เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => หลังแนวยิง => ข้อความที่เริ่มโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:05:22 PM



หัวข้อ: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: flyingkob-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:05:22 PM
เรื่องที่ควรรู้ ที่สุดในชีวิต
เรื่อง: 80 เรื่องของในหลวงที่เรา (อาจ) ไม่เคยรู้
> เมื่อทรงพระเยาว์
1. ทรงพระราชสมภพเวลา 08.45น.
2. นายแพทย์ผู้ทำคลอดชื่อ ดับลิว สจ๊วต วิตมอร์ มีน้ำหนักแรกประสูติ 6 ปอนด์
3. พระนาม”ภูมิพล”ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระปกเ กล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 7
4. พระยศเมื่อแรกประสูติ คือ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า ภูมิพลอดุลยเดช
5. ทรงมีชื่อเล่น ว่า เล็ก หรือ พระองค์เล็ก
6. ทรงเคยเป็นศิษย์เก่าโรงเรียนมาแตร์เดอี เพราะช่วงพระชนมายุ 5 พรรษา ทรงเคยเข้าเรียน 1 ปี มีพระนามในใบลงทะเบียนว่า “H.H Bhummibol Mahidol”หมายเลขประจำตัว 449
7. ทรงเรียกสมเด็จพระราชชนนีหรือสมเด็จย่า อย่างธรรมดาว่า”แม่”
8. สมัยทรงพระเยาว์ ทรงได้ค่าขนม อาทิตย์ละครั้ง
9. แม้ได้เงินค่าขนมทุกอาทิตย์แต่ยังทรงรับจ้างเก็บผักผลไม้ไปขาย เมื่อได้เงินมาก็นำไปซื้อเมล็ดผัก
มาปลูกเพิ่ม
10. สมัยพระเยาว์ทรงเลี้ยงสัตว์หลายชนิดทั้งสุนัข กระต่าย ไก่ นกขุนทอง ลิง แม้แต่งูก็เคยเลี้ยง ครั้ง หนึ่งงูตายไปก็มีพิธีฝังศพอย่างใหญ่โต
11. สุนัขตัวแรกที่ทรงเลี้ยงสมัยพระเยาว์เป็นสุนัขไทย ทรงตั้งชื่อให้ว่า”บ๊อบบี้”
12. ทรงฉลองพระเนตร (แว่นสายตา) ตั้งแต่พระชันษายังไม่เต็ม 10 ขวบ เพราะครูประจำชั้นสังเกต เห็นว่าเวลาจะทรงจดอะไรจากกระดานดำจะต้องลุกขึ้นบ่อย ๆ
13. สมัยพระเยาว์ทรงซนบ้าง หากสมเด็จย่าจะลงโทษ จะเจรจากันก่อนว่า โทษนี้ควรตีกี่ที ในหลวงจะ ทรงต่อรอง 3 ที มากเกินไป 2ทีพอแล้ว
14. ระหว่างประทับที่สวิตเซอร์แลนด์ โดยระหว่างพี่น้องจะทรงใช้ภาษาฝรั่งเศส แต่จะใช้ภาษาไทย
กับสมเด็จย่าเสมอ
15. ทรงได้รับการอบรมให้รู้จักการให้โดยสมเด็จย่าจะทรง ตั้งกระป๋องออมสินเรียกว่า”กระป๋องคนจน”หากทรงนำเงินไปทำกิจกรรมแล้วมีกำไรจะต้องถูก”เก็บภาษี”หยอดใส่กระปุกนี้10% ทุกสิ้นเดือน สมเด็จย่าจะเรียกประชุมเพื่อถามว่าจะเอาเงินในกระป๋องนี้ไปทำอะไร เช่น มอบให้โรงเรียนตาบอด มอบให้เด็กกำพร้า หรือทำกิจกรรมเพื่อคนยากจน
16. ครั้งหนึ่ง ในหลวงกราบทูลสมเด็จย่าว่าอยากได้รถจักรยาน เพราะเพื่อนคนอื่นๆเขามีจักรยานกัน สมเด็จย่าก็ตอบว่า”ลูกอยากได้จักรยาน ลูกก็ต้องเก็บค่าขนมไว้สิหยอดกระป๋องวันละเหรียญ ได้มากค่อยเอาไปซื้อจักรยาน”
17. กล้องถ่ายรูปกล้องแรกของในหลวง คือ Coconet Midget ทรงซื้อด้วยเงินสะสมส่วนพระองค์
เมื่อพระชนม์เพียง 8 พรรษา
18. ช่วงเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ทรงปั่นจักรยานไปโรงเรียนแทนรถพระที่นั่ง
 
