี.พี. ค้าปลีกและการตลาด ทำธุรกิจอาหารแช่แข็งและเบเกอรี่ ซึ่งจะขยายตัวตามร้านค้าของ 7-Eleven และยังจะมีบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์อีกนับร้อยบริษัท ซึ่งทำธุรกิจการค้าอื่นๆ ยังต้องการผู้ทำงานที่มีประสบการณ์ตรงแบบนี้อีกมาก - รวม ทั้งสถาบันฯนี้ เป็นสถาบันแรกของไทยที่ผลิตบัณฑิตด้านธุรกิจค้าปลีกโดยตรง จึงมีโอกาสจะหางานทำในธุรกิจค้าปลีกในประเทศได้ไม่ยาก หรือจะใช้วิชาความรู้และประสบการณ์ เปิดธุรกิจค้าปลีกของตัวเองก็สามารถทำได้ - อนึ่ง หากได้รับการบรรจุในตำแหน่ง Supervisor ในเครือกลุ่มบริษัท ซีพี จะได้รับเงินเดือน ประมาณ 15,000 บาท ในขณะที่ปริญญาตรีในท้องตลาด จะได้รับเงินเดือนประมาณ 10,000 -12,000 บาท หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 11, 2007, 06:11:36 PM :) ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท ซี.พี.เซเว่นอีเลฟเว่น จำกัด (มหาชน) นับจากสาขาแรกตรงหัวมุมถนนพัฒน์พงษ์ เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2532 ผ่านมาจนถึงสิ้นไตรมาส 1 ปีนี้ 7-Eleven สยายปีกไปแล้วกว่า 3,912 สาขาทั่วไทย นับว่าเป็นร้านค้าปลีกที่มีเครือข่ายมากที่สุดในไทย และมียอดขายเฉลี่ย 65,019 บาท/สาขา/วัน
:) แม้จะมีการเติบโตด้านจำนวนสาขาอย่างรวดเร็ว แต่ 7-Eleven กลับไม่เคยมีประเด็นร้อนแรงเหมือนค้าปลีกข้ามชาติรายอื่น ว่าเป็นตัวบั่นทอน ตัดตอนวงจรชีวิตของร้านโชห่วยไทย เพราะ 7-Eleven เติบโตแบบไม่คุกคามโดยตรง แต่สร้างทางเลือกที่ออมชอม โดยชูบริการเสริมที่หลากหลาย ครบครัน ชนิดที่เรียกว่าโชห่วยไม่สามารถทำได้ ด้วยข้อจำกัดเรื่องโนว์ฮาว และที่สำคัญคือเงินทุน :) อาวุธเสริมสำคัญอย่าง “เคาน์เตอร์ เซอร์วิส” ก็เป็นจุดขายหนึ่งที่ทำให้ 7-Eleven เป็นเจ้าบ้านที่ไม่เคยว่างเว้นผู้มาเยือน - ด้วยจำนวนสาขาที่มากมายมหาศาล 7-Eleven ทำให้บริษัทต้องแสวงหาบุคลากรมารองรับ ด้วยการก่อตั้งสถาบันเทคโนโลยีปัญญาภิวัฒน์ขึ้นมา ภายใต้แนวคิด “เรียนฟรี มีงานทำ” นับเป็นแผนธุรกิจอันแยบยลในการสร้างทีมงานที่เรียนรู้ระบบในร้านอย่างเป็น ขั้นตอน - นอกจากนี้ ไม่เพียง 7-Eleven จะมีอิทธิพลต่อผู้บริโภคแล้ว กับคู่ค้าก็มีอย่างยิ่งยวด เพราะใครๆ ก็อยากนำสินค้าของตนไปวางจำหน่ายใน 7-Eleven แต่ก็มีไม่น้อยที่ได้โอกาสนั้นแล้วก็ไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้เพราะยอดขาย ไม่ดี ดังนั้น 7-Eleven จึงเป็นช่องทางสำคัญในการที่จะชี้เป็นชี้ตายว่าสินค้าใดจะเกิดหรือไม่เกิด ทำให้กลยุทธ์ FBO (Frist Best Only) ถูกหยิบยกมาใช้เป็นธรรมเนียม สำหรับสินค้าใหม่ที่เลือกวัดกระแสตอบรับในระยะเวลาจำกัดประมาณ 1 เดือน กับร้านค้าปลีกที่มีเครือข่ายครอบคลุมทั่วประเทศแห่งนี้ - ทั้งนี้ อาจกล่าวได้ว่าจุดสำเร็จที่ทำให้ 7-Eleven สามารถเติบใหญ่ได้เช่นทุกวันนี้ เพราะการเข้าถึง Consumer Lifestyle ที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ในการเลือกซื้อสินค้าและบริการไม่ว่าเวลาใด และส่งผลให้กลายเป็นร้านค้าปลีกเนื้อหอมที่สินค้าอุปโภคบริโภคต่างรุมแย่ง ชิงพื้นที่บนเชลฟ์ อันหมายถึงโอกาสทางการตลาดมหาศาล เวลานี้ 7-Eleven ได้แสดงนิยามของคำว่า “ร้านสะดวกซื้อ” ได้โดยสมบูรณ์ :VOV: ขอบคุณทุกๆท่านที่แวะเข้ามาเยี่ยมชมครับ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ สิงหาคม 11, 2007, 09:48:11 PM ขอบคุณมากครับพี่Watt
ได้ความรู้ไว้คุยอวดเพื่อนอีกแล้ว เย้ ! หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ สิงหาคม 11, 2007, 10:44:00 PM ขอบคุณครับ...
