เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

น่าจะมีโครงการอาวุธปืนเพื่อประชาชนบ้างนะครับ..แล้วก็ระบุว่าห้ามโอนหรือจำหน่ายให้แก่ข้าราชการยกเว้นตกทอดมรดก.. ::001:: ::001:: ::001::มันเซ็งแทนประชาชนธรรมดานะครับ

อย่าคิด  อย่าฝัน   อย่าหวัง   มันเป็นไปไม่ได้ครับ....... :~) :~) :~)

 


                                    ;D ;D ;D ;D ;D

                     

บ๊ะ..คิดได้ไง ::007:: ::007:: ::007::

ขออนุญาตครับ

ข้าราชการมันไม่ใช่ประชาชนตรงใหนครับ  ???

แล้วอีกอย่าง ข้าราชการที่ท่านว่า สิทธิ์เหนือประชาชนนั่นน่ะ  มีข้อเสียมากมาย..

-  ซอง ... ใส่ร้อยสองร้อยไม่ได้ เสีย.. อย่างต่ำ ห้าร้อย  รักษาหน้าไว้ เดี๋ยวเสียหน้า..

-  คนที่เราไม่อยากค้ำประกันอะไรให้เลย มาขอให้ค้ำโน่นค้ำนี่(หนี้) พอไม่ให้ หาว่าเราภูมิ ลำพอง ฯลฯ

-  ไม่ใช่นึกอยากจะทำอะไรก็ได้ตามใจนะครับ  ลงข่าวขึ้นมา ชื่อ,ยศ,หน่วยงานของเรา หราอยู่หน้าข่าว...

-  หมดสิทธิ์เป็นเจ้านายตัวเอง ไม่มีข้าราชการคนไหน ไม่มีเจ้านาย ไม่ใช่แค่หนึ่งนะครับ อย่างของผมนี่ เป็นร้อย...

-  แหล่งเงินกู้ ล่อใจ มากมาย อนุมัติง่าย  หลัง ๆ ดูตัวเลขเงินเดือนตัวเองแล้วเริ่มงงครับ เงินเดือนใครวะเนี่ย ..

-  ปืนสวัสดิการ ได้มาราคาถูก เหอ เหอ...ถูก  วัดดวงน่าดู  ถูกกว่าไปสองหมื่นสามหมื่น แต่ ลุ้นเกือบตาย มันจะล้มมั๊ยหนอ เราจะกลายเป็นขาหมู(ถูกต้ม)มั๊ยหนอ  รอกันนานนนน มาก พอมาแล้ว เกิดพลาด  มือกำไม่รอบด้าม  เปลี่ยนไปไหนครับ เปลี่ยนไม่ได้ ห้ามโอน

นี่เรื่องจริง เพื่อนผม ใครพูดเรื่องปืนโครงการเป็นโกรธ  กว่าปืนจะมา รอแล้วรออีก เห็นในหนัง ปืนพระเอก 92FS อยากได้มาก ทุบกระปุกเลย ไปรับปืนเสร็จไปสนามยิงปืนเลย เหงื่อออกมือมากไปหรือนิ้วสั้นไปหรือไงไม่ทราบ เปรี้ยงแรกกับกระสุนจริง ปืนหลุดมือครับ..

แล้วก็ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยน  นโยบาย สั้นหนึ่งยาวหนึ่ง กับ นโยบายห้ามซ้ำขนาด ก็ยังคงหลอกหลอนอยู่  จะสู้เพื่อความถูกต้องเหรอ....

เจ้านาย กับนายทะเบียน ดันรู้จักกัน  สู้ไปก็เสี่ยงอนาคต.. เอาสิ เจอสถานการณ์อย่างนี้ อยากได้ปืนโครงการเพื่อข้าราชการอีกมั๊ย..

ยาวไปนิดขออภัย ด้วยความเคารพครับ

ผมเลิกซื้อแล้วครับ ปืนสวัสดิการ  เบื่อ ก็ขายต่อไม่ได้ .. กว่าจะขอได้  เกือบเป็นชาติ ....ไม่ต้องอิจฉาเลยครับพี่น้อง.... ::007::

 ถ้าราคา ปืนชาวบ้าน ไม่โดดไปไกลขนาดนี้ ราคาปืนสวัสดิการ

กับราคาปืนชาวบ้านก็คงไม่มีความแตกต่างกันมากนักหรอกครับ   ;D ;D

เข้าใจคิดครับพี่ ::002::