พระอัจฉริยภาพ
19. พระอัจฉริยภาพของในหลวง มีพื้นฐานมาจาก”การเล่น”สมัยพระเยาว์ เพราะหากอยากได้ของเล่นอะไร ต้องทรงเก็บสตางค์ซื้อเอง หรือ ประดิษฐ์เอง ทรงเคยหุ้นค่าขนมกับ พระเชษฐาซื้อชิ้นส่วนวิทยุทีละชิ้นๆ แล้วเอามาประกอบเองเป็นวิทยุ แล้วแบ่งกันฟัง
20. สมเด็จย่าทรงสอนให้ในหลวงรู้จักการใช้แผนที่และภูมิประเทศของไทย โดยโปรดเกล้าฯให้โรงเรียนเพาะช่างทำแผนที่ประเทศไทยเป็นรูปตัวต่อ เลื่อยเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเล็กๆเพื่อให้ทรงเล่นเป็นจิ๊กซอว์
21. ทรงเครื่องดนตรีได้หลายชนิด เปียโน กีตาร์ แซกโซโฟน แต่รู้หรือไม่ เครื่องดนตรีชิ้นแรกที่ทรงหัดเล่นคือ หีบเพลง (แอกคอร์เดียน)
22. ทรงสนพระทัยดนตรีอย่างจริงจังราวพระชนม์ 14-15 พรรษา ทรงซื้อแซกโซโฟนมือสองราคา 300 ฟรังก์มาหัดเล่น โดยใช้เงินสะสมส่วนพระองค์ครึ่งหนึ่ง และอีกครึ่งหนึ่งสมเด็จย่าออกให้
23. ครูสอนดนตรีให้ในหลวง ชื่อ เวย์เบรชท์ เป็นชาว อัลซาส
24. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงครั้งแรก เมื่อพระชนม์พรรษา 18 พรรษา เพลงพระราชนิพนธ์แรกคือ”แสงเทียน” จนถึงปัจจุบันพระราชนิพนธ์เพลงไว้ทั้งหมด 48 เพลง
25. ทรงพระราชนิพนธ์เพลงได้ทุกแห่ง บางครั้งไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องดนตรีช่วย อย่างครั้งหนึ่งทรง เกิดแรงบันดาลพระทัย ทรงฉวยซองจดหมายตีเส้น 5 เส้นแล้วเขียนโน้ตทำนองเพลงขึ้นเดี๋ยวนั้น กลายเป็นเพลง”เราสู้”
26. รู้ไหม...? ทรงมีพระอุปนิสัยสนใจการถ่ายภาพเหมือนใคร : เหมือนสมเด็จย่า และ รัชกาลที่5
27. - - - -
28. นอกจากทรงโปรดการถ่ายภาพ ยังสนพระทัยการถ่ายภาพยนตร์ด้วย ทรงเคยนำภาพยนตร์ส่วน
พระองค์ออกฉายแล้วนำเงินรายได้มาสร้างอาคารสภากาชาดไทย ที่ รพ.จุฬาฯ โรงพยาบาลภูมิพล รวม ทั้งใช้ในโครงการโรคโปลิโอและโรคเรื้อนด้วย
29. ทรงพระราชนิพนธ์เรื่อง”นายอินทร์”และ”ติโต” ทรงเขียนด้วยลายพระหัตถ์ แล้วให้เสมียนพิมพ์แต่ พระมหาชนก ทรงพิมพ์ลงในเครื่องคอมพิวเตอร์
30. ทรงเล่นกีฬาได้หลายชนิด แต่กีฬาที่ทรงโปรดเป็นพิเศษได้แก่ แบดมินตัน สกี และเรือใบ ทรงเคย ได้เหรียญทองจากการแข่งขันเรือใบประเภทโอเค ในกีฬาแหลมทอง (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น”กีฬาซีเกมส์”) ครั้งที่ 4 ปี พ.ศ.2510
31. ครั้งหนึ่ง ทรงเรือใบออกจากฝั่งไปได้ไม่นานก็ทรงแล่นกลับฝั่งตรัสกับผู้ที่คอยมาเฝ้าฯว่า เสด็จฯกลับเข้าฝั่งเพราะเรือแล่นไปโดนทุ่นเข้า ซึ่งในกติกาการแข่งเรือใบถือว่าฟาวส์ ทั้งๆที่ไม่มีใครเห็น แสดงให้ เห็นว่าทรงยึดกติกามากแค่ไหน
32. ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกของโลกที่ได้รับสิทธิบัตรผลงานประดิษฐ์คิดค้นเครื่องกลเติมอากาศที่ผิวน้ำหมุนช้าแบบทุ่มลอย หรือ “กังหันชัยพัฒนา” เมื่อปี 2536
33. ทรงเป็นผู้ริเริ่มการพัฒนาเชื้อเพลิงน้ำมันจากวัสดุการเกษตรเพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทน เช่น แก๊ส โซฮอล์, ดีโซฮอลล์ และ น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ ต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 20ปีแล้ว
34. องค์การสหประชาชาติ ได้ถวาย รางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ แด่ในหลวงเมื่อ วันที่ 26 พฤษภาคม 2549 เพื่อสดุดีพระเกียรติคุณพระราชกรณียกิจด้านการพัฒนาช ีวิตความเป็นอยู่ของ ประชาชนชาวไทย โดยมี นายโคฟี อันนัน เลขาธิการสหประชาชาติ เดินทางมาถวายรางวัล >

