|
หัวข้อ: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ พฤศจิกายน 30, 2007, 10:27:09 PM ใกล้สิ้นปีแล้ว ถึงเวลารวบรวม รายรับจ่ายประจำปี แล้ววางแผนภาษีกันได้แล้ว
สำหรับท่านที่ไม่ได้ทยอยซื้อมาทั้งปี ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนปิดการขาย พี่ๆน้องๆ มีเจ้าไหนแนะนำ ด้วยเหตุผลใดครับ สำหรับผม เน้น LTF กับประกันชีวิตเป็นหลัก เพราะเห็นผลชัดเจน RTF ยาวไปๆครับ อิอิ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: tip1976 - รักในหลวง ที่ พฤศจิกายน 30, 2007, 10:35:10 PM ของผ้มทำยังไงรายได้ก็ไม่ถึงเกณฑ์ เลยเข้ามาดูอย่างเดียวครับ ::014::
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: rockguns ที่ ธันวาคม 01, 2007, 12:34:12 AM รายได้ไม่แน่นอน ประเมินไม่ถึงแต่จ่ายเกินประเมิน หน้าแห้งพี่ ตามงบบัญชีขาดทุนสะสมแถมติดลบย้อนหลังครับ ::004:: ::004:: ::004:: ::004::
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 01, 2007, 07:02:53 AM ใกล้สิ้นปีแล้ว ถึงเวลารวบรวม รายรับจ่ายประจำปี แล้ววางแผนภาษีกันได้แล้ว สำหรับท่านที่ไม่ได้ทยอยซื้อมาทั้งปี ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนปิดการขาย พี่ๆน้องๆ มีเจ้าไหนแนะนำ ด้วยเหตุผลใดครับ สำหรับผม เน้น LTF กับประกันชีวิตเป็นหลัก เพราะเห็นผลชัดเจน RTF ยาวไปๆครับ อิอิ ผมเพิ่งทำประกันชีวิตไปครับกำลังมองดูว่าจะลงทุนLTFอยู่ครับ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 01, 2007, 08:08:46 AM พี่ทัดมาลาครับ
ผมไม่เข้าใจสักอย่างเลยครับ คืออะไรครับ ผมฝากประจำอย่างเดียวครับ อยากให้เงินทำงานให้เราบ้างนะครับ ขอบคุณครับ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 01, 2007, 08:26:07 AM น้าโอ๊คครับ ไอ้ RMF LTF นี่มันคืออะไรยะ ........ เคยได้ยินแต่ IMF เอิ๊กๆๆ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 01, 2007, 09:23:05 AM ผมค้นหาดูแล้ว....ว่าจะตกลงปลงใจกับKTLFครับ
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 01, 2007, 06:12:28 PM อ่านเล่นๆ ทำความรู้จักก่อนครับ
ถาม: เงินได้ประเภทใดบ้างที่ผู้ลงทุนสามารถนำมาลงทุนใน LTF โดยนำไปยกเว้นภาษีได้ ตอบ: เงินได้ทุกประเภทตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร ถาม: มีข้อจำกัดในเรื่องอายุของผู้ลงทุนที่ลงทุน LTF หรือไม่ และLTF เหมาะกับผู้ลงทุนประเภทใด ตอบ: ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องอายุ ผู้ลงทุนใน LTF มีอายุเท่าไหร่ก็ได้ ผู้ลงทุนที่เหมาะสำหรับ LTF ได้แก่ ผู้มีเงินได้ที่ต้องการได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก LTF มีฐานภาษีสูง สนใจลงทุนในตลาดหุ้น ศึกษาและทำความเข้าใจในเงื่อนไข LTF และสามารถลงทุนได้ระยะยาวประมาณ 5 ปีขึ้นไป ถาม: ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีจากการลงทุน LTF ได้เท่าไหร่ ตอบ: 15% ของรายได้ทั้งปี แต่ต้องไม่เกิน 300,000 บาท ถาม: ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนภาษีจากการลงทุนใน RMF 300,000 บาทอยู่แล้ว แต่อยากลงทุนใน LTF ผู้ลงทุนจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก LTF อีก 300,000 บาท หรือไม่ ตอบ: ได้ เพราะสิทธิประโยชน์ทางภาษีจากการลงทุนใน LTF แยกวงเงินต่างหากจาก RMF และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถาม: จำเป็นต้องลงทุนเท่ากับปีที่ผ่านมาหรือไม่ และต้องลงทุนทุกๆ ปีหรือไม่ ตอบ: ผู้ลงทุนไม่จำเป็นต้องลงทุนเท่ากับปีที่ผ่านมา และไม่จำเป็นต้องลงทุนทุกๆปี ถาม: สามารถลงทุนมากกว่าปีละ 1 ครั้ง ได้หรือไม่ ตอบ: ได้ ถาม: ผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุน เดือนตุลาคมปี 2547 แล้วเมื่อไหร่ถึงขายคืนได้ตามเงื่อนไขสิทธิประโยชน์ทางภาษี ตอบ: สามารถขายคืนได้เมื่อถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปีปฏิทิน นั่นคือเริ่มขายได้ตั้งแต่ต้นปี 2551 เป็นต้นไป แต่ต้องขึ้นอยู่กับช่วงเวลาที่กองทุนที่ผู้ลงทุนไปซื้อว่า เปิดรับซื้อคืนช่วงไหนได้ด้วย ถาม: กรณีขายคืนหน่วยลงทุนก่อนครบกำหนด (ก่อน 5 ปีปฏิทิน) จะต้องเสียภาษีอย่างไร ตอบ: มี 2 ส่วนที่ต้องเสีย คือ (1) ต้องคืนภาษีเงินได้สำหรับปีภาษีที่ได้นำเงินค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักออกจากเงินได้เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้มาแล้ว พร้อมเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือน ของเงินภาษีที่ต้องคืน (เศษของเดือนนับเป็น 1 เดือน) โดยเริ่มนับเมื่อพ้นกำหนดเวลาการยื่นรายการหรือนำส่งภาษี จนถึงวันชำระหรือคืนภาษี แต่เงินเพิ่มที่คำนวณเพื่อจ่ายต้องไม่เกินจำนวนภาษีที่ต้องเสียหรือคืน (2) ต้องเสียภาษีส่วนเกินทุน (Capital Gain) โดยนำกำไรที่ได้รับจากการขายคืนไปรวมเป็นเงินได้ของปีที่ขายคืนทั้งจำนวนเพื่อเสียภาษีเงินได้ ซึ่งในทางปฏิบัติ บริษัทจัดการกองทุนจะหักภาษี ณ ที่จ่าย 3% ของกำไรส่วนเกินทุนไว้ก่อน และเมื่อผู้ลงทุนไปยื่นแบบเสียภาษีเงินได้ ก็จะคำนวณอีกครั้ง ว่าจะต้องจ่ายเงินภาษีเพิ่มอีก หรืออาจได้รับเงินคืน ขึ้นอยู่กับฐานภาษีของผู้ลงทุน ถาม: กรณีผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนและขายคืนหน่วยลงทุนบางส่วนในปีเดียวกัน เช่น ผู้ลงทุนซื้อ LTF ครั้งแรก ในเดือนตุลาคม 2547 จำนวน 5,000 หน่วยลงทุน และได้นำไปหักลดหย่อนภาษีสำหรับเงินได้ปี 2547 เรียบร้อยแล้ว ต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 ซื้อ LTF เพิ่มอีก 3,000 หน่วยลงทุน และขายคืน 2,000 หน่วยลงทุน ในเดือนสิงหาคมปีเดียวกัน ตอนขายคืนมีกำไรจากการขายคืน ผู้ลงทุนต้องคืนภาษีและเสียภาษีอย่างไร ตอบ: การขายคืนหน่วยลงทุนดำเนินการโดยใช้หลักเกณฑ์เข้าก่อนออกก่อน (FIFO) ดังนั้นหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนจะถูกหักจากการขายคืนในเดือนสิงหาคมนั้น จะเป็นหน่วยลงทุนแรกที่ผู้ลงทุนซื้อ (ส่วนที่ซื้อในเดือนตุลาคม ปี 2547) ผู้ลงทุนต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้ในปี 2547 จากค่าซื้อหน่วยลงทุนที่นำไปลดหย่อนภาษีในปีนั้น (คำนวณตามฐานภาษีของผู้ลงทุน) เฉพาะจำนวนหน่วยลงทุนที่ขาย นั่นคือ 2,000 หน่วยลงทุน และเสียเงินเพิ่ม 1.5% ของเงินภาษีที่ต้องเสียต่อเดือน และกำไรจากการขายหน่วยลงทุน (2,000 หน่วยลงทุน) ต้องนำไปรวมเป็นเงินได้เสียภาษีในปี 2548 ถาม: กรณีผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุนเกินจำนวนที่กำหนดไว้ เช่น นาย ก มีเงินได้ทั้งปี 1,600,000 บาท ทั้งปีนาย ก ซื้อหน่วยลงทุนไป 400,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนที่เกิน 15% ของเงินได้ และเกิน 300,000 บาท จะมีผลอย่างไร ตอบ: ตามเงื่อนไขค่าซื้อหน่วยลงทุนสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้ไม่เกิน 15% ของเงินได้และสูงสุดไม่เกิน 300,000บาท ดังนั้นนาย ก สามารถนำค่าซื้อหน่วยลงทุนไปลดหย่อนภาษีได้แค่ 240,000 บาท (15% x 1,600,000 = 240,000 บาท ซึ่งไม่เกิน 300,000 บาท) ส่วนที่เกินเป็นจำนวน 160,000 บาท (400,000 240,000) จะไม่สามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นสิ้นปีในการคำนวณภาษีเงินได้ของนาย ก จะหักลดหย่อนจากการลงทุนในLTF ได้เพียง 240,000 บาทเท่านั้น และเมื่อถือครบ 5 ปี นาย ก ขายคืนหน่วยลงทุน กรณีมีกำไรจากการขายคืนหน่วยลงทุนส่วนเกินดังกล่าว นาย ก ต้องเสียภาษีส่วนเกินทุน (Capital gain Tax) แต่สำหรับหน่วยลงทุนตามเงื่อนไข (ส่วนของค่าซื้อหน่วย 240,000 บาท) นาย ก จะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีส่วนเกินทุนเมื่อขายคืน ถาม: หากลงทุนใน LTF หลายกองทุน ของหลายบลจ. สามารถนำเงินลงทุนรวมกันเพื่อขอยกเว้นภาษีได้หรือไม่ ตอบ: ได้ ถาม: เมื่อลงทุนใน LTF กองทุนหนึ่งแล้ว สามารถโอนย้ายการลงทุนไปยัง LTF กองทุนอื่นๆ ได้หรือไม่ และจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อเนื่องหรือไม่ ตอบ: ผู้ลงทุนสามารถโอนย้ายหน่วยลงทุนใน LTF ทั้งหมดหรือบางส่วนไปยัง LTF กองทุนเดียวหรือหลายกองทุนได้ โดยไม่จำเป็นต้องเป็นบลจ. เดียวกันก็ได้ โดยต้องโอนการลงทุนภายใน 5 วันทำการ นับตั้งแต่วันที่โอนหน่วยลงทุน และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีต่อเนื่องอยู่ ถาม: ผู้ลงทุนอยากโอนสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้บุคคลอื่น สามารถทำได้หรือไม่ ตอบ: ไม่ได้ ถาม: กรณีผู้ลงทุนทุพพลภาพหรือเสียชีวิต โดยที่ลงทุนไม่ครบ 5 ปี เงินที่ได้รับจากการขายคืน LTF จะต้องคืนภาษีหรือไม่ และถ้ามีกำไรส่วนเกินทุนจะต้องเสียภาษีหรือไม่ ตอบ: ไม่ต้องคืนภาษี กำไรส่วนเกินทุนของเงินที่ลงทุนอยู่ในสิทธิจะได้รับยกเว้นไม่ต้องเสียภาษีเงินได้ แต่เงินส่วนที่ลงทุนเกินสิทธิถ้ามีกำไรจะต้องนำไปคำนวณเป็นรายได้เพื่อเสียภาษี ถาม: กรณีผู้ลงทุนถือหน่วยลงทุนครบ 5 ปีแล้วและต้องการถือหน่วยลงทุนต่อ สามารถทำได้หรือไม่ และยังได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีในส่วนของยกเว้นภาษีกำไรส่วนเกินทุนหรือไม่ ตอบ: ได้ ผู้ลงทุนสามารถถือหน่วยลงทุนต่อไปได้ และเมื่อขายคืนยังได้รับสิทธิยกเว้นภาษีกำไรส่วนเกินทุน ถาม: กรณีมีสิทธิประโยชน์ทางภาษี แต่ไม่ได้ใช้สิทธิ ทำอย่างไร ต้องเสียภาษีส่วนเกินทุนหรือไม่ ตอบ: เมื่อผู้ลงทุนลงทุน LTF ตามเงื่อนไข แต่ในปีที่ลงทุนนั้น ไม่ได้ใช้สิทธิในการนำค่าซื้อหน่วยลงทุนไปหักลดหย่อนภาษี เมื่อครบ 5 ปี ผู้ลงทุนขายหน่วยลงทุนไม่ต้องเสียภาษีส่วนเกินทุน ถาม: เอกสารที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนใน LTF มีอะไรบ้าง ตอบ: 1.เมื่อผู้ลงทุนซื้อหน่วยลงทุน จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน 2.เมื่อผู้ลงทุนขายคืนหน่วยลงทุน จะได้รับใบสำคัญแสดงสิทธิในหน่วยลงทุน และ หนังสือแสดงการขายคืนหน่วยลงทุนใน LTF โดยผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถใช้หนังสือแสดงการขายคืนหน่วยลงทุนใน LTF เป็นข้อมูลในการดำเนินการยื่นแบบเสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเพิ่มเติมในกรณีที่ลงทุนไม่ครบ 5 ปี 3.เมื่อผู้ถือหน่วยลงทุนโอนหน่วยลงทุนไปลงทุนใน LTF อื่น จะได้รับหนังสือรับรองการโอนหน่วยลงทุนใน LTF ที่ผู้ถือหน่วยลงทุนโอนออก 4.รายการซื้อหน่วยลงทุนในแต่ละปี ผู้ถือหน่วยลงทุนใน LTF จะได้รับหนังสือรับรองการซื้อหน่วยลงทุนใน LTF เพื่อเป็นเอกสารประกอบการดำเนินการยื่นแบบเสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาภายในเดือนมีนาคมของปีถัดไป ถาม: ควรจะรอลงทุนในเดือนธันวาคม จึงจะดีที่สุดจริงหรือไม่ ตอบ: ไม่จริง แต่ถ้ายิ่งลงทุนเร็วเท่าไหร่ เงินที่ลงทุนก็จะเริ่มทำงานเมื่อนั้น ซึ่งผู้ลงทุนควรศึกษาและดูช่วงจังหวะการลงทุน หากลงทุนในเดือนธันวาคม เงินก็จะเริ่มทำงานในเดือนธันวาคม ซึ่งอาจะเป็นช่วงจังหวะที่ราคาหุ้นหรือหลักทรัพย์ขึ้นแล้วก็ได้ ดังนั้นจึงควรติดตามตลาดและ.ศึกษาจังหวะการลงทุนก่อนการตัดสินใจลงทุน หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 01, 2007, 06:13:39 PM ตัวช่วยคำนวณภาษีครับ
http://www.ktam.co.th/th/vat.php?PHPSESSID=c6129b79d65f0432d300b6d0feacef53 หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ ธันวาคม 01, 2007, 10:27:51 PM ท่านทัดมาลาครับ ผมยอมเสียภาษีครับ เพราะผมไม่มั่นใจในกองทุนอีกแล้ว วันนี้สถานะการณ์โลกยังไม่นิ่งพอ บ้านเราการเล่นหุ้นไม่ใช่เล่นหุ้นเพราะกิจการดี หรือหุ้นมีปันผล แต่เป็นเหมือนการพนัน จริง ๆ เหมือนที่เขาว่า
