เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: jj26621 ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 10:45:59 AM



หัวข้อ: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: jj26621 ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 10:45:59 AM
 :OOได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ) :OO
Subject Fw: อันตรายมาก วุ้นในลูกตาเสื่อม จากการใช้คอมพ์                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                                     
                                                                                                                       
                                                                                                   
                                                                                                                         
วุ้น ในลูกตาเสื่อม (Vlireous degeneration)

    เตือนคนที่ใช้คอมพิวเตอร์บ่อย ไม่ว่าจะใช้เล่นเกมส์ หรือใช้ว่าทำงานลองอ่านดูนะ แล้วก็ดูแลตัวเองด้วย     ตอนนี้ในประเทศไทยมีคนเป็นโรค ' วุ้น ในลูกตาเสื่อม ' ถึง14 ล้านคนแล้วครับจากข้อมูลทางหนังสือพิมพ์ ??     นี่เฉพาะแค่ที่มีข้อมูลบันทึกไว้นะครับ คนที่ไม่รู้ตัวเองว่าตัวเองก็เป็นจะมากขนาดไหน

   ผมคิดว่า ในขณะที่คุณอ่านข้อความของผมนี้จากทางเนตบางคนก็เป็น แต ่ไม่รู้ตัวครับ     อาการก็คือ== > คุณจะเห็นเป็นคราบดำๆ เหมือนยักใย่ ลอยไปลอยมา เหมือน
คราบที่ติดกระจกน่ะครับ จะเห็นชัดก็ต่อเมื่อ คุณมองไปยังภาพแบล็คกราวนด์ที่มีสีสว่าง   เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ ฝาห้องน้ำขาวๆ   จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา
ถ้าอาการมากกว่านั้นก้อคือ ประ สา ทตาฉีกขาด   คุณจะมองเห็นแสงแฟลชในที่มืด ไม่ว่าหลับตาหรือลืมตา (น่ากลัวมากๆ)     และถึงขั้นนี้จะต้องผ่าตัด ( ซึ่งไม่มีอะไรรับประกันว่าจะดีเหมือนเดิม จะตาบอดหรือไม่ ?)

   สา เหตุของโรคนี้คือ == >   การใช้ สายตามากเกินไป ( เล่นคอม)

   แต ่ก่อนโรคนี้จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้ สา ยตามากๆ เช่น ช่างเจียรไนเพชรพลอย ที่ต้องใช้ สายตาเพ่งมากๆ   แต ่เดี๋ยวนี้คนเป็นโรค วุ้น ในลูกตาเสื่อมกันมากเพราะ   เล่นเนต หรือ เล่นคอม

   คุณฟังไม่ผิดหรอกครับ เดี๋ยวนี้คนเป็นโรคนี้กันมากเพราะเล่นคอมนี่แหละ   ถามว่าทำไม คนเล่นเนต เล่นคอม ถึงเป็นกันมาก ?   ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต , เล่นเกมส์ , อ่านไดอารี่ , อ่านบทความ , อ่านหนังสือ   หรืออะไรก็ตาม ที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์     ล้วนทำให้ สา ยตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น
เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ   ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด
ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน     กล้ามเนื้อและประ สา ทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่

   แต ่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น   มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน     เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส  (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต ่เรามองผ่านมันไป   และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษการปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน )

   บวกกับ ลักษณะการอ่านหน้าหนังสือในคอมนั้น จะต้องใช้เม้าส์จิ้ม ลากแถบด้านข้างจอ เพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลง   เพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ หรือไม่ก็ใช้ลูกหมุนที่อยู่บนเม้าส์ หมุนเพื่อเลื่อนบรรทัดหนังสือ     แต ่การเลื่อนบรรทัดนี้   มันไม่เหมือนกับการอ่านหนังสือจากแผ่นกระดาษที่แขนกับคอ   จะปรับการมองขึ้นลงโดยอัตโนมัติ   มีระยะที่แน่นอน สัมพันธ์กัน

