เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สวัสดีครับ เป็นสมาชิกใหม่ครับ มีเรื่องรบกวนถามเพื่อนๆ หน่อยครับ
            เนื่องจากหลานแฟนเป็นทหาร ได้แนะนำให้ซื้อปืน และเอาปืนมาให้ดูกระบอกหนึ่งเป็นปืน 1911 A1 เดิมๆของเรมิงตัน รมเขียว สภาพแน่นเขย่าไม่มีเสียงคลอน เหมือนไม่เคยยิงเลย ใจจริงชอบปืนรุ่นใหม่อย่าง กล็อกกับคิมเบอร์มากกว่า แถมยังดักคอเราอีกว่าถ้าจะแต่งปืนจะขอซื้อคืนเพราะเห็นผมบ่นเรื่องศูนย์เล็งมันเล็กแคบ เล็งยาก มันให้เหตูผลว่าปืนเดิมๆ ราคาดีกว่า ให้ใส่ไกร็อคกับแม็กสแตนเลสก็พอแล้ว  คุยกันไปมา เลยมีข้อสงสัยมาถาม
1.มัน(หลานแฟน)บอกว่า ใช้ไป ยิงไปเถอะ จนถึงรุ่นลูก รุ่นหลาน นั้นละ เชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหนครับ ดูจากอายุปืนแล้วเกือบ 70 ปี(1943-1945) กลัวปืนมันแตกคามือ
2.มันบอกอีกว่า ปืนทหาร us army เหล็กดีกว่า ทนกว่า ปืนที่ผลิตเชิงพานิช จริงเปล่าครับ เพราะตอนแรก คิดว่าน่าจะผลิตเหมือนๆกัน แต่เท่าที่จับมา ปืนทหารมันจะหนักกว่าหน่อย
3.ใต้หลังอ่อน จะทำเป็นนูนๆโค้งๆมีหนามเตย แต่ปืน1911รู่นใหม่ๆจะทำเป็นหลังตรง อย่างใหนดีกว่ากันครับ
4.ลองปืนโดยยิงลูกจริงของไทยอาร์ม เก็บปลอกมาดู ปากปลอกจะเบี้ยวทุกนัด มันบอกว่าปืนใหม่คัดปลอกดี จริงหรือเปล่าครับ ถ้ามันคัดปลอกดีมันไม่น่าเบี้ยวนาในความคิดผม
5.ตอนยิงลูกจริงของไทยอาร์ม เจ็บแก้วหูซ้ายมากทนไม่ไหวเลย ทั้งๆที่เคยยิงลูกบูลเล็ตเป็นกล่อง(ปืนคนอื่น) แค่หูอือเท่านั้น ไงลูกไทยอาร์มมันดังจัง และไงมันเจ็บหูซ้าย น่าจะเจ็บหูข้างขวามากกว่าเพราะปืนอยู่ใกล้กว่า มีใครเป็นอาการอย่างนี้บ้างครับ
          พอศึกษาเพิ่มเติมโดย ซื้อหนังสือปืน1911มาอ่าน และเข้ามาอ่านในเวป ยิ่งทำให้ไม่กล้าใช้(อยากเก็บไว้ดูมากว่า)  อาจจะไปซื้อปืนใหม่ๆมาใช้งานแทน คราวหน้าจะเอารูปมาให้ดูครับ เพราะยังสงสัยอักษร และประวัติของมันอีกครับ

ถ้าจะเอาไว้ใช้งานป้องกันตัว แข่งขันบ้าง
ก็เอากล๊อคหรือคิมเบอร์เถอะครับ
เรมิงตันสภาพนี้ส่วนใหญ่จะซื้อเก็บไว้ในสภาพเดิมๆเพื่อสะสม+ความสุขทางใจมากกว่า
เรื่องประวัติความเป็นมา คงต้องรอสมาชิกท่านอื่นมาให้ความรู้ครับ :)

อยากได้ ก็ซื้อครับ
ก็ถ้าอายุยาว ๗๐ ปี คิดว่าผ่านมากี่รุ่นครับ
เรื่องหลังตรง หลังโค้ง แล้วแต่การจับถือ  แต่ผม ชอบโค้ง มันรับกับอุ้งมือดีครับ
ปากปลอกเบี้ยว แก้ไขได้ครับ   ปาดช่องคายปลอกให้กว้าง-ลึก อีกหน่อย  หาย...
ลองตั้งในหน้าซื้อ-ขายสิครับ....