ผมเคยตอบกระทู้นึงไว้นานแล้วครับ เรื่องสวัสดิการราษฎรธรรมดา ๆ  แต่ซื้อปืนได้ในราคาพาณิชย์ทั่วไปนะครับไม่ใช่ว่าซื้อได้ถูกเหมือนสวัสดิการเค้า  ผมใช้วิธีกู้สินเชื่อจาก.....แล้วไปเลือกซื้อปืนเอาเลยได้ชัวร์  ผ่อนแบบสบาย ๆ 12 เดือนมั่ง   18 เดือนมั่ง  เงินสดมีใช่ว่าไม่มีแต่เอาเงินสดไปค้าขายทำกำไรได้มากกว่าดอกเบี้ยที่เสียไปดีกว่า  ผ่อนมาแล้ว 3 กระบอกครับ  ท่านใดจะใช้วิธีนี้ก็ได้ครับไม่หวง(วางแผนการใช้จ่ายให้ดี)...

อย่าไปลงข้าราชการเลยครับ ราคาแบบนี้ต้องโทษร้านปืนอย่างเดียว

 ;D...ชอบความคิดครับ... ;D

ขออนุญาตครับ  ปืนเพื่อสวัดดิการ ก็ดีครับ สำหรับข้าราชการ และหากมีปืนที่ให้ประชาชนทั่วไปซื้อ ข้าราชการ ที่ดูแลอยู่ก็ควรมาดูแล อย่าให้ ประชาชนทั่วไปโดยเอาเปรียบมาก น่าจะดีครับ

ความคิดนี้ แม้ในทางปฎิบติ จะไม่มีทางเป็นไปได้อย่างสิ้นเชิง ..  แต่
ก็มีทางสนับสนุนเป็นทางอ้อมได้เช่นกัน..

วางแนวระเบียบปฎิบัติใหม่ ยกเลิก ปืนสวัสดิการ ที่ต้องตายก่อนจึงจะตกทอดทางมรดก
เป็น ห้ามไว้ไม่เกิน ๕ ปี เหมือนเช่นเคยปฎิบัติมาก่อนปี ๒๕๓๘ ..  ก็เป็นพระคุณอย่างสูง..
เหมือนช่วยกันแล้วครับ.     ::002::

ส่วนเรื่องปืนสวัดิการแก่ประชาชน เลิกคิดได้ครับ กฎหมายไม่เปิดช่องให้กระทำได้ ..  :OO

 :VOV:

 ;) อืมมมมมมมมม...ผมอ่านหน้านี้แล้วรู้สึกดีครับ ได้ความคิดเห็นที่เป็นจริงทั้งสองฝั่ง เข้าตำราคนในอยากออก คนนอกอยากเข้าครับ เอ...หรือว่าคนมีเมียแล้วกับคนที่อยากมีเมียดี  ::005:: ::005:: ::005::

ผมไม่มีวาสนา....
ได้แต่ปลอบใจตัวเองว่า .... เอาเถอะ...ปืนผมยังมีโอกาสได้ยกให้ลูกตอนผมยังเป็นๆ  :~) :~)

ผมมองเรื่องปืนสวัสดิการข้าราชการเป็นเรื่องของการตลาดและผลประโยชน์แอบแฝง โดยเอาข้าราชการบังหน้า
ถ้าตลาดเริ่มฝืด ก็ต้องออกแคมเปญใหม่ ... เช่น มีทางออกการขาย-โอน ไม่ต้องอยู่เพียงเงื่อนไขเป็นมรดกเท่านั้น
เพียงแต่ต้องคุม ไม่ให้สินค้าข้ามตลาดกัน ไม่งั้นระบบ-กลไกจะรวน ควบคุมยาก ..... คอยดูไปก็แล้วกัน  :DD

แต่ตลาดปืนทั่วไปของประชาชน จะไม่มีโอกาสมีสวัสดิการแน่นอน เพราะต้องเป็นฐานอ้างอิงเปรียบเทียบ
ส่งเสริมการขายให้กับปืนสวัสดิการข้าราชการ (และสวัสดิการปืนประชาชนผู้อยู่ในอาณัติราชการ-ต่อไป)

ถ้าปล่อยให้ตลาดเป็นตลาดกึ่งเสรี กลไกตลาดปกติ ...ไฉนเลยจะทำราคาสินค้าและผลตอบแทนโครงการแฮ้ปปี้อู้ฟู่ได้ถึงเพียงนี้ ...
....โอ .... ได้ทั้งเงินทั้งกล่อง....นายแน่มากเลยนะจอร์จ..... ::008::

ถ้ามีได้ก็ดี แต่คงยากสำหรับบ้านเรา ใครบอกว่าบ้านเราสิทธิเท่าเทียม
คนจนไม่มีสิทธิมีปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
โจรหาอาวุธเถื่อนได้ง่ายดาย
คนพอมีพอกินที่พอซื้อปืนได้ก็ต้องซื้อที่ราคาแพงสุดสุด

เป็นข้าราชการมันผิดตรงไหน  ??? ???