เรื่องส่วนพระองค์
35. พระนามเต็มของในหลวง : พระบาทสมเด็จพระปรมินทรามหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร
36. รักแรกพบ ของในหลวงและหม่อมสิริกิติ์เกิดขึ้นที่สวิสเซอร์แลนด ์ แต่เหตุการณ์ครั้งนั้น สมเด็จพระบรมราชินีนาถฯทรงให้สัมภาษณ์ว่า”น่าจะเป็น เกลียดแรกพบ มากกว่า รักแรกพบ เนื่องเพราะรับสั่งว่าจะเสด็จถึงเวลาบ่าย 4 โมง แต่จริงๆแล้วเสด็จมาถึงหนึ่งทุ่ม ช้ากว่าเวลานัดหมายตั้งสามชั่วโมง
37. ทรงหมั้นกับ ม.ร.ว.สิริกิติ์ กิติยากร เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2492 และจัดพระราชพิธีราชาภิเษก
สมรส ที่วังสระปทุม เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2493 โดยทรงจดทะเบียนสมรสเหมือนคนทั่วไป ข้อความใน สมุดทะเบียนก็เหมือนคนทั่วไปทุกอย่าง ปิดอากรแสตมป์ 10 สตางค์ เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท
38. หลังอภิเษกสมรส ทรง”ฮันนีมูน”ที่หัวหิน
39. ทรงผนวช ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมืองวันที่ 22 ตุลาคม 2499 และประทับจำพรรษา ณ วัดบวรนิเวศวิหาร เป็นเวลา 15 วัน
40. ระหว่างทรงผนวช พระอุปัชฌาย์และพระพี่เลี้ยง คือ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช
41. ของใช้ส่วนพระองค์นั้นไม่จำเป็นต้องแพง ต้องแบรนด์เนม ดังนั้นการถวายของให้ในหลวงจึงไม่จำเป็นจะต้องเป็นของแพง อะไรที่มาจากน้ำใจจะทรงใช้ทั้งนั้น
42. เครื่องประดับ : ในหลวงไม่ทรงโปรดสวมเครื่องประดับ เช่น แหวน สร้อยคอ ของมีค่าต่างๆ ยกเว้น นาฬิกา
43. พระเกศาที่ทรงตัดแล้ว : ส่วนหนึ่งเก็บไว้ที่ธงชัยเฉลิมพลเพื่อมอบแก่ทหาร อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้สร้างวัตถุมงคล เพื่อมอบแก่ราษฎรที่ทำคุณงามความดีแก่ประเทศชาติ
44. หลอดยาสีพระทน ทรงใช้จนแบนราบเรียบคล้ายแผ่นกระดาษ โดยเฉพาะบริเวณคอหลอด ยังปรากฏรอยบุ๋มลึกลงไปจนถึงเกลียวคอหลอด ซึ่งเป็นผลจากการใช้ด้ามแปรงสีพระทนช่วยรีด และ กดเป็นรอยบุ๋ม
45. วันที่ในหลวงเสียใจที่สุด คือวันที่สมเด็จย่าเสด็จสวรรคต มีหนังสือเล่าไว้ว่า วันนั้นในหลวงไปเฝ้า แม่ถึงตีสี่ตีห้า พอแม่หลับจึงเสด็จฯกลับ ถึงวัง ทางโรงพยาบาลก็โทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์ แล้ว ในหลวงรีบกลับไปที่โรงพยาบาล เห็นแม่นอนหลับตาอยู่บนเตียง ในหลวงคุกเข่าเข้าไปกราบที่อกแม่ ซบหน้านิ่งอยู่นาน ค่อยๆเงยพระพักตร์ขึ้นมาน้ำพระเนตรไหลนอง