   แต ่ว่าการเลื่อนบรรทัดด้วยแถบด้านข้างหรือลูกกลิ้งบนเม้าส์นั้น   มันจะมีลักษณะการเลื่อนแบบกระตุกๆ  ( คุณสังเกตุดู) มันจึงทำให้ปวดตามากๆ เพราะลูกตาจะต้องลากลูกตา     เลื่อนตามบรรทัดที่กระตุกๆ นั้นไปตลอด               บวกกับ การพิมพ์ตัวหนังสือนั้นบางที คุณต้องก้มเพื่อมองนิ้ว
ว่ากดตำแหน่งบนแป้มพิมพ์ถูกตัวอักษรหรือไม่ ทำให้เดี๋ยวก้ม เดี๋ยวเงย ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก       กว่าจะพิมพ์งานเสร็จคุณจะปวดตามากๆๆ อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์         ติดต่อกันข้ามคืน สอง สา มวัน ตาจะปวดมากๆ รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม
word   ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง (ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว ) สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป     หรือไม่ก็ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด
เพราะเวลาเล่นเกมส์   ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ เป็นสีกำแพง เป็นสีปรา สา ท มันจะให้สีสวยสดดี

   แต ่การทำแบบนี้มีข้อเสียคือ บางทีคุณหรือพี่น้องของคุณมาใช้คอมเครื่องนั้นต่อ จะทำให้บางครั้งลืมปรับความสว่างกลับมาให้มืดเหมือนเดิม
จากที่แค่สว่างพอที่จะพิมพ์รายงาน กลายเป็นจ้องจอสว่างจ้าตลอดคืนไม่รู้ตัว สรุปก้อคือ

  1. การมองตัวหนังสือที่แขวนลอยอยู่ในจอ โฟกัสไม่แน่นอน   กล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนัก "ทำให้ สา ยตาเสีย"
  2. การเลื่อนตัวหนังสือและแถบบรรทัด ในหน้าคอม หรือ หน้าเนต มันจะเลื่อนแบบเป็นกระตุกๆ ' ทำให้ สา ยตาเสีย การกระตุกๆ ของแถบบรรทัดนี่เองที่ทำให้ สายตาเสีย ถ้าคุณอ่านหนังสือจากเวปมากๆ คุณจะติดนิสัยเสียอย่างนึงติดตัวไปคือ คุณจะติดนิสัย มองอะไรก็ตาม ไม่ว่าใกล้ไกล จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลก้อคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆ คุณจะไม่ สา มารถปรับโฟกัส มองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย (กล้ามเนื้อประ สาทลูกตาจะล้า การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง)
  3. การก้มๆเงยๆ มองแป้นพิมพ์ และมองจอคอม กลับไปกลับมา ' ทำให้ สา ยตาเสีย '
  4. การปรับจอภาพที่มีแสงสว่างจ้า มากเกินไปโดยไม่รู้ตัว ' ทำให้ สา ยตาเสีย ' ( ข้อนี้ คล้ายๆ กับ การเปิดดูทีวี ในห้องมืดๆ เป็นประจำ แล้วทำให้ สา ยตาเสีย
น่ะเอง อย่างเดียวกัน)
  5. การใช้จอคอม ที่มีความกว้างมากเกิน จอคอมกว้างๆ นั้น เหมาะสำหรับการดูภาพดูหนัง   แต ่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ เพราะว่า สา ยตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต ( 12 นิ้ว) แต ่จอคอมสมัยใหม่ กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น       ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาด สา ยตามอง จากขอบ หนึ่ง ไปสู่อีกขอบ หนึ่ง ( ทำให้ปวดทั้งคอ ทั้งลูกตา) แค่คุณนั่งอ่านหนังสือบนจอกว้างแบบนี้ หนึ่ง ชั่วโมง ลูกตาคุณจะทำงานปรับโฟกัส กลับไปกลับมาเป็นพันๆ ครั้ง และถ้าเป็นปี หรือ หลายปีติดต่อกัน   สา ยตาคุณเสียแน่นอน     เพราะฉะนั้น ถ้าคุณจะอ่านหนังสือจากจอคอมขนาดของจอคอมของคุณควรไม่เกิน 15 นิ้ว

