เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

1.  เจ้าของภาพ : นายไชยฤกษ์ โรจชยาภรณ์
     
     นักเรียนจากโรงเรียนสอนคนหูหนวกรับเสด็จที่วัดพระแก้ว ปีพ.ศ. 2512 วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กทม.
     
     "พระองค์ทรงตรัสกับข้าพเจ้าว่า เป็นใบ้เหรอ น่าสงสารนะ ขณะที่ทรงเสด็จเวียนเทียนที่วัดพระแก้ว ในวันวิสาขบูชา ข้าพเจ้ารู้สึกดีใจ และอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ทุกปี ถ้าเป็นไปได้ "

(http://img164.imageshack.us/img164/8336/e60571611yv6.jpg)

2. เจ้าของภาพ : น.ส.แววตา ประพัทธ์ศร
     
     ภาพรับเสด็จในหลวงและพระเจ้าเดนมาร์ค กับพระราชินีอินกริด ที่โรงเรียนอนุบาลสระบุรี พ.ศ.2505
     
      "ดิฉันรู้สึกซาบซึ้ง และประทับใจมากที่ครั้งหนึ่ง เด็กหญิงตัวเล็กๆในต่างจังหวัดอย่างดิฉันได้มีโอกาสเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวพร้อมแขกบ้านแขกเมือง "

(http://img249.imageshack.us/img249/9016/e60571612yf2.jpg)

3.  เจ้าของภาพ : นาย นุช อนันตรานนท์
     
     ทรงประทับเรือขุดทอดพระเนตรบึงบัวบากง โดยมีนายนุช อนันตรานนท์ พายเรือถวาย ที่บึงบัวบากง จ. นราธิวาส
     
     "เป็นบุญวาสนาและมงคลสูงสุดในชีวิตที่ทั้งสองพระองค์ทรงเลือกพ่อเป็นฝีพาย ทรงตรัสถามถึงความเป็นอยู่ของครอบครัวและทุกข์สุขของราษฎรยังความปลาบปลื้มมาถึงพวกเราทุกคนในครอบครัว "

(http://img252.imageshack.us/img252/7021/e60571613ig8.jpg)

4. เจ้าของภาพ : นางพรรณพร สมบัติทวี ฝ่ายช่วยอำนวยการและประสานงานราชการกรมชลประทาน ขณะเสด็จ ณ วัดคำประมง พ.ย. 2533อ.พรรณนิคม จ.สกลนคร
     
      "ทรงผูกเชือกรองเท้าด้วยพระองค์เอง ณ วัดคำประมง อ. พรรณนิคม จังหวัดสกลนครก่อนที่จะเสด็จทรงงานต่อ โดยมิได้หยุดหย่อน "

(http://img138.imageshack.us/img138/935/e60571614ge8.jpg)

5. เจ้าของภาพ : นางพรรณพร สมบัติทวี ฝ่ายช่วยอำนวยการและประสานงานราชการ กรมชลประทาน
     
     ภาพทรงนั่งชันเข่า ทอดพระเนตรภูมิประเทศคลองด่าน 26 ธ.ค. 2519บ้านสีสุก ต.หินตั้ง อ.เมือง จ. นครนายก
     
     "ช่างเป็นภาพที่น่าประทับใจจริงๆที่พระองค์ทรงนั่งชันเข่าคุยกับคณะของกรมชลประทานเพื่อรับสนองพระราชดำริสร้างฝายคลองด่านโดยมิได้ทรงถือองค์ "

(http://img172.imageshack.us/img172/2889/e60571615rp5.jpg)

6. เจ้าของภาพ : นายสืบ บุญยรัตพันธุ์
     
     ภาพหมู่"นวกะภิกษุ" พ.ศ.2499 นายสืบ บุญยรัตพันธุ์บวช 1 พรรษา ในปีที่ทรงผนวช วัดบวรนิเวศวิหาร ปี พ.ศ.2499
     
     "นับเป็นโอกาสครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต ที่ได้มีโอกาสร่วมทำวัด เช้า-เย็น ร่วมกับพระองค์ท่านตลอดระยะเวลาที่ทรงผนวช "

