เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

ได้อภัยโทษ!พ้นคุก2วันฆ่าคน
 
 
 
 
 เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 18 ส.ค. พ.ต.ต.สมเกียรติ กรรณวัตน์ สว.สส.สภ.อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี นำกำลังพร้อมหมายศาล เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 177/5 หมู่ 2 ต.วังขนาย หลังสืบทราบว่า บ้านดังกล่าว เป็นที่มั่วสุมของกลุ่ม วัยรุ่นที่ก่อเหตุ อุกฉกรรจ์ในพื้นที่ พบชายวัยรุ่น 6 คน กำลังนอนหลับ พักผ่อน กันอย่างมีความสุข พอเห็นกำลังตำรวจแต่ละคน พากันตกใจ หน้าถอดสีมีพิรุธ อย่างเห็นได้ชัด แถมบางคน พยายามจะหลบหนี แต่ไปไม่รอด ถูกรวบตัวทั้งแก๊ง
ทราบชื่อนายวรวุฒิ เทศเกตุ อายุ 19 ปี นายสนั่น เพชรกล่ำ อายุ 18 ปี นายคมกริช สุขนิมิตร อายุ 24 ปี นายวสันต์ ภาคภูมิ อายุ 18 ปี นายประวิทย์ ปานแย้ม อายุ 25 ปี และนายหนุ่ย (นามสมมติ) อายุ 16 ปี ค้นในบ้านพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก กระสุน 6 นัดรถจักรยานยนต์ 3 คัน มีรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีดำ ทะเบียน กรพ 989 กาญจนบุรี 1 คัน ส่วนอีก 2 คัน เป็นรถจักรยานยนต์ฮอนด้า ไม่มีป้ายทะเบียน และโทรศัพท์ มือถือ 1 เครื่อง จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน

สอบสวนผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า เคยร่วมกันก่อเหตุปล้นทรัพย์และฆ่าผู้อื่นหลายคดี โดยประมาณ 22.30 น. วันที่ 13 ส.ค. ที่ผ่านมา ร่วมกันยิงวัยรุ่นคู่อริบาดเจ็บในพื้นที่ ต.ท่าล้อ อ.ท่าม่วง จากนั้นคืนวันที่ 16 ส.ค. ร่วมกันใช้ปืนไล่ยิงนายสุริยา รุ่งเรืองจันทร์ อายุ 22 ปี เสียชีวิตบนถนนเลียบริมแม่น้ำแคว หน้าศาลา 60 พรรษามหาราช ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ต่อมา 01.30 น. วันที่ 17 ส.ค. ร่วมกันใช้อาวุธปืนปล้นทรัพย์โทรศัพท์มือถือในท้องที่ ต.วังขนาย อ.ท่าม่วงหลังสอบสวนตำรวจได้ติดต่อผู้เสียหายมาชี้ตัวยืนยันหลายราย จึงคุมตัวไว้สอบขยายผลเพิ่มเติมอีกครั้ง

พ.ต.ต.สมเกียรติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหา พบว่านายคมกริช สุขนิมิตร กับนายประวิทย์ ปานแย้ม เพิ่งได้รับการอภัยโทษเมื่อวันที่ 11 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังออกจากคุกได้ไม่กี่วันก็ร่วมกับพวกก่อเหตุฆ่าผู้อื่น และปล้นทรัพย์อีกหลายคดี ในส่วนของท้องที่ สภ.อ.ท่าม่วงแจ้งข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่น กับร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้อาวุธปืน และข้อหามีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกันนั้นยังได้ติดต่อไปยัง สภ.อ.เมืองกาญจนบุรี อายัดตัวข้อหาร่วมกันฆ่าผู้ตายตายโดยเจตนาแล้วด้วย

 

                "คุก"ไม่ได้ทำให้ทุกคนกลับมาเป็นคนดี

พวกนี้ไม่สำนึกใน พระกรุณาธิคุณ มีโอกาศเข้าไปอีกรอบ ก็น่าจะประหารซะ >:(

ผมว่าต้องทบทวนเกณฑ์ในการประเมินนักโทษที่จะได้รับการอภัยโทษ...

ให้ออกมาแล้วยังไม่สำนึก  ไปเที่ยวนี้ก็ให้ยาวไปเลยละกันครับ   ในเมื่อเขาไม่อยากจะได้โอกาส  ก็ไม่ต้องให้เขาหรอกครับ   ??? ???