ตอนนี้ผมลงทุนด้วยการซื้อทองคำเก็บครับ เล่นหุ้นเป็นน้ำจิ้มสนุกสนานไปมีวงเงินลิมิตไว้แค่นั้นและผมจะไม่เติมเงินเข้าไปในพอร์ตหุ้นผมอีก จะให้ผมเลิกเล่นผมก็คงบอกว่าเหงาจัง ลองคิดดูแทนที่เราคิดว่าเอาเงินมาซื้อกองทุนเพื่อไม่ต้องเสียภาษี เกิดวันหนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ ล่มขึ้นมา มีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งทำให้หุ้นล่วง เหลือสตางค์เดียว หรือไม่มีค่าเลยสักตัว วันนั้น เราจะมาคิดทีหลัง รู้งี้เสียภาษีช่วยรัฐดีกว่า ขออภัยครับท่าน ที่ความคิดเห็นแตกต่างครับ ด้วยความเคารพท่านทัดมาลาเหมือนเดิมครับ ฮิ ฮิ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2007, 07:46:27 AM ท่านทัดมาลาครับ ผมยอมเสียภาษีครับ เพราะผมไม่มั่นใจในกองทุนอีกแล้ว วันนี้สถานะการณ์โลกยังไม่นิ่งพอ บ้านเราการเล่นหุ้นไม่ใช่เล่นหุ้นเพราะกิจการดี หรือหุ้นมีปันผล แต่เป็นเหมือนการพนัน จริง ๆ เหมือนที่เขาว่า ตอนนี้ผมลงทุนด้วยการซื้อทองคำเก็บครับ เล่นหุ้นเป็นน้ำจิ้มสนุกสนานไปมีวงเงินลิมิตไว้แค่นั้นและผมจะไม่เติมเงินเข้าไปในพอร์ตหุ้นผมอีก จะให้ผมเลิกเล่นผมก็คงบอกว่าเหงาจัง ลองคิดดูแทนที่เราคิดว่าเอาเงินมาซื้อกองทุนเพื่อไม่ต้องเสียภาษี เกิดวันหนึ่ง ตลาดหลักทรัพย์ ล่มขึ้นมา มีเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งทำให้หุ้นล่วง เหลือสตางค์เดียว หรือไม่มีค่าเลยสักตัว วันนั้น เราจะมาคิดทีหลัง รู้งี้เสียภาษีช่วยรัฐดีกว่า ขออภัยครับท่าน ที่ความคิดเห็นแตกต่างครับ ด้วยความเคารพท่านทัดมาลาเหมือนเดิมครับ ฮิ ฮิ คงตกยากนะครับท่านต.ฯ...อัตราส่วนการลงทุนจะอยู่ที่ 65 / 35 ครับของLTF และก็จะแตกต่างกันไปบ้างตามแต่ละประเภทกองทุนครับ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: แมวบ้า(น) ที่ ธันวาคม 02, 2007, 08:43:11 AM ใกล้สิ้นปีแล้ว ถึงเวลารวบรวม รายรับจ่ายประจำปี แล้ววางแผนภาษีกันได้แล้ว สำหรับท่านที่ไม่ได้ทยอยซื้อมาทั้งปี ช่วงนี้เป็นโค้งสุดท้ายก่อนปิดการขาย พี่ๆน้องๆ มีเจ้าไหนแนะนำ ด้วยเหตุผลใดครับ สำหรับผม เน้น LTF กับประกันชีวิตเป็นหลัก เพราะเห็นผลชัดเจน RTF ยาวไปๆครับ อิอิ หุ หุ หุ หุ ::005:: ปัญหาของพวกฐานสูง ::005:: ::005:: ขอบคุณน้าทัดครับ ที่เอาข้อมูลมาให้ได้กระจ่าง ผมเคยแค่ฟังเอาผ่านๆเพราะผมฐานต่ำรอดตัวง่ายครับ ::008:: เลยไม่เคยได้ทำความเข้าใจจริงจังซะที ::002:: หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Audy452 ♥ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2007, 09:46:57 AM KEQLTFกับKDLTFก็น่าสนใจนะครับ...จ่ายปันผลอันดับ 3 และ4เลยครับ
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: jakrit97 - รักในหลวง - ที่ ธันวาคม 02, 2007, 01:59:04 PM ยังไม่สนใจครับ ... อนาคตไม่แน่ ;D ;D
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ธันวาคม 02, 2007, 04:28:59 PM ล่าสุดครับ ซื้อพันธบัตรแบบ 4 ปี ดอกเบี้ย 4.6%
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 02, 2007, 04:53:12 PM ท่านทัดมาลาครับ...
