เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ท่านใดมีความรู้เรื่องการใช้งานลูกปืนแบบต่างๆ ว่ามีลักษณะอย่างไร , ประสิทธิภาพ , ใช้งานแบบใด , ความแตกต่างของราคา โปรดบอกด้วย
LRN = Lead Round Nose
FMJ = Full Metal Jacket
JHP = Jacketed Hollow Point
JSP = Jacketed Soft Point
LSWC = Lead Semi - Wadcutter
FMJ – SWC = Full Metal Jacket Semi - Wadcutter
SWC – HP = Semi – Wadcutter Hollow Point
LWC = Lead Wadcutter
(ลอกมาจากข้างกล่องลูกปืนยี่ห้องหนึ่ง)
ผมเพิ่งหัดเริ่มเข้าวงการ และต้องขอขบอบคุณมาพร้อมกันนี้....คร๊าบ

ที่ลิสต์มามันเป็นแบบของหัวกระสุนครับ แต่ละแบบก็ออกแบบมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่างกัน เวลาไปใส่รวมกับปลอกยี่ห้อไหน ก็จะมีการใช้ชื่อทางการค้า และจัดประเภทกระสุนแตกต่างกันอีกครับ

หัวกระสุนที่มีคำว่า Wadcutter เชื่อได้ว่าใช้ยิงเป้าแน่นอน เพราะจะมีขอบสำหรับตัดเป้ากระดาษให้นับคะแนนให้ชัด

หัวกระสุนที่มีคำว่า Jacket แสดงว่ามีเปลือกหุ้ม โดยมากจะเป็นทองแดง แต่ก็มีโลหะอื่นด้วย เช่นทองเหลือง เหล็ก นิเกิล การหุ้มหัวตะกั่วด้วยเปลือก มักจะทำในกระสุนความเร็วสูง เพราะถ้าไม่หุ้ม ด้วยความเร็วของหัวกระสุน จะทำให้มีคราบตะกั่วติดอยู่ที่ลำกล้อง ทำให้เป็นปัญหาในการใช้งานต่อเนื่อง ... กระสุนปืนกึ่งออโต มักจะหุ้มทั้งนัด (Full Metal Jacket) เพื่อช่วยในการป้อนกระสุนด้วย

หัวกระสุนที่มีคำว่า Hollow point แสดงว่ามีรูที่หัวกระสุน โดยมากจะเป็นกระสุนป้องกันตัว เพราะจะใช้รูนี้ในรวบรวมน้ำในร่างกาย ให้เกิดความดัน ดันให้หัวกระสุนบานออก (ในร่างกาย) ช่วยเพิ่มพื้นที่หน้าตัด ทำให้การถ่ายเทพลังงานในการทำลายเนื้อเยื่อ ได้ดีกว่ากระสุนที่ไม่บาน ... กระสุนแบบนี้เมื่อกระทบของแข็ง ก็มักจะเสียรูป หมดแรงอย่างรวดเร็ว ... กระสุนหัวรูบางแบบก็ยิงได้แม่นยำ ดังนั้นก็มีการนำกระสุนหัวรูมาใช้ในการแข่งกีฬาด้วย

กระสุนที่คล้าย ๆ Hollow point อีกแบบก็คือ Jacketed Soft Point คือเป็นหัวเคลือบ แต่ปลายเปิดให้เห็นตะกั่วไว้  ที่ปลายเป็นตะกั่วจะเสียรูปได้ง่ายกว่าเปลือกที่เคลือบ .... ตามหลักก็น่าจะมีอำนาจในการเจาะลึกมากกว่า Hollow Point และการที่ปลายหัวไม่มีรู ทำให้มีความมั่นใจในการป้อนกระสุนมากกว่า (ปืนกึ่งออโต)