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้กันหา :o :o :o :o :o

 น่าฝังทิ้งจัง.....(มะกล้าเล่นมุขโหด เดี๋ยวโดนพี่นาจาดุอีก :P)

คิดเล่นๆว่า อาจมีคนคิดหาเสียงจากอดีตผู้ต้องขังและญาติมิตรของอดีตผู้ต้องขังเหล่านั้นก่อการเลือกตั้งในปีหน้า  มีเสียงร่ำลือในหมู่อดีตนักโทษก่อนได้รับอภัยโทษว่า เป็นเพราะท่านฯ... จึงได้รับอิสรภาพเร็วกว่ากำหนด จึงควรระลึกถึงบุญคุณนี้ไว้ ให้จงหนัก
แต่อย่างไรก็ตาม ถือเป็นมหากุศลที่น้อมถวายแด่พระแม่เจ้าของชาวไทย

      คนมันเลวโดยสันดาน แก้ยังงัยก็แก้ไม่หายหรอกครับ คุกก็ช่วยไม่ได้หรอก พวกหนักแผ่นดิน อยู่ไปก็ทำแต่ความเดือดร้อนให้แก่ผู้อื่นเสมอ  ยมบาลท่านก็ไม่ยักกะอยากได้พวกเลว ๆ นี้เลยเนาะ หรือว่าพวกนี้เมื่อเอาไปแล้วมันจะไปสร้างความเดือดร้อนที่นรกอีก ฮ่า ๆ ๆ (ไปกันใหญ่เลย)  บาปกรรมเมื่อไหร่จะตามมันทันสักทีคนเลว ๆ หนักแผ่นดินพวกนี้  อาจจะเป็นเพราะว่าพวกนี้มันสร้างบาปแล้วหนีได้เร็วเนื่องจากใช้เทคโนโลยีความเร็วในการพาหนี(มอเตอร์ไซด์เคิล) ยมฑูต ตามมันไม่ทันสักที เฮ้อ...

อภัยให้มันทำไม...ไอ้คนพวกนี้  >:(   >:( จับมันมาเป็นเป้าเคลื่อนที่ดีกว่า ไล่ซัดกันกลางทุ่งนา..ท่าจะมัน

เห็นด้วยกับพี่จอยฮันเตอร์ครับ การพระราชทานอภัยโทษจากกษัตริย์สยาม เป็นสิ่งที่ท่านมีพระคุณสูงส่งต่อผู้จำขังทุกคน อยากพวกมัน(บางคน) ไม่สำนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของกษัตริย์สยามที่ให้พวกมันแล้ว ก็น่าจะทำเหมือนตำรวจในโบลิเวียและอาร์เจนตินา กล่าวคือจับคนร้ายคุกเขาและผ้าปิดตาและยิงทึ้ง(โดยใช้ปืนพกจ่อตรงท้ายทอย) ตรงจุดที่พวกมันก่อคดีอาญานั้นแหละ อ้อ....เป็นการประหารโดยคำสั่งของศาลประเทศดังกล่าวแล้วนะ มิใช่อาญาเถื่อน เพราะว่าบุคคลบางบุคคล ทำชั่ว ทำเลว อันการกระทำทีเกิดมาจากกมลสันดานแล้ว(ซึ่งมาจากการหล่อหล่อมทางสังคม และครอบครัว ที่ไม่มีใครคอยสั่งสอน) รวมทั้งเป็นเหตุผลทางพันธุกรรมด้วย กล่าวคือเหมือนคำโบราณว่าพ่อมันเป็นโจร ลูกมันก็ต้องเป็นด้วย อันเนื่องจากเหตุผลทางด้านพันธุกรรมที่ถ่ายทอดนิสัยและแนวคิด ถ่ายทอดทางพันธุกรรม กอปรเกิดและเติบโตมาด้วยสังคมครอบครัวและสังคมชุมชนที่ไม่ดีด้วยแล้ว(เป็นปัจจัยหนึ่งที่หล่อหลอมนิสัยและทัศนคติของบุคคล) ดังนั้นบุคคลกลุ่มนี้ ศีลธรรมและความเมตตา และความมีเหตุมีผลในการเตือนสติเขามิให้เบียดเบียนและละเมิดผู้อื่น จึงใช้ไม่ได้ผล ต้องกำจัดทึ้งอย่างเดียว เพื่อเป็นการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลของสุจริตชนและระงับการกระทำอันไร้วุฒิภาวะทางความคิดจากกลุ่มดังกล่าว บุคคลจำพวกนี้ จิตวิทยาและเมตตา เหตุผลและความดี พวกมันไม่เข้าใจหรอก ต้องใช้ความกลัวเป็นเครื่องมือในการระงับพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดการละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของสุจริตชน อันนี้พูดด้วยเหตุผลและสติ รวมทั้งอิงทฤษฎีประกอบล้วน มิได้มาจากอารมณ์และอคติทั้งสิ้น ศาลและอัยการ รวมทั้งตำรวจในประเทศโบลีเวีย อาร์เจนตินาร์ เอกวาดอร์ จึงใช้วิธีดังกล่าวในการตัดสินบุคคลจำพวกนี้