ถามกลับไปว่า ทำไม กระดาษเอก สา รที่ใช้ในการอ่าน การเขียนทั่วไป จึงมีขนาด A4 ? ( คำตอบ ก็คือ ความกว้างของกระดาษ A4 ไม่กว้างเกินไป กำลังพอดี
ในการกวาด สา ยตามอง ยังไงล่ะครับ)   และเป็นคำตอบเดียวกับที่ว่า ทำไมขนาดของจอคอมคุณที่จะเอามาอ่านหนังสือ ไม่ควรเกิน 15 นิ้ว นั่นเอง
 ส่วนมากคนทั่วไป มักจะคิดไม่ถึงว่า การเล่นคอมทุกวัน ง่ายๆ นั้น จะเป็น สา เหตุให ­ ่ที่ สา มารถทำให้ตาบอดได้ ถ้าเกิดรุนแรง เพราะกว่าจะรู้ตัวไปหาหมอ หมอก็อาจจะบอกว่าคุณไม่ สา มารถรักษาหายได้แล้ว และต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเท่านั้น!!!   ผมจึงอยากจะฝากประโยคเอาไว้ให้คนที่เล่นคอมทุกคนว่า คอมพิวเตอร์นั้น มีไว้สำหรับการค้นหามูล ไม่ได้มีไว้สำหรับการอ่านเป็นประจำ โดยเฉพาะการอ่าน อะไรก็ตามที่ยาวๆ เป็นประจำ ไม่ว่าจะเป็นไดอารี่ หนังสือ
บนเนต คุณเสี่ยงทั้งนั้น    เพราะฉะนั้น   เราควรจะกลับมาอ่านหนังสือกระดาษกันเหมือนเดิม ลืมเรื่องเล่นเนต เล่นคอมซะ เพื่อสุขภาพตา
 ::003:: ::003::


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 10:54:31 AM
เป็นไปได้ครับ
จ้องมอง พื้นขาวตลอด
แถมเลื่อนเมาส์แบบไม่เต็มหน้า
ก็จะพร่า อย่างนั้นครับ
ไมควรเลื่อนแบบสกอร์เมาส์
แต่ใช้เมาส์ เลื่อนทั้งแถบ  ช่วยลดได้
และอย่าจ้องมองหน้าจอนาน 
เปลี่ยนกิริยาบท มองไปที่อื่นบ้าง หรือลุกเดินบ้าง
จะช่วยได้
มองสีเขียว ๆ จะดี ครับ....

               (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)                               (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif)


             


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 11:13:26 AM
...เรื่องนี้เคยมีกระทู้แล้วครับ  :D

http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=47042.msg1084131;topicseen#msg1084131 (http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?topic=47042.msg1084131;topicseen#msg1084131)


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: Min-Min ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 11:30:26 AM
รักษาไม่หาย และ ไม่มีทางป้องกัน
แต่ไม่มีอันตรายใด ๆ สาเหตุของการเสื่อมเกิดจากอายุมาก และ สายตาสั้นมาก 


วุ้นลูกตาเสื่อมก็เป็นอีกภาวะหนึ่งที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ จะสังเกตได้ว่ามองเห็นเหมือนมีจุดอะไรมาบังตา ดูเหมือนหยดน้ำ ลูกน้ำ แมงมุม แมลงวัน หยักไย่ แล้วแต่ผู้ป่วยจะมองเห็นเป็นรูปร่างแบบใด หรืออาจมองเห็นแสงแวบๆ สายตาแลบ หรือแสงแฟลชถ่ายรูป วุ้นตาเสื่อมทำให้จอประสาทตาฉีกขาดเป็นรูได้ ซึ่งอาจต้องได้รับการยิงเลเซอร์เพื่อป้องกันจอประสาทตาลอก ที่กล่าวมานี้ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่อาจจะพบในเมื่ออายุคนเราเพิ่มขึ้น หรือแม้ว่าเราจะรู้สึกว่าปกติดีแต่แพทย์ก็อาจตรวจพบได้ โดยที่เราอาจไม่มีอาการอะไรผิดปกติเลย


ข้อความนี้มีนไปก็อบมาจากราชวิทยาลัยจักษุแพทย์แห่งประเทศไทยนะคะ


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ พฤศจิกายน 16, 2007, 11:41:11 AM
...ขอแนะนำให้อ่านที่นี่ครับ  ;)

http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279 (http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279)


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: nomember ที่ พฤศจิกายน 18, 2007, 02:29:16 PM
..ขอบคุณครับ  ::002::


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: TABOO ที่ พฤศจิกายน 18, 2007, 03:44:09 PM
...ขอแนะนำให้อ่านที่นี่ครับ  ;)

http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279 (http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279)
:VOV:ขอบคุณครับ ผมก็มีอาการเหมือนกัน :VOV:


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: submachine -รักในหลวง- ที่ พฤศจิกายน 18, 2007, 04:36:21 PM
ใช้คอมป์โปรดระวัง มอนิเตอร์ไม่ได้มาตรฐานหรือมอนิเตอร์ราคาถูกครับ
มีผลต่อสายดามาก.....