    (http://img216.imageshack.us/img216/807/25189128yq6.gif)                               (http://img218.imageshack.us/img218/909/chairfr2.gif)

 ;D ;D 

(http://img84.imageshack.us/img84/4236/p61322937iz0.gif)

เอาภาพปืนมาให้ชมกันครับ

ยินดีด้วยครับ ส่วนความรู้1911 รอท่านอื่นมาแนะนำครับ

ยินดีต้อนรับสู่บ้านหลังใหญ่ครับ

ซักพักจะมีพี่ ๆ ที่มีความรู้แน่น ๆ มาเฉลยให้ฟังครับ.... :VOV:

ของดีอยู่ในมือแล้ว ;Dปรับตัวให้เข้ากับปืนดีที่สุด ;Dซื้อยี่ห้ออื่นก็แพงกว่านี้ ;D

มาร่วมต้อนรับด้วยคนจ้า สงสัยอะไรเดี๋ยวก็จะมีท่านผู้รู้มาบอกให้เองส่วนผมมาขอร่วมฟังเฉยๆ

อีกด้าน

              กลัวปืนแตกหรือครับ ถ้าไม่มีอะไรไปอุดหรือติดอยู่ในลำกล้อง ไม่ทางหรอกครับ ลูกที่อัดขายตามท้องตลาดคงไม่ทำให้แตกง่ายๆ ยกเว้นอุตริอัดเองเกินเหตุเพื่อหวังผล

แรงๆ ผมเองเห็นว่าใครก็รักทุกคนส่องแล้วส่องอีก เก็บปืนก็ทนุถนอมอย่างดี ต้องตรวจลำกล้องดูเป็นประจำ คงไม่มีใครปล่อยให้สนิมจับง่ายๆ จนยิงลำกล้องแตกหรอกครับ ยิ่งคนที่

ผ่านอบรมยิงปืนด้วยต้องตรวจปืนทุกครั้งก่อนทำการยิง แต่ที่ว่าปืนทหารดีกว่าปืนพานิชย์นั้น ก็เท่ากันครับ ยิ่งปืนในระหว่างสงครามโลกไม่ละเอียดเท่าเพราะต้องเร่งผลิตให้ทันการ

ทำการรบมักจะละเลยการเก็บรายละเอียดให้เรียบร้อยไป ปืนเชิงพานิชย์ที่ผลิตหลังสงครามมีเวลาการผลิตจึงไม่เร่งรีบ จึงมีการเก็บรายละเอียดภายนอกให้สวยงามที่จะให้ขายได้

ทีคนเรานิยม U.S.ARMY ก็เพราะมีประวัติผ่านสงครามมาทำให้ขลัง ผ่านเวลามายาวนานผลิตมานานเลยกลายเป็นของหายาก เหมือนพระสมเด็จวัดระฆังมีจำนวนน้อย ไม่ใครสร้าง

ขึ้นอีก เพราะผ่านกาลเวลามานานแล้ว จึงหายาก เหมือนกันกับปืน แต่ก็มีปืนพานิชย์ที่ผลิตขึ้นใหม่เยอะ ขึ้นอยู่กับท่านเองจะชอบแบบไหน รุ่นไหน ยี่ห้อไหน วัสดุอย่างไร
             
              แล้วเหตุไฉนท่านถึงยิงปืนแล้วไม่อุดหู ผมคนนึงที่เคยทำสองสามครั้งที่เริ่มหัดยิง สุดท้ายได้รับการอบรมจากครูฝึกให้ใส่ที่กันเสียงซะมันทำอันตรายต่อแก้วหูของท่าน

ได้ แล้วอีกอย่างขอเตือนครับให้สวมแว่นตาด้วยกันดวงอันมีค่าของท่านไว้ เดี๋ยวจะไม่มีใช้ โคลท์ดีดปลอกมาข้างหลัง ลงหัวบ้าง ใส่อกเสื้อบ้าง ถ้ากระเด็นเข้าตาท่านจะรู้สึกอย่าง

ไรเมื่อปลอกกระสุนมันร้อนขนาดทำให้มือพองได้
             
              ปืนที่เก็บไว้นานสปริงต่างๆอาจ ล้า เสื่อมก็จะทำให้มีปัญหาขัดลำกล้องคาบปากได้ อาจขบกับบริเวณรังเพลิงจนปลอกเป็นรอย แล้วลูกจริงกับลูกซ้อมแรงผลักดันที่เกิด

จาการเผาไหม้ดินปืนไม่เท่ากัน น้ำหนักหัวกระสุนก็ไม่เท่ากัน ก็อาจมีปัญหาตามที่ท่านพบมาก็ได้ ครับ

ปืนสภาพสี ใหม่สวยเหมือนออกจากโรงงานเลย  ถ้าไม่ได้ทำสีใหม่ ถือว่าเป็นของหายาก สภาพดีสุดๆครับ  ราคาขายต่อให้นักสะสมพอที่จะหาปืนรุ่นใหม่ดีๆ แม่นๆ ระดับค่อนข้างดีได้เลย อยู่ที่ว่า  อยากได้ปืนไปใช้ หรืออยากได้ปืนไปโชว์ครับ

