เว็บบอร์ดสนทนาภาษาปืน

คือว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านพักครูที่โรงเรียนผม  ไฟไหม้หมดทั้งหลังเลย ปืนของเพื่อนครูที่พักอาศัยอยู่ถูกไฟไหม้หมดทั้ง 3 กระบอก คือ
 
   1.  11 มม. ของเรมิงตัน กระสุนระเบิดในแม็กฯ , ไกในส่วนที่ดันเซียร์หัก นอกนั้นไม่เสียหาย         
   2.  S&W 15-3 กระสุนระเบิดในโม่ ,ผนังกั้นกระสุนหลังโม่ด้านขวาถูกกระสุนระเบิดดันออกมาและมีรอยร้าว
   3.  อีโบ๊ะ เบอร์ 12 (มีทะเบียน)  หักด้ามไม่ออกและง้างนกไม่ได้
     
        อยากเรียนถามพี่ ๆ ว่า ถ้านำไปบูรณะใหม่แล้ว  คุณภาพยังเหมือนเดิมหรือเปล่าครับ

 :'( เสียดายครับ :'(
 ;D แต่นับว่ายังโชคดีที่คนไม่ได้รับอันตรายครับ เมื่อปีที่แล้วร้านค้าไม้ตากฟ้าน่าสลดใจมาก ๆ :'(

 ;D คุณพงษ์ศักดิ์โทรถามช่างวิทย์แล้วหรือยังครับ ???
 ;D ปืนสามารถทำให้สวยเหมือนเดิมได้ แต่คุณภาพเหล็กอาจเปลี่ยนไปครับ ต้องให้ผู้รู้เรื่องเหล็กอย่างพี่เตารีดมาอธิบายโดยละเอียดครับ ;)

ผมถามไปแล้วครับแกบอกว่า ไม่มีปัญหา คุณภาพเหมือนเดิม ก็ยังงงอยู่ว่าเมื่อโดนความร้อนนานๆ คุณภาพของโลหะมันน่าจะเปลี่ยนไป ???

 ;D ผมก็ว่าน่าจะเปลี่ยนไป แต่ผมเคยเอานอรินโก กระบอกหนึ่งมายิง เคยถูกไฟไหม้เหมือนกัน ผ่านมือช่างวิทย์แต่งใหม่มา ลองยิงดูไปเยอะพอสมควรก็ยังไม่เกิดปัญหาอะไรครับ ;D

     เสียใจด้วยครับ :'(
สภาพหลังไฟไหม้ขึ้นอยู่กับ  อุณหภูมิที่เผาเหล็ก+การคลายความร้อนของเหล็ก(เย็นตัวเร็วแค่ไหน)
.......ส่วนมากถ้าไหม้ ไม่นาน....เหล็กจะแข็งขึ้นเล็กน้อยประมาญ  5-15  ร็อกเวล  c

ลืมบอกไป  .....ในกรณีของโลหะที่ใช้ทำปืนนะครับ.....โลหะทั่วไป(เหล็กเหนียว)จะนิ่มกว่าเดิม
.........ขอโทดก้าบบบบบบ.....มือไวไปหน่อย... :~) :~)

โดยปกติแล้ว ไม่ว่าเหล็กทำปืน ทำมีด ถ้าโดนความร้อนสูง แล้วปล่อยให้เย็นลงช้าๆ ค่าความแข็งของเหล็กจะลดลงครับ

เมื่อปืนโดนไฟไหม้ สิ่งที่ไปแน่นอนคือ สปริงต่างๆของปืน ต้องเปลี่ยนใหม่หมด ส่วนอุปกรณ์อื่นๆคงจะต้องตรวจสอบครับ แต่ความแน่นของปืนในส่วนต่างๆอย่างเช่น โครงปืนกับสไลด์คงไม่ดีเท่าเดิม

เรื่องความแข็งของโลหะ โดยเฉพาะลำกล้องปืน ถ้าความแข็งไม่เพียงพอ ลำกล้องปืนจะสีกเร็วมาก แต่ก็ไม่น่ากลัวเท่ากับลำกล้องแข็งเกินไป ถ้าลำกล้องแข็งเกินไป เวลายิงรังเพลิงมีโอกาสระเบิดได้ เพราะเหล็กที่แข็งจัดจะมีความเปราะสูง

