เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

สนทนาภาษาปืน => สนทนาภาษาปืน => ข้อความที่เริ่มโดย: Mr_Watt ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:24:24 PM



หัวข้อ: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Watt ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:24:24 PM
>พอดีวันนี้ มีความจำเป็นต้องขับรถออกจากบ้าน ทั้ง ๆ ที่ ไม่อยากไปเพราะสงสารรถ
>ก็ดูแค่หน้าบ้านจากรู้สิครับ ปาเข้าไปครึ่งล้อแล้ว
>แล้ว พอขับออกจากซอยเท่านั้นเหละครับ ลึกกว่านั้นอีก ที่สำคัญขับสวนกับรถใหญ่ ๆ
>มันก็เหมือนสวนกับคลื่นยักษ์สึนามิอย่างไงอย่างงั้น เอาเป็นว่า
>คลื่นน้ำกระเด็นถึงครึ่งฝากระโปรงก็แล้วกัน
>เลยอยากแนะนำการขับขี่รถเพื่อให้ผ่านอุปสรรคคือ น้ำท่วมมาฝาก

>ข้อแรก ถ้าไม่จำเป็น ควรหลีกเลี่ยงอย่างไม่ต้องสงสัย และไม่ต้องกลัวว่า
>
>รถจะดับหรือปล่าว หรือจะมีปัญหาอะไรตามมา เช่น น้ำจะเข้ารถหรือปล่าว
>
>แล้วจะเกิดผลเสียต่ออุปกรณ์อื่น ๆ หรือไม่
>แต่ถ้ามันหลีกเลี่ยงไม่ได้ เราควรทำอย่างไรดีละ

>ข้อ 1 คือ ห้ามเปิดแอร์เด็ดขาด ในขณะขับรถลุยน้ำลึก หรือแม้จะน้ำตื้นก็ตาม
>
>เพราะ สาเหตุที่รถดับ ส่วนใหญ่เกิดจากการเปิดแอร์แล้วขับลุยน้ำ
>
>ที่ผมบอกอย่างนี้ ก็เพราะว่า เมื่อเราเปิดแอร์ พัดลมจะทำงาน และอย่าลืมสิครับ
>
>ว่าเรากำลังลุยน้ำลึก อย่างที่ผมเจอวันนี้ ก็คิดว่า น่าจะเกินระดับพัดลม

เพรราะฉะนั้น ถ้าเราขืนเปิดพัดลมละก็ สิ่งที่จะตามมาคือ
>
>ใบพัดจะพัดให้น้ำกระจายไปทั่วห้องเครื่อง แล้วคุณลองคิดดูว่า อะไรจะเกิดขึ้น
>
>นั่นก็คือ เครื่องจะดับเอาง่าย ๆ
>
>หรือ ถ้าโชคดี หรือโชคร้าย ถ้าเครื่องไม่ดับ ใบพัดก็จะหมุน ๆ ซึ่ง
>
>เราก็ไม่รู้หรอกว่า ขณะที่เราลุยน้ำ อะไรมันจะลอยมาบ้าง มันมีสารพัด
>
>ไม่ว่าจะเป็น ขยะ กิ่งไม้ ไม้หน้าสาม ถุงพลาสติก รองเท้า ซึ่ง สิ่งของพวกนี้
>
>มันมีโอกาสที่จะเข้ามาในห้องเครื่องแล้วโดนใบพัดตัดจนใบพัดหัก ซึ่งถ้าใบพัดหัก
>
>แน่นอนว่า เราขับรถต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน เพราะระบบระบายความร้อนจะมีปัญหา

>ข้อ 2 ควรใช้เกียร์ต่ำ สำหรับเกียร์ธรรมดา ก็ใช้ประมาณเกียร์ 2 หรือสำหรับออโต้
>
>ก็ใช้เกียร์ L ก็ได้ครับ รวมถึงการขับขี่ที่มีความเร็วต่ำที่สุด
>
>เท่าที่จะเป็นไปได้ และควรใช้ความเร็วสม่ำเสมอ อย่าหยุดอย่าเร่งความเร็วขึ้น
>
 
>ข้อ 3 คือ ไม่ควรเร่งเครื่องให้รอบสูง ๆ เพราะเห็นผู้ขับขี่หลาย ๆ
>
>คนมักจะเร่งเครื่องแรง ๆ เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะกลัวเครื่องดับ
>
>เพราะกลัวน้ำเข้าท่อไอเสีย ซึ่งจริง ๆ แล้วมันเป็นความคิดที่ผิดมาก ๆ