กระสุนที่เข้าใจผิดกัน แบบหนึ่งคือ Lead Round Nose/Lead Wadcutter ซึ่งภาษาไทยเรียกว่า "ลูกซ้อม" ซึ่งเป็นหัวตะกั่วล้วน เคลือบไขหล่อลื่น โดยมากใช้ในการแข่ง/ซ้อมยิงปืน เพราะหัวตะกั่วราคาต่ำสุด .... แต่บางคนเข้าใจผิดว่า เป็นลูกซ้อม ยิงคนไม่ตาย ... ซึ่งความจริงแล้ว ยิงคนตายได้เหมือน ๆ กัน

ผมว่าคร่า่ว ๆ ก็คงมีแค่นี้

(http://www.titan-psd.com/Images/Gun%20Fired.jpg) (http://www.titan-psd.com/html/CommComponentsGallery.htm)

(http://www.winchester.com/images/Product%20Catalog/lrn.jpg)  LRN = Lead Round Nose


(http://www.firearmsid.com/Bullets/images/fmj.jpg)  FMJ = Full Metal Jacket


(http://www.winchester.com/images/Product%20Catalog/sshp.jpg)  JHP = Jacketed Hollow Point


(http://www.winchester.com/images/Product%20Catalog/scnt.jpg)  JSP = Jacketed Soft Point


(http://www.firearmsid.com/Bullets/images/bt07.jpg)   LSWC = Lead Semi - Wadcutter

 ภาพ ท่าน  jakrit  นี่ถ่ายจากของจริงหรือเปล่าครับ หัวกระสุน ยังคาอยู่ในลำกล้องเลย สวยมาก

ส่วนเรื่องกระสุน  นี่ครับ   http://www.gingamegun.com/forum/index.php?topic=522.0

ขออนุญาต พี่ บุญด้วยครับ   มีหลากหลายขนาดและชนิดหัวกระสุนที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันครับ

(http://www.midwayusa.com/mediasvr.dll/image?saleitemid=464716) 
FMJ – SWC = Full Metal Jacket Semi - Wadcutter







(http://www.midwayusa.com/mediasvr.dll/image?saleitemid=581095)  
JHP-SWC = Jacketed Hollow Point Semi-Wadcutter







(http://www.firearmsid.com/Bullets/images/bt08.jpg)  LWC = Lead Wadcutter

ไม่ได้คาครับ แต่กำลังยิง .... คลิกที่รูปเพื่อไปดูเวปได้ครับ

ต้องขอขอบคุณท่าน Jakrit มากครับ ได้ความรู้มากขึ้นมาอีก รวมทั้งรูปภาพจากอีกหลายท่าน

ขอความรู้เพิ่มเติมอีกซักมากๆ หน่อยนะครับ
     1. ในลูกปืนขนาดเดียวกัน มีความแตกต่างอะไร ?...  บ้างนอกเหนือจากลักษณะของหัวกระสุน ประสิทธิภาพ ความรุนแรง  อย่างเช่น  ความยาวของปลอกกระสุน
     2.ถ้าหากว่าข้อแตกต่างของลูกปืนที่มีขนาดเดียวกัน  เป็นเรื่องของความยาวแล้ว  ถ้าเรานำเอาลูกปืนขนาดเดียวกัน แต่มีความยาวไม่ตรงกับตัวปืนที่ใช้อยู่ โดยที่สามารถใส่เข้าลำกล้องได้แล้ว  ถ้ายิงออกจะมีผลกับตัวปืนหรือไม่ ?...  อย่างไร ?...  (อย่าบอกให้ลองนะครับ ... ไม่เคยลอง)
     3. คำว่าเกรนของหัวกระสุนคืออะไร น้ำหนักใช่หรือไม่ ?...  แล้วข้อแตกต่างระหว่างหัวกระสุนแต่ละเกรนเป็นอย่างไร ?... หรือว่าเกี่ยวกับประสิทธิภาพ... ราคา...
          ต้องขอความกรุณาจากท่านผู้รู้ทั้งหลายนะครับ... จะได้กระจ่าง แจ้งแป้ง จางปาง โอ้ดโลด ไปเลย....

ถามมีสาระดีครับ  ::002::

ขนาดของกระสุน ฝรั่งเรียก "คาลิเบอร์" ภาษาไทยคงต้องบอกว่า "ขนาด" ตัวนี้บอกความกว้างปากลำกล้อง ไม่ได้บอกชนิด หรือประเภทของกระสุน ....