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

 :-[ :-[ :-[ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ผมว่าถึงซ่อมมาแล้วยังไงคงไม่เหมือนเดิมครับเพราะเนื้อโลหะโดนความร้อนแล้วครับ :-[ :-[ :-[

ขอบคุณทุก ๆท่านครับ   เห็นเจ้าของบอกว่าซ่อมเสร็จคงจะขายทั้งหมดครับ  เหลือ S&W  M.51 ไว้ใช้กระบอกเดียว โชคดีที่ลืมเอาออกจากรถ เลยรอดจากไฟไหม้  ;D

 

เสียใจและเสียดายแทนเจ้าของคับ... :~)

เสียใจด้วยครับ หวังว่าคงจะซ่อมใหม่ได้  :~)

 :) เสียใจกับเพื่อนครู คุณ pongsak ด้วยครับ.  :~).
    ขอบคุณมากครับ  คุณ plo และคุณโจ . ในสาระควรรู้.. :D

เสียใจด้วยนะครับเรื่องไฟไหม้ แต่ก็ยังดีครับที่คนปลอดภัย
ปืนซ่อมใหม่ก็ได้ แต่คนบางที่ซ่อมไม่ได้ครับ

....เรื่องนี้ได้ลองคุยกับช่างวิทย์แล้ว  สภาพโดยรวมเอามาทำใหม่ก็กับเอาไปใช้ได้ แต่มีบ้างที่คุณภาพจะเปลี่ยนไป แต่งานออกมาดูไม่รู้แน่ว่าผ่านไฟมา ดีกว่าเก็บไว้ให้สนิมครับ.......

เสียใจแทนด้วยครับ ยังไงก็ให้ช่างดูให้ละเอียดหน่อยแล้วกันครับ

ถามเพิ่มเติมครับ ในกรณีนี้ถ้าเป็น Glock เนี๊ยะจะบูรณะได้ไหมครับ และดีเหมือนเดิมหรือป่าว? เพราะมันเป็นพลาสติกอ่ะ :~)

 ;D ในบ้านเราหมดสิทธิ์ครับ นอกจากจะหล่อโพลิเมอร์ขึ้นใหม่ได้ จะสั่งโครงมาจากนอก ก็ต้องเสียโควต้าเท่ากับปืน 1 กระบอก :~)

ถามต่อในกรณีแบบนี้ ที่กล็อกระบุว่าปืนของเขาสามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศา นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่าครับ

 ;D ไฟที่ไหม้อยู่ ร้อนเกิน 200 องศา ไปเยอะเลยนะ ว่าแต่อยากได้กล๊อกมาลองเหมือนกันแฮะ ใครจะเสียสละบ้าง :DD ;D

              ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ ถ้าไหม้ไม่นานก็คงไม่น่าจะมีปัญหานะครับ แต่ถ้าซัก ๒๐ นาที ผมก็ว่านานแล้วนะ

ขอแสดงความเสียใจ ด้วยครับ

สำหรับ 1911 เปลี่ยน ชุดลั่นไก - สปริง ถ้ากังวลเรื่องความแข็งของผิวเหล็ก ก็เอาไปฮาร์ดโครม ครับ

เคยเห็น ที่ถูกไฟใหม้มาเหมือนกันครับ  แต่ โครง 1911 แข็งแรงกว่าที่คิดไว้เยอะ   อย่าขายเลยครับเดี๋ยวจะเสียดายภายหลัง

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ :-[

ถ้าเราทำประกันไว้ ราคาประเมินจะทำยังไง ราคาของใหม่ขึ้นทุกวัน ???

......กรณีของเหล็กทำปืนโดยทั่วไป  จะใช้เบอร์  4140  กับ 4130  ซึ่งจะอบชุบให้แข็งประมาณ  30-35  ร็อก c  ถ้าพวก   นกสับ,เซียร์  จะอบชุบให้แข็งประมาณ  50-60  ร็อกเวล c    โลหะสองเบอร์นี้ส่วนผสมใกล้เคียงกัน   ถ้าถูกเผาแล้วปล่อยให้ เย็นตัวในบรรยากาศปรกติ  จะทำให้แข็งกว่าเดิม(กรณี  อบชุบที่30-35)เพราะมี  %คาร์บอนผสมอยู่สูง  ยิ่งเหล็กเย็นตัวเร็วมากเท่าไหร่  ยิ่งแข็งกว่าเดิมครับ(ส่วน  นกสับ,เซียร์  นิ่มลงครับ)
..การแก้ปัญหาต้องแยก   ชนิดของการอบชุบของเหล็กแต่ละตัวครับ...
..พวกอบชุบ  30-35  นำไปอบคลายความแข็ง.. ;D
...พวกอบชุบ  50-60  นำไปชุบแข็งไหม่ครับ ;D
......