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

อุทธาหรณ์เช่นนี้มีให้เห็นกันบ่อย ๆ ที่มีการอภัยโทษ หรือพ้นโทษ

เราไม่เคยมองเห็นการอบรมบ่มสอนจากสถานที่กักขัง  ให้รู้สึกถึงคุณ ความดีที่ควรทำ

คงตั้งหน้าตั้งตา ให้คนที่ต้องขังรับโทษ เพียงอยู่และเรียนรู้ประกอบอาชีพ  จะได้ออกมาไม่ต้องไปเบียดเบียนคนอื่น ๆ ในสังคม

แต่แนวความคิดเช่นนี้  อาจลืมไปว่า  คนที่ประกอบสัมมาอาชีพที่อยู่ภายนอกห้องขัง  ยังลำบากที่จะหากิน

ดังนั้น  คนที่ต้องโทษ  ส่วนใหญ่จึงกลับไปสู่หนทางความเลวร้ายที่เคยทำมา เพราะนั่น  มันง่ายดี  ไม่ต้องคิดมาก

การปล่อยคนเคยทำผิดให้ออกมาด้วยการอภัยโทษ  จึงมักไม่ได้ผลตามที่ตั้งใจ

น่าจะมีการปรับเปลี่ยนแนวความคิดของสังคมเสียใหม่

แต่อาจถูกพวกนิรโทษสากล  เข้ามาวุ่นวายอีก เฮ่ออ..ออ...อ

 >:( คนคุกพวกนี้ยากจะเยียวยา เพราะพวกนี้คิดว่าคุกคือบ้าน อยู่ในคุกไม่อดตาย มีอาหารให้กิน มีที่ให้นอน มีสังคม(ชาวคุก)ให้สังสรรค์ การที่ถูกปล่อยออกมาอีกโลกภายนอก ออกมาแล้วตกงานพาลอดตาย สังคมไม่ยอมรับ สู้หาเรื่องกลับบ้าน(มัน)ดีกว่า...สบายกว่ากันเยอะเลย... :(

 :-* ครับ  ผมว่าโดนรอบนี้คงยาวครับ  คงไม่ได้รับอภัยอีกแล้วครับ  ส่วนเรื่องยิงเป้านั้นผมว่าประเทศเรากำลังจะไม่ใช้วิธีนี้แล้วนะครับ  เห็นว่าเป็นการฉีดยาให้ตายไปครับ หลับสบาย ตายไปไม่รู้สึกครับ

การประหารชีวิตโดยการฉีดยามันสบาย  แต่ก่อนตายผมว่าน่าจะให้ทำงานหนักๆทรมานก่อนตายน๊ะ

คิคิ.... ไอเดียดีครับ :-* :-*

 ??? ผมไม่เข้าใจ ว่าการเปลี่ยนการประหารจากการยิงเป้าเป็นการฉีดยา โดยอ้างเหตุผลว่า ไม่เป็นการทรมาณ ทารุณกรรม และไม่โหดร้าย ผมเลยสงสัยว่า คำว่าทรมาณ ทารุณ โหดร้าย และคำว่ามนุษยธรรม มันมีอยู่ในตัวของฆาตกรตอนที่มันทำกับเหยื่อหรือเปล่า หรือมีอยู่ในพวกค้ายาเสพติดตอนที่มันขายยาให้ลูกเด็กเล็กแดงหรือเปล่า จึงเอาคำพวกนี้มาใช้อ้างในการเปลี่ยนการประหารพวกฆาตกรหรือพวกค้ายาที่ถูกประหารชีวิต ???