เวลาเราใช้ปืน "ขนาด ๙ มม" ก็จะมีปืนหลากหลายแบบ ใช้กระสุนหลากหลายชนิด เช่น .38 สเปเชี่ยล .38 ซุปเปอร์ 9 มม. พาราฯ 9 มม.อัลตร้า 9มม. บราวนิ่งยาว 9 มม.บราวนิ่งสั้น .380 ACP .... ชื่อกระสุนเหล่านี้ก็จะมีปลอกแตกต่างกันไป หัวกระสุนแตกต่างกันไป *ส่วนใหญ่*ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ... กระสุนบางแบบที่เล็กกว่าอีกแบบ อาจจะสามารถใส่ในรังเพลิงที่ใหญ่กว่าได้ แต่ไม่ควรใช้ยิงออกไป (บางท่านก็เห็นว่ายิงได้ เพราะความแรงของกระสุน และแรงดันรังเพลิงต่ำกว่ากันมาก)

กระสุนบางแบบ ก็ถูกออกแบบมาให้สามารถใส่ในปืนที่ใช้กระสุนแรงกว่าได้ เช่นคู่ .38 สเปเชี่ยล กับ .357 แม็กนั่ม หรือ .44 สเปเชี่ยล กับ .44 แม็กนั่ม (ไม่ใช่ปืนแม็กนั่ม ใส่ลูกธรรมดาได้นะครับ) ... ทั้งนี้เพราะกระสุน .357 แม็กนั่ม เป็นการนำปลอกกระสุน .38 สเปเชี่ยล เป็นฐานในการออกแบบ โดยยืดความยาวของปลอกออกไปอีกเล็กน้อย แล้วใส่ดินปืนมากกว่าเดิม ... ทำให้ปืนขนาด .357 แม็กนั่ม สามารถนำลูก .38 สเปเชียล มาใส่ได้พอดี และยิงออกไปได้ด้วย (หัวกระสุนขนาดเท่ากัน แต่ชื่อเป็นเรื่องของการค้า เลยต่างกัน)

กระสุนใช้แทนกันที่เข้าใจกันผิดคือ .22 แม็กนั่ม และ .22 แอลอาร์ ... บางท่านมีปืน .22 แม็กนั่ม แต่ใช้ลูก .22 แอลอาร์ยิง เพราะลูกแม็กนั่มมันแพงกว่า .... กระสุน 2 ชนิดนี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้เกี่ยวข้องกัน ถึงหน้าตัดจะเท่ากัน แต่ปลอกกระสุนก็อ้วนผอมไม่เท่ากัน

ปลอกกระสุนไม่ใช่มีแต่เรื่องของความยาว ยังมีเรื่องรูปร่าง และขอบจานท้ายด้วยครับ

การใช้กระสุนไม่ตรงกับปืน ทำให้บริษัทผู้ผลิตปืนไม่รับประกันความเสียหาย ทำให้ปลอกที่เล็กกว่า ขยายอัดตัวกับผนังรังเพลิง (ปกติปลอกกระสุนที่ตรงรุ่นจะพอดีกับรังเพลิง เวลายิงขยายตัวเล็กน้อย เพื่อซีลกาซ) เกิดกาซวิ่งแซงหน้าหัวกระสุน และน่าจะทำให้หัวกระสุนที่ผ่านลำกล้องออกไปนั้นไม่มีเสถียรภาพ (เพราะลำกล้องปืน ใช้กับกระสุนคนละแบบ) ... ฯลฯ