เก็บไว้เลยครับ ไม่ต้องคิดอะไรทั้งนั้น

ผมว่าน่าจะเป็น Hurry Up นะครับ

ปืนสภาพเดิมๆ ควรรักษาไว้สภาพเดิมๆ ได้คุณค่า อย่านำไปแต่งเลยครับ

ยิงได้ไม่ขัดลำ เป็นเชื่อถือได้ เพียงพอแล้วครับ

ลองค้นกระทู้เก่าๆอ่านดูก่อนครับ 1911 เป็นตำนาน มีพูดถึงกันแทบทุกหน้า

คุณ  rockguns แนะนำไว้ดีแล้ว ครับ. และควรรีบทำตาม
ที่คุณ1911&FISHING บอกเลยครับ ..  ::002::
(ที่ คุณ khom ขอแก้ไขคำให้ ก็น่าจะเป็นความหมายเดียวกัน น่าจะใช้ได้ทั้งสองคำ ครับ   ) 

และหลานแฟน จขกท.ก็แนะนำดีอย่างคนที่มีความรู้ ด้วย
คุณพบช้างเผือกในป่าเข้าโดยไม่รู้ตัว..

๑๙๑๑ ผลิตในระหว่างสงคราม โดยแยกกันไปผลิต หลายบริษัท
ในแบบและมาตรฐาน ของกองทัพฯ เมกา  ก็จริง..

ในแต่ละบริษัท ต่างก็แข่งขันกันเอง.. ให้ปืนของตนให้ออกมาตามจำนวนที่สั่งผลิต และให้ได้ดีที่สุด
เพื่อนำไปลงสนามจริง หากมีกระบอกของบริษัทใด บกพร่อง .. มันจะพาลเสียชื่อเสียงอย่างมากด้วย

ปืนทุกกระบอกควรต้องผ่านการดูแลรักษา..ก่อนนำออกสนาม.. 
ควรต้องหยอดน้ำมัน ทำความสะอาด

และ ปืนกระบอกนี้ ยิง และใช้งานได้อย่างดี สมเป็น ๑๙๑๑ a ๑
ปืนที่คุณอยากจะซื้อใหม่นั้น สามารถซื้อได้ไม่ยาก 
เท่ากระบอกที่หลานแฟนคุณนำมาบอกขายนี้หรอกครับ
และคุณค่า ก็ต่างกันลิบลับ     ::002::

อาการ " เก็บปลอกมาดู ปากปลอกจะเบี้ยวทุกนัด มันบอกว่าปืนใหม่" ของผม เจอ ครูสังเวียน หายเป็นปลิดทิ้ง  ;D ;D ;D

ด้วยความเคารพครับ ::014::
ปืนสภาพยังดีมากครับควรดูแลบำรุงรักษาไว้สภาพเดิมๆ หรือจะนำมาซ้อมยิงเป็นครั้งคราวก็ดีครับ
หายากแล้วครับ หากเก็บสะสมก็เป็นการดี ..สุขทางใจอีกแบบหนึ่งครับ

นานๆ ครั้ง จะมีคนโชคดีเหมือนคุณ เดินไปเจอของดีโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะมันดันเป็นหลานแฟน ผิดกับคนบางคน
รัก คิดถึง ต้องการ 1911 เอ1 แท้ๆ ซักกระบอก ต้องเที่ยวค้นหา ตามหา พลิกฟ้า ข้ามแผ่นดิน ไปตามหา ตามง้อขอซื้อแบบหน้าด้านๆ ก็ยังมี  ดูซีครับว่าเขาหากันลำบากขนาดไหน ท่านเดินไปเจอขอดีแบบฟลุ๊กเข้าแล้ว ถือว่าเป็นโชคเหมือนถูกล็อตเตอรี่ก็ว่าได้(จริงๆ)นะ
ล็อตเตอรี่ ท่านยังไม่ตายเสียก่อน มันมีให้ซื้อทุกงวด จนกว่าท่านจะตายไปจากโลกนี้
แต่ปืน1911 เอ1 ที่เขียนว่า ยูไนเต็ทสเตท พร้อพเพอร์ตี้นั้น  ท่านทราบหรือไม่ว่า กว่ามันจะมาตกอยู่ในภูมิภาคแห่งนี้ อย่างจำนวนมหาศาล   มันมาได้อย่างไร เอานิยายปรำปรา ไปแล้วกัน จะได้รู้ว่ามันมีค่าขนาดไหน
1.ประวัติการเกิดของมัน
ปืนเหล่านี้ เกิดมาเพราะ เอ็ม 1911 เอ1 ที่ใช้ในสงครามโลกครั้งที่สอง นั้น ลำพังโคลท์ ผลิตไม่ทันแน่นอน กองทัพสหรัฐ จึงสั่งให้เรมิงตัน ช่วยผลิตเข้าสู่สงคราม   แค่ประวัติสูติบัตรการเกิด ก็หรูสุดๆ แล้วครับ เขา กำเนิดขึ้นมา ตามชะตาสงครามลิขิต   ลิขิตให้เกิดขึ้นมาเพื่อ เข้าร่วมสงครามยุโรป ขับไล่เยอรมัน  ลิขิตให้เกิดขึ้นมาเพื่อเข้าร่วมสงครามมหาเอเซียบูรพา  ขับไล่โกโบริ ที่ไม่ข่มขืนหญิงไทย แต่ข่มขืนหญิงชาติอื่นทั้งเอเซียตะวันออกเฉียงใต้

