|
หัวข้อ: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 11, 2007, 11:30:10 PM สงครามขี้เหล้า [10 ต.ค. 50 - 19:39]
เทวดากับอสูร ที่ทำสงครามกันสนั่นชั้นฟ้าเวลานี้ เดิมทีก็เป็นพวกเดียวกัน อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยกันครับ เพียงแต่เทวดาขาเก่า...ถือว่าอยู่มานาน...เมื่อมีคนทำบุญ ตายไปเป็นสมาชิกใหม่บนสวรรค์มากเข้าๆ ก็ชวนกันจัดงานรับน้อง น้องรุ่นไหนๆ เมื่อพี่รินเหล้าให้ดื่ม ก็ดื่ม พี่ก็ดื่ม เฮฮากันไป ไอ้เรื่องรุ่นพี่จับรุ่นน้องแก้ผ้า หรือเอาไฟนาบเนื้อตัว...ไม่มี มาจนถึงน้องรุ่นล่ามาทีมเดียวกัน...33 องค์ มีมฆมาณพเป็นหัวหน้า...ติดถือศีลห้ามาแต่เมืองมนุษย์ ตกลงใจกันว่าจะไม่ดื่ม แต่ก็เอาใจรุ่นพี่ แกล้งรับจอกเหล้า ทำเป็นดื่ม งานรับน้องใหม่บนดาวดึงส์รอบนี้ มีติดต่อกันสี่เดือนมนุษย์ เทวดารุ่นพี่นั้นเมาหลับใหลไม่ได้สติ ปล่อยให้เทวดารุ่นน้องยึดอำนาจ...ผลักหล่นจากสวรรค์ มฆมาณพ ได้ทีสถาปนาตัวเองเป็นพระอินทร์ ครองสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์ ส่วนเทวดาขาเก่า...หายเมาแล้วลืมตาตื่น ก็พบว่านอนอยู่ในพื้นที่กว้างหมื่นโยชน์ ใต้เชิงเขาพระสุเมรุ ด้วยกุศลผลบุญที่ทำไว้ไม่น้อยแต่ปางก่อน พื้นที่ใหม่ก็เหมือนสวรรค์ ดาวดึงส์ มีสัตตรัตนมหาปราสาทราชมณเฑียรทิพย์ งามด้วยแก้วด้วยทอง ปราการกำแพงทองมีซุ้มทหารพันหนึ่ง ประดับด้วยสัตตรัตนะต่างๆ สระโบกขรณีก็มีเหมือนในดาวดึงส์ จะผิดกันบ้าง ก็ตรงดาวดึงส์มีต้นปาริชาต ได้กลิ่นแล้วระลึกชาติได้ แต่สวรรค์ชั้นใหม่ มีแค่ต้นแคฝอยสูง 100 โยชน์ อยู่ต้นหนึ่ง ตั้งสติได้ เทวดาตกสวรรค์ก็หันมาทบทวนตัวเอง เห็นว่าเสียทีถูกปฏิวัติ ก็เพราะเมาเหล้า ก็เลยตกลงใจกันว่า ต่อไปนี้ จะไม่ดื่มเหล้า เหล้า ภาษาอินเดียคือสุรา...พวกที่ไม่ยอมดื่มเหล้า จึงถูกเรียกว่า " อสุรา " เทวดาขาเก่าจากชั้นดาวดึงส์ จึงถูกเรียกว่า อสุรา หรืออสูร ตอนนี้เอง ที่จริงการได้ภพอสูรแห่งใหม่ ก็อยู่สุขสบายไม่แพ้ดาวดึงส์ สวรรค์ชั้นเก่า แต่ปัญหามักจะเกิดเมื่อฤดูกาลดอกต้นแคฝอยบาน รูปพรรณสัณฐานแคฝอยคล้ายปาริชาต วันที่ดอกแคฝอยบาน อสูรพวกนี้ก็คิดถึงดาวดึงส์ คิดถึงตอนถูกมอมเหล้า แล้วถูกถีบจนร่วงจากดาวดึงส์ รวบรวมพลกันได้ ก็ชวนกันเหาะขึ้นไป กะว่ารบชนะ จะชิงดาวดึงส์คืน แต่ก็แพ้กลับมาทุกที ตอนนี้อยู่ในช่วงปลายฝน ต้นหนาว ดอกแคฝอย หรือบางผู้รู้ก็ว่า ดอกทองหลาง คงยังบาน...บาดใจอสูร สงครามระหว่างเทพกับอสูร จึงยังติดพัน...