>แท้ที่จริงแล้ว การเร่งเครื่อง ยิ่งทำให้รถมีความร้อนสูงขึ้น
>
>เมื่อเครื่องมีความร้อนสูงขึ้น ใบพัดระบายความร้อนก็จะทำงาน
>
>และสิ่งที่จะตามมาก็เหมือนกับข้อ 1 ครับ
 
>ไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะเข้าท่อไอเสียครับ เพราะต่อให้น้ำจะท่วมท่อไอเสีย
>
>แล้วคุณสตาร์ทรถอยู่ที่รอบเดินเบา
>
>แรงดันที่ออกมาเพียงพอที่จะดันน้ำออกมาอย่างสบาย ๆ

>ต่อให้คุณจอดรถทิ้งไว้จนน้ำท่วมท่อไอเสียก็ตาม เมื่อคุณเข้าไปในรถ แล้วสตาร์ทรถ
>
>ผมกล้าพูดได้เลย ทีเดียวติดครับ (กรณีนี้ ที่ผมกล้าพูดว่า รถสามารถสตาร์ทติด
>
>คือ น้ำท่วม แค่ท่วมท่อไอเสียนะครับ ไม่ใช่ท่วมฝากระโปรงนะครับ) แต่
>
>สำหรับรถคาบู ผมเองก็ไม่แน่ใจนะครับ ว่าถ้าถึงขั้น
>
>น้ำท่วมท่อไอเสียแล้วมันจะสตาร์ทติดหรือไม่ แต่สำหรับเครื่องหัวฉีด
>
>สบายใจได้ครับ
>
>ควรลดความเร็วลง เมื่อ กำลังจะขับรถสวนกับอีกคันที่กำลังขับมา
>
>เพราะไม่งั้นจะกลายเป็นคลื่นชนคลื่น อย่างที่ผมบอก
>
>ซึ่งน้ำที่ปะทะระหว่างรถของเราและรถที่วิ่งสวนมา
>
>มันก็อาจทำให้น้ำกระเด็นไปทำอันตรายต่ออุปกรณ์ภายในได้
>
>หลังจากเราลุยน้ำลึกมา สิ่งที่ควรทำต่อ ก็คือ

>ข้อแรก พยายาม ย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำ เพราะในช่วงแรก ๆ หลังจากการลุยน้ำลึกมา
>
>มันจะเบรกไม่อยู่ และเป็นอันตรายมาก
>
>ถ้าเราไม่ทำการย้ำเบรกเพื่อไล่น้ำออกจากระบบเบรก

>สำหรับ เกียร์ธรรมดา ต้องมีการย้ำคลัชเช่นเดียวกับการย้ำเบรก
>
>เพราะหลังการลุยน้ำมา อาจมีปัญหาคลัชลื่น จึงต้องทำทั้งย้ำคลัชและย้ำเบรก
>
>อีกข้อนึงคือ ไม่ควรดับเครื่องทันที ถึงแม้ถึงจุดหมายก็ตาม
>
>เพราะอาจมีน้ำค้างอยู่ในหม้อพักของท่อไอเสีย ซึ่งควรสตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก
>
>ซึ่งจะสังเกตได้ว่า มีไอออกจากท่อไอเสีย ก็ไม่ต้องตกใจครับ
>
>ก็สตาร์ทรถทิ้งไว้สักพัก เพื่อให้น้ำในหม้อพักมันระเหยออกไป เพราะ
>
>ถ้าไม่ทำอย่างนี้ จะทำให้เกิดน้ำค้างอยู่ในหม้อพัก สิ่งที่จะตามมาคือ มันจะผุ
>
>หลังการลุยน้ำมา สิ่งที่ควรทำคืออะไร
>
>อย่างแรกที่อยากแนะนำคือ ล้างรถ รวมถึง การฉีดน้ำเข้าไปในบริเวณใต้ท้องรถด้วย
>
>รวมทั้งบริเวณซุ้มล้อ เพื่อล้างพวกเศษทรายต่าง ๆ ที่มันเกาะติดอยู่ หรือ
>
>บริเวณใต้ท้องรถ ซึ่งอาจมีพวกเศษขยะ เศษหญ้า ติดอยู่ ต้องเอาออกให้หมด
>
>เพราะถ้าเศษหญ้าแห้งมันติดอยู่ใต้รถ อันตรายที่จะเกิดขึ้น มันใหญ่หลวงนัก หนัก
>
>ๆ หน่อย ไฟอาจไหม้ได้