เห็นไหมครับ แค่ประวัติการเกิด ก็กินขาดแล้ว ไม่เหมือนปืนอื่นๆ ที่ผลิตมาเพื่อกำไรในทางการค้า...ขลังไหมละครับ

2.ประวัติการเดินทางมาสู่ภูมิภาคของสยามประเทศ
คิดดูซีครับ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ถ้าประเทศไทยไม่มีขบวนการเสรีไทย  ที่ต่อต้านโกโบริแบบใต้ดินละก็
ไฉนเลย ปืนเหล่านี้ จะเดินทางมาสู่สยามประเทศ
ก็เป็นเพราะสยามประเทศ ต่อต้านญี่ปุ่นแบบลับๆ นั่นเอง ลุงแซมท่านเลยส่งอาวุธมาช่วย 1911 เอ1 ถือเป็นอาวุธมาตรฐานชนิดหนึ่งที่ คาวบอย ส่งมาช่วย สยาม  ดังนั้น ทันทีที่ไทยประกาศตัวเป็นเสรีไทยต่อต้านญี่ปุ่น ผมว่า
1911 เอ1 ก็คงเริ่มทยอย เข้าสยาม ...นับแต่บัดนั้น  แต่จำนวน  ก็คงไม่มากนักหรอก เพราะมาแบบสนับสนุน

แค่ประวัติการเดินทางมาเหยี่ยบประเทศสยามครั้งแรก ก็เกี่ยวพันกับชีวิตความเป็นความตายของบรรพบุรุษผู้รักชาติไทยแล้วครับ ......ถ้ามีไว้ในครอบครองละก็ภูมิใจไว้เถอะครับ
ขอส่งซักทีหนึ่งก่อน

 :D~ของดี+งามอีกต่างหาก ;D

3.มันเดินทางมาประเทศไทยราวกับพายุ ก็เพราะการเมืองการปกครองแท้ๆ
ถ้าไม่เกิดสงครามเวียตนาม แล้วแผ่ขยายสงครามเข้ามาในลาว  แล้วก็ทะลักเข้ามาในกัมพูชาแล้วละก็ รับรองว่า 1911 ในบ้านเรา คงไม่มากมายเหมือนทุกวันนี้ ผมเคยเจอฝรั่งอิตาลี บ้าอเมริกัน ยังมาควานหา 1911 ในเมืองไทยเลยครับ
เพราะบ้านเขา คงไม่มีเหมื่อนบ้านเรา
ในช่วงสงครามเวียตนาม ราวๆ ปี 2506-2514 โดยประมาณ (ผมจำไม่ค่อยแม่น เอาประมาณแล้วกัน)
มีตำนานที่มาของ 1911 ปืนข้างเอว ทหารอเมริกัน ที่เข้ามาในเมืองไทย ให้เล่าขานให้ฟังกันจนไม่หวาดไม่ไหว
เช่น การที่พวกจีไอ กินเหล้าจนตังค์หมด แล้วควักออกมาแลกเหล้ากิน ก็มีอยู่ดาษดื่น ...ไม่รู้จริงเท็จประการใด เพราะตอนนั้น ยังเด็กอยู่เลยครับ ........
แต่ก็เป็นตำนานที่น่าเชื่ออยู่เหมือนกัน เพราะตามพื้นที่ที่ ทหารจีไอ ไปตั้งฐานทัพอยู่นั้น มี 1911 สภาพสวย ตกอยู่ในพื้นที่มากมาย
ขอยืนยันได้เลยว่า ที่ ตาคลี -หรือ ตากฟ้า ผมไม่แน่ใจ  มีฐานอเมริกันอยู่แน่นอน แล้วก็แน่นอน ในเวปนี้ก็มีหลักฐานว่า คนอยู่แถวนั้น ได้ 1911 สภาพสวยๆ หลายคน
 ขอยืนยันได้อีกว่า  ที่ สนามบินอู่ตะเภา ซึ่งอยู่ในพื้นที่ชลบุรี  ก็มีฐานอเมริกันใหญ่ อยู่ที่นั่น บุคคล ที่ตั้งบ้านเรือนอยู่ถนนเส้น 331 สัตหีบ ไปแปดริ้ว มีสภาพสวยๆ กันเพียบ  
ยังมีตำนาน น้องนางบ้านนา สาวชาวไทย แอบหยิบจากพี่ ทอม  พี่จอนห์นี่ เวลาเสร็จธุระแล้ว ก็ยังมี แต่ไม่ยืนยัน