....อิอิ กรณีนี้ ไม่ว่าครับ เห็นด้วย ;D ;D

ผมคิดว่าเป็นเพราะพวกรณรงค์เรื่องสิทธิมนุษยชนแหละครับ...  ตัวดี  >:(  (จริงๆต้องตัวไม่ดี  ;D)  ทำเหมือนกับเอาอกเอาใจคนพวกนี้จนเกินไป  ไม่โดนกะตัวเองหรือครอบครัวคงไม่รู้สึก  >:(

เห็นด้วยอย่างแรงกับท่านพี่นายใหม่ครับ เคยดูในยูบีซี การประหารด้วยวิธีฉีดยา ค่าใช้จ่ายสูงกว่าวิธียิงเป้า ผมว่าจริงๆแล้ว หากจะเปลี่ยนจากวิธียิ่งเป้าเดิม ไปเป็นวิธีอื่น น่าจะเปลี่ยนการประหารเป็นวิธีช็อตด้วยไฟฟ้าเหมือนในบางรัฐของอเมริกานะ หรือเป็นวิธีแขวนคอก็ได้ ทั้งสองวิธีที่กล่าวมาแล้วนั้น บางรัฐของอเมริกายังใช้อยู่ ผมว่าไอ้พวกสิทธิมนุษย์ชน มันน่าจะมีเหตุผลและสติในการคั้นค้านบ้างนะ บางเรื่องควรคัดค้านก็น่าเห็นใจ แต่บางเรื่องมันเป็นการติดปีกให้คนร้ายไปซะฉิบ แทนที่จะมาเป็นผู้พิทักษ์ผู้เสียหาย โดยส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนมาเป็นวิธีฉีดยา เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูงและต้องกระทำโดยผู้เชี่ยวชาญ และตายสบายเกินไปสำหรับคนร้ายใจอำมหิต แต่หากเปลี่ยนเป็นวิธีช็อตไฟฟ้าเหมือนในอเมริกา และมีที่นั่งสำหรับผู้ชม หากเป็นผมนะ จะให้แม่หรือบิดา หรือสามี ของผู้เสียหาย เป็นคนโยกคัทเอาส์ไฟฟ้าเองกับมือเลยด้วยซ้ำ หรือหากเป็ฆาตกรที่อำมหิตผิดมนุษย์จนเป็นข่าวทั่วประเทศ ก็น่าจะมีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้รับชมกันทั่วประเทศ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

ผมว่าไม่ต้องเอาอย่างต่างประเทศเขาหรอกครับ หึ หึ แค่เอาแบบโบราณ ตัดหัว ของไทยนี่ สยองกว่า จำได้ว่าเคยโพสเรืองวิธีการประหารไปที่แล้(บ้านเก่า) เพราะคนแก่ๆท่านเล่าให้ฟังว่าสมัยก่อนนี่เวลาจะประหารเขาก็จะพาไปแห่รอบเมืองก่อน หลังจากนั้นก็เอามาตัดหัว ต่อหน้าผู้คน เลือนี่พุ่งเป็นน้ำประปาเลยครับ บางคนถึงกับเป็นลม สมัยนี้ผมว่าเอาแค่ ให้นักโทษด้วยกันได้เห็นก็พอมันจะได้ไม่กล้าทำ เรืองการประหารนี่ทางโลกอาหรับยังคงวิธีแบบดั้งเดิมอยู่เขาไม่สนใจเสียงติติง เพราะเขาถือว่าเป็นเรืองภายในประเทศของเข้า เราก็น่าจะเอามาใช้บ้างไอ้วิธีโบราณในแบบของเรา
ปล.ผมคงไม่โดนพี่นาจาดุเอาอีกนะครับ ;D

พอพี่ซีอุสพูดถึงเรื่องตัดคอ ผมไม่แน่ใจว่าปัจจุบันนี้ฝรั่งเศลยกเลิกโทษประหารไปหรือยัง แต่จำได้จากยูบีซี(ช่องเนชั่นนอลจีโอกราฟฟิก โซไซตี้) แม้ในยุคปัจจุบัน ฝรั่งเศลยังยึดมั่นถือมั่น ใช้กิโยตินใช้การประหารชีวิตนักโทษอยู่นะครับ แต่แตกต่างจากในอดีต กล่าวคือจะกระทำการประหารในห้องประหารของเรือนจำและให้มีผู้รับชมการประหารเพียงไม่กี่คน ซึ่งแตกต่างกับในอดีตซึ่งตัดคอในที่ชุมชน


จริงๆแล้วการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ โดยใช้ดาบนั้น ปัจจุบันมีเพียงประเทศในแถบอาหรับ เฉพาะที่ปกครองด้วยระบบสาธารณรัฐอิสลามเท่านั้นนิครับ เคยดูในยูบีซี เขาใช้ดาบแบบอาหรับในการประหารด้วย(ดาบลักษณะใบโค้ง ขนาดยาว และปลายแหลม) มีช็อตวีดีโอที่เขาแอบถ่ายการประหารของอาหรับมาให้ดู เห็นแล้วยอดสยองเลยง่ะ โดยส่วนตัวผมมองว่าการประหารชีวิตด้วยการตัดคอ(ไม่ว่าใช้ดาบหรือเครื่องมือใดๆ) ค่อนข้างจะป่าเถื่อนพอสมควรสำหรับยุคในปัจจุบัน