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: srimalai_รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 08:59:51 AM
ไม่จริงครับ  การให้ข้อมูลผิดพลาด  แสดงว่าคนเขียนเรื่องนี้ไม่รู้จัก กายวิภาค และสรีระวิทยา ของลูกตาดีพอ


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: yod - รักในหลวง ครับ ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:27:49 AM
ไม่จริงครับ  การให้ข้อมูลผิดพลาด  แสดงว่าคนเขียนเรื่องนี้ไม่รู้จัก กายวิภาค และสรีระวิทยา ของลูกตาดีพอ

ขอทราบ เหตุ และ ผล ครับ

ขอบคุณครับ...

    (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)                               (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif)


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:28:19 AM
ผมสังเกตว่า "เมล์มั่ว" ลักษณะนี้เห็นบ่อย ... จับแพะ ชนแกะ ให้ดูตื่นเต้นตกใจ แล้วส่งกระจายกันแบบผู้หวังดี ....

วุ้นในตาเสื่อมมีแน่ เพราะแม่ผมเป็นอยู่ หมอตาบอกรักษาไม่ได้ ถ้าอยากหายต้องไปเกิดใหม่ ถามว่าเป็นได้อย่างไร ก็ว่าสาเหตุอาจจะเป็นเพราะแสง UV  แต่ก็บอกว่า มีอายุแล้ว มันก็เสื่อมตามธรรมชาติ ดังนั้นถ้าจะออกแดดก็ควรใส่แว่นกันแดดเสียหน่อย ...

เมล์ลักษณะนี้ หาข้อจับผิดได้ไม่ยาก .... จำได้ว่าอีกเรื่องที่รู้สึกเซ็งจิตกับคนเขียนมากคือ ที่ห้ามดื่มน้ำเย็นระหว่างรับประทานอาหาร เพราะความเย็น จะทำให้ไขมันอิ่มตัวมันจับเป็นฝ้าขาว (เหมือนเอาแกงเนื้อใส่ตู้เย็น) .... คงลืมไปว่า "โฮโมซาเปี้ยน" เนี่ย มันเป็นสัตว์เลือดอุ่น .... ต่อให้จับลงอ่างน้ำแข็งอย่างที่เขาฝึกหน่วยซีลกัน ร่างกายยังพยายามจะให้เป็น ๓๗ องศาอยู่ร่ำไป ไขมันไม่ได้ขึ้นฝ้าอุดเส้นเลือดเสียหน่อย ... อยากรู้จักคนเขียนจริง ๆ จะให้ทุนไปเรียนวิทยาศาสตร์ ;D ;D ;D ;D


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:29:12 AM
...ขอแนะนำให้อ่านที่นี่ครับ  ;)

http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279 (http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279)
:VOV:ขอบคุณครับ ผมก็มีอาการเหมือนกัน :VOV:

...ยินดีครับ  อีกข้อมูลที่น่าสนใจครับ  :)

http://www.geocities.com/amdthai/ (http://www.geocities.com/amdthai/)


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: dhanapol ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:43:58 AM
 ::010:: :o ::007:: ::008:: เหล้าเก่าไนขวดไหม่มาอีกแล้วคร้บท่านสาธุ23ธค50


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:48:46 AM
ขอแสดงความคิดเห็นแย้งเป็นบางอัน

....

เพราะว่า ถ้าคุณอ่านหนังสือที่เป็นแผ่นกระดาษธรรมดาๆ   ระยะห่างระหว่าง ลูกตา กับ ตัวหนังสือ จะคงที่ แน่นอน เพราะขอบของตัวหนังสือจะคมชัด
ทำให้สมองกะระยะโฟกัสได้ถูกต้องแน่นอน     กล้ามเนื้อและประ สา ทตา จึงทำงานค่อนข้างคงที่

   แต ่ ! ตัวหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์นั้น   มีลักษณะเป็นจุดๆ ประกอบกัน     เหมือนแขวนลอยบนจอ ขอบของตัวหนังสือไม่ชัด สมองจะสับสนในการปรับระยะโฟกัส  (เพราะจอแก้ว จะมีความหนาของแก้ว แต ่เรามองผ่านมันไป   และจอ LCD เราก้อต้องมองผ่านเข้าไปเหมือนกัน ตัวหนังสือมันไม่ได้ติดอยู่ด้านบนเหมือนอยู่บนแผ่นกระดาษการปรับระยะโฟกัสจึงไม่แน่นอน )
ระยะโฟกัส ... ก็ระยะเดิม แล้ทำไม่สมองถึงสับสนในระยะได้