มันไม่ได้มีแค่ปืนหรอกครับ  อย่างอื่นก็มี  ทำไมว่ากันแต่เรื่องปืน 

เชฟโลเลต โคโลราโด/ออฟตร้า  ก็เพิ่งมีสวัสดิการข้าราชการ

ทำประกันต่างๆ ก็มีราคาสวัสดิการข้าราชการ

บ้าน สำหรับข้าราชการก็มี

ครั้งนึง จยย. ฮอนด้า ดรีม  ก็มีสวัสดิการครู  ขี่กันเกลื่อนเมือง 

ไม่เห็นมีใครเรียกร้องเรื่องความไม่เท่าเทียมเลยนิ

ฯลฯ

ข้าราชการเงินเดือนน้อย  ลำพังซื้อสบู่สักก้อน ยังต้องรอสิ้นเดือน  ก็เลยมีโครงการสวัสดิการต่างๆออกมาเพื่อช่วยเหลือ   (ไม่นับพวกระดับสูงๆ)

ทำไมต้องว่ากระแทกแดกดันกันด้วย  ???

ผมก็เป็นข้าราชการคนหนึ่ง ไม่เคยซื้อปืนสวัสดิการ ที่มีอยู่ก็ซื้อตามปกติ จ่ายตามปกติที่ไม่ปกติ ( ไม่มียกเว้น 555 ) เพียงแต่ซื้อไว้นานแล้ว ซึ่งตอนนั้นราคาไม่แตกต่างกันมากนัก และโครงการปืนสวัสดิการ มักมีปัญหาบ่อยๆ ทั้งตัวปืนและโครงการล้ม
  สวัสดิการต่างๆ มีเพื่อช่วยเหลือข้าราชการ ซึ่งมีฐานรายได้น้อยกว่าภาคเอกชน แทนที่จะเก็บเงินสด ซึ่งนานมาก และไม่ทันการณ์ ให้สามารถมีได้ทันความต้องการ 
******** เห็นสมควรปิดกระทู้นี้ เนื่องจาก อาจทำให้เกิดความแตกแยกได้*************

มันเป็นสิ่งที่ไกลเกินฝันครับ..... ::013::

ข้าราชการมาตอบเอง ฟังแล้วกี่ไม่ง่ายเลยนะครับ แรกๆก็อิจฉา ซื้อปืนได้ถูก แต่ยังไงๆก็ยังอิจฉาอยู่ดี อิ อิ

 :OO :OO ด้วยความเคารพ โพสที่ผ่านมา ผมยังคิดว่าเป็นความเห็นที่แตกต่างในมุมมองที่ต่างกัน แตกต่าง...แต่ไม่แตกแยกหรอกครับ  :VOV:


 :) :)

ดีครับ ระบายมาบ้าง เราเองก็ประชาชนเหมือนกัน ::008:: ::007::

ถ้ามีได้ก็ดี แต่คงยากสำหรับบ้านเรา ใครบอกว่าบ้านเราสิทธิเท่าเทียม
คนจนไม่มีสิทธิมีปืนไว้ป้องกันชีวิตและทรัพย์สิน
โจรหาอาวุธเถื่อนได้ง่ายดาย
คนพอมีพอกินที่พอซื้อปืนได้ก็ต้องซื้อที่ราคาแพงสุดสุด

เห็นด้วยอย่างยิ่ง คนดีตายเพราะปืนเถื่อน

 ::007:: ::007::  เล่นซะเห็นภาพเลยครับ  เอาไปเลย  1  แต้ม  ไม่ได้เข้ามาหาความรู้ในนี้นานแล้ว  ท่านอื่นสบายดีกันไหมครับ

อาชีพราชการมักเป็นตัวเลือกสุดท้ายของหลายๆคน  เพราะอัตราเงินเดือนที่ขึ้นต่อปีผมว่ามันห่างจากอัตราเงินเฟ้อไม่กี่เปอร์เซ็นต์  แต่บางทีมันก็แปลกที่ยังมีคนเลือกอาชีพนี้อยู่  ;D  เฮ้อ...ทำงานสิบปีเงินเดือนพึ่งจะมาตามทันเงินเดือนสุดท้ายสมัยอยู่บริษัท    แต่ก็ดีใจที่ส้มหล่นปีนี้ได้มีโอกาสซื้อปืนสวัสดิการกับเขา 1กระบอกถูกกว่าซื้อที่ร้านสองถึงสามหมื่นครับ   :VOV: :VOV: :VOV:

