เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

เมื่อสักครู่นี้เองครับ

มีสกู๊ปข่าวแจ้งเตือนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวประเทศไทย ให้หลีกเลี่ยงแหล่งชุมชนในคืนนี้ เพราะมีโอกาสเกิดการก่อการร้ายสูง

โดยนำภาพข่าวการระเบิดเมื่อต้นปี 2006 มาประกอบในเนื้อข่าว......

ต่อด้วย เตือนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นในภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ระวังการล้วงกระเป๋าและหลอกลวงต่างๆ

มีภาพการ์ตูนจากหลายๆเมืองทั่วโลก แล้วก็มีภาพเกี่ยวกับเมืองไทยโผล่มาอีก......

หรือบ้านเราไม่ปลอดภัยจริงๆ

       เจ้าหน้าที่เขาคงเตรียมการณ์ไว้พร้อมแล้วละครับ

       ไม่น่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นได้ ..... ว่าแต่น้าโอ๊คคืนนี้ไปไหนครับ

 :VOV:
ครับ
ภัยมืดนี่ระวังยากครับ
ฝูงชนมากมายปะปนกัน
ข่าวกรองดี ต้องจัดการได้ก่อนจะเกิดเหตุร้าย :VOV:

 :VOV:
ครับ
วันก่อนซื้อเบียร์มากระบอก 1  กะเปิด 24.00 น.แล้วนั่งดื่ม
 :VOV:

คนเล่นปืน  อิอิ ::005::

 ???  วางระเบิดปีใหม่(ปีที่แล้ว)  ทำไมยังจับไม่ได้ ???

               ซวยเพราะคนไม่กี่คน กว่าจะแก้ภาพพจณ์ได้คงอีกนานคล้ายตั้งรัฐบาลใหม่ ::013:: ::013:: ::013:: ::013::

 ....ไม่แน่ว่าตั้งรัฐบาลใหม่แล้วจะแก้ได้หรือเปล่า อาจจะมัวแต่ไล่เชคบิลอยู่  ::001::  ::013::

กรุงเทพฯจะมีระเบิดอีกมั้ยหน่อ คนร้ายน่าจะได้ใจ ตำรวจทหาร ไม่สนใจติดตามคนร้ายเลย ทั้งที่ระเบิดกลางเมืองหลวงหลายจุด ประชาชนตัวใครตัวเผือกล่ะครับ  ::003::

คิดเสียว่า..เป็นการประชาสันพันธ์เอาด้านลบ  มาเป็นหลัก ..ให้นักท่องเที่ยวหันมาสนใจ
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุส่ง..

ทางราชการเตรียมไว้อย่างดีแล้ว.. ถ้าผ่านปีใหม่ไปได้. เรียบร้อย..
ก็เท่ากับได้ประชาสัมพันธ์ ด้านบวกให้กับประเทศไทย เราด้วย..

ถ้าการท่องเที่ยว มองให้ออก
หยิบกระแสตีกลับมาใช้ให้เป็็นประโยชน์ จะได้ Reaction เป็น ๒-๓ เท่า ด้วยซ้ำ.  ::002::

ปลาเน่าตัวเดียวจริงๆ ทำให้ภาพพจน์ประเทศเสียหายหมด นี่ไม่รวมกับคนไทยที่ไปต่างแดนต่างหากนะครับ
แต่รวมๆคนญี่ปุ่นก็ยังรักคนไทยครับ(แม่ผมก็คนญี่ปุ่น)

 :VOV:

เรื่องมันมีมาติดๆตั้งแต่ทำร้ายแอร์โฮสเตสซะเกือบตาย  ฆ่าสาวยุ่นที่สุโขทัย  ยังตามจับคนร้ายไม่ได้  สุดท้ายนี่ที่พัทยา  ถึงแม้จะจับคนร้ายได้  แต่เราก็เสียชื่อไปมากครับคุณโอ้ค
ผมมาลองเช็คดูเที่บินสายตรงจากญี่ปุ่นไปเมืองไทยวันหนึง10กว่าเที่ยว ช่วงนี้เต็มทุกที่นั่ง เขาเลยออกมาเตือนเพราะจำนวนคนมาเมืองไทยเยอะมากครับเลยเป็นห่วง