(http://img407.imageshack.us/img407/8568/e60571616zv7.jpg)

7. เจ้าของภาพ : นางเกวลี พิลาคง
     
     ขณะเสด็จพระราชทานเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ราษฎรที่ประสบอุทกภัย กิ่งอำเภอสังคม จ.หนองคาย
     
      "อบอุ่นพระหัตถ์ต้อง
     เพียงพระบารมีป้อง
     ปราศพ้นปวงพาลฯ"

(http://img249.imageshack.us/img249/2767/e60571617ef5.jpg)

8. เจ้าของภาพ : นางหฤทัย กิตติอำพัน
     
     นางลม่อม เนียวกุล (บุคคลในภาพ) วันทรงลาผนวช ณ วัดบวรนิเวศวิหาร วันที่ 5 พ.ย. 2499 วัดบวรนิเวศวิหาร กทม.
     
     " หลังจากทรงรับดอกไม้จากน้องหฤทัย ทรงตรัสว่า อายุเท่าไร ซึ่งยังความปลาบปลื้มในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น แก่คุณแม่ และน้องหฤทัยอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ "

(http://img252.imageshack.us/img252/4936/e60571618uf8.jpg)

9. เจ้าของภาพ : นายวิทย์ อนันตะ
     
     นายวิทย์ อนันตะ ถวายพระเครื่องและเหรียญที่ระลึก เมื่อคราวเสด็จ ประพาสภาคเหนือเป็นครั้งแรก วันที่ 1 มี.ค. 2501 อ. ศรีสำโรง จ.สุโขทัย
     
     พระองค์ทรงตรัส "เป็นครูใช่ไหม" ผมรีบกราบทูลว่า "ใช่ครับ" ทรงตรัสว่า " ขอฝากเด็กๆด้วยนะ ช่วยสอนให้เขาเป็นคนดี "

(http://img515.imageshack.us/img515/3791/e60571619xr9.jpg)

10. เจ้าของภาพ : พตอ.วิเดช ฐินถาวร
     
     "พ.ต.อ. วิเดช ฐินถาวร หัวหน้าชุด พร้อมคณะ จัดยกเรือใบ ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบริเวณที่ประทับชายหาดหน้าพระตำหนัก วังมฤคทายวัน อ.ชะอำ จ. เพชรบุรี(พ.ศ. 2532)"

(http://img172.imageshack.us/img172/6494/e605716110xm9.jpg)

11. เจ้าของภาพ : คุณพิมพา ชินเมธีพิทักษ์
     
     ขณะทรงประทับรอยพระบาท ณ ฐานปฏิบัติการ พญาภักดิ์
     
      "แค่ได้สวมถุงพระบาทถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯแค่นี้ก็เป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจให้กับทีมงานทุกๆคนตราบจนวันนี้ "

(http://img159.imageshack.us/img159/5479/e605716111md0.jpg)

12.  เจ้าของภาพ : คุณพ่ออุ่นดวง วงค์ยวง
     
     ขณะทรงเสด็จฯเยี่ยมพสกนิกรที่ศูนย์นิคมสงเคราะห์ชาวเขา อ.แม่จัน จ.เชียงราย
     
      "คุณพ่อและคุณแม่ได้นำคณะชาวไทยลื้อร่วมรับเสด็จ ทั้งสองพระองค์ทรงตรัสสนทนาด้วยความเมตตายิ่ง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อชาวไทยลื้อบนผืนแผ่นดินไทยเป็นอย่างยิ่ง "

(http://img89.imageshack.us/img89/448/e605716112he2.jpg)

13. เจ้าของภาพ : พันโทบุญลือ พรหมตรุษ
     
     ขณะเสด็จเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บระหว่างการสู้รบที่ ดอยป่าซางเหลือง อ. เชียงกลาง จ.น่าน เมื่อปี พ.ศ. 2510
     
     "พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระราชินีนาถ ได้เสด็จทรงเยี่ยม จ.ส.อ. บุญลือ พรหมตรุษ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น และเป็นขวัญกำลังใจกับทหาร และตำรวจตระเวณชายแดนเป็นอย่างสูง "

(http://img90.imageshack.us/img90/404/e605716113tm1.jpg)