งานของในหลวง
46. โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จนถึงปัจจุบันมีจำนวนกว่า 3,000 โครงการ
47. ทุกครั้งที่เสด็จฯไปยังสถานต่างๆจะทรงมีสิ่งของประจำ พระองค์อยู่ 3 สิ่งคือ แผนที่ซึ่งทรงทำขึ้นเอง (ตัดต่อเอง ปะกาวเอง) กล้องถ่ายรูป และดินสอที่มียางลบ
48. ในหลวงทรงงานด้วยพระองค์เองทุกอย่างแม้กระทั่งการโรเนียว กระดาษที่จะนำมาให้ข้อราชการที่เข้าเฝ้าฯถวายงาน
49. เก็บร่ม : ครั้งหนึ่งเมื่อในหลวงเสด็จฯเยี่ยมโครงการห้วยสัตว์ใหญ่ เมื่อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งมาถึง ปรากฏว่าฝนตกลงมาอย่างหนัก ข้าราชการและราษฎรที่เข้าแถวรอรับเปียกฝนกันทุกคน เมื่อทรงเห็น ดังนั้น จึงมีรับสั่งให้องครักษ์เก็บร่ม แล้วทรงเยี่ยมข้าราชการและราษฎรทั้งกลางสายฝน
50. ทรงศึกษาลักษณะอากาศทุกวัน โดยใช้ข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยานำขึ้นทูลเกล้าฯร่วม กับข้อมูลจากต่างประเทศที่หามาเอง เพื่อป้องกันภัยธรรมชาติที่อาจก่อความเสียหายแก่ประชาชน
51. โครงการส่วนพระองค์ สวนจิตรลดา เริ่มต้นขึ้นจากเงินส่วนพระองค์จำนวน 32,866.73 บาท ซึ่ง
ได้จากการขายหนังสือดนตรีที่พระเจนดุริยางค์ จากการขายนมวัว ก็ค่อยๆ เติบโตเป็นโครงการพัฒนามาจนเป็นอย่างที่เราเห็นกันทุกวันนี้
52. เวลามีพระราชอาคันตุกะเสด็จมาเยี่ยมชมโครงการฯ สวนจิตรลดา ในหลวงจะเสด็จฯ ลงมา อธิบายด้วยพระองค์เอง เนื่องจากทรงรู้ทุกรายละเอียด
53. ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กราบบังคมทูลถามว่า เคยทรงเหนื่อยทรงท้อบ้างหรือไม่ ในหลวงตอบว่า “ความจริงมันน่าท้อถอยอยู่หรอก บางเรื่องมันน่าท้อถอย แต่ว่าฉันท้อไม่ได้ เพราะเดิมพันของเรานั้นสูง เหลือเกิน เดิมพันของเรานั้นคือบ้านเมือง คือความสุขของคนไทยทั่วประเทศ
54. ทรงนึกถึงแต่ประชาชน แม้กระทั่งวันที่พระองค์ทรงกำลังจะเข้าห้องผ่าตัดกระ ดูกสันหลังในอีก 5 ชั่วโมง (20 กรกฎาคม 2549) ยังทรงรับสั่งให้ข้าราชบริพารไปติดตั้งคอมพิวเตอร์เดินสายออนไลน์ไว้ เพราะกำลังมีพายุเข้าประเทศ พระองค์จะได้มอนิเตอร์ เผื่อน้ำท่วมจะได้ช่วยเหลือทัน