แต่สองสามหมื่นบาทนี้  ณ วันนี้มันคือส่วนต่างเฉลี่ยของเงินเดือนของเพื่อนผมที่เรียนมาด้วยกัน  งานศิษย์เก่าทีไร ไม่ค่อยอยากจะไปเลย  :~) :~) :~)

ผมอ่านดูก็พอเข้าใจครับว่ามีความรู้สึกอย่างไร?...........

ผมเองก็ซื้อปืนสวัสดิการมา 4 กระบอกแล้ว......................ใช้สิทธิที่หน่วยงานของผมเองจัดให้.................ผมคงไม่ผิดอะไรแน่ๆที่ใช้สิทธินี้

ถ้าข้าราชการออกมาบ่นเรื่องอื่นๆของภาคเอกชนบ้างล่ะ.......................คงคิดน้อยใจหรืออิจฉา หรือฯลฯเหมือนกัน...............

 เริ่มทำงานรับสองหมื่น.............พอไต่ระดับเงินเดือนหลักแสน ...............โบนัสเป็นแสนๆ ล้านๆ...............มีรถระดับหรูประจำตำแหน่งพร้อมค่าน้ำมัน.................ไปติดต่อธุระกิจก็เบิกค่าเอนเตอร์เทนได้เต็มๆ................ฯลฯ

มีกิจการของตัวเอง(ด้วยความเพียร).....................มีเงินหมุนเวียนในธุระกิจเดือนหนึ่งเป็นล้านๆ..................พรรคพวกมากมาย...............เป็นเจ้าของกิจการเต็มตัว เป็นนายของตัวเอง...............ฯลฯ

ซื้อปืนแพงเว่อๆ กระบอกละสองแสน(แบบที่มีอยู่) คงไม่เดือดร้อน เพราะกำลังซื้อสูง............

ผมพอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ เพราะผมเลือกทางเดินเอง...................และไม่เคยคิดอิจฉาสถานะของบุคคลที่มีอาชีพอื่นๆเลย............เพราะเขาก็เลือกทางเดินของเขา

เพราะผมคิดว่า .............. เมื่ออยู่ในสถานะไหน ก็ต้องยอมรับสถานะนั้นๆ................ถ้าผมอยากไปหมด คงต้องใช้ความทะเยอทะยานอย่างผิดมนุษย์................

ผมอ่านดูก็พอเข้าใจครับว่ามีความรู้สึกอย่างไร?...........

ผมเองก็ซื้อปืนสวัสดิการมา 4 กระบอกแล้ว......................ใช้สิทธิที่หน่วยงานของผมเองจัดให้.................ผมคงไม่ผิดอะไรแน่ๆที่ใช้สิทธินี้

ถ้าข้าราชการออกมาบ่นเรื่องอื่นๆของภาคเอกชนบ้างล่ะ.......................คงคิดน้อยใจหรืออิจฉา หรือฯลฯเหมือนกัน...............

 เริ่มทำงานรับสองหมื่น.............พอไต่ระดับเงินเดือนหลักแสน ...............โบนัสเป็นแสนๆ ล้านๆ...............มีรถระดับหรูประจำตำแหน่งพร้อมค่าน้ำมัน.................ไปติดต่อธุระกิจก็เบิกค่าเอนเตอร์เทนได้เต็มๆ................ฯลฯ

มีกิจการของตัวเอง(ด้วยความเพียร).....................มีเงินหมุนเวียนในธุระกิจเดือนหนึ่งเป็นล้านๆ..................พรรคพวกมากมาย...............เป็นเจ้าของกิจการเต็มตัว เป็นนายของตัวเอง...............ฯลฯ

ซื้อปืนแพงเว่อๆ กระบอกละสองแสน(แบบที่มีอยู่) คงไม่เดือดร้อน เพราะกำลังซื้อสูง............

ผมพอใจในสิ่งที่ตนเองเป็นอยู่ เพราะผมเลือกทางเดินเอง...................และไม่เคยคิดอิจฉาสถานะของบุคคลที่มีอาชีพอื่นๆเลย............เพราะเขาก็เลือกทางเดินของเขา

เพราะผมคิดว่า .............. เมื่ออยู่ในสถานะไหน ก็ต้องยอมรับสถานะนั้นๆ................ถ้าผมอยากไปหมด คงต้องใช้ความทะเยอทะยานอย่างผิดมนุษย์................