14. เจ้าของภาพ : นายสอน ดวงปากดี
     
     ขณะเสด็จทอดพระเนตรฝายชาวบ้านในลำห้วยเรือ ณ บ้านดงน้อย ต.ดงมะไฟ อ.เมือง จ.สกลนคร 12 พ.ย. 2527
     
     "หลังจากนายสอนคลายความตื่นเต้นลง เนื่องจากได้เข้าเฝ้าอย่างกะทันหันจึงได้ขอพระบรมราชานุญาตไปเปลี่ยนเลื้อผ้า แล้วกลับมาในชุด เสื้อแขนยาว และกางเกงขายาว ทรงพระราชดำรัสเย้านายสอนว่า แต่งซะหล่อ "

(http://img98.imageshack.us/img98/2516/e605716114xk4.jpg)

15. เจ้าของภาพ : ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายสัตวแพทย์ กิตติศักดิ์
     
     ขณะเสด็จเยี่ยมราษฎรที่ จ. สงขลา ราวปีพ.ศ.2518ศาลากลาง จ.สงขลา
     
     "ผมพูดเหมือนที่พ่อสอนไว้ ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญ....ทรงตรัสถามด้วยความห่วงใยว่า ขาเป็นอะไร พ่อรีบกราบทูลว่าท่านว่า ขาผมไม่ได้เป็นอะไร แค่ตื่นเต้นและนั่งนานไปหน่อย "

(http://img232.imageshack.us/img232/885/e605716116dx0.jpg)

16.  เจ้าของภาพ : นางกันทิมา ประมิติธนการ
     
     ขณะรับเสด็จและทูลเกล้าฯถวายพวงมาลัย วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ราวปีพ.ศ.2506-2507
     
      "ฉันรู้สึกตื่นเต้น ดีใจ... และยิ่งเห็นสายพระเนตรที่ทอดมองมาเปี่ยมไปด้วยพระเมตตา ฉันยิ่งรู้สึกว่า อยากกราบแทบพระบาทผู้ที่อยู่เบื้องหน้าอันเป็นที่รักของคนไทยทั้งชาติ "

(http://img249.imageshack.us/img249/5009/e605716117ud1.jpg)

17.  เจ้าของภาพ : Mr. Inderjit Sachdev
     
     "The roar of the helicopter became louder and louder, in the temple compound became very dusty but everything else seemed not important when the charisma of his presence made me still but full of joy."
(http://img255.imageshack.us/img255/7549/e605716118lm8.jpg)

18. เจ้าของภาพ : นางประทีป จันทร์เดช
     
     นางประทีป จันทร์เดช ทูลเกล้าฯถวายมาลัยดอกไม้ เสด็จฯงานสมมติสีมา ณ วัดโพธิ์ศรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี วันที่ 23 มี.ค. 2512
     
     " ข้าพเจ้าเป็นคนจน อยากเข้าเฝ้าในหลวงมาก แต่ไม่มีเงินถวายจึงเดินทางจากบ้าน 14 กิโลไปซื้อดอกมะลิ และเก็บดอกรักริมทางเพื่อมาร้อยมาลัยถวายท่าน พระองค์ตรัสว่า ขอบคุณข้าพเจ้าจึงยิ้มออกมาดังภาพ"

(http://img223.imageshack.us/img223/4725/e605716119si8.jpg)

19.  เจ้าของภาพ : นายบุญธรรม ครูทอง
     
     ขณะเสด็จฯพระราชทานผ้าพระกฐิน 17 พ.ย. 2514 อ.ไพรบึง จ.ศรีสะเกษ
     
     "ก่อนที่จะเสด็จขึ้น ฮ. กลับ ฝนตก รองพระบาทเปื้อนโคลน ผมและเพื่อนรวม ๓ คน ได้เข้าทำความสะอาดรองพระบาท เป็นภาพประทับใจที่ผมไม่เคยลืมเลือน "

(http://img172.imageshack.us/img172/3618/e605716120uv9.jpg)

20.  เจ้าของภาพ : นายสุวรรณ บัวชุ่ม (นิ่มนวล)
     