>ในคู่มือยังบอกเลยครับว่า รถที่ติดตั้งตัวกรองไอเสีย หรือ (CAT)
>
>ไม่ควรจอดรถไว้บริเวณที่มีต้นหญ้าขึ้นสูง เพราะอุณหภูมิของเจ้า Catalytic
>
>Converter นั้น มันค่อนข้างสูงมาก ๆ
>
>สิ่งต่อมาที่ควรทำก็คือ สำรวจน้ำมันเกียร์ ว่า มันมีสีผิดปกติหรือไม่ คือ
>
>ถ้ามีลักษณะคล้ายสี ชาเย็น นั่นแสดงว่า
>
>ต้องมีน้ำเข้าไปอยู่ในระบบเกียร์อย่างแน่นอน หรือถ้าเป็นไปได้
>
>ก็เปลี่ยนน้ำมันเกียร์มันซะเลย เพื่อความสบายใจ
>
>เพราะก้านวัดน้ำมันเกียร์นั้นอยู่ค่อนข้างต่ำ และยิ่งรถผ่านการลุยน้ำลึก ๆ มา
>
>มันก็จะท่วมตัวเจ้าก้านวัด ซึ่งเป็นไปได้ที่น้ำจะซึมเข้าไปในระบบเกียร์
>
>และมันก็จะทำให้ระบบเกียร์พัง
>
>ปัญหาต่อมาที่อาจตามมาคือเรื่องของ ลูกปืนล้อ ซึ่ง พูดง่าย ๆ ว่า เจอน้ำทีไร
>
>ลูกปืนล้อมันก็จะดัง เวลาวิ่งความเร็วสูง ๆ อันนี้ทำใจไว้ได้เลย ว่า
>
>อาจต้องเปลี่ยน แต่ โดยปกติแล้ว เจ้าลูกปืนล้อมันจะพังเร็ว ก็เพราะสาเหตุที่ว่า
>
>จอดแช่น้ำมากกว่า แต่ถ้าวิ่งผ่านน้ำ โดยปกติ จะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
>
>แต่ถ้าแช่น้ำเมื่อไหร่ละก็ เตรียมตัวเสียเงินได้เลย
>นอกจากนี้ ยังต้องตรวจสอบ พื้นพรมในรถ ว่า เปียกชื้นหรือไม่ เพราะ
>
>หลังการลุยน้ำลึกมา มีโอกาสมากที่น้ำจะซึมเข้ามาภายในห้องโดยสาร เพราะฉะนั้น
>
>ต้องเปิดผ้ายาง เปิดพรม เอามือ กดแรง ๆ ดู
>
>หรือลองเอากระดาษซับดูว่ามีน้ำอยู่หรือปล่าว

>ถ้ามีน้ำขังอยู่ภายในห้องโดยสาร ผมคิดว่า น่าจะถึงเวลารื้อพรมกันเลยละครับ
>
>เพื่อป้องกันปัญหาตามมา เพราะถ้าคุณไม่รื้อพรม แต่คุณอาจแค่เพียง เอาผ้าซับ ๆ
>
>ให้พื้นแห้ง แล้วจอดตากแดด จริง ๆแล้ว มันก็แห้งเหมือนกัน แต่
>
>สิ่งที่คุณไม่เห็นก็คือ สิ่งสกปรกที่มันยังค้างอยู่ในรถของคุณ
>
>ซึ่งคุณก็น่าจะรู้ว่า น้ำมันมีเชื้อโรคสารพัด แล้วเมื่อมันแห้ง
>
>มันก็จะแพร่เชื้อและเป็นเชื้อราอยู่ในพรม สิ่งที่อยากบอกต่อคือ นอกจากนี้
>
>ในรถยังมีระบบปรับอากาศ ที่มันจะเป็นตัวช่วยพัฒนาการเจริญเติบโตของเชื้อโรคต่าง ๆ
ได้เป็นอย่างดี แล้วมันก็จะหมุนเวียน กลับไปกลับมา อยู่ในรถของคุณ
>
>นั่นก็เป็นสาเหตุของการเกิดภูมิแพ้ เพราะคุณก็สูดเอาเชื้อโรคต่าง ๆ
>
>เข้าไปตลอดเวลา

>เอาง่าย ๆ ขนาด รถคุณไม่เคยลุยน้ำมาก่อน เมื่อใช้ไปสัก 2 ปี
>
>ลองไปร้านแอร์แล้วให้เขาถอดตู้แอร์มาล้างดูสิครับ
>
>คุณอาจจะแทบรับไม่ได้กับความสกปรกของมัน เพราะมันสกปรกมากจริง ๆ ครับ
>
>และคุณอาจไม่เชื่อเลย ว่านี่หรือ คือสิ่งที่เราสูดเข้าไปทุกวัน ๆ