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ สิงหาคม 11, 2007, 10:56:28 PM โลโก้ 7-ELEPHANT มีใครเคยสังเกตบ้างมั้ยครับ...... ขอบคุณครับพี่วัฒน์ ;D ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: Colt Rampant ที่ สิงหาคม 11, 2007, 11:08:00 PM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: RroamD ที่ สิงหาคม 12, 2007, 01:00:45 AM ใช้บริการเป็นประจำและนานมากแล้ว ได้อ่านวันนี้และเพิ่งได้ทราบ
ขอบคุณพีวัฒน์ครับ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: วุธ อุดร -รักในหลวง~ ที่ สิงหาคม 12, 2007, 01:05:24 AM ขอบคุณครับที่ทำให้กว้างไกล
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: apc275 ที่ สิงหาคม 12, 2007, 01:30:57 AM ขอบคุณครับสำหรับข้อมูล สุดยอดจริงๆครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: apc275 ที่ สิงหาคม 12, 2007, 01:40:35 AM (http://www.bccorvetteclub.ca/bccorvetteclub/7-eleven_logo.gif) ผมมาลองคิดๆดูแล้ว ผมว่าในโลโก้ 7-ELEVEn น่าจะมีอะไรที่เป็นความเชื่อมากกว่านี้ เช่นคำว่า 7-ELEVEn = 7+11=18 , 1+8=9 เป็นไปได้ไหมครับ ซึ่งเป็นความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องของตัวเลขด้วยโลโก้ 7-ELEVEn มีใครเคยสังเกตบ้างมั้ยครับ ทำไมตัว n ที่อยู่ข้างหลังสุดถึงต้องเป็นตัวเล็ก? :D เล่ากันว่า ผู้เป็นเจ้าของ 7-ELEVEn มีความเชื่อในเรื่องฮวงจุ้ย จึงได้เลือกใช้อักษร n ตัวเล็กแทนที่จะเป็น N ตัวใหญ่ ทั้งนี้ก็เพราะ n เล็ก มีรูปร่างคล้ายกับแม่เหล็ก (ที่เป็นทรงเกือกม้า) จะได้ทำหน้าที่เป็นเหมือนกับตัวดูดเงินดูดทองเข้าร้านคอยนำมาซึ่งโชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองต่างๆ ให้แก่กิจการสืบไป หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: ตะบันไฟ ที่ สิงหาคม 12, 2007, 07:18:53 AM ขอบคุณครับ
หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: กระโหลกกะลา ที่ สิงหาคม 12, 2007, 07:24:24 AM ไม่ชอบอยู่อย่างเคาน์เตอร์คิดเงินวางของขายเล็กๆ น้อย ซะเกือบเต็มที่พื้นที่
ทำให้ลูกค้าไม่ได้ความสะดวกแทนที่จะปล่อยให้โล่งหน่อย ลูกค้ากำลังจะเอาเงินมาให้ ร้านก็กำลังจะปิดการขาย หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 12, 2007, 08:17:44 AM เพิ่งถึงบางอ้อ ...... ขอบคุณน้าวัฒน์มากครับ หัวข้อ: Re: เรื่องเล่ารกสมอง...โลโก้ 7-ELEVEn เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ สิงหาคม 12, 2007, 09:01:41 AM ขอบคุณมากครับ ผมไม่เคยสังเกตเลยว่าตัว n เป็นตัวเล็ก
|