     นายสุวรรณ บัวชุม รำมโนราห์ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งเสด็จฯจังหวัดปัตตานี ณ ลานวัดราษฎร์บูรณะ (วัดช้างให้) ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ. ปัตตานี
     
     " ข้าพเจ้ามีความปลื้มปิติสุดพรรณนาในชีวิต เมื่อได้รำถวาย แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้า และพระบรมศานุวงค์ "

(http://img81.imageshack.us/img81/7436/e605716121zf3.jpg)


ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ประทับใจจริง ๆ ครับ เจ็หน่อย หาดูยากมาก

ประทับใจมา ประทับใจจริงๆครับคุณแรมส์ใจ ขอบคุณนะครับ ::002::

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ...ขอบคุณจขกท.อีกครั้งครับ

  ขอบคุณมากๆครับ   

ทั้งภาพและคำบรรยาย  อ่านแล้วทั้งปลื้มปิติและตื้นตันแทนทุกๆท่านที่มีโอกาสเข้าเฝ้าฯอย่างใกล้ชิด

น่าภาพที่ปลาบปลื้มจริงๆครับ   

หาดูยากนะครับ.....ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ....

ทรงพระเจริญ

  ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน..ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ..

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ
ขอบคุณคุณ Ramjai ครับที่หาภาพที่หาดูได้ยากมาให้ชมครับ

ทรงพระเจริญ

ผมขอเสนอภาพประทับใจของผมเองบ้าง
สถานที่ : วังไกลกังวล  หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพักผ่อนพระอิริยาบถ โดยมีพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ฯ และพระองค์ทีฯ เข้าเฝ้าด้วย
(http://img248.imageshack.us/img248/2764/60663755br6.jpg) (http://imageshack.us)

               ทรงพระเจริญ อยู่ยิ่งยืนนาน ทรงพระเกษมสำราญ ตลอดกาล...ตลอดไป

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ขอบพระคุณมากครับ และขออนุญาตนำไปเผยแพร่ต่อ เพื่อเป็นศิริมงคลกับชีวิตครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

 :) ขอขอบคุณ คุณ.แรมใจ และพี่บิ๊ก เป็นอย่างสูง ที่กรุณานำภาพที่ชมแล้วรู้สึกปลาบปลื้ม ตื้นตัน รู้สึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านมีต่อประชาชนจนหาที่สุดมิได้ หาชมได้ยากมา ขออนุญาตคัดลอกเพื่อนำไปเผยแพร่ต่อนะครับ

ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

ขอบคุณค่ะพี่หน่อย  ซาบซึ้งใจมากค่ะ  ::002::

ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ดูแล้วรู้สึกดีมากครับ

..... ขอจงทรงพระเจริญ .....

..... สมบูรณ์ทั้งภาพและคำบรรยายครับผม ......  

  ชัย  บีงกาฬ  ใช่คนเดียวกับ ชัย นาโนน (เขย ตาเหลื่อง ) หรือเปล่าครับ

  ถ้าใช่ จำผมได้ไหม  ชาติ  ธกส.

  ตอนนี้กำลังหัด จับปืน  ใช้อยู่ smith .38 / นิ้ว

  อยากเรียนรู้ อยากตั้งชมรมในส่วนงาน

  ถ้าชัย มีอุปกรณ์ สนาม ช่วยแวะมาหาที่ ธกส.หนองคายด้วยนะครับ

 ::014:: ::014:: ::014:: ::014:: ขอบคุณที่มีภาพประทับใจให้ดูครับคุณหน่อย

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ขอบคุณมากครับ ...

อัพให้สมาชิกได้ชมภาพประทับใจค่ะ  :D

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน.ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ

คนใจดี..ขอบคุณนะ..ซึ้งทุกภาพที่เกี่ยวกับพระองค์

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ::014::

ขอบคุณมากครับ อ่านข้อความและดูภาพประทับใจจริงๆ

รูปสวยมากครับ

ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ....