เห็นด้วยครับ 1 แต้มสำหรับ ผู้การมะขิ่น

(http://www.gunsandgames.com/smf/index.php?action=dlattach;attach=77418;type=avatar)
 ;D

อาชีพราชการหลายๆองค์กรกำลังกลายเป็นอดีต

รัฐบาลเอาแต่บ่นว่าขาดแคลนบุคคลากร ....... สมองไหล

ทำไงดี ......... อ้าวคุยกันเรื่องปืนเหรอ ...... แล้วกัน

ขอบคุณเสธฯมะขิ่นครับ  ::014::

ผมขออนุญาตต่อความอีกหน่อยว่า...
คำ"ประชาชน" หากกล่าวโดยรวม น่าจะต้องหมายความถึงคนส่วนใหญ่ของประเทศ ที่เป็นเกษตรกร
ไม่ใช่เฉพาะแต่ผู้มีอาชีพในภาคราชการ หรือผู้มีอาชีพในภาคธุรกิจผู้ประกอบการเอกชน

น่าเสียดายที่เขาไม่มีโอกาสได้เข้ามาสื่อสารกับเราในเวบบอร์ดแห่งนี้

ผมกล่าวแทนคนจากภาคเกษตรกรรมจากชนบทไม่ได้ แต่ผมได้เห็นได้รับรู้
ถึงความจำเป็นจากสภาพแวดล้อมที่ถูกคุกคามจากมิจฉาชีพ จากผู้มีอิทธิพล
ความจำเป็นในการใช้ปืนเพื่อการดำรงชีวิต

คงจำกันได้ถึงปืนแก๊ปที่ชาวบ้านเอามามอบให้หลวงร่วมแสนกระบอก
ปืนแก๊ปที่ติดบ้านพออุ่นใจ ปืนแก๊ปที่พอใช้หาอาหารยังชีพ ..... บัดนี้ไม่อยู่แล้ว....ถูกเอาไปสร้างผลงานจอมปลอมซะแล้ว
รัฐได้ปลดอาวุธประชาชนในชนบท ให้มิจฉาชีพ ให้ผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น ย่ำยีได้โดยสะดวก

คำหวาน...จะอนุญาตให้มีการผลิตปืนแก๊ปภายในประเทศ....ก็ยังเป็นเพียงคำหวาน
คนจนในชนบท สภาพทางเศรษฐกิจ ทำให้ไม่มีโอกาสที่จะมีปืนคุณภาพดีๆ
ยังไม่ต้องพูดถึงกระบวนการขออนุญาตฯที่เบี่ยงเบน เพราะการลุแก่อำนาจของฝ่ายปกครอง(บางที่)

ผมมองถึงปืนเพื่อการดำรงชีพและป้องกันตัวตามเรือกสวนไร่นา เช่นปืนลูกกรดยาว ปืนลูกซองยาว
เป็นสวัสดิการประชาชน ไม่ว่าจะเป็นการนำเข้า หรือขึ้นทะเบียนเปิดโรงงานผลิตในประเทศ

ส่วนปืนคัสตอม ปืนพกสั้น ก็ให้ปั่นราคา กันตามสะดวกต่อไปครับ  ::008::

 :)

   ::002:: ::002:: ::002:: ครับ

เข้าใจประชดประชันนะครับ

แล้วถ้าเพิ่มโควต้าการนำเข้า และเพิ่มใบอนุญาตร้านขายปืนหล่ะครับ
ผลจะเป็นอย่างไรบ้างครับ เอาเป็นเปิดแบบเสรีเหมือนแท๊กซี่มิเตอร์
ก็รู้กันอยู่ Demand มันเพิ่ม supply เท่าเดิม ราคามันต้องสูงอยู่แล้ว
ถ้าลองขยายsupply ดู อาจจะแก้ไขปัญหานี้ได้ครับ   :D

เรื่อง กม.ปืน หรือ เรื่อง นโยบายปืน แก้ไข หรือ เรียกร้องอะไรยากมากต้องทำใจ ปืนสำหรับส่วนใหญ่เขาบอกว่าไม่จำเป็นกันทั้งนั้น ถ้าไม่ได้มีอาชีพเกี่ยวกับ ทหาร ตำรวจ หรืออยู่ 3 จว.  บางคนอยู่มาจนแก่เกือบ 60 แล้ว ไม่มีปืนใช้ ก็ไม่เห็นเป็นอะไรแต่ถ้ามีใช้อาจตายไปแล้วก็ได้  นโยบายที่จะออกมามักจะมีแนวโน้มว่าจะลดอาวุธปืนของปชช. ลงทั้งนั้น อันนี้เป็นข้อสันนิษฐานของกระผมนะครับ