ของทรงโปรด
55. อาหารทรงโปรด : โปรดผัดผักทุกชนิด เช่น ผัดคะน้า ผัดถั่วงอก ผัดถั่วลันเตา
56. ผักที่ไม่โปรด : ผักชี ต้นหอม และตังช่าย
57. ทรงเสวย ข้าวกล้อง เป็นพระกระยาหารหลัก
58. ไม่เสวยปลานิล เพราะทรงเป็นผู้เลี้ยงปลานิลคนแรกในประเทศไทย โดยใช้สระว่ายน้ำในพระตำหนักสวนจิตรลดาเป็นบ่อเลี้ยง แล้วแจกจ่ายพันธุ์ไปให้กรมประมง
59. เครื่องดื่มทรงโปรด : โปรดโอวัลตินเป็นพิเศษ เคยเสวยวันหนึ่งหลายครั้ง
60. ทีวีช่องโปรด ทรงโปรดข่าวช่องฝรั่งเศสของยูบีซี เพื่อทรงรับฟังข่าวสารจากทั่วโลก
61. ทรงฟัง จส.100 และเคยโทรศัพท์ไปรายงานสถานการณ์ต่างๆใน กทม.ไปที่ จส.100 ด้วย โดยใช้พระนามแฝง
62. หนังสือที่ในหลวงอ่าน : ตอนเช้าตื่นบรรทม ในหลวงจะเปิดดูหนังสือพิมพ์รายวันทั้งไทยและเทศ ทุกฉบับ และก่อนเข้านอนจะทรงอ่านนิตยสารไทม์ส นิวสวีก เอเชียวีก ฯลฯ ที่มีข่าวทั่วทุกมุมโลก
63. ร้านตัดเสื้อของในหลวง คือ ร้านยูไลย เจ้าของชื่อ ยูไลย ลาภประเสริฐ ถวายงานตัดเสื้อในหลวงมาตั้งแต่ปี 2501 เมื่อนายยูไลยเสียชีวิต ก็มี ลูกชาย นายสมภพ ลาภประเสริฐ มาถวายงานต่อ จนถึงตอนนี้ก็เกือบ 50 ปีแล้ว
64. ห้องทรงงานของในหลวง อยู่ใกล้ห้องบรรทม บนชั้น 8 ของตำหนักจิตรลดาฯเป็นห้องเล็กๆ ขนาด 3x4 เมตร ภายในห้องมีวิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์ โทรสาร คอมพิวเตอร์ เครื่องบันทึกเสียง เครื่องพยากรณ์ แผนที่ ฯลฯ
65. สุนัขทรงเลี้ยง นอกจากคุณทองแดง สุวรรณชาด สุนัขประจำรัชกาล ที่ปัจจุบันอยู่ที่พระราชวังไกลกังวล แล้ว ยังมีสุนัขทรงเลี้ยงอีก 33 ตัว