ขอถวายพระพร
ขอพระองค์จงทรงพระเจริญ ยิ่งยื่นนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ

ขออนุญาตเสริม ภาพที่ 11 ครับ


       

                เนื่องด้วยเคยเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาช่วงที่ พอ.วิโรจน์ เป็น รองฯ ผุ้การ ร.7

              ไม่เสียดายช่วงชีวิตที่เป็น พลฯทหารลูกน้องท่านเลย  ประทับใจในตัวท่านมาก  ท่านยังเป็นต้นแบบในชีวิตผมอยู่เสมอครับ









           ฝากข้อมูลเพิ่มเติม  เผื่อว่าขึ้นเหนือท้าลมหนาวครับ


       

                                  http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jackiechan&date=15-09-2007&group=1&gblog=1 (http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=jackiechan&date=15-09-2007&group=1&gblog=1)


           ขอคัดลอกเนื้อหาบ้างส่วนมาให้อ่านครับ

ดินแดนมิคสัญญีสู่..."ภูชี้ฟ้า" ... หลังคาแห่งสยาม

เบื้องหลังความงดงามและมนต์เสน่ห์ของภูชี้ฟ้า มีอดีตประวัติการสู้รบ บทเรียนความเจ็บปวด ซ่อนเร้นอยู่ แม้ว่าหลายคนจะไม่อยากรื้อฟื้น หากว่าสิ่งที่ตามมามันจะเป็นความขมขื่น ทรมานใจและการสูญเสีย แต่สำหรับที่นี้เวลานี้สมควรที่จะต้องทบทวนเพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง นักเดินทางและผู้แสวงหาได้มีโอกาสรับรู้เข้าใจ ข้อเท็จจริง สถานการณ์ในอดีตไว้เป็นกรณีศึกษา
นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2497 เป็นต้นมาสถานการณ์ก่อการร้ายในจังหวัดเชียงรายเกิดขึ้นโดยพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้ส่งผู้ปฏิบัติงานจำนวนหนึ่งเข้าสู่ภาคเหนือของประเทศไทย เพื่อแสวงหาแนวร่วมพื้นฐานโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวไทยภูเขาที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนในจังหวัดเชียงราย จังหวัดพะเยา และจังหวัดน่าน

ในปี พ.ศ. 2500 พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย (พคท.) ได้ขยายพื้นที่ก่อการร้ายเข้ามาในพื้นที่จังหวัดเชียงราย พะเยา และน่าน เพื่อส่งผู้ปฏิบัติงานเพื่อปลุกระดมและจัดตั้งมวลชนและทำหน้าที่เผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์โดยเป็นพื้นที่ออกเป็น 4 เขตงาน คือ เขตงาน 7 ครอบคลุมพื้นที่ดอยผาจิ , ผาช้าง เขตงาน 8 ครอบคลุมพื้นที่ดอยยาว – ดอยผาหม่น เขตงาน 9 ครอบคลุมพื้นที่บ่อเกลือเชียงกลาง ทุ่งช้างและเขตงาน 52 ครอบคลุมพื้นที่ อำเภอเชียงแสน ในเนื้อที่ของการปลุกระดมได้โฆษณาชวนเชื่อในนโยบายเนื้อหาและแนวทางของลัทธิคอมมิวนิสต์ได้ปลอดปล่อยประชาชน โดยให้ทุกคนมีสิทธิเสรีภาพเท่าเทียมกันไม่มีการกดขี่ข่มเหงกันและมีเครื่องสาธารณูปโภคเหมือนกับคนในเมือง ไม่มีการแยกชนชั้น ทุกคนต้องได้รับความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษา พยาบาล และการรับราชการ ไม่มีการแบ่งแยกระหว่างชนเผ่าและคนพื้นราบ ซึ่งถือได้ว่าเป็นนโยบายขั้นที่ 1 (ขั้นพื้นฐาน) ผู้ปฏิบัติงานสามารถทำงานจนประสบผลสำเร็จ เพราะทุกคนเห็นข้อแตกต่างระหว่างชนเผ่ากับคนในเมืองสามารถปฏิบัติงานขั้นที่ 2 ได้ โดยยึดถือว่า คนที่จะได้รับสิทธิเสรีภาพเสมอกันต้องได้มาจากการต่อสู้ด้วยอาวุธโค่นล้มรัฐบาล ในขณะนั้นขับไล่อเมริกาออกจากประเทศไทยและจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นรัฐบาลของประชาชน