จริงๆ แล้วเจ้าของกระทู้อยากมาเป็นข้าราชการและรับเงินเดือนในอัตราอย่างพวกผมบ้างหรือเปล่าครับ  ::002::

ผมได้เลือกเส้นทางเดินชีวิตของพวกผมแล้วตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ท่านก็คงเลือกเส้นทางชีวิตของท่านเช่นกัน  พวกเราทราบล่วงหน้าว่าค่าตอบแทนของพวกเราคงจะไม่เท่ากับเอกชนอย่างแน่แท้  แต่พวกเราได้ตัดสินใจและยอมรับแล้ว คงจะบ่น(ดังๆ) ไม่ได้

สวัสดิการของแต่ละองค์กรก็มีแตกต่างกันไป  ราชการก็มีสวัสดิการหลายๆ อย่างซึ่งเอกชนบางแห่งไม่มี เช่นสามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้ในกรณีได้รับคำสั่งให้ย้ายไปปฏิบัติราชการในท้องที่อื่น เป็นต้น ซึ่งเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนในเรื่องที่อยู่อาศัยและสามารถรับฟังได้

แต่ในเรื่องของอาวุธปืนนั้น ยังไม่ชัดเจนเท่าไร สวัสดิการในลักษณะนี้ดูเหมือนว่าเป็นการให้สิทธิพิเศษแก่ข้าราชการเหนือกว่าเอกชนในการได้ซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำกว่าท้องตลาดซึ่งก็ยังมีปัญหาอีกว่า ราคาท้องตลาดที่ว่านั้นเป็นราคาเท่าใด  เพราะราคาปืนที่ขายตามร้านปืนในปัจจุบันนี้มีการบวกค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ผู้ขายต้องเสียไป(อะไรบ้างคงไม่ต้องบอก) ค่าโค้วต้าซึ่งบังคับให้สั่งปืนเข้ามาจำหน่ายได้ในจำนวนจำกัดในแต่ละปี  ซึ่งทำให้ความต้องการมากกว่าจำนวนที่สั่งเข้ามา  ตลาดจึงเป็นของผู้ขายที่สามารถกำหนดราคาได้
แต่อาวุธปืนที่จำหน่ายเป็นสวัสดิการของข้าราชการนี้ไม่อยู่ในโค้วต้าที่กำหนดดังกล่าว ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่จะบวกเข้าในราคาปืนจึงมีน้อยกว่า(แต่ก็มีเหมือนกัน) การตั้งราคาจึงทำได้ต่ำกว่า(ที่จริงก็ยังแพงอยู่)

แต่อย่าลืมว่าอาวุธปืนเหล่านี้อยู่ในเงื่อนไขที่ห้ามจำหน่าย  เว้นแต่ตกทอดทางมรดก ผู้ซื้อจึงต้องชั่งใจให้ดีว่าเมื่อเวลาขัดสน ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเงินได้ ซึ่งผู้ซื้อหลายท่านเริ่มประสบปัญหาแล้ว ซื้อมาแล้วอยากขายแต่ทำไม่ได้(ความจริงขายได้แต่ต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรีซึ่งเข้าใจว่ายากมาก)

ผมก็หลวมตัวซื้อมากระบอกหนึ่งแล้ว และคงเป็นกระบอกเดียว(ไม่มีตังค์แล้ว) และจะนำมาใช้ในการออกปฏิบัติงานตามภาระหน้าที่ ซึ่งเป็นวัตถุประสงค์ที่สำคัญของโครงการอาวุธปืนเพื่อสวัสดิการของข้าราชการ ซึ่งทุกวันนี้ถูกลดความสำคัญลงไป  กลายเป็นว่าข้าราชการทุกท่าน แม้จะมิได้มีหน้าที่โดยตรงในการรักษาความสงบเรียบร้อย หรือไม่อยู่ในพื้นที่ซึ่งมีความเสี่ยงภัย หากส่วนราชการนั้นขอเข้าร่วมโครงการ ข้าราชการผู้นั้นก็สามารถซื้ออาวุธปืนตามโครงการฯ ได้   ซึ่งมันก็แปลกๆ อยู่เหมือนกัน