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

 ??? การประหารอีกแบบของไทยโบราณ ที่ใช้คว่ำหน้าเอาคอพากขอนไม้ เอาผ้าคลุมแล้วทุบด้วยตะลุมพุกตรงต้นคอด้านหลัง นึกแล้วก็โหด แต่ยังไง กับคนที่ไร้ความเป็นมนุษย์ผมก็ว่าไม่น่าจะไปใส่ใจกับความโหดร้ายที่มันจะได้รับ เหมือนตอนที่มันก็ไม่ใส่ใจในเหยื่อของมัน ???

อ้อ.......อีกวิธีหนึ่ง นึกออกแล้วครับพี่นายใหม่ การเอานักโทษใส่ตะกร้อ แล้วให้ช้างเตะจนตายด้วยใช่ไหมครับ จริงๆแล้วหากพิจารณา(ด้วยสายตาคนปัจจุบัน)อาจมองดูป่าเถื่อน แต่จริงๆในยุคนั้น การลงโทษของยุโรปเองก็รุนแรงพอๆกัน อาทิเช่น การเผาแม่มดทั้งเป็นโดยมัดคนร้ายบนเสาหลักและสุ่มกองไฟ การประหารชีวิตด้วยการกดน้ำหรือถ่วงน้ำ และการทรมานโดยใช้เครื่องดึงตัว การตัดคอในยุโรปยกเว้นฝรังเศล มักจะใช้ขวานในการตัดคอนะครับ ผมว่าโลกในยุคอดีต ไม่ว่าจะยุโรปหรือเอเชีย จะฝรั่งหรือสยาม มันก็วิธีและความรุนแรงเดียวกันนั้นแหละ

ขอพระอวยพรทุกท่านครับผม

 :D ตกลงกลายเป็นกระทู้วิเคราะห์วิธีการประหารชีวิตแล้วหรือคับ...

อย่างนี้น่าจะชวนคุณทิดจันจากเวป gun.in มาร่วมวิเคราะห์ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้วยนะคับ...  ;D

โอกาสมาถึงมือ...แต่ไม่รู้จักคว้า...ช่วยไม่ได้เจ้าคะ  :-\

มัวแต่คุยฟุ้งเรื่องวิธีการประหาร การลงโทษให้สาสม  เหลียวดูข้างหลังมั่งอ๊ะป่าว...เวลาเดินไปขึ้นรถตอนดึกๆน่ะ..แล้วคนที่อยู่ที่บ้านมีความรู้เรื่องการเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขันเมื่อมีผู้บุกรุกหรือป่าว   จะต้องทำงัยดี  ถ้าตื่นมากลางดึกแล้วได้ยินเสียงผิดปรกติ   ช่วยๆกันแลกเปลี่ยนความรู้ให้เป็นประโยชน์และวิทยาทานกันเยอะๆดีกว่าน่า

.......... ;D..ผมว่าการปล่อยตัวนักโทษ ไม่ได้มีการเตรียมการไว้ก่อน เช่น อาจหางานให้เขาไว้ก่อยโดยมีนายจ้างมาขอรับตัวไปทำงานต่างๆที่คนทั่วไปไม่อยากจะทำกันเช่นในเรือประมง  แต่ต้องมารายงานตัวทุกๆ 1 เดือนพร้อมหนังสือยืนยันความประพฤติจากนายจ้างว่านายคนนี้ความประพฤติเป็นอย่างไร หลังได้รับอภัยโทษ...เป็นเวลากี่ปีก็ว่าไป  เช่น 3 ปี  พอครบ ก็ประเมินผลนักโทษคนนั้นอีกที ถ้าผ่านก็ไม่ต้องมารายงานตัวอีก  เป็นอิสระได้...ผมว่าถ้าได้อย่างนี้เขาน่าจะออกมาได้อย่างเต็มภาคถูมิ และมีงานทำเรียบร้อย.. ;D ;D ;D...ไม่ออกไปตกงานจนต้องออกหาเงิน หาทองด้วยวิธิผิดกฎหมายอีก  ........ ;D.