สรุป ๆ คือ กระสุนขาดความแม่นยำ และปืนอาจชำรุดได้ครับ

เกรนเป็นหน่วยน้ำหนัก เกรนมากก็หนักมาก เกรนน้อยก็หนักน้อยครับ

ในปืนขนาดเดียวกัน ถ้าหัวกระสุนน้ำหนักมากขึ้น ตัวหัวกระสุนก็จะยาวมากขึ้น ทำให้ปืนที่ใช้ต้องใส่ใจเกลียวลำกล้องที่ใช้ปั่นหัวกระสุนด้วย ว่าเหมาะสมกันหรือไม่ ... ในปืนสั้น ไม่มีปัญหานี้มากนัก เพราะน้ำหนักของหัวกระสุนที่ใช้ได้ จะถูกจำกัดจากขนาดของกระสุนที่เล็กอยู่แล้ว และระยะยิงที่ไม่ไกลนัก ... แต่ในปืนยาว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจมากกว่า เพราะท่านยิงกันเกินร้อยเมตรขึ้นไป ความเบี่ยงเบนเพียงเล็กน้อย ก็ทำให้กระสุนพลาดเป้าได้ครับ

พี่ 51 ภาพประกอบสุดยอดอีกแล้วนะครับ ::002::

 :) ขอบคุณทั้งสองท่านมากๆครับที่มาช่วยทบทวนความรู้ให้ กรุณารับไปคนละ 100 คะแนนนะครับ..อ้าว กดได้ทีละคะแนนนี่...ขออภัย  ::005::

ลืมไปต้องให้คะแนนท่านจขกท.ด้วยที่กรุณาถามคำถามที่มีประโยชน์เช่นนี้  ;)

ขอบคุณ ทุกท่านที่เอาความรู้มาเผื่อแผ่กันครับ

มาขอความรู้เพิ่มอีกครับ... พอดีอยากจะรู้รายละเอียดในเรื่องของกระสุนปืนลูกซอง ที่มีใช้กันอยู่ เพราะได้ยินมาว่ามีหลายขนาด หลายเบอร์ (ที่ต่างจังหวัดผมเคยจับแต่ลูกซอง 5 นัด เบอร์ 12) ไม่ทราบว่าแต่ละขนาด แต่ละเบอร์ มีความแตกต่างกันอย่างไร... การใช้งาน... ประสิทธิภาพ... ท่านใดมีข้อมูลกรุณาช่วยแจ้งแถลงไขด้วยคร๊าบ..... ขอบคุณหลาย ซำบายดี..

เรื่องลูกซองนั้นล้ำลึกเกินความรู้ของผมครับ ;D ;D

ขนาดของปืนลูกซอง เรียกเป็น "เกจ" เช่น เกจ ๑๒ ก็มาจากการนำลูกตะกั่ว  ๑ ปอนด์ มาแบ่งเป็น ๑๒ ส่วน ๑ ส่วนจะมีขนาดเท่าปากลำกล้องของเกจ ๑๒ ครับ

บ้านเราได้ยินว่ามี เกจ ๑๐ , ๑๒ , ๒๐ , ๒๘ , .๔๑๐ ยิ่งเลขมาก ขนาดยิ่งเล็กครับ

ส่วนตัวกระสุนของปืนลูกซอง มีสองช่วง เป็นฐานทองเหลือง และปลอกพลาสติก/กระดาษ ... ส่วนของทองเหลืองก็ใส่ดินปืน ส่วนของพลาสติกก็ใส่ลูกตะกั่ว .... ดังนั้นยิ่งฐานสูง ก็อนุมานได้ว่ายิ่งแรงมากขึ้น เรียกว่า ลูกแรงเดียว ลูกสองแรง เป็นต้น

จำนวนเม็ดตะกั่วในปลอก ก็ขึ้นกับขนาดของเม็ด และจำนวนของเม็ดครับ ที่ได้ยินคือ ลูกเก้า มี ๙ เม็ด ขนาดเม็ดละประมาณ ๙ มม. นอกจากนี้ยังมีอีกหลายแบบ เช่นลูก OO บั๊ค , OOO บั๊ค , ลูกร้อย , ฯลฯ ฯลฯ (ต้องใส่ไปยาลใหญ่สองตัว เพราะเยอะ่จริง ๆ)