นอกจากนั้น ยังมีตำนาน ทะลักเข้ามาจากชายแดน ยังกับน้ำหลาก ก็มี เพราะในเมืองไทย ต้องการปืน สิบเบ็ดๆๆๆ
มอมอ....กันมาก  เพราะเขาลือกันว่า นัดเดียวจอด ยิงแล้วกระเด็นไปเลย  ขนาดม้าโดนยังยกหน้าได้เลย   ล้มช้างได้ (เพิ่งไปได้ยินมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว เกือบช๊อค ในความร่ำลือถืง
อานุภาพของมันแบบ .....ไม่รู้จะพูดอย่างไร .....)

ประเทศไทยสมัยช่วงสงครามเวียตนาม หรือ 30-40 ปีที่แล้ว นับได้ว่า กิจการมือปืนรับจ้างเนี่ยะ เฟื่องฟูพอสมควร นะครับ ใครเกิดช่วงหลังนั้นอาจไม่เคยคิดว่า บ้านเรา ยิงกันเหมือนเมืองคาวบอยจริงๆ เมืองหลวงนะ ไม่เท่าไหร่ แต่บ้านนอก เนียะ ยิงกันเป็นว่าเล่น ตายกันเป็นเรื่องปกติ ขัดผลประโยชน์กันหน่อย กระบวนพิจารณาทางศาล มันช้า ใช้ศาลเตี้ยดีกว่า เร็วดี
1911 ก็เป็นอุปกรณ์ชั้นดีในการปฏิบัติการ เพราะ ราคาไม่แพง หาง่าย แถมไม่มีที่มาที่ไป เป็นปืนทหารยูเอส  ยิงเสร็จ จะทิ้งขว้าง หรือเก็บแบบหยาบ ก็ไม่เสียดาย  เจอหลักฐานก็ตรวจอะไรไม่ได้ ก็ปืนสนับสนุนสงครามนี่ครับ ไปจับฝรั่งมันโน่น.....
โป้งเดียวจอด ยิงหัว ตาทะลักออกมา เลย ....คำร่ำลือของมัน ยิ่งทวีความต้องการของผู้ที่ไขว่ขว้าหาสุดยอดอาวุธปืนของโลกใบนี้ ...ออร์เดอร์ ปืนเถื่อนก็เกลื่อนชายแดนไทย แน่นอน มีบุคคลที่พร้อมที่จะนำข้ามลำน้ำโขงเข้ามาจำหน่ายอย่างมากมาย และหาได้ไม่ยากนักในฝั่งลาว กัมพูชา

สรุปคือ มันเป็นปืนทหารอเมริกัน แล้วปัจจุบัน เราเอามาครอบครอง ผ่องถ่ายกันได้ มันก็เป็นของแปลกกว่าปืนพาณิชย์ มีค่าในแง่ของแปลกและประวัติศาสตร์ จริงไหมครับ ......
เจอแล้ว ซื้อมาเลยครับ ถ้าเขาขายแบบราคาญาติสนิท  อย่าขายแพงนักก็แล้วกัน

ยินดีด้วยครับ จขกท. ได้ของดีมาแล้ว ถ้าไม่ชอบ แค่เปรย ๆ รับรองมีคนขอรับมาดูแลต่อเพียบ (ผมก็คนหนึ่ง)

ถูกต้องครับ มีของดีแล้ว ไม่ควรแต่งให้เสียของ ถ้าชอบปืนรุ่นใหม่ ๆ ก็ซื้ออีกกระบอกดีกว่าครับ ....