ในปี พ.ศ. 2507 สมาชิก พคท. สามารถขยายเขตงานได้อย่างกว้างขวางและต่อเนื่อง พคท. เปิดฉากการต่อสู้ด้วยอาวุธกับเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลในภาคเหนือครั้งแรกที่บ้านน้ำปาม ตำบลไร่หลวง อำเภอทุ่งช้าง จังหวัดน่าน เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 ซึ่งถือว่าเป็น “วันเสียงปืนแตก” การต่อสู้รุนแรงขึ้นเป็นลำดับ
การต่อสู้ระหว่าง พคท. และเจ้าหน้าที่ของรัฐครั้งแรกในจังหวัดเชียงราย ที่บ้านห้วยชมภู ตำบลยางฮอม อำเภอเทิง (ในขณะนั้น) เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2510 ซึ่งเกิดการปะทะกันในเขตพื้นที่ดอยยาว – ดอยผาหม่น โดยมีสาเหตุมาจากกลุ่มผู้นำท้องถิ่นที่มาเรียกเก็บภาษีที่ไร่ซ้ำซ้อนและกดขี่ข่มเหงชาวไทยภูเขา สร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวเขาเหล่านี้ ประจวบกับช่วงนั้น พคท. ได้มีการเคลื่อนไหวและปลุกระดมชาวบ้านทุกหมู่บ้านก็พร้อมจะต่อสู้ด้วยอาวุธและแข็งข้อโดยไม่ยอมจ่ายภาษีให้ จึงสร้างความไม่พอใจไว้ให้แก่ผู้นำท้องถิ่น ในขณะนั้นเป็นอันมากและขู่ว่า จะจับชาวบ้าน ฆ่าทั้งหมด จึงสร้างความไม่พอใจให้แก่ชาวบ้าน จึงเกิดการสู้รบกันด้วยอาวุธ(พคท. สนับสนุน) ต่อมาเจ้าหน้าที่ของรัฐพร้อมด้วยกำลังทหาร เข้ายิงถล่ม ปะทะกันและเผาหมู่บ้านโดยใช้นโยบายปล้นเรียบ ฆ่าเรียบ เผาเรียบ ทำให้ชาวบ้านพากันอพยพหลบหนีบางส่วนได้เป็นตัวแทนไปเรียนการเมือง การทหาร โดยได้รับการสนับสนุนจากลาว จีน และเวียดนาม แล้วกลับมาปฏิบัติงาน เพื่อยึดฐานที่มั่นในพื้นที่ดอยผาหม่น ทำเกิดการปะทะกันและสูญเสียอยู่เรื่อย ๆๆ

วันที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2517 ได้จัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจกองพลที่ 4 ให้มีภารกิจป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้าย คอมมิวนิสต์ในจังหวัดเชียงราย พะเยา โดยยึดถือการเมืองนำการทหาร

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2522 ได้จัดตั้งกองอำนวยการผสมพลเรือน ตำรวจ ทหาร (พตท. 2324) ขึ้นแทน หน่วยงานเฉพาะกิจ กองพลที่ 4 เพื่อรับผิดชอบป้องกันและปราบปรามผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ โดยรวมพลังเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งพลเรือน ตำรวจ และทหาร เข้าปฏิบัติการร่วมกันอย่างมีเอกภาพ

วันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2524 ได้แปรสภาพเป็น พตท. 31 โดยปฏิบัติตาม นโยบาย ตามคำสั่ง นายกรัฐมนตรีที่ 66/23 ลงวันที่ 23 เดือนเมษายน พ.ศ. 2523 และนโยบาย ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 65/24 และดำเนินการรุกทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้ พัน ร. 473 ภายใต้การนำของ พันโทวิโรจน์ ทองมิตร  ผู้บังคับกองพัน ซึ่งจัดกำลังจากกองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 7 ได้ส่งกำลังเข้าปราบปราม ผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ (ผกค.) ในพื้นที่ดอยยาว – ดอยผาหม่นหลายยุทธการด้วยกัน จนกระทั่งยุทธการที่สำคัญ คือ ยุทธการเกรียงไกร (วีกรรมเนิน 1188) บนพญาพิภักดิ์ จนกระทั่งผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์ เข้ามอบตัวเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เป็นจำนวนมาก จากการปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ของรัฐที่โปรยใบปลิวชี้แจงข้อเท็จจริง โดยใช้เครื่องบินติดตั้งเครื่องขยายเสียง ประกาศทำความความเข้าใจกับชาวเขา และอดีตผู้นำนักศึกษาที่เคยร่วมขบวนการและปฏิบัติงานในพื้นที่ ได้ขอเชิญชวนมอบตัวเพราะว่าในขณะนั้นรัฐบาลได้มีการเปลี่ยนแปลง ไปในทางที่ดีกว่าอดีต จึงทำให้สงครามการต่อสู้ด้วยอาวุธได้ยุติลง และเปลี่ยนแปลงการพัฒนาขึ้นแทน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2527 เป็นต้นมา