อึงคะนึง สงครามระหว่างพวกดื่มเหล้า กับพวกไม่ดื่มเหล้า ก็คงรบกันไปให้รำคาญหูชาวบ้านยังงั้นแหละครับ...พวกขี้แพ้ก็รบแบบขี้แพ้ พวกชนะก็ไม่เอาเป็นเอาตาย รู้อยู่แก่ใจว่า เป็นเทวดาด้วยกัน วิทยายุทธ์ที่ใช้ ก็ได้มาจากอาจารย์เดียวกัน ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น ขืนรบกันถึงขั้นล้มตาย...เปิดช่องให้ศัตรูเก่าเข้ามาได้...ถึงขั้นนั้น ตัวใครตัวมันก็แล้วกันครับ. http://www.thairath.co.th/news.php?section=politics02&content=63996 หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ตุลาคม 12, 2007, 12:13:25 PM ตกลงแบ่งกันไม่ได้สุราจะ60ให้อสุรา40...แต่อสุราถือว่าเป็นคนเก่าเก๋าเกมส์กว่าก็จะเอา55ให้สุรา45
หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ ตุลาคม 12, 2007, 12:58:40 PM อสูร คือพวกที่ๆม่ดื่มเหล่านี่นเอง เอ..ในเว็บเรานี่มีอสูรกี่คนเนี่ย
หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ตุลาคม 12, 2007, 02:46:35 PM อิ อิ อย่าให้เล่า(เหล้า)เลยครับเรื่องมันยาว...ขอเบียร์ดีกว่า
หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: โป้ง*กันบอย - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 12, 2007, 03:00:37 PM อิ อิ อย่าให้เล่า(เหล้า)เลยครับเรื่องมันยาว...ขอเบียร์ดีกว่า ไหนว่าป๋ากินเจ.......... ::005:: ********** พวกอสูร เมื่อก่อนก็ดื่มจนเมาหลับตกสวรรค์ มาตอนนี้อยากกลับสวรรค์ซะงั้น.........อิอิ ;D ;D หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: nars รักในหลวงและแผ่นดินไทย ที่ ตุลาคม 13, 2007, 12:22:57 AM อสูร คือพวกที่ๆม่ดื่มเหล่านี่นเอง เอ..ในเว็บเรานี่มีอสูรกี่คนเนี่ย ในเว็บเราสงสัยจะมีแต่เทวดา เพราะชอบร่ำสุรากันทุกคนครับ ;D หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: andaman ที่ ตุลาคม 13, 2007, 10:25:55 AM ใครอยากเป็นเทวดา ต้องร่ำสุราอยู่เป็นนิจ :VOV:
หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ตุลาคม 13, 2007, 10:43:52 AM ขอบคุณมากครับ คุณ nar .. บทความไม่ได้บอกให้ชัดเจนว่า เป็นเรื่องเล่าแบบตำนาน หรือเปล่า เรื่องเทวดา กับอสูร มีกล่าวไว้หลายแห่งและบางส่วนที่เป็นตำนาน ก็มีอยู่ใน มหาภารตะ เป็นมหากาพย์ ที่ยิ่งใหญ่ ของอินเดีย. . รายละเอียด ยังแทรกปรัชญา ลึกซึ้ง . ::002:: เสียดายที่แพร่หลายรับรู้กันอยู่ในวงจำกัด น้อยกว่า รามเกียรติ์ :) หัวข้อ: Re: ตำนานอสูร เริ่มหัวข้อโดย: e.k.1911 ที่ ตุลาคม 13, 2007, 11:32:26 AM ขอบคุณครับ......
|