ปืนแบบนี้ ไม่ต้องเล็งแล้วครับ ซ้อมให้มาก ๆ หน่อย ให้เป็นส่วนหนึ่งของมือเรา รับรอง ชี้ไปตรงไหนเป็นไม่พลาด  ::008:: ::008::

ปืนไม่มีแตกเองอยู่แล้วครับ ถ้าไม่มีอะไรไปอุดที่ปากลำกล้อง ... เวลายิงไม่ดัง "โป้ง" แต่ดัง "ปุ๊ด" แสดงว่าหัวกระสุนค้าง ถ้ายิงซ้ำไป จะกระบอกไหนก็มีโอกาสระเบิดได้พอกัน

ปืนยิงกระสุนโรงงาน ใหม่ ๆ รับรองว่าไม่มีปัญหาครับ อย่าเสี่ยงกับกระสุนเก่า ปลอกเขียวอื๋อก็แล้วกัน .... เพราะดินปืนมันมีเสื่อมคุณภาพครับ

ยังไม่เห็นใครพิสูจน์ครับ คงเป็นความเชื่อว่าคุณภาพของปืนทหาร จะดีกว่าปืนพลเรือนครับ

กำเนิด 1911 ... Mainspring Housing (ตรงที่กล่าวถึง) เป็นแบบตรงครับ แต่ทหารอเมริกัน ยิงปืนใหม่แล้วกินต่ำกัน พอมาเป็นรุ่นปรับปรุง (1911A1) จึงทำสันโค้งให้เข้าอุ้งมือ แก้การยิงกินต่ำครับ .... พอเข้าตลาดพลเรือน ผู้คนชอบหลังตรง ๆ มากกว่า ปืนยุคหลังจึงเป็นหลังตรง ๆ ครับ .... ส่วนนี้เก็บสปริงนกสับ ดู ๆ แล้วไม่มีแบบไหนที่จะดีกว่ากันครับ

คัดปลอกดี คือปลอกออกทุกนัด กระสุนป้อนใหม่ก็ลื่น ไม่มีติดขัดครับ .... รุ่นนี้ไม่ได้ "ปาดช่องคายปลอก" ทำให้เวลาปลอกกระสุนดีดตัวออกมา จะกระทบกับขอบล่างของช่องคายปลอกครับ .... เอาไปเจียรไม่ยากครับ แต่เสียของครับ ....  ::008::

แสดงว่าหูอักเสบครับ เวลายิงให้หาอะไรอุดหู ก่อนที่จะหนวกครับ .... ขออนุญาตเตือนด้วยความหวังดี ... ยิงซ้อม ไม่ได้ยิงจริง ป้องกันหูไว้ก่อนครับ เวลายิงจริงค่อยหูอื้อตอนนั้นครับ ....  ::008::

สมาชิกในนี้มีระดับเซียนหลายท่านครับ ถ่ายภาพตัวเลข และเครื่องหมายมาชัด ๆ มีคนช่วยดูให้แน่ครับ (ผมเป็นพวกหัดดูครับ)  ::002::

ยินดีด้วยกับปืนครับ ... ได้ของดี ระดับแนวหน้า ... ช่างเป็นคนที่น่าอิจฉาจริง ๆ  ::002:: ::002::

สวยมากครับ

ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาให้ความรู้ ครับ
ที่เอาไปลองยิง ยิงกันในที่ไร่นา แบบชาวบ้านๆ ครับ (แต่เป็นทหารกันทั้งนั้น ) ทนไม่ไหวก็ใช้ปลอกเปล่ามาอุดครับ แต่ถ้าถึงเวลาใช้งานจริงๆกลัวแหยงเสียงปืนครับ  ขณะยิงไทยอาร์มนัดที่2 เจ็บแก้วหู กลายเป็นกระตุกไกไปเลยครับ แถมไกก็แข็งมาก ลองยิงแค่ 2 แม็ก เสียดายปืน

ขอถามผู้รู้เพิ่มนะครับ สงสัยโครงปืนใช่ของเรมิงตันหรือเปล่าเท่าที่อ่านหนังสือ 1911
อักษร A A คือ ปืนที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว นำมาปรับปรุงใหม่ (น่าจะรมดำมาใหม่ เขย่าไม่คลอนเลย )
FJA คือ ผู้ตรวจสอบปืน ของ เรมิงตันหรือ อิธาก้า
สัญลักษณ์แปลกๆ ตรงโกรงไก คืออะไรครับ

เลขซีเรียลนัมเบอร์ ก็มีพิมพ์ No  แต่
                                       

พอไปดูเลขปืนที่ ผลิตไงกลายเป็นของโคลท์ ละครับ งงมากๆ ครับ

Good Gun with good number #...345

ดูอย่างซีรีส์มันเบอร์ .....ก็บอกแล้วว่า หัดดูอย่างอื่นดีกว่า
เห็นแต่โครง ก็บอกโครงนะจ๊ะ
โครงของโคลท์ ขอรับท่าน 
จุดนี้ ถ้าอยากศึกษา ให้ใครตั้งกระทู้แล้ว เอาด้าน ยูไนเต็ทสเตทฯ พร้อพเพอร์ตี้ นี่แหละ มาเทียบกัน 3 ภาพ
แล้วให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทายกันว่า มีจุดแตกต่างกันตรงไหนบ้าง ทำเหมือนเล่นตู้เกมส์เด็ก ตามห้างสรรพสินค้านะครับว่า
มีจุดไหนที่แตกต่างกันบ้าง ตัวอักษรของแต่ละโครง ต่างกันอย่างไร ตำแหน่งการเริ่มต้น สัมผัสกันระหว่างลูกกลิ้งตัวอักษรกับโครงปืนนั้น เริ่มสัมผัสกันจุดใด