 

แต่คนที่ตายจากการกระทำของฆาตกรกลับไม่สามารถเรียกอะไรได้......ต้องโทษเวรกรรม    ละครับ :'(

ไม่ว่าจะลงโทษอย่างไร
คนตายไปก็ไม่ฟื้น

คนที่ยังอยู่บางกลุ่มบางพวก
ก็ยังคิดค้นหาวิธีที่จะให้คนผิดรับโทษแบบไม่โหดร้ายเกินไป

อย่าลืมว่าการลงโทษน่ะ คือการทำให้คนอื่นๆเห็นเป็นเยี่ยงอย่าง
เพื่อไม่ให้มีใครทำผิดอีก

ตอนนี้นักมนุษยชนทั้งหลายเดินไปทางไหน
คงไม่ต้องบอก
และคนเหล่านั้นมีโอกาสที่จะทำให้คนไม่กลัวการลงโทษมากยิ่งขึ้น
และกล้าทำผิดมากขึ้น

 >:(  คนแบบนี้ ไม่สมควรมีลมหายใจอยู่ให้เปลืองข้าวไทยหรอก  >:(

ใช่ๆๆๆๆ
ไม่ควรอยู่แย่งน้องปูจ๋ากินข้าวเนอะน้องเนอะ

 ;D ;D ;D ;D
แหงะ..ไปล่ะ
 ;D ;D ;D ;D

 :-\  >:(  >:(  >:(  :P

หวังเฉา..หม่าฮัน..เครื่องประหารหัวสุนัข...(ต้องโดนอย่างนี้เด็ดขาดดี)

                  ล่าสุดไม่มีงานทำ กลับออกมาขายยาบ้าอีกโดนจับเรียบร้อยครับ

ทำบุญกับงูเห่า มันก็มาแว้งกันเราดังนี้แล ...

ผมไม่ค่อยเห็นด้วยกับการอภัยโทษแบบเป็นเทศกาลครับ เพราะการพิจารณาอาจมีตกหล่น ผิดพลาด หรือโดนพวกรอบจัดแกล้งทำตัวเรียบร้อย ... น่าจะพิจารณาเป็นราย ๆ ไป อย่างน้อยให้ติดมา 1/3 ของคำพิพากษาแล้ว ค่อยนำมาพิจารณา ....  :-\

เรื่องการประหาร ... ใช้ฉีดยาก็ดีครับ ผมเห็นใจเจ้าหน้าที่มากกว่า (ไม่สนพวกสิทธิมนุษยชนหรอก) เพราะเจ้าหน้าที่เป็นผู้ยิง หมอตรวจสอบ ถ้ายังไม่ตายมียิงใหม่ ... สู้ใช้สารเคมีช่วย ตายแน่นอนเงียบ ๆ ดีกว่าครับ ... เสียงบมากหน่อย แต่เจ้าหน้าที่สุขภาพจิตดีขึ้นก็เกินคุ้มแล้วครับ  :)

    ถ้างั้นยืนยันว่าควรฝังทิ้งครับ บางท้องที่กฎหมายไม่ศักดิ์สิทธิ์เอาซะเลยจริงๆ ต้องใช้วิธีใส่หม้อถ่วงน้ำซัก1ตัวเพื่อตบกระโหลกผีจรจัดอีก20ตัวให้สะดุ้ง ม่ายงั้นเป็นได้เดือดร้อนไม่หยุดหย่อนต่อไปทั้งบาง ไอพวกแบบนี้ชอบสุมหัวอยู่กันเป็นโขลงครับ ถ้าเจอคนที่เอาจริงและมันรู้ว่าไม่กลัวที่จะเสียเวลาตามเอาเรื่องด้วย มันไม่กล้าหรอก
สมัยวัยรุ่นผมเคยทะลึ่งเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ทำนองนี้ครั้งนึง ถึงหน้าตามันจะบอกยี่ห้อโจรชั้นต่ำจริงๆ ก็ยังคงสงสารอยู่เหมือนกัน แต่คนที่จัดการ(ไม่ใช่จนท.รัฐ)เค้าตอบมา ว่าต้องรู้ด้วยว่ามันทำอะไรมา ให้นึกถึงลูก-เมียของคนที่มันไปแอบยิง :'( สภาพสุดอนาจของคนงานที่มันเอาระเบิดไปผูกดักไว้ แล้วจะเข้าใจ >:(
   ผมไม่ได้นิยมระบบศาลเตี้ยนะครับ แต่กับพวกหนักแผ่นดินบางจำพวก "ไม่สมควรได้รับโอกาสครั้งแล้วครั้งเล่า เพียงเพื่อให้มันได้ออกมาเพิ่มจำนวนเหยื่อเคราะห์ร้ายให้มากขึ้น" คนบางจำพวก แค่ปล่อยให้มันได้เดินไปเดินมา ก็ถือว่าทำให้แผ่นดินสกปรกแล้วครับ :-\   