รัฐเขาก็ห่วงความปลอดภัยของประชาชนเขา เป็นธรรมดาครับ

ตั้งแต่วันที่ 20 ธ.ค.เป็นต้นมา  ทุกอย่างมันเงียบ ไม่มีการเคลื่อนไหว จนน่ากลัว
ฝ่ายความมั่นคงพยายามหนักมาก ที่จะหายาให้ถูกกับโรค

พ่อชาวญี่ปุ่นก็พึ่งบินมารับศพลูกสาวโดนฆ่า ข่มขืนไปเดือนที่แล้วที่สุโขทัยนิครับ เรื่องจริงว่าไม่ได้

รู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับคนญี่ปุ่นครับ
ปีนี้เป็นปีครบรอบความสัมพันธ์ไทย ญี่ปุ่นครบ ๑๒๐ ปี (ถ้าจำไม่ผิด)
มีกิจกรรมจากหน่วยงานของรัฐต่าง ๆ มากมายในการระลึกถึงความสัมพันธ์อันดีนี้
แต่อาชญากรย่อมไม่สนใจสิ่งที่วิญญูชนคนดีกระทำ
มีโอกาสเมื่อไหร่ย่อมต้องลงมือโดยไม่เลือกเชื้อชาติ เพศ วัย
ทำดีแทบตาย พอมีเหตุการณ์อย่างนี้สิ่งที่ทำแทบจะไม่มีความหมาย
ไทยก็ไม่อยากให้เกิด ญีปุ่นก็ไม่อยากให้เกิด
เพื่อป้องกันไม่ให้กระทบกระเทือนความรู้สึกของกันและกัน
จึงต้องมีการเตือนให้ระวังตัวก่อน

คนไทยบางกลุ่มไม่รักประเทศตนเอง มีคนกลุ่มไหนจะแอบวางระเบิดจำนวนมากพร้อมกันได้ขนาดนี้  แล้วใครได้ประโยชน์จากการกระทำ    NHKทำถูกต้อง ต้องรักประเทศตนเอง แต่คนไทยทีทำร้ายประเทศตนเอง กินเงินเดือนจากคนไทยทำร้ายกันเองได้ลงคอ ถือว่าไม่ใช่ลูกผุ้ชายแค่............

นั่นสิครับ  :-X


เฮ้อ บาปกรรมๆ


ใครทำเหรอครับ ช่วยบอกหน่อยสิครับ  ???

โดยธรรมชาติของคนญี่ปุ่น (จากเท่าที่ได้ทำงานกับคนญี่ปุ่น) เป็นชนชาติที่ขี้กลัว ขี้ระแวง

และจะต้องหาคนมารับผิดชอบกับสิ่งต่าง ๆ เสมอ

เห็นได้จากที่เขาจะมีประำกันทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นประกันภัย  ประกันอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง รวมไปถึงการประกันความพึงพอใจในการรับบริการ

และเห็นได้ชัดจากหนัง หรือการ์ตูนยอดมนุษย์ ที่ญี่ปุ่นสร้างขึ้น เป็นการแสดงให้เห็นว่า ชีวิตของพวกเขาต้องได้รับการคุ้มครอง และต้องมีผู้มารับผิดชอบต่อชีวิตและทรัพย์สิน


เมื่อตอนทีมีการปฏิวัติครั้งล่าสุด  ..... ภาพข่าวของ NHK  ที่ออกไปเป็นภาพข่าวเมื่อเดือนพฤษภาคม 2535 (เป็นคำบอกเล่าจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่น)

และทุกคนจะถามเหมือนกันหมดว่า เที่ยวได้ไม๊ อันตรายไม๊ จะมีการยิงกันไม๊ ......