ผมซื้อ LTR ไป ไม่ทราบว่าลดภาษีได้ไหมครับ...::005:: หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Don Quixote ที่ ธันวาคม 02, 2007, 05:19:36 PM อุ๊ย ระวังโดน กคค (การคลังแห่งครัวเรือน) หักค่าขนมนะครับพี่รุต
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: Songchart ที่ ธันวาคม 02, 2007, 05:32:15 PM ผมไม่ได้ซื้อทุกปีครับ ซื้อปีแรกที่ออกปีเดียว รอขายเดือนมกรานี้แล้วครับ ;D
สำหรับความเห็นส่วนตัว 1.ผมคิดว่าตอนนี้ราคา set ก็สูงพอสมควร ถ้าจะกันเหนียวไว้ อันดับแรกควรมีฐานเงินเดือนที่สูงหน่อย คือเสียภาษีอยู่ในอัตรา 20-30% หากลงทุน LTF ก็จะได้ส่วนลดที่คุ้มความเสี่ยง หากฐานเงินเดือนอยู่ที่ 10% อาจจะไม่คุ้ม เพราะทุกวันนี้ ภายใน 1 เดือน swing เกือบ 10% 2. กองทุนที่จะแนะนำ ผมคิดว่าของหลักทรัพย์บัวหลวงก็น่าสนใจ เพราะเท่าที่ตามมา แม้ NAV swing เร็ว ขึ้นไปสูงสุดกว่า16บาทต่อยูนิตตอนนี้อยู่ที่ระดับ 14.4-14.6 บาทต่อยูนิต แต่ผมสังเกตว่ามันแปรผันตามหุ้น BBL ไม่เชื่อไปลองสังเกตดูครับ ดังนั้น หากคิดว่าจะลงทุนหุ้น BBL สัก 3 ปี (กับอีก 2 เดือน) ผมคิดว่า LTF ของบลจ. บัวหลวง น่าสนใจกว่าครับ เพราะได้ส่วนลดตามฐานภาษีของแต่ละท่านด้วย นอกเหนือจากการเพิ่มมูลค่าNAV (ซึ่งผมตีความว่าคล้ายๆ กับ capital gain แต่จะไม่ได้รับปันผลเหมือนหุ้น BBL ซึ่งผมก็เห็นว่าปีละแค่ 2-3% ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับส่วนลดภาษี 20% หาร 3 หรือเท่ากับเกือบ 7% ขอรับ) สรุปคือ ฐานเงินเดือนสูง น่าซื้อ และหากตัดสินใจซื้อ ผมแนะนำ ของบัวหลวงซึ่งคล้ายๆ กับลงทุนในหุ้น BBL ครับผม อันนี้เป็นมุมมองของผมครับ ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับบลจ. บัวหลวงนะครับ ขอบอก ;D ส่งชาติ :) หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: supermansup ที่ ธันวาคม 02, 2007, 09:01:42 PM ดีครับ ถ้าอัตราภาษีสูง ก็ยิ่งหักได้มากครับ
ส่วนตัวผมก็ LTF ครับ แบบปลอดภัยก็แบบ 70:30 รับปันผล ขายได้ภายใน 5 ปีต้องครบ(ตามปีปฏิทิน) ปีที่ 1 ซื้อ ธ.ค ปีที่ 2 ซื้อ ธ.ค ปีที่ 3 ซื้อ ธ.ค ปีที่ 4 ซื้อ ธ.ค ปีที่ 5 ซื้อ ธ.ค ปีที่ 6 ขายได้ของปีที่ 1ที่ซื้อมา สรุป ถือเต็มๆ 3 ปี กับอีกนิดหน่อยก็ขายได้ก็ลดความเสี่ยงหน่อยหนึ่งครับ ส่วนตัวผมว่าคุ้มครับ แต่ตอนนี้ไม่รู้ของใครดีแนะนำด้วยนะครับ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 03, 2007, 12:20:53 PM ตอนนี้ผมดู SCB ครับ ดูอยู่แต่ยังไม่ได้ซื้อ 5555