ในช่วงของการต่อสู้กับ ผกค. ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการก่อสร้างทางสายมรณะ (เส้นทางสายยุทธศาสตร์) สายป่าบง – ปางค่า (เส้นทางสาย 1155) ได้เกิดการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลกับ ผกค. รุนแรงมากทำให้มีการสูญเสียชีวิต เครื่องจักรกล และทรัพย์สินเป็นจำนวนมากส่งผลให้ ร้อยโททายาท คล่องตรวจโรค และร้อยโทปิยวิพากษ์ เปี่ยมญาติ ผู้บังคับหมวดปืนเล็ก จากกองพันทหารราบที่ 3 กรมผสมที่ 7 ซึ่งได้ปฏิบัติหน้าที่อย่างกล้าหาญ และเสียสละอย่างสูงสุด ต้องสูญเสียชีวิตพร้อมกันทั้ง 2 ท่าน บริเวณฐานห้วยเมี่ยง

หลังจากที่ดินแดนแห่งนี้เคยเป็นสมรภูมิรบ ระหว่างรัฐบาลไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย อีกเสี้ยวหนึ่งใครจะรู้ว่า ยังมีดินแดนที่มีรูปร่างสวยงามอย่างน่าอัศจรรย์ยิ่ง จนมีผู้ขนานนามว่า “ภูชี้ฟ้า” เนื่องจาก มีลักษณะเป็นยอดเขาแหลมและมีแผ่นผาขนาดใหญ่มหึมาชี้ขึ้นไปบนท้องฟ้าอันกว้างใหญ่อย่างน่าอัศจรรย์ยิ่งบนยอดภูชี้ฟ้าเป็นทุ่งกว้างประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร มีหน้าผาเป็นแนวยาวยื่นไปทางฝั่งประเทศลาว หลายคนมีโอกาสได้ดื่มด่ำธรรมชาติความงดงามของทะเลหมอกยามเช้าบนยอดภูชี้ฟ้า นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต่างดั้นด้น เดินทางเพื่อพิชิตให้ถึงยอดภูชี้ฟ้าเพียงเพื่อชื่นชมและสัมผัสกับความงดงามที่ธรรมชาติสร้างสรรค์ขึ้นมา จะมีสักกี่คนที่มองเห็นสถูปและแวะเวียนไปสักการะสถานที่แห่งนั้น ซึ่งเป็นที่สถิตของวีรบุรุษผู้กล้า ผู้เสียสละ ผู้สร้างประโยชน์ และรับใช้แผ่นดินอย่างจริงจังและจริงใจ ซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบต่อหน้าที่การงาน และเห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
ความกล้าหาญของ พอ. วิโรจน์ ทองมิตร เป็นที่ลือเลื่องไปทั้งกองทัพบกเพราะว่า พอ. วิโรจน์ ทองมิตร สามารถจับคนร้ายได้ด้วยมือเปล่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 17 มกราคม พ.ศ. 2523 เมื่อ พอ.วิโรจน์ ทองมิตร  นำผู้ใต้บังคับบัญชาอีก 6 คน ออกลาดตระเวน และทราบข่าวว่าจะมี ผกค. ประมาณ 75 คน มารับเสบียงที่หมู่บ้านเย้ายางฮอม และได้เผชิญหน้ากับ พอ.วิโรจน์ ทองมิตร  ยิง ผกค. เสียชีวิตจึงมีการยิงปะทะกันในระยะประชิด ผกค. ถูกยิงแต่คณะของ พอ. วิโรจน์ ทองมิตร ไม่มีใครเสียชีวิต ทั้งที่มีกำลังน้อยกว่าและสามารถนำเชลยศึกกลับมาได้ จึงได้รับคำยกย่องชมเชยอยู่มาก