จะบอกว่าข้าราชการเงินเดือนน้อย การให้โอกาสซื้ออาวุธปืนในราคาต่ำกว่าราคาตามท้องตลาดนั้นเพื่อเป็นสวัสดิการให้ข้าราชการผู้นั้น  ก็ดูไม่ค่อยดีเหมือนกัน เพราะข้าราชการย่อมทราบดีอยู่แล้วว่าตลอดอายุการรับราชการนั้นจะได้รับค่าตอบแทนเท่าใด  ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่น่าตัดสินใจเข้ารับราชการ ;D

เรามาลองคิดดูกันครับว่า หากไม่มีปืนโครงการเช่นว่านี้ จะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดอาวุธปืนบ้าง  ราคาปืนในท้องตลาดจะเท่ากับในปัจจุบันหรือแพงยิ่งกว่าในปัจจุบัน เพราะคงมีข้าราชการส่วนหนึ่งที่คงมีกำลังที่จะซื้อปืนในราคาสูงอยู่บ้างเหมือนกัน  คงต้องไปซื้อแข่งกับท่าน  และที่สำคัญ เจ้าหน้าที่ซึ่งมีภาระต้องรักษาความสงบเรียบร้อยจะมีอาวุธที่ไหนใช้กัน เพราะปืนหลวงมีจำกัด   คงมีประเทศไทยประเทศเดียวกระมังครับที่ให้เจ้าหน้าที่ต้องออกตังค์ซื้อปืนเพื่อใช้ในการปฏิบัติหน้าที่   ผมเคยไปราชการที่ต่างประเทศ(ยุโรป)  เจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศนั้นๆ ใช้ปืนรุ่นและขนาดเดียวกันทั้งหมด   ถ้าเจ้าหน้าที่ไม่มีอาวุธ แล้วความสงบเรียบร้อยของประเทศจะเป็นอย่างไร

ลองคิดเล่นๆ ดูครับ ;D

น้องโมโน น่ารักครับ เคารพอ่อนน้อม ;D ;D ;D

ประชาชนธรรมดาต้องทำใจ มีเงินซื้อเงินสดเอาเองดีกว่าอย่าไปรอปืนโครงการเลย  แค่เขาให้ ป3 ป.4ก็บุญเท่าไหร่แล้ว(กว่าจะได้มาเลือดตาแทบกระเด้น)  ประชาชนธรรมดาถ้าเราไม่มีเงินก็ใช้อนุญาตเท้า(วิ่ง ทิ้งปืน)ไปพรางๆ แต่ไม่สนับสนุนเท่าไหร่นะครับ

นานาความคิดเห็น ไม่รู้จะสรุปอย่างไร ::004:: ::004:: ::004::

ไม่ตัองโครงการอาวุธปืนเพื่อประชาชนของแค่โครงการนายทะเบียนเพื่อประชาชนก็พอแล้ว ::014::

  คม..ครับ +ให้ 1 แต้ม

บวกให้อีกหนึ่ง... ::002::

ข้าราชการรายได้น้อยกว่าเอกชนมากครับ
ผมรับราชการมาเกือบสามปี เงินเดือนแค่ 12k
เพื่อนรุ่นเดียวกับผมหลายคนที่ลาออกไปอยู่เอกชน ไม่มีใครได้น้อยกว่าเดือนละ 120k ครับ
ถ้าผมอยู่เอกชน ผมจะไม่สนใจเลยถ้าจะต้องซื้อปืนกระบอกละเหยียบแสน ทำงานไม่ถึงเดือนก็ได้แล้ว
นี่ขนาดสวัสดิการ ราคา 30-50k ข้าราชการหลายๆ คนยังต้องผ่อนเอาเลยครับ แถมยังโอนไม่ได้เอีกด้วย
ผมว่าทุกทางเดินทั้งราชการและเอกชนมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ไม่มีใครได้ทั้งหมดทุกอย่าง และไม่มีใครเสียทั้งหมดทุกอย่างเช่นกัน
ขอบคุณครับ

เรื่องของเงินเดือนนี่ ประชาชนไม่ได้รับเงินเดือนหลักหมื่นหลักแสนกันทุกคนเหมือนที่กล่าวอ้างกันนะครับ ถ้าเป็นจริงบ้านเราคงไม่มีคนจน ซึ่งพวกเค้าก็ควรจะมีโอกาสซื้อปืนราคาสวัสดิการเพื่อป้องกันตัวในฐานะผู้เสียภาษีเพื่อเป็นเงินเดือนให้ข้าราชการครับ