อย่างที่ว่าครับถ้าฐาน 10% /3 ปี กับ ห้าวัน(ปลายปี + ต้นปี แบงค์หยุดงาน) เหลือปีละ 3% กว่า ไม่รวมส่วนต่างของ ขาดทุน/กำไร แต่ถ้าฐาน 20% ก็ขึ้นไปร่วมๆ 7% ฐาน 30% ก็ลดไป 10 % หรือพิกัดที่ 37% ก็ลดไป 12 % เรื่องถือครอง 5 ปี ตามปีปฏิทิน จะแปลว่า ในกองทุนนั้นๆ เราจะถือประมาณ 3 ปี กับ 3-5 วันครับ ถ้านับตามท่าน superman จะครบปีเต็มในปีที่ 2-3-4 ปีที่ 1 ซื้อปลายปี คือสามวัน ปี่ที่ 5 ขายต้นปี คือ 2 วันครับ ตอบท่าน ...ต.แม่สาย นอกจากผลทางด้านภาษีแล้ว เรื่องผลตอบแทนหรือความเสี่ยง ก็ 70/30 โดยประมาณ ขึ้นกับว่าเลือกกอทุนแบบไหน และขอบเสี่ยงมากน้อย อิอิ ตอนนี้มีหลายธนาคารที่ทำธุรกรรมผ่านอินเตอร์เนทได้ ทำให้เราสามารถโยกหรือเปลี่ยนกองทุนภายในได้ตลอดเวลา เหมือนเล่นกับหุ้นกลายๆ อิอิ แนวทางทาง LTF หรือ RMF พูดตามตรงว่า อุ้มคนมีรายได้สูงครับ มีผลต่อผู้มีรายได้โดยเฉลี่ยหรือปานกลางน้อยมากครับ ป.ล. เดี๋ยวจะลองเฝ้าดู BBL ครับ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 03, 2007, 12:23:42 PM หุ หุ หุ หุ ::005:: ปัญหาของพวกฐานสูง ::005:: ::005:: ขอบคุณน้าทัดครับ ที่เอาข้อมูลมาให้ได้กระจ่าง ผมเคยแค่ฟังเอาผ่านๆเพราะผมฐานต่ำรอดตัวง่ายครับ ::008:: เลยไม่เคยได้ทำความเข้าใจจริงจังซะที ::002:: ผมก็อยากฐานต่ำแบบนี้บ้าง เงินวิ่งเข้า แต่บัญชีไม่เกิดเนี่ย อิอิอิอิ ท่านทัดมาลาครับ... ผมซื้อ LTR ไป ไม่ทราบว่าลดภาษีได้ไหมครับ...::005:: เบื่อแล้วขอรับอุปการะต่อนะครับพี่ หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: ต.แม่สาย ที่ ธันวาคม 03, 2007, 04:32:05 PM ฮิ ฮิ
หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 03, 2007, 05:28:08 PM อุ๊ย ระวังโดน กคค (การคลังแห่งครัวเรือน) หักค่าขนมนะครับพี่รุต กรณีนี้แจ้งขออนุญาตก่อนซื้อแล้วครับ...::014:: หัวข้อ: Re: ใกล้สิ้นปีแล้ว ซื้อ RMF, LTF เจ้าไหนกันบ้างครับ เริ่มหัวข้อโดย: นายกระจง ที่ ธันวาคม 03, 2007, 05:45:15 PM น้าโอ๊คครับ ไอ้ RMF LTF นี่มันคืออะไรยะ ........ เคยได้ยินแต่ IMF เอิ๊กๆๆ พี่ปูครับ ผมเจอในหนังสือพิมพ์ครับ RMF = กองทุนเพื่อการเกษียณ................ LTF = กองทุนการลงทุนระยะยาว ครับ สำหรับผมรู้จักกองทุนเดียวครับ กองทุนสงเคาระห์การทำสวนยาง ครับ อาจจะไม่เกี่ยวกับเรื่องที่พี่ๆคุยกันต้องขออภัยด้วยครับ ขอบคุณครับ |