คนญี่ปุ่นก็มีความคิดที่แปลก เขาจะเชื่อ Guide Book  มากกว่ากว่ามัคคุเทศก์ที่พาเขาเที่ยว

และกลัวมััคคุเทศก์มากกว่า กลัวคนขับรถแท๊กซี่ และสามล้อ ค่ะ

ปัญหามักจะเกิดกับนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเที่ยวอย่างประหยัด โบกรถ นั่งรถไฟ เช่าจักรยาน หรือเหมาแท๊กซี่ สามล้อไปเที่ยวเอง

โดยไม่ได้นึกถึงความปลอดภัย ว่าเมื่อเกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุร้ายใด ๆ แล้ว เขาจะไปตามเรื่องเอากับใครได้

สิ่งที่มัคคุเทศก์ทำได้ก็เพียงแค่ิเตือนให้ระวัง ให้สังเกตุสีรถ เลขทะเบียนรถ ห้วงเวลา ฯลฯ

เหตุที่เกิดขึ้นที่สุโขทัย และพัทยา  บอกตรง ๆ ว่า แม้แต่คนไทยเราเอง ยังไม่กล้าที่จะไปเดิน

หรือถีบจักรยานเที่ยว คนเดียว ในช่วงเวลาอย่างนั้น และสถานที่ที่เปลี่ยวอย่างนั้นเลยค่ะ

อันนี้ไม่ได้เข้าข้างคนร้ายนะคะ แต่โดยปกติวิสัย และสัญชาตญาณแล้ว ก็ควรที่จะต้องระมัดระวังตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก

เราเที่ยวภายในบ้านเราเอง เรายังต้องระวังตัวเลย ไหนจะพวกปาหิน ไหนจะพวกแกล้งขับรถมาฉี่ยวชน

ไหนจะพวกที่หลอกว่ายางรถแบน ฯลฯ ........


และก็พบนักท่องเที่ยวที่คิดว่า บ้านเราปลอดภัย ร้อยเปอร์เซ็นต์ อยากไปไหน เวลาไหนก็ได้ บ่อย ๆ ค่ะ

เขามักจะย้อนถามกลับมาเมื่อเตือนเขาให้ระวังตัว ว่า  "เมืองไทยสงบ ปลอดภัยไม่ใช่หรือ"

ก็จะถามเขากลับว่า "มีที่ใดในโลกนี้บ้างที่ปลอดภัย ร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้แต่ที่ญี่ปุ่นเองไม่ได้ปลอดภัย ร้อยเปอร์เซ็นต์มิใช่หรือ 

และไม่ว่าที่ใด ๆ ในโลก มีทั้งคนดี และคนเลว ปะปนกันอยู่มิใช่หรือ"

และคำถามยอดฮิตที่มักจะถูกถามจากนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นคือ "รถแท๊กซี่สีไหนปลอดภัย" (เป็นคำถามเกิดขึ้นหลังจากที่แอร์โฮสเตสชาวญี่ปุ่นถูกทำร้าย)

และคำถามยอดฮิตหลังจากเกิดคลื่นสึนามิ คือ "เมืองไทยมีแผ่นดินไหวบ่อยไม๊ อันตรายไม๊" ......



สำหรับในเรื่องการประกาศเตือนประชาชนของเขา เขาทำอย่างนี้เสมอมา เป็นเรื่องปกติิ

ในประเทศที่พัฒนามากแล้ว จะเห็นคุณค่าของการมีชีวิต .. ความปลอดภัยของชีวิต ต้องมาก่อน

เราต้องยอมรับว่าที่เขากล่าวเตือนนั้น เป็นความจริง.. ต้องไม่ปฎิเสธ ควรต้องขอบคุณเขา
ที่ให้ความสนใจ คนของเขาที่จะเข้ามาเที่ยวในประเทศของเรา..
ควรเลือกใช้เหตุผลให้เจือสมไปตามทางแนะนำของเขา..
โดยยอมรับว่าเราก็ได้ตระหนัก..ทางป้องกัน ระมัดระวังไม่ให้เกิดขึ้นซ้ำอีก

ต้องปล่อยให้ลิ้นของนักการฑูต ทำงานครับ. . ผมไม่กังวลห่วงในประเด็นนี้นัก ..
เพียงแต่อย่าปล่อยให้.. บางท่าน บางคน ที่ไม่เข้าใจ..  มารับผิดชอบมาผลักดันก็แล้วกัน.
จะซวยซ้ำ. ไปอีก.  :OO