;D เรื่องนี้เตรียมไว้ตลอดแล้วล่ะครับ วิธีป้องกันน่ะเยอะ วิธีแก้ไขก็เยอะ มีบอกออกทีวี ออกวิทยุ ออกสิ่งพิมพ์บ่อย ๆ คือเรื่องนี้ผมว่าสำคัญที่สุดคือสติครับ ส่วนวิธีทำนั้นพอมีสติแล้วเดี๋ยวทำได้เองแหละ เลยไม่กังวลเท่าไหร่ แต่! ที่มาคุยเรื่องการประหาร วิธีประหาร ก็เพราะมีความคิดว่า ปัจจุบันนี้ดูแล้วผู้ร้าย หรือผู้ค้ายาเหล่านั้น เหมือนจะเกรงกลัวต่อบทลงโทษน้อยลง "ผู้เสพตาย ผู้ขายติดคุก" อ่ะ ไม่พอ ก็ยังขายกันรึ่ม "ผู้เสพตาย ผู้ขายประหาร" อ่ะ ก็ยังรึ่มอยู่ แต่พอป๋าแม้วประกาศ "ประกาศสงครามกับยาเสพติด" มีการ "วิฯ" เชือดไก่ให้ลิงดูได้พักเดียว เป็นไงล่ะ ผู้ขายหายหัวเรียบ (ถึงจะยังมีอยู่บ้าง แต่ก็น้อยลงเยอะ และก็ไม่ได้สนับสนุนวิธีนี้นะครับ) แสดงให้เห็นว่า ไอ้พวกนี้มันก็กลัวตาย เมื่อมีความตายมาใกล้ ๆ ให้เห็นก็กลัวหัวหด แต่มันไม่กลัวคนอื่นตาย มันไม่กลัวโทษ เพราะเดี๋ยวก็ได้ลดโทษ (จากอะไรก็แล้วแต่) สรุป ความเห็นของผมก็คือ การทำให้มันเห็นและใกล้ความตายมากที่สุด คือวิธีที่จะทำให้มันกลัวมากที่สุด มันจะได้จำเอาไปเป็นเยี่ยง ว่ามันทำเลวยังไงต้องได้รับผลอย่างไร "รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี" ยังใช้ได้อยู่น่ะครับ ถึงแม้จะมีการห้ามให้ครูใช้ไม้เรียวก็เถอะ ครูไม่มีไม้เรียว แล้วจะเอาอะไรสอนศิษย์ สอนความรู้ได้ แต่สอนคุณธรรมไม่ได้ ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากเท่าไหร่ หนังสือเอาไว้สอนความรู้ แต่ไม้เรียวนี่เอาไว้สอนคุณธรรมครับ ;D

;D จริงครับ ;D

การตัดสินโทษของไทย ที่รับสารภาพลดครึ่งราคา ควรเลิกเสียที คนที่ควรประหารก็ต้องได้รับโทษประหาร พวกนี้เลี้ยงเสียข้าวสุกครับ ต้องมีโทษแรงๆ ไว้กำหราบคนเหล่านี้ ผิดแค่ไหนเอาโทษเต็มไปเลย
และการลดโทษ และอภัยโทษ ก็ต้องมีหลักเกณฑ์ ที่ดีด้วย  คือเราต้องมีหลักการให้อภัย สำหรับคนที่กลับตัวกลับใจได้จริงๆ คนที่จะออกมาได้ต้องสามารถติดตามคุมประพฤติได้ >:(
 

;Dพี่ใหม่ครับ วิธีที่เอาคอพาดบนขอนไม้ เอาผ้าแดงคลุมแล้วเอาดุ้นไม้ทุบต้นขอนี่ผมว่าไม่สมควรกับการณ์ที่เราจะประหารนักโทษที่เป็นคนธรรมดานะครับ ;D เพราะวิธีนี้เข้าใช้กับเจ้านายเท่านั้นครับ ;Dทักท้วงพี่ด้วยความเคารพครับ ;D

;D ขอบคุณครับคุณเซอุส ที่จริงผมจะสื่อถึงความทารุณน่ะครับ มิได้เจตนาหมายให้นำมาใช้กับสามัญชนหรือใช้กับพวกเลว ๆ อย่างที่กล่าวถึงกันครับ ;D

...อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลย ผมว่ากรมราชทัณฑ์ก็อยากระบายนักโทษอยู่แล้ว เพียงแต่หาโอกาสเหมาะๆ เท่านั้นเองครับ

...เรื่องคนพ้นคุกออกมามีปัญหาจริงๆ อย่างที่ว่า เพราะคนกลุ่มนี้จำนวนมากไม่ยอมทำมาหากินอย่างสุจริต ที่คุ้นเคยคือ "งานสบาย" ได้เงินใช้ง่ายๆ ไม่ออกแรง นอกจากความจริงที่ว่าเข้าไปอยู่ในนั้นแล้วยังได้ "วิชา" เพิ่มขึ้น มีพรรคพวกตัวแสบๆมากขึ้น และความจริงอีกอย่างคือพวกนี้ถูกสังคมตีตราว่าเป็น "คนคุก" หางานทำยาก เพราะทุกคนกลัวและไม่ไว้ใจ โอกาสที่จะกลับไปทำผิดยิ่งมากขึ้นไปอีก

...เพื่อนผมที่เป็นเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเคยบอกผมว่า ในเทศกาลเช่นนี้ อัตราการเกิดคดีต่างๆ มากขึ้นอย่างชัดเจน ระวังกันไว้มากๆ ครับ

"งานสบาย" ถ้าใช้ศัพท์หนังสือกำลังภายในก็ต้องว่า "ค้าขายไม่มีต้นทุน"

 :o :o :o :D

ถึงแม้จะมีการห้ามให้ครูใช้ไม้เรียวก็เถอะ ครูไม่มีไม้เรียว แล้วจะเอาอะไรสอนศิษย์ สอนความรู้ได้ แต่สอนคุณธรรมไม่ได้ ก็ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมมากเท่าไหร่ หนังสือเอาไว้สอนความรู้ แต่ไม้เรียวนี่เอาไว้สอนคุณธรรมครับ

 ;)เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ ;D

...ผมเองคิดว่าไม้เรียวยังมีประโยชน์ครับ ที่เป็นตัวเป็นตนมาได้ ไม้เรียวก็มีส่วนอยู่บ้าง อย่างไรก็ตามเหตุที่ห้ามใช้ไม้เรียวเพราะครูบางคนตีเด็กแบบขาดสติ บางคนตีด้วยความมันส์ในอารมณ์ บางคนตีเพราะอารมณ์โกรธ ไม่ได้ตีด้วยเมตตาธรรมหรือตักเตือน (คงต้องยอมรับกันว่ามีครูแบบนี้) ฯลฯ ผมว่าประเด็นสำคัญคือ พอเลิกไม้เรียวแล้วครูก็ไม่มีวิธีการลงโทษอื่นๆ มาทดแทน เป็นการตัดสินใจที่ใจเร็วด่วนได้เกินไป พอมาถึงจุดนี้แล้วกระทรวงศึกษาคงยากที่จะกลับไปใช้ไม้เรียวอีก

...เมื่อก่อนเด็กกลัวไม้เรียว เดี๋ยวนี้ไม่กลัวอะไรเลย รวมทั้งไม่กลัวสอบตกด้วย (โฟ้ยยย) เพราะเดี๋ยวนี้เขาไม่ยอมให้มีเด็กสอบตกแล้วครับ เด็กๆ ก็เป็นอย่างที่เห็น และต่อไปจะเป็นผู้ใหญ่ชนิดไหนก็พอจะคาดเดาได้ :-[

...เพิ่มเติมอีกหน่อย เดี๋ยวนี้เด็กคนไหนทำท่าจะมีคะแนนไม่พอให้สอบได้ ครูจะต้องไปตามเด็กมาทำงานส่ง หรือทำอะไรก็ได้ให้มีคะแนน เพราะถ้าเด็กสอบตก ตัวครูจะมีปัญหาทำนองว่าบกพร่องต่อหน้าที่ แล้วต้องถูกสอบสวน :-[

...อีกหน่อยเถอะ คุยเรื่องนี้แล้วหงุดหงิดมาก

...ผมว่ารัฐบาลนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในด้านการศึกษา ไม่มีอะไรดีขึ้นเลย :-\ :-\ น่าสงสารเยาวชนของชาติจริงๆ >:(

 ;D เห็นด้วยกับพี่แก้วหมดเลย อ่านแล้วได้ข้อสรุปว่า คำว่า "จิตสำนึก" ของคนเราทุกวันนี้มันหายไปเยอะครับ ครูมีไม้เรียว แต่ขาดจิตสำนึกของความเป็นครูเป็นต้น :-[