รู้หรือไม่?
66. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ว่า “นายหลวง” ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง
67. ทรงเชี่ยวชาญถึง 6 ภาษา คือ ไทย ละติน ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน และ สเปน
68. อาชีพของในหลวง เมื่อผู้แทนพระองค์ไปติดต่อเอกสารสำคัญใดๆ ทรงโปรดให้กรอกในช่อง อาชีพของพระองค์ว่า “ทำราชการ”
69. ในหลวงทรงพระเนตรเทียมข้างขวา เป็นผลจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เมืองโลซานน์ สวิสเซอร์แลนด์ รถพระที่นั่งชนกับรถบรรทุกอย่างแรง ทำให้เศษกระจกเข้าพระเนตรข้างขวา ตอนนั้นมี อายุเพียง 20 พรรษา และทรงใช้พระเนตรข้างซ้ายข้างเดียว ในการทำงานบำบัดทุกข์บำรุงสุขประชาชนชาวไทยมาตลอดกว่า 60 ปี
70. ครั้งหนึ่งหนังสือพิมพ์อเมริกันลงข่าวลือเกี่ยวกับใน หลวงว่า แซกโซโฟนที่ทรงอยู่เป็นประจำนั้นเป็น แซกโซโฟนที่ทำด้วยทองคำเนื้อแท้บริสุทธิ์ ซึ่งได้มีพระราชดำรัสว่า”อันนี้ไม่จริงเลย สมมติว่าจริงก็จะหนักมาก ยกไม่ไหวหรอก”
71. ปีหนึ่งๆ ในหลวงทรงเบิกดินสอแค่ 12 แท่ง ใช้เดือนละแท่ง จนกระทั่งกุด
72. หัวใจทรงเต้นไม่ปกติ ในหลวงเคยประชวรหนักจนหัวใจเต้นไม่ปกติ เนื่องจากติดเชื้อไมโครพลาสม่า ขณะขึ้นเยี่ยมราษฎรที่อำเภอสะเมิงติดต่อกันหลายปี
73. รู้หรือไม่ว่า ในหลวงเป็นคนประดิษฐ์รูปแบบฟอนต์ภาษาในคอมพิวเตอร์ที ่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้อย่าง ฟอนต์จิตรลดา ฟอนต์ภูพิงค์
74. ในนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี จัดขึ้นที่อิมแพ็ค มีประชาชนเข้าชมรวม 6ล้านคน
75. ในหลวงเริ่มพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ.2493 จน 29 ปีต่อมาจึงมีผู้คำนวณว่าเสด็จพระราชทานปริญญาบัตร 490 ครั้ง ประทับครั้งละ 3 ชม. ทรงยื่นพระหัตถ์พระราชทาน 470,000 ครั้ง น้ำหนักปริญญาบัตรฉบับละ 3 ขีด รวมน้ำหนักทั้งหมด 141 ตัน
76. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
77. สีประจำพระองค์คือ สีเหลือง
78. นั่งรถหารสอง : ทรงรับสั่งกับข้าราชบริพารเสมอว่า การนั่งรถคนละคันเป็นการสิ้นเปลือง ให้นั่ง รวมกัน ไม่โปรดให้มีขบวนรถยาวเหยียด
79 - - - -
80. พระราชประวัติในหลวง ฉบับการ์ตูน

: ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Pandanus ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:27:02 PM
ขออนุญาตครับ

ขอบคุณเป็นที่สุดครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ManStopper ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:29:32 PM
ขอบคุณครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: SaSa ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:37:30 PM

       (http://img132.imageshack.us/img132/8122/popthankmh2.gif) (http://imageshack.us)


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Min-Min ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:38:00 PM
ขอบคุณเช่นกันค่ะ :D


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ธันวาคม 07, 2007, 03:41:22 PM
 :VOV: ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน

 :) ขอขอบคุณ คุณ.flyingkob มากครับ อ่านไปน้ำตาไหลไป ตื้นตันใจมากครับ



หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: น่อย พีที99-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:18:06 PM


         ......เป็นสิ่งที่ควรทราบจริงๆ ในชีวิตหนึ่งของเรา

               ขอบคุณเป็นอย่างสูงครับ

         ........เอาคะแนนไปเลยเต็มที่


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ทิดเป้า ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:21:36 PM
 ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: wasanami ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:30:45 PM
ทรงพระเจริญ.... ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ทัดมาลา ขอเป็นข้ารองพระบาททุกชาติไป ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:36:35 PM
ทรงพระเจริญ...........