>จะว่าไปแล้ว รถสมัยนี้ค่อนข้างออกแบบมาดี ลุยน้ำไม่ค่อยดับกันหรอกครับ
>
>ถ้าทำอย่างที่ผมบอกนะครับ ผมว่า จากสายตา วันนี้ผมลุยน้ำลึกไม่น่าต่ำกว่า 50 ซม
>
>เพราะรถรุ่นใหม่ ๆ จะย้ายอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ โดยเฉพาะเจ้า ECU
>
>ไว้ในตำแหน่งที่สูง พูดง่าย ๆ ว่า อยู่ในรถกันเลยหละ รวมถึงกล่องฟิวส์ต่าง ๆ
>
>ติดตั้งไว้ในตำแหน่งที่ค่อนข้างสูง เพื่อป้องกันน้ำท่วมนี่เหละครับ



[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: Mr_Watt ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:32:02 PM
 ;Dแถมสาวๆนั่งรถไปลุยน้ำด้วยครับ

[ไฟล์แนบถูกลบโดยผู้ดำเนินการ]


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: Point_Blank ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:34:47 PM
ติด Sonax หรือ  WD40 ซักกระป๋องก็ดีครับใช้ฉีดไล่ความชื้นเครื่องยนต์ก็ดี ล้างปืนก็ได้.................ก๊าบ


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: วรกฤษ ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:49:08 PM
ขับ 4x4 ลุยน้ำสูงสุดแค่ขอบประตูเองครับแต่เร่งเครื่องเเรงตอนลุยน้ำเมื่อก่อนทำบ่อยๆ

ได้อ่านแล้วเข้าใจอีกขึ้นเยอะเลยครับ............ขอบคุณครับ ;)


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: Nakin ที่ กรกฎาคม 08, 2005, 11:53:18 PM

ขอบคุณครับ     ;)

ผมขอแถมนิดหน่อย   :   ถ้าเครื่องยังเย็นอยู่  อย่าเพิ่งลุยน้ำครับ  มีโอกาสเครื่องดับสูง ....

แล้วถ้าเครื่องดับ  ( ในกรณีที่เครื่องร้อนแล้ว )  แต่ไม่อยากลงจากรถมาแก้ไข  ก็อาจจะนั่งรอสักพักก็ได้  ,  ความร้อนจากเครื่องยนต์จะทำให้ระบบไฟฟ้า  ,  ระบบสตาร์ท และ ระบบจุดระเบิด แห้ง  ,  แล้วลองติดเครื่องดูใหม่ ........   ;)



หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: rute - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 02:15:31 AM
ขอบคุณคับ... :)


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: NaiMai>รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 02:35:04 AM
 ;)


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: หินเหล็กไฟ ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 10:22:29 AM
 ;D ;D ถ้าน้ำลึกขนาดนั้นขอแนะนำให้หาเรือแจวสักลำนะครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: vichai01++รักในหลวง++ ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 12:12:31 PM
 ;D ;Dขอบคุณครับ ;D ;D


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: muk ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 01:03:58 PM
ขอบคุณครับ ;D ;D ;D............ถ้ามีสาวๆไปด้วยเครื่องคงดับแน่ๆ :VOV: :VOV:


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: mb154cm ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 01:09:42 PM
ขอบคุณครับ แบ่งเป็นเนื้อหา50%  ภาพประกอบ50%  ;)


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: Ro@d - รักในหลวง ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 02:31:15 PM
 :)..ขอบคุณมากครับ คุณWatt.. เป็นเวลาที่ได้เปลี่ยนมา ใช้ Jeep Cherokee .4 l ชอบจังหน้าฝน. ;D


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: ..GlockGlack.. ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 02:35:58 PM
 :)


หัวข้อ: Re: เก็บมาฝากครับ...ทำไงดี...ขับรถตอนน้ำท่วม(ช่วงนี้ฝนตกบ่อย)
เริ่มหัวข้อโดย: carrera ที่ กรกฎาคม 09, 2005, 02:41:06 PM
ขอบคุณครับ

รถเคยจมน้ำเครื่องเจ๊งครับ ฝาเครื่องโก่งเลย เสียไปหลายตัง

ตอนนี้ลุยด้วย ทริบิ้วตลอด  ;D ;D ;D ;D ;D สู้ตายค่ะ