เจ้าของปืนฝากขอบคุณทุก ๆท่านที่ร่วมแสดงความคิดเห็นครับ  ตอนนี้แกตัดสินใจแล้วว่าจะนำไปซ่อม แต่คงจะไม่ใช้ยิงมาก ๆเหมือนเมื่อก่อนแล้ว  8)

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ

ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ   :(

หากซ่อมแซมจนใช้การได้ดีเหมือนเดิมแล้ว และคิดจะขาย  ควรบอกให้ผู้ที่จะซื้อทราบไว้ด้วยนะครับ  ป้องกันการใช้งานหนักเกินไปแล้วมีปัญหาตามมา

เอา SP-01 ของนายใหม่มาทดสอบพร้อมๆกันด้วยนะ  ;D

เหล็ก SAE4140 จัดอยู่ในกลุ่ม Molybearing Chromium Steel ซึ่งจะมี Carbon อยู่ประมาณ .38-.43%, Chromium .80-1.10%, Manganese .75-1.00%, Molybdenum .15-.25%, Phosphorus .040%, Sulfur .040%, Silicon .20-.35% ซึ่ง SAE4140 จะถูกจัดอยู่ในกลุ่ม Oil Quenched หรือ เหล็กที่จุ่มในน้ำมันขณะที่ร้อนจัดเพื่อให้ได้ความแข็งที่ต้องการ ซึ่งค่า Tensile Strength ปกติของเหล็กชนิดนี้จะอยู่ที่ 98,000 psi
Hardening
ถ้าการจุ่มในน้ำมันถูกต้อง และ อุณหภูมิที่ใช้เหมาะสม เหล็กจะมี Tensile Strengthถึง 180,000 psi (ประมาณ 38 Rockwell C)  แต่ถ้าเหล็กมีความแข็งอยู่ประมาณ 20 Rockwell C ค่าTensile Strength จะอยู่ที่ 110,000 psi
อุณหภูมิที่ใช้ในการ Hardening หรือการชุบแข็ง จะขึ้นอยู่กับจำนวนของCarbonในเหล็ก ซึ่งจะอยู่ระหว่าง 1,310 F ถึง 1,550 F

Tempering
การลดค่าความแข็งของเหล็กที่ผ่านการชุบแข็ง หรือเพิ่มความแข็งให้เหล็กปกติ โดยใช้อุณหภูมิที่ต้องการเป็นตัวกำหนดและทำให้เย็นลงโดยเร็วด้วยการจุ่มในน้ำมัน หรือ ตัวกลางอื่นๆ  (ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวที่ใช้จะน้อยกว่า การทำ Hardening) อุณหภูมิที่ใช้จะอยู่ระหว่าง 205 C ถึง 595 C (400 F ถึง 1100 F)
จุดประสงค์ในการทำเพื่อลดค่าความเปราะของเหล็กรวมทั้งการลดความเครียด(Stress)ภายในของเหล็กด้วย อย่างเช่น เหล็กแหนบสปริงจำเป็นต้องทำTemperingด้วย

Stress Relieving
จะเป็นขั้นตอนในการลดความเครียดภายในของเหล็ก (Internal Stress) ขั้นตอนในการทำจะใช้วิธีอบเหล็กในอุณหภูมิที่กำหนดไว้ ซึ่งอุณหภูมิดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับเหล็กชนิดนั้นๆ
ความเครียดภายในของเหล็ก(Internal Stress)เกิดจากการกลึงหรือการขึ้นรูปเย็นของชิ้นงาน รวมทั้งการชุบแข็งของเหล็กด้วย อย่างเช่นการทำเกลียวลำกล้องแบบการกระแทก ลำกล้องจำเป็นต้องทำ Stress Relieving