สมเด็จย่า ทรงเป็นแม่ผู้ประเสริฐ ทรงอบรมยุวกษัตริย์ได้เป็นอย่างดี

พิสูจน์แล้วว่า ยุวกษัตริย์น้อยๆพระองค์นั้น ปัจจุบันคือกษัตริย์ผู้ประเสริฐโดยแท้

ขอบพระคุณท่าน flyingkob สำหรับข้อเขียนดีๆ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ตูรุส ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:42:59 PM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: PU45™ ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:47:34 PM

                       (http://imagehost.compgamer.com/uploads/3d9e66fcc0.gif) (http://imagehost.compgamer.com)



หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: cee-set ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:56:18 PM
ขอบพระคุณครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Zeus-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 04:57:51 PM
ขอบคุณครับ ::002::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ๏แก้วเดียวจุก๏รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 05:28:24 PM
ขอบคุณครับ
มีข้อมูลหายไป 2 ข้อ ข้อ 27 กับ 79  อาจไม่ต้องการเปิดเผย
มีข้อสงสัยตรง 76. ดอกไม้ประจำพระองค์ คือ ดอกดาวเรือง
  ผมเข้าใจว่าดอกพุทธรักษาซะอีกครับ



หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: akkaluk03 ที่ ธันวาคม 07, 2007, 05:43:34 PM
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: โกโก้ ที่ ธันวาคม 07, 2007, 06:39:06 PM
 ::014::ขอบคุณมากๆครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: SOAP47 รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 06:56:10 PM
ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน
ขอบคุณมากครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: boon(เสือไบ) ที่ ธันวาคม 07, 2007, 07:21:11 PM
ขอบคุณมากครับ กระทู้นี้น่าปักหมุดเป็นที่สุด ไม่น่าปล่อยให้ต้องตก


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 07:45:59 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ ยิ่งยืนนาน


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ชัยบึงกาฬ รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 08:04:25 PM
ขอบคุณครับ...ภูมิใจที่ได้เกิดเป็นคนไทยครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: supreme ที่ ธันวาคม 07, 2007, 08:09:14 PM
ในข้อที่ 66. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ว่า “นายหลวง” ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง


คำว่า"ในหลวง"นี้ผมก็ไม่รู้จะยึดหลักไหน  เพราะมีคำตอบของที่มาคำนี้ต่างๆกันไป 


อยากทราบที่มาของคำว่า "ในหลวง" ครับ?  http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/library/topic/K2493053/K2493053.html

ในหลวง พ่อหลวง  http://www.royin.go.th/th/board/board-content.php?QID=14826


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: nomember ที่ ธันวาคม 07, 2007, 09:09:05 PM
 ::014:: ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: tip1976 - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 09:36:59 PM
 ::014::ขอบคุณครับ ::014::


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: วัฒน์ ที่ ธันวาคม 07, 2007, 09:44:59 PM
ในข้อที่ 66. ในหลวง เกิดจากคำที่ชาวเหนือใช้เรียกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู ่หัว ว่า “นายหลวง” ภายหลังจึงเปลี่ยนเป็น ในหลวง


คำว่า"ในหลวง"นี้ผมก็ไม่รู้จะยึดหลักไหน  เพราะมีคำตอบของที่มาคำนี้ต่างๆกันไป 


อยากทราบที่มาของคำว่า "ในหลวง" ครับ?  http://www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/library/topic/K2493053/K2493053.html

ในหลวง พ่อหลวง  http://www.royin.go.th/th/board/board-content.php?QID=14826

 :) ตามเข้าไปอ่านลิงก์ที่คุณ.supreme แนะนำไว้ คำว่า "พ่อหลวง" เป็นคำที่ใช้กันแพร่หลาย แต่ถ้าความหมายที่แท้จริงตามนี้