เวลาเลือกกระสุน นอกจากจะดูขนาดเม็ดให้พอเหมาะกับเป้าแล้ว ก็ต้องดูว่าความยาวปลอกหลังยิงเท่าไร 2 3/4 นิ้ว หรือ 3 นิ้ว ต้องเลือกให้เหมาะกับปืนเรา ... ถ้าได้กระสุนปลอก 2 1/2 นิ้ว ก็ไปยิงในปืนที่มีความยาวรังเพลิงยาวกว่าได้

อ้อ!! ยังมีเรื่องโช้คอีก ก็คือการบีบปากลำกล้อง เพื่อควบคุมม่านกระสุนเวลายิงครับ บีบแคบสุดเรียก ฟูล กว้างสุดเรียก ไซลินเดอร์ (ท่อตรง) ... โช้คฟูล ไม่ควรยิงลูกโดด เพราะเม็ดตะกั่วเม็ดเดียวนั้น อาจแน่นเกินไป ทำให้โช้คเสียหาย ...

รายละเอียดของปืนลูกซอง มีมากขนาดเรียนเป็นด๊อกเตอร์ก็ยังเรียนไม่จบ ท่านใดเห็นว่าผมผิดพลาดตรงไหน ช่วยแก้ไขให้ด้วยครับ ;D ;D

 เริ่มต้นจากคำว่า gauge (เกจ) กันก่อนครับ สำหรับปืนลูกซอง

ภาพนี้เป็นภาพที่อธิบายได้ดีที่สุดครับ...
สำหรับคำว่า "เกจ"     เท่าที่ผมหาพบ...

(http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/picture/1211254920084.gif)


(http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/picture/1711254917412.jpg)


จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น...

(http://www.weekendhobby.com/gun/webboard/picture/299255010251.jpg)






จากนิ้ว...ที่จิ้มแป้น....

 + 1 ทั้งท่าน jakrit และ 51  ::002::

ท่าน 51 ยังเยี่ยมเหมือนเดิมนะครับ.....

กระจ่าง ตาสว่างขึ้นมาทันทีครับ ข้อมูล พร้อมภาพประกอบ ยอดเยี่ยมครับ

ขอบคุณทั้ง 2 ท่านครับ +1 ให้เลย... ขออีกซักหน่อยนะครับ... ในเมื่อในกระสุนปืนลูกซองมีการใส่เม็ดลูกตะกั่วเข้าไปหลายเม็ดแล้วแต่ขนาด... ทีนี้ผมเคยได้ทราบข่าวมาว่า มีอดีตนักการเมืองท่านหนึ่งได้เสียชีวิตลงด้วยกระสุนลูกปราย ขนาด .38 (ถ้าจำขนาดไม่ผิด) นั่นก็แสดงว่าให้หัวกระสุนดังกล่าว.. มีการบรรจุเม็ดตะกั่วลูกเล็กๆ เอาไว้ภายในหรือ.? อย่างไร.? และมีประสิทธิภาพแค่ไหน... เพราะในรายละเอียดเรื่องหัวกระสุนของท่าน Jakrit ไม่ได้กล่าวเอาไว้... เลยต้องขอความรู้เพิ่มเติมครับผม... ขอบคุณหลาย... ซำบายดี...

ทำไมจะใส่ไม่ได้ครับ เขามีขายโดยเฉพาะ โดยผู้ผลิตจะเอาแคปซูลพลาสติก ลักษณะเป็นหลอด มาใส่เม็ดตะกั่ว แล้วปิดฝา นำไปอัดใส่กระสุนแทนหัวตะกั่วครับ .. ปกติท่านว่าใช้ยิงสัตว์เลื้อยคลานในระยะใกล้ ไม่เหมาะกับการป้องกันตัว เพราะเมื่อกระสุนลูกปรายผ่านเกลี่ยวลำกล้อง ก็จะถูกปั่นให้กระจายตัวออกครับ

ลองอ่านเล่น ๆ ดูครับ
ลูกปรายปืนสั้น (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=1362.0)
ลูกปรายปืนสั้นกับอสรพิษ(เทียม) (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=37152.0)

เป็นความรู้ใหม่ๆที่ผมไม่เคยรู้เลยครับ   ขอบคุณมากครับ

ได้ความรู้ครับ

ได้ความรู้ อิอิ