ทำแค่นี้ ท่านก็จะแยกออกว่า ปืนนี้มาจากโรงงานใด โดยมิพักต้องดูซีรีส์นัมเบอร์เลย
แต่ตัวนี้ บอกให้ว่า โคลท์ครับ

ขอบคุณ คุณเต๋าครับ ตอบชัดเจนดีครับ
ตอนแรกที่อ่านหนังสือ 1911 นึกว่าจะได้ของเดิมๆแล้วเสียดายจัง  เพราะเห็นในหนังสือเขาระบุไว้ ถ้าของเรมิงตันผลิต จะพิมพ์ NO หรือ No ไว้หน้าซีรีย์นัมเบอร์  แถมมี FJA ด้วย และ แต่มาติดตรงเลขซีรีย์เท่านั้นที่ไม่ตรง

แล้วถ้าเป็นโครงของโคลท์ เอามาใส่สไลด์เรมิงตัน ทำไมถึงมี FJA ละครับคุณเต๋า
แล้วเราจะดูยังไงครับว่าปืนรมมาใหม่หรือว่าของเดิมๆ  ขอบคุณครับ

ตอบตรงๆ นะ ไอ้ FJA เนี่ย ผมไม่รู้เรื่อง เพราะตำรา ตราประทับต่างๆ ขอบอกจริงๆว่า พวกเราก็อ่านมาจากตำราภาษาอังกฤษ ที่ฝรั่งนั่นแหละ เขาเขียนไว้ ว่าใคร นายทหารคนใด มีชื่อย่อประทับตรวจปืน อันนี้ ผมไม่ทราบจริงๆ
เพราะวิธีดูเฟรมปืนของผม ผมดูลักษณะตัวอักษร  ผอม อ้วน  บาง ลึก  ต่างๆ นานา  ผมดูตำแหน่งจุดเริ่มต้นของตัวอักษร ซึ่งมันจะแตกต่างกันในแต่ละโรงงาน ทั้ง สามโรงงานนั่นแหละ
เวลาโรงงานใด คล้ายกันมากๆ มันก็มีจุดวิเคราะห์ในการตัดสิน ชี้ขาดของมันอีก

จะดูรมดำใหม่ รมดำเก่า ถ้าเป็นยูเอส จะดูยากมาก เพราะมันมีทั้ง ยูเอสแบบ 100 เปอร์เซนต์ และมีทั้งแบบส่งกลับไปโรงงานแล้วซ่อมแซม แล้วส่งกลับมาใหม่

วิธีดู ก็ดูผิวโลหะ ดูเชคเกอร์ต่างๆ  ดูสันหลังสไลด์ให้สัมพันธ์ กับฐานศูนย์หลัง  ดูเชคเกอร์ที่ดึงสไดล์ว่า ความคม มันหัวโล้นไปบ้างหรือ เปล่า  มันแบนๆ สันคม มันโดนลูบไปบ้างหรือเปล่า

แต่ถ้าเป็นปืนพาณิชย์ จะดูง่ายหน่อย
สรุป อธิบายลำบาก เอาเป็นว่า สงสัยตัวไหน ก็เอามาให้ดูกันดีกว่า จะได้ว่ากันเป็นรายตัวไปเลย

FJA Colonel Frank J. Atwood
NO เป็นปืนผลิตแรกในปี 42-43 จาก serial numer 916405 ถึง 955000 ที่มี proof mark  FJA ของ พันเอก Frank J. Atwood

ลองดูที่นี่ก็ได้ครับ...

http://www.coolgunsite.com/pistols/Frame%20and%20Slide%20Markings.htm

ของผม No 864345 โครงของโคลท์ แต่มี proof mark  FJA แปลกดีไหมครับ
เข้าไปอ่านแล้วครับ แต่หาคำตอบไม่ได้ครับ

ไม่แปลกครับ เดิมเจ้าของเก่ามีปืนเลข No 864345 ขึ้นทะเบียนไว้

แล้วมาเจอ  FJA แต่เป็นเลข xxxxxx ก็เลยตอกเลข No 864345 ให้ตรงกับทะเบียนที่มีอยู่ครับ  ;D