พ่อหลวง เป็นคำในภาษาถิ่นพายัพ หรือถิ่นเหนือ เป็นคำเรียก ผู้ใหญ่บ้าน เช่น พ่อหลวงบ้านร่มหลวง พ่อหลวงบ้านกาด พ่อหลวงบ้านหัวฝาย. ในภาคเหนือ เรียกภรรยาพ่อหลวง คือภรรยาผู้ใหญ่บ้านว่า แม่หลวง. ในภาคใต้ เรียกพระภิกษุผู้เป็นเจ้าอาวาส ว่า พ่อหลวง. การใช้คำว่า พ่อหลวง แทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงเป็นการใช้คำที่ไม่สมควรอย่างยิ่ง. การนำคำภาษาถิ่นมาใช้ในภาษาภาคกลางเป็นเรื่องดี เพราะจะเป็นการรักษาภาษาถิ่นของเราไว้บ้าง, แต่ควรจะเลือกใช้ให้ถูกความหมาย. ผู้เขียน ศ. ดร.กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต สำนักศิลปกรรม ราชบัณฑิตยสถาน

- เห็นว่าไม่ควรใช้คำว่า พ่อหลวง แทน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
- ฉะนั้น จึงอยากจะขอให้เพื่อนสมาชิกช่วยชี้แจง และเผยแพร่ให้ผู้ไม่ทราบได้ทราบความหมายที่แท้จริงต่อๆกันไป 


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: แจ็ค ที่ ธันวาคม 07, 2007, 10:17:08 PM

..... ก็ได้รู้วันนี้จริง ๆ ครับ ในหลาย ๆ เรื่อง ...... ขอพระองค์ทรงพระเจริญ .....


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: FUFUFUFU ที่ ธันวาคม 07, 2007, 10:29:03 PM
     
       ขอบคุณ จขกท มากๆครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 07, 2007, 10:41:23 PM
ขอบคุณท่าน จขกท.ครับ...


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: นายโป่งจิงฮง ทะลวงปืน - รักในหลวง ที่ ธันวาคม 08, 2007, 01:37:09 AM
ขอบคุณครับ พี่กบ  หลายข้อเคยทราบ หลายข้อเคยได้ยิน แต่หลายข้อไม่ทราบ และทุกๆข้อที่อ่าน ตื้นตันใจเหลือเกินครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: Windmill ที่ ธันวาคม 08, 2007, 02:41:39 AM
ขอบคุณมากครับคุณ flyingkob


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: marine-รักในหลวงอย่างไม่มีเงื่อนไขครับ ที่ ธันวาคม 08, 2007, 07:43:24 AM
ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: bobby ที่ ธันวาคม 08, 2007, 07:58:03 AM
ขอบคุณมากๆครับ จะเก็บไว้อ่านตลอดไป


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ป๊อกแมน ที่ ธันวาคม 08, 2007, 10:16:25 AM
ขอบคุณมากๆครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: ขุนช้าง-รักในหลวงและสมเด็จพระเทพ ที่ ธันวาคม 08, 2007, 10:58:29 AM
ขอบคุณนะครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: kay09 ที่ ธันวาคม 08, 2007, 04:45:11 PM
ขอจงทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: พ่อลีโอ-รักในหลวง ที่ ธันวาคม 08, 2007, 08:27:15 PM
ขอบคุณมากครับ จะก็อปไว้พิมพ์ให้ลูกชายและคนในครอบครัวได้อ่าน


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: บาร์ท รักในหลวง ที่ ธันวาคม 08, 2007, 09:02:27 PM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: MC555 ที่ ธันวาคม 09, 2007, 07:29:45 AM
ขอบคุณครับสำหรับเรื่องที่ควรรู้ที่สุดจริงๆครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: coda ที่ ธันวาคม 09, 2007, 08:56:07 AM
...ขอบคุณครับ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: e_nunong ที่ ธันวาคม 09, 2007, 09:59:56 AM
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ


หัวข้อ: Re: เรื่องที่ควรรู้ที่สุดในชีวิต
เริ่มหัวข้อโดย: I'm sam ที่ ธันวาคม 11, 2007, 02:56:58 PM
ขอบคุณครับ และขอเซฟเก็บไว้ด้วยนะครับ