Softening
การลดค่าความแข็งของเหล็กให้ต่ำลง ซึ่งขั้นตอนจะเรียกว่า Annealling  ขั้นตอนดังกล่าวนี้จะใช้วิธีการอบในเตาอบในอุณหภูมิที่สูงและปล่อยในเย็นลงอย่างช้าๆในเตาอบ การทำเช่นนี้จะทำให้เหล็กอ่อนลง

Normalizing
การทำให้เหล็กคืนสู่สภาวะปกติ โดยขั้นตอนในการทำจะอบเหล็กในเตาอบในอุณหภูมิที่สูงกว่าการชุบแข็งประมาณ 100 F และปล่อยให้เย็นลงในอุณหภูมิที่ปกติ (Room Temperature) ขั้นตอนนี้จะไม่สามารถใช้กับเหล็กที่อยู่ในกลุ่ม Tool steel หรือ Air Hardening steel ได้
จุดประสงค์ในการทำ Normalizing คือการเพิ่มค่าความเหนียวให้กับเหล็ก รวมทั้งการเตรียมเหล็กก่อนการกลึง หรือการทำ Heat Treatment

ต่อมาเรื่องปืนถูกไฟไหม้
ในเรื่องนี้มีหลายปัจจัยที่ยังไม่สามารถทราบได้ อย่างเช่นอุณหภูมิสูงสุดของการไหม้ที่ปืนได้รับ ระยะเวลาของการอยู่ในอุณหภูมิที่สูง และระยะเวลาของการลดอุณหภูมิของเหล็ก ดังนั้นคงยากที่จะคาดเดาได้
แต่อย่างไรก็ตามโอกาสของการเปลี่ยนแปลงค่าความแข็งของเหล็กก็มีสิทธิ์ที่จะเกิดขึ้น แต่เรื่องแข็งขึ้นหรืออ่อนลงจะต้องดูปัจจัยต่างๆที่กล่าวมาในข้างต้น

ปล. เหล็ก SAE 4140 ไม่สามารถแข็งขึ้นได้ในอุณหภูมิปกติครับ (Room Temperature) เพราะเหล็กที่จะแข็งขึ้นได้ในอุณหภูมิห้องปกติจะต้องมีเป็นเหล็กที่อยู่ในกลุ่ม Air Hardening Steel หรือ Tool Steel ซึ่งเหล็กจำพวกนี้จะมีค่า Carbon สูงกว่า .6% ขึ้นไป  ยกเว้นการแข็งขึ้นของเหล็กอันเนื่องมาจากขั้นตอนการ Tempering ครับ

 ;D ข้อมูลแน่นเลยคุณโจ ;D

เหล็ก  เบอร์ 4140  ค่าความแข็งสำเร็จรูปที่ผู้ผลิต  ส่งมอบให้ลูกค้าอยู่ที่  25-35  ร็อกเวล  c  (แต่ที่ผมทำส่งมอบที่ 30-35 อ่ะ :~))
ที่ผมว่ามันน่าจะแข็งขึ้น  เพราะ เคยเผาเหล็ก  4140ที่แข็ง  38  ร็อกเวล c ให้นิ่มลงใช้ อุณหภูมิ 400-700 
แล้วลองปล่อยให้เย็นตัวในบรรยากาศปกติ   จากนั้นเอามาเข้าเครืองทดสอบความแข็งดู   ดันแข็งขึ้นไป เป็น 42 เฉยเลย :OO
ลองทำกับเหล็กชิ้นอื่น(เบอร์เดียวกัน)  ก็เป็นเหมือนกัน  (ปัจจุบันนี้ลาออกจากโรงงานแล้วครับ  ....กลัวปอดพัง...)ก็เลยเอาประสบการณ์มาวิเคราะห์  ตำราเกี่ยวกับโลหะวิทย์  หลายครั้งไม่ตรงที่ผมเจอมา   มันบอกเราไม่หมดหรอกครับ 

 :)..ขอบคุณมากครับ ทั้งคุณโจ คุณplo และเพื่อนท่านอื่น. ที่ได้มาให้ความรู้. :D ผม.หัวไม่รับ.อ่านแล้วไม่ get เอาเลย.จริง จริง. :DD

เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับ อย่างเช่นเรื่องการทำ Color Case Hardening ที่เคยทำสีของงานที่ได้ไม่สามารถกำหนดได้ ถึงแม้จะใช้เหล็กเบอร์เดียวกัน อุณหภูมิเดียวกัน รวมทั้ง ถ่านแบบเดียวกัน สีที่ได้ยังไม่สามารถกำหนดได้เลย

ขอถามบ้างครับ ถ้าผมจะหาซื้อเหล็ก Carbon สูง อย่าง 154 CM หรือ ATS-34 ผมจะหาได้จากที่ไหนครับ พอดีอยากเอามาลองทำมีดดูนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

มีแต่แบบ 440C ตามลิ้งค์นี้ครับ

http://thaiblades.com/forums/showthread.php?t=5093

อิอิ เพิ่งเข้ามาเจอครับ

ต้องถามว่าปืนอยู่ในกองไฟนานแค่ไหนด้วยครับ เพราะถ้าไม่นานอุณหภูมิสะสมอาจจะยังไม่ถึงจุดที่เหล็กเปลี่ยนโครงสร้างครับ ดังนั้นถ้ากลับมาเย็นตัวแล้วความแข็งอาจจะไม่เปลี่ยนก็ได้

ถ้าจะลองดูก็ลองหาตะใบเล็กๆมาถูเบาๆ ในจุดที่ไม่มีผลต่อการรับแรงก็พอประเมินได้คร่าวๆครับ

ส่วนการชุบแข็งหรืออบคืนไฟสำหรับเหล็กผสมสูงมีตัวแปรเยอะมากครับ เพราะค่าของเปอร์เซนต์ในส่วนผสมของเหล็กจะมีค่าเป็นช่วง ไม่ได้เป็นค่าตายตัว ดังนั้นอาจมีค่าแตกต่างกับตำราได้บ้าง ส่วนนี้ประสปการณ์จะสอนได้ดีที่สุดครับ

.....เดี๋ยวจะกลับไปถามที่ทำงานเก่าให้ครับ  ไม่รู้ว่ายังมีเก็บไว้หรือเปล่า (โล, หลายตังค์นะครับ)....ถ้าใช้ไม่มากอาจขอแบ่งมาใช้ได้
..โรงนี้ชอบสั่งเหล็ก ทางผั่งเยอรมันครับ...
...วันจันทร์จะให้คำตอบครับ.....

ประมาณ 1 ชั่วโมง ไฟถึงสงบ   ระหว่างนั้นมีการฉีดน้ำเข้าไปตลอด เมื่อเจอปืนจึงสามารถหยิบออกมาได้เลยครับ   ::)

....อันนี้ยิ่งมีปัจจัยเข้ามากระทบเพียบเลยครับ...อย่างนี้ดีกว่าครับลองหาโรงกลึงใหญ่ๆแถวบ้านดู เขาน่าจะมีเครื่องมือทดสอบความแข็ง.....ยอมให้ปืนเป็นรอยเพชรกดหน่อย(ลึกไม่เกิน 1  mm.)...ให้เขาทดสอบดูเลยครับ(วิทยาลัยเทคนิคก็น่าจะมีนะครับ   แผนก ช่างเชื่อม,ช่างกล)
.....ถ้าเขายอมทำให้ :VOV:..... :~) :~) :~)

โอ้โฮ ชาวไทยมีความรู้ความชำนาญขนาดนี้ ไยยังต้องไปซื้อปืนฝาหรั่ง ดั้งขออยู่อีกหนอ
อันการทำเกลียวลำกล้องแบบกระแทกนี่ ใช้Hammerforge แบบที่CZ ใช้ผลิตลำกล้องปืนหรือเปล่าหนอ
 ;) เอาใจช่วยคุณครูครับ ลองปรึกษาผู้รู้ให้ละเอียดนะครับ เผื่อโลหะปืนไม่ได้เป็นอะไรมาก จะได้ซ่อมแล้วเอามายิงได้เหมือนเดิม ไม่ต้องไปซื้อของแพง

ใครจะถือปืนไปยืนที่อุณหภูมิ200องศาเซลเซียสครับ
 :<< :<< :<<

;Dเสนอพี่ซับครับเป็นคนถือปืนไปยืนที่อุณหภูมิ200องศาเซลเซียสครับ มือ 1 ถือกล๊อก อีกมือถือCZ จะได้รู้กันไปว่ากระบอกไหนทนกว่ากัน :<><>