ผมไม่ได้หมายถึงว่าจอคอมมันดีเลิศประเสริฐมาจากไหนนะครับ เพราะตัวอักษรบนจอภาพก็เกิดจากการเอาจุดมาเรียงต่อกันจริง ๆ ... ในระบบโปรแกรมใหม่ ๆ จะมีการเฉลี่ยขอบ ของตัวอักษร เพื่อให้คนใช้เห็นตัวอักษรได้ชัดขึ้น เช่นใน Vista

ปัญหาของคนใช้สายตาในคอมฯ คือความเมื่อยล้า จากการที่กล้ามเนื้อไม่ได้ขยับ เขาจึงแนะนำให้ทำงานไม่เกินครึ่งชั่วโมง ก็ต้องพักสายตาสัก ๕ นาที อาจจะเดินไปเข้าห้องน้ำก็ได้ ... เหมือนขับรถทางไกล ถ้ากลางวัน ท่านไห้มองวิวข้างทางบ้าง มองที่เขียว ๆ จะได้สบายตา ... ถ้ากลางคืนให้มองสามจุด คือ ขอบฟ้า ขอบทาง และหัวรถเรา ....

...
 ลูกตาปรับโฟกัสบ่อยเกิน ทำให้ลูกตาทำงานหนัก       กว่าจะพิมพ์งานเสร็จคุณจะปวดตามากๆๆ อย่างเด็กนักศึกษา เร่งพิมพ์รายงานส่งอาจารย์         ติดต่อกันข้ามคืน สอง สา มวัน ตาจะปวดมากๆ
ใช้สายตาไม่พักเลย วันเดียวก็ปวดตาแล้วครับ เอาผ้าชุบน้ำอุ่น บิดหมาด ๆ ประคบตา ถ้ามีคนนวดด้วยยิ่งดี  ::008::

ผมก็เคยปั่นรายงานเหมือนกันครับ ถึงจะต่อเนื่องหลายวัน โดยแทบไม่ได้นอน แต่ผมจะกินน้ำบ่อย เข้าห้องน้ำบ่อย เป็นการเปลี่ยนอิริยาบทครับ .... จะทำอะไรหักโหมก็ต้องรู้ลิมิตของตัวเองด้วยครับ

...
รวมทั้งเวลาการเปิดโปรแกรม
word   ในการพิมพ์ตัวหนังสือมักจะมีสีพื้นที่เป็นสีสว่าง (ที่นิยมก็คือ ตัวหนังสือดำ พื้นสีขาว ) สีพื้นที่สว่างขาวจ้า นี่เอง ทำให้ตาคุณจะเกิดอาการแพ้แสง ถ้ามีการพิมพ์ติดต่อกันนานๆ เพราะจ้องจอสีขาวนานเกินไป     
MS Word มีตัวเลือกให้สบายตากว่าที่เป็นอยู่ครับ จำได้ว่าทำให้พื้นสีฟ้าหรือย่างไรนี่ล่ะ .... แต่เชื่อผม พักบ่อย ๆ (คนเล่นคอมฯไม่ได้ขี้เกียจนะ แต่ต้องรักษาสุขภาพ)

....

หรือไม่ก็ ในคนที่ชอบเล่นเกมส์บ่อยๆ มักจะมีการปรับแสงสว่างให้จ้าที่สุด
เพราะเวลาเล่นเกมส์   ภาพพื้นหลังของเกมส์มักจะมืดๆ เป็นสีกำแพง เป็นสีปรา สา ท มันจะให้สีสวยสดดี
เขามีปรับ Gamma ครับ ไม่ต้องไปเพิ่มหรือลดแสงแต่อย่างไร ....