แฮะๆ  ....พี่ครูดำฟันธงให้แล้วครับ ท่านดูความลึกของตัวเลขก็ได้ครับ มาช่างแตกต่าง ลึก เหลือเกิน ในขณะที่ตัวเอ็น โอ ค่อนข้างบางๆ
แต่ว่า อย่าไปปวดสมองกับมันเลยครับ จะเลขอะไรก็ช่าง
ที่แน่แน่ ของท่าน นะ ยูเอสอาร์มมี่ ร้อยเปอร์เซนต์ ปืนสงครามขนานแท้ สภาพสวยด้วย น่าภาคภูมิใจ ที่ได้วีรบุรุษสงครามมาไว้ในความครอบครอง ผิดกับผมเสียอีก ชอบแทบตายได้แต่อาศัยดูของชาวบ้าน ไม่มีปัญญาหาไว้ในความครอบครอง อะไหล่ ต่างๆ ด้ามก็ตรงรุ่นเสียด้วย ภูมิใจเถอะครับ

ไม่ชอบบอกผมนะครับผมอยากได้ใว้ใช้งานบ้างชักกระบอง

ถ้าพี่ครูดำฟันธงอย่างนี้ แสดงว่ากระบอกนี้ต้องไปรมเขียวมาใหม่แน่เลย  :~) :~)แต่ทำได้เนียนจริงๆ ตอนเขาเอาไปตอกเลขทะเบีบนปืน(ปี18) ก็ไม่มีเลขเก่านะครับ


ความคิดผมนะถ้าจะเก็บไว้ใช้งาน คงลำบาก(ต้องใช้กำลังภายในมาก) แล้วจะมีปัญหาภายหลังหรือเปล่าก็ไม่รู้ ::014::


พี่เต๋าพูดเล่นหรือเปล่า ถ้าอยากได้ ผมแนะนำให้หาเพื่อนๆเป็นทหาร คนเพชรบุรี ราชบุรี นครปฐม สัตหีบ รับรองต้องเจอสวยๆสักกระบอกหรือสักคน :D~
เห็นหลานคนดีบอกว่าจะเอา ม้ากลับ  ??? มาให้ดูหลังปีใหม่ อาไรของมันหว่า

มีม้ากลับมาให้ดูก็เจ๋งไปเลย หลานเฮงซวย มันไม่ได้โกหกหรอก ม้ากลับด้าน เดียวมันเอามาให้ดูแล้วก็รู้เองว่า มันเป็นม้ากลับด้าน สไลด์  อย่ามาเป็นม้ากลับหัว ก็แล้วกัน   แล้วมาดูกันนะ ผมก็อยากดูเหมือนกัน ม้ากลับเนี่ยะ เก่าเอาเรื่องเหมือนกันนะครับ

อันนี้ของปู่ครับ  สมัยเสรีไทย   ปู่ให้พ่อ  พ่อเสีย ผมรับต่อครับ  พูดแล้วก็คิดถึงพ่อ....ยังไม่ได้ทำอะไรดีๆ ให้พ่อเลย


นี่คือตัวแทนของพ่อ ไปไหนไปด้วยกัน อุ่นใจเสมอ อุ่นใจที่มีพ่อไปไหนมาไหนด้วย  ไม่ใช่เพราะมีอาวุธติดตัวหรอกนะ

(http://img182.imageshack.us/img182/1228/17pl9.jpg)

(http://img86.imageshack.us/img86/9664/12nf8.jpg)

(http://img174.imageshack.us/img174/9291/36260945ej8.jpg)

ขอคำวิจารณ์  และคำแนะนำด้วยครับ

แบบนี้ไม่ต้องวิจารณ์อะไรแล้วครับ  เดี๋ยวนี้ถ้าจะซื้อหุ่นทรงแบบนี้ แถวๆ หลังวัง ถ้าไม่กำเงินแสนไปก็ไม่ได้ของแน่นนอน

ถ้าจะแนะนำก็ให้ลองยิงกับกระสุนหลายๆ แบบเพื่อดูการทำงาน ว่าปืนชอบกระสุนแบบไหน ยิงแล้วไม่ติดขัด

แล้วก็เลือกกระสุนชนิดนั้นไว้ติดกับปืนครับ   ::002::

ด้วยความเคารพ
      มีส่วนหนึ่งที่เข้ามาในสมัยสงครามเกาหลีด้วยครับ  :VOV: :VOV: :VOV:

 ::002::ใช้ไปแล้วจะรู้ว่าของเขาดียิ่งเป็นของทหารไม่ต่องกลัวว่าจะพังของผมก็ใช้โคล์ทชีรีย์70มือสองมาเกืบยี่สิบกว่าปียังไม่เห็นมีปัญหาอะไรเลย ::002:: ::007::