|
หัวข้อ: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ สิงหาคม 15, 2007, 09:06:04 AM :) ริมรั้วสวนโมกข์
คอลัมน์ เก็บเรื่องมาเล่า ชนา ชลาศัย - ท่านพุทธทาสสอนธรรมะแบบนิกายเซ็นในพุทธศาสนา ใช้กุศโลบาย พูดให้คิด ทิ้งเป็นปริศนาธรรม บางครั้งน้ำเสียงดุๆ ของท่านอาจทำคู่สนทนาห่อเหี่ยว แต่ถ้านำไปขบคิดตรึกตรองก็จะเห็นแสงสว่างในน้ำเสียงนั้น - ตลอดเวลา 67 ปี ที่ถวายตัวเป็นทาสพระพุทธเจ้า ทุกเช้ามืด นอกจากจะเทศนาสอนธรรมะ ณ ลานหินโค้ง วัดสวนโมกข์ อีกวัตรปฏิบัติคือ การเขียนหนังสือเผยแผ่ธรรมะ - นอกจากผลงานยิ่งใหญ่ในชุด "ธรรมโฆษณ์" ที่มีถึง 73 เล่ม ยังมีหนังสืออื่นๆ อีกหลายเล่มที่ล้วนได้รับยกย่องเป็นหนังสือดี เป็นคัมภีร์ด้านพุทธศาสนาที่ควรอ่าน อาทิ คู่มือมนุษย์, แก่นพุทธศาสน์, ตัวกู-ของกู, ตามรอยพระอรหันต์, ชุมนุมปาฐกถาชุดพุทธธรรม, หลักพระพุทธศาสนา ฯลฯ ผลงานมากมายมหาศาล ส่งผลให้ท่านพุทธทาสได้รับฉายาเป็น "ผู้ปฏิรูปแนวทางการสอนธรรมะ" ช่วงศตวรรษที่ 24-25 ท่านพุทธทาสเขียนบันทึกและหนังสือธรรมทุกวัน ครั้งหนึ่งศิษย์ถามด้วยความสงสัยว่า "ท่านทำงานมากมาย ไม่เหนื่อยหรือ" ท่านพุทธทาสตอบว่า "มันสนุก" ปี 2500 รัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ มอบคำขวัญปีใหม่ว่า "งานคือเงิน เงินคืองาน บันดาลสุข" ต่อมาท่านอาจารย์เทศนาหัวข้อธรรม "การทำงานคือการปฏิบัติธรรม" "อันการงาน คือคุณค่า ของมนุษย์ ของมีเกียรติ สูงสุด อย่าสงสัย ถ้าสนุกด้วย การงาน เบิกบานใจ ไม่เท่าไร ได้รู้ธรรม ฉ่ำชื่นจริง" พุทธทาสบอกว่า "การทำงานเขียนนี้ เสมือนกับการหุงหาอาหารเตรียมไว้ เผื่อมีคนหิวโหยก็จะได้กินอิ่มอย่างทันกาล" ท่านเขียนหนังสือด้วยลายมือ มีกระดาษแผ่นเดียววางบนขาแล้วก็เขียน เขียนตรงม้าโยกที่ท่านชอบนั่ง รอบๆ เต็มไปด้วยกองหนังสือธรรมะ เขียนเสร็จแล้วส่งให้ศิษย์ไปพิมพ์ดีด เคยมีพระลูกศิษย์คิดจะซื้อคอมพิวเตอร์มาใช้ เพื่อพิมพ์หนังสือและเก็บข้อมูลหนังสือชุดธรรมโฆษณ์ ด้วยเห็นว่า คอมพิว เตอร์สะดวก รวดเร็ว พิมพ์ผิดลบได้เร็ว แต่ท่านปฏิเสธ "นั่นไม่ดี มันทำให้ขาดสติได้ง่าย คนมีสติจะทำงานด้วยความระมัดระวัง จะคิด จะพูด จะทำอะไร ไม่ต้องมาเสียใจภายหลัง" ท่านเทศน์ในวันล้ออายุ 81 ปี เรียกคอมพิวเตอร์ว่า "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" ท่านพุทธทาสเขียนหนังสือเผยแผ่ธรรมะรับใช้พระพุทธเจ้าจนสิ้นลมหายใจห้วงสุดท้ายตามที่ท่านปวารณา งานของท่านทุกเล่ม ทุกเรื่อง ไม่มีลิขสิทธิ์ ท่านอาจารย์บอกว่า ลิขสิทธิ์เป็นของธรรมชาติ "พระพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมะ ก็เรียนจากธรรมชาติ และไม่เคยเก็บค่าเล่าเรียนจากเรา แต่พวกเราลูกศิษย์นี่ สงวนสิทธิ์หมดเลย ความรู้เราก็มาจากพระพุทธเจ้าสอนทั้งนั้น เจ้าของภูมิปัญญาจริงๆ ไม่เรียกลิขสิทธิ์ แต่เรานี่หวงจังเลย มันเป็นวิธีคิดแบบฝรั่ง หวงของ" หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ สิงหาคม 15, 2007, 09:17:46 AM ขอบคุณครับ...
หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ สิงหาคม 15, 2007, 12:24:29 PM ขอบคุณมากๆครับพี่วัฒน์ ที่นำสิ่งดีๆมาให้อยู่ประจำ
หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ สิงหาคม 15, 2007, 12:30:12 PM พุทธทาสบอกว่า "การทำงานเขียนนี้ เสมือนกับการหุงหาอาหารเตรียมไว้ เผื่อมีคนหิวโหยก็จะได้กินอิ่มอย่างทันกาล" ได้บุญตลอด ;D ;D ;D หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: Sig228-kolok ที่ สิงหาคม 15, 2007, 12:43:19 PM ขอบคุณครับ ... :D
หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ สิงหาคม 15, 2007, 01:10:38 PM ถ้านำมาประยุกต์ใช้ตามความจำเป็น โดยยึดสายกลางก็น่าจะสร้างคุณค่าได้มากเช่นกัน หัวข้อ: Re: "ไอ้ยักษ์ตาบอด กูไม่เอากะมัน!" เริ่มหัวข้อโดย: apc275 ที่ สิงหาคม 15, 2007, 04:11:34 PM ขอบคุณครับ สาธุ สาธุ....
|