ผมว่า
 ถ้าคุณคิดว่าข้าราชการมันไม่ดี   เอาเปรียบประระชาชน(เช่นคุณ จขกท.)
ยกเลิกระบบราชการซะเลยดีไหม???
 ครู อาจารย์  ตำรวจ  ทหาร  ก็จ้างเอกชนมารับงานพวกนี้แทน  คุณ  เอาไหม ล่ะ
สังคมไทยก็เป็นแบบนี้ เมื่อ  ยามสงบ ว่างเว้นจากศึกสงคราม  ก็มาคิดอิจฉากันเองเป็นมาแต่โบราณแล้ว
ผู้บริหารประเทศรวย(เพราะเขาทำมาหากิน) กลับมามองตัวเอง  เฮ้ย ทำไมตูจน ว่ะ(เพราขี้เกียจหรือไม่ก็ขยันแต่โง่) มันโกงแน่ๆ ถึงไม่มีกฎหมายใดไปเล่นงานเขา  ก็เอากฎหมู่ไปขับไล่เขาออก  มีคนเช่นคุณมากๆ ผมว่าเมืองไทยไปไม่รอด

อาวุธปืนสวัสดิการถ้ามองในแง่บวกผมว่าเป็นผลดีมากกว่าผลเสีย อย่างน้อยที่สุดก็ช่วยลดดีมานด์ในตลาดปืนลง แต่ถ้าให้จำหน่ายจ่ายโอนได้จะช่วยได้อีกเยอะเลย ;D

 ::012::ประเทศไทยแปลกมากประชาชนเสียภาษีเป็นชนชั้น 2เพราะซื้อปืนแพงมาก แต่ข้าราชการรับเงินเดื่อนจากภาษีของประชาชนกลับได้ชนชั้น1ซื้อปืนราคาถูกกว่าแถมไม่ต้องเสียภาษี :~)
ควรนำเรื่องฟ้องศาลปกครองกลาง

1/ ข้าราชการก็เสียภาษี เป็นประชาชนคนหนึ่งเหมือนกัน
2/ ปืนตามโครงการสวัสดิการ ก็เสียภาษีครับ
3/ ปืนตลาดทั่วไปร้านปืนตั้งราคาสูงมากไปก็ไม่ควรซื้อ ไม่มีคนซื้อก็ต้องลดราคาเองครับ
4/ ส่วนที่บอกควรฟ้อง......จะฟ้องใคร-ด้วยเรื่องไหน-ประเด็นใด ครับ  :)

พี่ธำรงตอบชัดเจนทั้ง 3 ข้อครับ

ผมให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า 

ท้องตลาดปี  42    G19   ราคาประมาณ 38000-42000   ค่าเงินบาทประมาณ 45 บาทต่อดอลลาร์
               ปี  50    G19               ราคา 68000-72000   ค่าเงินบาทอยู่ที่ 33-35 บาทต่อดอลลาร์

ราคาปืนแพงไม่ควรตำหนิข้าราชการ ควรตำหนิร้านปืน ที่เพิ่มราคาโดยไม่มีเหตุผล

 

เรื่องแบบนี้อย่าเก็บมาใส่ใจดีกว่าครับ

เสียความรู้สึกไม่เกิดประโยชน์   วันดีคืนดีเสียเพื่อนอีกต่างหาก

มันแล้วแต่ว่าโอกาสอยู่กับใครก็เท่านั้นเอง


ไม่ต้องปืนหรอกครับ ลองดูตัวอย่างอื่นนะครับ

1.ซื้อเครื่องเสียงเมื่อตอนต้นปีราคาหนึ่งหมื่นห้าพันบาทถ้วน
พอปลายปีลดราคาเหลือแปดพันบาทกว่า   
( คุณจะโกรธใครครับร้านที่ลดราคาหรือคนที่มาซื้อทีหลังคุณ )

2.ซื้อองุ่นที่ห้างชื่อดัง กิโลกรัมละร้อยกว่าๆ พอตอนสองทุ่ม มันเปลี่ยนป้ายเหลือกิโลกรัมละ 90 บาท
( เช่นกันคุณจะโกรธใครครับ )

3.มีเพื่อนคนหนึ่งค่อนข้างสนิท   มาหาที่บ้านสายๆวันอาทิตย์ แล้วก็พูดว่า
“เราได้ปืนมาแล้ว  ราคาสามหมื่นกว่าๆเอง  ยี่ห้อนี้ที่ร้านกรุงเทพขายตั้งเจ็ดหมื่นนะเฟ้ย”
( เหมือนเดิม  คุณจะโกรธเพื่อนคุณหรือรู้สึกไม่ดีกับเพื่อนคุณไหมครับ  หรือเลิกคบกันไปเลย )


...........ที่ผมยกตัวอย่างมา ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง........................