ในลูกตาคนเรามีน้ำเป็นส่วนใหญ่ครับ และที่เคยฟังคุณหมอมา ผมว่าไม่มีการผ่าตัดเข้าไปในลูกตาครับ ที่ทำได้ก็แค่เปลี่ยนแก้วตา ลอกต้อ แต่ถ้าจะให้ผ่าเอาวุ้นที่แข็งตัวออกมา คงไม่มีคนทำ .... และน้ำในลูกตาก็มีการไหลเข้า และไหลออก มีเซลที่ทำหน้าที่ควบคุมความดันอยู่ ซึ่งถ้าความดันตรงนี้ไม่สมดุล ก็เกิดโรคต้อกระจกได้ (คงจำไม่ผิด) ซึ่งการแก้ไขของคุณหมอก็จะเจาะช่องให้น้ำในลูกตาระบายได้ .... คุณหมอเล่าว่า ถ้าเจาะมากไป น้ำออกจนหมด คนไข้ตาบอดไปเลยก็มี .... .....


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: ttt ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 10:00:32 AM
http://www.aoa.org/x5374.xml ใช้คอมพิวเตอร์นานๆ น่าจะเป็นโรคนี้มากกว่าครับ Computer Vision Syndrome (CVS)  :)   

ผมเคยไปหาหมอ เพราะตาสู้แสงไม่ได้ พี่ๆที่ทำงานหน้าคอมบ่อยๆ ควรพักตา บริการตาบ้างนะครับ เดี๋ยวตาแห้ง :D


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: BADBOY ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 11:35:27 AM
ผมเองก็ได้ตัดแว่น ใส่ตอนเล่นคอมพ์ คือ ตาแพ้แสงครับ ...ถ้านั่งเล่น เกินชั่วโมง ก็ล้าปวดหัวข้างเดียว ...


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: TABOO ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 11:36:11 AM
...ขอแนะนำให้อ่านที่นี่ครับ  ;)

http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279 (http://www.thaioptometry.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=279)
:VOV:ขอบคุณครับ ผมก็มีอาการเหมือนกัน :VOV:

...ยินดีครับ  อีกข้อมูลที่น่าสนใจครับ  :)

http://www.geocities.com/amdthai/ (http://www.geocities.com/amdthai/)
:VOV:ขอบคุณอีกครั้งครับ ข้อมูลมีประโยช์นมากครับ :VOV:


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: p23-504 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 09:53:18 PM
ผมเองก็ได้ตัดแว่น ใส่ตอนเล่นคอมพ์ คือ ตาแพ้แสงครับ ...ถ้านั่งเล่น เกินชั่วโมง ก็ล้าปวดหัวข้างเดียว ...

มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 10:03:34 PM
มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


...เดาว่า (อายุ) เริ่มเข้าหลักสี่  ;D


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: p23-504 รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 10:39:39 PM
มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


...เดาว่า (อายุ) เริ่มเข้าหลักสี่  ;D
มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


...เดาว่า (อายุ) เริ่มเข้าหลักสี่  ;D

  เอ้อ....เลยดอนเมืองแล้วครับ     :~)


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ พฤศจิกายน 19, 2007, 11:40:46 PM
มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


...เดาว่า (อายุ) เริ่มเข้าหลักสี่  ;D
มีใครเหมือนผมบ้างครับ    ตอนนี้ผมต้องมีแว่นสายตา  2  อัน   อันหนึ่งใช้ทำงานอ่านเขียนหนังสือ   อีกหนึ่งอันสำหรับทำงานหน้าจอคอมพ์   ซึ่งเลนซ์จะมีค่าน้อยกว่าอันที่ใช้อ่านหนังสือปกติ     ;D


...เดาว่า (อายุ) เริ่มเข้าหลักสี่  ;D

  เอ้อ....เลยดอนเมืองแล้วครับ     :~)

...อายุเลยดอนเมือง (แสดงว่ารุ่นใกล้ๆ กัน)  อาการนี้ถือว่าปกติครับ  ผมรู้ตัวว่าต้องถอดๆ ใส่ๆ แว่นตอนเข้าหลักสี่   ต่อมาใช้เลนส์โปรเกรสซีฟ  หมดปัญหาครับ  แว่นเดียวได้ทุกระยะ 

...สวมแว่นสายตา  ควรระวังเรื่องแสงแดดนะครับ  เห็นคนใส่แว่นสายตาจำนวนมากไม่ใช้แว่นกันแดด  ในที่สุดอาจมีปัญหาเรื่องสารพัดต้อครับ


หัวข้อ: Re: ได้รับเมล์มาไม่รู้เรื่องจริงหรือป่าว(ช่วยวิเคราะหน่อยครับ)
เริ่มหัวข้อโดย: pavilion ที่ พฤศจิกายน 24, 2007, 10:49:55 AM
น่ากลัวดีครับ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย ขอบคุณครับ