ขอบคุณมากๆครับ อย่างที่อเมริกาผมหาซื้อเหล็กพวกนี้ได้ไม่ยาก อย่างเหล็ก Damascus หรือเหล็กทำมีดอื่นๆ ร้านJanz Supply ในรัฐโอกาโฮม่า มีขายแต่แพงพอตัว แต่ที่เมืองไทยจนปัญญาจริงๆครับ

 ;D เหล็กดามัสกัสโรงมีดที่อุทัยธานีเอามาทำมีดเเพยบเลยครับ สวยมาก ๆ ;D

ก็ดีเหมือนกันครับ  เช้านี้เดินหลังวัง เห็น S&W M51 มือสองวางขายถึงสามร้าน
ไกอาร์ม  ไพศิษฐ์  และอีกร้านจำไม่ได้
ถ้าไปวาง เดี๋ยวชนกันแย่.....

มีไอเดียทำเครื่องมือวัดความแข็งราคาประหยัด (เช่น ทองเหลือง ตะกั่ว) หรือแหล่งจำหน่ายเครื่องมือนี้ที่ราคาถูกไหมครับ ?

;D ;D สมัยที่ผมทำมีดเดินป่าใช้เองผมก็ไปหาความรู้เรื่องเหล็กจาก FORUM.IN.TH.ครับเพราะตอนนั้นเดินไปหาซื้อทั้งของนอกของไทยก็ไม่ถูกใจสักเล่ม(บางเล่มมันแพงมาก)ตอนอ่านทีแรกก็มึนตรึบเหมือนกันครับ..(แต่ไปๆมาๆก็พอได้เลยทำกับเขาหลายเล่มว่างๆจะเอามาให้ดูครับ)
ที่เขียนมาทั้งหมดนี้สนับสนุนความคิดของคุณโจ, คุณplo,และคุณIron ครับว่ามันมีปัจจัยหลายอย่างที่ทำให้เหล็กเปลี๋ยนไป๋ครับ ;D ;D

ราคาแพงไหมครับ อยากเห็นเหมือนกันว่าสวยแค่ไหน

 ;D มีดสำเร็จเหล็กดามัสกัส ราคา 8k ขึ้นไป แต่ถ้าเป็นด้ามงาเจียรลายหมื่นขึ้นครับ ต้องให้พี่มะขิ่นมายืนยันอีกคนครับ มีดสวยมากถึงสวยที่สุดครับ ;D

เอาไว้ไปอุทัยธานีอีกครั้ง.................จะถ่ายภาพมาให้ชมครับ

รับรอง กรี๊ดสลบ :VOV:

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 ;D หรือคุณโจจะขับรถมาตาคลีแล้วผมจะพาไปดูครับ ;D

ช่วงนี้คงไปไม่ได้ครับ งานเยอะมาก แต่ถ้าเป็นช่วงใกล้ปีใหม่ ยังไงผมคงได้ไปแถวนั้นแน่นอนครับ

คุณโจทำงานอยู่กับครอบครัวหรือเปล่าครับ  หรือว่าข้างนอก

ทำงานกับครอบครัวครับ

เหรอครับ  ขอบคุณครับ

มีไอเดียทำเครื่องมือวัดความแข็งราคาประหยัด (เช่น ทองเหลือง ตะกั่ว) หรือแหล่งจำหน่ายเครื่องมือนี้ที่ราคาถูกไหมครับ ?
   .....อันนี้จนปัญญา  จริงๆครับคงต้องซื้อลูกเดียวครับ....ซื้อที่ไหนอืมม....ลองไปเปิด วารสารเกี่ยวกับ  งานวิศวะกรรมอ่ะครับน่าจะมีนะครับ..

......คุณ  โจ  ครับไปถามมาแล้วครับ  เหล็กที่ถามมาเขาไม่สั่งมาเก็บไว้น่ะครับ
....ถ้ามีorderมาถึงสั่งกับ  ตัวแทนจำหน่ายทีหนึ่งครับ...ขอโทธด้วยครับ

ขอบคุณมากๆเลยครับ

อาก้าตัวนี้ใครเคยเห็นบ้าง เป็นตัวใหม่ของกัมพูชา(ในภาพนี้ของจริงนะครับไม่ได้สร้างถาพ) ::002::

ความรู้แน่นเลยครับ