เมื่อสันติภาพและความสงบสุขได้กลับมาสู่พื้นที่ดอยยาว ดอยผาจิ ดอยผาหม่น นับเป็นเกียรติประวัติของพื้นที่ เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี เสด็จพร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้าโสมสวลี พระราชาธินัดดามาตุ ทรงเสด็จไปเยี่ยมบ้านพญาพิภักดิ์ ณ สันดอยยาว ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2525 พอ.วิโรจน์ ทองมิตร ได้นำอดีตผู้นำ ผกค. เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท เพื่อแสดงความจงรักภักดี

ในวันนั้น พอ.วิโรจน์ ทองมิตร กราบบังคมทูลขอพระราชทาน “รอยพระบาท”ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ประทับลงบนแบบพิมพ์ปูนปลาสเตอร์ เพื่อขอจารึกไว้เป็นประวัติศาสตร์ แห่งชัยชนะเหนือดอยยาว และดอยผาหม่นซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาพระราชทานตามที่ขอและเป็นรอยพระบาทแห่งเดียวในสนามรบของประเทศไทย ที่นักรบขอพระราชทานให้เป็นมิ่งขวัญ
เมื่อเวลาประมาณ 00.30 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2535 วีรบุรุษผู้กล้าได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับและไม่มีคำร่ำลา เมื่อรถยนต์ของ พอ.วิโรจน์ ทองมิตร เกิดประสบอุบัติเหตุชนต้นไม้ ในขณะที่เดินทางจากค่ายขุนเจืองธรรมมิกราช จังหวัดพะเยาไปยังจังหวัดเชียงใหม่บนถนนสายเชียงใหม่ – ดอยสะเก็ด บริเวณหมู่บ้านคุรุสภา ตำบลสันนาเม็ง อำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ เป็นเหตุให้เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุการณ์จากไปของท่านยังความเศร้าโศกเสียใจแก่ครอบครัว ผู้ใต้บังคับบัญชา ตลอดจนญาติสนิทมิตรสหาย
แม้ตัวจากไปแต่เกียรติยศชื่อเสียงคุณงามความดีของ พอ. วิโรจน์ ทองมิตร  ยังคงจารึกและเป็นเกียรติต่อผืนแผ่นดินไทยบนยอดดอยภูชี้ฟ้า ร่องรอยประวัติศาสตร์ กลิ่นคาวเลือดที่มาจากสมรภูมิรบในอดีตที่ควรจดจำบัดนี้กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของประเทศไทย หากท่านผู้ใดได้มีโอกาสมาสัมผัสความงดงาม ทัศนียภาพของภูชี้ฟ้า เมื่อหันมองไปทางทิศตะวันตกจะมองเห็นสถูปเล็ก ๆ ของวีรบุรุษผู้กล้า “พอ.วิโรจน์ ทองมิตร” ผู้ที่พลิกประวัติศาสตร์พื้นดินแห่งนี้จากกลิ่นคาวเลือดและการสู้รบฆ่าฟันกัน ให้กลับกลายเป็นพื้นที่ที่ทรงคุณค่าและควรค่าแก่การรักษา

    http://www.rta.mi.th/23134u/bn_cdr_pic.htm  (http://www.rta.mi.th/23134u/bn_cdr_pic.htm)

ขอบคุณมากค่ะ

 ::002::

 :) ขอบคุณ คุณ.suchet มากครับ และขอสดุดีวีรกรรม ของท่านวีรบุรุษ พอ. วิโรจน์ ทองมิตร

ขอบคุณครับ คุณ suchet


ผมอ่านย่อหน้านี้แล้วขนลุก.... ความหมายในเชิงสัญลักษณ์กินใจครับ...

ด้วยความเคารพ...  ::014::